ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Saeng Petchchai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 31: บรรทัด 31:


=== แชมป์โลก WBU และ WBC ===
=== แชมป์โลก WBU และ WBC ===
ศิริมงคลเมื่อได้เปลี่ยนมาชก[[มวยสากล]]ได้คว้าแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวท และแบนตั้มเวท ของ[[สหภาพมวยโลก]] (WBU) ในปี พ.ศ. 2538 ก่อนที่จะสละตำแหน่งไปเพื่อครองแชมป์โลกในสถาบันที่ใหญ่กว่า คือ [[สภามวยโลก]] (WBC) ซึ่งในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2539 ศิริมงคลเอาชนะน็อกยก 3 [[เขาใหญ่ มหาสารคาม]] หรือชื่อเดิมว่า ถนอมศักดิ์ ศิษย์โบ๊เบ๊ นักมวยรุ่นพี่ซึ่งเคยมีโอกาสขึ้นแชมป์โลกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง ไปได้อย่างสวยงาม ในการชกเพื่อคัดเลือกผู้ขึ้นชิง[[แชมป์เฉพาะกาล]]รุ่นแบนตั้มเวท WBC ซึ่งในการชกครั้งนี้ถือเป็นการชกมวยครั้งสุดท้ายของถนอมศักดิ์
ศิริมงคลขึ้นชก[[มวยสากล]]ครั้งแรกเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ชนะคะแนน [[ฤทธิชัย เกียรติประภัสร์]] จากนั้นชกชนะรวด จนได้ครองแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท และแบนตั้มเวท ของ[[สหภาพมวยโลก]] (WBU) ในปี พ.ศ. 2538 ก่อนที่จะสละตำแหน่งไปเพื่อครองแชมป์โลกในสถาบันที่ใหญ่กว่า คือ [[สภามวยโลก]] (WBC) ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2539 ศิริมงคลเอาชนะน็อกยก 3 [[เขาใหญ่ มหาสารคาม]] หรือชื่อเดิมว่า ถนอมศักดิ์ ศิษย์โบ๊เบ๊ นักมวยรุ่นพี่ซึ่งเคยมีโอกาสขึ้นแชมป์โลกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้งและเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 รุ่นแบนตัมเวท WBC ในขณะนั้น ไปได้อย่างสวยงาม ซึ่งในการชกครั้งนี้ถือเป็นการชกมวยครั้งสุดท้ายของถนอมศักดิ์


ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน ที่[[จังหวัดพิษณุโลก]] ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ ก็เอาชนะน็อก โฮเซ่ หลุยส์ บัวโน่ นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกในสถาบันเดียวกันนี้ของรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ในยกที่ 5 ไปได้อย่างงดงาม คว้าแชมป์เฉพาะกาลไปได้ ด้วยวัยเพียง 19 ปี และต่อมาในปี พ.ศ. 2540 สภามวยโลกก็ประกาศให้ศิริมงคลเป็นแชมป์โลกตัวจริง ศิริมงคล สามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน ในปลายปี ศิริมงคลได้เดินทางไปชกป้องกันตำแหน่งที่[[ประเทศญี่ปุ่น]] กับ [[โจอิชิโร ทัตสุโยชิ]] อดีตแชมป์โลกในรุ่นนี้ชาวญี่ปุ่น ศิริมงคลต้องลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก ถึงวันชกร่างกายซูบซีด แก้มตอบ ตาลึกโบ๋ แต่ก็ยังอดทนกัดฟันสู้กับทัตสุโยชิได้จนถึงยก 7 ก่อนที่จะแพ้น็อกไปอย่างบอบช้ำ
ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน ที่[[จังหวัดพิษณุโลก]] ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ ก็เอาชนะน็อก โฮเซ่ หลุยส์ บัวโน่ นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวทในสถาบันเดียวกันนี้ ในยกที่ 5 ไปได้อย่างงดงาม คว้าแชมป์เฉพาะกาลไปได้ ด้วยวัยเพียง 19 ปี และต่อมาในปี พ.ศ. 2540 สภามวยโลกก็ประกาศให้ศิริมงคลเป็นแชมป์โลกตัวจริง ศิริมงคล สามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน ในปลายปี ศิริมงคลได้เดินทางไปชกป้องกันตำแหน่งที่[[ประเทศญี่ปุ่น]] กับ [[โจอิชิโร ทัตสุโยชิ]] อดีตแชมป์โลกในรุ่นนี้ชาวญี่ปุ่น ศิริมงคลต้องลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก ถึงวันชกร่างกายซูบซีด แก้มตอบ ตาลึกโบ๋ แต่ก็ยังอดทนกัดฟันสู้กับทัตสุโยชิได้จนถึงยก 7 ก่อนที่จะแพ้น็อกไปอย่างบอบช้ำ
[[ไฟล์:Tatuyosisirimonnkonn.jpg|thumb|200px|left|แพ้น็อก โจอิชิโร ทัตสุโยชิ เสียแชมป์โลกครั้งแรก]]
[[ไฟล์:Tatuyosisirimonnkonn.jpg|thumb|200px|left|แพ้น็อก โจอิชิโร ทัตสุโยชิ เสียแชมป์โลกครั้งแรก]]

