เทพมรณะ
เทพมรณะ | |
หน้าปกของมังงะ เทพมรณะ เล่ม 1 ในฉบับภาษาไทย | |
ブリーチ | |
---|---|
ชื่อภาษาอังกฤษ | Bleach |
แนว | ต่อสู้, ผจญภัย, แฟนตาซี |
มังงะ | |
เขียนโดย | ไทโตะ คุโบะ |
สำนักพิมพ์ | ชูเอฉะ เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ |
อนิเมะ | |
กำกับโดย | โนริยูกิ อาเบะ |
อำนวยการโดย | เคน ฮากิโนะ โนริโกะ โคบายาชิ (1-86, 226-328) ยูทากะ สุกิยามะ (1-25, 355-366) ยูกิโอะ โยชิมูระ (26-133) ชุนจิ อาโอกิ (87-225) อายะ มิโซะบูจิ (134-157) ไม นะไง (158-354) ฮัตซึโอะ นาระ (343-366) |
เขียนบทโดย | มาซาชิ โซโกะ (1-229, 266-316) สึโยชิ คิดะ (230-265) เคนโตะ ชิโมยามะ (317-366) |
ดนตรีโดย | ชิโร ซางิซุ |
สตูดิโอ | สตูดิโอปิเอโร |
ถือสิทธิ์โดย | เดนซุ โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ |
อนิเมะ | |
BLEACH: The Thousand-Year Blood War สงครามเลือดพันปี | |
กำกับโดย | โทโมฮิสะ ทากุจิ ฮิคารุ มุราตะ (1-) |
อำนวยการโดย | มาซากิ ฮิรามัตสึ |
ดนตรีโดย | ชิโร ซางิซุ |
สตูดิโอ | สตูดิโอปิเอโร |
ถือสิทธิ์โดย | อะนิเพล็กซ์ Viz Media |
เทพมรณะ หรือ บลีช (ญี่ปุ่น: ブリーチ; โรมาจิ: Burīchi; ทับศัพท์: ในชื่ออังกฤษว่า Bleach) เป็นผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นของไทโตะ คุโบะ ตีพิมพ์ลงนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2559 ส่วนในประเทศไทยนั้นถูกตีพิมพ์ในนิตยสารบูม โดยมีสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีและดีวีดีโดยบริษัทโรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
เนื้อเรื่อง
[แก้]คุโรซากิ อิจิโกะ เด็กมัธยมปลายอายุ 15 ปีผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ วันหนึ่งเขาได้พบกับยมทูตหญิงชื่อ คุจิกิ ลูเคีย ในขณะที่เธอกำลังตามล่าฮอลโลว์ตัวหนึ่งและพลาดให้กับฮอลโลว์ตัวนั้น ลูเคียจึงเสนอให้อิจิโกะถ่ายโอนส่วนหนึ่งของแรงดันวิญญาณ (ญี่ปุ่น: Spirit Pressure; โรมาจิ: 霊圧; ทับศัพท์: Reiatsu) ของเธอไป แต่ลูเคียกลับพลาดปล่อยให้แรงดันวิญญาณถูกดูดไปจนหมด อุราฮาร่า คิสึเกะ จึงแนะนำให้ใช้ร่างเทียมเพื่อฟื้นพลังและเพื่อให้อิจิโกะเข้าช่วยงานเจ้าหล่อนในการเป็นยมทูตแทนระหว่างที่เธอพักฟื้นพลังอยู่ในโลกมนุษย์ ตลอดเวลาที่ลูเคียพักฟื้นพลัง ลูเคียใช้ชีวิตเป็นนักเรียนในโรงเรียนเดียวกับอิจิโกะและได้พบกับ ซาโดะ "แช้ด" ยาสึโทระ อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ และอิชิดะ อุริว ควินซีคนสุดท้ายในฐานะเพื่อนร่วมชั้น แต่ทว่าความผิดปกติของอิจิโกะที่กลายเป็นยมทูต ทำให้อุริวประกาศตนเป็นศัตรู และท้าแข่งกำจัดฝูงฮอลโลว์กับอิจิโกะ เหตุการณ์ในครั้งนั้นพลังฟูลบริงเกอร์ของซาโดะ และอิโนะอุเอะตื่นขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว และทั้งสี่ก็เอาชนะฝูงฮอลโลว์ได้อย่างยากเย็น
เวลาแห่งความสนุกผ่านไป 6 เดือน โซลโซไซตี้สามารถจับแรงดันวิญญาณของลูเคียที่หายไปได้ จึงได้ส่ง คุจิกิ เบียคุยะ และ อาบาราอิ เร็นจิ มาพาตัวลูเคียกลับไปรับโทษข้อหาหลบหนีการปฏิบัติหน้าที่ที่โซลโซไซตี้ ก่อนจะพบว่าจริง ๆ แล้วลูเคียเสียพลังยมทูตให้อิจิโกะไปซึ่งถือเป็นโทษหนักในโซลโซไซตี้ เบียคุยะจึงตัดโซ่กรรมและวิญญาณหลักของอิจิโกะ ทำให้พลังยมทูตของลูเคียที่อยู่ในตัวอิจิโกะหายไป อุราฮาระจึงจัดโปรแกรมฝึกพิเศษให้อิจิโกะนำพลังยมทูตของตัวเองที่ถูกซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของวิญญาณกลับมา ในขณะเดียวกัน ชิโฮอิน โยรุอิจิ แมวปริศนาที่ตัวตนที่แท้จริงคืออดีตหัวหน้าหน่วยลงทัณฑ์ของโซลโซไซตี้ ได้เสนอให้ซาโดะและอิโนะอุเอะฝึกพลังของตัวเองเพื่อใช้ในการบุกโซลโซไซตี้ และทำนองเดียวกันอุริวก็แอบฝึกใช้ถุงมือเสริมพลังควินซีเพื่อใช้ในการนี้โดยเฉพาะ เมื่อการฝึกแล้วเสร็จอุราฮาระจึงเปิดประตูผ่านโลกให้พวกอิจิโกะเดินทางไปโซลโซไซตี้ได้อย่างปลอดภัย เมื่อถึงที่นั่นทั้ง 4 คนได้เข้าต่อสู้กับ 13 หน่วยพิทักษ์อย่างหนักหน่วงเพื่อขัดขวางการประหารลูเคียจากข้อหาที่ส่งมอบพลังวิญญาณให้บุคคลอื่น การเคลื่อนไหวของพวกอิจิโกะในเซย์เรย์เทย์ ทำให้เกิดคดีที่ ไอเซ็น โซสึเกะ หนึ่งในหัวหน้าหน่วยของ 13 หน่วยพิทักษ์ถูกลอบสังหารกลางเมือง คดีนี้ทำให้ 13 หน่วยพิทักษ์เกิดความปั่นป่วนอย่างหนัก และพวกอิจิโกะที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้ต้องถูกจับเข้าห้องขังในฐานะนักโทษ ด้วยความช่วยเหลือของโยรุอิจิ อิจิโกะสามารถล้มการประหารลูเคียและเอาชนะเบียคุยะได้สำเร็จ แต่การต่อสู้ระหว่างอิจิโกะและเบียคุยะกลับทำให้พลังลึกลับบางอย่างที่อยู่ในตัวอิจิโกะตื่นขึ้นพร้อมกันด้วย
เหตุการณ์ทั้งหมดในเซย์เรย์เทย์ทำให้ไอเซ็นตัดสินใจเผยตัวตนที่แท้จริง และเผยแผนการทั้งหมดที่ตนวางไว้ ไอเซ็นวางแผนที่จะชิง โฮเงียคุ วัตถุพิเศษที่จะทำให้เส้นแบ่งเขตพลังวิญญาณของยมทูตและฮอลโลว์พังทลายลง แลกกับการได้รับพลังที่เหนือกว่ายมทูตและฮฮล์โลว์มาครอบครอง วัตถุนี้ถูกสร้างขึ้นโดย อุราฮาระ คิสึเกะ แต่มันอันตรายมากเกินกว่าที่สติปัญญาของเขาจะทนมันไหว อุราฮาระจึงใช้วิธีการแทรกซึมเข้าดวงวิญญาณและฝังโฮเงียคุไว้ในร่างวิญญาณตนหนึ่ง ซึ่งวิญญาณตนนั้นคือ คุจิกิ ลูเคีย แต่ทว่าคุจิกิลูเคียกลับหายตัวไปในโลกมนุษย์ ไอเซ็นจึงเข้าสังหารวังกลาง 46 ห้อง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นศาลสูงสุดที่คอยควบคุมทุกสิ่งอย่างในโซลโซไซตี้ลงทั้งหมด และออกคำสั่งส่งยมทูตและหน่วยไล่ล่าออกตามหาลูเคียในโลกมนุษย์จนพบตัวสำเร็จ พริบตาที่พบตัวไอเซ็นจึงออกคำสั่งให้เบียคุยะ และเร็นจิพาตัวกลับมารับโทษประหาร ไอเซ็นตั้งใจใช้โซเคียคุทำให้วิญญาณลูเคียระเหิดไป เพื่อที่จะได้ชิงโฮเงียคุมาเป็นของตัวเอง แต่เมื่อการประหารล่มไอเซ็นจึงใช้วิธีแทรกซึมเข้าดวงวิญญาณแบบเดียวกับที่อุราฮาระทำ และเขาก็ชิงโฮเงียคุได้สำเร็จ ก่อนแปรพักตร์ไปเป็นศัตรูและอาศัยอยู่ในลาสนอร์เช่ส์ ป้อมปราการแห่งใหม่ที่เขาสร้างขึ้นใน ฮูเอโกมุนโด้ โลกของเหล่าฮอลโลว์ และสร้างกองทัพฮอล์โลว์ถอดหน้ากาก "อาร์รันคาร์" เพื่อหวังทำลายโซลโซไซตี้ให้พังพินาศ
หลายเดือนหลังจากนั้น ฮิราโกะ ชินจิ ชายปริศนาได้ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าอิจิโกะเพื่อแนะนำตัวว่าเขาคือไวเซิร์ด และอิจิโกะคือหนึ่งในพวกของเขา ซึ่งจริงๆ แล้วพวกไวเซิร์ด คือกลุ่มยมทูตที่ถูกไอเซ็นใช้เป็นหนูทดลองการกลายสภาพเป็นฮอลโลว์เมื่อ 110 ปีก่อน แม้การทดลองของไอเซ็นจะล้มเหลว แต่อุราฮาระกลับทำให้พวกฮิราโกะสามารถกลายเป็นไวเซิร์ดได้สำเร็จ ฮิราโกะเสนอวิธีการสยบพลังบางอย่างที่เรียกว่าฮอลโลว์ในตัวอิจิโกะ แต่อิจิโกะขอปฏิเสธที่จะเข้าเป็นพวกและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่นานหลังจากนั้นอาร์รันคาร์กลุ่มแรกถูกส่งมายังโลกมนุษย์เพื่อมาดูลาดเลาและคอยสังเกตการณ์อิจิโกะ แต่อุลคิโอร่าหนึ่งในอารันคาร์ที่เดินทางมาได้ตัดสินว่าอิจิโกะเป็นเพียงขยะที่ไม่ควรค่าแก่การสังหาร ไอเซ็นจึงปล่อยให้อิจิโกะมีชีวิตไปพลางก่อน อิจิโกะสิ้นหวังกับพลังยมทูตที่บัดนี้เหมือนไม่ใช่พลังของตัวเอง จึงได้ละทิ้งหน้าที่ตัวแทนยมทูตและเก็บตัวเงียบนานแรมเดือน
