ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาการท้องร่วง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
MuanN (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Phyblas (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 20: บรรทัด 20:
'''อาการท้องร่วง''' ({{lang-en|diarrhea หรือ diarrhoea}}) เป็นภาวะมี[[การถ่ายอุจจาระ]]เหลวหรือเป็นน้ำอย่างน้อยสามครั้งต่อวัน มักกินเวลาไม่กี่วันและอาจทำให้เกิด[[ภาวะขาดน้ำ]]จากการเสียสารน้ำ อาการแสดงของภาวะขาดน้ำมักเริ่มด้วยการเสียความตึงตัวของผิวหนังและบุคลิกภาพเปลี่ยน ซึ่งสามารถลุกลามเป็น[[การถ่ายปัสสาวะ]]ลดลง [[ความซีด|สีผิวหนังซีด]] [[อัตราหัวใจเต้นเร็ว]] และ[[การเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัว|การตอบสนองลดลง]]เมื่อภาวะขาดน้ำรุนแรง อย่างไรก็ดี อุจจาระเหลวแต่ไม่เป็นน้ำใน[[การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่|ทารกที่กินนมแม่]]อาจเป็นปกติ<ref name=WHO2013/>
'''อาการท้องร่วง''' ({{lang-en|diarrhea หรือ diarrhoea}}) เป็นภาวะมี[[การถ่ายอุจจาระ]]เหลวหรือเป็นน้ำอย่างน้อยสามครั้งต่อวัน มักกินเวลาไม่กี่วันและอาจทำให้เกิด[[ภาวะขาดน้ำ]]จากการเสียสารน้ำ อาการแสดงของภาวะขาดน้ำมักเริ่มด้วยการเสียความตึงตัวของผิวหนังและบุคลิกภาพเปลี่ยน ซึ่งสามารถลุกลามเป็น[[การถ่ายปัสสาวะ]]ลดลง [[ความซีด|สีผิวหนังซีด]] [[อัตราหัวใจเต้นเร็ว]] และ[[การเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัว|การตอบสนองลดลง]]เมื่อภาวะขาดน้ำรุนแรง อย่างไรก็ดี อุจจาระเหลวแต่ไม่เป็นน้ำใน[[การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่|ทารกที่กินนมแม่]]อาจเป็นปกติ<ref name=WHO2013/>


สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อของ[[ลำไส้]]อาจเนื่องจาก[[ไวรัส]] [[แบคทีเรีย]]หรือ[[ปรสิต]] เป็นภาวะที่เรียก [[กระเพาะและลำไส้เล็กอักเสบ]] (gastroenteritis) การติดเชื้อเหล่านี้มักได้รับจากอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ หรือโดยตรงจากบุคคลอื่นที่ติดเชื้อ อาการท้องร่วงอารจแบ่งได้เป็นสามประเภท คือ อาการท้องร่วงเป็นน้ำระยะสั้น อาการท้องร่วงเป็นเลือดระยะสั้น และหากกินเวลานานกว่าสองสัปดาห์จะเป็นอาการท้องร่วงเรื้อรัง อาการท้องร่วงเป็นน้ำระยะสั้นอาจเนื่องจากการติดเชื้อ[[อหิวาตกโรค]]ซึ่งพบยากใน[[ประเทศพัฒนาแล้ว]] หากมีเลือดอยู่ด้วยจะเรียก [[โรคบิด]]<ref name=WHO2013/> อาการท้องร่วงมีบางสาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อซึ่งมี[[ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน]] [[ภาวะไม่ทนต่อแล็กโทส]] (แพ้นม) [[โรคลำไส้อักเสบ]] ยาจำนวนหนึ่ง และ[[กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น]]<ref name=CEM2013>{{cite book|last1=Doyle|first1=edited by Basem Abdelmalak, D. John|title=Anesthesia for otolaryngologic surgery|date=2013|publisher=Cambridge University Press|location=Cambridge|isbn=1107018676|pages=282–287}}</ref> ในผู้ป่วยส่วนมาก ไม่จำเป็นต้องเพาะเชื้ออุจจาระเพื่อยืนยันสาเหตุแน่ชัด<ref name=NEJM2014/>
