สตาร์ วอร์ส: เทลส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก เทลส์ออฟเดอะเจได)
สตาร์ วอร์ส: เทลส์
โลโก้สำหรับ เทลส์ออฟเดอะไจได
เป็นที่รู้จักกันในชื่อ
  • เทลส์ออฟเดอะเจได
  • เทลส์ออฟดิเอมไพร์
ประเภท
สร้างโดยเดฟ ฟิโลนี
เค้าโครงจากสตาร์ วอร์ส
โดย จอร์จ ลูคัส
เสียงของ
ผู้ประพันธ์เพลง
ประเทศแหล่งกำเนิดสหรัฐ
ภาษาต้นฉบับอังกฤษ
จำนวนฤดูกาล1
จำนวนตอน6
การผลิต
ผู้อำนวยการผลิต
  • เดฟ ฟิโลนี
  • อะทีนา อีเวตต์ พอร์ทิลโอ
  • คาร์รี เบ็ค
ผู้อำนวยการสร้าง
  • อาเล็กซ์ สปอตวูด
  • จอช ไรมส์
ความยาวตอน13–17 นาที
บริษัทผู้ผลิต
ออกอากาศ
เครือข่ายดิสนีย์+
ออกอากาศ26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26) –
ปัจจุบัน
การแสดงที่เกี่ยวข้อง
สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส

สตาร์ วอร์ส: เทลส์ (อังกฤษ: Star Wars: Tales)[1] เป็นแอนิเมชันชุดทางโทรทัศน์สัญชาติอเมริกันที่สร้างโดย เดฟ ฟิโลนี สำหรับบริการสตรีมมิงบนดิสนีย์+ แต่ละภาคประกอบด้วยเรื่องสั้นหกเรื่องที่จะสำรวจตัวละครต่าง ๆ จากแฟรนไชส์ สตาร์ วอร์ส โดยเรื่องแรก เทลส์ออฟเดอะเจได เป็นการสำรวจเจไดจากยุคไตรภาคก่อน ในขณะที่เรื่องที่สอง เทลส์ออฟดิเอมไพร์ จะสำรวจตัวละครที่เกี่ยวข้องกับจักรวรรดิกาแลกติก แอนิเมชันชุดนี้ผลิตโดยลูคัสฟิล์มแอนิเมชัน โดยมี ชาร์ส เมอร์เร เป็นหัวหน้าผู้เขียนบท และฟิโลนีเป็นผู้กำกับดูแล

ฟิโลนีเริ่มเขียน เทลส์ออฟเดอะเจได (อังกฤษ: Tales of the Jedi) หรือที่รู้จักในชื่อ สตาร์ วอร์ส: เทลส์ออฟเดอะเจได (อังกฤษ: Star Wars: Tales of the Jedi) ในขณะที่ทำงานในละครชุด สตาร์ วอร์ส เรื่อง เดอะแมนดาลอเรียน เขาเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการครั้งแรกเกี่ยวกับแอนิเมชันชุดนี้ในเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2022 แอนิเมชันชุดนี้เป็นไปตาม "เส้นทาง" สองเส้น เส้นหนึ่งมุ่งเน้นไปที่ตัวละครอาโซกา ทาโน (พากย์เสียงโดยแอชลีย์ เอกสไตน์) และอีกเส้นทางหนึ่งอยู่ที่ตัวละครเคานต์ดูกู (พากย์เสียงโดยโครีย์ เบอร์ทัน) เทลส์ออฟเดอะเจได ถูกปล่อยบนดิสนีย์+ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 และได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมคำชื่นชมในด้านแอนิเมชัน งานเขียน และดนตรีประกอบ

ซีซันที่สองนั้นได้รับการประกาศในเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2023 โดยได้รับการเปิดเผยในปีต่อมาว่าจะใช้ชื่อว่า เทลส์ออฟดิเอมไพร์ (อังกฤษ: Tales of the Empire) หรือที่รู้จักในชื่อ สตาร์ วอร์ส: เทลส์ออฟดิเอมไพร์ (อังกฤษ: Star Wars: Tales of the Empire) นอกจากนี้แอนิเมชันชุดยังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเช่นเดียวกัน โดยส่วนหนึ่งติดตามมอร์แกน เอลส์เบ็ธ (พากย์เสียงโดยเดียนา ลี อิโนแซนโท) และอีกส่วนตามอดีตเจไดแบริส ออฟฟี (พากย์เสียงโดยเมเรดิธ ซาเลนเจอร์) เทลส์ออฟดิเอมไพร์ มีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์วันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024

เรื่องย่อ[แก้]

เทลส์ออฟเดอะเจได เล่าเรื่องสั้นที่มีเจไดจากยุคไตรภาคภาคก่อนของ สตาร์ วอร์ส[2] โดยตอนทั้งหมดหกตอนนั้น ถูกแบ่งออกเป็นสอง "เส้นทาง": เส้นทางแรกติดตามอาโซกา ทาโนผ่านจุดต่าง ๆ ในชีวิตของเธอ และอีกเส้นทางเป็นติดตามเคานต์ดูกูในช่วงก่อนที่เขาจะตกสู่ด้านมืดของพลัง[3][4] ภาคที่สอง เทลส์ออฟดิเอมไพร์ ตั้งอยู่ในยุคต่าง ๆ ของเส้นเวลาของ สตาร์ วอร์ส โดยมีเส้นทางหนึ่งติดตามมอร์แกน เอลส์เบ็ธในวัยสาว และอีกเส้นทางหนึ่งติดตามอดีตเจไดแบริส ออฟฟี[5]

ตอน[แก้]

