เต่าตนุ
เต่าตนุ | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอตา Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์เลื้อยคลาน |
อันดับ: | เต่า |
อันดับย่อย: | อันดับย่อยเต่า |
วงศ์ใหญ่: | Chelonioidea |
วงศ์: | วงศ์เต่าทะเล |
วงศ์ย่อย: | Cheloniinae Brongniart, 1800 |
สกุล: | Chelonia (Linnaeus, 1758) |
สปีชีส์: | Chelonia mydas |
ชื่อทวินาม | |
Chelonia mydas (Linnaeus, 1758) | |
ชื่อพ้อง[3] | |
Species synonymy
|
เต่าตนุ [ตะ-หฺนุ] เป็นเต่าทะเลชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chelonia mydas อยู่ในวงศ์ Cheloniidae และเป็นเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Chelonia[4]
เต่าตนุเป็นเต่าทะเลที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีน้ำหนักมากเมื่อโตเต็มที่ โดยมีความยาวตั้งแต่หัวจรดหางประมาณ 1 เมตร น้ำหนักราว 130 กิโลกรัม หัวป้อมสั้น ปากสั้น เกล็ดเรียงต่อกันโดยไม่ซ้อนกัน กระดองหลังโค้งนูนเล็กน้อย บริเวณกลางหลังเป็นแนวนูนเกือบเป็นสัน ท้องแบนราบขาทั้งสี่แบนเป็นใบพาย ขาคู่หลังมีขนาดเล็กกว่าขาคู่หน้ามาก ขาคู่หน้ามีเล็บแหลมเพียงข้างละชิ้น สีของกระดองดูเผิน ๆ มีเพียงสีน้ำตาลแดงเท่านั้น แต่ถ้าหากพิจารณาให้ละเอียดจะพบว่าเกล็ดแต่ละเกล็ดของกระดองหลังมีสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลอมเขียว ขอบเกล็ดมีสีอ่อน ๆ เป็นรอยด่างและมีลายเป็นเส้นกระจายออกจากจุดสีแดงปนน้ำตาล คล้ายกับแสงของพระอาทิตย์ที่ลอดออกจากเมฆ จึงมีชื่อเรียกเต่าชนิดนี้ว่าอีกชื่อหนึ่งว่า "เต่าแสงอาทิตย์" ขณะที่ชาวตะวันตกเรียกว่า "เต่าเขียว" อันเนื่องจากมีกระดองเหลือบสีเขียวนั่นเอง[5]
เต่าชนิดนี้เป็นเต่าที่กินทั้งพืชและสัตว์ แต่จะกินพืชเป็นหลัก โดยกินอาหารจำพวกหญ้าทะเลหรือสาหร่ายทะเล โดยมีสัตว์น้ำขนาดเล็กทั่วไป เช่น ปลาหรือแมงกะพรุน เป็นอาหารรองลงไป
เรามักพบเต่าตนุในเขตน้ำตื้นใกล้ชายฝั่งหรือตามเกาะต่าง ๆ โดยกระจายพันธุ์ทั้งในมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิก ในน่านน้ำไทยพบทั้งที่อ่าวไทยและทะเลอันดามัน นับเป็นเต่าทะเลชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในน่านน้ำไทย โดยมักพบในเขตที่มีอุณหภูมิน้ำที่ค่อนข้างอุ่น คือ สูงกว่า 20 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยขึ้นมาวางไข่มากที่เกาะครามและเกาะกระในอ่าวไทย และทางฝั่งทะเลอันดามันพบวางไข่มากที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา บนชายหาดและเกาะหลายแห่งในจังหวัดภูเก็ตและพังงา[6]
เต่าตนุโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 4–7 ปี เชื่อกันว่าอายุยืนถึง 80 ปี[7] ฤดูวางไข่ตกอยู่ในราวเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายนในบริเวณอ่าวไทย และอยู่ในราวเดือนกันยายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ในทะเลอันดามัน จำนวนไข่ต่อครั้งมีตั้งแต่ 70–150 ฟอง เต่าขนาดโตเต็มที่แล้วจะว่ายน้ำหากินไปเรื่อย ๆ แต่จะกลับมาวางไข่บนชายหาดที่ถือกำเนิด
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Seminoff, J.A.; และคณะ (Southwest Fisheries Science Center, U.S.) (2004). "Chelonia mydas". IUCN Red List of Threatened Species. 2004: e.T4615A11037468. doi:10.2305/IUCN.UK.2004.RLTS.T4615A11037468.en. สืบค้นเมื่อ 12 November 2021.
- ↑ "Appendices | CITES". cites.org. สืบค้นเมื่อ 2022-01-14.
- ↑ Fritz, Uwe; Peter Havaš (2007). "Checklist of Chelonians of the World" (PDF). Vertebrate Zoology. 57 (2): 165–167. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ May 1, 2011. สืบค้นเมื่อ May 29, 2012.
- ↑ ITIS
- ↑ เต่าตนุ
- ↑ "เต่าตนุ สัตว์ป่าในประเทศไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-10. สืบค้นเมื่อ 2011-01-11.
- ↑ Green Sea Turtle (Chelonia mydas)". National Geographic - Animals. National Geographic Society. 2005-12-29. http://www3.nationalgeographic.com/animals/reptiles/green-turtle.html เก็บถาวร 2007-02-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved 2007-02-21
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "Chelonia mydas ". ระบบข้อมูลการจำแนกพันธุ์แบบบูรณาการ. สืบค้นเมื่อ February 21, 2007.
- Seminoff (2004). "Chelonia mydas". IUCN Red List of Threatened Species. 2004. สืบค้นเมื่อ 9 May 2006.
- ภาพถ่ายของ เต่าตนุ ที่ Sealife Collection