ข้ามไปเนื้อหา

วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร

พิกัด: 18°25′12.5″N 98°40′43.5″E / 18.420139°N 98.678750°E / 18.420139; 98.678750
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
แผนที่
ชื่อสามัญวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
ที่ตั้งเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160
ประเภทพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
นิกายเถรวาท มหานิกาย
พระประธานหลวงพ่อเพชร (จำลองจากวัดท่าหลวง)
เจ้าอาวาสพระสุวรรณเมธี (แสวง ปญฺญาปโชโต)
ความพิเศษประดิษฐานพระทักขิณโมลีธาตุ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระธาตุประจำปีเกิดของปีชวด
กิจกรรมงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุศรีจอมทองวันที่15
หมายเหตุเว็บไซด์วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

วัดพระธาตุศรีจอมทอง วรวิหาร เดิมชื่อ วัดพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิด วรวิหาร ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ฮอด หมู่ 2 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 58 กิโลเมตร วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 บริเวณที่ตั้ง เป็นเนินดินสูง ประมาณ 10 เมตร เรียกกันมาตั้งแต่อดีตว่า ดอยจอมทอง ตามประวัติสันนิษฐานว่า เป็นวัดที่สร้างขึ้นในราว พุทธศตวรรษที่ 20 แต่จากลักษณะทางศิลปกรรมของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัด ปรากฏเป็นลักษณะของศิลปกรรม ในสมัยหลัง พุทธศตวรรษที่ 24 ซึ่งเป็นห้วงระยะเวลาของยุคฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่

ตำนานและประวัติ

[แก้]

ตำนานพระทักขิณโมลีธาตุ

[แก้]

ดอยจอมทอง มีสัณฐานเป็นภูเขาดินสูงจากระดับพื้นที่ราบอื่นยอดดอยลูกนี้ในสมัยพุทธกาล มีเมืองๆ หนึ่งชื่อว่า “เมืองอังครัฏฐะ” เจ้าผู้ครองเมืองนั้นชื่อว่า พระยาอังครัฏฐะ พระยาอังครัฏฐะ ได้ทราบข่าวจากพ่อค้าที่มาจากอินเดียว่า “บัดนี้พระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นแล้ว ในโลกนี้“ เวลานี้ประทับอยู่เมืองราชคฤห์ ในประเทศอินเดีย จึงอธิษฐานขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณแล้วจึงเสด็จมาสู่เมืองอังครัฏฐะ ทรงแสดงธรรมและทรงพยากรณ์ ไว้ว่า “เมื่อเราตถาคตนิพพานแล้วธาตุพระเศียรเบื้องขวาของเราจักมาประดิษฐานอยู่ ณ ดอยจอมทอง แห่งนี้” แล้วเสด็จกลับ ส่วนพระยาอังครัฏฐะทรงสดับพระดำรัสที่ตรัสพยากรณ์นั้นแล้ว ได้ทรงรับสั่งให้สร้างสถูปไว้บนยอดดอยจอมทองด้วยหวังว่าจะให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุตามที่ทรงพยากรณ์ไว้ กาลล่วงมาถึงรัชสมัยแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์อินเดีย พระองค์ได้เสด็จสู่ดอยจอมทอง ได้ขุดคูหูเปิดอุโมงคใต้พื้นดอยจอมทองแล้วทรงรับสั่งให้สร้างพระสถูปไว้ภายในคหูนนี้ ทรงอัญเชิญพระบรมธาตุที่อยู่ในสถูปที่พระยาอังครัฏฐะรับสั่งให้สร้างไว้บนยอดดอยนั้น เข้าไปประดิษฐานในสถูปที่สร้างใหม่ในคูหาใต้พื้นดอยจอมทองแล้วรับสั่งให้เอาก้อนหินปิดปากถ้ำาคูหาไว้ ทรงอธิษฐานไว้ว่า “ต่อไปข้างหน้า ถ้าพระเจ้าแผ่นดินและศรัทธาประชาชน มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ขอให้ พระบรมธาตุเจ้าเสด็จออกมาปรากฏแก่ฝูงชนให้ได้กราบไหว้สักการบูชา”

สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์วัด

[แก้]
  • พ.ศ. 1995 พ่อสร้อย แม่เม็ง สองสามีภรรยา บ้านอยู่ใกล้กับดอยจอมทอง จึงได้เริ่ม สร้างเป็นวัดขึ้นบนยอดดอยจอมทองนั้นแล้วให้ชื่อว่า วัดศรีจอมทอง การสร้างวัดยังไม่เสร็จดี พ่อสร้อย แม่เม็ง ก็ได้ถึงแก่กรรมไป ต่อมาเมื่อ
  • พ.ศ. 2009 มีชาย 2 คน ชื่อสิบเงินและสิบถัว ได้ช่วยกันบูรณะวัดศรีจอมทองและก่อสร้างวิหารมุงหญ้าคาขึ้นหนึ่งหลังจนเสร็จ แล้วได้อาราธนาพระสารีปุตตเถระ มาเป็นเจ้าอาวาส