ตอน
ทั้งหมด
ตอนในฤดูกาลชื่อกำกับโดยเขียนโดยวันเผยแพร่เดิม
11"Life and Death"นาธาเนียล วิลลานูเอวาเดฟ ฟิโลนี26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26)
หนึ่งปีหลังจากที่เธอเกิด เด็กน้อยอาโซกา ทาโนถูกพาไปล่าสัตว์เป็นครั้งแรกโดยแม่ของเธอ พาฟ-ที เนื่องจากเป็นธรรมเนียมของคนที่นั่น ในระหว่างออกล่า พวกเธอพบว่าถูกสัตว์นักล่ายักษ์ตามติดและลักพาตัวอาโซกาไป พาฟ-ทีกลับมายังหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับประหลาดใจที่พบกับอาโซกาที่กลับมายังหมู่บ้านด้วยการขี่สัตว์นั้น หลังจากที่หายตัวไปในป่า กันทิกาผู้เป็นเฒ่าหญิงของหมู่บ้านตระหนักว่าอาโซกานั้นมีความเชื่อมโยงกับพลังอย่างเหนียวแน่น
นักแสดง:  ทกส์ โอลากันโดย เป็น กันทิกา, ซูนิล มัลโฮทรา เป็น นาก-อิล, จานีนา กาวานการ์ เป็น พาฟ-ที และโนเชียร์ ดาลาล เป็น ชาวบ้าน
22"Justice"ซอล รูอิสเดฟ ฟิโลนี26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26)
ปรมาจารย์เจไดเคานต์ดูกูและพาดาวันของเขา ไควกอน จินน์หาตัวลูกชายของสมาชิกวุฒิสภา ดากอเน็ท ที่ถูกลักพาตัวไปในหมูบ้านที่เสื่อมโทรมหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านนั้นกำลังอดอยากจากการประพฤติมิชอบของสมาชิกวุฒิสภา ดากาเน็ทมาถึงพร้อมกับกองกำลังและโจมตีชาวบ้าน ดูกูโกรธสมาชิกวุฒิสภา จึงขู่ที่จะฆ่าเขาด้วยพลัง ไควกอนและลูกชายของสมาชิกวุฒิสภาสัญญาที่จะช่วยชาวบ้าน
นักแสดง:  โครีย์ เบอร์ทัน เป็น ดูกู และชาวบ้านที่มีอาวุธ, ไมเคิล ริชาร์ดสัน เป็น ไควกอน จินน์, มาร์ค โรลสตัน เป็น สมาชิกวุฒิสภา ดากอเน็ท, จอช คีทัน เป็น ลูกชายของสมาชิกวุฒิสภา, และวาเนสซา มาร์แชล เป็น เฒ่าของหมู่บ้าน
33"Choices"ชาร์ลส์ เมอร์เรย์ชาร์ลส์ เมอร์เรย์ และ อีแลน เมอร์เรย์26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26)
ดูกูและปรมาจารย์เจไดเมซ วินดูเดินทางไปรับร่างของสมาชิกสภาเจได คาทรี จากดาวแรซัส เซคันดัส ดูกูยืนกรานที่จะสอบสวนการตายของคาทรีซึ่งขัดกับคำสั่ง และพวกเขาพบว่าคาทีถูกฆ่าโดยผู้ดูแลซึ่งต้องการหยุดการประพฤติมิชอบของสมาชิกวุฒิสภา ลาริก จากการผลาญทรัพยากรดาวแรซัส ที่งานศพของคาที วินดูเปิดเผยว่าเขาได้รับตำแหน่งในสภาเจไดที่ว่างอยู่แทนที่จะเป็นดูกูโดยเป็นเพราะการแหกกฎของดูกู
นักแสดง:  โครีย์ เบอร์ทัน เป็น ดูกู, แอนดรูว์ คิชิโน เป็น ฮาเนล และผู้ดูแล, ไบรอัน จอร์จ เป็น คิ-อดิ-มันดิ, ทีซี คาร์สัน เป็น เมซ วินดู. เทอร์เรล ทิลฟอร์ด เป็น เซเมจ, และ ธีโอ รอสซี เป็น สมาชิกวุฒิสภา ลาริก
44"The Sith Lord"Saul RuizDave Filoni26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26)
ต่อเนื่องจากแผนลับของซิธลอร์ด ดาร์ธ ซิเดียส ดูกูปลอมตัวเป็นปรมาจารย์เจไดไซโฟดิแอสและลบข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับดาวคามิโน่ออกจากคลังข้อมูลของเจได ในตอนที่ไควกอนถูกดาร์ธ มอลฆ่า[a] ดูกูเผชิญหน้ากับซิเดียสเกี่ยวกับเรื่องที่ไควกอนตาย เขาถูกติดตามโดยปรมาจารย์เจไดแยดเดิลซึ่งพยายามที่จะเข้าข้างดูกู แต่ดูกูฆ่าแยดเดิลตามคำสั่งของซิเดียส สิ่งนี้ทำให้เขาตกเขาสู่ด้านมืดแห่งพลังอย่างเต็มตัว
นักแสดง:  เอียน แม็คเดียร์มิด เป็น ดาร์ธ ซิเดียส, โครีย์ เบอร์ทัน เป็น ดูกู, เม็ก มาร์แชนด์ เป็น เสียงในคลังข้อมูลของวิหารเจได, โฟล ดี เร เป็น โจแคสตา นู, เลียม นีสัน เป็น ไควกอน จินน์, และ ไบรซ์ ดัลลาส ฮาเวิร์ด เป็น แยดเดิล
55"Practice Makes Perfect"ซอล รูอิสเดฟ ฟิโลนี26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26)
ด้วยความผิดหวังที่มีกับให้การทดสอบการต่อสู้แบบธรรมดาที่อาโซกาซึ่งเป็นพาดาวันของเขาต้องใช้ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์จึงให้เธอเผชิญหน้ากับกลุ่มโคลนทรูปเปอร์ขนาดใหญ่พร้อมกับปืนสตันแทน เขาฝึกเธอซ้ำ ๆ ตลอดช่วงเวลาของสงครามโคลน ในตอนจบของสงคราม โคลนหักหลังต่อเจไดด้วยคำสั่งที่ 66 อาโซกาใช้ความสามารถของเธอที่ได้จากการฝึกเหล่านั้นในการเอาตัวรอดจากการโจมตีของโคลน[b]
นักแสดง: แอชลีย์ เอกสไตน์ เป็น อาโซกา ทาโน, แมตต์ แลนเทอร์ เป็น อนาคิน สกายวอล์คเกอร์, ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ เป็น กัปตันเร็กซ์ และ เจสซี, และ เจมส์ อาโนลด์ เทย์เลอร์ เป็น โอบีวัน เคโนบี
66"Resolve"ซอล รูอิสเดฟ ฟิโลนี26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (2022-10-26)
ในระหว่างงานศพของแพดเม่ อมิดาลา[c] สมาชิกวุฒิสภา เบล ออร์กานา บอกอาโซกาให้ติดต่อเขาหากเธอต้องการความช่วยเหลือ ในช่วงเวลาต่อมา ในระหว่างหลบซ่อน อาโซกาถูกพบว่าใช้พลังเพื่อช่วยคนที่ตกอยู่ในอันตราย เธอถูกแจ้งไปยังจักรวรรดิและอินควิซิเตอร์ถูกส่งมาเพื่อจับตัวเธอ อาโซกาฆ่าอินควิซิเตอร์และติดต่อออร์กานาผู้มาเพื่อรับเธอในวันต่อมา เธอบอกเขาว่าเธอพร้อมที่จะสู้กับจักรวรรดิ
นักแสดง: แอชลีย์ เอกสไตน์ เป็น อาโซกา ทาโน, ฟีฃ ลามาร์ เป็น เบล ออร์กานา, แคลนซี บราวน์ เป็น อินควิซิเตอร์, เดวิด ชอกเนสซี เป็น ชายแก่, ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ เป็น โคลนทรูปเปอร์รักษาความปลอดภัย, ไบรทัน เจมส์ เป็น ชาวบ้านผู้เป็นพี่ชาย, และ ดานา เดวิส เป็น ชาวบ้านผู้เป็นน้องสาว

เทลส์ออฟดิเอมไพร์[แก้]

