โยชูวา 1
โยชูวา 1 | |
---|---|
โยชูวา 2 → | |
หน้าของหนังสือโยชูวาในฉบับเลนินกราด (ค.ศ. 1008) | |
หนังสือ | หนังสือโยชูวา |
ภาคในคัมภีร์ฮีบรู | เนวีอีม |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ฮีบรู | 1 |
หมวดหมู่ | ผู้เผยพระวจนะยุคต้น |
ภาคในคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | พันธสัญญาเดิม |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | 6 |
โยชูวา 1 (อังกฤษ: Joshua 1) เป็นบทแรกของหนังสือโยชูวาในคัมภีร์ฮีบรูหรือในพันธสัญญาเดิมของคัมภีร์ไบเบิลในศาสนาคริสต์[1] ตามธรรมเนียมในศาสนายูดาห์เชื่อว่าหนังสือเขียนขึ้นโดยโยชูวาร่วมด้วยมหาปุโรหิตเอเลอาซาร์และฟีเนหัส[2][3] แต่นักวิชาการยุคปัจจุบันมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เฉลยธรรมบัญญัติซึ่งครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่หนังสือเฉลยธรรมบัญญัติถึงหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่ 2 เขียนโดยผู้เขียนศาสนายาห์เวห์ผู้รักชาติและศรัทธาในสมัยของโยสิยาห์กษัตริย์ยูดาห์นักปฏิรูปในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล[3][4] บทที่ 1 ของหนังสือโยชูวาเน้นไปที่ภารกิจของโยชูวาในฐานะผู้นำของชาวอิสราเอลหลังการเสียชีวิตของโมเสส[5] เป็นส่วนหนึ่งของตอนที่ประกอบด้วยโยชูวา 1:1–5:12 เกี่ยวกับการเข้าสู่ดินแดนคานาอัน[6]
ต้นฉบับ
[แก้]บทนี้เดิมเขียนด้วยภาษาฮีบรู แบ่งออกเป็น 16 วรรค
พยานต้นฉบับ
[แก้]บางสำเนาต้นฉบับในยุคต้นที่มีข้อความของบทนี้เป็นภาษาฮีบรูมีลักษณะเป็นต้นฉบับเมโซเรติก (Masoretic Text) ได้แก่ ฉบับไคโร (Codex Cairensis; ค.ศ. 895), ฉบับอะเลปโป (Aleppo Codex; ศตวรรษที่ 10) และ ฉบับเลนินกราด (Leningrad Codex; ค.ศ. 1008)[7] ชิ้นส่วนที่มีข้อความบางส่วนของบทนี้ในภาษาฮีบรูถูกพบในม้วนหนังสือเดดซี ได้แก่ XJoshua (XJosh, X1; 50 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งมีวรรค 9–12 หลงเหลืออยู่[8][9][10]
ต้นฉบับโบราณที่หลงเหลืออยู่ของคำแปลเป็นภาษากรีกคอยนีที่รู้จักในชื่อเซปทัวจินต์ (ทำขึ้นในช่วงไม่กี่ศตวรรษสุดท้ายก่อนคริสตกาล) ได้แก่ ฉบับวาติกัน (Codex Vaticanus; B; B; ศตวรรษที่ 4) และฉบับอะเล็กซานเดรีย (Codex Alexandrinus; A; A; ศตวรรษที่ 5)[11][a] ชิ้นส่วนของเซปทัวจินต์ภาษากรีกที่มีบทนี้ถูกพบในต้นฉบับอย่างสำเนาต้นฉบับวอชิงตัน 1 (Washington Manuscript I; คริสต์ศตวรรษที่ 5) และพบฉบับย่อของเซปทัวจินต์ในม้วนโยชูวาที่มีภาพประกอบ[13][14]
การอ้างอิงในพันธสัญญาเดิม
[แก้]วิเคราะห์
[แก้]เรื่องเล่าการเข้าสู่ดินแดนคานาอันของชาวอิสราเอลประกอบด้วยวรรค 1:1 ถึง 5:12 ของหนังสือโยชูวา และมีโครงเรื่องดังต่อไปนี้:[16]
- A. การเตรียมเข้าแผ่นดิน (1:1–18)
- 1. พระบัญชาต่อโยชูวา (1:1–9)
- 2. บัญชาต่อเหล่าผู้นำ (1:10–11)
- 3. การสนทนากับเผ่าตะวันออก (1:12–18)
- B. ราหับและผู้สอดแนมในเยรีโค (2:1–24)
- 1. คำสั่งถึงผู้สอดแนม (2:1a)
- 2. การลวงกษัตริย์แห่งเยรีโค (2:1b–7)
- 3. คำสาบานต่อราหับ (2:8–21)
- 4. รายงานถึงโยชูวา (2:22–24)
- C. ข้ามแม่น้ำจอร์แดน (3:1–4:24)
- 1. การเตรียมการในช่วงต้นเพื่อข้ามแม่น้ำ (3:1–6)