ค้นพบพระบรมธาตุ

[แก้]
พระวิหารหลวง วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
  • พ.ศ. 2042 ในสมัยที่พระธัมมปัญโญเถระ เป็นเจ้าอาวาส มีตาปะขาวคนหนึ่งเกิดนิมิตฝันว่าเทวดามาบอกว่าที่ใต้พื้นวิหารบนยอดดอย ที่ตั้งของวัดนี้มีพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าและพระบรมธาตุนั้นจักเสด็จออกมาให้ฝูงชนได้กราบไหว้สักการบูชาต่อไป ตาปะขาวจึงได้ไปเล่าความฝันให้เจ้าอาวาสฟัง ท่านจึงได้ทำการอธิษฐานว่า “ถ้ามีจริงดังความฝันนั้นขอให้พระบรมธาตุจงเสด็จออกมา ในเมื่อข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่นี้เถิด” เมื่ออธิษฐานแล้วในวันรุ่งขึ้น ได้พบพระบรมธาตุอยู่ในช่องใจกลางพระเกศโมลีของพระพุทธรูปซึ่งตั้งอยู่ภายในวิหารนั้นจึงได้เก็บรักษากันไว้ โดยเงียบๆ สืบมา
  • พ.ศ. 2058 สมัยที่พระมหาสีลปัญโญ เป็นเจ้าอาวาส ได้มีพระมหาพุทธญาโณเถระ ได้นำตำนานพระทักขิณโมลีธาตุ มาจากเมืองพุกามจึงได้สั่งให้พระอานันทะ ผู้เป็นศิษย์ไปสืบดูพระบรมธาตุที่วัดศรีจอมทอง จึงได้ทำการสักการบูชาอธิษฐานอยู่ ฝ่ายพระมหาสีลปัญโญเมื่อได้เห็นอาการดังนั้น จึงได้นำเอาพระบรมธาตุที่ได้เก็บรักษากันต่อๆกันออกมาแสดงให้พระอานันทะทราบ พระอานันทะจึงได้นำความไปแจ้งแก่พระมหาพุทธญาโณ ผู้เป็นอาจารย์ ฝ่ายพระมหาพุทธญาโณ เมื่อได้ทราบดังนั้น จึงได้นำความไปทูลพระเจ้าดิลกปนัดดาธิราช (พระเมืองแก้ว) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ให้ทรงทราบ
  • พ.ศ. 2060 พระเมืองแก้ว จึงอาราธนาให้พระมหาพุทธญาโณ เป็นหัวหน้าไปสร้างวิหารจตุรมุข และก่อปราสาทไว้ภายในวิหารนั้น แล้วอัญเชิญพระบรมธาตุเข้าประดิษฐานไว้ภายในปราสาทนั้น พระบรมธาตุจึงได้รับการเก็บรักษาไว้โดยวิธีนี้ ต่อๆ มาจนกระทั่งถึงกาลปัจจุบันนี้

ลำดับเจ้าอาวาส วัดพระธาตุศรีจอมทอง (เท่าที่มีบันทึก)

[แก้]
  1. พระสารีปุตตเถระ พ.ศ. 2009-2013
  2. พระเทพกุลเถระ พ.ศ. 2013-2018
  3. พระธมฺมปญฺโญเถระ พ.ศ. 2018-2046
  4. พระอานนฺโท พ.ศ. 2046-2047
  5. พระเหมปญฺโญ พ.ศ. 2047-2049
  6. พระญาณมงคละ พ.ศ. 2049-2050
  7. พระพุทธเตชะ พ.ศ. 2050-2052
  8. พระอรญฺญวาสี พ.ศ. 2052-2054
  9. พระธมฺมรกฺขิต พ.ศ. 2054-2055
  10. พระเอยฺยอปฺปกะ พ.ศ. 2055-2056
  11. พระมหาสีลปญฺโญ พ.ศ. 2056-2071
  12. พระมหาสงฺฆราชสทฺธมฺมทสฺสี พ.ศ. 2071-2087
  13. พระมหาสงฺฆราชาญาณมงฺคละ พ.ศ. 2087-2099
  14. พระมหาสงฺฆราชชวนปญฺโญโสภิตขิตินทริยวงฺโส พ.ศ. 2099-2109
  15. พระมหาสามิคณาจิตฺต พ.ศ. 2109
  16. ครูบาพุทธิมาวงฺโส พ.ศ. 2314
  17. ครูบามหาวัน พ.ศ. 2409-2462
  18. พระครูพุทธศาสน์สุประดิษฐ์ (อินถา ทาริโย) พ.ศ. 2462-2483
  19. พระครูสุวิทยธรรม (สม สุมิตโต) พ.ศ. 2483-2533
  20. พระพรหมมงคล (ทอง สิริมงฺคโล) พ.ศ. 2534-2562
  21. พระธรรมเสนาบดี (ธงชัย สุวณฺณสิริ) (รักษาการ) พ.ศ. 2562-2563
  22. พระสุวรรณเมธี (แสวง ปญฺญาปโชโต) พ.ศ. 2563-ปัจจุบัน [1]

