ข้ามไปเนื้อหา

เลโอ ไอโอเลีย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก เลโอ ไอโอเรีย)
เลโอ ไอโอเลีย
ชื่อ
ชื่อไทย เลโอ ไอโอเลีย
ชื่ออักษรละติน Leo Aiolia
ชื่อญี่ปุ่น 獅子座のアイオリア
นักพากย์ ฮิเดยูกิ ทานากะ
ข้อมูลเฉพาะ
ระดับ โกลด์เซนต์
เกิด 16 สิงหาคม
ราศี สิงห์
กลุ่มดาวประจำตัว กลุ่มดาวสิงโต
อายุ 20 ปี
ความสูง 185 เซนติเมตร
น้ำหนัก 85 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด O
สถานที่เกิด ประเทศกรีซ
สถานที่ฝึกวิชา แซงทัวรี่ ประเทศกรีซ
ท่าไม้ตาย ไลท์นิ่งโบลท์
ไลท์นิ่งพลาสม่า
ไลท์นิ่งโฟตอนบลาสต์
ชุดเกราะ
ประเภทชุดเกราะ โกลด์คล็อธ
ชื่อชุดเกราะ เลโอคล็อธ
ภาพคล็อธ

เลโอ ไอโอเลีย (ญี่ปุ่น: 獅子座(レオ)のアイオリアโรมาจิLeo no Aioria) ตัวละครจากการ์ตูนเรื่องเซนต์เซย่า เป็นโกลด์เซนต์ประจำราศีสิงห์ ผู้ดูแลปราสาทราชสีห์ 1 ใน 12 ปราสาทแห่งแซงค์ทัวรี่ ไอโอเลียเป็นน้องชายของซาจิททาเรียส ไอโอลอส และเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องในภาค Soul of gold

บทบาท

[แก้]

ปรากฏตัวครั้งแรก

[แก้]

ไอโอเลียปรากฏตัวครั้งแรกที่สนามปะลองเพื่อชิงชุดคล็อธเพกาซัสระหว่างเซย่าและคาชิออส โดยไชน่าได้กล่าวว่าชาวตะวันออก (เซย่าเป็นชาวญี่ปุ่น) ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเซนต์แห่งอาเทน่า แต่ไอโอเลียได้แย้งว่าใครก็ตามที่สามารถชนะการประลองครั้งนี้ถึงแม้จะเป็นชาวตะวันออกก็สามารถเป็นเซนต์ได้

หลังจากนั้น เคียวโกได้ออกคำสั่งเรียกให้ไอโอเลียและสกอร์เปี้ยน มิโร่มาพบ และได้บอกให้ทั้งคู่รู้ว่าซิลเวอร์เซนต์ที่ถูกส่งไปกำจัดพวกเซย่าทั้ง 10 คนได้ถูกกำจัดแล้ว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องส่งโกลด์เซนต์ไปกำจัดพวกเซย่า แต่ไอโอเลียเห็นว่าการส่งโกลด์เซนต์ถึง 2 คนเพื่อไปกำจัดบรอนด์เซนต์จะทำให้เป็นเรื่องตลกของเหล่าเซนต์ทั้งหลาย ดังนั้น จึงขอจัดการเหล่าบรอนด์เซนต์เพียงลำพัง

ไอโอเลียเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อกำจัดเซย่าที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นคนแรกตามคำสั่งของท่านเคียวโก ในระหว่างที่ไอโอเลียกำลังโจมตีเซย่าอยู่นั้นไชน่าได้เข้ามารับหมัดของไอโอเลียแทนเซย่าจนได้รับบาดเจ็บ ไอโอเลียจึงตัดสินใจที่จะนำตัวไชน่าไปรักษาตัวก่อน ในระหว่างที่ไอโอเลียกำลังจะกลับนั้น ซิลเวอร์เซนต์อีก 3 คนก็ปรากฏตัวขึ้นโดยทั้ง 3 คนได้รับคำสั่งจากเคียวโกให้มาเฝ้าดูไอโอเลีย และได้ลงมือเพื่อกำจัดเซย่าแทนไอโอเลีย ในระหว่างนั้น ชุดคล็อธซาจิททาเรียสก็ได้ปรากฏขึ้นและเข้าสวมร่างของเซย่าทำให้เหล่าซิลเวอร์เซนต์ถูกกำจัดลงในพริบตา ไอโอเลียตัดสินใจต่อสู้กับเซย่าอีกครั้ง ในขณะนั้นเอง คิโดะ ซาโอริ ได้ปรากฏตัวขึ้นและได้บอกว่าที่จริงตนเป็นเด็กทารกที่ไอโอลอสช่วยเอาไว้เมื่อ 13 ปีก่อน ซึ่งก็คือ ตนเป็นร่างจุติของอาเทน่านั่นเอง แต่ไอโอเลียไม่เชื่อ จึงบอกว่าถ้าหากซาโอริเป็นอาเทน่าจริงต้องรับหมัดของตนได้ ดังนั้น ไอโอเลียจึงปล่อยหมัดใส่อาเทน่าแต่เซย่าเข้ารับไว้แทน ซึ่งไอโอเลียได้เห็นเงาของไอโอรอสที่ด้านหลังของเซย่าโดยได้เตือนสติให้ไอโอเลียเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ทำให้ไอโอเลียยอมรับซาโอริในฐานะอาเทน่า และกลับไปยังแซงค์ทั่วรี่

ณ แซงค์ทัวรี่ ไอโอเลียได้เข้าพบเคียวโกเพื่อต้องการทำให้ความจริงปรากฏขึ้น ดังนั้น เคียวโกจึงลงมือกำจัดไอโอเลีย ขณะนั้น เวอร์โก้ ชากะ ก็ปรากฏตัวขึ้น และได้เป็นคู่ต่อสู้กับไอโอเลียแทนเคียวโก ในระหว่างการต่อสู้เคียวโกได้ฉวยโอกาสนี้ปล่อยหมัดจอมอสูรมายา (หมัดเก็นโรม่าโอเค็น) ซึ่งเป็นหมัดที่ใช้ควบคุมสติของคู่ต่อสู้ใส่ไอโอเลีย ทำให้ไอโอเลียตกอยู่ในความควบคุมของเคียวโกในที่สุด

ผู้ดูแลปราสาทราชสีห์

[แก้]

หลังจากไอโอเลียถูกควบคุมโดยเคียวโกแล้ว ก็ได้กลับมาดูแลปราสาทราชสีห์ เมื่อเซย่าบุกเข้ามาก็ขอไอโอเลียผ่านไปยังปราสาทต่อไป แต่ไอโอเลียปฏิเสธโดยบอกว่าใครที่ต้องการผ่านปราสาทนี้ไปต้องล้มตนให้ได้ก่อนเท่านั้น เซย่าจึงต้องต่อสู้กับไอโอเลีย ในระหว่างนั้น เซย่าสามารถหลบหมัดความเร็วแสงของไอโอเลียได้และโจมตีใส่ไอโอเลีย ซึ่งยิ่งจะทำให้จิตใจส่วนดีของไอโอเลียหายไปและจะทำให้ไอโอเลียทำทุกวิถีทางในการที่จะกำจัดคู่ต่อสู้ ในระหว่างที่เซย่าโดนโจมตีอย่างหนักจากไอโอเลียนั้น คาชิออสก็ได้เข้ามาขวางโดยได้บอกความจริงแก่เซย่าว่าไอโอเลียถูกหมัดจอมอสูรมายาของเคียวโกควบคุมอยู่ตราบใดที่ยังไม่เห็นคนตาย ไอโอเลียจะไม่มีทางกลับเป็นเหมือนเดิม หลังจากนั้น คาชิออสจึงได้ลงมือสังหารตัวเองเพื่อให้ไอโอเลียได้สติ และเซย่าได้โจมตีไอโอเลียด้วยเพกาซัสหมัดดาวตก ไอโอเลียจึงได้สติกลับคืนมา

