ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าสีป่อ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5: บรรทัด 5:
| พระบรมนามาภิไธย = เจ้าชายหม่องปู
| พระบรมนามาภิไธย = เจ้าชายหม่องปู
| พระปรมาภิไธย = ศรีบวรอทิตยลังควิชัยนันทรัตตดิลกอธิบดีบัณฑิตมหาธรรมราชาธิราช
| พระปรมาภิไธย = ศรีบวรอทิตยลังควิชัยนันทรัตตดิลกอธิบดีบัณฑิตมหาธรรมราชาธิราช
| วันพระราชสมภพ = [[1 มกราคม]] [[พ.ศ. 2402]]<br />[[ไฟล์:Flag of Burma (Alaungpaya Dynasty).svg|border|20px]] [[มัณฑะเลย์|เมืองมัณฑะเลย์]] [[ราชวงศ์อลองพญา|ประเทศพม่า]]
| วันพระราชสมภพ = 1 มกราคม พ.ศ. 2402<br />[[ไฟล์:Flag of Burma (Alaungpaya Dynasty).svg|border|20px]] [[มัณฑะเลย์|เมืองมัณฑะเลย์]] [[ราชวงศ์อลองพญา|ประเทศพม่า]]
| วันสวรรคต = [[19 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2459]](57 พรรษา) <br /> [[ไฟล์:British Raj Red Ensign.svg|20px]] [[รัตนคีรี|เมืองรัตนคีรี]] [[บริติชราช]]
| วันสวรรคต = 19 ธันวาคม พ.ศ. 2459 (57 พรรษา) <br /> [[ไฟล์:British Raj Red Ensign.svg|20px]] [[รัตนคีรี|เมืองรัตนคีรี]] [[บริติชราช]]
| พระอิสริยยศ =
| พระอิสริยยศ =
| พระราชบิดา = [[พระเจ้ามินดง]]
| พระราชบิดา = [[พระเจ้ามินดง]]
| พระราชมารดา = เจ้าหญิงเมืองสีป่อ <ref>[http://www.newskythailand.com/board/index.php?topic=2668.0;wap2 พม่าเสียเมืองก็เพราะกษัตริย์อ่อนแอและมเหสีหฤโหด]</ref>
| พระราชมารดา = เจ้าหญิงเมืองตี่บอ<ref>[http://www.newskythailand.com/board/index.php?topic=2668.0;wap2 พม่าเสียเมืองก็เพราะกษัตริย์อ่อนแอและมเหสีหฤโหด]</ref>
| พระอัครมเหสี = [[พระนางศุภยาลัต]]
| พระอัครมเหสี = [[พระนางศุภยาลัต]]
| พระมเหสี = เจ้าหญิงสะลิน<ref name="สีป้อ">[http://www.oknation.net/blog/print.php?id=415685 เสียงกระซิบที่ฝ่ายใน...กับ...เสียงร่ำไห้ที่ท้ายวัง]</ref> <br>[[พระนางศุภยาคยี]]<ref name="สีป้อ"/><br>[[พระนางศุภยากเล]]<ref>[https://drkokogyi.wordpress.com/2010/08/08/the-royal-family-of-burma/ The Royal Family of Burma]</ref>
| พระมเหสี = เจ้าหญิงสะลิน<ref name="สีป้อ">[http://www.oknation.net/blog/print.php?id=415685 เสียงกระซิบที่ฝ่ายใน...กับ...เสียงร่ำไห้ที่ท้ายวัง]</ref> <br>[[พระนางศุภยาจี]]<ref name="สีป้อ"/><br>[[พระนางศุภยากะเล]]<ref>[https://drkokogyi.wordpress.com/2010/08/08/the-royal-family-of-burma/ The Royal Family of Burma]</ref>
| พระราชสวามี =
| พระราชสวามี =
| พระราชโอรส/ธิดา = เจ้าชายไม่ปรากฏนาม<br>เจ้าชายไม่ปรากฏนาม<br>เจ้าหญิงไม่ปรากฏนาม<br>เจ้าหญิงเมียะพยาจี<br>[[เจ้าหญิงมยะพะยาละ]]<br>เจ้าหญิงเมียะพยา<br>เจ้าหญิงเมียะพยากเล
| พระราชโอรส/ธิดา = เจ้าชายไม่ปรากฏนาม<br>เจ้าชายไม่ปรากฏนาม<br>เจ้าหญิงไม่ปรากฏนาม<br>เจ้าหญิงเมียะพะยาจี<br>[[เจ้าหญิงเมียะพะยาละ]]<br>เจ้าหญิงเมียะพะยา<br>เจ้าหญิงเมียะพยากะเล
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์อลองพญา]]
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์อลองพญา]]
| ทรงราชย์ = [[1 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2421]] - [[29 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2428]]
| ทรงราชย์ = 1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| พิธีบรมราชาภิเษก =
| ระยะเวลาครองราชย์ = 7 ปี 59 วัน <ref name=cb-19>{{cite web|url=http://www.royalark.net/Burma/konbau13.htm | title= The Konbaung Dynasty Genealogy: King Thibaw | author=Christopher Buyers | accessdate=2009-10-04 | publisher=royalark.net}}</ref>
| ระยะเวลาครองราชย์ = 7 ปี 59 วัน <ref name=cb-19>{{cite web|url=http://www.royalark.net/Burma/konbau13.htm | title= The Konbaung Dynasty Genealogy: King Thibaw | author=Christopher Buyers | accessdate=2009-10-04 | publisher=royalark.net}}</ref>
บรรทัด 21: บรรทัด 21:
| รัชกาลถัดมา = เปลี่ยนแปลงการปกครอง
| รัชกาลถัดมา = เปลี่ยนแปลงการปกครอง
}}
}}
'''พระเจ้าธีบอ''' หรือ '''พระเจ้าสีป่อ''' ([[ภาษาพม่า]]: {{my|သီပော္‌မင္‌း}}; {{IPA-my|θìbɔ́ mɪ́ɴ|pron}} ''สี่ป๊อมิ๊ง'') เป็นกษัตริย์แห่ง[[ราชวงศ์อลองพญา]] และเป็นองค์สุดท้ายของพม่า ถูกบังคับให้สละราชสมบัติและเนรเทศไปอยู่ที่[[เมืองรัตนคีรี]]ใน[[บริติชราช]] หลังสิ้น[[สงครามพม่า-อังกฤษ ครั้งที่ 3]] และสวรรคตเมื่อ [[พ.ศ. 2459]] <ref>http://board.dserver.org/b/bestforlife/00000311.html</ref>
'''พระเจ้าธีบอ''' หรือ '''พระเจ้าสีป่อ''' ({{my|သီပော္‌မင္‌း}}; {{IPA-my|θìbɔ́ mɪ́ɴ|pron}} ''ตี่บอมิง'') เป็นพระมหากษัตริย์พม่าพระองค์สุดท้ายแห่ง[[ราชวงศ์อลองพญา]] ถูกบังคับให้สละราชสมบัติและเนรเทศไปอยู่ที่เมือง[[รัตนคีรี]]ใน[[บริติชราช]] หลังสิ้น[[สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สาม]] และสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2459<ref>http://board.dserver.org/b/bestforlife/00000311.html</ref>