ตอน
ทั้งหมด
ตอนในฤดูกาลชื่อกำกับโดยเขียนโดยวันเผยแพร่เดิม
71"The Path of Fear"นาทาเนียล วิลลานูเอวาบทประพันธ์โดย: เดฟ ฟิโลนี
บทแอนิเมชันโทรทัศน์โดย: อามานดา โรส นูโน
4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (2024-05-04)
ในช่วงสงครามโคลน นายพลกรีวัสและกองทัพดรอยด์แห่งฝ่ายแบ่งแยกได้สังหารหมู่เผ่าไนท์ซิสเตอร์แห่งดาวดาโธเมียร์[d] เหลือเพียงมอร์แกน เอลส์เบ็ธ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือโดยเผ่าภูเขาที่อยู่ใกล้เคียง แมทรอน, มอร์แกน, และสมาชิกเผ่าอีกสามคนได้ขัดความปรารถนาของผู้นำเผ่าและพยายามที่จะกู้อาวุธของไนท์ซิสเตอร์ พวกเขาถุกโจมตีโดยดรอยด์และลูกสาวของแมทรอนก็ถูกฆ่า แมทรอนได้ช่วยเหลือคนอื่น ๆ แต่ได้ละทิ้งมอร์แกนไว้
นักแสดง:  แมทธิว วูด เป็น นายพลกรีวัส, ลิเดีย ลุค เป็น แมทรอน, เคที แองก์ เป็น มอร์แกน เอลส์เบ็ธ, เดซี ไลท์ฟุท เป็น เนล, เดียนา ลี อิโนแซนโท เป็น เซลานา, ซูซี แม็คแกรธ เป็น แม่มด #1, เมก มาร์แชนด์ เป็น แม่มด #2, จีนา เฮอร์โมซิลโล เป็น แม่มด #3
82"The Path of Anger"สตวร์ด ลีบทประพันธ์โดย: เดฟ ฟิโลนี
บทแอนิเมชันโทรทัศน์โดย: อามานดา โรส นูโน
4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (2024-05-04)
ในช่วงยุคของจักรวรรดิ มอร์แกนได้กลายเป็นตุลาการของดาวคอร์วัสซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากร และสัญญาว่าจะนำพาอาชีพและความเจริญมาให้คนท้องถิ่น เธอออกแบบยานไฟเตอร์ใหม่ ไทดีเฟนเดอร์ แต่ข้อเสนอของเธอในการสร้างให้กับจักรวรรดินั้นถูกตีกลับโดยมอฟฟ์อิสเดน พลเรือเอกธรอว์นสนใจในข้อเสนอนี้และส่งรุกห์ซึ่งเป็นนักฆ่าของเขา เพื่อโจมตีมอร์แกน หลังจากที่เธอชนะ ธรอว์นรับข้อเสนอโปรเจ็กต์ของเธอและเสนอที่จะให้ความช่วยเหลือ
นักแสดง: ลารส์ มิกเคลเซน เป็น จอมพลธรอว์น, แซนเดอร์ เบิร์กลีย์ เป็น กิแลด เพลลีออน, ทอม คอนเคิล เป็น มอฟฟ์อิสเดน และชาวบ้าน #1, เดียนา ลี อิโนแซนโท เป็น มอร์แกน เอลส์เบ็ธ, วอร์วิก เดวิส เป็น รุกห์, เมก มาร์แชนด์ เป็น ชาวบ้าน #2, เชลบี ยัง เป็น ชาวบ้าน #3 และ วิง ที. เชา เป็น วิง
93"The Path of Hate"ซอล รูอิสบทประพันธ์โดย: เดฟ ฟิโลนี
บทแอนิเมชันโทรทัศน์โดย: อามานดา โรส นูโน
4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (2024-05-04)
หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิ{{ดังที่บรรยายภาพในภาพยนตร์ ชัยชนะของเจได (ค.ศ. 1983)}} อดีตพลเมืองดาวคอร์วัส นาดูรา กลับในฐานะฑูตของสาธารณรัฐใหม่ เธอต้องการให้มอร์แกนลงจากการเป็นตุลาการ เนื่องจากที่เธอดูแลคนท้องถิ่นได้ไม่ดี และเพื่อให้ดาวคอร์วัสสามารถเข้าร่วมสาธารณรัฐใหม่ได้ มอร์แกน ซึ่งได้รับนิมิตซึ่งเธอเชื่อว่าเธอเป็นกุญแจสำคัญในอนาคต จึงฆ่านาดูราและเริ่มที่จะเผาป่าของคอร์วัส ก่อนที่นาดูราจะตาย เธอได้ส่งสัญญาณแจ้งเหตุร้ายไปหาโบ-คาทาน ครีซ
นักแสดง: เคที แซ็คฮอฟฟ์ เป็น โบ-คาทาน ครีซ, เดียนา ลี อิโนแซนโท เป็น มอร์แกน เอลส์เบ็ธ, วอร์วิก เดวิส เป็น รุกห์, เชลบี ยัง เป็น นาดูรา, สตีฟ บลัม เป็น ผู้คุ้มกันของสาธารณรัฐใหม่และเรกจี และวิง ที. เชา เป็น วิง
104"Devoted"สตวร์ด ลีบทประพันธ์โดย: เดฟ ฟิโลนี
บทแอนิเมชันโทรทัศน์โดย: นิโคลาส อานาซาทาสซู
4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (2024-05-04)
หลังจากคำสั่งที่ 66 และการเปลี่ยนแปลงสาธารณรัฐกาแลกติกเป็นจักรวรรดิ อดีตเจได แบริส ออฟฟี ซึ่งได้รับการตัดสินประหารชีวิตหลังจากที่แปรพักตร์ต่อนิกายเจไดและโจมตีวิหารเจได[e] ถูกนำตัวมายังฟอร์เทรสอินควิซิทอเรียสซึ่งอยู่ระหว่างการสร้าง เพื่อถูกฝึกโดยแกรนด์อินควิซิเตอร์ หลังจากที่เธอฆ่าผู้ถูกเกณฑ์อีกคนหนึ่งในการดวล แบริสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอินควิซิเตอร์และถูกแนะนำตัวต่ออาจารย์ใหม่ของเธอ ซิธลอร์ด ดาร์ธ เวเดอร์
นักแสดง: ซีโน โรบินสัน เป็น อาห์มาร์, เมเรดิธ ซาเลนเจอร์ เป็น แบริส ออฟฟี, ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ เป็น โคลนทรูปเปอร์, นิโคลัส แคนทู เป็น ดานเท, ไรอา คิลห์สเทดต์ เป็น ลิน แรคิช (ภคินีที่ 4) และเจสัน ไอแซกส์ เป็น แกรนด์อินควิซิเตอร์
115"Realization"นาทาเนียล วิลลานูเอวาบทประพันธ์โดย: เดฟ ฟิโลนี
บทแอนิเมชันโทรทัศน์โดย: แมทท์ มิชโนเวทซ์
4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (2024-05-04)
แบริสและภคินีที่ 4 ซึ่งเป็นอินควิซิเตอร์อีกคนหนึ่ง ถูกส่งตัวไปตามหาเจไดซึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่ พวกเขาถามชาวบ้านและได้รู้ว่าเจไดนั้นอยู่ที่ภูเขาใกล้ ๆ แบริสรู้สึกไม่ดีกับจักรวรรดิหลังจากที่ภคินีที่ 4 สังหารชาวบ้านและฆ่าเจไดหลังจากที่แบริสได้โน้มน้าวให้พวกเขายอมจำนน แบริสใช้พลังในการผลักภคินีที่ 4 ตกจากภูเขาและฆ่าเจไดที่บาดเจ็บ
นักแสดง: เมเรดิธ ซาเลนเจอร์ เป็น แบริส ออฟฟี, คีธ เฟอร์กูสัน เป็น ผู้ว่า, ไรอา คิลห์สเทดต์ เป็น ลิน แรคิช (ภคินีที่ 4), ไร เชส เป็น เจได และจอร์ดิน คูเรท์ เป็น เด็กผู้หญิง
126"The Way Out"นาทาเนียล วิลลานูเอวาบทประพันธ์โดย: เดฟ ฟิโลนี
บทแอนิเมชันโทรทัศน์โดย: แมทท์ มิชโนเวทซ์
4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (2024-05-04)
หลายปีหลังจากที่ออกมาจากกลุ่มอินควิซิเตอร์ แบริสเป็นนักบำบัดและอาจารย์ ครอบครัวหนึ่งซึ่งพยายามที่จะปกป้องลูกของพวกเขาซึ่งมีสัมผัสถึงพลังได้มาหาเธอ พวกเขานั้นถูกตามมาโดยภคินีที่ 4 แบริสขังภคินีที่ 4 ไว้ในเขาวงกตในขณะที่ครอบครัวนั้นได้หลบหนีไป และพยายามที่จะโน้มน้าวให้เธอเปลี่ยนกลับไปสู่ด้านสว่างแห่งพลัง ในตอนที่เธอเผลอแทงแบริสด้วยกระบี่แสงนั้น ภคินีที่ 4 รู้สึกเสียใจและเลือกที่จะแบกแบริสไปยังที่ปลอดภัย
นักแสดง: สตีฟ บลัม เป็น บริวาร #1, แอนนา เกรฟส์ เป็น บริวาร #2, เมเรดิธ ซาเลนเจอร์ เป็น แบริส ออฟฟี, เคสทัน จอห์น เป็น พ่อ, ไรอา คิลห์สเทดต์ เป็น ลิน แรคิช (ภคินีที่ 4) และซูซี แม็คแกรธ เป็น แม่

