แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ (ภาพยนตร์)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ
กำกับคริส โคลัมบัส
เขียนบทจากนิยายโดย เจ.เค. โรว์ลิ่ง
บทภาพยนตร์โดย สตีฟ โคลฟ
อำนวยการสร้างเดวิด เฮย์แมน
นักแสดงนำแดเนียล แรดคลิฟฟ์
รูเพิร์ท กรินท์
เอ็มม่า วัตสัน
ครีสเตียน โคลซอน
เคนเนธ บรานาห์
อลัน ริคแมน
เจสัน ไอแซ็กส์
กำกับภาพโรเจอร์ พาร์ค
ตัดต่อปีเตอร์ โฮลน์
ผู้จัดจำหน่ายวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส
วันฉาย3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 (2002-11-03)
Odeon Leicester Square
15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 (2002-11-15)
สหราชอาณาจักร
15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 (2002-11-15)
สหรัฐอเมริกา
ความยาว161 นาที
ประเทศสหราชอาณาจักร
สหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1]
ทำเงิน879 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]
ก่อนหน้านี้แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์
ต่อจากนี้แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความวิเศษ (อังกฤษ: Harry Potter and the Chamber of Secrets) เป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีออกฉายเมื่อ ค.ศ. 2002 กำกับโดย คริส โคลัมบัส และจัดจำหน่ายโย Warner Bros. Pictures ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ J. K. Rowling ซึ่งเคยตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1998 เป็นภาคต่อของ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (2011) และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ในชุดภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นผลงานการเขียนบทของ Steve Kloves และอำนวยการสร้างโดย David Heyman เล่าเรื่องการผจญภัยของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในปีที่สองของการศึกษาในโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ซึ่งทายาทของซัลลาซาร์ สลิธีริน ได้เปิดห้องแห่งความลับ และปลดปล่อยสัตว์ร้ายภายในออกมาทำให้ผู้คนในโรงเรียนกลายเป็นหิน นำแสดงโดย Daniel Radcliffe รับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์ Rupert Grint รับบทรอน วีสลีย์ และ Emma Watson รับบทเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ Richard Harris มารับบทเป็นศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ก่อนที่จะเสียชีวิตในปีเดียวกันกับที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกในอังกฤษและอเมริกาเมื่อ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 และประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ โดยทำรายได้ไปทั้งหมดรวมทั่วโลกอยู่ที่ 879 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นลำดับที่ 7 ของปี ค.ศ. 2002 รองจาก ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลายรางวัล รวมถึงรางวัล BAFTA สาขา Production Design, Sound, และ Special Visual Effects ยอดแย่

เนื้อเรื่องย่อ[แก้]

ในปีที่ 2 ของแฮร์รี่ปีนี้ เขาไม่ได้รับจดหมายจากเพื่อนของเขาคนไหนเลย และพบกับเอลฟ์ประจำบ้านที่ชื่อด๊อบบี้ที่มาเตือนภัยแฮร์รี่ ว่าปีนี้มีการวางแผน แผนที่ทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายมาก และแฮร์รี่จะต้องไม่กลับไปโรงเรียนของเขา ในปีนี้ แต่แฮร์รี่ไม่ยอม จนเอลฟ์เสกขนมพุ๊ดดิ้งให้ลอยแล้วตกใส่หัวของแขกของลุงกับป้าเขา จนลุงของเขาขังแฮร์รี่ไว้ไม่ให้ไปไหน แต่คืนหนึ่งรอนมาช่วยแฮร์รี่และพาแฮร์รี่หนีไปที่บ้านโพรงกระต่าย

แฮร์รี่อยู่ที่บ้านตลอดปิดเทอม จนวันเปิดเรียน แผงกั้นชานชลาปิด แฮร์รี่และรอนติดอยู่ข้างนอก แต่เขาใช้รถเหาะขับไปฮอกวอตส์ แต่ก็ทำให้มักเกิ้ลมากมายเห็นพวกเขา และทำให้พวกเขาถูกกักบริเวณและเกือบถูกไล่ออก แฮร์รี่ได้รู้เรื่องการใช้คำเหยียดหยามของพวกผู้วิเศษที่จะเรียกพ่อมดแม่มดที่กำเนิดจากมักเกิ้ลว่า "เลือดสีโคลน" ซึ่งเป็นคำที่ไม่ใช้กันในปัจจุบันแล้ว แต่คำนี้เป็นคำที่มัลฟอยใช้เรียกเฮอร์ไมโอนี่

ในวันฮาโลวีนพวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเขียนตัวอักษรเลือดเตือนขู่ไว้บนกำแพง ว่า "ห้องแห่งความลับได้ถูกเปิดออกแล้ว เหล่าศัตรูของทายาทจงระวัง!" และแมวของภารโรงถูกทำให้กลายเป็นหิน หลังจากนั้นเขาก็ได้รับรู้ว่าห้องลับนั้นถูกสร้างโดย ซัลลาซาร์ สลิธิริน หนึ่งในผู้ก่อตั้งคนหนึ่งของโรงเรียน ฮอกวอตส์ ในห้องนั้นมีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่ พวกแฮร์รี่สงสัยว่ามัลฟอยคือทายาทแห่งสลิธิรินตามที่กำแพงเขียน และเตรียมทำน้ำยาสรรพรสที่สามารถปลอมเป็นใครก็ได้