ผู้ช่วยเจ้าอาวาส

[แก้]
  1. พระอมรเวที (อ๊อด ชยาภินนฺโท ป.ธ.๘)
  2. พระศรีศิลปาจารย์ (ประมวล ปญฺญาวโร)
  3. พระครูโสภณสุวรรณาทร วิ. (เพชร วชิรญาโณ)
  4. พระครูอาทรสมาธิวัตร วิ. (สันติ ถาวโร อภิธรรมบัณฑิต)​
  5. พระครูพิจิตรสรการ (ประเสริฐ สิริปุญโญ ป.ธ. ๔)
  6. พระครูปลัดสุวัฒนมงคลสิทธิคุณ (ยุวรัตน์ ยสิสฺสโร ป.ธ.๗)
  7. พระครูวิบูลสุวรรณวัฒน์ (อิศรา อภิวฑฺฒโน อภิธรรมบัณฑิต)
  8. พระมหาธนวัฒน์ ธนวฑฺฒโน เปรียญธรรม ๙ ประโยค
  9. พระมหาคัมภีร์ ภูริวฑฺฒโน เปรียญธรรม ๙ ประโยค
  10. พระมหามงคล สนฺตจิตฺโต เปรียญธรรม ๖ ประโยค
  11. พระมหาพฤฒิ ปภสฺสโร เปรียญธรรม ๗ ประโยค
  12. พระมหาธวัชชัย ธรรมกุสกโล เปรียญธรรม ๓ ประโยค
  13. พระครูสังฆรักษ์สมศักดิ์ ฐานวโร
  14. พระครูภาวนาพุทธิวิเทศ (ชเนศร์ ชุตินฺธโร)

ความสำคัญ

[แก้]

พระธาตุศรีจอมทอง เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระทักษิณโมลีธาตุ พระธาตุส่วนที่เป็น พระเศียรเบื้องขวาของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีขนาดโตประมาณ เมล็ดพุทรา สัณฐานกลมเกลี้ยง สีขาวนวลเหมือน ดอกบวบ หรือ สีคล้ายดอกพิกุลแห้ง ตามประวัติเล่าว่า พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นผู้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ ดอยจอมทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 218 ปัจจุบัน พระธาตุ ถูกบรรจุไว้ในพระโกศ 5 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ภายใน พระวิหารจตุรมุข ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส คล้ายพระเจดีย์ กว้าง 4 เมตร สูง 8 เมตร ตามประวัติว่าสร้างขึ้นโดย พระเจ้าดิลกปนัดดาธิราช หรือ พระเมืองแก้ว กษัตริย์ราชวงศ์มังราย เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2060

การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน

[แก้]

วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 0ง วันที่ 8 มีนาคม 2478 พร้อมกับวัดอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ [2]

สำนักวิปัสสนากรรมฐาน

[แก้]

สำนักวิปัสสนากรรมฐานวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดเชียงใหม่แห่งที่ 1 มีพระธรรมมังคลาจารย์ (ทอง สิริมงฺคโล) (ในขณะนั้น) หัวน้าพระวิปัสสนาจารย์หนเหนือ กองการวิปัสสนาธุระ เป็นเจ้าสำนักวิปัสสนากรรมฐาน ให้การสอน การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน สำหรับภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนผู้ที่สนใจ ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ และมีการจัดให้สอบอารมณ์ ทุกวัน (ยกเว้นวันพระ)

การเดินทาง

[แก้]

การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ถึง จ.นครสวรรค์ เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่าน จ.ตาก ถึง อ.เถิน จ.ลำปาง แยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ไปทาง จ.ลำพูน ก่อนถึง อ.บ้านโฮ่ง จะมีทางแยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1010 ไป อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปตามทาง วัดอยู่ฝั่งซ้าย สำหรับรถโดยสาร มีรถโดยสารเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต)-จอมทอง

ในส่วนของการเดินทางโดยเครื่องบิน สายการบินไทย สายการบินไทยสไมล์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลออนแอร์ มีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ออกทุกวัน

สำนักวิปัสสนาสาขาในต่างประเทศ

[แก้]
  • สำนักวิปัสสนากรรมฐาน วัดพระธาตุศรีจอมทอง เยอรมนี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
  • สำนักวิปัสสนากรรมฐาน วัดพุทธปิยวราราม สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
  • สำนักวิปัสสนากรรมฐาน ธัมมจารี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

อ้างอิง

[แก้]

http://www.watchomtong.org/ เก็บถาวร 2014-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน

  1. "มหาเถรสมาคม The Sangha Supreme Council of Thailand". www.mahathera.onab.go.th. ครั้งที่ 04/2565, มติที่ 137/2565 "เรื่อง พระราชดำริโปรดแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง"
  2. ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ

18°25′12.5″N 98°40′43.5″E / 18.420139°N 98.678750°E / 18.420139; 98.678750