ข้ามไปเนื้อหา

ผู้เสพความตาย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์)

ผู้เสพความตาย (อังกฤษ: Death Eater) เป็นตัวละครสมมติในชุดนวนิยายและภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ พวกเขาเป็นกลุ่มพ่อมดแม่มด นำโดยลอร์ดโวลเดอมอร์ ที่แสวงการทำให้ชุมชนพ่อมดแม่มดบริสุทธิ์โดยการกำจัดผู้ที่เกิดจากมักเกิล (คือ พ่อมดแม่มดที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่มีเวทมนตร์) พวกเขายังพยายามสร้างระเบียบใหม่ผ่านกระทรวงเวทมนตร์และทำให้เกิดความกลัวในหมู่ชุมชนพ่อมดแม่มดโดยการข่มขวัญและสังหารข้าราชการคนสำคัญและศัตรูอื่นของผู้เสพความตาย ซึ่งหมายถึง สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์เป็นหลัก

ผู้เสพความตายระบุได้จากตรามารบนต้นแขนซ้าย สัญลักษณ์ที่โวลเดอมอร์สร้างขึ้นเพื่อเรียกตัวเขาไปยังผู้เสพความตายทันทีหรือกลับกัน เครื่องแต่งกายปกติของพวกเขารวมเสื้อคลุมมีหมวกคลุมสีดำ และหน้ากาก กลุ่มผู้เสพความตายปรากฏครั้งแรกในนวนิยาย แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี แต่สมาชิกนั้นปรากฏตั้งแต่เล่มก่อน ๆ แล้ว เช่น ลูเซียส มัลฟอย​ เซเวอร์รัส สเนป​ และ​เดรโก​มัลฟอย​ เป็นต้น​ (ตรามารสามารถลบล้าง​ออกได้ยากแม้ว่าเจ้าแห่ง​ศาสตร์​มืดจะตายไปแล้วก็ตาม)​

ประวัติ

[แก้]

ยุคแรกของผู้เสพความตาย

[แก้]

ในช่วงแรกนั้นโวลเดอมอร์มีกองกำลังสมุนเป็นจำนวนมาก เรื่องการฆ่าผู้วิเศษและรวมไปถึงมักเกิ้ลนั้นถือเป็น 'การละเล่น' ธรรมดาอย่างหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันในยุคเรืองอำนาจของโวลเดอมอร์ ก็ได้มีสมาคมลับที่ใช้ชื่อว่าภาคีนกฟีนิกซ์ ซึ่งมีอัลบัส ดัมเบิลดอร์เป็นแกนนำ ที่พยายามต่อต้านและกำจัดอำนาจมืด พวกผู้เสพความตายจึงพยายามกำจัดพวกภาคีให้หมดสิ้น ในขณะที่พวกภาคีถูกฆ่าเหล่าผู้เสพความตายก็ลดลงจากการถูกจับกุม หรือถูกฆ่าโดยมือปราบมารบ้าง จนกระทั่งโวลเดอมอร์สูญสลายอำนาจ เหล่าผู้เสพความตายจึงถูกกำจัดไปทีละคน บางคนตาย บางคนถูกจับ และบางคนพ้นความผิด ยุคแรกจึงสิ้นสุดลง

ยุคฟื้นฟูอำนาจมืด

[แก้]

13 ปีต่อมาโวลเดอมอร์ฟื้นคืนชีพขึ้น และพยายามรวบรวมสมุนกลับมา แต่ในขณะเดียวกันแฮร์รี่ซึ่งรู้เห็นเหตุการณ์คนเดียวก็พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้กระทรวงเชื่อ แต่กระทรวงกลับปฏิเสธที่จะรับรู้ว่าโวลเดอมอร์กลับมาจนกระทั่งผู้เสพความตายที่ถูกคุมขังแหกคุกออกมารวบรวมกำลังกับโวลเดอมอร์อีกครั้ง จึงทำให้เกิดสงครามกับผู้เสพความตายที่กระทรวงเวทมนตร์ ในกองปริศนา หลังจากดัมเบิลดอร์ถูกฆ่าตาย ผู้เสพความตายกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง หลังจากนั้นพวกของโวลเดอมอร์ยึดอำนาจของกระทรวงเวทมนตร์ได้สำเร็จอำนาจมืดกำลังจะครอบงำทั่วโลก ทำให้ประเทศถูกอำนาจมืดครอบงำทั่วทุกสารทิศรวมถึงฮอกวอตส์ด้วย พวกแฮร์รี่เองก็พยายามกำจัดชิ้นส่วนวิญญาณของโวลเดอมอร์ และทำให้เกิดสงครามที่ฮอกวอตส์

