ฟ้าใส ใจชื่นบาน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ฟ้าใสใจชื่นบาน)
ฟ้าใส ใจชื่นบาน
กำกับเกริกชัย ใจมั่น
นภาพร พูล​เจริญ
อำนวยการสร้างโชคชัย ลาภรัตนากุล
นักแสดงนำพิชญะ วัชจิตพัน
ร่มฉัตร ขำศิริ
สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์
ค่อม ชวนชื่น
ฝันดี จรรยาธนากร
อ่าง เถิดเทิง
ไพโรจน์ สังวริบุตร
สมชาย ศักดิกุล
วาสนา สิทธิเวช
ประกาศิต โบสุวรรณ
จิรเกษ จินาทอง
พิสิทธิ์ กิรติการกุล
อัครพงษ์ วงศ์อินทรักษ์
ผู้จัดจำหน่ายพระนครฟิล์ม
วันฉาย15 มกราคม พ.ศ. 2552
ความยาว90 นาที
ประเทศประเทศไทย
ภาษาภาษาไทย
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย
ข้อมูลจากสยามโซน

ฟ้าใส ใจชื่นบาน เป็นภาพยนตร์รัก-ตลก ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2552 เรื่องราวเกี่ยวกับนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 และหลบหนีเข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กำกับโดย เกริกชัย ใจมั่น และนภาพร พูลเจริญ

นักแสดง[แก้]

งานสร้าง[แก้]

เกริกชัย ใจมั่น และ นภาพร พูลเจริญ เป็นหนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ของรายการโทรทัศน์ คดีเด็ด ฉายทางช่อง 7 เริ่มงานสร้างจากคำแนะนำของโชคชัย ลาภรัตนากุล ผู้บริหารบริษัท I-RIM ผู้ผลิตรายการคดีเด็ด โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากบริษัท รอยัล มัลติมีเดีย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด

เกริกชัย ใจมั่น และนภาพร พูลเจริญ ซึ่งร่วมเป็นผู้เขียนบทด้วย เริ่มงานค้นคว้าข้อมูลโดยใช้ทีมงานของรายการคดีเด็ด [1] ซึ่งตามปกติต้องไปถ่ายทำตามสถานีตำรวจทั่วประเทศอยู่แล้ว เก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วนำเกร็ดข้อมูลต่างๆ มารวบรวมเพื่อเขียนบทภาพยนตร์

ภาพยนตร์ถ่ายทำที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดเชียงใหม่

ผลตอบรับ[แก้]

เนื่องจากเจ้าของหนังรายแรกไม่มีความเข้าใจและรู้จักหนังในแนวนี้ดีพอ พอหนังสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์เจ้าของหนังเช็คดูหนังแล้วมองว่าหนังเรื่องนี้ล้มเหลวแน่ จึงรีบนำหนังไปเร่ขายราคาถูกๆ อย่างฉุกละหุกเร่งด่วนต่อคนในวงการหลายๆ เจ้า ทำให้ทุกคนมองหนังเรื่องนี้ในแนวลบและไม่มีราคา และทุกคนก็พากันชิ่งหนีหมด กว่าจะหาคนซื้อหนังเรื่องนี้ได้ ก็เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงกำหนดฉายแล้ว จึงทำให้หนังเรื่องนี้ไม่สามารถโปรโมทอะไรได้มากนักและทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีกระแสเลย แต่กระนั้นหนังเรื่องนี้ก็ยังสามารถทำรายได้ในสัปดาห์แรกชนะหนังทุกเรื่องที่ฉายในเวลาเดียวกันนี้ได้ทั้งหมดแม้จะเป็นรายได้แค่เพียง 11.36 ล้านบาทก็ตาม

หลังจากหนังเรื่องนี้ต้องออกจากโรงภาพยนตร์อย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่นั้นมา หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นสัมภะเวสีล่องลอยอยู่ในโลกออนไลน์เหมือนผีไม่มีเจ้าของ แต่ด้วยคุณภาพที่อัดแน่นอยู่ในตัวหนัง ทำให้ข้อผิดพลาดข้างต้นไม่สามารถทำลายล้างมันได้ คุณภาพในตัวของมันกลับดึงดูดคนในโลกออนไลน์ได้อยู่ตลอดเวลา เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เป็นหลายปี มันดึงดูดคนได้ไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม มันกลายเป็นหนังที่แอบซ่อนอยู่ดวงใจของคนจำนวนมากขึ้นทุกทีๆ หลายๆคน ดูนับเป็นสิบๆ รอบ ย้อนกลับมาดูวันไหน เดือนไหน ปีไหนก็สนุกทุกที ทุกๆ คนต่างก็คิดเหมือนๆ กันว่า นี่เป็นหนังที่ตัวเองแอบชอบอยู่คนเดียว โดยไม่รู้เลยว่ามีคนที่คิดเหมือนๆ กันอยู่อีกมากมายนับไม่ถ้วน และเพิ่มจำนวนขึ้นตลอดเวลาด้วย นับเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับหนังเรื่องไหนมาก่อนเลย

และในที่สุด พระนครฟิลม์ ก็เป็นนายทุนรายแรกที่สังเกตเห็นปรากฏการณ์ประหลาดนี้ พระนครฟิลม์ซื้อหนังเรื่องนี้มาฉายในโลกออนไลน์อย่างมีลิขสิทธิ์ถูกต้องครั้งแรกในวันที่ 24 ธันวาคม 2018 พร้อมๆ กับตัดมุกตลกในหนังปล่อยเป็นคลิปสั้นๆ อีกจำนวนมาก ทำให้หนังเรื่องนี้กลับมามีตัวตนอีกครั้ง

เนื้อเรื่อง[แก้]

จากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทราย (ร่มฉัตร ขำศิริ) นักศึกษาสาวที่ต้องการเข้าไปช่วยเพื่อนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถูกกันตัวออกมา เธอได้พบกับ ก้อง (พิชญะ วัชจิตพันธ์) กับพรรคพวก ได้แก่ จอบ (ค่อม ชวนชื่น) เสียม (อ่าง เถิดเทิง) และ คิด (ฝันดี จรรยาธนากร) ที่ปั๊มน้ำมัน ทันใดนั้นแม่มารับทรายกลับบ้านแต่ทรายกลับตั้งใจผิดหลายครั้งก็เลยต้องทะเลาะกันจนเกือบเสียฟอร์ม ในที่สุดทรายก็ยอมที่จะกลับบ้าน

วันหนึ่งก้องชวนเพื่อน ๆ เข้าป่าเพราะต้องการหนีจากชีวิตในเมือง หารู้ไม่เลยว่ากำลังเดินทางไปพร้อมกับพวกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก้องได้พบกับทราย ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "สหายเม็ดทราย" ไปแล้ว ก้องและพวกจึงจำเป็นต้องแสร้งใช้ชีวิตอยู่ในป่าไปก่อน สหายเม็ดทรายนั้นชื่นชอบ สหายเที่ยง (สุรสิทธิ์ เอี่ยมโอภาสวงศ์) คอมมิวนิสต์หนุ่มผู้มีอุดมการณ์ ซึ่งต่างจากก้องและพรรคพวก และวันหนึ่งที่จอบและเสียมเผลอไปตัดเอาต้นข้าวเพราะคิดว่าเป็นหญ้าจนเหี้ยนหมด ทั้งหมดจึงต้องออกเดินทางไปขอเสบียงจากชาวบ้าน และที่นั่น ทำให้สหายเม็ดทรายได้ล่วงรู้ถึงความจริงว่า ความสุขที่แท้ของคนอยู่ที่ใจ หาใช่อุดมการณ์อะไรไม่

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]