พระเจ้าสีป่อเป็นพระราชโอรสของ[[พระเจ้ามินดง]] กับเจ้าหญิงจากเมืองสีป่อ ในดินแดน[[ไทใหญ่]] มีพระนามเดิมว่า เจ้าชายหม่องปู ({{my|မောင်ပု}} ''Maung Pu'') เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ [[1 มกราคม]] [[พ.ศ. 2402]] ที่กรุง[[มัณฑะเลย์]] เมืองหลวงของราชอาณาจักรพม่าในเวลานั้น เมื่อเจริญพระชันษาขึ้น ได้ผนวชเป็นพระ[[ภิกษุ]]ใน[[พระพุทธศาสนา]]เพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ เมื่อทรงลาผนวชแล้ว พระราชบิดาจึงทรงแต่งตั้งให้เป็นเจ้า[[เมืองสีป่อ]] ซึ่งเป็นที่มาของพระนามเมื่อเสวยราชสมบัติในเวลาต่อมา
พระเจ้าสีป่อเป็นพระราชโอรสของ[[พระเจ้ามินดง]]กับเจ้าหญิงจากเมืองสีป่อในดินแดน[[ไทใหญ่]] มีพระนามเดิมว่าเจ้าชายหม่องปู ({{my|မောင်ပု}} ''Maung Pu'') เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2402 ที่กรุง[[มัณฑะเลย์]] เมืองหลวงของราชอาณาจักรพม่าในเวลานั้น เมื่อเจริญพระชันษาขึ้นได้ผนวชเป็นพระ[[ภิกษุ]]เพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ เมื่อทรงลาผนวชแล้ว พระราชบิดาจึงทรงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง[[ตี่บอ]] ซึ่งเป็นที่มาของพระนามเมื่อเสวยราชสมบัติในเวลาต่อมา


พระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ [[1 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2421]] ด้วยความช่วยเหลือจาก[[พระนางอเลนันดอ]] พระมเหสีองค์หนึ่งของพระเจ้ามินดงผู้เป็นพระราชบิดา และเหล่าขุนนางชั้นสูงกลุ่มหนึ่ง พระองค์ได้ทรงเสกสมรสกับ[[พระนางศุภยาลัต]] พระราชธิดาของ[[พระเจ้ามินดง]]กับ[[พระนางอเลนันดอ]] และพระขนิษฐาร่วมพระราชบิดาเดียวกัน ซึ่งพระนางศุภยาลัต เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อการตัดสินพระทัยในเหตุสำคัญต่างๆ ของพระเจ้าสีป่อเป็นอย่างมาก
พระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 ด้วยความช่วยเหลือจาก[[พระนางอเลนันดอ]] พระมเหสีองค์หนึ่งของพระเจ้ามินดงผู้เป็นพระราชบิดา และเหล่าขุนนางชั้นสูงกลุ่มหนึ่ง พระองค์ได้ทรงเสกสมรสกับ[[พระนางศุภยาลัต]]พระราชธิดาของพระเจ้ามินดงกับพระนางอเลนันดอ และพระขนิษฐาร่วมพระราชบิดาเดียวกัน ซึ่งพระนางศุภยาลัตเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อการตัดสินพระทัยในเหตุสำคัญต่าง ๆ ของพระเจ้าสีป่อเป็นอย่างมาก


