ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร"
แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้สมบูรณ์ตามข้อมูลจริงจากวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ป้ายระบุ: แก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
แก้ไขเพิ่มเติม ป้ายระบุ: แก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 42: | บรรทัด 42: | ||
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 0ง วันที่ 8 มีนาคม 2478 พร้อมกับวัดอีกหลายแห่งใน[[จังหวัดเชียงใหม่]] <ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/D/3679.PDF ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ]</ref> |
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 0ง วันที่ 8 มีนาคม 2478 พร้อมกับวัดอีกหลายแห่งใน[[จังหวัดเชียงใหม่]] <ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/D/3679.PDF ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ]</ref> |
||
== ตำนานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์ เชียงใหม่) == |
|||
⚫ | == |
||
⚫ | == '''[[พระพุทธสิหิงค์]]''' หรือ '''พระสิงห์''' เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางมารวิชัย สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร <ref>เทพชู ทับทอง,ต่วย'ตูน พิเศษ พฤษภาคม พ.ศ. 2546 หน้า 105</ref> (องค์จริงที่จังหวัดเชียงใหม่)ตามประวัติกล่าวว่า [[พระเจ้าสีหฬะ]] พระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีป ทรงสร้างขึ้น เมื่อ [[พ.ศ. 700]] ต่อมา เจ้านครศรีธรรมราชได้ไปขอมาถวาย[[พระร่วง]]แห่ง[[กรุงสุโขทัย]] เมื่อ[[สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1]] แห่ง[[กรุงศรีอยุธยา]]ได้กรุงสุโขทัยเป็นเมืองขึ้น จึงได้อัญเชิญพพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยา == |
||
ต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมือง[[กำแพงเพชร]]และ[[เชียงราย]] เมื่อ[[พระเจ้าแสนเมืองมา]] เจ้านครเชียงใหม่ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่เชียงใหม่พร้อมกับ[[พระแก้วมรกต]] เมื่อ[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]]ตีเมืองเชียงใหม่ได้เมื่อ [[พ.ศ. 2205]] ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่[[วัดพระศรีสรรเพชญ์]]กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานถึง 105 ปี |
ต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมือง[[กำแพงเพชร]]และ[[เชียงราย]] เมื่อ[[พระเจ้าแสนเมืองมา]] เจ้านครเชียงใหม่ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่เชียงใหม่พร้อมกับ[[พระแก้วมรกต]] เมื่อ[[สมเด็จพระนารายณ์มหาราช]]ตีเมืองเชียงใหม่ได้เมื่อ [[พ.ศ. 2205]] ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่[[วัดพระศรีสรรเพชญ์]]กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานถึง 105 ปี |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:50, 3 มีนาคม 2559
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร | |
---|---|
พระเจดีย์และพระอุโบสถ วัดพระสิงห์ | |
ชื่อสามัญ | วัดพระสิงห์ |
ที่ตั้ง | ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร |
นิกาย | เถรวาท |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์) |
ความพิเศษ | ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์) (ศิลปะเชียงแสน) |
จุดสนใจ | สักการะพระพุทธสิหิงค์ ชมซุ้มประตูโขง และจิตรกรรมฝาผนัง |
การถ่ายภาพ | ไม่ควรใช้แฟลช ในถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนัง |
สถานีย่อยพระพุทธศาสนา |
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (ไทยถิ่นเหนือ: ) พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง"
ประวัติ
พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 ขั้นแรกให้ก่อสร้างเจดีย์สูง 23 วา เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีก 2 ปี จึงได้สร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฏิสงฆ์ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขึ้นครองนครเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย มาประดิษฐาน
การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 0ง วันที่ 8 มีนาคม 2478 พร้อมกับวัดอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ [1]
ตำนานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์ เชียงใหม่)
พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางมารวิชัย สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร [2] (องค์จริงที่จังหวัดเชียงใหม่)ตามประวัติกล่าวว่า พระเจ้าสีหฬะ พระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีป ทรงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 700 ต่อมา เจ้านครศรีธรรมราชได้ไปขอมาถวายพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย เมื่อสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยาได้กรุงสุโขทัยเป็นเมืองขึ้น จึงได้อัญเชิญพพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยา
ต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมืองกำแพงเพชรและเชียงราย เมื่อพระเจ้าแสนเมืองมา เจ้านครเชียงใหม่ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่เชียงใหม่พร้อมกับพระแก้วมรกต เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตีเมืองเชียงใหม่ได้เมื่อ พ.ศ. 2205 ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ์กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานถึง 105 ปี
เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แก่พม่าใน พ.ศ. 2310 ชาวเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปที่เชียงใหม่ จนถึงปัจจุบัน
พระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์ ในประเทศไทยมีด้วยกัน 3 องค์ คือองค์แรกพระสิงห์1ศิลปะแบบเชียงแสนรุ่น1ปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ (องค์จริง) องค์ที่สองพระสิงห์2ศิลปะแบบสุโขทัย ปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งพุทไทสวรรค์กรุงเทพมหานคร(อัญเชิญมาจาก สุโขทัย) ส่วนองค์ที่สามพระสิงห์3ศิลปะแบบล้านช้าง ปางสมาธิ(องค์เล็กสุด)ประดิษฐานอยู่ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระพุทธสิหิงค์ที่ประดิษฐานในสามที่นี้ล้วนแต่เป็นองค์จริงทั้งสิ้น
ลำดับเจ้าอาวาส
วัดพระสิงห์เป็นวัดเก่าแก่ มีเจ้าอาวาสครองวัดสืบมาเท่าที่ปรากฏนามมีดังนี้[3]
ลำดับที่ | รายนาม | ดำรงตำแหน่ง |
1 | พระอภัยจุลมหาเถระ | พ.ศ. 1888 รัชสมัยพญาผายู |
2 | สมเด็จพระศรีนันทะ | รัชสมัยพระเจ้าเมกุฏิสุทธิวงศ์ |
3 | พระเจ้าจันทรังสีมหาเถระ | รัชสมัยพระเจ้ากาวิละ |
4 | สมเด็จพระจันทมหาเถระ | รัชสมัยพระยาพุทธวงศ์ |
5 | ครูบาโพธิ์ | ? |
6 | พระกัญจนมหาเถระ | พ.ศ. 2402 รัชสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ |
7 | พระเจ้าคันธา คนฺธโร | พ.ศ. 2453 |
8 | ครูบาศรีวิชัย | รักษาการในปี พ.ศ. 2467 |
9 | พระแก้ว | รักษาการในปี พ.ศ. 2475 |
10 | พระโพธิรังสี (สีโหม้) | พ.ศ. 2481-2492 |
11 | พระอภัยสารทะ (สมบูรณ์ จนฺทวํโส) | พ.ศ. 2492-2493 |
12 | พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว) | พ.ศ. 2493-2516 |
13 | พระธรรมสิทธาจารย์ (หนู ถาวโร) | พ.ศ. 2516-2552 |
14 | พระราชสิงหวรมุนี (โสภณ โสภโณ) | พ.ศ. 2552-ปัจจุบัน |
อ้างอิง
- ↑ ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
- ↑ เทพชู ทับทอง,ต่วย'ตูน พิเศษ พฤษภาคม พ.ศ. 2546 หน้า 105
- ↑ จรีย์ สุนทรสิงห์. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่. เชียงใหม่ : ดามคอมพิวกราฟิค, 2543. 64 หน้า. หน้า 23-24. ISBN 974-85311-1-2
4. ข้อมูลจากประวัติวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และตำนานพระสิงห์ ของวัดพระสิงห์ฯ จังหวัดเชียงใหม่ อนุญาตให้เผยแพร่โดย เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ฯ พระเทพวรสิงหมุนี