การผลิต[แก้]

การพัฒนา[แก้]

ในขณะเดินทางไปทำงานในละครชุด สตาร์ วอร์ส เรื่อง เดอะแมนดาลอเรียน เดฟ ฟิโลนีเริ่มเขียนเรื่องสั้นเกี่ยวกับตัวละครเจไดต่าง ๆ จากยุคไตรภาคต้นของแฟรนไชส์ คาร์รี เบ็ค รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาและการผลิตของลูคัสฟิล์มถามว่าฟิโลนีต้องการเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เป็นแอนิเมชันชุดหรือไม่ ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าเธอ "หาเงิน" เพื่อนำแอนิเมชันชุดของเขาสตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส กลับมาฉายใหม่บนบริการสตรีมมิง ดิสนีย์+[6]

ในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2021 โลโก้ของ เทลส์ออฟเดอะเจได ได้รวมอยู่ในของขวัญวันหยุดสำหรับพนักงานของลูคัสฟิล์ม ควบคู่ไปกับโลโก้สำหรับโปรเจ็คภาพยนตร์และภาพยนตร์โทรทัศน์ที่กำลังจะมีขึ้นที่สตูดิโอ นอกจากนี้ชื่อนี้ยังเป็นชื่อของหนังสือการ์ตูนชุดที่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยดาร์กฮอสคอมิกส์ ในปี ค.ศ. 1990[7] โดยในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 ลูคัสฟิล์มยืนยันโปรเจ็คนี้เมื่อประกาศกำหนดการสำหรับ Star Wars Celebration Anaheim[8] ฟิโลนีพูดคุยถึงแอนิเมชันชุดรวบรวมเนื้อเรื่องหรือที่รู้จักในชื่อ สตาร์ วอร์ส: เทลส์ออฟเดอะเจได[9] ในช่วงเวลาที่กำหนดให้โดยเฉพาะ โดยเผยให้เห็นว่าแอนิเมชันชุดนี้ประกอบด้วยเรื่องสั้น 6 เรื่อง[3] ห้าเรื่องเขียนโดยฟิโลนีและอีกเรื่องโดยชาร์ลส์ เมอร์เรย์ นักเขียนเรื่อง เดอะ โคลน วอร์ส และเอลาน เมอร์เรย์[9][3] เรื่องสั้นแต่ละเรื่องมีความยาวประมาณ 15 นาที[10][11] ฟิโลนียังรับหน้าที่ผู้สร้าง ผู้กำกับควบคุม และผู้อำนวยการสร้าง โดยมีอะทีนา อีเว็ตต์ พอร์ทิลโอและเบ็คเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย[9]

ในงาน Star Wars Celebration London ในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2023 ฟิโลนีประกาศว่าแอนิเมชันชุดนี้จะได้รับการสร้างซีซันที่สอง[12] สิ่งนี้ถูกเปิดเผยว่ามีชื่อว่า อินควิซิเตอร์ หรือ สตาร์ วอร์ส: เทลส์ออฟดิเอมไพร์ ในปีต่อไป[5] ลูคัสฟิล์มอธิบายว่ามันเป็นภาคที่สองของ "แฟรนไชส์ เทลส์ "[1][5][13]

การเขียน[แก้]

ฟิโลนีกล่าวว่าเรื่องสั้นดำเนินเรื่องช้ากว่าตอนของ เดอะ โคลน วอร์ส และเรียกตอนเหล่านี้ว่า "ชุดบทกวีที่มีโทนเสียง" โดยมีบทสนทนาน้อยกว่าและมีการเล่าเรื่องด้วยภาพมากกว่า สิ่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของฮายาโอะ มิยาซากิ เช่นเดียวกับที่ปรึกษาของฟิโลนี ผู้สร้าง สตาร์ วอร์ส์ จอร์จ ลูคัส[2][4] โดยแต่ละภาคของแอนิเมชันชุดจะสำรวจ "สองเส้นทางและสองทางเลือก" สำหรับ เทลส์ออฟเดอะเจได เส้นทางหนึ่งติดตามตัวละครอาโซกา ทาโน และอีกเส้นทางหนึ่งมุ่งเน้นไปที่เคานต์ดูกู ตัวละครแต่ละตัวได้รับการสำรวจในสามยุคของชีวิตที่แตกต่างกัน[4] เทลส์ออฟดิเอมไพร์ มุ่งเน้นไปที่ตัวละครมอร์แกน เอลส์เบ็ธ และแบริส ออฟฟี[5]

แนวคิดแรกของฟิโลนีสำหรับแอนิเมชันชุดนี้คือการแสดงให้เห็นว่าโพลคูนนำอาโซกามาที่นิกายเจไดได้อย่างไร แต่เขาเปลี่ยนเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางล่าสัตว์ครั้งแรกของอาโซกากับแม่ของเธอ เนื่องจากยังไม่มีเรื่องราวมากเท่าไหร่เกี่ยวกับ "แม่ที่เป็นแม่" ใน สตาร์ วอร์ส[2][14] เขารู้สึกว่าสิ่งสำคัญคือ "การที่อาโซกามีประสบการณ์ครั้งแรกในการที่มีคนบอกเธอว่า 'อย่ากลัวเลย' ซึ่งก็คือแม่ของเธอนั่นเอง"[4] นอกเหนือจากตอนแรกซึ่งมีตอนจบที่ดีและนำเสนอ "เด็กน้อยอาโซกาที่น่ารัก"[4] ฟิโลนีเตือนว่า "นี่ไม่ใช่แค่เรื่องสนุกและมีความสุขเท่านั้น บางครั้งมันก็มีเรื่องที่ยากลำบาก" เขารู้สึกเป็นพิเศษว่าชีวิตของดูกูนั้น "น่าหดหู่ใจ" และเล่าว่าแอนิเมชันชุดนี้บางตอนที่มืดมนกว่านั้นถูกเขียนขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19[2] แง่มุมหนึ่งของดูกูที่ฟิโลนีต้องการสำรวจคือความสัมพันธ์กับไควกอน จอนน์ผู้เป็นพาดาวันของเขา ซึ่งฟิโลนีอธิบายว่าเป็น "หนึ่งในเจไดที่ดีที่สุดและในบางแง่นั้น น่าสนใจที่สุด เนื่องจากปรัชญาของเขาซึ่งแตกต่างจากสภาเจได และเขาไปเรียนรู้เรื่องนั้นมาจากไหนถ้าไม่ใช่จากที่ปรึกษาของเขา เคานต์ดูกู?”[4]