หลังจากนั้น ไอโอเลียจึงได้บอกเตือนเซย่า ชิริวและชุน ซึ่งพึ่งเดินทางมาถึงปราสาทราชสีห์ว่า เวอร์โก้ ซากะ ผู้ดูแลปราสาทสาวพรหมจรรย์นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ใกล้เคียงพระเจ้าที่สุด และอย่าทำให้ชากะลืมตาเด็ดขาด

ศึกเทพเจ้าโพไซดอน

[แก้]

หลักจากศึก 12 ปราสาท ทำให้ชุดคล็อธของพวกเซย่าได้รับความเสียหายอย่างหนัก จำเป็นต้องใช้เลือดเพื่อมาซ่อมชุดคล็อธเหล่านั้นให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และเพื่อเป็นการตอบแทนพวกเซย่าที่ได้ช่วยเหลืออาเทน่าและได้ทำให้ชื่อของไอโอลอสเป็นผู้บริสุทธิ์ ไอโอเลียจึงสละเลือดของตนเพื่อซ่อมแซมชุดคล็อธเพกาซัสให้เซย่า

ในระหว่างที่คิโดะ ซาโอริได้เข้าร่วมงานเลี้ยงในวันครบรอบวันเกิดของจูเลี่ยน โซโล (ร่างจุติของโพไซดอน) จ้าวแห่งการพาณิชย์ทะเลของประเทศกรีซ ณ คฤหาสน์โซโล ก็มีพลทหารของโพไซดอนแอบเข้ามาลักลอบพาตัวซาโอริไปเพื่อให้โปไซดอน แต่ไอโอเลียก็ได้ขัดขวางไว้ก่อน

หลังจากที่อาเทน่ายอมเสียสละตนเองเข้าไปอยู่ในเสาเมนเบรดวินเนอร์ซึ่งเป็นเสาหลักค้ำปราสาทโพไซดอน เพื่อรองรับฝนที่ตกอย่างหนักบนโลกให้มาตกที่เสาแห่งนี้แทน ไอโอเลียซึ่งสัมผัสได้ว่าพลังคอสโมของอาเทน่าและพวกเซย่าค่อย ๆ หายไปแล้ว จึงมีความกังวลว่าอาเทน่าและพวกเซย่าจะได้รับอันตราย แต่ด้วยคำสั่งห้ามเหล่าโกลด์เซนต์เข้าไปเกี่ยวข้องกับศึกครั้งนี้ของท่านผู้เฒ่าซึ่งนับเป็นผู้นำสูงสุดของเหล่าโกลด์เซนต์ มูจึงขัดขวางไอโอเลียไม่ให้ไปหาพวกเซย่าจนเกือบเกิดการต่อสู้กันขึ้น แต่มิโร่ห้ามไว้เสียก่อน

สงครามศักดิ์สิทธิ์-เทพเจ้าฮาเดส

[แก้]

ไอโอเลียได้ปกป้องปราสาทราชสีห์จากการบุกรุกของเหล่าสเป็คเตอร์ โดยได้กำจัดเหล่าสเป็คเตอร์ไปบางส่วน ในขณะนั้น เวิร์ม ไลมี่ แห่งจิฟุกุ สเป็คเตอร์อีกคนก็ปรากฏตัวขึ้นและได้ใช้ท่าเวิร์มไบนด์ (Worm bind) มัดร่างไอโอเลียไว้จนไม่สามารถขยับได้ ทำให้พวกสเป็คเตอร์ที่เหลือสามารถผ่านปราสาทราชสีห์ไปได้และไอโอเลียก็สามารถสัมผัสพลังคอสโมที่คุ้นเคยแย่ในสเป็คเตอร์พวกนั้น อย่างไรก็ตาม ไอโอเลียก็ใช้พลังคอสโมทำลายเวิร์มไบนด์ได้ และกำจัดเวิร์ม ไลมี่ ด้วยไลท์นิ่งพลาสม่าในที่สุด