- 2. บัญชาในการข้ามแม่น้ำ (3:7–13)
- 3. การข้ามแม่น้ำอย่างอัศจรรย์: ส่วนที่ 1 (3:14–17)
- 4. ศิลาจารีกสิบสองก้อน: ส่วนที่ 1 (4:1–10a)
- 5. การข้ามแม่น้ำอย่างอัศจรรย์: ส่วนที่ 2 (4:10b–18)
- 6. ศิลาจารีกสิบสองก้อน: ส่วนที่ 2 (4:19–24)
- D. การเข้าสุหนัตและพิธีปัสกา (5:1–12)
- 1. ความกลัวของชาวคานาอัน (5:1)
- 2. การเข้าสุหนัต (5:2–9)
- 3. พิธีปัสกา (5:10–12)
พระบัญชาต่อโยชูวา (1:1–9)
[แก้]ส่วนนี้เป็นการเปลี่ยนผ่านจากเรื่องเล่าการเร่ร่อนของชาวอิสราเอลในถิ่นทุรกันดารไปสู่การตั้งถิ่นฐานในดินแดนคานาอันซึ่งพระยาห์เวห์ทรงให้สัญญากับประชากรของพระองค์ (วรรคที่ 3-4; เทียบกับปฐมกาล 15:17-21; อพยพ 3:17; เฉลยธรรมบัญญัติ 1:7-8) ในฐานะบทโหมโรงของหนังสือโยชูวา[17] โมเสสนำชาวอิสราเอลมาตั้งแต่การอพยพจากอียิปต์ผ่านช่วงเวลาในถิ่นทุรกันดาร แต่ตัวโมเสสเองจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินแห่งพระสัญญา ส่วนโยชูวาจะได้เข้าไป ดังนั้นพระบัญชาต่อโยชูวาในการสืบทอดตำแหน่งผู้นำถัดจากโมเสสจึงเป็นจุดเน้นของเรื่องเล่านี้โดยอ้างถึงการเสียชีวิตของโมเสสที่เชื่อมโยงกับความปิดท้ายของหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ (หนังสือเล่มสุดท้ายของโทราห์)[5][17] ความสัมพันธ์ระหว่างโมเสสและโยชูวามีบันทึกไว้เป็นอย่างดีในอพยพ 17:8–16; กันดารวิถี 27:12–23 และหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ (1:37–38; 3:21–28; 31:1–23; 34:9)[17] คำกล่าวแรกของบทนี้ (วรรคที่ 2–9) คือพระบัญชาของพระเจ้าต่อโยชูวาในการข้ามแม่น้ำจอร์แดน เพื่อที่ชาวอิสราเอลจะได้เข้าครอบครองดินแดน (วรรคที่ 6) และส่งมอบเอกสิทธิ์กับหน้าที่ของโมเสสให้กับโยชูวา[5][17] องค์ประกอบของการส่งมอบนี้ได้แก่
- กำลังใจต่อโยชูวา (วรรคที่ 6, 7, 9)
- ภารกิจในการยึดครองดินแดนเพื่อประชาชน (วรรคที่ 6) โดยมีความหมายถึงการแบ่งดินแดนให้กับเผ่าต่าง ๆ (โยชูวา 13–19)
- คำรับรองว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับเขา (วรรคที่ 9)
เหล่านี้เป็นการย้อนถึงบัญญัติเกี่ยวกับ 'กษัตริย์' (เฉลยธรรมบัญญัติ 17:14–20) ซึ่งหมายถึงทุกคนที่จะเป็นผู้นำในอิสราเอล[17] ตำแหน่งพิเศษของโยชูวาคือพระสัญญาของพระยาห์เวห์เรื่องการทรงสถิตอยู่เหนือโยชูวาโดยเฉพาะ (วรรคที่ 9) ในขณะที่โยชูวางตัวเองอยู่ภายใต้อำนาจแห่งบัญญัติของพระเจ้าที่ทรงประทานแก่โมเสส (วรรคที่ 7)[17]
วรรคที่ 1
[แก้]- ต่อมาหลังจากที่โมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์สิ้นชีวิตแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาบุตรนูนผู้ช่วยโมเสสว่า[18]
- "ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์" (עבד יהוה, ‘e-ḇeḏ Yah-weh[19]): วลีนี้แสดงถึงทั้งความสัมพันธ์และความรับผิดชอบ และยังใช้ในความอื่น ๆ เกี่ยวกับโมเสส (อพยพ 14:31; เฉลยธรรมบัญญัติ 34:5) และที่เกี่ยวกับกษัตริย์ดาวิด (2 ซามูเอล 7:5)[17]
