รถไฟฟ้าปารีส
รถไฟฟ้าปารีส | |||
---|---|---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |||
เจ้าของ | RATP | ||
ที่ตั้ง | กรุงปารีส | ||
ประเภท | รถไฟใต้ดิน | ||
จำนวนสาย | 16 (สาย 1-14, 3 (2) และ 7 (2)) | ||
จำนวนสถานี | 303 | ||
ผู้โดยสารต่อวัน | 4,175,000 คน (2011) | ||
ผู้โดยสารต่อปี | 1.524 พันล้านคน (2011) | ||
การให้บริการ | |||
เริ่มดำเนินงาน | 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1900 | ||
ผู้ดำเนินงาน | RATP | ||
ข้อมูลทางเทคนิค | |||
ระยะทาง | 214 km (133 mi) | ||
รางกว้าง | 1,435 mm (4 ft 8 1⁄2 in) (รางมาตรฐาน) | ||
|
รถไฟฟ้าปารีส (ฝรั่งเศส: Métro de Paris) เป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้ เห็นได้ชัดจากอิทธิพลของนวศิลป์ (Art Nouveau) มีเส้นทางทั้งหมด 16 สาย ส่วนมากมักจะอยู่ใต้ดินและมีความยาวทั้งสิ้น 213 กิโลเมตร (133 ไมล์) และมีสถานี 298 แห่ง
รถไฟฟ้าสายแรกเปิดโดยไม่มีพิธีรีตองในปี พ.ศ. 2443 ระหว่างงานนิทรรศการนานาชาติ (Exposition Universelle 1900) หลังจากนั้นระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเสร็จในช่วงปี พ.ศ. 2463 ส่วนการขยายออกไปยังชานเมืองได้บรรลุในช่วง 10 กว่าปีต่อมา
ระบบรถไฟฟ้าปารีสได้ถึงจุดอิ่มตัวในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งระบบรถไฟฟ้าก็ได้นำขบวนรถไฟฟ้าใหม่เข้ามาให้บริการเนื่องจากการจราจรอันคับคั่ง ซึ่งการต่อเติมนั้นเป็นไปได้ยากและมีขีดจำกัดจึงได้เกิดรถไฟฟ้าแอร์เออแอร์ขึ้นในปี พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา
กรุงปารีสเป็นเมืองที่มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่หนาแน่นที่สุดในโลก ด้วยสถานีกว่า 245 แห่งภายในเนื้อที่กรุงปารีส 41 ตารางกิโลเมตร (16 ตารางไมล์) แต่ละสายจะมีชื่อเป็นหมายเลขตั้งแต่ 1 ถึง 14 และมีสายรองอีกสองสายคือ สาย 3 (2) และสาย 7 (2) สายรองทั้งสองเคยเป็นส่วนหนึ่งของสาย 3 และ 7 แต่แยกตัวออกมาภายหลังในปี พ.ศ. 2514 และ พ.ศ. 2510 ตามลำดับ
รถไฟฟ้าปารีสมีสถานีทั้งหมด 298 แห่ง (382 ป้าย) โดยเชื่อมต่อกับสายอื่น 62 ป้าย มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 4.5 ล้านคนต่อวัน (1,409 ล้านคนต่อปี) ถือเป็นลำดับที่ 4 ของโลก ตามหลังมอสโก โตเกียว และเม็กซิโกซิตี และอยู่ในลำดับที่ 7 ของโลกเมื่อเปรียบเทียบระยะทางการเดินรถไฟฟ้า รองจากนิวยอร์ก โซล โตเกียว มอสโก มาดริด (แต่ถ้ารวมกับแอร์เออแอร์แล้วจะอยู่ในอันดับที่ 1) ส่วนจำนวนสถานีนั้นอยู่ที่ลำดับ 3 ของโลก รองลงมาจากนิวยอร์ก (468 สถานี) และโซล ทั้งนี้สถานีชาเตอแล-เลอาลยังเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
แต่ละสายจะมีเลขและสีในการบ่งบอก ส่วนทิศทางในการเดินทางเห็นได้จากสถานีปลายทางของแต่ละสาย
การใช้บริการ
[แก้]เวลาเปิดบริการ
[แก้]รถไฟฟ้าปารีสจะเปิดให้ใช้บริการในเวลา 05.00 น. จนถึง 01.00 น. ทุกวันและทุกสถานี รถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายมักจะถูกเรียกว่า "balai" (ไม้กวาด) เนื่องจากได้กวาดผู้โดยสารชุดสุดท้ายของวันไปยังสถานีในเวลา 01.15 น. ทั้งนี้ในวันเสาร์และวันก่อนถึงวันหยุดเทศกาลจะเลื่อนเวลาปิดให้บริการไปอีก 1 ชั่วโมง และตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา รถไฟฟ้าปารีสได้เปิดให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 1 ชั่วโมงในคืนวันศุกร์