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อของ[[ลำไส้]]อาจเนื่องจาก[[ไวรัส]] [[แบคทีเรีย]]หรือ[[ปรสิต]] เป็นภาวะที่เรียก [[กระเพาะและลำไส้เล็กอักเสบ]] (gastroenteritis) การติดเชื้อเหล่านี้มักได้รับจากอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ หรือโดยตรงจากบุคคลอื่นที่ติดเชื้อ อาการท้องร่วงอาจจะแบ่งได้เป็นสามประเภท คือ อาการท้องร่วงเป็นน้ำระยะสั้น อาการท้องร่วงเป็นเลือดระยะสั้น และหากกินเวลานานกว่าสองสัปดาห์จะเป็นอาการท้องร่วงเรื้อรัง อาการท้องร่วงเป็นน้ำระยะสั้นอาจเนื่องจากการติดเชื้อ[[อหิวาตกโรค]]ซึ่งพบยากใน[[ประเทศพัฒนาแล้ว]] หากมีเลือดอยู่ด้วยจะเรียก [[โรคบิด]]<ref name=WHO2013/> อาการท้องร่วงมีบางสาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อซึ่งมี[[ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน]] [[ภาวะไม่ทนต่อแล็กโทส]] (แพ้นม) [[โรคลำไส้อักเสบ]] ยาจำนวนหนึ่ง และ[[กลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น]]<ref name=CEM2013>{{cite book|last1=Doyle|first1=edited by Basem Abdelmalak, D. John|title=Anesthesia for otolaryngologic surgery|date=2013|publisher=Cambridge University Press|location=Cambridge|isbn=1107018676|pages=282–287}}</ref> ในผู้ป่วยส่วนมาก ไม่จำเป็นต้องเพาะเชื้ออุจจาระเพื่อยืนยันสาเหตุแน่ชัด<ref name=NEJM2014/>


การป้องกันอาการท้องร่วงจากการติดเชื้อทำได้โดยปรับปรุง[[การสุขาภิบาล]] มี[[น้ำดื่ม]]สะอาดและ[[การล้างมือ|ล้างมือ]]ด้วยสบู่ แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อยหกเดือนเช่นเดียวกับการรับวัคซีนโรตาไวรัส สารน้ำเกลือแร่ (ORS) ซึ่งเป็นน้ำสะอาดที่มีเกลือและ[[น้ำตาล]]ปริมาณหนึ่ง เป็นการรักษาอันดับแรก นอกจากนี้ยังแนะนำยาเม็ดสังกะสี มีการประเมินว่าการรักษาเหล่านี้ช่วยชีวิตเด็ก 50 ล้านคนใน 25 ปีที่ผ่านมา<ref name=WHO2010a>{{cite web |url=http://whqlibdoc.who.int/publications/2009/9789241598415_eng.pdf |title=whqlibdoc.who.int |format=PDF |work=[[World Health Organization]]}}</ref> เมื่อบุคคลมีอาการท้องร่วง แนะนำให้กินอาหารเพื่อสุขภาพและทารกกินนมแม่ต่อไป หากหา ORS พาณิชย์ไม่ได้ อาจใช้สารละลายทำเองก็ได้<ref name=Prober2012>{{cite book|last1=Prober|first1=edited by Sarah Long, Larry Pickering, Charles G.|title=Principles and practice of pediatric infectious diseases|date=2012|publisher=Elsevier Saunders|location=Edinburgh|isbn=9781455739851|page=96|edition=4th |url=https://books.google.com/books?id=TN2Gu2Af1BIC&pg=PA96}}</ref> ในผู้ที่มีภาวะขาดน้ำรุนแรง อาจจำเป็นต้อง[[การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ|ให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำ]]<ref name=WHO2013/> ทว่า ผู้ป่วยส่วนมากสามารถรักษาได้ดีด้วยสารน้ำทางปาก<ref>{{cite web|author1=ACEP|title=Nation’s Emergency Physicians Announce List of Test and Procedures to Question as Part of Choosing Wisely Campaign|url=http://www.choosingwisely.org/nations-emergency-physicians-announce-list-of-test-and-procedures-to-question-as-part-of-choosing-wisely-campaign/|website=Choosing Wisely|accessdate=18 June 2014}}</ref> แม้ว่ามีการใช้[[ยาปฏิชีวนะ]]น้อย แต่อาจแนะนำให้ผู้ป่วยซึ่งมีอาการท้องร่วงเป็นเลือดและไข้สูง ผู้ที่มีอาการท้องร่วงรุนแรงหลังท่องเที่ยว และผู้ที่เพาะแบคทีเรียหรือปรสิตบางชนิดขึ้นในอุจจาระ<ref name=NEJM2014/> [[โลเพอราไมด์]]อาจช่วยลดจำนวนการถ่ายอุจจาระ แต่ไม่แนะนำในผู้ป่วยรุนแรง<ref name=NEJM2014>{{cite journal | authors = DuPont HL | title = Acute infectious diarrhea in immunocompetent adults. | journal = The New England Journal of Medicine | volume = 370 | issue = 16 | pages = 1532–40 | date = Apr 17, 2014 | pmid = 24738670 | doi = 10.1056/nejmra1301069 }}</ref>
