ข้ามไปเนื้อหา

ปอนทิอัสปีลาต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปอนทิอัสปีลาต
เอ็กเซโฮโม ("จงดูชายผู้นั้น") ภาพโดยAntonio Ciseri
เจ้าเมืองยูเดียคนที่ 5
ดำรงตำแหน่ง
ประมาณ ค.ศ. 26 – ค.ศ. 36
แต่งตั้งโดยจักรพรรดิติแบริอุส
ก่อนหน้าวาเลรีอุส กราตุส
ถัดไปมาร์เซลลุส
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบ
จักรวรรดิโรมัน
เสียชีวิตไม่ทราบ, หลัง ค.ศ. 37
จักรวรรดิโรมัน
คู่สมรสไม่ทราบ[a]
ไฟล์:Biggus.jpg
นี่คือตัวอย่างของผู้ที่มารับบทปีลาตุสในภาพยนตร์ แสดงโดยไมเคิล พาลิน

ปอนทิอัสปีลาต (อังกฤษ: Pontius Pilate[b]; กรีก: Πόντιος Πιλᾶτος, อักษรโรมัน: Póntios Pilátos; ละติน: Pontius Pilatus) เป็นข้าหลวงชาวโรมันผู้ว่าการมณฑลยูเดีย (ค.ศ. 26–36 ปัจจุบันคือประเทศอิสราเอลถึงเลบานอน) ในสมัยจักรพรรดิติแบริอุส และเป็นผู้สั่งประหารพระเยซูเพราะถูกเสียงกดดันจากฝูงชนชาวยิวที่ไม่เชื่อว่าพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้าที่มาเรียกร้องให้ออกหมายสั่งประหารพระเยซู คริสต์ศาสนานิกายเอธิโอเปียและนิกายโบสถ์ตะวันออกนับถือปีลาตุสเป็นนักบุญ

ชื่อ​ของปอนทิอัสปีลาต​ปรากฏ​อยู่​กับ​ชื่อ​ทิเบริอุส​ใน​บันทึก​ที่​เขียน​โดย​นัก​ประวัติศาสตร์​ชาว​โรมัน​ชื่อ​ทาซิทุส​ไม่​นาน​หลัง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​เขียน​เสร็จ เมื่อ​พูด​ถึง​คำ​ว่า “คริสเตียน” ทาซิทุส​เขียน​ว่า “คริสทุส ผู้​เป็น​ที่​มา​ของ​ชื่อ​คริสเตียน​นี้ ได้​รับ​โทษ​ประหาร​ชีวิต​ใน​ระหว่าง​รัชกาล​ของ​ทิเบริอุส โดย​น้ำ​มือ​ของ​ปอนทิอัสปีลาตุส เจ้าเมือง​คน​หนึ่ง​ของ​เรา”

ในปี ค.ศ. 1961 นักโบราณคดีได้ขุดค้นซากโรงละครของโรมันสมัยโบราณในซีซาเรียประเทศอิสราเอล พวกเขาพบแผ่นหินแผ่นหนึ่งซึ่งเคยใช้ในอาคารหลังอื่นมาก่อน แผ่นหินนั้นมีชื่อของปีลาตสลักไว้อย่างชัดเจนในภาษาละติน ข้อความนั้นเขียนว่า “ปอนทิอัสปีลาต ผู้สำเร็จราชการของยูเดียขออุทิศทิเบริอุม (อาคารหลังนี้) ให้เป็นเกียรติแก่พระเจ้าต่าง ๆ”

“ปีลาต​ผู้​ช่าง​สงสัย​และ​ชอบ​ถากถาง เป็น​บุคคล​ใน​ประวัติศาสตร์​ที่​ยัง​คง​อยู่​ใน​ความ​สนใจ​ของ​ผู้​คน​จวบ​จน​บัด​นี้ บาง​คน​ถือ​ว่า​เขา​เป็น​นัก​บุญ ส่วน​คน​อื่น ๆ มอง​ว่า​เขา​เป็น​ตัว​อย่าง​ของ​ความ​อ่อนแอ​ของ​มนุษย์ เป็น​ต้น​แบบ​ของ​นัก​การ​เมือง​ที่​เต็ม​ใจ​จะ​แลก​ชีวิต​ของ​ใคร​คน​หนึ่ง​กับ​ความ​มี​เสถียรภาพ​ทาง​การ​เมือง.”—ปนเตียว ปีลาต (ภาษา​อังกฤษ) โดย​แอน โร.

ทิเบริอุส จักรพรรดิ​โรมัน​แต่ง​ตั้ง​ปีลาต​เป็น​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​มณฑล​จูเดีย​ใน​ปี​สากล​ศักราช 26 คน​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ใน​ตำแหน่ง​สูง​นี้​คือ​คน​ที่​เป็น​ทหาร​ม้า—ขุนนาง​ระดับ​ล่าง ซึ่ง​ต่าง​จาก​ขุนนาง​ชั้น​สูง​ที่​มี​ตำแหน่ง​ใน​สภา ดู​เหมือน​ว่า ปีลาต​เคย​เข้า​รับ​ราชการ​ทหาร​ใน​ตำแหน่ง​นาย​พัน​หรือ​หัวหน้า​ระดับ​ล่าง และ​ไต่​เต้า​ขึ้น​สู่​ตำแหน่ง​ที่​สูง​ขึ้น​ตาม​ลำดับ​ตลอด​ระยะ​เวลา​ใน​การ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่ และ​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ขณะ​ที่​เขา​อายุ​ไม่​ถึง 30 ปี

เมื่อ​สวม​เครื่อง​แบบ​ทหาร ปีลาต​คง​จะ​ใส่​เสื้อ​หนัง​และ​สวม​เกราะ เมื่อ​ปรากฏ​ตัว​ใน​ที่​สาธารณะ เขา​สวม​ชุด​ยาว​สี​ขาว​ที่​มี​ชาย​เสื้อ​สี​ม่วง เขา​คง​จะ​ตัด​ผม​สั้น​และ​โกน​หนวด​เครา​เรียบร้อย แม้​บาง​คน​เชื่อ​ว่า​เขา​มา​จาก​สเปน แต่​ชื่อ​ของ​เขา​บ่ง​บอก​ว่า​มา​จาก​ตระกูล​ปอน​ติ ซึ่ง​เป็น​ชาว​แซมไนต์ ชน​ชั้น​สูง​ที่​อาศัย​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​อิตาลี

ตาม​ปกติ​แล้ว ตำแหน่ง​นี้​ทำ​ให้​ปีลาต​ต้อง​ถูก​ส่ง​ไป​ยัง​เขต​ที่​ห่าง​ไกล​ความ​เจริญ โรม​ถือ​ว่า​จูเดีย​เป็น​เขต​แบบ​นั้น นอก​จาก​จะ​ดู​แล​ความ​สงบ​เรียบร้อย​แล้ว ปีลาต​ต้อง​ดู​แล​การ​เก็บ​ภาษี​ทาง​อ้อม​และ​ภาษี​ราย​หัว ศาล​ของ​ชาว​ยิว​จะ​ดู​แล​การ​ตัดสิน​คดี​ทั่ว ๆ ไป แต่​ถ้า​เป็น​คดี​ที่​มี​โทษ​ถึง​ขั้น​ประหาร​ชีวิต​จะ​ต้อง​อยู่​ใน​ความ​ดู​แล​ของ​ผู้​สำเร็จ​ราชการ ซึ่ง​เป็น​ผู้​มี​อำนาจ​สูง​สุด​ใน​การ​พิพากษา

