ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟีลีปี โกชิญญู"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 65: บรรทัด 65:


====ฤดูกาล 2013-14====
====ฤดูกาล 2013-14====
[[ไฟล์:Marc Wilson and Coutinho (cropped).jpg|thumb|บอกแล้วไงว่าเล่นมาหมดแล้ว บักโง่
[[ไฟล์:Marc Wilson and Coutinho (cropped).jpg|thumb|โกชิญญู เจอกับ มาร์ค วิลสัน นักเตะของ [[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] ในพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2013–14]]
ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013-14 คูติญโญ่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะ 3 นัดติดต่อกัน (ชนะ [[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] 1-0, ชนะ [[สโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลา|แอสตันวิลลา]] 1-0 และชนะ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] 1-0) ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ จากการปะทะกับ [[แอชลีย์ วิลเลียมส์]] กองหลังของ สวอนซีซิตี ทำให้ โกชิญญูต้องพักยาวถึงสิ้นเดือนตุลาคม ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] ที่[[เอมิเรตส์สเตเดียม]] 0-2 ต่อมา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลฟูลัม|ฟูลัม]] 4-0 ต่อมา ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูแรก ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่เสมอกับ [[สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน|เอฟเวอร์ตัน]] ที่[[กูดิสันพาร์ก]] 3-3 ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]] 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-2
[[ไฟล์:Sterling, Coutinho, Enrique.jpg|thumb|left|โกชิญญู(กลาง) ลงซ้อมที่ [[แอนฟีลด์]] ร่วมกับ [[ราฮีม สเตอร์ลิง]] (ซ้าย) และ [[โคเซ เอนรีเก ซานเชซ]] (ขวา)]]
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่[[เครเวนคอตทิจ]] 3-2 ต่อมา ในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] 4-0<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/pic-liv-v-spurs ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/reds-rout-spurs-to-take-summit ลิเวอร์พูลถล่มสเปอร์ส 4-0 พร้อมขึ้นนำเป็นจ่าฝูง]</ref> ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป<ref>[http://www.bbc.com/sport/0/football/26908682 "Liverpool 3–2 Man City"] BBC Sport. 13 April 2014. Retrieved 13 April 2014.</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/pic-liv-v-city ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้]</ref> <ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/news/latest-news/coutinho-settles-city-classic-for-reds โกชิญญูยิงประตูชัยเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 3-2 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก]</ref> ต่อมา ในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ [[สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด|นิวคาสเซิลยูไนเต็ด]] เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด และต้องลุ้นให้ [[สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด|เวสต์แฮมยูไนเต็ด]] เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 ประตูจาก 33 นัด ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่น[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] นับตั้งแต่ในปี 2009


====ฤดูกาล 2014-15====
====ฤดูกาล 2014-15====

รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:02, 30 ธันวาคม 2560

ฟีลีปี โกชิญญู
โกชิญญู เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ฟีลีปี โกชิญญู โกเรย์ยา
วันเกิด (1992-06-12) 12 มิถุนายน ค.ศ. 1992 (32 ปี)
สถานที่เกิด รีโอเดจาเนโร, บราซิล
ส่วนสูง 1.71 m (5 ft 7 in)*
ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก / ปีก
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ลิเวอร์พูล
หมายเลข 10
สโมสรเยาวชน
1999–2008 วัสกู ดา กามา
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2009–2010 วัสกู ดา กามา 19 (1)
2010–2013 อินเตอร์มิลาน 28 (3)
2012อัสปัญญอล (ยืมตัว) 16 (5)
2013– ลิเวอร์พูล 151 (41)
ทีมชาติ
2009 บราซิล ชุดยู 17 5 (3)
2011–2012 บราซิล ชุดยู 20 7 (3)
2010– บราซิล 32 (8)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2017
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2017

ฟีลีปี โกชิญญู โกเรย์ยา (โปรตุเกส: Philippe Coutinho Correia, ออกเสียง: [fiˈlipi ko(w)ˈtʃĩɲu]) เกิดวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1992 เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

โกชิญญูถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่และลงเล่นนัดแรกในปี 2010 ก่อนที่จะถูกเรียกตัวชุดลุยศึกโคปาอเมริกา 2015

สโมสรอาชีพ

อินเตอร์มิลาน

อัสปัญญอล (ยืมตัว)

ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2012 โกชิญญูได้ย้ายไปร่วมทีมอัสปัญญอลด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล 2011-12 ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 โกชิญญูลงเล่นนัดแรกให้กับอัสปัญญอล ในนัดที่ อัสปัญญอล เสมอกับ แอทเลติกบิลบาโอ 3-3

