ดาร์บีลอนดอนเหนือ
การพบกันของทั้งสองสโมสรในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2010 | |
ที่ตั้ง | ลอนดอน |
---|---|
ทีม | อาร์เซนอล ทอตนัมฮอตสเปอร์ |
พบกันครั้งแรก | 4 ธันวาคม 1909 อาร์เซนอล 1–0 ทอตนัมฮอตสเปอร์ 1909–10 ดิวิชันหนึ่ง |
พบกันครั้งล่าสุด | อาร์เซนอล 2–2 ทอตนัมฮอตสเปอร์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 (24 กันยายน 2023) |
พบกันครั้งต่อไป | ทอตนัมฮอตสเปอร์ พบ อาร์เซนอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 (27 เมษายน 2024) |
สนาม | เอมิเรตส์สเตเดียม (อาร์เซนอล) สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ (ทอตนัมฮอตสเปอร์) |
สถิติ | |
การพบกันทั้งหมด | 204 |
ชนะสูงสุด | อาร์เซนอล (84) |
ลงเล่นสูงสุด | เดวิด โอ'เลียรี (35) |
ทำคะแนนสูงสุด | บ็อบบี สมิธ เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ แฮร์รี เคน (คนละ 10 ประตู) |
สถิติรวม | อาร์เซนอล: 84 เสมอ: 54 ทอตนัมฮอตสเปอร์: 66 |
ชัยชนะครั้งใหญ่ | ทอตนัมฮอตสเปอร์ 0–6 อาร์เซนอล 1934–35 ดิวิชันหนึ่ง (6 มีนาคม 1935) |
ดาร์บีลอนดอนเหนือ (อังกฤษ: North London derby) ชื่อเรียกการแข่งขันฟุตบอลแบบดาร์บี หรือสโมสรร่วมเมืองเดียวกันพบกัน โดยเป็นการแข่งขันกันระหว่างสโมสรฟุตบอลในทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนสองสโมสรที่มีประวัติยาวนาน คือ อาร์เซนอล กับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ โดยได้ชื่อว่า เป็นดาร์บีที่ดุเดือดและแปดเปื้อนกันมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะทั้งสองสโมสรมีความหลังที่ไม่ใช่เป็นเพียงคู่แข่ง แต่เป็นถึงขั้นคู่อริหรือขัดแย้งกันอย่างรุนแรง[1]
ที่มา
[แก้]การแข่งขันของทั้งสองสโมสรครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1887 ที่ย่านพลัมสตีด (ในขณะนั้นอาร์เซนอลใช้ชื่อว่า รอยัลอาร์เซนอล) ซึ่งเป็นการแข่งขันมิตรภาพหรือกระชับมิตร โดยขณะนั้นสเปอร์นำอยู่ 2–1 แต่แล้วในนาทีที่ 75 ผู้ตัดสินก็ได้ตัดสินให้ยุติการแข่งขันลง โดยอ้างว่าฟ้ากำลังจะมืด จึงทำให้สเปอร์เป็นฝ่ายชนะไปก่อนอย่างไม่เป็นทางการ[2] จากนั้นการแข่งขันอย่างเป็นทางการจึงได้เริ่มขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1909 ในระดับดิวิชัน 1 อาร์เซนอลชนะไป 1–0[3]