โซลโซไซตี้ที่บัดนี้ถูกควบคุมโดย ยามาโมโตะ เก็นริวไซ ชิเงคุงิ หัวหน้าใหญ่ของ 13 หน่วยพิทักษ์เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงได้ส่งลูเคีย เร็นจิ รวมถึงยมทูตอีก 4 คนคือ มาดาราเมะ อิกคาคุ, อายาเซกาว่า ยูมิจิกะ, มัตสึโมโต้ รันงิคุ และฮิสึกายะ โทชิโร่ มาอยู่ประจำเมืองคาราคุระเพื่อคอยคุ้มกันโลกมนุษย์จากการบุกของเหล่าอารันคาร์และไอเซ็น ระหว่างนั้นเองเก็นริวไซได้คอยสืบหาเบาะแสของไอเซ็นจากที่ซ่อนตัวในวังกลาง 46 ห้อง จนได้รู้ความจริงว่าเป้าหมายที่แท้จริงของไอเซ็น คือการสร้างกุญแจราชันย์ โอเค็น กุญแจที่สามารถนำทางไปยังวังแห่งราชันย์ที่ซ่อนอยู่ในโซลโซไซตี้ได้ และวัตถุดิบคือเมืองคาราคุระพร้อมผู้คนและวิญญาณบนโลกมนุษย์ทั้งเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้ไอเซ็นทำตามแผนได้สำเร็จและสามารถต่อกรกับพวกอารันคาร์ได้ อิจิโกะจึงยอมขอความช่วยเหลือจากเหล่าไวเซิร์ดในการคุมพลังฮอลโลว์ แช้ดขอความช่วยเหลือจากอุราฮาระในการฝึกใช้พลังเพิ่มเติม อุราฮาระจึงขอให้เร็นจิช่วยใช้บังไคฝึกพลังให้ อิโนะอุเอะเองก็เดินทางไปยังโซลโซไซตี้เพื่อฝึกพลังกับลูเคียที่นั่น อุริวได้รับข้อเสนอจากริวเค็นเพื่อฟื้นพลังควินซีที่เขาเสียไปในระหว่างการต่อสู้ในโซลโซไซตี้ให้
แต่ระหว่างที่พวกอิจิโกะฝึกอย่างหนัก และโซลโซไซตี้เองก็วางแผนรับมือไอเซ็นอยู่นั้น ไอเซ็นได้เดินเกมบุกโลกมนุษย์อีกครั้งโดยส่งกองทัพอารันคาร์มาทั้งหมด 5 ตน ทั้ง 5 เข้าถล่มพวกอิจิโกะอย่างหนักหน่วง แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อุลคิโอร่าดักโจมตีอิโนะอุเอะระหว่างทางที่กำลังเดินทางกลับโลกมนุษย์ และบังคับให้เธอเดินทางไปฮูเอโกมุนโด้ไปด้วยกัน อิโนะอุเอะไม่มีทางเลือกเลยยอมเดินทางไปด้วย เก็นริวไซที่รู้เรื่องจึงตัดสินให้อิโนะอุเอะคือผู้ทรยศ ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือทุก ๆ อย่าง และเรียกหน่วยฮิสึกายะกลับมาเตรียมความพร้อมก่อนสงครามฤดูหนาวจะเริ่มต้น อิจิโกะไม่มีทางเลือกจึงไปขอให้อุราฮาระเปิดประตูผ่านโลกไปยังฮูเอโกมุนโด้ให้ อิจิโกะ ซาโดะ และอุริว ทั้งสามคนจึงเดินทางไปฮูเอโกมุนโด้เพื่อชิงตัวอิโนะอุเอะกลับมาด้วยกัน ระหว่างที่กำลังเดินทางไปลาสนอร์เช่ส์ อิจิโกะได้พบกับเนล อาร์รันคาร์เด็กที่อาสาพาไปลาสนอร์เช่ส์ให้ รวมถึงลูเคียและเร็นจิได้เดินทางตามมาสมทบภายหลังด้วย และแล้วสงครามในลาสนอร์เช่ส์ก็เริ่มต้นขึ้น พวกอิจิโกะต่างต่อสู้กับเอสปาด้าตนแล้วตนเล่า จนในที่สุดก็ปราชัยให้กับเหล่าเอสปาด้ากันเกือบทั้งหมด
พริบตาที่อิจิโกะกำลังจะพ่ายแพ้ต่อเอสปาด้า ซาราคิ เคมปาจิ ก็ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเขา ซาราคิบอกว่าเก็นริวไซออกคำสั่งให้ยมทูต 8 คนบุกเข้าฮูเอโกมุนโด้ เพื่อช่วยอิจิโกะชิงตัวอิโนะอุเอะกลับมาและคอยจัดการเหล่าเอสปาด้าจากข้างใน แต่ทว่านั่นคือกลลวงของไอเซ็นที่จะขังกลุ่มตัวแทนยมทูตไว้ในฮูเอโกมุนโด้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีหัวหน้าหน่วยติดเบ็ดด้วยอีก 4 คน ด้วยกำลังของ 13 หน่วยพิทักษ์ที่หายไปเกินครึ่ง ทำให้ไอเซ็นตัดสินใจบุกเมืองคาราคุระทันที เก็นริวไซที่รู้แผนการทั้งหมดของไอเซ็นจึงได้สั่งให้อุราฮาระเตรียมการให้เมืองคาราคุระเป็นสนามรบ โซลโซไซตี้ใช้วิธีการสร้างเมืองคาราคุระของปลอมขึ้นที่เมืองลูคอนและใช้เท็นไกเค็ตจูย้ายเมืองปลอมมาสลับกับเมืองจริงบนโลกมนุษย์ ไอเซ็นที่รู้เรื่องจึงตัดสินใจที่จะฆ่าเหล่ายมทูตทั้งหมดที่นี่ก่อนบุกเข้าโซลโซไซตี้เพื่อทำลายเมืองคาราคุระและโซลโซไซตี้ไปพร้อม ๆ กัน อิจิโกะที่สามารถพิชิตอุลคิโอร่าได้จึงถูกเบียคุยะส่งกลับมาเข้าร่วมศึกที่โลกมนุษย์ เพราะอิจิโกะคือไพ่ตายหนึ่งเดียวที่จะสามารถโค่นไอเซ็นลงได้ด้วยการที่เขาไม่เคยเห็นการปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณของไอเซ็นมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว
อิจิโกะเข้าต่อสู้กับไอเซ็นอย่างหนักแต่ก็ต้องพ่ายไป อิจิมารุจึงสั่งให้อิจิโกะหนีจากสงครามนี้ไปก่อนจะบุกเข้าโซลโซไซตี้เพื่อทำตามประสงค์ อิจิโกะทำตัวไม่ถูกว่าจะไปทางไหนต่อก็ถูกคุโรซากิ อิชชิน อดีตยมทูตผู้เป็นพ่อเตือนสติ และให้เข้าไปปกป้องเมืองคาราคุระที่อยู่ข้างในโซลโซไซตี้เสีย แต่ระหว่างทางที่ไปโซลโซไซตี้ อิชชินได้สั่งให้อิจิโกะเข้าไปถามหาพลังขั้นสุดท้ายจากดาบฟันวิญญาณของตน อิจิโกะใช้เวลาที่ได้รับพิชิตดาบฟันวิญญาณของตนได้สำเร็จ และได้รับเคล็ดวิชาที่จะใช้เผด็จศึกกับไอเซ็นมาครอง และแล้วการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของอิจิโกะกับไอเซ็นจึงเริ่มขึ้น อิจิโกะจึงปลดปล่อยพลังขั้นสุดท้ายที่ต้องแลกกับพลังทั้งหมดของตัวเองเพื่อเอาชนะไอเซ็นให้จงได้ แต่สุดท้ายพลังที่ปล่อยไปกลับล้มเหลว ไอเซ็นฟื้นฟูเต็มสภาพแบบใกล้เคียงความเป็นอมตะ พริบตาที่ไอเซ็นกำลังจะพิชิตชัย เขาก็ถูกผนีกที่อุราฮาระวางไว้เข้าผนีกร่างกายของตัวเองจนไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป หลายวันผ่านไปทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่สภาพเดิม แต่สำหรับอิจิโกะกระบวนการสูญเสียพลังยมทูตได้เริ่มขึ้น อิจิโกะจึงเดินทางกลับบ้านเพื่อใช้ชีวิตตามปกติโดยมีลูเคียมาส่ง และเมื่อพลังหายไปจนหมด เขาก็ไม่สามารถมองเห็นวิญญาณได้อีกเลย
สองปีต่อมา อิจิโกะ เด็กหนุ่มมัธยมปลายปี 3 วัย 17 ที่ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไป ได้รับการติดต่อจากชายปริศนาที่ชื่อว่า งินโจ คูโก ให้อิจิโกะมาเข้าร่วมองค์กร เอ็กซ์คิวชัน เพื่อฝึกให้อิจิโกะเป็นฟูลบริงเกอร์คนใหม่ แต่แท้จริงแล้วนั่นคือแผนที่จะขโมยพลังวิญญาณของอิจิโกะที่เป็นไวเซิร์ดเพื่อมาพัฒนาให้พลังของฟูลบริงเกอร์ก้าวกระโดดขึ้นไปจากเดิมอีกขั้น อิจิโกะเสียใจที่ถูกหักหลังและสิ้นหวังกับทุกสิ่งที่เขารู้มา พริบตาที่ความสิ้นหวังจบลง ดาบปริศนาก็แทงทะลุร่างอิจิโกะ ทำให้อิจิโกะได้รับพลังยมทูตกลับคืนตามคำสั่งเก็นริวไซ งินโจวเห็นท่าไม่ดีจึงได้อธิบายความลับของ "ตราตัวแทนยมทูต" ว่าแท้จริงแล้วอุปกรณ์นี้เป็นอุปกรณ์สำหรับติดตามตัวบุคคลที่เป็นยมทูตโดยไม่ได้รับอนุมัติจากโซลโซไซตี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการของ อุคิทาเกะ จูจิโร่ หัวหน้าหน่วยที่ 13 ที่ใช้อุปกรณ์นี้คอยติดตามตัวเพื่อควบคุมให้งินโจว ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนยมทูตรุ่นแรกให้อยู่ใต้อำนาจของตน งินโจวที่รู้เรื่องจึงทำลายอุปกรณ์ทิ้งและหลบหนีหายไปในโลกมนุษย์ อุคิทาเกะรู้ดีว่าถ้ามอบตราตัวแทนให้อิจิโกะไว้ งินโจวจะต้องติดต่ออิจิโกะแน่ และตนจะให้โซลโซไซตี้ใช้โอกาสนี้ฆ่าทั้งงินโจวและอิจิโกะลงพร้อมกัน แต่ด้วยเหตุการณ์ไอเซ็นทำให้เก็นริวไซตัดสินใจไม่ฆ่าอิจิโกะ แต่ให้คอยสังเกตการณ์ว่าอิจิโกะจะทำอย่างไรถ้าได้รู้ความจริง พริบตาที่ทุกคนเห็นอิจิโกะตั้งท่าสู้กับความมุ่งมั่นของงินโจว ทุกคนจึงน้อบรับคำตัดสินและถอนภารกิจสังหารงินโจวกับอิจิโกะลง ปล่อยให้อิจิโกะจัดการกับงินโจวตามลำพัง และอิจิโกะก็ทำได้สำเร็จและยอมรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
หลายเดือนหลังจากนั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ความเคลื่อนไหวผิดปกติในโซลโซไซตี้และฮูเอโกมุนโด้ กำลังจะนำพาทั้งสามโลกเข้าสู่สงครามสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความตายไม่รู้จบ และความจริงสุดท้ายของอิจิโกะก็จะปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกคน
โลกและมิติเขตแดน
[แก้]โลก(ผืนดินปกติ) |
---|
สถานที่ผู้มีกายหยาบและใช้ชีวิตปกติของอิจิโกะ เป็นผืนดินบนโลก ตามปกติโดยหากเสียชีวิต ถ้าก่อนตายเป็นคนชั่วก็จะถูกพราย/ยมทูตส่งไปยังนรกแต่ถ้าเป็นคนดีก็จะได้ไปโซลโซไซตี้ |
นรก |
ฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซลเชี่ยลลิตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก ในเรื่องเทพมรณะนี้ เหล่าวิญญาณที่ทำชั่วในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อได้กลายสภาพเป็นฮอลโลว์ และได้รับการชำระบาปจากยมทูตแล้ว ประตูนรกก็จะปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นๆ ลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์เท่านั้น นั่นคือบาปหลังความตาย เช่น ฆ่าคนตายในตอนที่เป็นฮอลโลว์ แต่บาประหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องไปชดใช้ในนรก |
โซลโซไซตี้ |
เป็นเขตภายหลังการตาย สวรรค์ระดับต่ำสุดที่มีบุญมากกว่าบาป ถ้าทำผิดอาจจะโดนพิพากษาไปนรกได้ โดยปกติ มิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาคมูลฐานเท่านั้นเอง
วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่โซล โซไซตี้ (อังกฤษ: Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" เป็นชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ โซล โซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นเทพพรายบนอาณาจักรองค์เรย์โอ ที่ลอยอยู่บนอวกาศ เหนือม้านพลังทั้ง 72 ชั้น ของเซย์เรย์เทย์ เมื่อสร้างบุญเพิ่มในโซลโซไซตี้ หรือไปเกิดมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ ลูคอนไก (ญี่ปุ่น: 流魂街; โรมาจิ: Rukongai ) ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณพรายเร่ร่อนกับเซย์เรย์เทย์ (ญี่ปุ่น: 瀞霊廷; โรมาจิ: Seireitei ) ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่าพราย ยมทูต และตระกูลขุนนางในโซล โซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่พราย ภูติ ยมทูต แต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซย์เรย์เทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกเรียกว่า "เรียวกะ" หรือผู้บุกรุกนั้นเองซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซย์เรย์เทย์ |
ฮูเอโกมุนโด้ |
ฮอลโลว์ที่หนีมายังโลกทะเลทรายอันว่างเปล่าที่มีแต่ยอดของต้นไม้งอกออกมาเท่านั้น พวกฮอลโลว์จะถูกไล่ลงไปอาศัยที่ใต้ดิน ส่วนพวกอารันคาร์จะครอบครองโลกเบื้องบนและปกครองเหล่าฮอลโลว์เบื้องล่าง นอกจากนี้แล้วพวกอารันคาร์ยังถูกปกครองโดยเอสปาด้า |
เซ็นไกมง |
ประตูผ่านมิติไปยังโซลโซไซตี้ ผ่านได้เฉพาะพรายกับยมทูตเท่านั้น เพราะโซลโซไซตี้เป็นโลกแห่งอณูวิญญาณมนุษย์จึงไม่สามารถผ่านไปได้ ที่พวกอิจิโกะไปช่วยลูเคียที่โซลโซไซตี้ได้เพราะอุราฮาร่าติดตั้งเครื่องเปลี่ยนประจุวิญญาณไว้ที่ประตูผ่านโลก |
อาวุธและอุปกรณ์
[แก้]ดาบฟันวิญญาน
[แก้]ดาบที่มีหลากหลายแบบตามกำลังและพลังที่แอบแผงในร่างและมีการพัฒนาการไปได้อีกหลายระดับ เรียนชื่อของดาบที่แปลงสภาพจากแรงดันวิญญาณว่าซัมปาคุโต (ดาบฟันวิญญาณ) อาวุธที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับเหล่ายมทูต ซัมปาคุโตจะแตกต่างจากดาบธรรมดา ตรงที่ดาบแต่ละเล่มนั้นสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้สามแบบ คือ
ชั้นพลัง | ชื่อ | ลักษณะโดยทั่วไป |
---|---|---|
1 | ดาบธรรมดา | ดาบคะตะนะธรรมดา แตกต่างกันตามรูปร่าง มีโอกาสพัฒนาตามพลังผู้ใช้งาน |
2 | ปลดปล่อยขั้นต้น (Shikai; ชิไค) | ปลดปล่อยขั้นต้นของยมทูตส่วนใหญ่เป็นอาวุธมือที่มีรูปร่างเฉพาะตน โดยจะเปลี่ยนสภาพไปจากเดิมแตกต่างลักษณะอัตลักษณ์ หรือเปลี่ยนเป็นความสามารถทางกายภาพ การควบคุม หรือนอกจากนี้อีกมาก พื้นฐานของการปลดปล่อยคือผู้ใช้ต้องรู้ชื่อของดาบ วิธีคือ ต้องทำให้ผู้ใช้กับดาบฟันวิญญาณสื่อสารกันจนเชื่อใจกันได้ โดยรองหัวหน้าหน่วยขึ้นไปทุกคนจะใช้ได้อย่างชำนาญ ถึงดาบหักก็จะฟื้นตัวกลับมาถึงคืนสภาพกลับมาเป็นปกติ แต่ถ้าตอนสู้ผู้ใช้พูดชื่อดาบผิด ดาบจะน้อยใจแสดงพลังไม่เต็มที่ |