ปีลาต​และ​ภรรยา​อาศัย​อยู่​ใน​ซีซาเรีย​ซึ่ง​เป็น​เมือง​ท่า โดย​มี​เพื่อน​ฝูง, เจ้าหน้าที่​อาลักษณ์, และ​ผู้​ส่ง​สาร​อยู่​ไม่​กี่​คน ปีลาต​เป็น​ผู้​บัญชา​การ​ทหาร​ห้า​กองพัน​ที่​ประกอบ​ด้วย​ทหาร​ราบ 500 ถึง 1,000 นาย รวม​ทั้ง​ทหาร​ม้า​ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​มี​จำนวน 500 นาย ตาม​ปกติ​แล้ว ทหาร​ของ​ปีลาต​มี​หน้า​ที่​ประหาร​พวก​ที่​กระทำ​ผิด​กฎหมาย ใน​ยาม​สงบ การ​ประหาร​ชีวิต​จะ​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​มี​การ​ไต่สวน​คร่าว ๆ แต่​ใน​ยาม​ที่​เกิด​การ​จลาจล ผู้​ก่อ​การ​กบฏ​จะ​ถูก​ฆ่า​ทิ้ง​ทันที​และ​เป็น​การ​สังหาร​หมู่ ตัว​อย่าง​เช่น ทหาร​โรมัน​ได้​ประหาร​ทาส​ถึง 6,000 คน​เพื่อ​จะ​ยุติ​การ​กบฏ​ที่​นำ​โดย​สปาร์ตาคุส หาก​เกิด​ความ​วุ่นวาย​ใน​จูเดีย ตาม​ปกติ​แล้ว​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​จะ​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ตัว​แทน​ของ​จักรพรรดิ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​บัญชา​การ​กองทัพ​ทหาร​ขนาด​ใหญ่​ที่​ประจำ​อยู่​ใน​ซีเรีย อย่าง​ไร​ก็​ตาม ช่วง​เวลา​ส่วน​ใหญ่​ที่​ปีลาต​ปกครอง​จูเดีย ตัว​แทน​ของ​จักรพรรดิ​ไม่​ค่อย​อยู่​ที่​ซีเรีย และ​ปีลาต​ก็​ต้อง​ยุติ​ความ​วุ่นวาย​โดย​เร็ว

ผู้​สำเร็จ​ราชการ​จะ​ต้อง​รายงาน​สภาพการณ์​ต่าง ๆ ให้​จักรพรรดิ​ทราบ​เป็น​ประจำ เรื่อง​ที่​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​พระ​เกียรติ​ของ​จักรพรรดิ​หรือ​เป็น​ภัย​ต่อ​การ​ปกครอง​ของ​โรม​จะ​ต้อง​มี​การ​รายงาน​ให้​จักรพรรดิ​ทราบ​และ​พระองค์​ก็​จะ​ออก​คำ​สั่ง ผู้​สำเร็จ​ราชการ​อาจ​รีบ​รายงาน​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​มณฑล​ของ​ตน​ก่อน​ที่​คน​อื่น​จะ​ร้อง​เรียน​เรื่อง​นี้​กับ​จักรพรรดิ ฉะนั้น เมื่อ​เกิด​ความ​วุ่นวาย​ขึ้น​ใน​จูเดีย ปีลาต​จึง​รู้สึก​หนัก​ใจ​อย่าง​ยิ่ง

นอก​จาก​เรื่อง​ราว​ใน​กิตติคุณ​แล้ว นัก​ประวัติศาสตร์​ฟลาวิอุส โยเซฟุส​และ​ฟิโล​ก็​เป็น​ผู้​ที่​บันทึก​เรื่อง​ราว​ที่​เป็น​แหล่ง​ข้อมูล​สำคัญ​เกี่ยว​กับ​ปีลาต นอก​จาก​นี้ ทาซิทุส นัก​ประวัติศาสตร์​ชาว​โรมัน​กล่าว​ว่า​ปีลาต​เป็น​ผู้​สั่ง​ประหาร​พระ​คริสต์ ซึ่ง​คริสเตียน​ได้​ชื่อ​มา​จาก​พระ​คริสต์​ผู้​นี้

