ฟอจด์ฟรอมเดอะเลิฟออฟลิเบอร์ที

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟอจด์ฟรอมเดอะเลิฟ
ออฟลิเบอร์ที
คำแปล: บุกบั่นจากความรักแห่งเสรีภาพ
Forged from the Love of Liberty
เนื้อร้องแพททริก คาสเทนจ์
ทำนองแพททริก คาสเทนจ์
รับไปใช้พ.ศ. 2505

เพลงชาติสาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโกมีชื่อว่า ฟอจด์ฟรอมเดอะเลิฟออฟลิเบอร์ที (อังกฤษ: Forged from the love of liberty, บุกบั่นจากความรักแห่งเสรีภาพ) เดิมเพลงนี้เป็นเพลงชาติของสหพันธรัฐเวสต์อินดิส (พ.ศ. 2501 - 2505) ต่อมาเมื่อมีการยกเลิกสหพันธรัฐดังกล่าวในปี พ.ศ. 2505 ประเทศตรินิแดดและโตเบโกซึ่งเป็นประเทศเกิดใหม่จากสหพันธรัฐแห่งนี้จึงรับเอาเพลงนี้มาใช้เป็นเพลงชาติของตนสืบมาจนถึงปัจจุบัน เพลงนี้ประพันธ์เนื้อร้องและทำนองโดย แพททริก คาสเทนจ์ (Patrick Castagne)[1]

แพททริก คาสเทนจ์ ผู้แต่งเนื้อร้องและทำนองเพลงชาติในปี 1962[2] คาสเทนจ์ นักแต่งเพลงชาวอินเดียตะวันตกที่มีชื่อเสียง ได้รับการว่าจ้างงานที่คณะกรรมาธิการตรินิแดดและโตเบโกในกรุงลอนดอน[1] หนึ่งในผลงานเพลงที่ไดรับสมญานามว่า เพลงแห่งเกาะ (A Song for the Islands)[3] หรือ เพลงแห่งสหพันธรัฐ (A Song for Federation)[1] เป็นไปได้ที่เพลงชาติถูกส่งไปยังสหพันธ์หมู่เกาะอินเดียตะวันตก[3]

เมื่อสหพันธ์ล่มสลาย เขาเปลี่ยนแนวเพลงบางส่วนและส่งเพลงใหม่ไปยังตรินิแดดและโตเบโก[3] เพื่อใช้ในการประกวดการคัดเลือกเพลงชาติ รวมผู้เข้าประกวดจำนวน 834 คำท่านั้น มี 33 รายการเพลงเท่านั้น และ 306 คำและเพลงเข้าประกวด ผลงานของนาย คาสเทนจ์ ชนะเหนือความคาดหมาย และเขาได้รับรางวัล 5,000.00 ดอลลาร์ในพันธบัตรรัฐบาลและเหรียญทองที่จารึกด้วยตราแผ่นดินของตรินิแดดและโตเบโก[1]

การเปลี่ยนแปลงเพลงแห่งสหพันธรัฐ ของ คาสเทนจ์ ถือว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับรัฐสองเกาะที่ประกอบด้วย "islands of the blue Caribbean Sea" (หมู่เกาะแห่งทะเลแคริบเบียนสีคราม) ที่ยืน Side by Side (เคียงข้าง) ในการส่งเสริมค่านิยมของ "every creed and race" (ทุกลัทธิและเชื้อชาติ) โดยค้นพบ "an equal place" (ที่เท่าเทียมกัน) ในสังคมพหุเชื้อชาติ หลายศาสนา และพหุวัฒนธรรมของตรินิแดดและโตเบโกดังที่มีอยู่ในปี 2505[1] ถือว่าสะท้อนถึงธรรมชาติและความแข็งแกร่งของชาวตรินิแดดและโตเบโกและความกล้าหาญของพวกเขาในฐานะชาติหนึ่งที่ทำงานเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพแม้จะมีความหลากหลายอยู่แล้วก็ตาม[3] ตามข้อความที่ตัดตอนมาจากบทบรรณาธิการใน ซันเดย์ การ์เดียน (Sunday Guardian) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2505: "ในการประกาศความเป็นพี่น้องและเอกภาพอย่างเคร่งขรึม รวมถึงโตเบโกกับตรินิแดดอย่างเรียบร้อยโดยไม่ของเอ่ยชื่อทั้งสอง "Side by side we stand, islands of the blue Caribbean Sea" (ว่าจะขอยืนเคียงข้างหมู่เกาะแห่งทะเลแคริบเบียนสีคราม) และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสามัคคี จึงอธิบายต่อไปว่าเป็น "This our native land" (ถิ่นเกิดของเราแห่งนี้) ซึ่งลงท้ายด้วยเนื้อร้อง "And may God bless our nation."(และขอพระเจ้าทรงคุ้มครองชาติของเรา)[1]

