สงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สาม
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
สงครามอังกฤษ–พม่า ครั้งที่สาม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามอังกฤษ–พม่า | |||||||
กองทัพพม่า ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2428 | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ราชวงศ์โก้นบอง | |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
แฮร์รี เพรนเดอร์แกสต์ | พระเจ้าธีบอ |
สงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สาม เป็นสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างอังกฤษกับพม่าในสมัยราชวงศ์โก้นบองซึ่งสิ้นสุดลงโดยอังกฤษผนวกพม่าทั้งหมดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริติชอินเดีย
มูลเหตุแห่งสงคราม
[แก้]ความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับอังกฤษในช่วง 10 ปีแรกของการครองราชย์ของพระเจ้ามินดงเป็นไปอย่างราบรื่น พระเจ้ามินดงพยายามปรับปรุงประเทศให้เข้มแข็งแบบตะวันตก ไม่ซ้ำเติมอังกฤษเมื่ออังกฤษต้องทำสงครามที่อื่น และยอมให้อังกฤษใช้แม่น้ำอิรวดีได้ ความขัดแย้งระหว่างพม่ากับอังกฤษเกิดขึ้นในเวลาต่อมาเมื่อพระเจ้ามินดงพยายามดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นอิสระ พยายามติดต่อกับชาติตะวันตกอื่น ๆ โดยเฉพาะฝรั่งเศส นอกจากนั้นพม่ายังไม่พอใจอังกฤษที่ไม่สนับสนุนอาวุธในการปราบกบฏครั้งใหญ่ในราชสำนักเมื่อ พ.ศ. 2409 และอังกฤษยังสนับสนุนกบฏกะเหรี่ยงใน พ.ศ. 2410
เมื่อพระเจ้าธีบอโอรสของพระเจ้ามินดงขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ. 2421 รัฐบาลของพม่าอ่อนแอมาก มีการฆ่าล้างพระราชวงศ์ครั้งใหญ่ในตอนต้นรัชกาล แต่เนื่องจากอังกฤษติดสงครามกับอัฟกานิสถาน และไม่มีผู้ที่เหมาะสมจะสถาปนาให้เป็นกษัตริย์พม่าแทน นอกจากนั้นพระเจ้าธีบอส่งทูตไปฝรั่งเศส และยินยอมให้ฝรั่งเศสเข้ามาทำสัมปทานป่าไม้และจัดตั้งธนาคาร ทำให้อังกฤษรู้สึกว่าเสียผลประโยชน์ จึงตัดสินใจจะผนวกพม่าทั้งหมด
การสู้รบ
[แก้]ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2428 เกิดชนวนที่จะทำสงครามขึ้น กล่าวคือทางการพม่าเรียกค่าปรับจากบริษัทบอมเบย์เบอร์มาเทรดดิงเป็นเงินจำนวน 2.3 ล้านรูปี อังกฤษจึงตัดสินใจยื่นคำขาดต่อพม่าในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2428 โดยให้พม่าลดค่าปรับ ให้ความสะดวกแก่อังกฤษในการค้าขายกับจีนและให้อังกฤษควบคุมนโยบายต่างประเทศของพม่า พม่าปฏิเสธมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน กองทัพอังกฤษจึงเคลื่อนทัพออกจากย่างกุ้งไปยังพม่าเหนือในวันที่ 14 พฤศจิกายน พม่าได้เตรียมการรบกับอังกฤษโดยใช้แผนตั้งรับ มีเหล่ธินอัตวินหวุ่นเป็นผู้บัญชาการ พม่าพยามปิดแม่น้ำอิระวดีที่นยองบินหม่อว์ใกล้กับชายแดนพม่าตอนล่างแต่ไม่ทันการณ์ กองทัพอังกฤษเคลื่อนพลมาตามแม่น้ำโดยมีการต่อต้านน้อยมาก การปะทะที่ดุเดือดเกิดที่ป้อมมินหล่า ซึ่งอังกฤษเป็นฝ่ายชนะเมื่อ 24 พฤศจิกายน ในที่สุดกินหวุ่นมินจีจึงเสนอให้เจรจากับอังกฤษ การเจรจาเกิดขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน อังกฤษต้องการให้พม่ายอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข เสนาบดีแห่งราชสำนักมัณฑะเลย์จึงยอมแพ้ในวันที่ 27 พฤศจิกายน[1]หลังจากยอมแพ้ต่ออังกฤษ พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัตทั้งสองพระองค์เสด็จลงเรือไปยังย่างกุ้งและถูกเนรเทศไปอินเดีย ข้าหลวงอังกฤษประจำอินเดียประกาศผนวกพม่าเหนืออย่างเป็นทางการเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2429 และในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ได้ประกาศให้พม่าเป็นมณฑลหนึ่งของอินเดีย การสงครามครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 14 วัน แต่หลังจากนั้น ได้เกิดกองโจรต่อต้านอังกฤษในพม่า ซึ่งต้องปราบปรามไปจนถึง พ.ศ. 2433 จึงเรียกว่า บริติชพม่า
อ้างอิง
[แก้]- วิไลเลขา ถาวรธนสาร. สงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่สาม ใน สารานุกรมประวัติศาสตร์สากลสมัยใหม่: เอเชีย เล่ม 1 อักษร A-B ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กทม.ราชบัณฑิตยสถาน. 2539. หน้า 166 - 170
- ↑ นินิเมียนต์. พม่ากับการต่อต้านจักรวรรดินิยมอังกฤษ ค.ศ. 1885 – 1893 แปลโดย ฉลอง สุนทราวาณิชย์. กทม. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 2543
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- The Somerset Light Infantry in the Third Burmese War เก็บถาวร 2006-09-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The 2nd Battalion Queen's (Royal West Surrey) Regiment เก็บถาวร 2007-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Burma: The Third War Stephen Luscombe (photos)
ดูเพิ่ม
[แก้]- สงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่หนึ่ง (พ.ศ. 2367)
- สงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สอง (พ.ศ. 2395)