น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก
ปกไลต์โนเวลเล่มแรกเป็นรูปคิริโนะกับเคียวซุเกะ
俺の妹がこんなに可愛いわけがない
ชื่อภาษาอังกฤษOre no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai
แนวตลก, ละคร, วีรคติ, เสี้ยวชีวิต
มังงะ
เขียนโดยสึกะซะ ฟุชิมิ
สำนักพิมพ์ASCII Media Works
มังงะ
เขียนโดยสึกะซะ ฟุชิมิ
สำนักพิมพ์ASCII Media Works
กลุ่มเป้าหมายเซเน็น
อนิเมะโทรทัศน์
กำกับโดยฮิโระยุกิ คัมเบะ
สตูดิโอAIC Build
เครือข่ายTokyo MX, TVS, tvk, CTC, TVA, TVQ, TVh, MBS, AT-X, BS11
ฉาย 3 ตุลาคม 2553 19 ธันวาคม 2553
ตอน12
เกม
Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Portable
ผู้พัฒนาบันไดนัมโคเกมส์ (Bandai Namco Games)
ผู้จัดจำหน่ายบันไดนัมโคเกมส์
แนววิชวลโนเวล
แพลตฟอร์มเพลย์สเตชันพอร์เทเบิล
วางจำหน่ายเมื่อ27 มกราคม 2554
อนิเมะ
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก
กำกับโดยฮิโระยุกิ คัมเบะ
สตูดิโอเอไอซีบิลด์
มังงะ
รุ่นน้องของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก
เขียนโดยสึกะซะ ฟุชิมิ
สำนักพิมพ์แอสกี้มีเดียเวิร์กส์
กลุ่มเป้าหมายเซเน็น
เกม
Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai : Portable ga Tsuzuku Wake ga Nai
ผู้พัฒนาบันไดนัมโคเกมส์
ผู้จัดจำหน่ายบันไดนัมโคเกมส์
แนววิชวลโนเวล
แพลตฟอร์มเพลย์สเตชันพอร์เทเบิล
วางจำหน่ายเมื่อ17 พฤษภาคม 2555
อนิเมะโทรทัศน์
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอ Season 2
กำกับโดยฮิโระยุกิ คัมเบะ
เขียนบทโดยฮิเดะยุกิ คุระตะ
สตูดิโอเอ-1 พิกเจอส์
เครือข่ายTokyo MX, tvk, Tochigi TV, Gunma TV, TVS, CTC, TVA, TVQ, TVh, ABC, BS11, AT-X
ฉาย 7 เมษายน 2556 30 มิถุนายน 2556
ตอน13
อนิเมะ
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก
กำกับโดยฮิโระยุกิ คัมเบะ
สตูดิโอเอ-1 พิกเจอส์
เกม
Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Happy End
ผู้พัฒนาบันไดนัมโคเกมส์
ผู้จัดจำหน่ายบันไดนัมโคเกมส์
แนววิชวลโนเวล
แพลตฟอร์มเพลย์สเตชัน 3
วางจำหน่ายเมื่อ26 กันยายน 2556
icon สถานีย่อยการ์ตูนญี่ปุ่น

น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก (ญี่ปุ่น: 俺の妹がこんなに可愛いわけがないโรมาจิOre no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai[1][2] หรือเรียกโดยย่อว่า โอเรอิโมะ (ญี่ปุ่น: 俺妹โรมาจิOreimo)) [3][4] เป็นชื่อไลต์โนเวลชุดหนึ่งซึ่งสึกะซะ ฟุชิมิ เป็นผู้เขียนเรื่อง และมี ฮิโระ คันซะกิ เป็นผู้วาดภาพประกอบ ผลิตและจัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์เดงเงกิบุงโกะ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทแอสกี้มีเดียเวิร์กส์ พิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2551

ต่อมา ซะกุระ อิเกะดะ ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นมังงะลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร Dengeki G's Magazine ตั้งแต่ต้นปี 2552, บริษัทเอไอซีบิลด์ ดัดแปลงเป็นอนิเมะ หนึ่งชุดสองฤดูกาลต่อกัน ฤดูกาลแรกประกอบด้วยสิบหกตอน สิบสองตอนฉายทางโทรทัศน์ในปลายปี 2553 อีกสี่ตอนเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตเดือนละตอนเมื่อต้นปี 2554 ก่อนจะเผยแพร่รวมกันเป็นดีวีดีและบลูเรย์ในกลางปีนั้น ส่วนฤดูกาลที่สองกำลังผลิต และบริษัทบันไดนัมโคเกมส์ ดัดแปลงเป็นเกมแนววิชวลโนเวลแผยแพร่ตั้งแต่กลางปี 2554 และในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556 ได้มีการฉายอนิเมะภาค 2 ของเรื่อง โดย A-1 Pictures ฉายทางช่อง Tokyo MX, tvk, Tochigi TV, Gunma TV, TVS, CTC, TVA, TVQ, TVh, ABC, BS11, AT-X ในประเทศญี่ปุ่น

