พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย

เฟอร์ดินานด์ แม็กซิมิลเลียน คาร์ล ลีโอโปลด์ มาเรีย

พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย
Zar Ferdinand Bulgarien.jpg
เจ้าชายแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและโกธา
เจ้าชายแห่งบัลแกเรีย
พระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย
ครองราชย์5 ตุลาคม พ.ศ. 24513 ตุลาคม พ.ศ. 2461
รัชกาลก่อนหน้าตำแหน่งใหม่
รัชกาลถัดไปพระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย
พระราชบุตรพระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย
เจ้าชายคิริลแห่งบัลแกเรีย
เจ้าหญิงยูโดเซียแห่งบัลแกเรีย
เจ้าหญิงนาเด็จดาแห่งบัลแกเรีย
ราชวงศ์ราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธา-โคฮารี
พระราชบิดาเจ้าชายออกุสต์แห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา
พระราชมารดาเจ้าหญิงคลีเมนทีนแห่งออร์เลออง
ประสูติ26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2404
เวียนนา,ออสเตรีย
สวรรคต10 กันยายน พ.ศ. 2491
โคบูร์ก เยอรมนี
(พระชนมายุ 87 พรรษา)
ลายพระอภิไธย

พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย (26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 240410 กันยายน พ.ศ. 2491; พระนามเมื่อประสูติ: เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ แม็กซิมิลเลียน คาร์ล ลีโอโปลด์ มาเรียแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา-โคฮารี) ทรงเป็นองค์อธิปัตย์แห่งบัลแกเรีย และหลังจากนั้นทรงดำรงเป็นพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย ทรงเป็นทั้งนักประพันธ์,นักพฤกษาศาสตร์,นักกีฏวิทยาและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแสตมป์

ภูมิหลังราชวงศ์[แก้]

เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงประสูติที่กรุงเวียนนา ทรงเป็นเจ้าชายแห่งราชวงศ์โคฮารี สายราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธา พระองค์ทรงเจริญพระชันษาในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและพระราชวงศ์ทรงมีดินแดนในสโลวาเกียและเยอรมนี ซึ่งได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ เชื้อสายราชวงศ์โคฮารีมาจากตระกูลขุนนางชาวสโลวักจากฮังการี ที่ซึ่งมีความมั่นคั่ง ดังเช่นพระราชวงศ์ทรงมีปราสาทคาบราดและปราสาทซิทโน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสโลวาเกีย ทรัพย์สินของพระราชวงศ์ได้รับการเพิ่มอีกจากราชทรัพย์ของเจ้าหญิงคลีเมนทีนแห่งออร์เลออง

พระองค์เป็นพระโอรสในเจ้าชายออกุสต์แห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธากับเจ้าหญิงคลีเมนทีนแห่งออร์เลออง ซึ่งเป็นพระธิดาในพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส เจ้าชายเฟอร์ดินานด์เป็นพระนัดดาในดยุคเออร์เนสต์ที่ 1 แห่งแซ็กซ์-โคบูร์ก-ก็อตธา และสมเด็จพระราชาธิบดีลีโอโปลด์ที่ 1 แห่งเบลเยียม ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์แรกของเบลเยียม เจ้าชายออกุสต์ ผู้เป็นพระบิดาของพระองค์เป็นพระอนุชาในพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งโปรตุเกสและเป็นพระญาติชั้นหนึ่งในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร,เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เจ้าชายพระราชสวามี,สมเด็จพระจักรพรรดินีคาร์ลอร์ตาแห่งเม็กซิโกและสมเด็จพระราชาธิบดีลีโอโปลด์ที่ 2 แห่งเบลเยียม ทั้งพระเจ้าลีโอโปลด์และจักรพรรดินีคาร์ลอตายังเป็นพระญาติชั้นหนึ่งของเจ้าชายเฟอร์ดินานด์ผ่านทางพระมารดาของพระองค์อีกด้วย ราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธาจึงเป็นราชวงศ์ที่เข้มแข็งโดยการที่มีดินแดนในปกครองมาก รวมทั้งการอภิเษกสมรสระหว่างราชวงศ์ ตามมาด้วยการที่เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงสถาปนาราชวงศ์แซ็กซ์-โคบูร์กและโกธาในบัลแกเรีย อีกทั้งเจ้าชายเฟอร์ดินานด์ยังทรงมีเชื้อสายของผู้ปกครองบัลแกเรียตั้งแต่สมัยยุคกลาง