=== เลื่อนรุ่น ===
=== เลื่อนรุ่น ===
จากนั้นจึงเลื่อนรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่า และอุ่นเครื่องอีกหลายครั้ง ก่อนจะขึ้นชิงตำแหน่งแชมป์รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวทสถาบันเดิม เอาชนะ เคนโกะ นากาจิมา นักมวยชาวญี่ปุ่น ไปได้เมื่อปี พ.ศ. 2545 และป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้หนึ่งครั้ง ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะแพ้ เฮซุส ชาเวซ นักมวยชาวเม็กซิกัน ในการชกไฟต์บังคับ ในปี พ.ศ. 2546 ที่[[สหรัฐอเมริกา]]
จากนั้นจึงเลื่อนรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่า และอุ่นเครื่องอีกหลายครั้ง ก่อนจะขึ้นชิงตำแหน่งแชมป์รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวทสถาบันเดิม เอาชนะ เคนโกะ นากาจิมา นักมวยชาวญี่ปุ่น ไปได้เมื่อปี พ.ศ. 2545 และป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้หนึ่งครั้ง ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะแพ้ เฮซุส ชาเวซ นักมวยชาวเม็กซิกัน ในการชกไฟต์บังคับ ในปี พ.ศ. 2546 ที่[[สหรัฐอเมริกา]]
บรรทัด 42: บรรทัด 41:
เมื่อเสียแชมป์โลกสมัยที่ 2 แล้ว การชกมวยของศิริมงคลเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ เนื่องจากเป็นมวยรุ่นใหญ่ หาผู้สนับสนุนยาก ศิริมงคลเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้งเมื่อปี [[พ.ศ. 2548]] เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่า[[ตำรวจ]]ได้ทลายจับแหล่งค้าสื่อลามกแหล่งใหญ่ย่าน[[ตลาดนัดสวนจตุจักร]] พบอัลบั้ม[[นู้ด]]ของอดีตแชมป์โลก ศิริมงคล อยู่ด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้สารภาพว่า ถ่ายไปเพราะค่าตัวดี ประกอบกับขณะนั้นคิดจะแขวนนวม เนื่องจากขณะนั้น ศิริมงคลได้เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายแฟชั่นและแสดง[[ละครโทรทัศน์]]เป็นตัวประกอบทาง[[ช่อง 7]] เช่น เรื่อง ''[[เปรตวัดสุทัศน์]]'' และได้แสดงมิวสิกวีดีโอของวง[[โมทีฟ (วงดนตรี)|โมทีฟ]] โดยแสดงคู่กับ [[ดอม เหตระกูล]] หลังจากนั้นศิริมงคลก็ได้ออกหนังสือมาเล่มหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจถ่ายรูปนู้ดครั้งนี้
เมื่อเสียแชมป์โลกสมัยที่ 2 แล้ว การชกมวยของศิริมงคลเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ เนื่องจากเป็นมวยรุ่นใหญ่ หาผู้สนับสนุนยาก ศิริมงคลเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้งเมื่อปี [[พ.ศ. 2548]] เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่า[[ตำรวจ]]ได้ทลายจับแหล่งค้าสื่อลามกแหล่งใหญ่ย่าน[[ตลาดนัดสวนจตุจักร]] พบอัลบั้ม[[นู้ด]]ของอดีตแชมป์โลก ศิริมงคล อยู่ด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้สารภาพว่า ถ่ายไปเพราะค่าตัวดี ประกอบกับขณะนั้นคิดจะแขวนนวม เนื่องจากขณะนั้น ศิริมงคลได้เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายแฟชั่นและแสดง[[ละครโทรทัศน์]]เป็นตัวประกอบทาง[[ช่อง 7]] เช่น เรื่อง ''[[เปรตวัดสุทัศน์]]'' และได้แสดงมิวสิกวีดีโอของวง[[โมทีฟ (วงดนตรี)|โมทีฟ]] โดยแสดงคู่กับ [[ดอม เหตระกูล]] หลังจากนั้นศิริมงคลก็ได้ออกหนังสือมาเล่มหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจถ่ายรูปนู้ดครั้งนี้