ต่อมา เซอร์เฮนรี นอร์ริส นักธุรกิจที่ได้เข้ามาเป็นผู้บริหารอาร์เซนอลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1910 ได้พยายามให้อาร์เซนอลย้ายที่ตั้งสโมสรจากย่านพลัมสตีด (ตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน) ไปที่ไฮบิวรี (ตะวันออกเฉียงเหนือของลอนดอน) โดยมีที่ตั้งสนามเหย้า คือ ไฮบิวรี ห่างจากไวต์ฮาร์ตเลนของสเปอร์แค่ 4 ไมล์ ท่ามกลางการคัดค้านของบรรดาผู้สนับสนุนสเปอร์ รวมถึงสโมสรอื่นด้วย เช่น เชลซี เนื่องจากการย้ายเข้ามาของอาร์เซนอลจะทำให้สโมสรเหล่านี้มิได้ผูกขาดเป็นสโมสรในแถบลอนดอนเหนือเพียงแค่สโมสรเดียวอีกแล้ว
หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้ยุติลง การแข่งขันฟุตบอลในประเทศอังกฤษที่ได้หยุดไปในช่วงสงครามก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง การขับเคี่ยวกันของทั้งสองสโมสรก็ยังดำเนินต่อไป เมื่อในฤดูกาล 1919–20 ทั้งอาร์เซนอลและสเปอร์ต่างจบอันดับอยู่ในสถานะที่ต้องตกชั้นลงไปเล่นในระดับดิวิชัน 2 ทั้งคู่ แต่ทว่าสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้ตัดสินให้อาร์เซนอลยังคงอยู่ต่อไปในระดับดิวิชัน 1 ได้ โดยทางอาร์เซนอลได้อ้างว่า หากเป็นเช่นนั้นจะไม่มีสโมสรจากกรุงลอนดอนเล่นอยู่ในระดับดิวิชัน 1 อยู่เลย ในที่สุดก็เป็นสเปอร์ที่ต้องตกชั้นลงไปแทน แม้ทางสเปอร์จะได้ยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาล แต่มิได้อาจเปลี่ยนแปลงคำตัดสินใด ๆ และยังต่อมาในระดับดิวิชัน 2 อาร์เซนอลที่อยู่ในอันดับ 5 กลับได้สิทธิเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในระดับดิวิชัน 1 ได้ โดยมีเหตุผลว่า เป็นสโมสรที่เก่าแก่ ขณะที่บาร์นสลีย์ และวุลเวอร์แฮมป์ตันวันเดอเรอส์ ที่มีอันดับดีกว่าอาร์เซนอลกลับไม่ได้รับการเลื่อนชั้น โดยทั้งหมดนี้มีเสียงซุบซินนินทากันว่าเป็นเพราะอิทธิพลและการติดสินบนของนอร์ริสเพื่อให้อาร์เซนอลได้อยู่ต่อไป เรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่อื้อฉาวในขณะนั้น แต่ทว่าก็มิได้หลักฐานใด ๆ อีกทั้งสื่อมวลชนก็มิได้นำเสนอถึงเรื่องนี้[1]
นอกจากนี้แล้วยังเป็นเรื่องของการขับเคี่ยวแข่งขันแย่งแชมป์กันอย่างดุเดือดของทั้งสองสโมสรอีก เช่น การแย่งแชมป์ลีกคัพ ในปี ค.ศ. 1987 ที่ตัองแข่งกันถึง 3 นัด เป็นต้น จึงทำให้ทั้งคู่เปรียบเสมือนคู่ปรับหรือคู่อริกันมานับแต่บัดนั้น เมื่อถึงดาร์บีลอนดอนเหนือเมื่อไหร่ การแข่งขันจะเป็นไปอย่างดุเดือด กดดัน ไม่มีรอยยิ้มหรือมิตรภาพใด ๆ ตลอดจนบรรดาผู้สนับสนุนของท้งสองสโมสรก็มักปะทะหรือยกพวกต่อยตีวิวาทกันเสมอ[1][4]
ผลการแข่งขัน
[แก้]พรีเมียร์ลีก
[แก้]อาร์เซนอล พบ ทอตนัมฮอตสเปอร์
[แก้]สถานที่ | วันที่ | ผล[5] | เจ้าบ้านผู้ทำประตู | ทีมเยือนผู้ทำประตู | ผู้ชม |