การป้องกันอาการท้องร่วงจากการติดเชื้อทำได้โดยปรับปรุง[[การสุขาภิบาล]] มี[[น้ำดื่ม]]สะอาดและ[[การล้างมือ|ล้างมือ]]ด้วยสบู่ แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อยหกเดือนเช่นเดียวกับการรับวัคซีนโรตาไวรัส สารน้ำเกลือแร่ (ORS) ซึ่งเป็นน้ำสะอาดที่มีเกลือและ[[น้ำตาล]]ปริมาณหนึ่ง เป็นการรักษาอันดับแรก นอกจากนี้ยังแนะนำยาเม็ดสังกะสี มีการประเมินว่าการรักษาเหล่านี้ช่วยชีวิตเด็ก 50 ล้านคนใน 25 ปีที่ผ่านมา<ref name=WHO2010a>{{cite web |url=http://whqlibdoc.who.int/publications/2009/9789241598415_eng.pdf |title=whqlibdoc.who.int |format=PDF |work=[[World Health Organization]]}}</ref> เมื่อบุคคลมีอาการท้องร่วง แนะนำให้กินอาหารเพื่อสุขภาพและทารกกินนมแม่ต่อไป หากหา ORS พาณิชย์ไม่ได้ อาจใช้สารละลายทำเองก็ได้<ref name=Prober2012>{{cite book|last1=Prober|first1=edited by Sarah Long, Larry Pickering, Charles G.|title=Principles and practice of pediatric infectious diseases|date=2012|publisher=Elsevier Saunders|location=Edinburgh|isbn=9781455739851|page=96|edition=4th |url=https://books.google.com/books?id=TN2Gu2Af1BIC&pg=PA96}}</ref> ในผู้ที่มีภาวะขาดน้ำรุนแรง อาจจำเป็นต้อง[[การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ|ให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำ]]<ref name=WHO2013/> ทว่า ผู้ป่วยส่วนมากสามารถรักษาได้ดีด้วยสารน้ำทางปาก<ref>{{cite web|author1=ACEP|title=Nation’s Emergency Physicians Announce List of Test and Procedures to Question as Part of Choosing Wisely Campaign|url=http://www.choosingwisely.org/nations-emergency-physicians-announce-list-of-test-and-procedures-to-question-as-part-of-choosing-wisely-campaign/|website=Choosing Wisely|accessdate=18 June 2014}}</ref> แม้ว่ามีการใช้[[ยาปฏิชีวนะ]]น้อย แต่อาจแนะนำให้ผู้ป่วยซึ่งมีอาการท้องร่วงเป็นเลือดและไข้สูง ผู้ที่มีอาการท้องร่วงรุนแรงหลังท่องเที่ยว และผู้ที่เพาะแบคทีเรียหรือปรสิตบางชนิดขึ้นในอุจจาระ<ref name=NEJM2014/> [[โลเพอราไมด์]]อาจช่วยลดจำนวนการถ่ายอุจจาระ แต่ไม่แนะนำในผู้ป่วยรุนแรง<ref name=NEJM2014>{{cite journal | authors = DuPont HL | title = Acute infectious diarrhea in immunocompetent adults. | journal = The New England Journal of Medicine | volume = 370 | issue = 16 | pages = 1532–40 | date = Apr 17, 2014 | pmid = 24738670 | doi = 10.1056/nejmra1301069 }}</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:14, 2 มิถุนายน 2564

อาการท้องร่วง
ชื่ออื่นDiarrhea
ภาพกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนของโรตาไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุการรับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเกือบ 40% ของอาการท้องร่วงในเด็กอายุต่ำกว่าห้าปี[1]
สาขาวิชาInfectious disease, gastroenterology
อาการLoose frequent bowel movements, dehydration[2]
สาเหตุUsually infection (viral, bacterial, parasitic)[2]