ศิริมงคล กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อต้นปี [[พ.ศ. 2550]] เมื่อจะเบนเข็มไปชก[[เค-วัน|มวยเค-วัน]] ที่[[ประเทศเกาหลีใต้]] เนื่องจากค่าตัวดี และสามารถชกได้ดี
ศิริมงคล กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อต้นปี [[พ.ศ. 2550]] เมื่อจะเบนเข็มไปชก[[เค-วัน|มวยเค-วัน]] ที่[[ประเทศเกาหลีใต้]] เนื่องจากค่าตัวดี และสามารถชกได้ดี และในปีเดียวกันนี้ ศิริมงคลได้ครองแชมป์ WBC เอเชียรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท ชนะคะแนน [[ทอง ป.โชคชัย]] และใน พ.ศ. 2551 ได้ครองแชมป์ PABA รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท แต่ต่อมาก็สละตำแหน่งไปทั้งหมด


ต่อมา ศิริมงคลกลับมาชกมวยสากลอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกา ในรุ่นเวลเตอร์เวท โดยเปลี่ยนผู้จัดการมาเป็น [[นริส สิงหวังชา]] ที่ชื่นชมในตัวของศิริมงคลมาตั้งแต่ต้น แต่ต่อมาก็ตกเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งเมื่อถูกจับในข้อหาค้า[[ยาไอซ์]]เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ที่พัทยา โดยศิริมงคลไม่ได้มีเจตนา แต่ว่าติดอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมค้ายา จึงทำให้ตกกระไดพลอยโจนไปด้วย ทำให้มีแนวโน้มว่าต้องเลิกชกมวยไปโดยปริยาย ในช่วงนี้ทางครอบครัวของศิริมงคลทุกคนมีแต่ความโศกเศร้ารันทด เพราะศิริมงคลถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของครอบครัว<ref name="ยก">{{cite web|url=http://program.thaipbs.or.th/usefulprogram/article41864.ece|title=ยกสุดท้ายของศิริมงคล |date=6 April 2014|accessdate=7 April 2014|publisher=ครอบครัวเดียวกัน Big Family}}</ref> แต่ศิริมงคลก็ยังได้รับการปล่อยตัวให้ออกมาชกมวยเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งได้แชมป์ WBC เอเชียคอนติเนนตัล ในรุ่นเวลเตอร์เวท<ref>''ศิริมงคลน็อกปินส์ซิวแชมป์ว่าง'', คอลัมน์ ย่อยข่าวกีฬา. '''เดลินิวส์'''หน้า 19 ฉบับที่ 23,044: พฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง</ref>
