ข้ามไปเนื้อหา

คิงออฟเกมเมอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คิงออฟเกมเมอร์
ประเภทเรียลลิตี้โชว์ (อีสปอร์ต)
พัฒนาโดยกันตนา
เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์
การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย)
พิธีกรเพ็ญพิชญ์ บุญห่อ
ปกฉัตร เทียมชัย
ประเทศแหล่งกำเนิดประเทศไทย
ภาษาต้นฉบับไทย
การผลิต
ผู้อำนวยการผลิตถกลเกียรติ วีรวรรณ
นิพนธ์ ผิวเนตร
จาฤก กัลย์จาฤก
ศศิกร ฉันท์เศรษฐ์
สถานที่ถ่ายทำสตูดิโอกันตนา
ความยาวตอน60 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี (ซีซั่น 1)
สถานีโทรทัศน์อัมรินทร์ทีวี (ซีซั่น 2-4)
สถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31 (ซีซั่น 5)

King of Gamers เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเรียลลิตี้โชว์ค้นหาและพัฒนาเกมเมอร์หน้าใหม่สู่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี (โทรทัศน์ดิจิทัลช่อง 36) ทุกวันอาทิตย์ เวลา 19:00 - 20:00 น. โดยมีเพ็ญพิชญ์ บุญห่อและปกฉัตร เทียมชัยทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ในฤดูกาลที่ 1 อมรินทร์ทีวี ในฤดูกาลที่ 2-4 และย้ายมาออกอากาศทางช่องวัน 31 ในฤดูกาลที่ 5

พิธีกร, นักพากษ์ และมาสเตอร์ประจำรายการ

[แก้]

พิธีกร

[แก้]

นักพากษ์

[แก้]
  • วิพลพัฒน์ มูลสภา (Winzy) (2561)
  • ฐิติ สุพิทักษ์ (ZienTi) (2561)

มาสเตอร์ประจำรายการ

[แก้]
  • กฤษฎา ปิมลื้อ (กิตงาย) (2561)
  • ธีร มหาอัทฒ์สกุล (DREPLAY) (2561)
  • ฐายิกา สุวรากรกุล (Frozenkiss) (2561)
  • เจนภพ ทิมพิทักษ์ (H2K) (2561)
  • สายัณห์ ลิ้มพงศ์ (สายัณห์ ลิ้มพงษ์) (2561)

รูปแบบและกติกาของรายการ (ฤดูกาลที่ 1 : เกม RoV หรือ Arena of Valor)

[แก้]

รอบคัดเลือก

[แก้]

ก่อนที่รายการจะออกอากาศ ทางรายการได้มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมการแข่งขันซึ่งเป็นผู้ที่เล่นเกม RoV หรือ Arena of Valor ที่มี Rank ตั้งแต่ Diamond 5 ขึ้นไป ณ วันที่สมัคร โดยแบ่งการรับสมัครผู้เข้าแข่งขันออกเป็น 5 สายตามความถนัดของประเภทฮีโร่ในเกม ได้แก่ สาย Fighter, สาย Tank, สาย Assassin, สาย Carry และสาย Mage/Support สายละ 2,048 คน รวมเป็น 10,240 คน ผู้เล่นทั้งหมดในแต่ละสายจะถูกสุ่มจับสลากประกบคู่ทำการแข่งขันรอบคัดเลือกผ่านระบบออนไลน์แบบ 1 ต่อ 1 แพ้คัดออก จำนวนทั้งหมด 6 รอบ จนได้ผู้ผ่านเข้ารอบ 32 คนจากทั้ง 5 สาย รวม 160 คน ซึ่งจะต้องมาทำการแข่งขันในแบบออฟไลน์อีก 1 รอบ หลังจากจบรอบคัดเลือกทั้ง 7 รอบแล้ว จะได้ผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 16 คนจากทั้ง 5 สาย รวมเป็น 80 คน ซึ่งทั้งหมดจะเข้าสู่การแข่งขันในรอบ TV SHOW ต่อไป