ปัจจัยเสี่ยงContaminated food or water[2]
การป้องกันHandwashing, rotavirus vaccination, breastfeeding[2]
การรักษาOral rehydration solution, zinc supplementation[2]
ความชุก≈2.4 billion (2015)[3]
การเสียชีวิต1.3 million (2015)[4]

อาการท้องร่วง (อังกฤษ: diarrhea หรือ diarrhoea) เป็นภาวะมีการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำอย่างน้อยสามครั้งต่อวัน มักกินเวลาไม่กี่วันและอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำจากการเสียสารน้ำ อาการแสดงของภาวะขาดน้ำมักเริ่มด้วยการเสียความตึงตัวของผิวหนังและบุคลิกภาพเปลี่ยน ซึ่งสามารถลุกลามเป็นการถ่ายปัสสาวะลดลง สีผิวหนังซีด อัตราหัวใจเต้นเร็ว และการตอบสนองลดลงเมื่อภาวะขาดน้ำรุนแรง อย่างไรก็ดี อุจจาระเหลวแต่ไม่เป็นน้ำในทารกที่กินนมแม่อาจเป็นปกติ[2]

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ การติดเชื้อของลำไส้อาจเนื่องจากไวรัส แบคทีเรียหรือปรสิต เป็นภาวะที่เรียก กระเพาะและลำไส้เล็กอักเสบ (gastroenteritis) การติดเชื้อเหล่านี้มักได้รับจากอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ หรือโดยตรงจากบุคคลอื่นที่ติดเชื้อ อาการท้องร่วงอาจจะแบ่งได้เป็นสามประเภท คือ อาการท้องร่วงเป็นน้ำระยะสั้น อาการท้องร่วงเป็นเลือดระยะสั้น และหากกินเวลานานกว่าสองสัปดาห์จะเป็นอาการท้องร่วงเรื้อรัง อาการท้องร่วงเป็นน้ำระยะสั้นอาจเนื่องจากการติดเชื้ออหิวาตกโรคซึ่งพบยากในประเทศพัฒนาแล้ว หากมีเลือดอยู่ด้วยจะเรียก โรคบิด[2] อาการท้องร่วงมีบางสาเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อซึ่งมีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ภาวะไม่ทนต่อแล็กโทส (แพ้นม) โรคลำไส้อักเสบ ยาจำนวนหนึ่ง และกลุ่มอาการลำไส้ไวเกินต่อการกระตุ้น[5] ในผู้ป่วยส่วนมาก ไม่จำเป็นต้องเพาะเชื้ออุจจาระเพื่อยืนยันสาเหตุแน่ชัด[6]

การป้องกันอาการท้องร่วงจากการติดเชื้อทำได้โดยปรับปรุงการสุขาภิบาล มีน้ำดื่มสะอาดและล้างมือด้วยสบู่ แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อยหกเดือนเช่นเดียวกับการรับวัคซีนโรตาไวรัส สารน้ำเกลือแร่ (ORS) ซึ่งเป็นน้ำสะอาดที่มีเกลือและน้ำตาลปริมาณหนึ่ง เป็นการรักษาอันดับแรก นอกจากนี้ยังแนะนำยาเม็ดสังกะสี มีการประเมินว่าการรักษาเหล่านี้ช่วยชีวิตเด็ก 50 ล้านคนใน 25 ปีที่ผ่านมา[1] เมื่อบุคคลมีอาการท้องร่วง แนะนำให้กินอาหารเพื่อสุขภาพและทารกกินนมแม่ต่อไป หากหา ORS พาณิชย์ไม่ได้ อาจใช้สารละลายทำเองก็ได้[7] ในผู้ที่มีภาวะขาดน้ำรุนแรง อาจจำเป็นต้องให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำ[2] ทว่า ผู้ป่วยส่วนมากสามารถรักษาได้ดีด้วยสารน้ำทางปาก[8] แม้ว่ามีการใช้ยาปฏิชีวนะน้อย แต่อาจแนะนำให้ผู้ป่วยซึ่งมีอาการท้องร่วงเป็นเลือดและไข้สูง ผู้ที่มีอาการท้องร่วงรุนแรงหลังท่องเที่ยว และผู้ที่เพาะแบคทีเรียหรือปรสิตบางชนิดขึ้นในอุจจาระ[6] โลเพอราไมด์อาจช่วยลดจำนวนการถ่ายอุจจาระ แต่ไม่แนะนำในผู้ป่วยรุนแรง[6]

มีผู้ป่วยอาการท้องร่วงประมาณ 1,700 ถึง 5,000 ล้านคนต่อปี[2][5] พบมากที่สุดในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งเด็กเล็กมีอาการท้องร่วงโดยเฉลี่ย 3 ครั้งต่อปี[2] มีการประเมินยอดผู้เสียชีวิตจากอาการท้องร่วง 1.26 ล้านคนในปี 2556 ลดลงจาก 2.58 ล้านคนในปี 2533[9] ในปี 2555 อาการท้องร่วงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบมากที่สุดอันดับสองในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี (0.76 ล้านคนหรือ 11%)[2][10] คราวอาการท้องร่วงบ่อยยังเป็นสาเหตุทุพโภชนาการที่พบมากและเป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดในเด็กอายุน้อยกว่าห้าปี[2] ปัญหาระยะยาวอื่นซึ่งอาจเกิดได้มีการเติบโตช้าและพัฒนาการทางสติปัญญาไม่ดี[10]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "whqlibdoc.who.int" (PDF). World Health Organization.