อำนาจมืดสูญสลาย

[แก้]

หลังจากโวลเดอมอร์ตาย พลังอำนาจมืดก็สลายไป เหล่าผู้เสพความตายต่างก็ถูกสังหารและถูกจับกุม บางพวกก็หนีไปได้ บางพวกก็ถูกฆ่าตายในสงครามฮอกวอตส์ เช่น เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์, แอนโทนิน โดโลฮอฟ เป็นต้น

รายชื่อผู้เสพความตายหลัก

[แก้]
  • ลอร์ดโวลเดอมอร์ หัวหน้าของผู้เสพความ​ตาย​
  • เอเวอรี่ จูเนียร์​ เพื่อนของเซเวอรัส สเนป
  • กิ๊บบ้อน (Gibbon) – ผู้เสพความตาย
  • บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ ปลอมตัวเป็นแม้ด-อาย ในภาค4 เพื่อพาแฮร์รี่ไปหาโวลเดอมอร์ ถูกจุมพิตของผู้คุมวิญญาณของกระทรวง
  • เรกูลัส แบล็ก (น้องชายของซีเรียส แบล็ก) หรือ ร.อ.บ ภายหลังกลับใจ ขโมยฮอร์ครักซ์ให้ครีเชอร์ และตายด้วยอินเฟอไร
  • ​ มิสเตอร์ แครบ พ่อของ วินเซนต์แครบ
  • ว​ิ​นเซนต์ แครบ ลูกน้องมัลฟอย
  • แอนโทนิน โดโลฮอฟ ผู้เสพความตายรุ่นแรกเขาโจมตีแฮรี่ รอนและเฮไมโอนี่​ที่ร้านกาแฟสุดท้ายถูกล้างความจำ
  • ทอร์ฟิน โรวล์ ผู้เสพความตายที่โจมตีแฮรี่ รอนและเฮไมโอนี่​ที่ร้านกาแฟสุดท้ายถูกล้างความจำ
  • ​ มิสเตอร์ กอยล์ พ่อของ เกรกอรี่ กอยล์
  • เกรกอรี่ กอยล์ ลูกน้องมัลฟอย
  • จั๊กสัน
  • ไอกอร์ คาคารอฟ เป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเดิร์มสแตรงค์ ได้หักหลังโวลเดอมอร์ ตอนโวลเดอมอร์สิ้นอำนาจ และตายด้วยน้ำมือของโวลเดอมอร์
  • เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ลูกพี่ลูกน้องของซิเรียส แบล็ก เบลลาทริกซ์ได้ชื่อว่า เป็นสมุนเอกของคนที่ไม่ควรเอ่ยนาม และเธอคือผู้ที่สังหารซิเรียส แบล็ก และใช้คำสาปกรีดแทงกับแฟรงค์และอลิซ ลองบัตท่อม พ่อแม่ของเนวิลล์ ลองบัตท่อมจนทั้งคู่เสียสติ ภายหลังถูกมอลลี่ วีสลีย์สังหารในสงครามฮอกวอตส์
  • โรโดลฟัส เลสแตรงจ์ สามีของเบลลาทริกซ์
  • ลาบัสแตรง เลสแตรงจ์ น้องชาย โรโดลฟัส เลสแตรงจ์
  • ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ หรือหางหนอน ตายในภาค7
  • ลูเซียส มัลฟอย พ่อของเดรโก มัลฟอย
  • น็อตต์ พ่อของ ทีโอดอร์ ​น็อตต์ เพื่อนของเดรโก มัลฟอย
  • เดรโก มัลฟอย เป็นคนนำผู้เสพความตายเข้ามาที่โรงเรียน
  • วอลเด็น แมคแนร์ เป็นผู้เสพความตาย และเพื่อนของลูเซียส มัลฟอย ปรากฏตัวครั้งแรกในแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน โดยเป็นเพชรฆาตที่จะประหารบักบีค และใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ เขาเป็นผู้เสพความตายที่จับตัวลูน่า เลิฟกู๊ด และในตอนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์กับซิเรียส แบล็คสู้กับลูเซียส มัลฟอยเขาก็มาช่วย ลูเซียส มัลฟอยต่อสู้
  • เซเวอรัส สเนป แฝงตัวเข้าไปเพื่อล้วงความลับ แท้จริงแล้วภักดีต่อฝ่ายดัมเบิลดอร์และภาคีนกฟีนิกซ์
  • ​ เซลวิน (Selwyn) เป็นหนึ่งในผู้เสพความตาย ปรากฎครั้งแรกในการต่อสู้ในแผนพอตเตอร์7คน และเป็นคนลักพาตัวลูน่าไปคฤหาสน์มัลฟอย
  • ออกัสตัส รู้กวู้ด ผู้ปิดปากเงียบทำงานกองปริศนา กระทรวงเวทมนตร์
  • ทราเวอร์ส ผู้เสพความตายที่แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ เจอภาคที่ 7 ตอน กริงกอตส์
  • อีวาน โรซิเออร์ เพื่อนร่วมชั้นเรียน กับ เซเวอรัส สเนป
  • วิกกี้ส์ ผู้เสพความตายรุ่นแรกเสียชีวิตด้วยมือปราบมาร
  • มัลซิเบอร์
  • อะเล็กโต แคร์โรว์ น้องสาวของอะมีคัส สอนวิชามักเกิ้ลศึกษาภาคที่ 7
  • อะมีคัส แคร์โรว์ พี่ชายของอะเล็กโต สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด หรือศาสตร์มืดนั่นเองในภาคที่ 7
  • เฟนเรีย เกรย์แบล็ก มนุษย์หมาป่าผู้จับแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ดีน และลูน่า ไปที่คฤหาสน์มัลฟอย
  • คอร์บาน แยกซ์ลีย์ หัวหน้ากองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ กระทรวงเวทมนตร์