ตาม​ที่​โยเซฟุส​กล่าว​ไว้ เนื่อง​จาก​ชาว​โรมัน​ทราบ​ดี​ว่า​ชาว​ยิว​ไม่​ใช้​รูป​เคารพ ผู้​สำเร็จ​ราชการ​โรมัน​คน​อื่น ๆ เคย​หลีก​เลี่ยง​การ​นำ​ธง​สัญลักษณ์​ประจำ​กองทัพ​ที่​มี​รูป​จักรพรรดิ​เข้า​มา​ใน​กรุง​เยรูซาเลม เนื่อง​จาก​ปีลาต​ไม่​สนใจ​เรื่อง​นี้ ชาว​ยิว​ที่​โกรธ​แค้น​จึง​รีบ​ไป​ที่​ซีซาเรีย​เพื่อ​ร้อง​เรียน ปีลาต​ปล่อย​ให้​เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​ห้า​วัน วัน​ที่​หก เขา​สั่ง​ให้​ทหาร​ล้อม​พวก​ผู้​ต่อ​ต้าน​และ​ขู่​ว่า​จะ​ประหาร​ชีวิต​ถ้า​ไม่​ยอม​สลาย​การ​ชุมนุม เมื่อ​พวก​ยิว​กล่าว​ว่า​พวก​เขา​ยอม​ตาย​ดี​กว่า​ยอม​ให้​พระ​บัญญัติ​ถูก​ละเมิด ปีลาต​จึง​ยอม​และ​สั่ง​ให้​นำ​รูป​เคารพ​ออก​ไป

ปีลาต​ชอบ​ใช้​กำลัง ใน​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​โยเซฟุส​บันทึก​ไว้ ปีลาต​เริ่ม​โครงการ​ทำ​ท่อ​ส่ง​น้ำ​เพื่อ​ลำเลียง​น้ำ​เข้า​ไป​ใช้​ใน​กรุง​เยรูซาเลม และ​ต้องการ​ใช้​เงิน​จาก​ตู้​เก็บ​เงิน​ถวาย​ใน​พระ​วิหาร​เพื่อ​เป็น​เงิน​ทุน​สำหรับ​โครงการ​นี้ ปีลาต​ไม่​ได้​ยึด​เงิน​จาก​พระ​วิหาร เพราะ​เขา​รู้​ว่า​การ​ปล้น​พระ​วิหาร​เป็น​การ​ลบหลู่​สิ่ง​ศักดิ์สิทธิ์​และ​อาจ​เป็น​เหตุ​ให้​ชาว​ยิว​ที่​โกรธ​แค้น​ไป​ฟ้องร้อง​ต่อ​ทิเบริอุส​เพื่อ​ขอ​ให้​ส่ง​เขา​กลับ​โรม ดัง​นั้น จึง​ดู​เหมือน​ว่า​ปีลาต​ได้​รับ​ความ​ร่วม​มือ​จาก​เจ้าหน้าที่​ใน​พระ​วิหาร เนื่อง​จาก​เป็น​เรื่อง​สม​เหตุ​ผล​ที่​จะ​นำ “โกระบัน” หรือ​เงิน​ถวาย​ไป​ใช้​เพื่อ​สร้าง​สิ่ง​สาธารณูปโภค​ต่าง ๆ เพื่อ​ประโยชน์​ของ​เมือง แต่​ชาว​ยิว​หลาย​พัน​คน​ที่​โกรธ​แค้น​ได้​รวม​ตัว​กัน​เพื่อ​ประท้วง

ปีลาต​ส่ง​กอง​ทหาร​เข้า​ไป​เดิน​ปะปน​กับ​ฝูง​ชน​โดย​มี​คำ​สั่ง​ไม่​ให้​พวก​ทหาร​ใช้​ดาบ แต่​ให้​ใช้​กระบอง​ตี​พวก​ผู้​ต่อ​ต้าน​แทน ดู​เหมือน​ว่า เขา​ต้องการ​ควบคุม​ฝูง​ชน​ที่​ก่อ​ความ​วุ่นวาย​โดย​ไม่​ต้องการ​ยั่ว​ยุ​ให้​เกิด​การ​สังหาร​หมู่ นี่​ดู​เหมือน​ได้​ผล​ตาม​ที่​ต้องการ​แม้​มี​บาง​คน​เสีย​ชีวิต บาง​คน​ที่​เล่า​ให้​พระ​เยซู​ฟัง​ว่า ปีลาต​เอา​เลือด​ของ​ชาว​แกลิลี (ฆาลิลาย) บาง​คน​ระคน​กับ​เครื่อง​บูชา​ของ​เขา อาจ​พาด​พิง​ถึง​เหตุ​การณ์​นี้—ลูกา 13:1