รอบ TV SHOW

[แก้]
  • รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ผู้ผ่านเข้ารอบทั้ง 16 คนจากทั้ง 5 สาย รวม 80 คน จะถูกสุ่มจับสลากรวมเป็นทีม ทีมละ 5 คน รวม 16 ทีม (แต่ละทีมจะมีผู้เล่นจากสายต่างๆ สายละ 1 คนครบทุกสาย) จากนั้นทั้ง 16 ทีมจะถูกสุ่มจับสลากแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม รวมไปถึงประกบคู่ทำการแข่งขันกันภายในกลุ่ม โดยใช้รูปแบบแพ้-ชนะในเกมเดียว ทีมที่ชนะของแต่ละคู่จะได้ผ่านเข้าไปแข่งขันอีกครั้งในรอบที่สอง และทีมที่ชนะของรอบที่สองจะได้เป็นแชมป์ของกลุ่มนั้นและผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือจะต้องทำการแข่งขันอีกครั้งในรอบออนไลน์เพื่อหารองแชมป์กลุ่มโดยใช้รูปแบบแพ้-ชนะในเกมเดียวเช่นกัน โดย 2 ทีมที่แพ้ในรอบแรกจะทำการแข่งขันกันก่อน ทีมที่ชนะจะได้เข้าไปแข่งอีกครั้งกับทีมที่แพ้มาจากรอบที่สอง และทีมที่ชนะในรอบนี้จะได้เป็นรองแชมป์กลุ่มและผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนอีก 2 ทีมที่แพ้ในรอบออนไลน์นี้จะตกรอบทันที

หลังจากได้แชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มแล้ว มาสเตอร์ประจำรายการทั้ง 4 คนซึ่งเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพระดับแถวหน้าของประเทศไทย จะทำการพิจารณาและตัดสินใจเลือกให้เข้ามาอยู่ในทีมของตัวเอง โดยพิจารณาจากทีมแชมป์กลุ่มก่อน หากมีมาสเตอร์เลือกทีมนั้นมากกว่า 1 คน ทีมจะมีสิทธิ์เลือกมาสเตอร์ที่ต้องการร่วมทีมด้วย แต่ถ้ายังไม่มีมาสเตอร์คนใดตัดสินใจเลือกในตอนนี้ ทีมนั้นจะได้กลับมาให้มาสเตอร์ตัดสินใจเลือกอีกครั้งหลังจบการแข่งขันของกลุ่มสุดท้าย ซึ่งมาสเตอร์แต่ละคนมีสิทธิ์เลือกทีมให้เข้ามาอยู่ด้วยได้เพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้น หลังจากนั้นมาสเตอร์จะทำการฝึกฝนและติวเข้มลูกทีมของตัวเอง รวมไปถึงสามารถสลับสับเปลี่ยนลูกทีมของตัวเองได้ตามความเหมาะสม

  • รอบก่อนรองชนะเลิศ

ทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 8 ทีม จะถูกสุ่มจับสลากแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม (ลูกทีมทั้ง 2 ทีมของมาสเตอร์แต่ละคนจะอยู่ต่างกลุ่มกัน) ทำการแข่งขันแบบพบกันหมดภายในกลุ่ม โดยแต่ละแมตช์ใช้ระบบการแข่งขัน 2 เกม ทีมใดที่เป็นฝ่ายชนะทั้งสองเกมจะได้ 3 คะแนนในแมตช์นั้น ส่วนทีมที่แพ้ทั้งสองเกมจะได้ 0 คะแนน แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างชนะทีมละ 1 เกมจะถือว่าแมตช์นั้นเสมอกันและได้ทีมละ 1 คะแนน หลังจากแต่ละทีมแข่งขันครบทั้ง 3 แมตช์แล้ว ทีมที่ได้คะแนนสูงสุด 2 ทีมของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในกรณีที่มีคะแนนเท่ากันจะใช้กฎเฮดทูเฮด (Head-To-Head) หรือผลงานการพบกันระหว่างสองทีมนั้นเป็นตัวตัดสินหาทีมที่ได้อันดับดีกว่า

  • รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ

ทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 4 ทีมจะถูกประกบคู่แข่งขันกัน โดยอันดับที่ 1 ของกลุ่ม A จะพบกับอันดับที่ 2 ของกลุ่ม B และอันดับที่ 1 ของกลุ่ม B จะพบกับอันดับที่ 2 ของกลุ่ม A ในรอบนี้มีความพิเศษตรงที่มาสเตอร์ของแต่ละทีมสามารถลงไปให้คำแนะนำรวมถึงการวางแผนการเล่นให้กับลูกทีมของตนเองได้ด้วย การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะใช้รูปแบบ Best of 3 หรือแพ้-ชนะ 2 ใน 3 เกม ทีมที่ชนะ 2 เกมก่อนจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และทีมที่ชนะในรอบชิงชนะเลิศจะได้เป็นแชมป์ของรายการซึ่งจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท พร้อมกับได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน RoV Pro League : Season 2 ในฐานะนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพอีกด้วย

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]