- "ผู้ช่วยโมเสส": จากภาษาฮีบรู: משרת משה, mə-šā-rêṯ mō-šeh[19] "มนตรี" หรือ "ผู้ช่วย" ของโมเสส "ผู้รับใช้โมเสส"[20] นี่เป็นคำเรียกฐานะของโยชูวาที่ใช้มาอย่างต่อเนื่องในโทราห์ (อพยพ 24:13; 33:11; กันดารวิถี 11:28) เป็นบทบาทสำคัญโดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการทรงสถิตของพระเจ้าเหนือเขา และเป็นเหตุผลสำคัญในการตั้งให้เขาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของโมเสส (ภายหลังหลังได้รับการยืนยันโดยการวางมือของโมเสสบนโยชูวา; เฉลยธรรมบัญญัติ 34:9)[20] จากฐานะที่เป็น 'รองจากโมเสส' โยชูวาจึงได้รับบัญชาให้แทนที่โมเสส[17] ซึ่งมีการกล่าวซ้ำอย่างชัดเจนอีกครั้งในวรรคที่ 5 (เปรียบเทียบกับอพยพ 3:12 สำหรับโมเสส)[5] เมื่อถึงบั้นปลายชีวิต ในที่สุดโยชูวาจึงได้รับการเรียกว่าเป็น "ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์" (โยชูวา 24:29)[20]
วรรคที่ 2
[แก้]- "โมเสสผู้รับใช้ของเราสิ้นชีวิตแล้ว บัดนี้เจ้าและชนชาตินี้ทั้งหมดจงลุกขึ้นข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ ไปยังแผ่นดินซึ่งเรายกให้พวกเขา คือประชาชนอิสราเอล"[21]
- "โมเสสผู้รับใช้ของเราสิ้นชีวิตแล้ว": การเสียชีวิตของโมเสส (เฉลยธรรมบัญญัติ 34) เป็นสิ่งที่เตรียมไว้เพื่อการบัญชาแก่โยชูวา เพราะพระเจ้าไม่อนุญาตให้โมเสสเข้าไปในแผ่นดินแห่งพระสัญญา (เฉลยธรรมบัญญัติ 32:48–52)[5]
โยชูวารับพระบัญชา (1:10–18)
[แก้]ในวรรคที่ 10–11 โยชูวาบัญชาครั้งแรกแก่ 'เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของประชาชน' (สันนิษฐานว่าเป็นบทบาทเดียวกับในอพยพ 5:10-19; เลือกขึ้นมาในกันดารวิถี 1:16, เฉลยธรรมบัญญัติ 1:15.) เพื่อเตรียมแต่ละเผ่าสำหรับการทำศึก (เฉลยธรรมบัญญัติ 11:31)[17] วรรคที่ 12–15 บันทึกคำกล่าวของโยชูวาถึง 'เผ่าข้ามจอร์แดน' อันได้แก่ เผ่ารูเบน เผ่ากาด และเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า ซึ่งตั้งอาณาเขตของตนบนฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน (เปรียบเทียบกับกันดารวิถี 32; เฉลยธรรมบัญญัติ 3:12-21) ว่าพวกเขาต้องส่งคนไปรบเพื่อชนเผ่าอื่นเพื่อพิชิตดินแดนฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนและจะกลับมาได้แล้วการพิชิตเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น[22][23] เรื่องนี้ได้ถูกกล่าวถึงอีกครั้งในโยชูวา 22 โดยเป็นการสรุปส่วนหลักของหนังสือ[24] คำตอบของเผ่าเหล่านี้ในวรรคที่ 16–18 เป็นการสะท้อนถึงคำรับรองของพระเจ้าในวรรคที่ 1–9 และนำข้อสรุปมาสู่บทนี้[25]
วรรคที่ 15
[แก้]- "จนกว่าพระยาห์เวห์จะประทานที่พักแก่พี่น้องของท่านดังที่ประทานแก่ท่าน ทั้งให้เขาได้ยึดครองแผ่นดินซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแก่เขา แล้วท่านจึงจะกลับไปยังแผ่นดินที่ท่านยึดครองและถือไว้เป็นกรรมสิทธิ์ คือแผ่นดินซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ได้ให้แก่พวกท่านที่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นทางทิศตะวันออก"[26] หรือ
- "ที่พัก": เป็นแนวคิดหลักทางเทววิทยาสำหรับเป้าหมายของการพิชิต (เช่นเดียวกับในวรรค 12; เปรียบเทียบกับเฉลยธรรมบัญญัติ 12:9), 'มอบแผ่นดินที่ยึดครองมาโดยสมบูรณ์และปราบศัตรู' (โยชูวา 11:23)[24]
หมายเหตุ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Halley 1965, p. 157.