เหตุ​การณ์​ที่​ทำ​ให้​ชื่อ​ของ​ปีลาต​เสื่อม​เสีย คือ​คราว​ที่​เขา​สอบสวน​พระ​เยซู​เนื่อง​จาก​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​กล่าวหา​ว่า​พระองค์​อ้าง​ตน​เป็น​กษัตริย์ เมื่อ​ได้​ฟัง​ว่า​พระ​เยซู​มา​เพื่อ​เป็น​พยาน​ถึง​ความ​จริง ปีลาต​จึง​เห็น​ว่า​นัก​โทษ​ผู้​นี้​ไม่​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​โรม คำ​ถาม​ที่​ปีลาต​ถาม​ว่า “ความ​จริง​คือ​อะไร​เล่า?” แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เขา​คิด​ว่า​ความ​จริง​เป็น​แนว​คิด​ที่​หา​ข้อ​สรุป​ไม่​ได้​และ​ไม่​น่า​จะ​มา​เสีย​เวลา​กับ​เรื่อง​นี้ เขา​สรุป​อย่าง​ไร? “เรา​ไม่​เห็น​ว่า​คน​นั้น​มี​ความ​ผิด”—โยฮัน 18:37, 38; ลูกา 23:4

การ​พิจารณา​คดี​พระ​เยซู​น่า​จะ​จบ​ลง​ตรง​นั้น แต่​พวก​ยิว​ยืนกราน​ว่า​พระองค์​กำลัง​บ่อน​ทำลาย​ชาติ ความ​อิจฉา​เป็น​เหตุ​ให้​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​มอบ​พระ​เยซู​ให้​กับ​เจ้าหน้าที่​โรมัน และ​ปีลาต​ก็​รู้​เรื่อง​นี้​ดี เขา​ยัง​รู้​ด้วย​ว่า การ​ปล่อย​พระ​เยซู​ไป​จะ​ยิ่ง​สร้าง​ความ​วุ่นวาย ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​เขา​ต้องการ​หลีก​เลี่ยง ที่​จูเดีย​ก็​มี​ความ​วุ่นวาย​มาก​พอ​อยู่​แล้ว​เนื่อง​จาก​บาระบา​และ​คน​อื่น ๆ ถูก​จำ​คุก​เพราะ​การ​ก่อ​กบฏ​และ​ฆาตกรรม (มาระโก 15:7, 10; ลูกา 23:2) ยิ่ง​กว่า​นั้น เรื่อง​ที่​ปีลาต​มี​ข้อ​ขัด​แย้ง​กับ​ชาว​ยิว​ก่อน​หน้า​นี้​ทำ​ให้​ชื่อเสียง​ของ​ปีลาต​มัวหมอง​เฉพาะ​พระ​พักตร์​ทิเบริอุส ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​ชอบ​ใช้​มาตรการ​รุนแรง​จัด​การ​กับ​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ที่​ไม่​ดี กระนั้น การ​ยอม​ทำ​ตาม​ที่​พวก​ยิว​ขอ​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ความ​อ่อนแอ ดัง​นั้น ปีลาต​จึง​เผชิญ​กับ​ภาวะ​กลืน​ไม่​เข้า​คาย​ไม่​ออก

เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​พระ​เยซู​มา​จาก​มณฑล​ใด ปีลาต​จึง​พยายาม​ส่ง​เรื่อง​ไป​ให้​เฮโรด อันติปา ซึ่ง​เป็น​ผู้​ปกครอง​แคว้น​แกลิลี เมื่อ​ไม่​เป็น​ผล ปีลาต​จึง​พยายาม​โน้ม​น้าว​คน​ที่​รวม​ตัว​กัน​อยู่​ข้าง​นอก​เพื่อ​ขอ​ให้​ปล่อย​พระ​เยซู​ไป โดย​อาศัย​ธรรมเนียม​การ​ปล่อย​นัก​โทษ​ใน​วัน​ปัศคา ฝูง​ชน​ตะโกน​ออก​มา​ว่า​ให้​ปล่อย​บาระบา—ลูกา 23:5-19