โครงเรื่อง[แก้]

ไลต์โนเวลมีเนื้อหาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มคนหนึ่งกับน้องสาวซึ่งไม่ราบรื่นมาแต่ต้น และต้องการพิสูจน์ให้น้องสาวเห็นว่าตนเป็นพี่ชายที่ดี โดยเมื่อเขาค้นพบว่าน้องสาวชื่นชอบเกมลามกอนาจาร เขาได้สงเคราะห์ให้น้องสาวสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในสังคมที่น้อยคนจะยอมรับรสนิยมเช่นว่าได้ ตลอดจนได้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับน้องสาวและกลับมารักใคร่กันดังเดิม ไลต์โนเวลนำเสนอปัญหาหลายประการทางครอบครัวและสังคมผ่านเนื้อหาแนวตลก ละคร และวีรคติ โดยทั้งไลต์โนเวลและอนิเมะซึ่งดัดแปลงมานั้นได้รับความนิยมเป็นอันมาก ถึงขนาดเป็นเหตุให้ฟุชิมิ ผู้เขียน ถูกข่มขู่มากกว่าห้าร้อยครั้งให้มอบบทเด่นแก่ตัวละครบางตัวด้วย[5]

เนื้อเรื่อง[แก้]

เคียวซุเกะ โคซะกะ เป็นชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีและเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอาศัยอยู่ในเมืองชิบะ จังหวัดชิบะ[6] มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ คิริโนะ อายุสิบสี่ปี แต่เข้ากันมิได้มานานหลายปี เขาจดจำได้ว่า น้องสาวให้ความสนใจแก่เขาเพียงด้วยชายหางตามอง และคาดหมายว่า ความสัมพันธ์คงเป็นเช่นนี้กันตลอดไป

อย่างไรก็ดี วันหนึ่ง เขาพบกล่องดีวีดีที่น้องสาวทำหล่นไว้ ปกเป็นอนิเมะแนวสาวน้อยเวทมนตร์ แต่ข้างในบรรจุแผ่นเกมลามกอนาจาร ซึ่งทำให้เขาตื่นเต้นตกใจเป็นอันมาก แต่เขาต้องตระหนกไปยิ่งกว่านั้นเมื่อน้องสาวพาเขาไปยังห้องของเธอในกลางดึกแล้วเปิดเผยว่า เธอคลั่งไคล้และสะสมอนิเมะกับเกมที่มีเนื้อหาเร้ากำหนัด โดยเฉพาะที่ว่าด้วยการร่วมประเวณีกับน้องสาว แต่ต้องเก็บรสนิยมนี้เป็นความลับตลอดมาเกลือกคนทั้งปวงรับไม่ได้ ทว่า เคียวซุเกะได้แสดงให้น้องสาวมั่นใจว่า เขามิได้รังเกียจเธอหรือความชื่นชอบของเธอแต่ประการใด กับทั้งยินดีช่วยเหลือให้เธออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

นับแต่นั้น คิริโนะก็ร้องขอให้พี่ชายช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องอนิเมะและเกมเช่นว่า โดยเรียกขานว่าเป็น "การปรึกษาปัญหาชีวิต" และทวีความไว้วางใจในพี่ชายขึ้นโดยลำดับ คนทั้งสองจึงได้กลับมาสนิทสนมรักใคร่กันอีกครั้ง

ตัวละคร[แก้]