3 | ปลดปล่อยสวัสดิกะ (Bankai; บังไค) | ปลดปล่อยสวัสดิกะ เป็นขั้นสุดท้ายในการปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณ มีพลังสูงสุดตามอัตลักษณะของพลัง มีอำนาจเสริมทั้งกายภาพและลักษณะเฉพาะตัวเช่นพิษ ควบคุมอากาศ แปลงสภาพบุคคลไปเป็นลักษณะอื่นเป็นต้น การจะใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะได้คือ ผู้ใช้กับดาบฟันวิญญาณสื่อสารกันได้ถึงขั้นสร้างตัวตนรูปลักษณ์ให้ดาบฟันวิญญาณเป็นสิ่งมีชีวิตได้ กับดาบฟันวิญญาณจะมอบบททดสอบให้ผู้ใช้ที่แตกต่างกันไป เพื่อหาชื่อดาบขั้นปลดปล่อย การปลดสภาพขั้นนี้คือถ้าผู้ใช้สั่งหยุดใช้หรือหมดสติ ตาย ถ้าผู้ใช้ผ่านบททดสอบดาบฟันวิญญาณจะมอบชื่อเต็มให้ แต่ถ้าดาบขั้นนี้หักจะฟื้นคืนไม่ได้(มีแค่บางคนที่ฟื้นคืนได้เท่านั้น) หรืออีกวิธีผู้นำหน่วย 0 คือผู้ตั้งชื่อดาบจะมอบชื่อจริงดาบให้ |
ตัวละคร
[แก้]สื่อบันเทิง
[แก้]นอกจากนี้ เทพมรณะได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน สองอนิเมะโอวีเอ สี่อภาพยนตร์ ละครเพลง วิดีโอเกม และการ์ดเกม โดยภาพยนตร์การ์ตูนถูกทำเป็นสองภาค ภาคแรก เทพมรณะ ออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ในประเทศไทยฉายที่ช่อง ทรู สปาร์ค ลิขสิทธิ์ดีวีดีและวีซีดีในประเทศไทยโดย โรส มีเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ปัจจุบันได้เปลี่ยนผู้ถือลิขสิทธิ์เป็นต่างประเทศ เพื่อออกฉายผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ เน็ตฟลิกซ์ อ้ายฉีอี้ ปีลีปีลี ทรูไอดี แอมะซอน ไพร์ม วิดีโอ โดยที่มีเสียงพากย์ไทยในแพลตฟอร์ม ทรูไอดี ที่ใช้เสียงพากย์ของช่องทรูสปาร์ค และ แอมะซอน ไพร์ม วิดีโอ ที่ใช้เสียงพากย์ของโรส มีเดียทั้งหมด และภาคที่ 2 เทพมรณะ: สงครามเลือดพันปี ออกอากาศทางสถานีทีวีโตเดียวเช่นกัน ในไทยถือลิขสิทธิ์โดยผู้ถือลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ โดยออกฉายผ่านทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่นกัน ทั้งนี้ในภาค สงครามเลือดพันปี ได้มีการจัดทำเสียงพากย์ไทยโดย บริษัท เอฟฟ์ จำกัด หรือการ์ตูน คลับ โดยใช้นักพากย์เดิมของ โรส มีเดีย บางส่วน ร่วมกับนักพากย์ของการ์ตูน คลับ
รายชื่อตอนในอนิเมะเทพมรณะ
[แก้]เพลงเปิด-ปิดในอนิเมะเทพมรณะ
[แก้]บลีช เทพมรณะ (2547-2555)
[แก้]เพลงเปิด (OPENING)
[แก้]ลำดับ | ชื่อเพลง | ผู้ร้อง | ตอนที่ใช้ |
---|---|---|---|
1 | Asterisk | Orange Range | 1-25 |
2 | D-tecnoLife | UVERworld | 26-51 |
3 | Ichirin no Hana | High and Mighty Color | 52-74 |
4 | TONIGHT, TONIGHT, TONIGHT | BEAT CRUSADERS | 75-97 |
5 | Rolling Star | YUI | 98-120 |
6 | ALONES | Aqua Timez | 121-143 |
7 | After Dark | Asian Kung-Fu Generation | 144-167 |
8 | CHU-BURA | KELUN | 168-189 |
9 | VELONICA | Aqua Timez | 190-214 |
10 | Shoujo S | Scandal | 215-242 |
11 | Anima Rossa | Porno Graffiti | 243-265 |
12 | Change | Miwa | 266-291 |
13 | Ranbu no Melody | ชิโดะ | 292-316 |
14 | Blue | ViVid | 317-342 |
15 | Harukaze | Scandal | 343-366 |
เพลงปิด (ENDING)
[แก้]ลำดับ | ชื่อเพลง | ผู้ร้อง | ตอนที่ใช้ |
---|---|---|---|
1 | Life is Like a Boat | Rie Fu | 1-13 |
2 | Thank You!! | HOME MADE Kazoku | 14-25 |
3 | Houkiboshi | Younha | 26-38 |
4 | happypeople | Skoop on Somebody | 39-51 |
5 | LIFE | YUI | 52-63 |
6 | My Pace | SunSet Swish | 64-74 |
7 | Hanabi | Ichimono Gakari | 75-86 |
8 | MOVIN!! | Takacha | 87-97 |
9 | Baby It's You | JUNE | 98-109 |
10 | Sakura Biyori | Mai Hoshimura | 110-120 |
11 | Tsumasaki | Ore Ska Band | 121-132 |
12 | Daidai | Chatmonchy | 133-143 |
13 | Tane wo Maku Hibi | Atari Kousuke | 144-154 |
14 | Kansha | RSP | 155-167 |
15 | Orange | Lil'B | 168-176 |
16 | Gallop | pe'zmoku | 177-189 |
17 | Hitohira No Hanabira | Stereo Pony | 190-201 |
18 | Sky Chord ~Otona ni Naru Kimi he~ | Tsuji Shion | 202-214 |
19 | Kimi wo Mamotte, Kimi wo Aishite | Sambomaster | 215-229 |
20 | mad surfer | kenichi asai | 230-242 |
21 | Sakurabito | SunSet Swish | 243-255 |
22 | Tabidatsu Kimi e | RSP | 256-265 |
23 | Stay beautiful | DIGGY-MO' | 266-278 |
24 | Echoes | Universe | 279-291 |
25 | Last Moment | SPYAIR | 292-303 |
26 | Song for... | ROOKiEZ is PUNK'd | 304-316 |
27 | Aoi Tori | Blue Bird(Fumika) | 317- 329 |
28 | Haruka Kanata | UNLIMITS | 330- 342 |
29 | Re:pray | Aimer | 343-354 |
30 | Mask | Aqua Timez | 355- 366 |
บลีช เทพมรณะ: สงครามเลือดพันปี (2565-ปัจจุบัน)
[แก้]เพลงเปิด (OPENING)
[แก้]ลำดับ | ชื่อเพลง | ผู้ร้อง | ตอนที่ใช้ | วันที่ออกอากาศ |
---|---|---|---|---|
1 | Scar | Tatsuya Kitani | 2-13 | 11 ตุลาคม 2565 |
2 | STARS | w.o.d. | 14-26 | 8 กรกฎาคม 2566 |
3 | Kotoba ni Sezu Tomo (Without any words) | SIX LOUNGE | 27-39 | 5 ตุลาคม 2567 |
เพลงปิด (ENDING)
[แก้]ลำดับ | ชื่อเพลง | ผู้ร้อง | ตอนที่ใช้ | วันที่ออกอากาศ |
---|---|---|---|---|
Special ED | Rapport | Tatsuya Kitani | 1 | 11 ตุลาคม 2565 |
1 | Saihate | SennaRin | 2-13* | 18 ตุลาคม 2565 |
2 | Endroll | Yoh Kamiyama | 14-26 | 8 กรกฎาคม 2566 |
3 | MONOCHROME | suisoh | 27-39 | 5 ตุลาคม 2567 |
* สำหรับตอนที่ 13 เพลง Saihate ฉบับเต็มจะถูกฉายเฉพาะในเวอร์ชันฉาย 1 ชั่วโมง (ตอนที่ 12-13) ที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้ารับชมจากนอกประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเวอร์ชันที่ใช้ OST: Number One - Bankai โดย Shiro Sagisu เป็นเพลงปิดเลย
ภาพยนตร์
[แก้]ลำดับที่ | ประเภท | ชื่อตอน | วันที่เผยแพร่ |
---|---|---|---|
1 | OVA 1 | Bleach Memories in the Rain | 2547 |
2 | OVA 2 | Bleach The Sealed Sword Frenzy | 2548 |
3 | Bleach The Movie 1 | Bleach Memories of Nobody : ความทรงจำแห่งผู้ไร้ตัวตน | 16 ธันวาคม 2549 |
4 | Bleach The Movie 2 | Bleach The Diamond Dust Rebellion : อีกหนึ่งตัวตนของเฮียวรินมารุ | 22 ธันวาคม 2550 |
5 | Bleach The Movie 3 | Bleach Fade to Black, I call your name : แด่เธอผู้สิ้นสูญ | 13 ธันวาคม 2551 |
6 | Bleach The Movie 4 | Bleach The Hell Verse : ศึกผ่าโลกันตร์ | 4 ธันวาคม 2553 |
ละครเวที / ละครเพลง
[แก้]เทพมรณะ มีการแสดงในรูปแบบของละครเพลงโดยใช้ชื่อว่า ร็อก มิวสิเคิล บลีช ญี่ปุ่น: ロックミュージカル ブリーチ; โรมาจิ: rokku myūjikaru Burīchi อังกฤษ: Rock Musical Bleach
นวนิยาย
[แก้]ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ญี่ปุ่น | ประพันธ์ | วาดภาพ | สำนักพิมพ์ | ประเภท | ||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
วันที่เผยแพร่ | ISBN | |||||||
1 | Bleach Letters From the Other Side | 15 ธันวาคม 2547 | ISBN 4-08-703149-7[1] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | ไทโตะ คูโบะ | ชูเอชะ | นวนิยาย | |
2 | Bleach The Honey Dish Rhapsody | 30 ตุลาคม 2549 | ISBN 4-08-703173-X[2] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยาย | |||