ปีลาต​อาจ​ต้องการ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง แต่​เขา​ก็​ต้องการ​ปก​ป้อง​ตำแหน่ง​ของ​ตน​และ​ต้องการ​ทำ​ให้​ฝูง​ชน​พอ​ใจ​ด้วย ใน​ที่​สุด เขา​ถือ​ว่า​ตำแหน่ง​ของ​ตน​สำคัญ​กว่า​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​และ​ความ​ยุติธรรม ปีลาต​ขอ​น้ำ​ล้าง​มือ​และ​อ้าง​ว่า​เขา​ไม่​มี​ส่วน​ใน​ความ​ผิด​เกี่ยว​กับ​ความ​ตาย​ที่​ตอน​นี้​เขา​ได้​อนุมัติ​ไป* แม้​ปีลาต​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​มี​ความ​ผิด แต่​เขา​ก็​สั่ง​ให้​เฆี่ยน​พระ​เยซู​และ​ปล่อย​ให้​พวก​ทหาร​เยาะเย้ย, โบย​ตี, และ​ถ่ม​น้ำลาย​รด​พระองค์—มัดธาย 27:24-31

ปีลาต​ใช้​ความ​พยายาม​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย​ที่​จะ​ปล่อย​พระ​เยซู แต่​ฝูง​ชน​ตะโกน​ว่า​ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น​ปีลาต​ก็​เป็น​ศัตรู​กับ​ซีซาร์ (โยฮัน 19:12) เมื่อ​ได้​ยิน​เช่น​นั้น ปีลาต​จึง​ยอม​ทำ​ตาม​ที่​พวก​ยิว​เรียก​ร้อง ผู้​คง​แก่​เรียน​คน​หนึ่ง​กล่าว​เกี่ยว​กับ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ปีลาต​ว่า “การ​แก้​ปัญหา​นั้น​ทำ​อย่าง​ง่าย ๆ นั่น​คือ​ประหาร​ชีวิต​ชาย​คน​นั้น อย่าง​มาก​ที่​สุด​ก็​แค่​เสีย​ชาว​ยิว​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่​ใช่​คน​สำคัญ​อะไร ซึ่ง​คง​เป็น​เรื่อง​โง่​เขลา​หาก​จะ​ยอม​ให้​เกิด​ความ​วุ่นวาย​ขึ้น​เพราะ​ชาย​คน​นั้น”

เหตุ​การณ์​สุด​ท้าย​ที่​มี​บันทึก​ไว้​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ราว​ชีวิต​ของ​ปีลาต​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​ขัด​แย้ง​อีก​เรื่อง​หนึ่ง โยเซฟุส​กล่าว​ว่า ชาว​ซะมาเรีย​หลาย​คน​พร้อม​อาวุธ​ได้​มา​รวม​ตัว​กัน​บน​ภูเขา​เก​ริ​ซิม (ฆะรีซีม) โดย​หวัง​จะ​พบ​สมบัติ​ที่​คิด​กัน​ว่า​โมเซ​ฝัง​ไว้​ที่​นั่น ปีลาต​เข้า​แทรกแซง​และ​ทหาร​ของ​เขา​ก็​สังหาร​คน​เป็น​อัน​มาก ชาว​ซะมาเรีย​ได้​ฟ้องร้อง​เรื่อง​นี้​ต่อ​ผู้​ที่​มี​อำนาจ​สูง​กว่า​ปีลาต นั่น​คือ​ลูคิอุส วิเทลลิอุส ซึ่ง​เป็น​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ของ​ซีเรีย ไม่​มี​บันทึก​ที่​ช่วย​ให้​เรา​รู้​ว่า วิเทลลิอุส​คิด​อย่าง​ไร​ที่​ปีลาต​ทำ​เกิน​กว่า​เหตุ ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร วิเทลลิอุส​สั่ง​ให้​ปีลาต​กลับ​ไป​กรุง​โรม​เพื่อ​ให้​การ​ต่อ​จักรพรรดิ​เกี่ยว​กับ​การ​กระทำ​ของ​เขา อย่าง​ไร​ก็​ตาม ก่อน​ที่​ปีลาต​จะ​มา​ถึง​โรม ทิเบริอุส​ก็​เสีย​ชีวิต​แล้ว