ญี่ปุ่น
เคียวซุเกะ โคซะกะโรมาจิ高坂 京介ทับศัพท์: Kōsaka Kyōsuke
ให้เสียงโดย: ยูอิจิ นากามูระ (ญี่ปุ่น); กริน อักษรดี (ไทย)
เคียวซุเกะเป็นตัวเอกของเรื่อง เป็นชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดปี มีความสัมพันธ์อันห่างเหินกับน้องสาวและเห็นว่าไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ กระนั้น เมื่อพบว่า น้องสาวชื่นชอบเกมลามกอนาจารเป็นชีวิตจิตใจ ก็พยายามทำหน้าที่ฉันพี่ชายโดยช่วยเหลือน้องสาวคลายให้กังวลว่าเป็นที่รังเกียจของคนทั้งปวง และให้มีเพื่อนที่สามารถสนทนากับทั้งระบายความรู้สึกในเรื่องรสนิยมอย่างเดียวกันได้ แม้มักถูกน้องสาวดุด่าว่าเสมอเขาก็หาได้ย่อท้อไม่ นอกจากนี้ เขายังตระหนักว่า ตนเป็นพี่ชายที่ไม่ทราบความเป็นไปของน้องสาวเสียเลย เป็นต้นว่า เธอทำงานเป็นนางแบบ เรียนดีกีฬาเด่น เป็นที่นิยมของผู้คนที่โรงเรียนเป็นอันมาก เดิมเคียวซุเกะว่า ตนพึงใจจะมีชีวิตอันเรียบง่ายและสงบสุข แต่เมื่อใกล้ชิดกับน้องสาวมากขึ้นแล้ว เขามีความสุขที่ถูกน้องสาวรบกวนอยู่ไม่ขาด ถึงขนาดที่ว้าวุ่นใจหากน้องสาวมิได้อยู่เคียงใกล้ ในนิยายเล่มเจ็ด เขาสารภาพรักต่อคุโระเนะโกะและคบหากันเป็นคู่รัก แต่เลิกรากันไปในเล่มแปด
ญี่ปุ่น
คิริโนะ โคซะกะโรมาจิ高坂 桐乃ทับศัพท์: Kōsaka Kirino
ให้เสียงโดย: อายานะ ทาเกตัตสึ (ญี่ปุ่น); เบญจวรรณ วนิชจิวพันธ์ (ไทย)
คิริโนะเป็นหญิงสาวอายุสิบสี่ปี และเป็นน้องสาวของเคียวซุเกะ มีบุคลิกลักษณะที่เรียก "ซึนเดะเระ" มักเย็นชาและดุด่าพี่ชาย ทว่า คลั่งไคล้อนิเมะและเกมลามกอนาจารที่มีเนื้อหาทำนองพี่ชายน้องสาวร่วมประเวณีกันเป็นอันมาก หนึ่งในอนิเมะที่เธอชมชอบชื่อ เมะรุรุ แม่มดแห่งดวงดาว (Stardust Witch Meruru) โดยในโลกออนไลน์ เธอใช้นามแฝงว่า "คิริริง" (Kiririn) แม้ยังอยู่ในวัยเรียน แต่คิริโนะทำงานเป็นนางแบบ และต่อมาก็เป็นนักเขียนนิยาย ทั้งนี้ เพื่อสะสมเงินทองมาใช้จ่ายสนองความคลั่งไคล้ข้างต้น คิริโนะบอกปัดว่า ไม่ได้คิดกับพี่ชายทำนองรักใคร่ฉันชู้สาว และความชื่นชอบในโลกสองมิติกับสามมิติเป็นคนละเรื่องกัน กระนั้น ครั้งใดที่เห็นพี่ชายสนใจในหญิงอื่นก็ขุ่นเคืองเป็นอันมาก ทั้งยังพยายามบ่อนทำลายช่วงเวลาที่พี่ชายอยู่กับหญิงอื่น นอกจากนี้ ในนิยายเล่มเจ็ด เธอยังแสร้งว่ามีคนรักเพื่อให้พี่ชายหึงหวงด้วย หลังจากได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น คิริโนะเริ่มติดพี่ชายขึ้นตามลำดับ และรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจเขาที่ช่วยเหลือเธอเป็นอย่างดีเสมอมา ตอนหนึ่งยังได้ซื้อของขวัญขอบคุณพี่ชายด้วย
ญี่ปุ่น
รุริ โกะโคโรมาจิ五更 瑠璃ทับศัพท์: Gokō Ruri หรือ ญี่ปุ่น: คุโระเนโกะโรมาจิ黒猫ทับศัพท์: Kuroneko
ให้เสียงโดย: คานะ ฮานาซาวะ (ญี่ปุ่น); พนาวรรณ ศรีวะโลสกุล (ไทย)
รุริเป็นหญิงสาวซึ่งอาศัยอยู่ละแวกบ้านเดียวกับเคียวซุเกะ และต่อมาเข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนเดียวกัน เธอเป็นสมาชิกกลุ่ม "สาวอนิเมะร่วมใจ!"เมื่ออยู่ในโลกไซเบอร์ เธอใช้นามแฝงว่า "คุโระเนะโกะ" แปลว่า แมวดำ
รุริมีจุดเด่นที่ตัวเตี้ย และไว้ผมทรงเจ้าหญิง (hime cut) ความที่ชื่นชอบอนิเมะและเกมลามกอนาจารแนวเวทมนตร์ โดยเฉพาะเรื่อง แมสเชอรา (Maschera) เป็นอันมาก เธอมักแต่งกายเลียนแบบตัวละครในเรื่องดังกล่าวโดยสวมเลนส์สัมผัสสีแดง หูแมว และชุดกระโปรงยาวสีดำแบบกอทิกโลลิตา (gothic lolita) แม้อากาศร้อนระอุเพียงใดก็ตาม นอกจากนี้ เธอยังมักว่าตนมีเวทมนตร์ และมักร่ายคาถาหรือคำสาปใส่ผู้อื่น
เนื่องจากมีบุคลิกลักษณะแบบซึนเดะเระเสมือนกัน รุริกับคิริโนะจึงมักปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อน รุริยังชอบหยอกล้อคิริโนะว่า คิดกับพี่ชายเกินกว่าความเป็นพี่เป็นน้อง ครั้นเห็นว่าคิริโนะเป็นเดือดเป็นร้อน เธอก็ชอบใจ ครั้งหนึ่ง เธอยังเขียนการ์ตูนมีเนื้อหาว่า คิริโนะแอบดมเสื้อผ้าและกางกางในของเคียวซุเกะที่เคียวซุเกะสวมใส่แล้ว และสำเร็จความใคร่ตนเองโดยนึกถึงเคียวซุเกะ ต่อมา รุริเรียกเคียวซุเกะว่า "คุณพี่" (にいさん) เพราะต้องการมีพี่ชาย และต้องการแกล้งคิริโนะไปด้วย อย่างไรก็ดี รุริรักคิริโนะกับเพื่อนเป็นอันมาก และมองว่า เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันนั้นมีคุณค่าหาที่เปรียบมิได้
เมื่ออยู่บ้าน รุริแต่งกายตามปรกติ ทั้งยังรับผิดชอบงานบ้านและดูแลน้องที่ยังเล็กอยู่ด้วย แต่เพราะเข้ากับผู้อื่นได้ยาก ที่โรงเรียนจึงไม่มีเพื่อน ต่อเมื่อเคียวซุเกะเข้าช่วยเหลือแล้ว จึงได้เข้าชมรมวิจัยเกม (Games Research Club) และเริ่มปรับตัวได้และมีเพื่อนฝูงมากขึ้นตามลำดับ ทำให้เธอรู้สึกขอบคุณเคียวซุเกะและหลงรักเขา ครั้งหนึ่งยังได้จุมพิตแก้มเขาด้วย ในไลต์โนเวลเล่มเจ็ด เธอได้คบหากับเคียวซุเกะเป็นคู่รักกัน แต่ก็เลิกรากันไปในเล่มแปด