==ประสูติ==
==ประสูติ==
พระเจ้าธีบอ ประสูติวันที่ [[1 มกราคม]] [[พ.ศ. 2402]] เป็นพระราชโอรสใน[[พระเจ้ามินดง]]กับ[[พระนางลองซี]] หรือพระมเหสีแลซา เจ้าหญิงเมือง[[รัฐฉาน|ฉาน]]<ref>Sudha Shah (สุภัตรา ภูมิประภาส แปล), "ราชันผู้ผลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง", กรุงเทพฯ:มติชน pp. 30; published 2014; ISBN 978-974-02-1329-1</ref> ทรงมีพระเชษฐภคินีและพระขนิษฐาร่วมพระราชบิดาพระราชมารดา 3 พระองค์ ได้แก่
พระเจ้าธีบอ ประสูติวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2402 เป็นพระราชโอรสใน[[พระเจ้ามินดง]]กับ[[พระนางลองซี]] หรือพระมเหสีแลซา เจ้าหญิงเมือง[[รัฐชาน|ฉาน]]<ref>Sudha Shah (สุภัตรา ภูมิประภาส แปล), "ราชันผู้ผลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง", กรุงเทพฯ:มติชน pp. 30; published 2014; ISBN 978-974-02-1329-1</ref> ชมีพระเชษฐภคินีและพระขนิษฐาร่วมพระราชบิดาพระราชมารดา 3 พระองค์ ได้แก่
* [[เจ้าหญิงเมงเกง]] (พ.ศ. 2398 - ?) พระเชษฐภคินี
* [[เจ้าหญิงเมงเกง]] (พ.ศ. 2398 - ?) พระเชษฐภคินี
* [[เจ้าหญิงผกันคยี]] (พ.ศ. 2401 - 1 มีนาคม พ.ศ. 2454) พระเชษฐภคินี
* [[เจ้าหญิงผกันคยี]] (พ.ศ. 2401 - 1 มีนาคม พ.ศ. 2454) พระเชษฐภคินี
* [[เจ้าหญิงเมกถีหล่า]] พ.ศ. 2403 - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2439) พระขนิษฐา
* [[เจ้าหญิงเมกถีหล่า]] พ.ศ. 2403 - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2439) พระขนิษฐา


พระราชมารดาของพระองค์ทรงถูกเนรเทศออกจากราชสำนักโดยพระราชโองการของพระเจ้ามินดง พระนางทรงดำรงพระชนม์ชีพในช่วงบั้นปลายด้วยการเป็น [[ตี่ละฉิ่น]] (thilashin) ซึ่งก็คือคำเรียกแม่ชีในพม่า พระนางทรงใช้ชีวิตและสิ้นพระชนม์อย่างไร้เกียรติ<ref>H. Fielding (สุภัตรา ภูมิประภาส แปล), "ราชินีศุภยาลัต จากนางกษัตริย์สู่สามัญชน", กรุงเทพฯ:มติชน pp. 48; published 2015; ISBN 978-974-02-1439-7</ref>
พระราชมารดาของพระองค์ทรงถูกเนรเทศออกจากราชสำนักโดยพระราชโองการของพระเจ้ามินดง พระนางทรงดำรงพระชนม์ชีพในช่วงบั้นปลายด้วยการเป็น[[ตี่ละฉิ่น]] (thilashin) ซึ่งก็คือคำเรียกแม่ชีในพม่า พระนางทรงใช้ชีวิตและสิ้นพระชนม์อย่างไร้เกียรติ<ref>H. Fielding (สุภัตรา ภูมิประภาส แปล), "ราชินีศุภยาลัต จากนางกษัตริย์สู่สามัญชน", กรุงเทพฯ:มติชน pp. 48; published 2015; ISBN 978-974-02-1439-7</ref>


== ขึ้นครองราชย์ ==
== ขึ้นครองราชย์ ==
เจ้าฟ้าสีป่อเป็นที่โปรดปรานของ[[พระนางสินพยูมาชิน]] อัครมเหสีของพระเจ้ามินดง รวมทั้งสมาชิกเสนาบดีสภาอย่างกินหวุ่นมินจี มัคเวมินจี และเยนันจองมินจีก็สนับสนุนเจ้าฟ้าสีป่อเพื่อให้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญตามที่วางแผนไว้ <ref name="นินิเมียนต์">นินิเมยนต์. พม่ากับการต่อต้านจักรวรรดินิยมอังกฤษ ค.ศ. 1885 - 1895. แปลโดย ฉลอง สุนทรวาณิชย์. กทม. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ฯ. 2543</ref> อย่างไรก็ตาม เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อ [[1 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2421]] ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่คาดไว้ พระองค์กับพระนางศุภยาลัต พระมเหสี ได้สั่งปลด มัคเวมินจี และเยนันจองมินจีในเดือนมกราคม พ.ศ. 2421 และยกเลิกแผนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ได้ประหารเจ้านายฝ่ายหน้าฝ่ายในที่คุมขังไว้ตั้งแต่พระเจ้ามินดงประชวรระหว่างวันที่ 13 - 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2421 จนหมดสิ้น
เจ้าชายสีป่อเป็นที่โปรดปรานของพระนางอเลนันดอ อัครมเหสีของพระเจ้ามินดง รวมทั้งสมาชิกเสนาบดีสภาอย่างกินหวุ่นมินจี มัคเวมินจี และเยนันจองมินจีก็สนับสนุนเจ้าฟ้าสีป่อเพื่อให้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญตามที่วางแผนไว้ <ref name="นินิเมียนต์">นินิเมยนต์. พม่ากับการต่อต้านจักรวรรดินิยมอังกฤษ ค.ศ. 1885 - 1895. แปลโดย ฉลอง สุนทรวาณิชย์. กทม. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ฯ. 2543</ref> อย่างไรก็ตาม เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่คาดไว้ พระองค์กับพระนางศุภยาลัต พระมเหสี ได้สั่งปลด มัคเวมินจี และเยนันจองมินจีในเดือนมกราคม พ.ศ. 2421 และยกเลิกแผนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ได้ประหารเจ้านายฝ่ายหน้าฝ่ายในที่คุมขังไว้ตั้งแต่พระเจ้ามินดงประชวรระหว่างวันที่ 13 - 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2421 จนหมดสิ้น