แหล่ง​อ้างอิง​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ตั้ง​แต่​นั้น​มา เอกสาร​ทาง​ประวัติศาสตร์​ก็​ไม่​ได้​กล่าว​ถึง​ปีลาต​อีก​เลย แต่​มี​เรื่อง​เล่า​มาก​มาย​ที่​กล่าว​ถึง​ตัว​เขา” หลาย​คน​พยายาม​จะ​แต่ง​เติม​ราย​ละเอียด​ที่​ขาด​หาย​ไป บาง​คน​อ้าง​ว่า​ปีลาต​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน “คริสเตียน” ออร์โทด็อกซ์​ใน​เอธิโอเปีย​ยก​ให้​เขา​เป็น “นัก​บุญ” ยูเซบิอุส ซึ่ง​เป็น​ผู้​บันทึก​เหตุ​การณ์​ช่วง​ปลาย​ศตวรรษ​ที่​สาม​และ​ต้น​ศตวรรษ​ที่​สี่​สากล​ศักราช เป็น​คน​แรก​ใน​หลาย ๆ คน​ที่​กล่าว​ว่า ปีลาต​ฆ่า​ตัว​ตาย​เช่น​เดียว​กับ​ยูดา​อิศการิโอด อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​มี​ใคร​รู้​ว่า​จริง ๆ แล้ว​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​ปีลาต

ปีลาต​อาจ​เป็น​คน​ดันทุรัง, ไม่​จริงจัง, และ​ชอบ​กดขี่ แต่​เขา​ก็​เป็น​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ใน​จูเดีย​ราว ๆ สิบ​ปี ใน​ขณะ​ที่​ข้าหลวง​ใน​จูเดีย​ส่วน​ใหญ่​อยู่​ไม่​นาน​เท่า​เขา ด้วย​เหตุ​นั้น สำหรับ​ทัศนะ​ของ​ชาว​โรมัน​แล้ว ปีลาต​ทำ​งาน​ได้​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ เขา​ถูก​เรียก​ว่า​คน​ขี้ขลาด​เพราะ​ต้องการ​ปก​ป้อง​ตัว​เอง​อย่าง​น่า​ตำหนิ​โดย​ยอม​ให้​พระ​เยซู​ถูก​ตรึง​บน​หลัก​ทรมาน​จน​สิ้น​พระ​ชนม์ ส่วน​คน​อื่น ๆ แย้ง​ว่า ปีลาต​ไม่​มี​หน้า​ที่​รักษา​ความ​ยุติธรรม แต่​เขา​มี​หน้า​ที่​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​และ​ผล​ประโยชน์​ของ​โรม

สมัย​ของ​ปีลาต​ต่าง​จาก​สมัย​ของ​เรา​มาก กระนั้น คง​ไม่​มี​ผู้​พิพากษา​คน​ใด​มี​เหตุ​ผล​สม​ควร​ที่​จะ​พิพากษา​โทษ​ชาย​ที่​ไม่​ได้​กระทำ​ผิด ถ้า​ปีลาต​ไม่​ได้​พบ​พระ​เยซู เขา​อาจ​ไม่ได้เป็น​อีก​บุคคล​หนึ่ง​ที่​ถูก​บันทึก​ชื่อ​ไว้​ใน​หนังสือ​ประวัติศาสตร์​ก็​ได้

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ช่วงหลังชาวคริสต์ตั้งชื่อภรรยาของเขาว่าโพรคูลา (ละติน: Procula) หรือโพรคลา (กรีกโบราณ: Πρόκλα),[1] เช่นเดียวกันกับ คลอเดีย โพรคูลา[2] และอาจเป็นชื่ออื่น เช่นลิเวีย หรือ ปีลาเตสซา[3]
  2. /ˈpɒnʃəs ˈplət, -tiəs/ PON-shəs-_-py-lət[4][5][6]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Demandt 1999, p. 162.
  2. Grüll 2010, p. 168.
  3. Hourihane 2009, p. 415.
  4. Olausson & Sangster 2006.
  5. Milinovich 2010.
  6. Jones 2006.