การตอบรับ[แก้]

หนังสือพิมพ์ ไมนิชิชิมบุง (Mainichi Shimbun) ว่า ในเดือนสิงหาคม 2552 ไลต์โนเวลเล่มที่สี่ขายดีที่สุดในบรรดาไลต์โนเวลที่จำหน่ายในเวลานั้น[7] และเครือข่ายข่าวอนิเมะว่า ในเดือนเมษายน 2553 ไลต์โนเวลเล่มที่หนึ่งถึงห้าขายได้ในประเทศญี่ปุ่นแล้วเป็นจำนวนเก้าแสนสองหมื่นฉบับ[8]

อนึ่ง วันที่ 7 เมษายน 2554 เจ้าพนักงานตำรวจกรุงโตเกียวแถลงว่า ได้จับกุมโนะโบะรุ อะโอะอิ (Noboru Aoi) ชายตกงานชาวจังหวัดโทะกุชิมะ อายุสามสิบสองปี ซึ่งต้องสงสัยว่าได้ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่าห้าร้อยฉบับไปหาฟุชิมิ ผู้เขียนไลต์โนเวลนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 แสดงความโกรธเคืองด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า บทบาทของคุโระเนะโกะน้อยกว่าเพื่อน และข่มขู่จะฆ่าเขาด้วยการตัดศีรษะถ้ายังไม่ส่งเสริมให้ตัวละครนั้นมีบทบาทโดดเด่นยิ่งขึ้น ในการนี้ อะโอะอิให้การรับสารภาพ[5]