- ↑ Talmud, Baba Bathra 14b-15a)
- ↑ 3.0 3.1 Gilad, Elon. Who Really Wrote the Biblical Books of Kings and the Prophets? Haaretz, June 25, 2015. Summary: The paean to King Josiah and exalted descriptions of the ancient Israelite empires beg the thought that he and his scribes lie behind the Deuteronomistic History.
- ↑ Coogan 2007, p. 314 Hebrew Bible.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 Coogan 2007, p. 316 Hebrew Bible.
- ↑ McConville 2007, p. 158.
- ↑ Würthwein 1995, pp. 35–37.
- ↑ Ulrich 2010, p. 247.
- ↑ Dead sea scrolls - Joshua
- ↑ Fitzmyer 2008, p. 162.
- ↑ Würthwein 1995, pp. 73–74.
- ↑ This article incorporates text from a publication now in the public domain: Herbermann, Charles, ed. (1913). "Codex Sinaiticus". Catholic Encyclopedia. New York: Robert Appleton Company.
- ↑ "Discrepancies in manuscripts show how Old Testament scribes edited the Book of Joshua". University of Helsinki. January 29, 2018.
- ↑ Rösel, Martin (January 1, 2002). "The septuagint-version of the book of Joshua". Scandinavian Journal of the Old Testament. 16 (1): 5–23. doi:10.1080/09018320210000329. S2CID 161116376 – โดยทาง Taylor and Francis+NEJM.
- ↑ Joshua 1, Berean Study Bible
- ↑ Firth 2021, p. 27.
- ↑ 17.0 17.1 17.2 17.3 17.4 17.5 17.6 17.7 17.8 McConville 2007, p. 160.
- ↑ โยชูวา 1:1 THSV11
- ↑ 19.0 19.1 Joshua 1:1 Hebrew Text Analysis. Biblehub
- ↑ 20.0 20.1 20.2 Firth 2021, p. 70.
- ↑ โยชูวา 1:2 THSV11
- ↑ McConville 2007, pp. 160–161.
- ↑ Coogan 2007, pp. 316–318 Hebrew Bible.
- ↑ 24.0 24.1 McConville 2007, p. 161.
- ↑ Coogan 2007, p. 318 Hebrew Bible.
- ↑ โยชูวา 1:17 THSV11
บรรณานุกรม
[แก้]- Coogan, Michael David (2007). Coogan, Michael David; Brettler, Marc Zvi; Newsom, Carol Ann; Perkins, Pheme (บ.ก.). The New Oxford Annotated Bible with the Apocryphal/Deuterocanonical Books: New Revised Standard Version, Issue 48 (Augmented 3rd ed.). Oxford University Press. ISBN 978-0195288810.
- Firth, David G. (2021). Joshua: Evangelical Biblical Theology Commentary. Evangelical Biblical Theology Commentary (EBTC) (illustrated ed.). Lexham Press. ISBN 9781683594406.
- Fitzmyer, Joseph A. (2008). A Guide to the Dead Sea Scrolls and Related Literature. Grand Rapids, MI: William B. Eerdmans Publishing Company. ISBN 9780802862419.
- Halley, Henry H. (1965). Halley's Bible Handbook: an abbreviated Bible commentary (24th (revised) ed.). Zondervan Publishing House. ISBN 0-310-25720-4.
- Hayes, Christine (2015). Introduction to the Bible. Yale University Press. ISBN 978-0300188271.
- McConville, Gordon (2007). "9. Joshua". ใน Barton, John; Muddiman, John (บ.ก.). The Oxford Bible Commentary (first (paperback) ed.). Oxford University Press. pp. 158–176. ISBN 978-0199277186. สืบค้นเมื่อ February 6, 2019.
- Rösel, Hartmut N. (2011). Joshua. Historical commentary on the Old Testament. Vol. 6 (illustrated ed.). Peeters. ISBN 978-9042925922.
- Ulrich, Eugene, บ.ก. (2010). The Biblical Qumran Scrolls: Transcriptions and Textual Variants. Brill.
- Würthwein, Ernst (1995). The Text of the Old Testament. แปลโดย Rhodes, Erroll F. Grand Rapids, MI: Wm. B. Eerdmans. ISBN 0-8028-0788-7. สืบค้นเมื่อ January 26, 2019.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- คำแปลในศาสนายูดาห์:
- Yehoshua - Joshua - Chapter 1 (Judaica Press). Hebrew text and English translation [with Rashi's commentary] at Chabad.org
- คำแปลในศาสนาคริสต์:
- Online Bible at GospelHall.org (ESV, KJV, Darby, American Standard Version, Bible in Basic English)
- Joshua chapter 1. Bible Gateway
- โยชูวา 1. YouVersion