ข้ามไปเนื้อหา

อำเภอบรบือ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก อ.บรบือ)
อำเภอบรบือ
การถอดเสียงอักษรโรมัน
  อักษรโรมันAmphoe Borabue
คำขวัญ: 
มันแกวมากเหลือ เกลือใต้ดินมากมี
ผ้าไหมดีมากค่า งามสง่าสวนหนองบ่อ
ศักดิ์สิทธิ์พ่อปู่จุมคำ รสหวานล้ำแตงโม
แผนที่จังหวัดมหาสารคาม เน้นอำเภอบรบือ
แผนที่จังหวัดมหาสารคาม เน้นอำเภอบรบือ
พิกัด: 16°2′18″N 103°7′9″E / 16.03833°N 103.11917°E / 16.03833; 103.11917
ประเทศ ไทย
จังหวัดมหาสารคาม
พื้นที่
  ทั้งหมด681.6 ตร.กม. (263.2 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
  ทั้งหมด107,084 คน
  ความหนาแน่น157.11 คน/ตร.กม. (406.9 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 44130
รหัสภูมิศาสตร์4406
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอบรบือ ถนนแจ้งสนิท ตำบลบรบือ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม 44130
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

บรบือ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม เป็นอำเภอที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดมหาสารคาม รองจากอำเภอโกสุมพิสัย และมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของจังหวัดรองจากอำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอโกสุมพิสัยและอำเภอวาปีปทุม

ชื่อของอำเภอบรบือ  มีลักษณะแปลกกว่าอำเภออื่นใดเพราะเป็นลักษณะเฉพาะไม่มีคำแปลหรือความหมายในพจนานุกรมฉบับใดทั้งสิ้น อันความเป็นมาของชื่อนี้จากผู้เฒ่าผู้แก่ และตามตำนานโบราณกล่าวไว้ว่า ในสมัยก่อนมีควายประหลาดตัวหนึ่ง เป็นความตัวผู้มีรูปร่างสูงใหญ่โตกว่าควายทั้งปวง มีนิสัยดุร้ายเที่ยวไล่ขวิดวัวควายและผู้คนทั่วไป ได้มาอาศัยอยู่บริเวณหนองบ่อและทำการขวิดดินจนกระทั่งเป็นโนนหนองบ่อในปัจจุบัน ชาวบ้านทราบก็ได้ทำการตามเพื่อไล่จับ บ้างก็มีหอก  ดาบ แหลน หลาว เมื่อมาถึงบริเวณหนองบ่อไม่พบควายเปลี่ยวตัวดังกล่าวแต่อย่างใด จึงได้สอบถามชาวบ้านว่าควายหนีไปทางได๋ (ไปทางไหน) ชาวบ้านบอกว่าไปบ้านกำพี้(กำ คือด้านหรือทิศทาง,พี้ คือ นี้หรือทิศนี้) ตามที่ชาวบ้านชี้บอกมาก็คือ(บ้านกำพี้ ตำบลกำพี้ในปัจจุบัน) ชาวบ้านที่ตามควายมาทันที่บ้านหนองตุ จึงทำการยิงควายเปลี่ยวตัวนั้นแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งควายตัวนั้นได้ คำว่า “ตุ”ลักษณะของการกระทบเบา ๆ ผลปรากฏว่าการติดตามควายเปลี่ยวโดยใช้ปืนยิงทำให้ดินปืนหมด จึงทำการบดมาด(มาด คือ กำมะถัน)ที่บ้านหนองบัว บ้านนั้นก็เลยเรียกว่าบ้านบัวบดมาด หรือบ้านบัวมาศในปัจจุบัน และบางพวกก็เลยไปหาน้ำที่ลำห้วยยาง และตัดไม้มาทำหลาวแหลนและหอก ห้วยนี้จึงไดชื่อว่าห้วยคันหอก(คัน คือ ด้าม)และได้พากันติดตามควายเปลี่ยวไปทันกันที่บ้านโนนทันที่บ้านโนนทันในปัจจุบัน ห้วยและหมู่บ้านดังกล่าวอยู่ในเขตปกครองตำบลบัวมาศ ควายร้ายตัวนี้ยังคงหนีได้ต่อไปอีกชาวบ้านได้ติดตามต่อไปอีกและได้มาพบควายตัวนี้ที่บริเวณหนองบ่อซึ่งควายกำลังขวิดดินอยู่ไม่ได้ระวังตัวชาวบ้านจึงได้ใช้ปืนยิงถูกที่สายบือควายเปลี่ยวตัวนี้จึงได้วิ่งหนีชาวบ้านต่อไปอีกทั้งที่บาดเจ็บที่สะดือจนกระทั่งชาวบ้านตามไปพบควายซึ่งได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ในป่า จึงช่วยกันล่ามไว้ในโคกทางด้านทิศเหนือของอำเภอบรบือ หลังจากที่ชาวบ้านจับควายเปลี่ยวตัวดังกล่าวได้แล้วและก็ล่ามไว้ ชาวบ้านก็นอนหลับพักผ่อนหลับนอนเนื่องจากความเมื่อยล้า ทุกคนจึงหลับไป ตื่นแต่เช้าขึ้นมาก็ไม่พบควายเปลี่ยวที่ล่ามไว้หายไปไหน จึงได้พากันติดตามอีกจนพบว่าควายเปลี่ยวตัวนั้นได้หลบหนีมาทิศเหนือและได้พบควายนอนตายที่บริเวณบึ่งแห่งหนึ่ง ทำให้บึงแห่งนั้นเกิดกลิ่นเหม็น “กุย”(กุย หมายความว่า กลิ่นคาวเลือด) จึงได้ชื่อว่า”บึงกุย”(ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอโกสุมพิสัย ชื่อว่า บึงกุย) โดยสรุปแล้วชื่ออำเภอบรบือ มีที่มาจากตำนาน 3 ประการ[1]