งานดัดแปลง[แก้]

มังงะ[แก้]

ซะกุระ อิเกะดะ ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นมังงะ และลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร เด็งเงะกิจีส์แมกาซีน ของบริษัทแอสกีมีเดียเวิกส์ตั้งแต่ฉบับเดือนมีนาคม 2552 ถึงพฤษภาคม 2553 ต่อมา สำนักพิมพ์เด็งเงะกิคอมิกส์ (Dengeki Comics) ในเครือบริษัทเดียวกัน ได้รวมมังงะดังกล่าวเป็นเล่มใหญ่สี่เล่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2552 และสำนักพิมพ์ดาร์กฮอร์สคอมิกส์ (Dark Horse Comics) ได้รับอนุญาตให้แปลออกเผยแพร่ในทวีปอเมริกาเหนือ[9]

อนึ่ง จิตรกรอิเกะดะยังดัดแปลงไลต์โนเวลส่วนที่ว่าด้วยชีวิตของคุโระเนะโกะในโรงเรียนเดียวกับเคียวซุเกะเป็นมังงะอีกชุดเรียก โอะเระโนะโคไฮกะคนนะไนคะวะอีวะเกะกะไน (の後輩がこんなに可愛いわけがない; "รุ่นน้องของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอก") ลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารข้างต้นตั้งแต่ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554[10]

ละครเสียง[แก้]

บริษัทแอสกีมีเดียเวิกส์ได้ดัดแปลงไลท์ไนเวลเล่มหนึ่งถึงสามเป็นละครเสียงหนึ่งเรื่อง จำหน่ายเป็นซีดีละครตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2553 ละครเสียงนี้ฟุชิมิ ผู้แต่งไลต์โนเวล เขียนบทเอง และใช้นักพากย์บรรดาซึ่งต่อมาได้พากย์อนิเมะด้วย[4]

อนิเมะ[แก้]

การผลิตและดำเนินเรื่อง[แก้]

บริษัทเอไอซีบิลด์ได้ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นอนิเมะหนึ่งชุด ฮิโระยุกิ คัมเบะ (Hiroyuki Kanbe) กำกับ มีสิบหกตอน สิบสองตอนแรกออกอากาศทางโทรทัศน์ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม ปีนั้น สี่ตอนที่เหลือนั้นมีเนื้อหาแตกแขนงมาจากสิบสองตอนแรกเพื่อนำเสนอตอนจบอีกแนวหนึ่ง ได้เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์หลายแห่ง เป็นต้นว่า นิโกะนิโกะโดงะ (Nico Nico Douga), ไชว์ไทม์เจแปน (Showtime Japan) และมูวีเกต (MovieGate) เดือนละตอน ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554[11][12][13]

อนึ่ง อนิเมะนี้ใช้นักพากย์คณะเดียวกับที่พากย์ละครเสียงข้างต้น[8] และเพื่อประชาสัมพันธ์ เอไอซีบิลด์ยังผลิตรายการวิทยุรายการหนึ่งเรียก โอะเระโนะอิโมโตะกะ (เรดิโอเดะโมะ) คนนะนิคะวะอีวะเกะกะไน (俺の妹が (ラジオでも) こんなに可愛いわけがない) มียี่สิบสี่ตอน ออกอากาศทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอนิเมะตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2553 ถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 โดยมีนักพากย์อนิเมะดำเนินรายการด้วย[14][15]

ต่อมาวันที่ 1 เมษายน 2555 เอไอซีบิลด์แถลงว่า กำลังผลิตฤดูกาลที่สองของอนิเมะนี้อยู่[16]

เพลง[แก้]

อนิเมะนี้ ซะโตะรุ โคซะกิ (Satoru Kōsaki) ประพันธ์เพลงประกอบซึ่งจำหน่ายเป็นอัลบัมตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2554[17] อนึ่ง อนิเมะยังใช้เพลงหลักอีกสิบเจ็ดเพลง เป็นเพลงเปิดหนึ่งชื่อ "ไอรอนี" (Irony; "กระทบกระเทียบ") วงแคลริส (ClariS) ร้อง[18] ส่วนอีกสิบหกเพลงนั้นเป็นเพลงปิดทั้งสิบหกตอนตอนละเพลงตามลำดับไปดังนี้[18]