อังกฤษได้ประท้วงการสังหารหมู่ครั้งนี้ โดย R. B. Shaw ผู้แทนอังกฤษประจำราชสำนักมัณฑะเลย์ ได้ยื่นประท้วงและเสนอจะนำนักโทษการเมืองไปไว้ในพม่าที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม อังกฤษได้ช่วยให้เจ้าฟ้านยองจันลี้ภัยไปอยู่ในพม่าตอนล่างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2421<ref name="นินิเมียนต์"/>
อังกฤษได้ประท้วงการสังหารหมู่ครั้งนี้ โดย R. B. Shaw ผู้แทนอังกฤษประจำราชสำนักมัณฑะเลย์ ได้ยื่นประท้วงและเสนอจะนำนักโทษการเมืองไปไว้ในพม่าที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม อังกฤษได้ช่วยให้เจ้าฟ้านยองจันลี้ภัยไปอยู่ในพม่าตอนล่างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2421<ref name="นินิเมียนต์"/>

== สงครามกับอังกฤษและสิ้นสุดอำนาจ ==
== สงครามกับอังกฤษและสิ้นสุดอำนาจ ==
[[ไฟล์:Thibaw Palace.jpg|thumb|left|พระราชวังธีบอที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย ที่ประทับของพระเจ้าธีบอหลังสิ้นสุดอำนาจ]]
[[ไฟล์:Thibaw Palace.jpg|thumb|left|พระราชวังธีบอที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย ที่ประทับของพระเจ้าธีบอหลังสิ้นสุดอำนาจ]]
ในรัชกาลของพระองค์ได้ส่งคณะทูตไปยังฝรั่งเศสเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2426 และได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการทำสัญญาทางการค้า ยินยอมให้ฝรั่งเศสเข้ามาทำสัมปทานป่าไม้ซึ่งได้สร้างความหวาดระแวงให้อังกฤษ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2428 พม่าเรียกค่าปรับจากบริษัทบอมเบย์เบอร์มาเทรดดิงเป็นเงินจำนวน 2.3 ล้านรูปี อังกฤษจึงตัดสินใจยื่นคำขาดต่อพม่าในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2428 โดยให้พม่าลดค่าปรับ ให้ความสะดวกแกอังกฤษในการค้าขายกับจีนและให้อังกฤษควบคุมนโยบายต่างประเทศของพม่า พม่าปฏิเสธมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน กองทัพอังกฤษจึงเคลื่อนทัพออกจากย่างกุ้งไปยังพม่าเหนือในวันที่ 14 พฤศจิกายนและยึดมัณฑะเลย์ได้ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัตยอมแพ้ในวันนี้ ทั้งสองพระองค์เสด็จลงเรือไปยังย่างกุ้งและถูกเนรเทศไปอินเดีย<ref>วิไลเลขา ถาวรธนสาร. สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สาม ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: เอเชีย เล่ม 1 อักษร A-B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กทม.ราชบัณฑิตยสถาน. 2539. หน้า 166 - 170</ref>
ในรัชกาลของพระองค์ได้ส่งคณะทูตไปยังฝรั่งเศสเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2426 และได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการทำสัญญาทางการค้า ยินยอมให้ฝรั่งเศสเข้ามาทำสัมปทานป่าไม้ซึ่งได้สร้างความหวาดระแวงให้อังกฤษ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2428 พม่าเรียกค่าปรับจากบริษัทบอมเบย์เบอร์มาเทรดดิงเป็นเงินจำนวน 2.3 ล้านรูปี อังกฤษจึงตัดสินใจยื่นคำขาดต่อพม่าในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2428 โดยให้พม่าลดค่าปรับ ให้ความสะดวกแกอังกฤษในการค้าขายกับจีนและให้อังกฤษควบคุมนโยบายต่างประเทศของพม่า พม่าปฏิเสธมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน กองทัพอังกฤษจึงเคลื่อนทัพออกจากย่างกุ้งไปยังพม่าเหนือในวันที่ 14 พฤศจิกายนและยึดมัณฑะเลย์ได้ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัตยอมแพ้ในวันนี้ ทั้งสองพระองค์เสด็จลงเรือไปยังย่างกุ้งและถูกเนรเทศไปอินเดีย<ref>วิไลเลขา ถาวรธนสาร. สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สาม ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: เอเชีย เล่ม 1 อักษร A-B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กทม.ราชบัณฑิตยสถาน. 2539. หน้า 166 - 170</ref>