1. สายบือ (สะดือ) ชาวบ้านยิงควายถูกสายบือหลุดที่หนองบ่อ จึงเรียกว่า “บ่อสายบือ”

2. กระบือ(ควาย) ควายได้ขวิดดินโนนหนองบ่อ จึงเรียกว่า “บ่อระบือ”

3.ระบือ(เลื่องลือ) ในบริเวณหนองบ่อนี้ได้พากันขูดเอาดินเค็มมาทำการกรอง กลายเป็นน้ำเค็ม และทำการต้มเป็นเกลือสินเธาว์ที่ขึ้นชื่อลือชา โดยชาวบ้านใกล้เคียงและชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลจะนำสิ่งของมาแลกเปลี่ยนเกลือไปบริโภค จนมีชื่อระบือไกล จึงเรียกว่า “บ่อระบือ”

ประวัติความเป็นมาของอำเภอบรบือ

            อำเภอบรบือ ตั้งขึ้นในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน ปี พ.ศ.2443 เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระราชดำริที่จะปกครองหัวเมืองในภาคอีสานให้มีความสงบสุข จึงทรงปฏิรูปการปกครองโดยแบ่งหัวเมืองในภาคอีสานออกเป็น 4 หัวเมืองใหญ่ ๆ คือ หัวเมืองลาวตะวันออก หัวเมืองลาวตะวันออกเฉียงเหนือ หัวเมืองลาวกลาง และหัวเมืองลาวเหนือ แต่ละหัวเมืองมีข้าหลวงกำกับการปกครอง โดยก่อนหน้านี้ (พ.ศ.2440) พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติการปกครองท้องที่ โดยแบ่งหัวเมืองต่าง ๆ ของภาคอีสาน ออกเป็น 5 มณฑล คือมณฑลอุบลราชธานี มณฑลจำปาศักดิ์ มณฑลขุขันธ์ มณฑลกมลาไสย มณฑลสุรินทร์และมณฑลร้อยเอ็ด โดยเฉพาะมณฑลร้อยเอ็ดแบ่งออกเป็น 5 หัวเมือง คือ เมืองร้อยเอ็ด เมืองกาฬสินธ์ุ เมืองสุวรรณภูมิ และเมืองมหาสารคาม และอำเภอประจิมสารคาม กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นข้าหลวงใหญ่ ประจำมณฑลอุบลราชธานี ได้แต่งตั้งซาบุดดี เป็นหลวงสารคามกิจนิคมภิบาลเป็นอำเภออุทัยสารคาม และแต่งตั้งนาย โลม เปาริสาน เป็นหลวงสารคามนิคมเป็นนายอำเภอประจิมสารคาม ถือว่าเป็นนายอำเภอคนแรกของท้องถิ่น