# ชื่อ ร้อง
ผู้ร้อง บทบาทที่ร้อง
1
  • อิโมโตะพลีส! ("ขอร้องล่ะน้องจ๋า!")
  • 妹プリ〜ズ!
  • Little Sister, Plea〜se!
อะยะนะ ทะเกะตะสึ คิริโนะ โคซะกะ
2
  • ไชน์! ("เปล่ง")
  • Shine!
3
  • ฮอราอิสซึม
  • ほらいずむ
  • Horaism
4
  • ชิโระอิโคะโกะโระ ("หัวใจบริสุทธิ์")
  • 白いココロ
  • White Heart
ซะโอะริ ฮะยะมิ อะยะเซะ อะระงะกิ
5
  • ออเรนจ์ ("ส้ม")
  • オレンジ
  • Orange
อะยะนะ ทะเกะตะสึ คิริโนะ โคซะกะ
6
  • มะเอะงะมิ☆ ("ผมปรกหน้า☆")
  • マエガミ☆
  • Bangs☆
ซะโตะมิ ซะโต มะนะมิ ทะมุระ
7
  • แมสเกอเรด ("ระบำหน้ากาก")
  • Masquerade!
คะนะ ฮะนะซะวะ รุริ โกะโก
8
  • คาเมเลียนดอเทอร์ ("ลูกสาวราวกิ้งก่าเปลี่ยนสี")
  • カメレオンドーター Chameleon Daughter
ฮิโตะมิ นะบะตะเมะ ซะโอะริ มะกิชิมะ
9
  • ซุกินันดะมง! ("ก็เพราะรักเธอไง!")
  • 好きなんだもん! Cause I Love You!
อะยะนะ ทะเกะตะสึ คิริโนะ โคซะกะ
10
  • อีเอะ, ทอมวะอิโมโตะนิไทชิเตะเซเตะกินะโคฟุงโอะโอะโบะเอะเตะอิมะซุ!
  • ("ไม่จริง ทอมเขาเกิดอารมณ์กับน้องสาวตัวเอง!")
  • いいえ、トムは妹に対して性的な興奮をおぼえています
  • No, Tom Has Learned Sexual Arousal for His Little Sister!
อะยะนะ ทะเกะตะสึ คิริโนะ โคซะกะ
11
  • อะกิฮะบะระ☆แดนซ์☆นาว!! ("อะกิฮะบะระ☆เต้นกัน☆เดี๋ยวนี้!!")
  • アキハバラ☆だんす☆なう!! Akihabara☆Dance☆Now!!
  • อะยะนะ ทะเกะตะสึ
  • คะนะ ฮะนะซะวะ
  • ฮิโตะมิ นะบะตะเมะ
  • คิริโนะ โคซะกะ
  • รุริ โกะโก
  • ซะโอะริ มะกิชิมะ
12
  • ทะไดมะ. ("มาแล้วจ้ะ.")
  • ただいま。 Here I Am.
อะยะนะ ทะเกะตะสึ คิริโนะ โคซะกะ
13
  • เรดี ("พร้อมแล้ว")
  • Ready
14
  • †อิโนะชิมิจิกะชิโคะอิเซะโยะโอะโตะเมะ† ("†สาวน้อยจงริรัก ด้วยว่าชีวิตนั้นสั้นนัก†")
  • †命短し恋せよ乙女† †Love, Young Maiden, for Life is Short†
คะนะ ฮะนะซะวะ รุริ โกะโก
15
  • โชะกุไซโนะเซเรเนด ("ลำนำรำพันโทษ")
  • 贖罪のセレナーデ Serenade of Atonement
  • คะนะ ฮะนะซะวะ
  • ยูอิชิ นะกะมุระ
  • รุริ โกะโก
  • เคียวซุเกะ โคซะกะ
16
  • คีปอ็อนรันนิง ("วิ่งต่อไป")
  • keep on runnin
อะยะนะ ทะเกะตะสึ คิริโนะ โคซะกะ

การเผยแพร่[แก้]

อนิเมะทั้งสิบหกตอนได้รับการผลิตเป็นแบบดีวีดีและบลูเรย์จำนวนแปดชุด ชุดหนึ่งประกอบด้วยสองตอน ฉบับดีวีดีจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2553 และบลูเรย์ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ปีถัดมา[12][19][20]