3 | Bleach Memories of Nobody | 18 ธันวาคม 2549 | ISBN 4-08-703174-8[3] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยายดัดแปลง จากภาพยนตร์ | |||
4 | Bleach The DiamondDust Rebellion, Another Hyōrinmaru | 18 ธันวาคม 2550 | ISBN 4-08-703189-6[4] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยายดัดแปลง จากภาพยนตร์ | |||
5 | Bleach Fade to Black, I Call Your Name | 15 ธันวาคม 2551 | ISBN 4-08-703197-7[5] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยายดัดแปลง จากภาพยนตร์ | |||
6 | Bleach The Hell Verse | 6 ธันวาคม 2553 | ISBN 978-4-08-703234-5[6] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยายดัดแปลง จากภาพยนตร์ | |||
7 | Bleach Spirits Are Forever With You | 4 มิถุนายน 2555 | ISBN 978-4-08-703265-9[7] | เรียวโกะ นาริตะ | นวนิยาย | |||
8 | Bleach Spirits Are Forever With You II | ISBN 978-4-08-703266-6[8] | เรียวโกะ นาริตะ | นวนิยาย | ||||
9 | Bleach The Death Save The Strawberry | 4 กันยายน 2555 | ISBN 4-08-703272-7[9] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยาย | |||
10 | Bleach Beginning of the Revive of Tomorrow [10] | 4 สิงหาคม 2558 | ISBN 978-4-08-880525-2[11] | เรียวโกะ นาริตะ | นวนิยายสั้น | |||
11 | Bleach WE DO knot ALWAYS LOVE YOU | 27 ธันวาคม 2559 | ISBN 978-4-08-703412-7[12] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยาย | |||
12 | Bleach (ฉบับคนแสดง) | 4 กรกฎาคม 2017 | ISBN 978-4-08-321447-9[13] | มาโกโตะ มัตสึบาระ | นวนิยายดัดแปลง จากภาพยนตร์ | |||
13 | Bleach Can't Fear Your Own World | 4 สิงหาคม 2017 | ISBN 978-4-08-703424-0[14] | เรียวโกะ นาริตะ | นวนิยาย | |||
14 | Bleach Can't Fear Your Own World II | 2 พฤศจิกายน 2018 | ISBN 978-4-08-703464-6[15] | เรียวโกะ นาริตะ | นวนิยาย | |||
15 | Bleach Can't Fear Your Own World III | 4 ธันวาคม 2018 | ISBN 978-4-08-703466-0[16] | เรียวโกะ นาริตะ | นวนิยาย |
รายการอ้างอิง
[แก้]- ↑ "BLEACH 〜Letters From The Other Side〜" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH ―THE HONEY DISH RHAPSODY―" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "劇場版BLEACH ―MEMORIES OF NOBODY―" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "劇場版BLEACH The DiamondDust Rebellion もう一つの氷輪丸" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "劇場版BLEACH Fade to Black 君の名を呼ぶ" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "劇場版BLEACH 地獄篇" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH Spirits Are Forever With You 1" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH Spirits Are Forever With You 2" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH The Death Save The Strawberry" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ รวมอยู่ในหนังสือข้อมูลที่ชื่อ 13 BLADEs.
- ↑ "BLEACH 13 BLADEs. (ジャンプコミックス)" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH WE DO knot ALWAYS LOVE YOU" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH映画ノベライズ みらい文庫版" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH Can't Fear Your Own World 1" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH Can't Fear Your Own World 2" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.
- ↑ "BLEACH Can't Fear Your Own World 3" (ภาษาญี่ปุ่น). ชูเอชะ.