ต่อมา ศิริมงคลกลับมาชกมวยสากลอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกา ในรุ่นเวลเตอร์เวท โดยเปลี่ยนผู้จัดการมาเป็น [[นริส สิงหวังชา]] ที่ชื่นชมในตัวของศิริมงคลมาตั้งแต่ต้น แต่ต่อมาก็ตกเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งเมื่อถูกจับในข้อหาค้า[[ยาไอซ์]]เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ที่พัทยา โดยศิริมงคลไม่ได้มีเจตนา แต่ว่าติดอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมค้ายา จึงทำให้ตกกระไดพลอยโจนไปด้วย ทำให้มีแนวโน้มว่าต้องเลิกชกมวยไปโดยปริยาย ในช่วงนี้ทางครอบครัวของศิริมงคลทุกคนมีแต่ความโศกเศร้ารันทด เพราะศิริมงคลถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของครอบครัว<ref name="ยก">{{cite web|url=http://program.thaipbs.or.th/usefulprogram/article41864.ece|title=ยกสุดท้ายของศิริมงคล |date=6 April 2014|accessdate=7 April 2014|publisher=ครอบครัวเดียวกัน Big Family}}</ref> แต่ศิริมงคลก็ยังได้รับการปล่อยตัวให้ออกมาชกมวยเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งได้แชมป์ WBC เอเชียคอนติเนนตัล ในรุ่นเวลเตอร์เวท<ref>''ศิริมงคลน็อกปินส์ซิวแชมป์ว่าง'', คอลัมน์ ย่อยข่าวกีฬา. '''เดลินิวส์'''หน้า 19 ฉบับที่ 23,044: พฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง</ref>
บรรทัด 48: บรรทัด 47:
[[ไฟล์:_38214840_singmanassuk300.jpg|thumb|200px|right|ชนะ[[น็อก]]ยก 2 เคนโกะ นากาจิม่า]]
[[ไฟล์:_38214840_singmanassuk300.jpg|thumb|200px|right|ชนะ[[น็อก]]ยก 2 เคนโกะ นากาจิม่า]]


ขณะที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ศิริมงคลถือเป็นนักโทษที่มีความประพฤติดี และเป็นครูสอนมวยให้แก่นักโทษคนอื่นในเรือนจำด้วย จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดหย่อนโทษ และได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556<ref name="ยก"/> และยังคงชกมวยต่อมา อีกทั้งยังเป็นเทรนเนอร์ให้กับ [[ก้องพลากุลวงศ์ ก่อเกียรติยิม]] แชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC เอเชีย ซึ่งเป็นนักมวยรุ่นน้องอีกด้วย
ขณะที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ศิริมงคลถือเป็นนักโทษที่มีความประพฤติดี และเป็นครูสอนมวยให้แก่นักโทษคนอื่นในเรือนจำด้วย จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดหย่อนโทษ และได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556<ref name="ยก"/> และยังคงชกมวยต่อมา จนได้ครองแชมป์ WBO เอเชียรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท อีกทั้งยังเป็นเทรนเนอร์ให้กับ [[ก้องพลากุลวงศ์ ก่อเกียรติยิม]] แชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC เอเชีย ซึ่งเป็นนักมวยรุ่นน้องอีกด้วย