บริษัทแอนิเพล็กซ์ยูเอสเอ (Aniplex USA) ได้รับอนุญาตให้นำอนิเมะเผยแพร่ในท้องที่อเมริกาเหนือผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายข่าวอนิเมะ (Anime News Network) โดยบรรยายภาษาอังกฤษ การเผยแพร่ดำเนินในเวลาเดียวกับที่ฉายทางโทรทัศน์ในญี่ปุ่น แต่ไปได้เพียงสองตอนก็ถูกระงับ เพราะถูกลักนำออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์อื่น[21][22] ครั้นวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 จึงเริ่มนำกลับมาเผยแพร่ใหม่ แต่ดำเนินได้เพียงสี่ตอน แอนิเพล็กซ์ยูเอสเอก็งดไป แล้วเผยแพร่ในรูปแบบดีวีดีบรรยายภาษาอังกฤษตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 แทน[23][24]

เกม[แก้]

บริษัทบันไดนัมโคเกมส์ได้ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นเกมแนววิชวลโนเวลสองชุด ชุดแรกเรียก โอะเระโนะอิโมโตะกะคนนะนิคะวะอีกะไนพอร์เทเบิล (俺の妹がこんなに可愛いわけがない ポータブル; "น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอกแบบพกพา") สำหรับเล่นกับเครื่องเพลย์สเตชันแบบพกพา เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2554[25] ส่วนชุดที่สองเรียก โอะเระโนะอิโมโตะกะคนนะนิคะวะอีวะเกะกะไนพอร์เทเบิลกะสึซุกุวะเกะกะไน (俺の妹がこんなに可愛いわけがない ポータブルが続くわけがない; "ไม่มีทางที่ 'น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอกแบบพกพา' จะมีภาคต่อ") จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2555[26][27] เพลงเปิดเกมทั้งสองชุดนั้นชื่อ "เน็กซัส" (Nexus) วงแคลริสร้อง[28]

บริษัทคะโดะกะวะคอนเทนส์เกต (Kadokawa Contents Gate) ยังดัดแปลงเกม ซิสคาลิปส์ (Siscalypse) อันเป็นเกมที่ปรากฏในไลต์โนเวล เป็นเกมแนวต่อสู้ประจัญบานเรียก ชิงอิโมโตะไทเซ็งซิสคาลิปส์ (真妹大戦シスカリプス; "ซิสคาลิปส์ สงครามน้องสาวขนานแท้") สำหรับเล่นบนโทรศัพท์มือถือผ่านระบบบริการของยาฮู! (Yahoo!) ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2554 ด้วย[29]

อ้างอิง[แก้]