  2. 2.00 2.01 2.02 2.03 2.04 2.05 2.06 2.07 2.08 2.09 2.10 2.11 "Diarrhoeal disease Fact sheet N°330". World Health Organization. April 2013. สืบค้นเมื่อ 9 July 2014.
  3. GBD 2015 Disease and Injury Incidence and Prevalence Collaborators (October 2016). "Global, regional, and national incidence, prevalence, and years lived with disability for 310 diseases and injuries, 1990–2015: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2015". Lancet. 388 (10053): 1545–1602. doi:10.1016/S0140-6736(16)31678-6. PMC 5055577. PMID 27733282. {{cite journal}}: |author= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  4. GBD 2015 Mortality and Causes of Death Collaborators (October 2016). "Global, regional, and national life expectancy, all-cause mortality, and cause-specific mortality for 249 causes of death, 1980–2015: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2015". Lancet. 388 (10053): 1459–1544. doi:10.1016/s0140-6736(16)31012-1. PMC 5388903. PMID 27733281. {{cite journal}}: |author= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  5. 5.0 5.1 Doyle, edited by Basem Abdelmalak, D. John (2013). Anesthesia for otolaryngologic surgery. Cambridge: Cambridge University Press. pp. 282–287. ISBN 1107018676. {{cite book}}: |first1= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  6. 6.0 6.1 6.2 DuPont HL (Apr 17, 2014). "Acute infectious diarrhea in immunocompetent adults". The New England Journal of Medicine. 370 (16): 1532–40. doi:10.1056/nejmra1301069. PMID 24738670.{{cite journal}}: CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  7. Prober, edited by Sarah Long, Larry Pickering, Charles G. (2012). Principles and practice of pediatric infectious diseases (4th ed.). Edinburgh: Elsevier Saunders. p. 96. ISBN 9781455739851. {{cite book}}: |first1= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  8. ACEP. "Nation's Emergency Physicians Announce List of Test and Procedures to Question as Part of Choosing Wisely Campaign". Choosing Wisely. สืบค้นเมื่อ 18 June 2014.
  9. GBD 2013 Mortality and Causes of Death, Collaborators (17 December 2014). "Global, regional, and national age-sex specific all-cause and cause-specific mortality for 240 causes of death, 1990-2013: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2013". Lancet. 385 (9963): 117–71. doi:10.1016/S0140-6736(14)61682-2. PMC 4340604. PMID 25530442. {{cite journal}}: |first1= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  10. 10.0 10.1 "Global Diarrhea Burden". CDC. January 24, 2013. สืบค้นเมื่อ 18 June 2014.

แหล่งข้อมูลอื่น