ลิเวอร์พูล

ในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ย้ายจาก อินเตอร์มิลาน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ โดย โกชิญญูได้สวมเสื้อหมายเลข 10[1]

ฤดูกาล 2012-13

โกชิญญูทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับ สวอนซีซิตี

ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรก โดยโกชิญญูถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน คาบ้าน 0-2[2] ต่อมา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกและทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5-0[3] ต่อมา ในวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วีแกนแอธเลติก ที่ ดีดับเบิลยูสเตเดียม 4-0 ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2013 โกชิญญูได้ทำประตูตีไข่แตกให้ ลิเวอร์พูล ไล่ เซาแทมป์ตัน มาเป็น 1-2 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-3 ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2013 นัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 1-0 จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 3 ประตู จาก 13 นัด และได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู ได้ถึง 7 ลูก ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ โกชิญญู ได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรลิเวอร์พูลประจำฤดูกาล 2012-13 ไปครอง ทำให้ โกชิญญูได้เป็นขวัญใจของสาวกเดอะค็อปได้อย่างเต็มตัว

ฤดูกาล 2013-14

[[ไฟล์:Marc Wilson and Coutinho (cropped).jpg|thumb|บอกแล้วไงว่าเล่นมาหมดแล้ว บักโง่

ฤดูกาล 2014-15

[[ไฟล์:Philippe Coutinho 2014.jpg|thumb|210px|คูติญโญ่ ลงซ้อมในช่วงปรีซีซั่น ก่อนเจอกับ โรมา ในปี 2014]] ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2014-15 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 2-1[4] ต่อมา ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2014 ลีกคัพ รอบสี่ โกชิญญูได้เปิดบอลให้ เดยัน ลอฟเรน ทำประตูชัย ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 2-1[5] ต่อมา ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง และได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ ที่ลอฟตัสโรด 2-1 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเอาชนะไป 3-2[6] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ อาร์เซนอล 2-2[7]

ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0[8] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล[9] ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[10] ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[11] ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 2-1[12] ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบหก นัดรีเพลย์ โกชิญญูได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ที่อีวู้ด ปาร์ค 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ[13] [14] ต่อมา ในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ โกชิญญูได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แอสตันวิลลา 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[15] ต่อมา โกชิญญู ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ รวมถึงเข้าชิงราวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2015 โกชิญญู นักเตะของลิเวอร์พูลคนเดียวที่ได้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 2-1[16] ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูคว้า 4 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ, รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี จากลูกยิงไกล ในเกมกับ เซาแทมป์ตัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และ รางวัลฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ซิตี จากงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า[17] จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 ประตูจาก 35 นัด

ฤดูกาล 2015-16

ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2015 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2015–16 ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนที่บริแทนเนียสเตเดียม เจอกับ สโตกซิตี หลังจากนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้วลิเวอร์พูลมาพ่ายแพ้สโตกซิตีที่นี่ 1-6 โดยโกชิญญูทำประตูชัยซัดไกลด้วยขวาประมาณ 25 หลาโค้งแฉลบปลายมือบัตแลนด์เสียบคานตุงตาข่ายสุดงามให้ลิเวอร์พูลเอาชนะ สโตกซิตี 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ล้างแค้นสำเร็จ[18] [19] ต่อมา ในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญูโดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกในฟุตบอลอาชีพ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 0-3 ทำให้ โกชิญญู โดนแบน 1 นัด[20]

ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญู ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 3-1[21] [22] ต่อมา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ คริสตัลพาเลซ 1-2[23] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 โกชิญญูทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกและจ่ายบอลให้ โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 4-1[24] [25]

ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ โกชิญญูทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-1 แต่สุดท้ายในช่วงต่อเวลาพิเศษก็แพ้ไป 1-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[26] ต่อมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 ฟุตบอลลีกคัพ 2016 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ โกชิญญูทำประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วง 90 นาที ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ โกชิญญู ยิงจุดโทษพลาดโดน วีลลี กาบาเยโร ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตี เซฟเอาไว้ได้ สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายแพ้ในการยิงจุดโทษ 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[27] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2016 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง โกชิญญู ทำประตูแรกในยูฟ่ายูโรปาลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 1-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่ายูโรปาลีกได้สำเร็จ[28] ต่อมา ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-3[29] ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 1-1[30]

ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2016 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง โกชิญญู ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่ายูโรปาลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ 4-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่ายูโรปาลีกได้สำเร็จ[31] ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0[32] ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 โกชิญญูคว้า 4 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ, รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมีนาคม และ รางวัลฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ซิตี จากงานประกาศรางวัล Players' Awards 2016 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ Exhibition Centre[33]

ฤดูกาล 2016-17

โกชิญญูลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2016–17

ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนที่เอมิเรตส์สเตเดียม เจอกับ อาร์เซนอล โกชิญญู ยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล 4-3[34] ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2016 อีเอฟแอลคัพ รอบ 3 โกชิญญูทำประตูแรกในอีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2016–17 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ดาร์บีเคาน์ตี ที่ไพรด์พาร์ก 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 อีเอฟแอลคัพ ได้สำเร็จ[35] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัลล์ซิตี 5-1[36] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-1[37] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1[38]

ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 โกชิญญูมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 โดยผลสแกนจากเจ้าหน้าที่ทีมหงส์แดงเผยว่า โกชิญญูต้องพักยาว 5-6 สัปดาห์ ต่อมา ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2017 อีเอฟแอลคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก โกชิญญูกลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 0-1 ต่อมา ในวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ไปจนถึงปี 2022[39] [40] ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 1-3[41] ต่อมา ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1[42] ต่อมา ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ บอร์นมัท 2-2[43] ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 2-1 ทำให้ โกชิญญูเป็นนักเตะบราซิลที่ทำประตูรวมมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 30 ประตู[44] ต่อมา ในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ คริสตัลพาเลซ 1-2[45] ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 4-0[46] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ มิดเดิลส์เบรอ ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โกชิญญูทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ มิดเดิลส์เบรอ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ[47] จบฤดูกาล โกชิญญูยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 13 ประตูจาก 31 นัด

ฤดูกาล 2017-18

ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูจ่ายบอลให้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูและทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ด้วยลูกฟรีคิก นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 3-2[48] ต่อมา ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E โกชิญญูทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 1-1[49] ต่อมา ในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 1-1[50] ต่อมา ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E โกชิญญูทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 7-0[51] ทำให้ ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมจากอังกฤษที่เอาชนะนอกบ้านในเกมยุโรปด้วยสกอร์ที่มากที่สุด[52] ต่อมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[53] ต่อมา ในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 5-1[54] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม โกชิญญูทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[55] ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[56] ต่อมา ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-3[57] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โกชิญญูทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5-0[58]

ทีมชาติบราซิล

โกชิญญู (เสื้อเหลือง) ลงเล่นให้กับ ทีมชาติบราซิล เจอกับ อาเลกซิส ซานเชซ (เบอร์ 7) กองหน้าทีมชาติชิลี ในปี 2015

ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2014 โกชิญญู ถูกเรียกติดทีมชาติโดย ดุงกา หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของทีมชาติบราซิลและได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตรกับ โคลอมเบีย และ เอกวาดอร์ ในเดือนกันยายน ที่สหรัฐอเมริกา ต่อมา ในวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2015 โกชิญญู ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดที่ บราซิล เอาชนะ ชิลี 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมา ในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2015 โกชิญญู ทำประตูแรกให้กับทีมชาติ ในนัดที่เอาชนะ เม็กซิโก 2-0

โคปาอเมริกา 2015

ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ทีมชาติบราซิลได้เรียกตัว ฟีลีปี โกชิญญู ติดรายชื่อชุดลุยศึกโคปาอเมริกา 2015 ลงเล่น 3 นัด พาทีมได้อันดับ 1 ของกลุ่มซี โดยบราซิลชนะ 2 แพ้ 1 (ชนะ เปรู 2-1, แพ้ โคลอมเบีย 0-1 และ ชนะ เวเนซุเอลา 2-1) ช่วยให้ บราซิล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเจอกับ ปารากวัย แต่พ่ายในการดวลจุดโทษ 3-4 หลังเสมอ 1-1 ใน 90 นาที

โคปาอเมริกา เซนเตนาริโอ

ทีมชาติบราซิลเรียกตัว โกชิญญู ติดรายชื่อชุดลุยศึกโคปาอเมริกา เซนเตนาริโอ ที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2016 โกชิญญู ทำแฮตทริกให้กับ บราซิล ในนัดที่ บราซิล เอาชนะ เฮติ 7-1