รถไฟฟ้าปารีสยังเปิดตลอดเวลาในวันสิ้นปี วันดนตรีสากล วันนุยบล็องช์ และเทศกาลอื่น ๆ อีกด้วย
การใช้บริการ
[แก้]บัตรรถไฟสามารถซื้อได้จากแผงขายบัตรหรือเครื่องขายอัตโนมัติบริเวณทางเข้าสถานีรถไฟ เมื่อสอดบัตรบริเวณประตูทางเข้าอัตโนมัติแล้ว มันจะเปิดให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางต่อไปยังชานชาลา หลังจากนั้นเครื่องจะให้บัตรรถไฟคืน
บัตรรถไฟ
[แก้]บัตรรถไฟมาตรฐานของรถไฟฟ้าปารีสคือ "บัตรรถไฟฟ้า t+" ซึ่งสามารถใช้ได้ในระยะเวลา 90 นาทีหลังจากเข้าชานชาลาและเดินทางได้เพียงรอบเดียว บัตรนี้สามารถใช้ได้ทั้งระบบรถไฟฟ้าปารีส รถเมล์ รถราง หรือแม้กระทั่งพื้นที่ 1 ของรถไฟฟ้าแอร์เออแอร์ (RER) ทำให้เป็นการลดการโดยสารจากระบบการขนส่งแบบเดียวกัน (เช่น รถไฟฟ้า - รถไฟฟ้า, รถโดยสารประจำทาง - รถโดยสารประจำทาง, รถราง - รถราง) ให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่นได้ ระหว่างรถโดยสารประจำทาง - รถราง, รถไฟฟ้า - รถไฟฟ้าแอร์เออแอร์ พื้นที่ 1 เป็นต้น หรือสามารถซื้อ 10 ใบ ซึ่งเรียกว่า "การ์แน" (carnet)
ข้อมูลทางเทคนิค
[แก้]โดยรวม
[แก้]รถไฟฟ้าปารีสมีความยาวกว่า 213 กิโลเมตร (133 ไมล์) และมีสถานี 298 แห่ง 382 ป้ายจอดและ 62 ตัวเชื่อมระหว่างสาย ในที่นี้ไม่ได้รวมถึงระบบรถไฟฟ้าแอร์เออแอร์ ความยาวเฉลี่ยในแต่ละสถานีคือ 562 เมตร (1,845 ฟุต) รถไฟฟ้าจะจอดทุกสถานี แต่ละสายจะไม่มีการใช้ชานชาลาร่วมกัน แม้กระทั่งสถานีเชื่อมต่อก็ตาม ซึ่งก็เหมือนกับรถไฟฟ้าแอร์เออแอร์
ความเร็วเฉลี่ยของรถไฟฟ้าปารีสคือ 35 กม./ชม. (22 ไมล์/ชม.) และมีความเร็วสูงสุดคือ 70 กม./ชม. (44 ไมล์/ชม.) ยกเว้นรถไฟฟ้าอัตโนมัติ ไร้คนขับของสาย 14 ซึ่งมีความเร็วสูงสุดถึง 80 กม./ชม. รถไฟฟ้าปารีสโดยทั่วไปจะโดยสารทางฝั่งขวาเสมอ รางรถไฟใช้แบบรางมาตรฐานยุโรป ส่วนรางแบบขนส่งจะมีขนาดเล็กกว่าสายหลักของ SNCF ในแต่ละสายอาจจะมีตู้รถไฟฟ้าต่างกันจาก 3 จนถึง 6 ตู้ โดยแต่ละสายจะมีจำนวนตู้เท่ากัน และรับไฟฟ้ากระแสตรงขั้วบวกเพื่อขับเคลื่อนจากรางที่สาม (750v DC) ยกเว้นสายที่ใช้ล้อยาง ซึ่งจะรับพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนจากรางตรงกลาง (750v DC) ซึ่งมีสาย 1, 4, 6, 11 และ 14 ใช้ล้อยาง
รถไฟฟ้าสายแรกสุดคือ สาย 1 ซึ่งขุดด้วยมือไปตามทางถนนช็องเซลีเซเป็นเส้นตรง พวกวิศวกรต้องขุดไปตามถนนหรือต้องปะกับสิ่งก่อสร้างใต้ดิน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบางสถานี (สาย 8 และสาย 13) มีชานชาลาที่ไม่ได้อยู่แนวเดียวกัน เพราะถนนข้างบนแคบเกินไปในการสร้างชานชาลาให้ตรงข้ามกัน
ล้อขับเคลื่อน
[แก้]ล้อขับเคลื่อนของรถไฟฟ้าปารีสนั้นมี 2 แบบ ได้แก่ ล้อเหล็ก (Matériel fer: MF) และล้อยาง (Matériel pneu: MP) โดยแต่ละรุ่นจะมีชื่อต่างกันโดยตั้งชื่อในปีที่ออกแบบ ไม่ใช่ปีที่ให้บริการเป็นครั้งแรก
- ล้อยาง
- ล้อเหล็ก
สายที่เปิดให้บริการ
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชนในปารีส (รถเมล์, แอร์เออแอร์, รถไฟฟ้า) เก็บถาวร 2005-12-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ฝรั่งเศส)