---|---|---|---|---|---|
ไฮบรี | 11 พฤษภาคม 1993 | 1–3 | ดิกคอฟ 52' | เชอริงแฮม 39', เฮนดรี 46', 78' | 26,393 |
6 ธันวาคม 1993 | 1–1 | ไรต์ 65' | แอนเดอร์ตัน 25' | 35,669 | |
29 เมษายน 1995 | 1–1 | ไรต์ 61' (ลูกโทษ) | คลีนส์มัน 74' | 38,337 | |
15 เมษายน 1996 | 0–0 | 38,273 | |||
24 พฤศจิกายน 1996 | 3–1 | ไรต์ 28' (ลูกโทษ), แอดัมส์ 87', แบร์คกัมป์ 89' | ซินตัน 57' | 38,264 | |
30 สิงหาคม 1997 | 0–0 | 38,102 | |||
14 พฤศจิกายน 1998 | 0–0 | 38,278 | |||
19 มีนาคม 2000 | 2–1 | อาร์มสตรอง 20' (เข้าประตูตัวเอง), อ็องรี 45' (ลูกโทษ) | อาร์มสตรอง 3' | 38,131 | |
31 มีนาคม 2001 | 2–0 | ปีแร็ส 70', อ็องรี 87' | 38,121 | ||
6 เมษายน 2002 | 2–1 | ยุงแบร์ย 25', โลร็อง 86' (ลูกโทษ) | เชอริงแฮม 81' (ลูกโทษ) | 38,186 | |
16 พฤศจิกายน 2002 | 3–0 | อ็องรี 13', ยุงแบร์ย 55', วิลตอร์ 71' | 38,152 | ||
8 พฤศจิกายน 2003 | 2–1 | ปีแร็ส 69', ยุงแบร์ย 79' | แอนเดอร์ตัน 5' | 38,101 | |
25 เมษายน 2005 | 1–0 | เรเยส 22' | 38,147 | ||
22 เมษายน 2006 | 1–1 | อ็องรี 84' | คีน 66' | 38,326 | |
เอมิเรตส์สเตเดียม | 2 ธันวาคม 2006 | 3–0 | อาเดบายอร์ 20', ชิลเบร์ตู 42' (ลูกโทษ), 72' (ลูกโทษ) | 60,115 | |
22 ธันวาคม 2007 | 2–1 | อาเดบายอร์ 47', เปนต์เนอร์ 75' | เบร์บาตอฟ 65' | 60,087 | |
29 ตุลาคม 2008 | 4–4 | ซิลแวสต์ 37', กาลัส 46, อาเดบายอร์ 64', ฟัน แปร์ซี 68' | เบนต์ลีย์ 13', เบนต์ 65', จีนาส 89', เลนนอน 90+4' | 60,043 | |
31 ตุลาคม 2009 | 3–0 | ฟัน แปร์ซี 42', 60', ฟาเบรกัส 43' | 60,103 | ||
20 พฤศจิกายน 2010 | 2–3 | นัสรี 9', ชามัก 27' | เบล 50', ฟัน เดอร์ฟาร์ต 67' (ลูกโทษ), กาบูล 86' | 60,102 | |
26 กุมภาพันธ์ 2012 | 5–2 | ซาญา 40', ฟัน แปร์ซี 43', โรซิตสกี 51', วอลคอตต์ 65', 68' | ซาอา 4', อาเดบายอร์ 34' (ลูกโทษ) | 60,106 | |
17 พฤศจิกายน 2012 | 5–2 | แมร์เทิสอัคเคอร์ 24', โพด็อลสกี 42', ฌีรู 45+1', กาซอร์ลา 60', วอลคอตต์ 90+1' | อาเดบายอร์ 10', เบล 71' | 60,111 | |
1 กันยายน 2013 | 1–0 | ฌีรู 23' | 60,071 | ||
27 กันยายน 2014 | 1–1 | ออกซ์เลด-เชมเบอร์ลิน 74' | ชาดลี 56' | 59,900 | |
8 พฤศจิกายน 2015 | 1–1 | กิบส์ 77' | เคน 32' | 60,060 | |
6 พฤศจิกายน 2016 | 1–1 | วิมเมอร์ 42' (o.g.) | เคน 51' (ลูกโทษ) | 60,039 | |
18 พฤศจิกายน 2017 | 2–0 | มุสทาฟี 36', ซันเชซ 41' | 59,530 | ||