สถิติอาชีพ

สโมสร

ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2017[59]
สโมสร ฤดูกาล ลีก ฟุตบอลถ้วย[nb 1] ลีกคัพ ยุโรป อื่นๆ รวม
Division ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
วัสกู ดา กามา (loan) 2009 Série B 12 0 0 0 0 0 0 0 12 0
2010 7 1 7 1 0 0 17[a] 3 31 5
รวม 19 1 7 1 0 0 17 3 43 5
อินเตอร์มิลาน 2010–11 เซเรียอา 13 1 0 0 0 0 7[b] 0 20 1
2011–12 5 1 0 0 0 0 3[c] 0 8 1
2012–13 10 1 0 0 0 0 9[d] 2 19 3
รวม 28 3 0 0 0 0 19 2 47 5
อัสปัญญอล (ยืมตัว) 2011–12 ลาลีกา 16 5 0 0 0 0 16 5
รวม 16 5 0 0 0 0 16 5
ลิเวอร์พูล 2012–13 พรีเมียร์ลีก 13 3 0 0 0 0 0 0 13 3
2013–14 33 5 3 0 1 0 37 5
2014–15 35 5 7 3 4 0 6[e] 0 52 8
2015–16 26 8 1 1 3 1 13[d] 2 43 12
2016–17 31 13 2 0 3 1 36 14
2017–18 13 7 0 0 1 0 5[f] 5 19 12
รวม 151 41 13 4 12 2 24 7 200 54
รวมทั้งหมด 214 50 20 5 29 5 43 9 306 69
  1. Includes cup competitons such as Copa do Brasil, Coppa Italia, Copa del Rey and FA Cup
  1. All appearances in Campeonato Carioca
  2. One appearance in UEFA Super Cup, six appearances in UEFA Champions League
  3. All appearances in UEFA Champions League
  4. 4.0 4.1 All appearances in UEFA Europa League
  5. Five appearances in UEFA Champions League, one appearance in Europa League
  6. Appearances in UEFA Champions League

ทีมชาติ

ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2017.[60]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
บราซิล 2010 1 0
2014 4 0
2015 7 1
2016 11 5
2017 9 2
รวม 32 8

ประตูในนามทีมชาติ

Scores and results list Brazil's goal tally first:
Goal วันที่ สนาม คู่แข่งขัน ประตู ผล การแข่งขัน
1. 7 มิถุนายน 2015 Allianz Parque, เซาเปาลู, บราซิล ธงชาติเม็กซิโก เม็กซิโก 1–0 2–0 เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร
2. 8 มิถุนายน 2016 Camping World Stadium, Orlando, United States ธงชาติเฮติ เฮติ 1–0 7–1 โคปาอเมริกา เซนเตนาริโอ
3. 2–0
4. 7–1
5 6 ตุลาคม 2016 Arena das Dunas, Natal, Brazil ธงชาติโบลิเวีย โบลิเวีย 2–0 5–0 ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก
6. 10 พฤศจิกายน 2016 Estádio Mineirão, Belo Horizonte, Brazil ธงชาติอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา 1–0 3–0
7. 27 March 2017 Arena Corinthians, São Paulo, Brazil ธงชาติปารากวัย ปารากวัย 1–0 3–0
8. 31 August 2017 Arena do Grêmio, Porto Alegre, Brazil ธงชาติเอกวาดอร์ เอกวาดอร์ 2–0 2–0

เกียรติประวัติ

สโมสร

วัสกู ดา กามา

  • Campeonato Brasileiro Série B: 2009

อินเตอร์มิลาน

ทีมชาติ

บราซิล

  • FIFA U-20 World Cup: 2011
  • Superclásico de las Américas: 2014

รางวัลส่วนตัว

  • PFA Fans' Player of the Month: กุมภาพันธ์ 2015
  • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 2014–15
  • UEFA Europa League Squad of the Season: 2015–16[61]
  • นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2014–15, 2015–16
  • Liverpool FC Players' Player of the Year: 2014–15, 2015–16
  • Samba Gold Award (Samba d'Or): 2016[62]
  • Football Supporters' Federation Player of the Year: 2016
  • FIFPro World XI 4th team: 2017
  • ผู้ทำประตูสูงสุดของลิเวอร์พูล: 2016–17[63]
  • ประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: (2014–15: เจอกับ เซาแทมป์ตัน ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2015), (2015–16: เจอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในวันที่ 17 มีนาคม 2016)
  • ฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปี: (2014–15: เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในวันที่ 1 มีนาคม 2015), (2015–16: เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2015)
  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2012–13
  • นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจากสมาคมกองเชียร์ผู้พิการ: 2014–15[64], 2015–16
  • Liverpool Player of the Month Award (12): มีนาคม 2013, เมษายน 2013, ตุลาคม 2014[65], ธันวาคม 2014[66], มกราคม 2015[67], กุมภาพันธ์ 2015[68], เมษายน 2015[69], สิงหาคม 2015[70], พฤศจิกายน 2015[71], มีนาคม 2016[72], ตุลาคม 2016[73], เมษายน 2017[74]
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์ (9): กุมภาพันธ์ 2015[75], มีนาคม 2015[76], เมษายน 2015[77], สิงหาคม 2015[78], ตุลาคม 2015[79], กุมภาพันธ์ 2016[80], มีนาคม 2016[81], สิงหาคม 2016[82], ตุลาคม 2016[83]

อ้างอิง

  1. "New boy handed vacant No.10 shirt". Liverpoolfc.com. 30 January 2013.
  2. "Liverpool 0–2 West Brom" BBC Sport. 11 February 2013. Retrieved 12 February 2013.
  3. "Liverpool 5–0 Swansea" BBC Sport. 17 February 2013. Retrieved 17 February 2013.
  4. ลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ช่วยให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะทีมนักบุญ
  5. บาโลเตลลี และลอฟเรน ทำประตูชัยสุดดราม่าท้ายเกม
  6. ลิเวอร์พูลบุกเฉือนคิวพีอาร์ท้ายเกม
  7. ลูกโหม่งของสเคอร์เทล ช่วยทีมได้ผลเสมอกับอาร์เซนอล
  8. สเตอร์ริดจ์ยิงในเกมที่หงส์แดงเอาชนะขุนค้อน
  9. คูติญโญ่จรดปากกาเซ็นสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล
  10. ลูกยิงท้ายเกมของโกชิญญูส่งลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ
  11. ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 6 หลังเอาชนะทีมนักบุญ
  12. ความยอดเยี่ยมของโกชิญญูช่วยทีมคว้าชัยเหนือแมนฯ ซิตี้ อีกครั้ง
  13. เวทมนตร์ของโกชิญญูส่งลิเวอร์พูลสู่เวมบลีย์
  14. 5 ข้อเท็จจริงจากเกมลิเวอร์พูลบุกชนะแบล็กเบิร์น
  15. วิลลาเบียดเข้ารอบชิงฯ ดับความฝันลิเวอร์พูล
  16. 5 ข้อเท็จจริงที่ได้รับจากเกมลิเวอร์พูลชนะควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส
  17. โกชิญญูกวาด 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล Players' Awards
  18. ความพิเศษของโกชิญญูช่วยหงส์แดงคว้าสามแต้มที่สโต๊ก
  19. 5 ข้อเท็จจริงจากชัยชนะของลิเวอร์พูลในนัดเยือนสโต๊ก ซิตี้
  20. หงส์แดงพ่ายเวสต์แฮมที่แอนฟิลด์
  21. คล็อปป์คว้าชัยชนะในลีกเป็นครั้งแรกในเกมหงส์แดงบุกไปชนะเชลซี
  22. 5 ข้อเท็จจริงที่ได้จากเกมลิเวอร์พูลบุกชนะเชลซีในพรีเมียร์ลีก
  23. พาเลซบุกมายัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้ทีมลิเวอร์พูลของคล็อปป์
  24. ลิเวอร์พูลบุกไปยิงแมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัดถึง 4 ประตู
  25. 5 ข้อเท็จจริงที่เรียนรู้จากชัยชนะของลิเวอร์พูลในเกมเยือนแมนฯ ซิตี้
  26. ลิเวอร์พูลพ่ายเวสต์แฮม ตกรอบเอฟเอ คัพ
  27. ลิเวอร์พูลอกหักพ่ายการดวลจุดโทษในรอบชิงฯ แคปิตัล วัน คัพ
  28. ลูกยิงเหนือชั้นของคูตินโญ่ช่วยให้ลิเวอร์พูลผ่านแมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบต่อไป
  29. นักบุญพลิกกลับมาชนะหงส์แดง 3-2
  30. ลิเวอร์พูลและสเปอร์สแบ่งแต้มกันที่แอนฟิลด์
  31. ลิเวอร์พูลสร้างประวัติศาสต์ในการกลับมาชนะดอร์ทมุนด์
  32. ชัยชนะอันถล่มทลายของลิเวอร์พูลในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี
  33. คูตินโญ่คว้า 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล LFC Players’ Awards
  34. ลิเวอร์พูลกบุกไปกำชัยเหนืออาร์เซนอลในเกมเปิดฤดูกาล
  35. ลิเวอร์พูลตีตั๋วเข้ารอบ หลังถล่มดาร์บีขาดลอย
  36. ลิเวอร์พูลฟอร์มเยี่ยม เปิดแอนฟิลด์ถล่มฮัลล์ 5-1
  37. มาเน่ และคูตินโญ่ ยิงคว้าชัยเหนือเวสต์บรอมที่แอนฟิลด์
  38. ลิเวอร์พูลครองจ่าฝูง หลังถล่มวัตฟอร์ดที่แอนฟิลด์
  39. สโมสรลิเวอร์พูลประกาศการต่อสัญญาระยะยาวของฟิลิปเป้ คูตินโญ่
  40. สัมภาษณ์พิเศษ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ หลังต่อสัญญาฉบับใหม่
  41. ลิเวอร์พูลพ่ายเลสเตอร์ ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม
  42. ลิเวอร์พูลคว้าชัยในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี ที่แอนฟิลด์
  43. ลิเวอร์พูลเสมอบอร์นมัธที่แอนฟิลด์
  44. สองคู่หูบราซิลยิงให้ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะสโต๊ก
  45. พาเลซบุกมาฉกสามแต้มที่แอนฟิลด์
  46. ลิเวอร์พูลบุกทุบเวสต์แฮมพร้อมเก็บคลีนชีต
  47. ลิเวอร์พูลทุบโบโร่ขาดลอย 3-0 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล
  48. ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ถึงคิง เพาเวอร์ สเตเดียม
  49. ลิเวอร์พูลเสมอสปาร์ตัก มอสโก ในเกมแชมเปียนส์ลีก
  50. ลิเวอร์พูลเสมอนิวคาสเซิล 1-1
  51. ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มหรูถล่มมาริบอร์ในแชมเปียนส์ลีก
  52. ลิเวอร์พูลเฉลิมฉลองการทำลายสถิติในค่ำคืนยุโรปที่มาริบอร์
  53. ซาลาห์เหมาสองประตูอีกครั้งในเกมถล่มเซาท์แฮมป์ตัน
  54. ลิเวอร์พูลโชว์ความคมในแนวรุก ออกไปถล่มไบรท์ตัน 5-1!
  55. คูตินโญ่กดแฮตทริก! ลิเวอร์พูลถล่มสปาร์ตัก มอสโก 7-0 พร้อมเข้ารอบแชมเปียนส์ลีก
  56. ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มบอร์นมัธ พร้อมเก็บคลีนชีต
  57. ลิเวอร์พูลเก็บหนึ่งแต้ม ในเกมสุดมันส์ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม
  58. เปิดกล่องของขวัญที่แอนฟิลด์ กับ 5 ประตูสุดสวยเหนือสวอนซี
  59. ข้อมูลของ Philippe Coutinho ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
  60. "Coutinho, Philippe". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ 20 August 2015.
  61. "UEFA Europa League Squad of the Season". UEFA. 20 May 2016.
  62. ฟีลีปี โกชิญญู คว้ารางวัลแซมบ้า โกลด์ประจำปี 2016
  63. คูตินโญ่ทำสถิติยิงประตูให้ลิเวอร์พูลมากที่สุดในฤดูกาล 2016-17
  64. โกชิญญูคว้ารางวัล LDSA
  65. โกชิญญูคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม
  66. ประกาศนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนธันวาคม
  67. โกชิญญูคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคม
  68. โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนอีกครั้ง
  69. โกชิญญูคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน
  70. คูตินโญ่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเดือนสิงหาคม
  71. คูตินโญ่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายน
  72. คูตินโญ่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม
  73. คูตินโญ่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม
  74. คูตินโญ่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูลประจำเดือนเมษายน
  75. โกชิญญูคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์
  76. โกชิญญูคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคม
  77. โกชิญญูคว้ารางวัลประตูประยอดเยี่ยม 3 เดือนซ้อน
  78. คูตินโญ่คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม
  79. ลูกยิงของคูตินโญ่ได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม
  80. สุดยอดฟรีคิกของคูตินโญ่ได้รับการโหวตให้เป็นประตูที่ดีที่สุดของเดือนกุมภาพันธ์
  81. เวทมนตร์ของคูตินโญ่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมเดือนมีนาคม
  82. คูตินโญ่คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยม ประจำเดือนสิงหาคม
  83. คูตินโญ่เอาชนะมาเน่ และเฟอร์มิโน่ คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน ต.ค.

แหล่งข้อมูลอื่น