==หลังสิ้นอำนาจ==
==หลังสิ้นอำนาจ==
[[ไฟล์:King Thibaw in Ratanagiri.jpg|thumb|พระเจ้าธีบอ (กลาง) ขณะทรงประทับในรัตนคีรี อินเดีย พร้อมข้าราชสำนัก ภาพถ่ายในพระราชพิธีเจาะพระกรรณของพระราชธิดา ราวก่อนปีพ.ศ. 2443]]
[[ไฟล์:King Thibaw in Ratanagiri.jpg|thumb|พระเจ้าธีบอ (กลาง) ขณะทรงประทับในรัตนคีรี อินเดีย พร้อมข้าราชสำนัก ภาพถ่ายในพระราชพิธีเจาะพระกรรณของพระราชธิดา ราวก่อนปีพ.ศ. 2443]]
บรรทัด 60: บรรทัด 62:
|-bgcolor=white
|-bgcolor=white
| align = center| [[ไฟล์:Myat Phayagyi.jpg|120px]]
| align = center| [[ไฟล์:Myat Phayagyi.jpg|120px]]
|[[เจ้าหญิงเมียะพยาจี]]||align=center| <span style="display:none">1880</span>พ.ศ. 2423||align=center| <span style="display:none">1947</span>พ.ศ. 2490||bgcolor=white|เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนายทหารอินเดียที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี
|[[เจ้าหญิงเมียะพะยาจี]]||align=center| <span style="display:none">1880</span>พ.ศ. 2423||align=center| <span style="display:none">1947</span>พ.ศ. 2490||bgcolor=white|เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนายทหารอินเดียที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี
|-
|-
|-bgcolor=white
|-bgcolor=white
| align = center| [[ไฟล์:Myat Paya Lat in young age.jpg|120px]]
| align = center| [[ไฟล์:Myat Paya Lat in young age.jpg|120px]]
|[[เจ้าหญิงมยะพะยาละ|เจ้าหญิงเมียะพยาลัต]]||align=center| <span style="display:none">1883</span>4 ตุลาคม<br />พ.ศ. 2426||align=center| <span style="display:none">1956</span>4 เมษายน<br />พ.ศ. 2499||bgcolor=white|เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับข้าราชสำนักชาวพม่าที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี เจ้าหญิงมยะพะยาละ ได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์พม่า เมื่อพระเจ้าธีบอถูกโค่นล้มราชบัลลังก์ และทรงได้เป็น[[ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์]]และเป็นประมุขแห่งราชวงศ์พม่าเมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระองค์สื้นพระชนม์ที่เมืองกาลิมปง ประเทศอินเดีย
|[[เจ้าหญิงเมียะพะยาละ]]||align=center| <span style="display:none">1883</span>4 ตุลาคม<br />พ.ศ. 2426||align=center| <span style="display:none">1956</span>4 เมษายน<br />พ.ศ. 2499||bgcolor=white|เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับข้าราชสำนักชาวพม่าที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี เจ้าหญิงมยะพะยาละ ได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์พม่า เมื่อพระเจ้าธีบอถูกโค่นล้มราชบัลลังก์ และทรงได้เป็น[[ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์]]และเป็นประมุขแห่งราชวงศ์พม่าเมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระองค์สื้นพระชนม์ที่เมืองกาลิมปง ประเทศอินเดีย
|-
|-
|-bgcolor=white
|-bgcolor=white
| align = center| [[ไฟล์:Myat Phaya.jpg|120px]]
| align = center| [[ไฟล์:Myat Phaya.jpg|120px]]
|[[เจ้าหญิงเมียะพยา]]||align=center| <span style="display:none">1886</span>7 มีนาคม<br />พ.ศ. 2429||align=center| <span style="display:none">1962</span>21 กรกฎาคม<br />พ.ศ. 2505||bgcolor=white|เจ้าหญิงทรงเสด็จกลับพม่าพร้อมพระราชมารดา และในปีพ.ศ. 2465 ทรงอภิเษกสมรสครั้งแรกกับโกเดา กยี เนียง พระนัดดาใน[[เจ้าชายคะนอง]] ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปัยกาของเจ้าหญิง และเจ้าชายคะนองทรงเป็นพระเชษฐาใน[[พระเจ้ามินดง]] และทรงหย่ากันในปีพ.ศ. 2472 เจ้าหญิงอภิเษกสมรสครั้งที่สองกับอู มะยา อู นักกฎหมาย พระโอรสองค์ที่สองของเจ้าหญิงที่ประสูติแต่พระสวามีองค์แรก คือ [[เจ้าตอ พะยา]]ทรงเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์องค์ปัจจุบัน สืบต่อจากเจ้าหญิงเมียะพยาลัต
|[[เจ้าหญิงเมียะพะยา]]||align=center| <span style="display:none">1886</span>7 มีนาคม<br />พ.ศ. 2429||align=center| <span style="display:none">1962</span>21 กรกฎาคม<br />พ.ศ. 2505||bgcolor=white|เจ้าหญิงทรงเสด็จกลับพม่าพร้อมพระราชมารดา และในปีพ.ศ. 2465 ทรงอภิเษกสมรสครั้งแรกกับโกเดา กยี เนียง พระนัดดาใน[[เจ้าชายคะนอง]] ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปัยกาของเจ้าหญิง และเจ้าชายคะนองทรงเป็นพระเชษฐาใน[[พระเจ้ามินดง]] และทรงหย่ากันในปีพ.ศ. 2472 เจ้าหญิงอภิเษกสมรสครั้งที่สองกับอู มะยา อู นักกฎหมาย พระโอรสพระองค์ที่สองของเจ้าหญิงที่ประสูติแต่พระสวามีคนแรกคือ[[ต่อพะยา]]ซึ่งเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์องค์ปัจจุบัน สืบต่อจากเจ้าหญิงเมียะพยาลัต
|-
|-
|-bgcolor=white
|-bgcolor=white
| align = center| [[ไฟล์:Myat Phaya Galay.jpg|120px]]
| align = center| [[ไฟล์:Myat Phaya Galay.jpg|120px]]
|[[เจ้าหญิงเมียะพยากเล]]||align=center| <span style="display:none">1887</span>พ.ศ. 2430||align=center| <span style="display:none">1935</span>พ.ศ. 2478||bgcolor=white|เจ้าหญิงมีความชำนาญในภาษาอังกฤษอย่างมากและทรงดำรงเป็นโฆษกประจำพระราชวงศ์พม่า เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนักกฎหมาย และทรงถูกรัฐบาลอาณานิคมส่งออกไปประทับที่[[เมาะลำเลิง]] จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ที่นั่น
|[[เจ้าหญิงเมียะพะยากะเล]]||align=center| <span style="display:none">1887</span>พ.ศ. 2430||align=center| <span style="display:none">1935</span>พ.ศ. 2478||bgcolor=white|เจ้าหญิงมีความชำนาญในภาษาอังกฤษอย่างมากและทรงดำรงเป็นโฆษกประจำพระราชวงศ์พม่า เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนักกฎหมาย และทรงถูกรัฐบาลอาณานิคมส่งออกไปประทับที่[[เมาะลำเลิง]] จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ที่นั่น
|-
|-
|}
|}
บรรทัด 84: บรรทัด 86:
| ตำแหน่ง = [[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]]<br /> ([[ราชวงศ์คองบอง|อาณาจักรพม่ายุคที่ 3]])
| ตำแหน่ง = [[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]]<br /> ([[ราชวงศ์คองบอง|อาณาจักรพม่ายุคที่ 3]])
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์คองบอง
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์คองบอง
| ปี = [[1 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2421]] - [[29 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2428]]
| ปี = 1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428
| ถัดไป = สิ้นสุดระบอบกษัตริย์พม่า
| ถัดไป = สิ้นสุดระบอบกษัตริย์พม่า
}}
}}
บรรทัด 91: บรรทัด 93:
| ตำแหน่ง = <u>[[ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์]]</u></br>[[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]]
| ตำแหน่ง = <u>[[ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์]]</u></br>[[รายพระนามพระมหากษัตริย์พม่า|พระมหากษัตริย์พม่า]]
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์คองบอง
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์คองบอง
| ช่วงเวลา = [[พ.ศ. 2428]] - [[พ.ศ. 2459]]
| ช่วงเวลา = พ.ศ. 2428 - 2459
| ถัดไป = [[เจ้าหญิงมยะพะยาละ]]
| ถัดไป = [[เจ้าหญิงเมียะพะยาละ]]
}}
}}
{{จบกล่อง}}
{{จบกล่อง}}