              ในปี พ.ศ.2453 พระพิทักษ์รากร หรือพระเจริญราชเดช ( อุ่น ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) ข้าหลวงกำกับเมืองมหาสารคาม ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชกรเมือง มหาสารคามสมัยนั้น ได้พิจารณาเห็นว่าบ้านเมืองได้เจริญก้าวหน้า มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นควรมีการขยายเมืองและอำเภอออกไปอีก จึงได้ทำหนังสือกรมทูลกรมดำรงราชานุภาพ (สมเด็จพระเจ้าวรวงค์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ) เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยขอย้ายอำเภอประจิมสารคาม จากเมืองมหาสารคาม มาตั้งที่บ้านค้อ(ปัจจุบันอยู่ทิศตะวันออกอำเภอบรบือ ) แล้วเปลี่ยนนามใหม่ว่าท่าขอนยาง โดยเอานามเมืองท่าขอนยางที่ถูกยุบลงให้เป็นตำบลมาตั้งชื่อแทน ในระยะแรกมีตำบลอยู่ในเขตปกครอง 10 ตำบล คือ ตำบลเกิ้ง ตำบลท่าสองคอน ตำบลบ่อใหญ่ ตำบลบัวมาศ ตำบลกุดรัง ตำบลตามาศ ตำบลกำพี้ ตำบลเขวาไร่ ตำบลหนองคู่ และตำบลบรบือ ต่อมาในปี พ.ศ.2457 หม่อมเจ้านพมาศ นวรัตน์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในขณะนั้น ได้เสด็จมาตรวจราชการที่อำเภอท่าขอนยางได้พบเห็นสภาพของท้องถิ่นอำเภอนี้เห็นว่ามีบ่อน้ำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวปลาอาหาร มีบ่อเกลือที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนี้ ถือเป็นสินค้าที่นำไปแลกเปลี่ยนสิ่งของกับท้องถิ่นห่างไกลดังนั้นหม่อมเจ้านพมาศนวรัตน์จึงประทานชื่อใหม่ว่า“บ่อระบือ”อำเภอท่าขอนยาง จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบรบือ มาตราบเท่าทุกวันนี้

ในปี พ.ศ. 2503 เนื่องจากเห็นสมควรยกฐานะตำบลนาเชือก อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ขึ้นเป็นกิ่งอำเภอนาเชือก จึงได้โอนท้องที่ตำบลเขวาไร่ บางส่วนตำบลเลิกแฝก (อำเภอบรบือ) ตำบลนาเชือก บางส่วนตำบลนาภู (อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย) บางส่วนตำบลนาดูน และบางส่วนตำบลนาข่า (อำเภอวาปีปทุม) ตั้งเป็นกิ่งอำเภอนาเชือก ให้อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอบรบือ[1]

ในปี พ.ศ. 2538 เนื่องจากท้องที่อำเภอบรบือ มีอาณาเขตกว้างขวางและพลเมืองอาศัยอยู่จำนวนมาก บางตำบลอยู่ห่างไกลจากตัวอำเภอ กระทรวงมหาดไทยจึงแบ่งท้องที่ 5 ตำบล ได้แก่ตำบลกุดรัง ตำบลนาโพธิ์ ตำบลห้วยเตย ตำบลเลิงแฝก และตำบลหนองแวง ตั้งเป็นกิ่งอำเภอ 1 แห่ง ชื่อว่า " กิ่งอำเภอกุดรัง" ให้อยู่ในเขตการปกครองของอำเภอบรบือ