2 ธันวาคม 2018 | 4–2 | โอบาเมอย็องก์ 10' (ลูกโทษ), 56', ลากาแซ็ต 74', ตอร์เรย์รา 77' | ไดเออร์ 30', เคน 34' (ลูกโทษ) | 59,973 | |
1 กันยายน 2019 | 2–2 | ลากาแซ็ต 45+1', โอบาเมอย็องก์ 71' | เอริกเซน 10', เคน 40' (ลูกโทษ) | 60,333 | |
14 มีนาคม 2021 | 2–1 | เออเดอโกร์ 44', ลากาแซ็ต 64' (ลูกโทษ) | ลาเมลา 33' | 0 | |
26 กันยายน 2021 | 3–1 | สมิท ราว 12', โอบาเมอย็องก์ 27', ซากา 34' | ซน 79' | 59,919 |
ทอตนัมฮอตสเปอร์ พบ อาร์เซนอล
[แก้]สถานที่ | วันที่ | ผล[5] | เจ้าบ้านผู้ทำประตู | ทีมเยือนผู้ทำประตู | ผู้ชม |
---|---|---|---|---|---|
ไวต์ฮาร์ตเลน | 12 ธันวาคม 1992 | 1–0 | แอลเลน 20' | 33,707 | |
16 สิงหาคม 1993 | 0–1 | ไรต์ 87' | 28,355 | ||
2 มกราคม 1995 | 1–0 | โปเปสคู 22' | 28,747 | ||
18 พฤศจิกายน 1995 | 2–1 | เชอริงแฮม 29', อาร์มสตรอง 54' | แบร์คกัมป์ 14' | 32,894 | |
15 กุมภาพันธ์ 1997 | 0–0 | 33,039 | |||
28 ธันวาคม 1997 | 1–1 | นีลเซน 28' | พาร์เลอร์ 62' | 29,610 | |
5 พฤษภาคม 1999 | 1–3 | แอนเดอร์ตัน 43' | เปอตี 17', อาแนลกา 33', คานู 85' | 36,019 | |
7 พฤศจิกายน 1999 | 2–1 | ไอเวอร์เซน 7', เชอร์วุด 20' | วีเยรา 39' | 36,085 | |
18 ธันวาคม 2000 | 1–1 | เรบรอฟ 31' | วีเยรา 89' | 36,062 | |
17 พฤศจิกายน 2001 | 1–1 | โปเย 90' | ปีแร็ส 81' | 36,049 | |
15 ธันวาคม 2002 | 1–1 | ซีเกอ 11' | ปีแร็ส 45' (ลูกโทษ) | 36,076 | |
25 เมษายน 2004 | 2–2 | เรดแนปป์ 62', คีน 90+4' (ลูกโทษ) | วีเยรา 3', ปีแร็ส 35' | 36,097 | |
13 พฤศจิกายน 2004 | 4–5 | เนย์เบ็ต 36', เดโฟ 61', คิง 73', กานูเต 88' | อ็องรี 45+1', โลร็อง 55' (ลูกโทษ), วีเยรา 60', ยุงแบร์ย 69, ปีแร็ส 81' | 36,095 | |
29 ตุลาคม 2005 | 1–1 | คิง 17' | ปีแร็ส 77' | 36,154 | |
21 เมษายน 2007 | 2–2 | คีน 30', จีนาส 90+5' | ตูเร 64', อาเดบายอร์ 78' | 36,050 | |
15 กันยายน 2007 | 1–3 | เบล 15' | อาเดบายอร์ 65', 90+4', ฟาเบรกัส 80' | 36,053 | |
8 กุมภาพันธ์ 2009 | 0–0 | 36,021 | |||
14 เมษายน 2010 | 2–1 | โรส 10', เบล 47' | เปนต์เนอร์ 85' | 36,041 | |
20 เมษายน 2011 | 3–3 | ฟัน เดอร์ฟาร์ต 7', 70' (ลูกโทษ), ฮัดเดิลสโตน 44' | วอลคอตต์ 5', นัสรี 12', ฟัน แปร์ซี 40' | 36,138 | |
2 ตุลาคม 2011 | 2–1 | ฟัน เดอร์ฟาร์ต 40', วอล์กเกอร์ 73' | แรมซีย์ 51' | 36,274 | |
3 มีนาคม 2013 | 2–1 | เบล 37', เลนนอน 39' | แมร์เทิสอัคเคอร์ 51' | 36,170 | |
16 มีนาคม 2014 | 0–1 | โรซิตสกี 2' | 35,711 | ||
7 กุมภาพันธ์ 2015 | 2–1 | เคน 55', 86' | เออซิล 11' | 35,659 | |