ประวัติสมาชิก

[แก้]

เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์

[แก้]

เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ เกิดในปี 1951 มีสามีคือโรโดลฟัส เลสแตรงจ์ และเธอยังเป็นพี่สาวของอันโดรเมด้า ท็องส์ แม่ของนิมฟาดอร่า ท็องส์ กับนาร์ซิสซา มัลฟอย แม่ของเดรโก มัลฟอย อีกด้วย เธอเป็นผู้เสพความตายที่มักจะรับหน้าที่เป็นผู้นำเสมอ เนื่องจากเธอภักดีต่อจอมมารที่สุด และได้รับการไว้วางใจจากเขามาก หลังจากที่จอมมารสูญสิ้นอำนาจเธอก็ออกตามหาเขา แต่เธอถูกจับไปอยู่ที่อัซคาบันเนื่องจากคดีที่เธอก่อ โดยการใช้คำสาปกรีดแทงมือปราบมารสองสามีภรรยาคือแฟรงค์และอลิซ ลองบัตท่อม ซึ่งเป็นพ่อแม่ของเนวิลล์ ลองบัตท่อม แต่หลังจากที่จอมมารกลับมาเป็นอิสระเขาก็ได้ไปช่วยเธอออกมา ซึ่งเธอก็ได้เป็นผู้นำของผู้เสพความตายเข้าไปที่กองปริศนาเพื่อแย่งชิงลูกแก้วพยากรณ์จากพวกแฮร์รี่ด้วย แต่เธอทำไม่สำเร็จและได้สังหารซิเรียส แบล็กซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธออีกด้วย