              ในปี พ.ศ.2560 พระสารคามคณาภิบาล ( พร้อม ณ นคร) ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม มาตรวจราชการที่อำเภอบรบือ เห็นว่าที่ตั้งที่ว่าการอำเภอห่างไกลจากเส้นคมนาคม โดยเฉพาะ เส้นทางหลวงขณะนั้นกำลังก่อสร้างพอดี พระสารคามคณาภิบาล จึงได้ทำหนังสือกราบทูลเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ให้มีการปรับปรุงที่ตั้งอำเภอใหม่ ดังนั้นจึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้ง ณ ที่ว่าการอำเภอปัจจุบัน

ที่ตั้งและอาณาเขต

[แก้]

อำเภอบรบือตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

การแบ่งเขตปกครอง

[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค

[แก้]

อำเภอบรบือแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 15 ตำบล 206 หมู่บ้าน

1.บรบือ(Borabue)9.บัวมาศ(Bua Mat)
2.บ่อใหญ่(Bo Yai)10.หนองคูขาด(Nong Khu Khat)
3.วังไชย(Wang Chai)11.วังใหม่(Wang Mai)
4.หนองม่วง(Nong Muang)12.ยาง(Yang)
5.กำพี้(Kamphi)13.หนองสิม(Nong Sim)
6.โนนราษี(Non Rasi)14.หนองโก(Nong Ko)
7.โนนแดง(Non Daeng)15.ดอนงัว(Don Ngua)
8.หนองจิก(Nong Chik)

การปกครองส่วนท้องถิ่น

[แก้]

อำเภอบรบือประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 16 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลบรบือ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลบรบือ
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบรบือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบรบือ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลบรบือ)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ่อใหญ่ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวังไชย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังไชยทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองม่วง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองม่วงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลกำพี้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกำพี้ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลโนนราษี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโนนราษีทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลโนนแดง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโนนแดงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองจิก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองจิกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบัวมาศ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบัวมาศทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองคูขาด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองคูขาดทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวังใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังใหม่ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลยาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลยางทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสิม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองสิมทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองโก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองโกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลดอนงัว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลดอนงัวทั้งตำบล

สถาบันการศึกษา

[แก้]

สถานพยาบาล

[แก้]

สถานที่ที่น่าสนใจ

[แก้]
  • หนองบ่อ
  • กู่บัวมาศ ตั้งอยู่ในบ้านกกกอก ตำบลบัวมาศ เป็นศาสนสถานในช่วงสมัยวัฒนธรรมลพบุรี ราวช่วงพุทธศตวรรษ 16-18[3] มีองค์ประกอบเป็นศาสนสถานศิลาแลงมีกำแพงศิลาแลงล้อมรอบ ภายในมีปราสาทประธานด้านบนเป็นอิฐซึ่งสร้างขึ้นในสมัยหลัง ด้านทิศตะวันตกมีร่องรอยคล้ายโคปุระแต่หักพังมาก ด้านทิศตะวันออกหักพังมากจนเห็นเพียงแนวศิลาแลง มีคูน้ำรูปเกือกม้าล้อมรอบโบราณสถานอีกชั้นหนึ่ง

การคมนาคม

[แก้]

อำเภอบรบือเป็นทางผ่านของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 ถนนแจ้งสนิท และเป็นทางผ่านไปสู่อำเภอเมืองมหาสารคาม และจังหวัดอื่นๆ จึงทำให้มีรถประจำทางจำนวนมาก โดยสามารถใช้บริการได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอบรบือ

ด้านการคมนาคมภายในอำเภอ มีรถจักยานยนต์รับจ้าง และสามล้อบริการ

ในอนาคต มีทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนมผ่านท้องที่อำเภอบรบือ และมีสถานีรถไฟบรบือ

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 "ประวัติความเป็นมา : องค์การบริหารส่วนตำบลบรบือ ตำบลบรบือ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม". www.borabuelocal.go.th. สืบค้นเมื่อ 2025-02-23.
  2. ข้อมูลพื้นฐานโรงพยาบาล เก็บถาวร 2022-01-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  3. "อำเภอบรบือ". สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม. ม.ป.ป. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-24. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภ่าคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |year= (help)