ตอนสุดท้ายของ เทลส์ออฟเดอะเจได ที่มีชื่อว่า "Resolve" เป็นการดัดแปลงเหตุการณ์ในนวนิยาย อาโซกา ปี ค.ศ. 2016 โดย อี. เค. จอห์นสตัน อย่างหลวม ๆ ฟิโลนีอธิบายว่าเขาใช้ "Resolve" บนโครงร่างเดียวกันกับที่เขาให้ลูคัสฟิล์มนำไปจัดพิมพ์นวนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผลงานทั้งสองจึงบอกเล่าเรื่องราวเดียวกัน[15] แอชลีย์ เอกสไตน์ซึ่งเป็นนักแสดงที่ให้เสียงอาโซกากล่าวว่านวนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ถูกนำมาพูดคุยกันในขณะที่ "Resolve" อยู่ในระหว่างการผลิต และเธอไม่เคยถามฟิโลนีว่าตอนนี้เกี่ยวข้องกับนวนิยายเรื่องใด เธอมองว่าตอนนี้เป็น "ส่วนขยายของนวนิยาย" และเป็นจุดเริ่มต้นของ "บทนั้น" ในชีวิตของอาโซกา[16]

การคัดเลือกนักแสดง[แก้]

จากการประกาศแอนิเมชันชุดนี้ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 เลียม นีสันได้รับการเปิดเผยว่าจะกลับมารับบทบาทเป็นไควกอน จินน์จากภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ในขณะที่มิเชล ริชาร์ดสันผู้เป็นลูกชายของเขาจะพากย์เสียงตัวละครในเวอร์ชันที่เด็กกว่า[17] แมตต์ แลนเทอร์กลับมารับบทเป็นอนาคิน สกายวอล์คเกอร์จาก เดอะ โคลน วอร์ส[3] และจานินา กาวานคาร์รับบทเป็นพาฟ-ที แม่ของอาโซกา ทาโน ก่อนหน้านี้กาวานคาร์พากย์เสียงอีเดน เวอร์ซีโอ ในวิดีโอเกม สตาร์วอร์ส แบตเทิลฟรอนต์ 2[4] ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2022 แอชลีย์ เอกสไตน์เปิดเผยว่าเธอจะกลับมารับบทอาโซกา ทาโนจาก เดอะ โคลน วอร์ส[18] หนึ่งวันก่อนที่แอนิเมชันชุดนี้จะออกฉาย ไบรส์ ดาลลาส ฮาเวิร์ดเปิดเผยว่าเธอพากย์เสียงแยดเดิล;[19] ฟิโลนีติดต่อฮาเวิร์ดซึ่งเป็นแฟนของโปรเจ็คแอนิเมชันของ สตาร์ วอร์ส เพื่อพากย์เสียงตัวละครนี้หลังจากประสบการณ์การทำงานร่วมกันใน เดอะ แมนดาลอเรียน[20] การกลับมารับบทเป็นตัวละคร สตาร์ วอร์ส ใน เทลส์ออฟเดอะเจได ได้แก่ โครีย์ เบอร์ทัน ในบท เคานต์ดูกู, ทีซ๊ คาร์สัน ในบท เมซ วินดู, เอียน แม็คเดียร์มิด ในบท ดาร์ธ ซีเดียส, เจมส์ อาร์โนลด์ เทเลอร์ ในบท โอบีวัน เคโนบี, ฟีล ลามาร์ ในบท เบล ออร์กานา,[21] และ ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ รับบทเป็น กัปตันเร็กซ์, เจสซี และ เหล่าทหารโคลน[22] แคลนซี บราวน์ ให้เสียงเป็น อินควิซิเตอร์[9]

เมื่อมีการเปิดเผยรายละเอียดของ เทลส์ออฟดิเอมไพร์ มีการเปิดเผยว่านักพากย์หลายคนที่กลับมารับบทบาทเดิมจากสื่อ สตาร์ วอร์ส ก่อนหน้านี้ได้แก่ เดียนา ลี อีโนแซนโท ในบท มอร์แกน เอลส์เบ็ธ, เมเรดิธ ซาเลนเจอร์ ในบท แบริส ออฟฟี, ไรอา คิลสเด็ท ในบท ภคินีที่ 4, วิง ที. เชา ในตำแหน่ง ผู้ว่าราชการ วิง, ลารส์ มิกเคลเซน รับบทเป็น จอมพลธรอว์น, เจสัน ไอแซ็กซ์ รับบทเป็น แกรนด์อินควิซิเตอร์ และ แมทธิว วูด รับบทเป็น นายพลกรีวัส[5] นอกจากนี้ ยังมีการปรากฏตัวของตัวละคร ดาร์ธ เวเดอร์[23]: 17  มาร์ร็อค[13] และอินควิซิเตอร์ที่ไม่มีชื่อ ซึ่งให้เสียงโดยบราวน์ จาก เทลส์ออฟเดอะเจได[23]: 18 

แอนิเมชัน[แก้]

แอนิเมชันชุดนี้ใช้รูปแบบแอนิเมชันเดียวกันกับ สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส และ สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ[2] ชาร์ลส์ เมอร์เรย์, นาธาเนียล วิลลานูเอวา และซอล รูอิสกำกับเรื่องสั้นใน เทลส์ออฟเดอะเจได[9][24]

ดนตรี[แก้]

เควิน ไคเนอร์แต่งเพลงให้กับ เทลส์ออฟเดอะเจได หลังจากเคยแต่งเพลงให้กับ เดอะ โคลน วอร์ส, สตาร์ วอร์ส เรเบลส์ และ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ[9] เช่นเดียวกับแอนิเมชันชุดอื่น ๆ ของ สตาร์ วอร์ส นั้น ไคเนอร์ร่วมมือกับลูก ๆ ของเขา ฌอน และเดียนา[25] เดวิด เกลน รัสเซลยังจัดแต่งเพลงเพิ่มเติมสำหรับแอนิเมชันชุดนี้ด้วย[26] ฌอน และเดียนา ไคเนอร์ได้รับเครดิตในฐานะผู้ประพันธ์เพลงร่วมกับเควิน ไคเนอร์ สำหรับ เทลส์ออฟดิเอมไพร์[27]