  1. "น้องสาวของผมไม่น่ารักฯ 6 +บุ๊คเลท,โปสการ์ดพินอัพ". โรสมีเดียแอนด์เอนเตอร์เทนเมนต์. 7 May 2012.
  2. 6 +บุ๊คเลท,โปสการ์ดพินอัพ/ "ZENSHU X ROSE ภาค ย้อนเวลา ล่าแย้ ปกป้องสวรรค์ ไปกับน้องสาว". โรสมีเดียแอนด์เอนเตอร์เทนเมนต์. 7 May 2012. {{cite web}}: ตรวจสอบค่า |url= (help)
  3. "「俺妹」×「禁書」コラボ広告 掲載" [Oreimo x Kinsho Collaboration Ad is Published] (ภาษาญี่ปุ่น). Aniplex. September 27, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-25. สืบค้นเมื่อ February 12, 2011.
  4. 4.0 4.1 "高坂さん家の妹の人生相談を聞けッ!! ドラマCD『俺妹』の申し込みは電撃屋から" [Listen to the Counseling of the Kōsaka Family's Younger Sister!! Pre-Order the Oreimo Drama CD from Dengekiya] (ภาษาญี่ปุ่น). ASCII Media Works. January 8, 2010. สืบค้นเมื่อ January 9, 2010.
  5. 5.0 5.1 "Man Arrested for Threatening Oreimo Author Tsukasa Fushimi" (ภาษาอังกฤษ). Anime News Network. 12 April 2011. สืบค้นเมื่อ 7 May 2012.
  6. Fushimi, Tsukasa. "3". Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai. Vol. 3. p. 150. 「いちいち感想呟かなくていいからね? 黙ってればカッペだってことはバレないんだからさー、もうあんた一人で千葉に帰れば?」
  7. "ラノベランキング:「俺の妹」が1位 「狼と香辛料」など電撃勢上位独占 09年8月" [Light Novel Ranking: Oreimo is First, Spice and Worlf and Others Show Dengeki Superiority] (ภาษาญี่ปุ่น). Mainichi Shimbun. September 6, 2009. สืบค้นเมื่อ January 9, 2010.[ลิงก์เสีย]
  8. 8.0 8.1 "Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai Gets Anime". Anime News Network. April 30, 2010. สืบค้นเมื่อ May 1, 2010.
  9. "Dark Horse Adds Oreimo, Blood-C, Evangelion: Comic Tribute Manga". Anime News Network. April 7, 2012. สืบค้นเมื่อ April 7, 2012.
  10. "Oreimo Novel Inspires New Manga Series in Dengeki G's". Anime News Network. April 27, 2011. สืบค้นเมื่อ April 27, 2011.
  11. "『俺の妹がこんなに可愛いわけがない』 分岐ルート配信情報!" [Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Divergent Route Streaming News!]. Aniplex. January 25, 2011. สืบค้นเมื่อ January 26, 2011.
  12. 12.0 12.1 "Oreimo #12 'True Route' Stream Scheduled in Japan". Anime News Network. January 25, 2011. สืบค้นเมื่อ January 26, 2011.
  13. "Oreimo Lists 4 Unaired Episodes". Anime News Network. December 5, 2010. สืบค้นเมื่อ December 5, 2010.
  14. "WEBラジオ | 「俺の妹がこんなに可愛いわけがない」アニメ公式サイト" [Web Radio: Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Anime Official Website] (ภาษาญี่ปุ่น). Aniplex. สืบค้นเมื่อ November 13, 2010.
  15. "10月開始のTVアニメ『俺の妹』放送局を公開! Webラジオも本日より開始!" [The October TV Anime Oreimo Opens its Broadcasting Office! The Web Radio Also Starts Today!] (ภาษาญี่ปุ่น). Dengeki Online. August 13, 2010. สืบค้นเมื่อ November 13, 2010.
  16. "Oreimo Anime's 2nd Season Green-Lit". Anime News Network. April 1, 2012. สืบค้นเมื่อ April 1, 2012.
  17. "音楽 | 「俺の妹がこんなに可愛いわけがない」アニメ公式サイト" [Music: Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Anime Official Website] (ภาษาญี่ปุ่น). Aniplex. สืบค้นเมื่อ November 14, 2010.
  18. 18.0 18.1 "Oreimo (TV)" (ภาษาอังกฤษ). Anime News Network. 7 May 2012.
  19. "Blu-ray&DVD「俺の妹がこんなに可愛いわけがない 1」" [Blu-ray & DVD Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai 1] (ภาษาญี่ปุ่น). Aniplex. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-04. สืบค้นเมื่อ December 5, 2010.
  20. "Blu-ray&DVD「俺の妹がこんなに可愛いわけがない 8」" [Blu-ray & DVD Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai 8] (ภาษาญี่ปุ่น). Aniplex. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-06. สืบค้นเมื่อ December 5, 2010.
  21. "Anime News Network To Launch 1st Simulcast, Oreimo". Anime News Network. October 4, 2010. สืบค้นเมื่อ October 4, 2010.
  22. "ANN CEO Speaks on Oreimo Episode Leak". Anime News Network. October 13, 2010. สืบค้นเมื่อ November 3, 2010.
  23. "ANN to Resume Streaming Oreimo, Togainu no Chi". Anime News Network. November 3, 2010. สืบค้นเมื่อ November 3, 2010.
  24. "Aniplex USA to Release Oreimo on DVD in October". Anime News Network. July 29, 2011. สืบค้นเมื่อ July 29, 2011.
  25. "『俺の妹』がアニメに続いてPSPでゲーム化!! どんな"人生相談"が飛び出す!?" [Ore no Imōto Will Get an Anime and a PSP Game!! What Kind of Counseling Will Appear!?] (ภาษาญี่ปุ่น). ASCII Media Works. July 2, 2010. สืบค้นเมื่อ July 4, 2010.
  26. "Oreimo Portable PSP Game Sequel Being Produced". Anime News Network. September 9, 2011. สืบค้นเมื่อ September 10, 2011.
  27. "『俺の妹がこんなに可愛いわけがない ポータブルが続くわけがない』発売日変更" [Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Portable ga Tsuzuku Wake ga Nai Sale Date Change] (ภาษาญี่ปุ่น). Famitsu. March 8, 2012. สืบค้นเมื่อ March 26, 2012.
  28. "2nd Oreimo PSP Game's 3rd Promo Streamed". Anime News Network. May 2, 2012. สืบค้นเมื่อ May 2, 2012.
  29. "Oreimo's In-Anime Game Siscalypse Offered in Japan". Anime News Network. January 20, 2011. สืบค้นเมื่อ January 20, 2011.
อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ด้วยชื่อ "official-web-radio" ที่นิยามในกลุ่ม <references> ไม่มีเนื้อหา

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]