{{อายุขัย|2402|2459}}
{{คองบอง}}
{{คองบอง}}


{{เรียงลำดับ|ธีบอ}}
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์คองบอง]]
{{อายุขัย|2402|2459}}
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ราชวงศ์คองบอง]]
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสละราชบัลลังก์]]
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ผู้ทรงสละราชบัลลังก์]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:45, 10 มกราคม 2561

พระเจ้าสีป่อ

เจ้าชายหม่องปู
ศรีบวรอทิตยลังควิชัยนันทรัตตดิลกอธิบดีบัณฑิตมหาธรรมราชาธิราช
ครองราชย์1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428
รัชสมัย7 ปี 59 วัน [1]
รัชกาลก่อนหน้าพระเจ้ามินดง
รัชกาลถัดไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ประสูติ1 มกราคม พ.ศ. 2402
เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
สวรรคต19 ธันวาคม พ.ศ. 2459 (57 พรรษา)
เมืองรัตนคีรี บริติชราช
พระอัครมเหสีพระนางศุภยาลัต
พระราชบุตรเจ้าชายไม่ปรากฏนาม
เจ้าชายไม่ปรากฏนาม
เจ้าหญิงไม่ปรากฏนาม
เจ้าหญิงเมียะพะยาจี
เจ้าหญิงเมียะพะยาละ
เจ้าหญิงเมียะพะยา
เจ้าหญิงเมียะพยากะเล
ศรีบวรอทิตยลังควิชัยนันทรัตตดิลกอธิบดีบัณฑิตมหาธรรมราชาธิราช
ราชวงศ์ราชวงศ์อลองพญา
พระราชบิดาพระเจ้ามินดง
พระราชมารดาเจ้าหญิงเมืองตี่บอ[2]

พระเจ้าธีบอ หรือ พระเจ้าสีป่อ (သီပော္‌မင္‌း; ออกเสียง: [θìbɔ́ mɪ́ɴ] ตี่บอมิง) เป็นพระมหากษัตริย์พม่าพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์อลองพญา ถูกบังคับให้สละราชสมบัติและเนรเทศไปอยู่ที่เมืองรัตนคีรีในบริติชราช หลังสิ้นสงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สาม และสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2459[5]

พระเจ้าสีป่อเป็นพระราชโอรสของพระเจ้ามินดงกับเจ้าหญิงจากเมืองสีป่อในดินแดนไทใหญ่ มีพระนามเดิมว่าเจ้าชายหม่องปู (မောင်ပု Maung Pu) เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2402 ที่กรุงมัณฑะเลย์ เมืองหลวงของราชอาณาจักรพม่าในเวลานั้น เมื่อเจริญพระชันษาขึ้นได้ผนวชเป็นพระภิกษุเพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ เมื่อทรงลาผนวชแล้ว พระราชบิดาจึงทรงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองตี่บอ ซึ่งเป็นที่มาของพระนามเมื่อเสวยราชสมบัติในเวลาต่อมา

พระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 ด้วยความช่วยเหลือจากพระนางอเลนันดอ พระมเหสีองค์หนึ่งของพระเจ้ามินดงผู้เป็นพระราชบิดา และเหล่าขุนนางชั้นสูงกลุ่มหนึ่ง พระองค์ได้ทรงเสกสมรสกับพระนางศุภยาลัตพระราชธิดาของพระเจ้ามินดงกับพระนางอเลนันดอ และพระขนิษฐาร่วมพระราชบิดาเดียวกัน ซึ่งพระนางศุภยาลัตเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อการตัดสินพระทัยในเหตุสำคัญต่าง ๆ ของพระเจ้าสีป่อเป็นอย่างมาก