ไคเนอร์เริ่มต้นด้วยตอนสั้นของอาโซกาสามตอน สำหรับอาโซกาที่ยังเยาว์วัยในหนังสั้นสองตอนแรก เควินต้องการย้อนกลับไปดูผลงานในช่วงแรก ๆ ของเขาสำหรับตัวละครในภาพยนตร์ สงครามโคลน และตอนแรกของ เดอะ โคลน วอร์ส เขาต้องกลับไปทบทวนการประพันธ์ดั้งเดิมเพราะเป็นเวลาเกือบ 16 ปีแล้วนับตั้งแต่เขาเริ่มทำงานกับตัวละครนี้ และให้ความสำคัญกับเครื่องเป่าลมไม้เป็นพิเศษ[28][29] สำหรับเรื่องสั้นที่สามของอาโซกานั้น ฌอน และเดียนาได้ดัดแปลงธีมอาโซกาของไคเนอร์เป็นรูปแบบใหม่ เพื่อแสดงถึงสถานะใหม่ของเธอในฐานะโรนิง เนื่องจากฟิโลนีได้รับอิทธิพลจากผลงานของสตูดิโอจิบลิและภาพยนตร์ญี่ปุ่นอื่น ๆ พวกเขาจึงศึกษาดนตรีของภาพยนตร์ซามูไรในตอนที่พวกเข้าสร้างเพลงนี้ในรูปแบบใหม่[25][30] ต่อมาพวกเขาได้ขยายแนวคิดโรนิงนี้และอิทธิพลของญี่ปุ่นในเพลงของ อาโซกา[31][32] ผู้แต่งไม่ได้พยายามที่จะนำอิทธิพลของญี่ปุ่นมาใช้ซ้ำสำหรับเพลงสั้นของดูกู แต่เควินรู้สึกว่าความรู้สึกอ่อนไหวเหล่านั้นบางส่วนถูกส่งต่อ เนื่องจากจอห์น วิลเลียมส์ซึ่งเป็นผู้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ไม่ได้สร้างธีมสำหรับดูกู ครอบครัวไคเนอร์จึงสร้างธีมใหม่ที่แสดงถึงการตกสู่ด้านมืดของพลัง เพลงจะค่อย ๆ มืดมืนขึ้นในตลอดสั้นทั้งสามตอน เมื่อ แยดเดิลติดตามดูกูในตอนสั้นตอนสุดท้ายของเขา พวกเขาได้นำเพลงสังเคราะห์บางส่วนที่พวกเขาใช้ในซีซันสุดท้ายของ เดอะ โคลน วอร์ส พร้อมกับงานร้อง "แบบทดลอง" บางส่วนกลับมาใช้อีกครั้ง[28][29]

วอร์ต ดิสนีย์ รีคอร์ดส์ปล่อยอัลบั้มเพลงประกอบ เทลส์ออฟเดอะเจได แบบดิจิทัลเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 พร้อมกับการฉายแอนิเมชันชุดนี้รอบปฐมทัศน์ทางดิสนีย์+ เพลงทั้งหมดประพันธ์โดยเควิน ไคเนอร์:[33]

เทลส์ออฟเดอะเจได (เพลงประกอบต้นฉบับ)
ลำดับชื่อเพลงยาว
1."Birth of Ahsoka"1:33
2."Ahsoka's Village"2:47
3."Sanctity of Life"2:45
4."Tiger"2:19
5."The Bond"2:33
6."Ahsoka Returns"2:59
7."A Real Test"3:28
8."Let's Go Again"2:19
9."Training Pays Off"1:36
10."Secret Mourner"2:10
11."No One Is Safe"4:13
12."The Inquisitor"3:45
13."Ahsoka Is Ready"1:13
14."Dooku Arrives"2:44
15."The Kidnappers"2:34
16."Soldiers Are Here"4:52
17."No More Suffering"2:24
18."Murder Case"2:25
19."Mystery in Raxus"2:09
20."Dooku Investigates"3:10
21."Dooku Contemplates"2:33
22."Qui-Gon and the Sith Lord"4:59
23."Flight Into Darkness"4:04
24."Dooku vs. Yaddle"3:16
25."Dooku's Fall"2:45
ความยาวทั้งหมด:1:11:14

การตลาด[แก้]

ฟิโลนีเปิดเผยรายละเอียดแรกเกี่ยวกับแอนิเมชันชุดนี้ที่งาน Star Wars Celebration ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 ซึ่งมีการแสดงตัวอย่างและฉายตอนแรกแบบเต็มเรื่อง[2]

การออกฉาย[แก้]

เทลส์ออฟเดอะเจได ฉายรอบปฐมทัศน์บนดิสนีย์+ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 โดยมีทั้งหมดหกตอน[34] เทลส์ออฟดิเอมไพร์ มีกำหนดฉายรอบปฐมทัศน์บน ดิสนีย์+ ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 พร้อมกันหกตอนเช่นเดียวกัน[5]

การตอบรับ[แก้]

การรับชมของผู้ชม[แก้]

จากข้อมูลของแพร์รอต อนาไลติกส์ซึ่งพิจารณาการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในการวิจัยผู้บริโภค การสตรีม การดาวน์โหลด และบนโซเชียลมีเดีย เทลส์ออฟเดอะเจได เป็นรายการสตรีมมิงที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกาในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2022 ถึง 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022[35] ตาม ทีวีไทม์ของ วิป มีเดีย เทลส์ออฟเดอะเจได เป็นแอนิเมชันชุดดั้งเดิมที่มียอดสตรีมมากที่สุดอันดับที่ 9 ในทุกแพลตฟอร์มในสหรัฐอเมริกาในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2022[36]

การตอบรับของนักวิจารณ์[แก้]

ซีซัน รอตเทนโทเมโทส์ เมทาคริติก
1 100% (21 บทความ)[37] 78 (6 บทความ)[38]
2 87% (15 บทความ)[39] 75 (4 บทความ)[40]

เว็บไซต์รวบรวมบทวิจารณ์ รอตเทนโทเมโทส์ รายงานคะแนนความนิยม 100% โดยมีคะแนนเฉลี่ย 8.3/10 จาก 22 บทความสำหรับซีซันแรก ความเห็นร่วมกันของนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ระบุว่า "ภายใต้การดูแลที่เชื่อถือได้ของเดฟ ฟิโลนีนั้น เทอลส์ ออฟ เดอะ เจได เป็นส่วนขยายที่น่าสนใจของตำนาน สตาร์ วอร์ส ที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับแฟน ๆ ระดับพาดาวันและนักเขียนสารานุกรมดั่งผู้มีพลัง"[37] เมทาคริติกซึ่งใช้ค่าเฉลี่ยที่ถ่วงน้ำหนักให้คะแนนแอนิเมชันชุดนี้ 78 จาก 100 จากนักวิจารณ์ 6 คน ซึ่งระบุว่า "บทวิจารณ์โดยทั่วไปดี"[38]

ไบรอันจาก /Film ยืนยันว่า "ตอนเหล่านี้เต็มไปด้วยความน่าสมเพชและความเชื่อมโยงที่น่าสนใจกับตำนาน สตาร์ วอร์ส ในวงกว้าง งานคุณภาพจากมือเขียนบท จากลูคัสฟิล์มแอนิเมชัน และดนตรีของเควิน ไคเนอร์ ไม่เคยดีไปกว่านี้แล้ว ความหวังของผมคือ ตอนสั้น ๆ เหล่านี้จะได้รับความนิยมมากพอที่จะทำให้เจไดกลายเป็นที่สนใจของเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น”[41] เควิน ฟ็อกซ์ จูเนียร์ จาก เพสท์ ให้คะแนนแอนิเมชันชุดนี้ 8.2 จาก 10 โดยระบุว่า "ผลลัพธ์โดยรวมซึ่งดูแลโดยเดฟ ฟิโลนีนั้นน่าประหลาดใจและแข็งแกร่ง เทลส์ออฟเดอะเจได ประสบความสำเร็จด้วยการแสดงอย่างตรงไปไปมาว่าต้องการให้เห็นอะไร จากนั้นจึงจบเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชมจะพร้อมดูตอนต่อ ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นซีซันที่ออกฉายเพียงครั้งเดียวหรือเป็นการเริ่มต้นของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าก็ตาม แฟน ๆ สตาร์ วอร์ส ก็ควรค่าแก่เวลาที่จะลองดู” [42]