ในวันแข่งควิดดิชแฮร์รี่ถูกทำร้ายโดยลูกบลัดเจอร์ โดยเอลฟ์ประจำบ้านหรือด๊อบบี้เป็นคนเสกลูกบลัดเจอร์ให้ทำร้ายแฮร์รี่ หลังจากทีมแฮร์รี่ แฮร์รี่ต้องพักอยู่ในห้องพยาบาลเพราะต้องปลูกกระดูกใหม่ เนื่องจากตอนที่ลูกบลัดเจอร์อัดเขาแขนหัก จอมโม้กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ตเสกให้กระดูกแฮร์รี่หายไป และในคืนนั้นเองลูกที่เกิดจากมักเกิ้ลคนหนึ่งถูกทำร้าย ในชมรมการต่อสู้ตัวต่อตัวแฮร์รี่พบว่าตนเป็นพาร์เซลเม๊าท์หรือคนที่สามารถพูดภาษางูได้ และถูกคนสงสัยว่าเขาคือทายาทสลิธิลิน หลังจากนั้นนักเรียนก็ถูกทำร้ายอีกครั้ง แฮร์รี่ใช้น้ำยาสรรพรสปลอมตัวเป็นเพื่อนของมัลฟอยและรู้ว่ามัลฟอยไม่ใช่ทายาทสลิธิริน แต่วันหนึ่งแฮร์รี่พบกับสมุดบันทึกของทอม ริดเดิ้ลในห้องน้ำ ในสมุดนั้นว่างเปล่า

วันหนึ่งแฮร์รี่เขียนข้อความลงในสมุดบันทึกและมีข้อความกลับมา และพบว่าทอม ริดเดิ้ลแสดงให้ดูความทรงจำว่าแฮกริดคือคนปล่อยให้สัตว์ร้ายให้ฆ่านักเรียนตายเมื่อ 50 ปีก่อน และสมุดบันทึกหายไป และเขาก็ต้องเดิมพันน้องสาวรอนที่ถูกจับตัวไป และแฮรี่ปราบบาซิลิสได้ด้วยดาบกริฟฟินดอร์

นักแสดง[แก้]

ความสำเร็จของภาพยนตร์[แก้]

ถึงแม้ว่าจะทำรายได้ห่างจากภาคแรกเกือบ100 ล้านเหรียญ แต่แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับก็ใช้ทุนสร้างต่ำที่สุดในบรรดาแฮร์รี่ พอตเตอร์ทั้งทุกภาคทำให้ภาคนี้ทำรายได้ไปมากพอสมควร ทำให้ติดอยู่ใน20อันดับแรกของภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้มากที่สุดไปอย่างง่ายดาย แต่ถึงกระนั้นอุปสรรคต่อไปก็คือการที่คริส โคลัมบัสผู้กำกับขอลางานในภาคต่อไปทำให้ต้องหาผู้กำกับภาพยนตร์ภาคที่สามคนใหม่

สื่ออื่นๆ[แก้]

เกม[แก้]

จากภาคแรกของวิดีโอเกมแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ที่สามารถขายได้เกินความคาดหมายทำให้บริษัทElectronic Artsได้สร้างวิดีโอเกมแฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับต่อจากครั้งแรก โดยภาคนี้สามารถเล่นได้หลากหลายขึ้นและสามารถเล่นได้กับเครื่อง X-boxอีกด้วย คุณสมบัติของภาคนี้คือเทคนิคของเกมส์ที่ดีขึ้นกว่าภาคก่อนและสามารถสู้กับบาซิลิกซ์ได้อีกด้วย

ดนตรีประกอบภาพยนตร์[แก้]

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ในภาคที่สองนี้มากกว่าภาคแรกเล็กน้อยและยังคงมีเพลงHedwig's Themeเป็นเพลงเปิดภาพยนตร์เช่นเดิม เพลงในอัลบั้มมีดังนี้

  1. "Prologue: Book II and The Escape from the Dursleys"
  2. "Fawkes the Phoenix"
  3. "The Chamber of Secrets"
  4. "Gilderoy Lockhart"
  5. "The Flying Car"
  6. "Knockturn Alley"
  7. "Introducing Colin"
  8. "The Dueling Club"
  9. "Dobby the House Elf"
  10. "The Spiders"
  11. "Moaning Myrtle"
  12. "Meeting Aragog"
  13. "Fawkes Is Reborn"
  14. "Meeting Tom Riddle"
  15. "Cornish Pixies"
  16. "Polyjuice Potion"
  17. "Cakes for Crabbe and Goyle"
  18. "Dueling the Basilisk"
  19. "Reunion of Friends"
  20. "Harry's Wondrous World"

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

แม่แบบ:โลกเวทมนตร์ของเจ. เค. โรว์ลิง