5 มีนาคม 2016 | 2–2 | อัลเดอร์เวเริลด์ 60', เคน 62' | แรมซีย์ 39', ซันเชซ 76' | 35,762 | |
30 เมษายน 2017 | 2–0 | แอลลี 55', เคน 58' (ลูกโทษ) | 31,811 | ||
สนามกีฬาเวมบลีย์ | 10 กุมภาพันธ์ 2018 | 1–0 | เคน 49' | 83,222 | |
2 มีนาคม 2019 | 1–1 | เคน 74' (ลูกโทษ) | แรมซีย์ 16' | 81,332 | |
สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ | 12 กรกฎาคม 2020 | 2–1 | ซน 19', อัลเดอร์เวเริลด์ 81' | ลากาแซ็ต 16' | 0 |
6 ธันวาคม 2020 | 2–0 | ซน 13', เคน 45+1' | 2,000 |
อันดับดาวซัลโวตามโปรแกรมการแข่งขันในดาร์บีลอนดอนเหนือ (ยุคพรีเมียร์ลีก)
[แก้]ผู้เล่นที่อยู่ใน ตัวหนา เป็นตัวแทนของผู้ที่กำลังลงเล่นให้กับอาร์เซนอลหรือทอตนัม. อ้างอิง:[6]
อันดับ | ผู้ทำประตู | สโมสร | ประตู |
---|---|---|---|
1 | แฮร์รี เคน | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 10 |
เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ | อาร์เซนอล, ทอตนัมฮอตสเปอร์ | ||
3 | รอแบร์ ปีแร็ส | อาร์เซนอล | 8 |
4 | ตีแยรี อ็องรี | อาร์เซนอล | 5 |
โรบิน ฟัน แปร์ซี | อาร์เซนอล | ||
แกเร็ธ เบล | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | ||
7 | เอียน ไรต์ | อาร์เซนอล | 4 |
ปาทริก วีเยรา | อาร์เซนอล | ||
เฟรดริก ยุงแบร์ย | อาร์เซนอล | ||
ราฟาเอล ฟัน เดอร์ฟาร์ต | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | ||
ทีโอ วอลคอตต์ | อาร์เซนอล |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 ภูเก้าล้วน, อธิคม (2016-11-06). "นิทาน 'นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี' ปืน vs ไก่ อริไม่มีวันเผาผีกัน". smmsport. สืบค้นเมื่อ 2017-01-21.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Tottenham Hotspur in Friendly Matches - Season 1887–1888". Topspurs. สืบค้นเมื่อ 20 December 2006.
- ↑ "Records against Tottenham". Arsenal.com. สืบค้นเมื่อ 20 December 2006.
- ↑ แหลมสิงห์, บี (2016-11-06). ""นอร์ธลอนดอน ดาร์บี้"….ชาตินี้เราจะไม่เผาผีกัน". footballdj. สืบค้นเมื่อ 2017-01-21.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 5.0 5.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อStat
- ↑ "Arsenal v Tottenham: Top goalscorers, from the Premier League era, in the North London derby". Talk Sport. 17 November 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-01. สืบค้นเมื่อ 2020-07-12.