เจมี โลเวทท์ จาก ComicBook.com ให้คะแนนแอนิเมชันชุดนี้ 4 เต็ม 5 โดยกล่าวว่า "เทลส์ออฟเดอะเจได ทั้งหกตอนนี้สวยงาม ดำเนินเรื่องเรื่องดี และจัดเรียงชั้นอย่างหลอกลวงเพื่อความกะทัดรัด ในขณะเดียวกันก็อัดแน่นไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจและช่วงเวลาที่ทำให้ต้องอ้าปากค้างไปตลอดทาง ลูคัสฟิล์มแอนิเมชันสามารถบีบเวทย์มนตร์ของ สตาร์ วอร์ส จำนวนมากลงในเรื่องสั้นเหล่านี้ได้และผู้ชมก็จะผิดหวังที่มีไม่ตอนให้ชมมากไปกว่านี้" [43] อาเล็กซ์ สเตดแมนจาก ไอจีเอ็น ให้คะแนนแอนิเมชันชุดนี้ 8 เต็ม 10 โดยเขียนว่า "เทลส์ออฟเดอะเจได เป็นการนำเสนอที่เข้มข้นและงานเขียนที่รัดกุมสำหรับตัวละครสำคัญสองตัวในตำนาน สตาร์ วอร์ส: เคานต์ดูกู และอาโซกา ทาโน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดูกู ได้รับเนื้อจำนวนมากที่เพิ่มเข้าไปในโครงกระดูกของตัวละครของเขา ในขณะที่ตอนอื่น ๆ นำเสนออาโซกา ณ จุดต่าง ๆ ในชีวิตของเธอได้อย่างน่ายินดี บางครั้งก็สร้างอารมณ์และมีระเบียบแผนในขณะที่ยังคงจัดการสานแอนิเมชันที่สวยงามลงไป มันอาจไม่เป็นเนื้อหาที่สำคัญของ สตาร์ วอร์ส แต่ก็มีวิธีอื่นที่แย่กว่าในการกลับมาเยี่ยมตัวละครเหล่านี้ ก่อนที่อาโซกาจะมีแอนิเมชันชุดเป็นของเธอเอง"[44]

เทลส์ออฟดิเอมไพร์ ได้รับคะแนนความนิยม 87% บนรอตเทนโทเมโทส์ ยึดจาก 15 บทความ ด้วยคะแนนเฉลี่ยที่ 7.9/10[39] บนเมทาคริติก เทลส์ออฟดิเอมไพร์ ได้รับคะแนน 75 เต็ม 100 ยึดจากสี่บทความ โดยระบุว่า "บทวิจารณ์โดยทั่วไปดี"[40]

รางวัล[แก้]

เทลส์ออฟเดอะเจได ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลความสำเร็จดีเด่นด้านการตัดต่อเสียง - แอนิเมชันออกอากาศ ในงานโกลเดนรีลส์อวาร์ดส์ ประจำปี ค.ศ. 2023 [45] นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรายการรูปแบบสั้นดีเด่นในงานโปรดิวเซอรส์ กิลด์ ออฟ อเมริกา อวาร์ดส์ ปี ค.ศ. 2023 [46]

หมายเหตุ[แก้]

  1. "The Sith Lord" ตั้งอยู่ในช่วงเดียวกันกับเหตุการณ์ใน สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1 ภัยซ่อนเร้น (ค.ศ. 1999)
  2. ดังที่ปรากฏในซีซันสุดท้ายของ สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส
  3. การเปิดตัวอย่างเยือกเย็นของ "Resolve" นั้นตั้งอยู่ในช่วงเดียวกันกับเหตุการณ์ใน สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3 ซิธชำระแค้น (ค.ศ. 2005)
  4. ดังที่บรรยายภาพไว้ในตอน สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส "Massacre" (ค.ศ. 2012)
  5. ดังที่บรรยายภาพในซีซันที่ห้าของ สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส (ค.ศ. 2012-13)