ประสูติ

พระเจ้าธีบอ ประสูติวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2402 เป็นพระราชโอรสในพระเจ้ามินดงกับพระนางลองซี หรือพระมเหสีแลซา เจ้าหญิงเมืองฉาน[6] ชมีพระเชษฐภคินีและพระขนิษฐาร่วมพระราชบิดาพระราชมารดา 3 พระองค์ ได้แก่

พระราชมารดาของพระองค์ทรงถูกเนรเทศออกจากราชสำนักโดยพระราชโองการของพระเจ้ามินดง พระนางทรงดำรงพระชนม์ชีพในช่วงบั้นปลายด้วยการเป็นตี่ละฉิ่น (thilashin) ซึ่งก็คือคำเรียกแม่ชีในพม่า พระนางทรงใช้ชีวิตและสิ้นพระชนม์อย่างไร้เกียรติ[7]

ขึ้นครองราชย์

เจ้าชายสีป่อเป็นที่โปรดปรานของพระนางอเลนันดอ อัครมเหสีของพระเจ้ามินดง รวมทั้งสมาชิกเสนาบดีสภาอย่างกินหวุ่นมินจี มัคเวมินจี และเยนันจองมินจีก็สนับสนุนเจ้าฟ้าสีป่อเพื่อให้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญตามที่วางแผนไว้ [8] อย่างไรก็ตาม เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่คาดไว้ พระองค์กับพระนางศุภยาลัต พระมเหสี ได้สั่งปลด มัคเวมินจี และเยนันจองมินจีในเดือนมกราคม พ.ศ. 2421 และยกเลิกแผนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ได้ประหารเจ้านายฝ่ายหน้าฝ่ายในที่คุมขังไว้ตั้งแต่พระเจ้ามินดงประชวรระหว่างวันที่ 13 - 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2421 จนหมดสิ้น

อังกฤษได้ประท้วงการสังหารหมู่ครั้งนี้ โดย R. B. Shaw ผู้แทนอังกฤษประจำราชสำนักมัณฑะเลย์ ได้ยื่นประท้วงและเสนอจะนำนักโทษการเมืองไปไว้ในพม่าที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม อังกฤษได้ช่วยให้เจ้าฟ้านยองจันลี้ภัยไปอยู่ในพม่าตอนล่างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2421[8]

สงครามกับอังกฤษและสิ้นสุดอำนาจ

พระราชวังธีบอที่เมืองรัตนคีรี ประเทศอินเดีย ที่ประทับของพระเจ้าธีบอหลังสิ้นสุดอำนาจ

ในรัชกาลของพระองค์ได้ส่งคณะทูตไปยังฝรั่งเศสเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2426 และได้มีการเจรจาเกี่ยวกับการทำสัญญาทางการค้า ยินยอมให้ฝรั่งเศสเข้ามาทำสัมปทานป่าไม้ซึ่งได้สร้างความหวาดระแวงให้อังกฤษ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2428 พม่าเรียกค่าปรับจากบริษัทบอมเบย์เบอร์มาเทรดดิงเป็นเงินจำนวน 2.3 ล้านรูปี อังกฤษจึงตัดสินใจยื่นคำขาดต่อพม่าในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2428 โดยให้พม่าลดค่าปรับ ให้ความสะดวกแกอังกฤษในการค้าขายกับจีนและให้อังกฤษควบคุมนโยบายต่างประเทศของพม่า พม่าปฏิเสธมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน กองทัพอังกฤษจึงเคลื่อนทัพออกจากย่างกุ้งไปยังพม่าเหนือในวันที่ 14 พฤศจิกายนและยึดมัณฑะเลย์ได้ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัตยอมแพ้ในวันนี้ ทั้งสองพระองค์เสด็จลงเรือไปยังย่างกุ้งและถูกเนรเทศไปอินเดีย[9]

หลังสิ้นอำนาจ

พระเจ้าธีบอ (กลาง) ขณะทรงประทับในรัตนคีรี อินเดีย พร้อมข้าราชสำนัก ภาพถ่ายในพระราชพิธีเจาะพระกรรณของพระราชธิดา ราวก่อนปีพ.ศ. 2443

พระเจ้าสีป่อไปประทับที่รัตนคีรีในบริติชราช ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลอาหรับ ในช่วงห้าปีแรก ทรงได้รับเงินจากอังกฤษ เดือนละ 100,000 รูปี หลังจากนั้นเงินจำนวนนี้ลดลงครึ่งหนึ่ง และเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ ได้เพียงเดือนละ 25,000 รูปีเท่านั้น[10] พระองค์สวรรคตเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2459 พระศพของพระองค์ถูกฝังไว้ใกล้ๆสุสานของชาวคริสต์[10] หลังจากพระองค์สวรรคต ลูกหลานของพระองค์ส่วนหนึ่งเดินทางกลับพม่า บางส่วนยังคงอยู่ในอินเดีย เมียะพยาจี (Myat Phayagyi) พระธิดาองค์โตของพระองค์ยังอยู่ในอินเดีย ส่วน เมียะพยา (Myat Phaya) พระธิดาองค์เล็กที่ประสูติที่รัตนคีรีเมื่อ พ.ศ. 2430 ได้เดินทางกลับมายังพม่าใน พ.ศ. 2462 พระนางสมรสกับอูเนียงใน พ.ศ. 2464 และสิ้นพระชนม์ในมะละแหม่งเมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2478 ลูกหลานของพระนางยังอยู่ในพม่า และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีสิทธิ์สืบทอดราชบัลลังก์ของพม่า[11] [12]


ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 เทียน เส่ง ประธานาธิบดีพม่าได้เดินทางไปเยี่ยมหลุมฝังศพของพระเจ้าสีป่อ และพบกับลูกหลานของพระองค์ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ประมุขรัฐบาลพม่าเดินทางไปเยือนสุสานของพระองค์[13]

พระธิดา

พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัตทรงมีพระธิดาร่วมกัน 4 พระองค์ได้แก่

  พระนาม ประสูติ สิ้นพระชนม์ หมายเหตุ
เจ้าหญิงเมียะพะยาจี 1880พ.ศ. 2423 1947พ.ศ. 2490 เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนายทหารอินเดียที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี
เจ้าหญิงเมียะพะยาละ 18834 ตุลาคม
พ.ศ. 2426
19564 เมษายน
พ.ศ. 2499
เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับข้าราชสำนักชาวพม่าที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี เจ้าหญิงมยะพะยาละ ได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์พม่า เมื่อพระเจ้าธีบอถูกโค่นล้มราชบัลลังก์ และทรงได้เป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์และเป็นประมุขแห่งราชวงศ์พม่าเมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระองค์สื้นพระชนม์ที่เมืองกาลิมปง ประเทศอินเดีย
เจ้าหญิงเมียะพะยา 18867 มีนาคม
พ.ศ. 2429
196221 กรกฎาคม
พ.ศ. 2505
เจ้าหญิงทรงเสด็จกลับพม่าพร้อมพระราชมารดา และในปีพ.ศ. 2465 ทรงอภิเษกสมรสครั้งแรกกับโกเดา กยี เนียง พระนัดดาในเจ้าชายคะนอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปัยกาของเจ้าหญิง และเจ้าชายคะนองทรงเป็นพระเชษฐาในพระเจ้ามินดง และทรงหย่ากันในปีพ.ศ. 2472 เจ้าหญิงอภิเษกสมรสครั้งที่สองกับอู มะยา อู นักกฎหมาย พระโอรสพระองค์ที่สองของเจ้าหญิงที่ประสูติแต่พระสวามีคนแรกคือต่อพะยาซึ่งเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์องค์ปัจจุบัน สืบต่อจากเจ้าหญิงเมียะพยาลัต
เจ้าหญิงเมียะพะยากะเล 1887พ.ศ. 2430 1935พ.ศ. 2478 เจ้าหญิงมีความชำนาญในภาษาอังกฤษอย่างมากและทรงดำรงเป็นโฆษกประจำพระราชวงศ์พม่า เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนักกฎหมาย และทรงถูกรัฐบาลอาณานิคมส่งออกไปประทับที่เมาะลำเลิง จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ที่นั่น

อ้างอิง

  1. Christopher Buyers. "The Konbaung Dynasty Genealogy: King Thibaw". royalark.net. สืบค้นเมื่อ 2009-10-04.
  2. พม่าเสียเมืองก็เพราะกษัตริย์อ่อนแอและมเหสีหฤโหด
  3. 3.0 3.1 เสียงกระซิบที่ฝ่ายใน...กับ...เสียงร่ำไห้ที่ท้ายวัง
  4. The Royal Family of Burma
  5. http://board.dserver.org/b/bestforlife/00000311.html
  6. Sudha Shah (สุภัตรา ภูมิประภาส แปล), "ราชันผู้ผลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง", กรุงเทพฯ:มติชน pp. 30; published 2014; ISBN 978-974-02-1329-1
  7. H. Fielding (สุภัตรา ภูมิประภาส แปล), "ราชินีศุภยาลัต จากนางกษัตริย์สู่สามัญชน", กรุงเทพฯ:มติชน pp. 48; published 2015; ISBN 978-974-02-1439-7
  8. 8.0 8.1 นินิเมยนต์. พม่ากับการต่อต้านจักรวรรดินิยมอังกฤษ ค.ศ. 1885 - 1895. แปลโดย ฉลอง สุนทรวาณิชย์. กทม. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์ฯ. 2543
  9. วิไลเลขา ถาวรธนสาร. สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สาม ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: เอเชีย เล่ม 1 อักษร A-B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กทม.ราชบัณฑิตยสถาน. 2539. หน้า 166 - 170
  10. 10.0 10.1 Christian, John LeRoy (1944). "Thebaw: Last King of Burma". The Journal of Asian Studies. Association for Asian Studies: 309–312. doi:10.2307/2049030.
  11. Kennedy, Phoebe, Burmese dictator lives like a king, laments the nation's last royal, published in The Independent, 12.03.2010
  12. Royal Ark: The Konbaung Dynasty (19)
  13. Thein Sein visits grave of Burma’s last king. Retrieved 2012-12-26.
ก่อนหน้า พระเจ้าสีป่อ ถัดไป
พระเจ้ามินดง พระมหากษัตริย์พม่า
(อาณาจักรพม่ายุคที่ 3)

(1 ตุลาคม พ.ศ. 2421 - 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428)
สิ้นสุดระบอบกษัตริย์พม่า
ไม่มี ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์
พระมหากษัตริย์พม่า

(พ.ศ. 2428 - 2459)
เจ้าหญิงเมียะพะยาละ