องค์อธิปัตย์แห่งบัลแกเรีย[แก้]

องค์อธิปัตย์แห่งราชอาณาจักรบัลแกเรียที่ 3 พระองค์แรก คือ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งบาทเทนเบิร์ก พระองค์ทรงสละราชบัลลังก์ในปีพ.ศ. 2429 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 7 ปีหลชังจากทรงได้รับเลือกให้เป็นองค์อธิปัตย์แห่งบัลแกเรีย เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ได้รับเลือกเป็นคจานซ์แห่งรัฐอิสระบัลแกเรีย(องค์อธิปัตย์)โดยสมัชชาแห่งชาติของประเทศในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 ตามปฏิทินเกรกอเรียน ซึ่งได้สิทธิจากการต่อต้านอิทธิพลของรัสเซียอย่างรุนแรง ได้มีการเสนอบัลลังก์แก่ราชนิกุลอื่นก่อนเจ้าชายเฟอร์ดินานด์ จากเจ้าชายเดนมาร์กถึงแถบคอเคซัสและแม้แต่กษัตริย์แห่งโรมาเนีย การขึ้นครองราชย์ของพระองค์ได้รับการไม่ยอมรับจากหลายๆราชวงศ์ในยุโรป สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นพระญาติชั้นหนึ่งของพระบิดาของพระองค์ได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีของพระนางว่า "เขาไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ... ละเอียดอ่อน,นอกรีต,อ่อนแอ เราต้องหยุดยั้งความคิดของเขาเดี๋ยวนี้" แม้ว่าในช่วงต้นเจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงถูกให้ร้ายต่างๆแต่พระองค์ก็ประสบความสำเร็จในการครองราชย์ครบรอบ 10 ปีครั้งแรก

บทบาททางการเมืองของพระองค์ในช่วงแรกทรงถูกครอบงำโดยผู้นำพรรคเสรีนิยม สเตฟาน สตัมโบลอฟ ซึ่งมีนโยบายห่างเหินกับรัสเซียและสนับสนุนออสเตรีย

ชีวิตส่วนพระองค์[แก้]

เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกรักร่วมสองเพศ เนื่องจากพระอิริยาบถในบางครั้งของพระชนม์ชีพของพระองค์จะทรงหนักไปทางสตรีเสียมากกว่า

พิธีอภิเษกสมรส พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์กับเจ้าหญิงมารี หลุยส์ พระมเหสีองค์แรก

เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงอภิเษกสมรสโดยการถูกคลุมถุงชนกับเจ้าหญิงมารี หลุยส์แห่งปาร์มา พระราชธิดาในดยุคโรเบิร์ตที่ 1 แห่งปาร์มา ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2436 ที่วิลลา พิเอนอร์ ในลูคคา ประเทศอิตาลี ทั้ง 2 พระองค์มีพระโอรส-ธิดารวมกัน 4 พระองค์ ได้แก่

เจ้าหญิงมารี หลุยส์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2442 หลังจากมีพระประสูติกาลพระธิดาองค์สุดท้อง เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงไม่อภิเษกสมรสอีกจนกระทั่งเจ้าหญิงคลีเมนทีน พระชนนีสิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ. 2450 เพื่อสร้างความมั่นคงแก่พระราชวงศ์และพระโอรสธิดาต้องการผู้ดูแล เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเอเลนอร์ รอสแห่งคอสทริกส์ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2451

เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ทรงนิยมไปพักผ่อนที่ชายหาดคาพริ ประเทศอิตาลี ทรงมีความสำราญพระทัยมาก ซึ่งพระองค์ได้เป็นต้นแบบของราชวงศ์ยุโรปที่ไม่เป็นไปตามธรรมเนียม

จุดตกต่ำของสตัมโบลอฟและนำไปสู่การลอบสังหารเขาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2438 นำไปสู่การปรองดองกันอีกครั้งระหว่างรัสเซียและบัลแกเรียในกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 และการเปลี่ยนแปลงนิกายทางศาสนาของเจ้าชายบอริส พระโอรสจากโรมันคาทอลิกสู่ออร์ทอด็อกซ์ซึ่งได้รับการชมเชยจากรัสเซีย แต่ได้รับการต่อต้านจากพระญาติของพระองค์สายออสเตรียซึ่งเป็นโรมันคาทอลิก โดยเฉพาะสร้างความเกลียดชังให้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรียพระปิตุลาของพระองค์

พระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย[แก้]

เจ้าชายเฟอร์ดินานด์ได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งมาจากการประกาศเอกราชอย่างสมบูรณ์จากจักรวรรดิออตโตมันในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2451 และเฉลิมฉลองการประกาศเอกราชในวันที่ 22 กันยายน คำประกาศอิสรภาพได้ประกาศขึ้นที่โบสถ์นักบุญมรณสักขีทั้ง 40 พระองค์(Saint Forty Martyrs Church)ในทูร์โนโว และได้รับการยอมรับจากตุรกีและมหาอำนาจอื่นๆในยุโรป

พิธีอภิเษกสมรส พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรียกับพระมเหสีพระองค์ที่ 2 เจ้าหญิงเอเลนอร์ รอส

พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงมีอำนาจในการปกครองอย่างสมบูรณ์ ในการเสด็จพบปะกับสมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี พระญาติของพระองค์ทั้ง 2 พระองค์ได้ถูกปลดจากตำแหน่ง ในปีพ.ศ. 2452 พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงประทับพิงอยู่ที่หน้าต่างในพระราชวังที่พอตสดัม เมื่อจักรพรรดิได้เสด็จมาข้างหลังพระองค์และตบหลังพระองค์ พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงรู้สึกถึงการถูกดูหมินจากอิริยาบถครั้งนี้และพระจักรพรรดิทรงขอโทษพระองค์ อย่างไรก็ตามพระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงแค้นพระทัย พระองค์ทรงแก้แค้นโดยการประทานตราเยอรมันที่มีค่ามากไปที่โรงงานครุฟฟ์ในเอสเซน เพื่อเปลี่ยนเป็นตราฝรั่งเศส ซึ่งเป็นศัตรูกับเยอรมนี เหตุการณ์อื่นเช่น เมื่อขณะที่พระองค์ทรงเดินทางไปร่วมพิธีพระศพของพระญาติชั้นสองของพระองค์ซึ่งก็คือสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2453 เกิดเหคุต่อสู้ แย่งชิงของชาวบ้านซึ่งขวางขบวนเสด็จรถไฟของพระองค์ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในจุดขบวนของอาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย รัชทายาทแห่งออสเตรีย-ฮังการี แต่อาร์ชดยุกทรงได้รับการเสด็จไปก่อนพระองค์โดยพวกข้าราชบริพานได้นำเชื้อเพลิงจากขบวนของพระเจ้าซาร์ไปเติมแก่ขบวนของอาร์ชดยุก ทำให้พระเจ้าซาร์เสด็จไปหลังสุด ในภายหลังรถของอาร์ชดยุกถูกขวางโดยรถอาหารของพระเจ้าซาร์ พระองค์ทรงแก้แค้นโดยปฏิเสธที่จะให้รถของอาร์ชดยุกเสด็จผ่านก่อนรถอาหารของพระองค์ ในวันที่ 15 กรกฎาคม ปีเดียวกันระหว่างเสด็จประพาสเบลเยียม พระองค์ได้กลายเป็นพระประมุขของรัฐพระองค์แรกทีทรงขับเครื่องบินด้วยพระองค์เอง

สงครามบอลข่าน[แก้]

พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย

พระองค์มีพระดำริเหมือนกับประมุขประเทศที่นับถือนิกายออร์ทอด็กซ์ คือ "การสถาปนาจักรวรรดิไบแซนไทน์ยุคใหม่" ในปีพ.ศ. 2455 พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงร่วมมือกับรัฐบอลข่านต่างๆในการโจมตีจักรวรรดิออตโตมันเพื่อยึดครองดินแดน พระองค์ทรงมีความเชื่อว่าสงครามนี้คือสงครามครูเสดยุคสมัยใหม่ พระองค์มีพระราชโองการว่า "นี่คือการศึกครั้งยิ่งใหญ่และอำนาจแห่งกางเขนจะสามารถต้านทานอำนาจแห่งจันทราเสี้ยว" ชาวบัลแกเรียสนับสนุนการศึกครั้งนี้มากที่สุดและสูญเสียทหารมากที่สุดด้วย มหาอำนาจยืนยันที่จะให้อิสระแก่แอลเบเนีย ไม่ช้าไม่นานบัลแกเรียได้โจมตีอดีตพันธมิตรเซอร์เบียและกรีซ และบัลแกเรียถูกโรมาเนียและจักรวรรดิออตโตมันโจมตีและบัลแกเรียพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามในการลงนามในสนธิสัญญาบูคาเรสต์(1913) บัลแกเรียได้ดินแดนไปบางส่วน คือพื้นที่เล็กๆทำให้ได้มีชายฝั่งติดต่อกับทะเลอีเจียน