ในระหว่างที่ชากะต่อสู้กับ ซากะ ชูร่า และคามิว ณ ปราสาทสาวพรหมจรรย์ ไอโอเลียได้มาถึง แต่มูได้ห้ามไม่ให้ไอโอเลียเข้าไปยังสวนรังคู่ ซึ่งเป็นสถานที่ต่อสู้ระหว่างพวกซากะและชากะ หลังจากชากะได้ตายลง พวกซากะจึงออกมาจากสวนรังคู่ ด้วยความโกรธแค้นไอโอเลียจึงโจมตีพวกซากะด้วยไลน์นิ่งพลาสม่าแต่ถูกซากะรับไว้ได้ พวกซากะตัดสินใจใช้ท่าอาเทน่าเอ็กซ์คลาเมชั่น (Athena Exclamation) เพื่อกำจัด มู มิโร่ และไอโอเลีย ดังนั้น มู มิโร่ และไอโอเลียจึงได้ร่วมกันใช้ท่าอาเทน่าเอ็กซ์คลาเมชั่นต่อสู้กับพวกซากะ คามิว และชูร่า ต่อมา อาเทน่าได้มีคำสั่งให้พวกมูนำพวกซากะมาหาที่เทวสถานอาเทน่า

หลังจากนั้น ไอโอเลีย มู และมิโร่ เดินทางมายังปราสาทฮาเดส และได้ต่อสู้กับราดาแมนทีส แต่ไม่สามารถสู้ได้เนื่องจากผู้ที่เข้ามาในปราสาทฮาเดสนั้นจะเหลือพลังเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น ดังนั้น มู ไอโอเลีย และมิโร่ จึงถูกราดาแมนทีสส่งไปยังยมโลกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

ในยมโลกไอโอเลียได้รับพลังของอาเทน่าจึงคืนชีพอีกครั้ง พร้อมกับมูและมิโร่ และได้ร่วมมือกับเหล่าโกลด์เซนต์ทั้ง 11 คน ในการทำลายกำแพงวิปโยค เพื่อให้พวกเซย่าเดินทางไปช่วยอาเทน่า ณ เอลิเชี่ยน

บทบาทในภาค Soul Of Gold

[แก้]

ครั้งนี้เขาเป็นพระเอกในภาคนี้ โดยได้รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อลิเฟีย

ท่าไม้ตาย

[แก้]
  • ไลท์นิ่งโวลต์ (Lightning Volt) เป็นท่าไม้ตายโดยการปล่อยหมัดความเร็วแสงไว้ที่จุดเดียว โดยมีลักษณะเส้นตรงเพียงเส้นเดียว
  • ไลท์นิ่งโบลท์ (Lightning Bolt) เป็นท่าไม้ตายโดยการปล่อยหมัดความเร็วแสงไว้ที่จุดเดียว โดยมีลักษณะเป็นลูกบอลพลังกลมๆ
  • ไลท์นิ่งพลาสม่า (Lightning Plasma) เป็นท่าไม้ตายโดยปล่อยหมัดความเร็วแสงจำนวนมาก โดยมีลักษณะเป็นเส้นแสงที่มุ่งทำร้ายศัตรูเป็นเส้นทะแยง เส้นขนาน ไปพร้อมๆ กัน

อ้างอิง

[แก้]
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 1 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2543
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 7 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2544
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 8 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 9 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 14 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2545
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 17 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2546
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 21 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 22 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2548
  • มะซะมิ คุรุมะดะ, เซนต์ เซย่า เล่มที่ 26 , สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ, 2549

ดูเพิ่ม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]