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Video: Disney+ Unveils Trailer & Key Art for "Star Wars: Tales of the Empire"" (Press release). The Futon Critic. April 4, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 5, 2024. สืบค้นเมื่อ April 5, 2024.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 Schimkowitz, Matt (May 28, 2022). "Star Wars: Tales Of The Jedi animated anthology series announced". The A.V. Club. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 Whitbrook, James (May 29, 2022). "Tales of the Jedi's First Footage Teases Two Very Different Star Wars Stories". Gizmodo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 Diehl, Daniel (May 29, 2022). "SWCA 2022: 5 Things We Learned From the Star Wars: Tales of the Jedi Panel". StarWars.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 Complex, Valerie (April 4, 2024). "'Star Wars: Tales Of The Empire' Trailer: Disney+ Unveils Dave Filoni's Animated Follow-Up To 'Star Wars: Tales Of The Jedi'". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 4, 2024. สืบค้นเมื่อ April 4, 2024.
  6. Goldman, Eric [@TheEricGoldman] (May 28, 2022). "Dave began writing Tales of the Jedi on a whim flying back and forth to make Mando. Carrie Beck said "Do you want to make this?" and he said "If you can find the money!" Noted she had already proven she could do that to come back and finish The Clone Wars. #StarWarsCelebration" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2022. สืบค้นเมื่อ May 30, 2022 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  7. Arvedon, Jon (December 24, 2021). "Star Wars Employee Christmas Gift Hints at New Tales of the Jedi Project". Comic Book Resources. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 14, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  8. Whitbrook, James (April 27, 2022). "Tales of the Jedi, Whatever It Is, Is Star Wars' Next Animated Adventure". Gizmodo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  9. 9.0 9.1 9.2 9.3 9.4 9.5 "Tales of the Jedi Project Profile" (PDF). Disney Media and Entertainment Distribution. October 4, 2022. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2022. สืบค้นเมื่อ October 17, 2022.
  10. Boccella, Maggie (May 28, 2022). "'Star Wars: Tales of the Jedi': Liam Neeson to Return as the Voice of Qui-Gon Jinn". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  11. Brown, Jodee (October 19, 2022). "Star Wars: Tales of the Jedi Episode Lengths Surface". Comic Book Resources. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 20, 2022. สืบค้นเมื่อ October 27, 2022.
  12. Haring, Bruce (April 8, 2023). "'Tales Of The Jedi' Series Will Have A Season 2, Dave Filoni Says At 'Star Wars Celebration'". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 8, 2023. สืบค้นเมื่อ April 8, 2023.
  13. 13.0 13.1 Lussier, Germain (April 4, 2024). "Star Wars' Next Animated Anthology Explores the Shadows of the Empire". Gizmodo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 5, 2024. สืบค้นเมื่อ April 5, 2024.
  14. Goldman, Eric [@TheEricGoldman] (May 28, 2022). "Dave's first idea was to show Plo Koon coming to being Ahsoka to the Jedi but then he realized he wanted to focus more on Ahsoka and her mother, noting we haven't had a lot of stories about moms being moms in Star Wars. #StarWarsCelebration #TalesoftheJedi" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 28, 2022. สืบค้นเมื่อ May 30, 2022 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  15. Ratcliffe, Amy (October 26, 2022). "Dave Filoni on How Tales of the Jedi Explores Choices Between Light and Dark". Nerdist. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 7, 2023. สืบค้นเมื่อ February 6, 2023.
  16. Lussier, Germain (October 31, 2022). "Star Wars Tales of the Jedi Ahsoka Tano Interview: Ashley Eckstein". Gizmodo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 7, 2023. สืบค้นเมื่อ February 6, 2023.
  17. Villei, Matt (May 29, 2022). "'Star Wars: Tales of the Jedi' Images Tease the Origins of Ahsoka Tano". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 29, 2022. สืบค้นเมื่อ May 29, 2022.
  18. Wilding, Josh (July 15, 2022). "Ashley Eckstein Teases Tales of the Jedi And Sharing Ahsoka Tano Role With Rosario Dawson (Exclusive)". Sci-Fi & Fantasy Gazette. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 15, 2022. สืบค้นเมื่อ July 18, 2022.
  19. Panaligan, E. J. (October 25, 2022). "Bryce Dallas Howard Will Play 'Star Wars' Character Yaddle in 'Tales of The Jedi'". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 16, 2023. สืบค้นเมื่อ April 16, 2023.
  20. Ratcliffe, Amy (October 26, 2022). "Dave Filoni on Casting Bryce Dallas Howard as Yaddle in Tales of the Jedi". Nerdist. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 16, 2023. สืบค้นเมื่อ April 16, 2023.
  21. George, Joe (October 13, 2022). "Star Wars Brings Back Original Trilogy Legend for New Disney+ Series". Den of Geek. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2022. สืบค้นเมื่อ October 17, 2022.
  22. Bajer, Ted (September 12, 2022). "Tales of the Jedi Trailer Breakdown: Count Dooku and Ahsoka Take the Stage". MovieWeb. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2022. สืบค้นเมื่อ October 20, 2022.
  23. 23.0 23.1 * Whitbrook, James (April 4, 2024). "Breaking Down the Sithy Secrets of Tales of the Empire's New Trailer – A New Master". Gizmodo. p. 17. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 5, 2024. สืบค้นเมื่อ April 5, 2024.
  24. Volk, Pete (September 10, 2022). "First trailer for Star Wars' anthology Tales of the Jedi centers on Ahsoka and more prequel faves". Polygon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 3, 2022. สืบค้นเมื่อ October 8, 2022.
  25. 25.0 25.1 Danoff, Owen (October 2, 2023). "Ahsoka Composers On Dave Filoni, Expanding The Music of Star Wars, And Thrawn". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 2, 2023. สืบค้นเมื่อ October 2, 2023.
  26. "Credits - David Glen Russell". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 2, 2023. สืบค้นเมื่อ April 5, 2024.
  27. "Tales of the Empire Project Profile" (PDF). Walt Disney Studios. April 4, 2024. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ April 5, 2024. สืบค้นเมื่อ April 5, 2024.
  28. 28.0 28.1 Navarro, Hector; Monique, Joelle. "Kevin Kiner Composer of Star Wars: Tales of the Jedi". Comic Con Meta*Pod (Podcast). สืบค้นเมื่อ April 11, 2024.
  29. 29.0 29.1 Donoho, Ryan (November 21, 2022). "Kevin Kiner on 'Tales of the Jedi' and Dave Filoni's Legacy". The ForceCast (Podcast). สืบค้นเมื่อ April 11, 2024.
  30. Whitbrook, James (October 3, 2023). "Ahsoka's Composers on Evolving Her Musical Journey". Gizmodo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 3, 2023. สืบค้นเมื่อ April 11, 2024.
  31. Whitbrook, James (September 28, 2023). "Ahsoka's Composers Break Down Scoring This Week's Big Cameo". Gizmodo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2023. สืบค้นเมื่อ April 11, 2024.
  32. Legacy, Spencer (October 3, 2023). "Ahsoka Interview: Kevin, Deana, & Sean Kiner on Composing Music for Star Wars". ComingSoon.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 4, 2023. สืบค้นเมื่อ April 4, 2024.
  33. "'Tales of the Jedi' Soundtrack Album Released". Film Music Reporter. October 26, 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 7, 2023. สืบค้นเมื่อ February 7, 2023.
  34. Andreeva, Nellie (September 10, 2022). "'Star Wars: The Bad Batch' Season 2 Debut Pushed To January; 'Tales Of The Jedi' Gets Premiere Date & Trailer". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 10, 2022. สืบค้นเมื่อ September 11, 2022.
  35. Latchem, John (November 7, 2022). "'Stranger Things' Still No. 1 on Parrot's Digital Originals Demand Chart, 'The Witcher' No. 2". Media Play News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2022. สืบค้นเมื่อ November 7, 2022.
  36. Prange, Stephanie (November 1, 2022). "'Barbarian,' 'Andor' Top Weekly Whip U.S. Streaming Charts". Media Play News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2022. สืบค้นเมื่อ November 1, 2022.
  37. 37.0 37.1 "Star Wars: Tales of the Jedi: Season 1". Rotten Tomatoes. Fandango Media. สืบค้นเมื่อ May 4, 2024.
  38. 38.0 38.1 "Star Wars: Tales of the Jedi: Season 1". Metacritic. Red Ventures. สืบค้นเมื่อ May 4, 2024.
  39. 39.0 39.1 "Star Wars: Tales of the Empire: Season 1". Rotten Tomatoes. Fandango Media. สืบค้นเมื่อ May 4, 2024.
  40. 40.0 40.1 "Star Wars: Tales of the Empire: Season 1". Metacritic. Red Ventures. สืบค้นเมื่อ May 4, 2024.
  41. Young, Bryan (October 26, 2022). "Star Wars: Tales Of The Jedi Review: A Series Full Of Stunning Animation, Pathos And Galaxy Lore". /Film. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2022. สืบค้นเมื่อ October 26, 2022.
  42. Fox Jr., Kevin (October 24, 2022). "Tales of the Jedi Is a Short and Surprisingly Strong Collection of Star Wars Stories". Paste. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2022. สืบค้นเมื่อ October 26, 2022.
  43. "Star Wars: Tales of the Jedi Review: Star Wars at Its Moody Best". ComicBook.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 4, 2022. สืบค้นเมื่อ October 26, 2022.
  44. Stedman, Alex (October 26, 2022). "Tales of the Jedi Review". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2022. สืบค้นเมื่อ October 29, 2022.
  45. Giardina, Carolyn (January 9, 2023). "'Everything Everywhere All At Once' Leads Sound Editors' Golden Reel Nominations". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 9, 2023. สืบค้นเมื่อ January 9, 2023.
  46. Pond, Steve (February 25, 2023). "'Everything Everywhere All at Once' Named Best Picture at Producers Guild Awards". TheWrap. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2023. สืบค้นเมื่อ February 26, 2023.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]