หลังจากนั้นน้องสาวของเธอซึ่งก็คือนาร์ซิสซา ได้ไปขอให้เซเวอร์รัส สเนปช่วยเกลี้ยกล่อมจอมมารให้ละเว้นเดรโกไม่ให้เป็นผู้เสพความตาย และได้มีโดยเธอทำการคัดค้านการเกลี้ยกล่อมในครั้งนี้อย่างไรก็ตามเธอเป็นผู้ทำพันธนาการในการทำปฏิญาณไม่คืนคำกับสเนปและนาร์ซิสซาเธอและผู้เสพความตายส่วนหนึ่งบุกไปที่ฮอกวอตส์ด้วยความช่วยเหลือของเดรโก และพยายามบังคับให้เดรโกเป็นคนสังหารดัมเบิลดอร์ แต่สเนปชิงลงมือเสียก่อน ในภาคสุดท้าย เธอกับครอบครัวมัลฟอยได้ตัวแฮร์รี่มาจากพวกนักต้อน ก่อนจะเรียกโวลเดอมอร์ เธอได้สังเกตเห็นดาบของกริฟฟินดอร์ที่พวกนักต้อนชิงมาจากเฮอร์ไมโอนี่เข้าและเล่นงานพวกนักต้อนที่รู้เห็นในเรื่องนี้เนื่องจากดาบนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสมบัติที่เก็บเอาไว้ในตู้นิรภัยของเธอ เธอได้ทรมานเฮอร์ไมโอนี่ให้บอกความจริงกับเธอเรื่องดาบ แต่สุดท้ายด๊อบบี้ได้เข้ามาขวางไว้และเธอก็ได้สังหารเขาด้วยมีดสั้น โดยเฮอร์ไมโฮนีได้เส้นผมของเธอติดมาด้วย ทำให้เธอสามารถปลอมตัวเป็นเบลลาทริกซ์ไปขโมยถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟมาได้ ในสงครามฮอกวอตส์เธอต่อสู้และพยายามที่จะฆ่าจินนี่ วีสลีย์ สุดท้ายเธอจึงถูกมอลลี่สังหารด้วยคำสาปพิฆาต

ลูเซียส มัลฟอย

[แก้]

ลูเซียส มัลฟอย เป็นพ่อของ เดรโก มัลฟอย คู่กัดของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เขาเป็นผู้สืบเชื้อสายบริสุทธิ์ของตระกูลมัลฟอยที่มั่งคั่งและเป็นผู้มีอำนาจระดับหนึ่งในกระทรวงเวทมนตร์ รวมไปถึงเป็นผู้จงรักภักดีต่อเจ้าแห่งศาสตร์มืด ลอร์ดโวลเดอมอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ณ ร้านตัวบรรจงและหยดหมึก ตรอกไดแอกอน และเป็นผู้ยัดบันทึกของทอม ริ้ดเดิล (ต่อมาคือ ลอร์ดโวลเดอมอร์) ให้จินนี่ วีสลีย์จนกระทั่งเธอถูกสมุดบันทึกครอบงำ ในเล่ม 5 ลูเซียสได้ล้มเหลวจากการชิงลูกแก้วพยากรณ์ในกระทรวงจนถูกเจ้าหน้าที่จับเข้าคุกอัซคาบัน ลูเซียสได้รับการช่วยเหลือให้หลบหนีออกมาในที่สุด ในเล่ม 7 เขาได้หมดความน่าเชื่อถือลงและจำเป็นต้องสละไม้กายสิทธิ์ของตัวเองให้โวลเดอมอร์นำไปฆ่าแฮร์รี่

ลูเซียสล้มเหลวอีกครั้งในการจับกุมแฮร์รี่ที่คฤหาสน์มัลฟอย ในการต่อสู้ที่ฮอกวอตส์ ลูเซียสไม่ได้เต็มใจที่จะรับใช้โวลเดอมอร์อีกต่อไป เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย ภายหลังการตายของโวลเดอมอร์ เขาและเดรโกได้พ้นจากข้อกล่าวหาเนื่องจากความช่วยเหลือของนาร์ซิสซา ภรรยาของเขาที่ยอมโกหกโวลเดอมอร์ว่าแฮร์รี่ตายจากคำสาปพิฆาต เป็นการเปิดโอกาสให้แฮร์รี่สามารถพลิกสถานการณ์มาชนะได้ในที่สุด

ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์

[แก้]

ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ หรือ หางหนอน ได้รับการคัดสรรให้เป็นนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ และได้รู้จักกับเจมส์ พอตเตอร์, ซิเรียส แบล็กและรีมัส ลูปิน ในระหว่างที่เรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ เขาเป็นคนที่อ่อนแอและขี้ขลาดที่สุดในกลุ่ม ต่อมาในช่วงที่ลอร์ดโวลเดอมอร์เรืองอำนาจในยุคแรก ปีเตอร์เป็นผู้รักษาความลับเรื่องบ้านตระกูลพอตเตอร์ แต่ด้วยความกลัวลอร์ดโวลเดอมอร์จึงยอมบอกความลับทำให้ลิลลีและเจมส์ พอตเตอร์ถูกฆ่า ซิเรียสจึงตามล่าปีเตอร์และต้อนปีเตอร์เข้าไปจนมุม ก่อนปีเตอร์จะตัดนิ้วตัวเองทิ้ง ตะโกนใส่ร้ายว่าซิเรียสฆ่าลิลลีและเจมส์ แล้วระเบิดคาถาใส่มักเกิ้ลในบริเวณรอบ ๆ เสียชีวิต ทำให้ซิเรียสต้องติดคุกอยู่เป็นเวลานาน ปีเตอร์ได้แปลงร่างและหลบซ่อนอยู่ในร่างของหนูที่เป็นของครอบครัววีสลีย์ที่ชื่อว่า สแคบเบอส์ แต่ความลับของเขาก็ถูกเปิดโปงเมื่อซิเรียสได้แหกคุกออกมาและร่วมมือกับรีมัส ลูปินในการจับตัวปีเตอร์ แต่สุดท้ายเขาก็สามารถหลบหนีไปได้

ในภาคที่สี่ ปีเตอร์ได้พบโวลเดอมอร์และคอยช่วยเหลือเขา ในภารกิจสุดท้ายกุญแจนำทางได้นำตัวแฮร์รี่และเซดริก ดิกกอรี่ไปที่สุสานของตระกูลริดเดิ้ล เซดริกถูกปีเตอร์สังหาร โดยเขาโวลเดอมอร์ให้คืนชีพอีกครั้งด้วยการสละมือข้างหนึ่ง โวลเดอมอร์จึงได้เสกแขนใหม่ให้แก่เขา ในภาคสุดท้าย หลังจากที่แฮร์รี่ พอตเตอร์และพวกถูกจับไว้ใต้คฤหาสน์มัลฟอย ปีเตอร์ได้รับคำสั่งให้ลงไปดูพวกแฮร์รี่ แต่ถูกพวกแฮร์รี่ลอบทำร้าย ในขณะที่เขาพยายามจะบีบคอแฮร์รี่นั้นก็เกิดใจอ่อนขึ้นมา เป็นเหตุให้มือเงินที่ได้รับจากลอร์ดโวลเดอมอร์ ทำร้ายเขาจนเสียชีวิตเสียเอง

อะเล็กโต แคร์โรว์

[แก้]

อะเล็กโต แคร์โรว์ (Alecto Carrow) เป็นตัวละครในหนังสือวรรณกรรมเยาวชนชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง แคร์โรว์ในตอนเริ่มเรื่อง เป็นอาจารย์สอนวิชามักเกิ้ลศึกษา และรองอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ชั่วคราว

แคร์โรว์ปรากฏตัวในตอนที่ดัมเบิลดอร์จะตายในภาคที่หก หลักจากนั้นเขาได้เข้าเป็นอาจารย์วิชามักเกิ้ลศึกษาแทนแชริตี้ เบอร์เบจตามคำสั่งของโวลเดอมอร์เช่นเดียวกันกับอะมีคัส แคร์โรวพี่ชายของเขา อะเล็กโตมักจะสอนนักเรียนว่ามักเกิ้ลนั้นเป็นเหมือนสัตว์ทั้งโง่และชั่วร้าย และเธอมักจะให้นักเรียนฝึกใช้คำสาปกรีดแทงกับนักเรียนที่ถูกลงโทษ ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนกับเธอยกเว้นนักเรียนบ้านสลิธีริน นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้คุมกฎระเบียบต่าง ๆ กับพี่ชายเธอ เวลาที่นักเรียนทำผิดพวกอาจารย์จะต้องส่งตัวนักเรียนไปให้เธอกับพี่ชายเธอลงโทษ แต่อาจารย์จะไม่ค่อยส่งตัวนักเรียนไปถ้าเลี่ยงได้ เธอจึงไม่ค่อยเคารพยำเกรงพวกอาจารย์ด้วยกัน ในตอนจบเมื่อโวลเดอมอร์พ่ายแพ้อะเล็กโตและพี่ชายถูกส่งตัวไปรับโทษที่อัซคาบัน