สงครามโลกครั้งที่ 1 และการสละราชบัลลังก์[แก้]

ในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2458 กองทัพบัลแกเรียได้โจมตีเซอร์เบียหลังจากบัลแกเรียได้ลงนามสนธิสัญญากับจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีและเยอรมนี ที่ซึ่งสัญญาจะให้ดินแดนของเซอร์เบียเป็นการตอบแทนบัลแกเรีย เรียกศึกนี้ว่า ยุทธการเซอร์เบีย พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์มิได้ชื่นชอบแนวทางของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี ผู้เป็นพระญาติหรือสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย พระปิตุลา พระเจ้าซาร์ตรัสถึงจักรพรรดิออสเตรียว่า "ฟรานซิส โจเซฟเป็นตาแก่ที่บ้าและขี้หลงขี้ลืม" แต่เนื่องจากทรงต้องการผลประโยชน์ในดินแดนต่างๆหลังจากพ่ายแพ้ในสงครามบอลข่าน ทำให้พระองค์ต้องผูกสัมพันธไมตรีกับศัตรูเก่าคือ จักรวรรดิออตโตมัน

ในช่วงที่สงครามกำลังดำเนินอยู่ เซอร์เบียพ่ายแพ้สงคราม และบัลแกเรียได้ครอบครองดินแดนมาซิโดเนีย 2 ปีต่อมาบัลแกเรียต้องต่อสู้กับกองทัพสัมพันธมิตรที่ประจำการอยู่ในกรีซ และทหารบัลแกเรียอีกส่วนหนึ่งสามารถโจมตีและยึดครองโรมาเนียในปีพ.ศ. 2459

จากนั้น ในฤดูใบไม้ร่วง พ.ศ. 2461 กองทัพบัลแกเรียได้ถูกโจมตีโดยกองทัพสัมพันธมิตรในกรีซ ด้วยที่ทรงทำให้กองทัพพ่ายแพ้ พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ทรงแสดงความรับผิดชอบโดยสละราชบัลลังก์เพื่อปกปักษ์รักษาบัลแกเรียไว้ พระโอรสของพระองค์ได้ครองราชย์สืบต่อพระนามว่า พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรียในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2461 ภายใต้การนำของรัฐบาลใหม่ บัลแกเรียได้ประกาศยอมแพ้สงครามต่อฝ่ายพันธมิตร เป็นผลให้สูญเสียดินแดนเพียงเล็กน้อย และยังได้รับดินแดนที่ต่อสู้แล้วได้รับมาตั้งแต่สมัยสงครามบอลข่านคืนมาและเข้าถึงทะเลอีเจียน

การเนรเทศและเสด็จสวรรคต[แก้]

พระโอรสและพระธิดาในพระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ จากซ้าย:เจ้าหญิงยูโดเซีย,เจ้าชายคิริล,เจ้าชายบอริสและเจ้าหญิงนาเด็จดา
อดีตพระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์แห่งบัลแกเรียในปีพ.ศ. 2471

หลังจากทรงสละราชสมบัติ อดีตพระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์เสด็จกลับไปพำนักที่ โคบูร์ก ประเทศเยอรมนี พระองค์ได้จัดการกอบกู้ทรัพย์ของพระองค์ และทรงดำรงพระชนม์ชีพอย่างมีแบบแผน พระองค์ทรงเห็นว่าการเนรเทศกษัตริย์เป็นการสร้างความไม่มั่นคงของระบอบกษัตริย์ พระองค์ทรงเสนอความคิดเห็นว่า

การเนรเทศกษัตริย์ถือเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมมากจนกลายเป็นความผิดพลาดของบุคคล แต่ปรัชญาของกษัตริย์นั้นเป็นหลักธรรมและจรรยา และอย่าลืมเลือนความภาคภูมิใจที่เป็นสิ่งสำคัญแห่งระบอบกษัตริย์ เรามีระเบียบวินัยตั้งแต่กำเนิดมาและได้รับการสอนให้หลีกเลี่ยงกิริยาที่เป็นสัญญาณถึงอารมณ์ โครงกระดูกจะนั่งอยู่กับเราตลอดไปแม้เป็นงานรื่นเริง มันอาจหมายถึง อาจมีการฆาตกรรมหรือหมายถึง การล้มล้างบัลลังก์ แต่มันช่วยเป็นเครื่องเตือนใจให้เราเตรียมพร้อมตลอดเวลาแม้เป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิด ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมใจยอมรับสิ่งนั้นแม้อาจจะไม่มาในรูปแบบภัยพิบัติ สิ่งสำคัญในชีวิตคือการสนับสนุนสถานภาพทางสังคม หรือการขับไล่สิ่งทางใจด้วยความมีเกรียติ ถ้ามื้ออาหารนั้นมีความโศกเศร้า เราไม่จำเป็นต้องเชิญโลกมาดูคุณทานอาหารมื้อนั้น[1]

— พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย

พระองค์ทรงดีพระทัยที่พระโอรสได้ครองราชย์สืบต่อจากพระองค์ แต่ทรงไม่พอพระทัยที่ถูกเนรเทศ และพระองค์ทรงใช้เวลากับศิลปะ การทำสวน การท่องเที่ยว และประวัติธรรมชาติ อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงได้รับรู้ถึงหายนะขณะที่ทรงดำรงพระชนมชีพอยู่ พระโอรสของพระองค์ พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย เสด็จสวรรคตอย่างลึกลับหลังจากเข้าพบปะกับฮิตเลอร์ที่เยอรมนี ในปีพ.ศ. 2486 พระโอรสของพระเจ้าซาร์บอริสได้ครองราชย์ พระนาม พระเจ้าซาร์ซิเมออนที่ 2 แห่งบัลแกเรีย และพระราชวงศ์ถูกล้มล้างในปีพ.ศ. 2489 ถือเป็นจุดสิ้นสุดระบอบกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ราชอาณาจักรบัลแกเรียถูกเปลี่ยนเป็น สาธารณรัฐประชาชนบัลแกเรีย เจ้าชายคิริลแห่งบัลแกเรีย พระโอรสของพระองค์เอง ได้ถูกตัดสินประหารชีวิต เมื่อพระองค์ทรงทราบข่าวการประหารเจ้าชายคิริล ตรัสว่า "ทุกๆสิ่งรอบตัวฉันล้วนเป็นหายนะ" พระองค์ได้เสด็จสวรรคตในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2491 ที่โคบูร์ก ประเทศเยอรมนี ความปรารถนาสุดท้ายของพระองค์คือ การฝังพระศพพระองค์ในบัลแกเรีย แต่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ไม่ยินยอมจึงต้องฝังพระศพของพระองค์ไว้ที่โคบูร์ก

อ้างอิง[แก้]

  • Aronson, Theo (1986). Crowns In Conflict: The Triumph And The Tragedy Of European Monarchy, 1910-1918. London: J.Murray. ISBN 0-7195-4279-0. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |coauthors= (help)
  • Finestone, Jeffrey (1981). The Last Courts of Europe. London: J.M.Dent & Sons Ltd. ISBN 0 460 04519 9. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |coauthors= (help)
  • Louda, Jiri (1981). Lines of Succession. London: Orbis Publishing Ltd. ISBN 0 460 04519 9. {{cite book}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help)
  • Constant, Stephen (1986). Foxy Ferdinand, 1861-1948, Tsar of Bulgaria. London: Sidgwick and Jackson. ISBN 0-238-98515-1. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |coauthors= (help); ตรวจสอบค่า |isbn=: checksum (help)
  • Palmer, Alan (1978). The Kaiser: Warlord Of The Second Reich. London: Weidenfeld and Nicolson. ISBN 0-297-77393-3. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |coauthors= (help)
ก่อนหน้า พระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งบัลแกเรีย ถัดไป
เจ้าชายอเล็กซานเดอร์แห่งบัลแกเรีย 2leftarrow.png Bulgaria,Principality,1887.jpg
องค์อธิปัตย์แห่งบัลแกเรีย
(บัลแกเรีย)

(7 กรกฎาคม พ.ศ. 24305 ตุลาคม พ.ศ. 2451)
2rightarrow.png ตำแหน่งพระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย
ประกาศเอกราชจากจักรวรรดิออตโตมัน
ตำแหน่งใหม่ 2leftarrow.png Coat of arms of Bulgaria (1927–1946).svg
พระเจ้าซาร์แห่งบัลแกเรีย
(บัลแกเรีย)

(5 ตุลาคม พ.ศ. 24513 ตุลาคม พ.ศ. 2461)
2rightarrow.png พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย