แคลวิน คูลิดจ์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
แคลวิน คูลิดจ์ | |
---|---|
Calvin Coolidge | |
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 30 | |
ดำรงตำแหน่ง 2 สิงหาคม ค.ศ. 1923 – 4 มีนาคม ค.ศ. 1929 (5 ปี 214 วัน) | |
รองประธานาธิบดี | ชาลส์ ดอว์ส |
ก่อนหน้า | วาร์เรน จี. ฮาร์ดิง |
ถัดไป | เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ |
รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 29 | |
ดำรงตำแหน่ง 4 มีนาคม ค.ศ. 1921 – 2 สิงหาคม ค.ศ. 1923 | |
ก่อนหน้า | โทมัส อาร์. มาร์แชลล์ |
ถัดไป | ชาลส์ ดอว์ส |
ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ คนที่ 48 | |
ดำรงตำแหน่ง 2 มกราคม ค.ศ. 1919 – 6 มกราคม ค.ศ. 1921 | |
ก่อนหน้า | ซามูเอล ดับเบิลยู. แมคคอล |
ถัดไป | แชนนิง เอช. คอกซ์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1872 เพลยมอนต์ เวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา |
เสียชีวิต | มกราคม 5, 1933 นอร์ทแธมตัน แมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา | (60 ปี)
ศาสนา | คริสต์ (โปรแตสแตนท์) |
พรรคการเมือง | พรรครีพับลิกัน |
คู่สมรส | เกรซ กู๊ดฮิว คูลิดจ์ |
วิชาชีพ | นักกฎหมาย |
ลายมือชื่อ | |
จอห์น แคลวิน คูลิดจ์ จูเนียร์ (อังกฤษ: John Calvin Coolidge, Jr.; 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2415 – 5 มกราคม พ.ศ. 2476) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 30 ของประเทศสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2472 - พ.ศ. 2476) มักมีผู้เรียกเขาว่า "คาลผู้เงียบขรึม" คูลิดจ์เป็นนักกฎหมายจากรัฐเวอร์มอนต์ ไต่เต้าสู่วงการเมืองด้วยการลงเล่นการเมืองในรัฐแมสซาชูเซตส์จนได้เป็นผู้ว่าการรัฐ และจากฝีมือในการจัดการกับกรณีตำรวจบอสตันสไตค์เมื่อ พ.ศ. 2462 ทำให้คูลิดจ์เป็นที่รู้จักเด่นชัดในระดับประเทศ
หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2463 คูลิดจ์ได้รับการเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิดีคนที่ 29 และได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแทนประธานาธิบดีวาร์เรน จี. ฮาร์ดิงซึ่งถึงอสัญกรรมในตำแหน่ง คูลิดจ์ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีโดยตรงเมื่อ พ.ศ. 2467 และได้รับการกล่าวว่าเป็นรัฐบาลอนุรักษนิยมขนาดเล็ก
มีหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสไตล์การบริหารประเทศของคูลิดจ์ย้อนกลับไปสู่ยุคประธาธิบดีเฉื่อยของสหรัฐฯ ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 (พ.ศ. 2344-2403) [1] แต่คูลิดจ์ก็ได้กู้ความเชื่อมั่นของทำเนียบขาวจากเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดีฮาร์ดิง และหมดวาระประธานาธิบดีด้วยความนิยมค่อนข้างสูง[2] ดังที่นักเขียนชีวประวัติของคูลิดจ์ได้กล่าวว่า "คูลิดจ์ได้หลอมจิตวิญญาณและความหวังของคนชั้นกลาง สามารถแปลและเข้าใจถึงสิ่งที่คนกลุ่มนี้ไฝ่หาและแสดงออกมา เป็นตัวแทนของความอัจฉริยะของคนในระดับเฉลี่ยนั่นเองที่เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นพลังของคูลิดจ์" [3]
มีหลายคนที่วิพากษ์วิจารณ์คูลิดจ์ในตอนหลังว่ามีส่วนทำให้เกิดการบริหารประเทศแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา (laissez-faire government) [4] จนทำให้เกิดเศรษฐกิจตกต่ำสุดขีด ชื่อเสียงในด้านนี้ได้เกิดซ้ำอีกในสมัยประธานาธิบดีเรแกน[5] แต่การประเมินการบริหารประเทศของคูลิดจ์ก็ยังแยกเป็นสองฝ่ายระหว่างผู้เห็นด้วยกับการปรับขนาดของคณะรัฐมนตรีให้เล็กลง กับ ฝ่ายที่เห็นว่ารัฐบาลกลางควรเข้าไปมีส่วนในการยับยั้งผลเสียที่กำลังแรงของระบบทุนนิยม[6]
ครอบครัวและชีวิตเมื่อเยาว์วัย
[แก้]จอห์น แคลวิน คูลิดจ์ จูเนียร์ เกิดที่เมืองพลีมัธ วินเซอร์เคาน์ตี รัฐเวอร์มอนต์ และเป็นประธานาธิบดีคนเดียวของสหรัฐฯ ที่เกิดในวันชาติ คือวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นบุตรชายตนโตของแคลวิน คูลิดจ์ ซีเนียร์ มีน้อง 1 คน ครอบครัวของคูลิดจ์ฝังรากลึกในนิวอิงแลนด์[7] บรรพบุรุษของคูลิดจ์ได้อพยพมาอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ แมสซาชูเซตส์ประมาณ พ.ศ. 2173 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าปราสาททอง สมัยอยุธยา ปู่ทวดของคูลิดจ์เป็นทหารในสงครามปฏิวัติอเมริกันและต่อมาได้เป็น "ผู้ถูกเลือก" (En: selectmen - 3-5 คนที่ถูกเลือกมาเป็นผู้บริหารเมืองในยุคแรกๆ ของการตั้งถิ่นฐานในนิวอิงแลนด์) บริหารเมืองพลีมัธ[8] บรรพบุรุษส่วนใหญ่ของคูลิดจ์เป็นชาวไร่ แต่มีบรรพบุรุษหลายคนที่ได้เป็นวุฒิสมาชิกและตำแหน่งสำคัญอื่นๆ
ปู่ของคูลิดจ์ได้เป็นผู้บริหารเมืองเล็กๆ ในพลีมัธและได้ชื่อว่าเป็นนักเล่านิทานตลกตัวยง ย่าของคูลิดจ์อ้างว่ามีเชื้อสายของอินเดียนแดงด้วย บิดาของคูลิดจ์เป็นชาวไร่และครูและมีชีวิตยืนยาวได้เห็นลูกชายได้เป็นประธานาธิบดี ส่วนแม่เสียชีวิตด้วยวัณโรคตั้งแต่ พ.ศ. 2427 เมื่อคูลิดจ์อายุ 12 ปี[9]
การศึกษา
[แก้]แคลวิน คูลิดจ์จบการศึกษาจากวิทยาลัยแอมเฮิร์สต์ รัฐแมสซาชูเซตส์ซึ่งอยู่ใกล้พลีมัธ และเลิกใช้ชื่อ "จอห์น" เมื่อเรียนจบ ขณะเรียนคูลิดจ์ได้เข้าเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันและเภทนักศึกษาในปี พ.ศ. 2435 คูลิดจ์ยอมรับนับถืออาจารย์ผู้สอนวิชาปรัชญาและจริยศาสตร์คนหนึ่งว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อคูลิดจ์ ในปี พ.ศ. 2428 คูลิดจ์จบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมคัมราวด์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้แต่งและอ่านสุนทรพจน์ที่ขำขันซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของมหาวิทยาลัยในวันรับปริญญา
ชีวิตช่วงแรกและการแต่งงาน
[แก้]หลังจบการศึกษา คูลิดจ์ได้เข้าฝึกงานเป็นนักกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมากในการเรียนกฎหมายในสมัยนั้น คูลิดจ์เลือกวิธีที่แพร่หลายในขณะนั้นด้วยการผ่านการฝึกในสำนักงานกฎหมาย ในปี พ.ศ. 2440 คูลิดจ์สอบผ่านเนติบัณฑิต และเปิดสำนักงานกฎหมายของตนเองในปีถัดมา กล่าวกันว่า คูลิดจ์ให้บริการทางกฎหมายแก่ลูกความอย่างดีที่สุด คือด้วยการทำให้ไม่ต้องขึ้นศาล ด้วยชื่อเสียงที่ดี คูลิดจ์มีลูกความมากขึ้นรวมทั้งธนาคารต่างๆ
การแต่งงานและชีวิตครอบครัว
[แก้]คูลิดจ์พบนางสาวเกรซ แอนนา กูดฮิว ครูโรงเรียนชาวเวอร์มอนต์ด้วยกับ เมื่อ พ.ศ. 2448 เธอมีนิสัยตรงข้ามกับคูลิดจ์ คือชอบพูดและชอบสนุก ในขณะที่คูลิดจ์เป็นคนเงียบขรึม ทั้งสองแต่งงานกันมีลูก 2 คน และมีชีวิตสมรสที่มีความสุข ซึ่งคูลิดจ์เขียนไว้ในหนังสือชีวประวัติของตนเองไว้ว่าทั้งสอง "เกิดมาเพื่อเติมเต็มให้กันและกัน"
ชีวิตการเมืองยุคแรก
[แก้]ในสมัยของคูลิดจ์ พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ของนิวอิงแลนด์ คูลิดจ์ได้เข้ามีส่วนร่วมในการเมืองท้องถิ่น ในปี พ.ศ. 2439 คูลิดจ์ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครประธานาธิบดี คือ วิลเลียม แมกคินลีย์ ปีต่อมาคูลิดจ์ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการพรรครีพับลิกันท้องถิ่น และได้ชนะการเลือกตั้งเป็นกรรมการเมืองใน ปี พ.ศ. 2431 ทำงานโดยไม่ได้เงินเดือน แต่ได้ประสบการณ์มาก คูลิดจ์ได้ไต่บันไดการเมืองขึ้นไปเรื่อยๆ โดยได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งองค์กรการเมืองต่างๆ หลายแห่งในท้องถิ่น
สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐและนายกเทศมนตรี
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ข้อมูลเบื้องต้น
- Coolidge, Calvin. Have faith in Massachusetts; งานรวบรวมสุนทรพจน์ของคูลิดจ์
- Coolidge, Calvin. อัตชีวประวัติ (1929), ISBN 0-944951-03-1.
- ประธาราธิบดีช่างพูด: The Off-the Record Press Conferences of Calvin Coolidge edited by Howard H. Quint and Robert H. Ferrell (1964) เก็บถาวร 2008-12-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ข้อมูลวิชาการ
- Barry, John M., Rising Tide: The Great Mississippi Flood of 1927 and How It Changed America (1997) , ISBN 0-684-84002-2.
- Brandes, Joseph, Herbert Hoover and Economic Diplomacy. (1962)
- Ferrell, Robert H., The Presidency of Calvin Coolidge (1998) , ISBN 0-7006-0892-3.
- Fuess, Claude M., Calvin Coolidge: The Man from Vermont (1940) , ISBN 0-8371-9320-6.
- Greenberg, David, Calvin Coolidge, The American Presidents Series, (2006) , ISBN 0-8050-6957-7.
- Hannaford, Peter, The Quotable Calvin Coolidge (2001) , ISBN 1-884592-33-3.
- McCoy, Donald, Calvin Coolidge: The Quiet President (1967) , ISBN 0-945707-23-1.
- Russell, Francis, A City in Terror: Calvin Coolidge and the 1919 Boston Police Strike (1975) , ISBN 0-8070-5033-4.
- Silver, Thomas B., Coolidge and the Historians (1983) , ISBN 0-89089-038-2.
- Sobel, Robert, Coolidge: An American Enigma (1998) , ISBN 0-89526-410-2.
- White, William Allen, A Puritan in Babylon: The Story of Calvin Coolidge (1938) เก็บถาวร 2008-12-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ASIN B000HRDVDE.
- Wilson, Joan Hoff, Herbert Hoover, Forgotten Progressive (1975) , ISBN 0-316-94416-5.
ดูเพิ่ม
[แก้]- Coolidge effect ปรากฏการณ์คูลิดจ์ (ปรากฏการณ์ทางเพศที่สืบเนื่องจากเรื่องตลกของคูลิดจ์) (อังกฤษ)
ก่อนหน้า | แคลวิน คูลิดจ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
วาร์เรน จี. ฮาร์ดิง | ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คนที่ 30 (2 สิงหาคม พ.ศ. 2466 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2472) |
เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ | ||
ทอมัส อาร์. มาร์แชลล์ | รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คนที่ 29 (2 สิงหาคม พ.ศ. 2464 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2466) |
ชาลส์ ดอว์ส |