เนื้อร้อง[แก้]

ฉบับ สหพันธรัฐ[แก้]

ซึ่งเป็นเพลงแห่งสหพันธรัฐที่คาสเทนจ์ประพันธ์ ได้แรงบันดาลใจจากการก่อตั้งสหพันธรัฐที่ผ่านช่วงเวลาการต่อสู้ทางการเมือง. ความแตกต่างของบทร้องในสมัยสหพันธรัฐ กับ ฉบับราชการ ตามเนื้อที่แสดงข้างล่างนี้:[1]

ภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย
Forged from the love of unity
In the fires of hope and prayer
With boundless faith in our liberty
West Indians all declare:
Side by side we stand
With our hearts joined across the sea,
This our native land
We pledge ourselves for thee.
Here every creed and race find an equal place,
And may God bless our nation
Here every creed and race find an equal place,
And may God bless our nation.
บุกบั่นจากความรักแห่งเอกภาพ
ในดวงไฟแห่งความหวังและการภาวนา
ด้วยความเชื่ออย่างมิรู้สิ้นในเสรีภาพของเรา
เวสต์อินดิสทั้งผองขอประกาศ
ว่าจะขอยืนเคียงข้าง
ด้วยดวงใจของเราที่ก้าวข้ามท้องทะเล
ถิ่นเกิดของเราแห่งนี้
เราขอเอาชีวีปฏิญาณต่อท่าน
ณ ที่นี้ ชนทุกกลุ่มความเชื่อและเชื้อชาติจงใฝ่หาสถานที่อันเสมอภาค
และขอพระเจ้าทรงคุ้มครองชาติของเรา
ณ ที่นี้ ชนทุกกลุ่มความเชื่อและเชื้อชาติจงใฝ่หาสถานที่อันเสมอภาค
และขอพระเจ้าทรงคุ้มครองชาติของเรา

ฉบับราชการ[แก้]

ภาษาอังกฤษ คำแปลภาษาไทย
Forged from the love of liberty
In the fires of hope and prayer
With boundless faith in our destiny
We solemnly declare:
Side by side we stand
Islands of the blue Caribbean sea,
This our native land
We pledge our lives to thee.
Here every creed and race find an equal place,
And may God bless our nation
Here every creed and race find an equal place,
And may God bless our nation.
บุกบั่นจากความรักแห่งเสรีภาพ
ในดวงไฟแห่งความหวังและการภาวนา
ด้วยความเชื่ออย่างมิรู้สิ้นในโชคชะตาเรา
เราขอประกาศอย่างแข็งขัน
ว่าจะขอยืนเคียงข้าง
หมู่เกาะแห่งทะเลแคริบเบียนสีคราม
ถิ่นเกิดของเราแห่งนี้
เราขอเอาชีวีปฏิญาณต่อท่าน
ณ ที่นี้ ชนทุกกลุ่มความเชื่อและเชื้อชาติจงใฝ่หาสถานที่อันเสมอภาค
และขอพระเจ้าทรงคุ้มครองชาติของเรา
ณ ที่นี้ ชนทุกกลุ่มความเชื่อและเชื้อชาติจงใฝ่หาสถานที่อันเสมอภาค
และขอพระเจ้าทรงคุ้มครองชาติของเรา

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 Understanding our national anthem, FIRST Magazine, 2012, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 กันยายน 2013
  2. NALIS: National Symbols of Trinidad and Tobago – The National Anthem, National Library and Information System Authority of Trinidad and Tobago, 2016, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 มิถุนายน 2015
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ NALIS

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]