ในปี พ.ศ. 2558 ศิริมงคลมีกำหนดได้ขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่น[[ซูเปอร์เวลเตอร์เวท]] [[องค์กรมวยโลก]] (WBO) กับ [[แอนเดรียส อันดราเด]] แชมป์โลกชาวอเมริกัน ที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 15 สิงหาคม ปีเดียวกัน แต่ก่อนที่จะมีกำหนดชกไม่นาน ปรากฏว่าทาง WBO ได้ปลดอันดราเดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่ได้ชกป้องกันตำแหน่งมานานกว่า 13 เดือน จึงทำให้การชกครั้งนี้ต้องยุติไป<ref>หน้า 14 กีฬา, ''"โอ๋"แห้วWBOปลด"อันดราเด"''. "ย่อยข่าวกีฬา". '''เดลินิวส์'''ฉบับที่ 24,034: วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 แรม 3 ค่ำ เดือน 8-8 ปีมะแม</ref>
ในปี พ.ศ. 2558 ศิริมงคลมีกำหนดได้ขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่น[[ซูเปอร์เวลเตอร์เวท]] [[องค์กรมวยโลก]] (WBO) กับ [[แอนเดรียส อันดราเด]] แชมป์โลกชาวอเมริกัน ที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 15 สิงหาคม ปีเดียวกัน แต่ก่อนที่จะมีกำหนดชกไม่นาน ปรากฏว่าทาง WBO ได้ปลดอันดราเดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่ได้ชกป้องกันตำแหน่งมานานกว่า 13 เดือน จึงทำให้การชกครั้งนี้ต้องยุติไป<ref>หน้า 14 กีฬา, ''"โอ๋"แห้วWBOปลด"อันดราเด"''. "ย่อยข่าวกีฬา". '''เดลินิวส์'''ฉบับที่ 24,034: วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 แรม 3 ค่ำ เดือน 8-8 ปีมะแม</ref> จากนั้น ศิริมงคลยังคงชกมวยต่อเนื่องมาจนทำสถิติชกมวยสากลอาชีพครบ 100 ครั้ง ใน พ.ศ. 2561 ก่อนจะแขวนนวมไป


===ฉายา===
===ฉายา===
บรรทัด 119: บรรทัด 118:
[[หมวดหมู่:แชมป์ ABCO]]
[[หมวดหมู่:แชมป์ ABCO]]
[[หมวดหมู่:แชมป์ PABA]]
[[หมวดหมู่:แชมป์ PABA]]
[[หมวดหมู่:แชมป์ WBO เอเชีย]]
[[หมวดหมู่:นักมวยเค-วัน]]
[[หมวดหมู่:นักมวยเค-วัน]]
[[หมวดหมู่:ผู้ฝึกสอนมวยสากล]]
[[หมวดหมู่:ผู้ฝึกสอนมวยสากล]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:27, 27 พฤษภาคม 2562

ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์
ไฟล์:Dtawanbooks 20070526170303.jpg
ชื่อจริงศิริมงคล เอี่ยมท้วม
ฉายาเทพบุตรหน้าหยก
รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท
แบนตั้มเวท
ซูเปอร์เฟเธอร์เวท
ไลท์เวท
ซูเปอร์ไลท์เวท
เวลเตอร์เวท
ซูเปอร์เวลเตอร์เวท
มิดเดิลเวท
ส่วนสูง171 เซนติเมตร
เกิด2 มีนาคม พ.ศ. 2520 (47 ปี)
อำเภอธัญบุรี
จังหวัดปทุมธานี
ชกทั้งหมด100
ชนะ96
ชนะน็อก61
แพ้4 (แพ้น็อก 1)
เสมอ0
ผู้จัดการสหสมภพ ศรีสมวงศ์
สุชาติ พิสิฐวุฒินันท์
นริส สิงห์วังชา

ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ หรือ ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลกคนที่ 23 ของประเทศไทย โดยเป็นแชมป์โลกถึง 2 รุ่น เป็นคนที่ 2 ของประเทศ

ประวัติ

ประวัติเบื้องต้น

ศิริมงคล มีชื่อจริงว่า ศิริมงคล เอี่ยมท้วม มีชื่อเล่นว่า "โอ๋" เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2520 ที่ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เป็นลูกคนชายคนกลางในจำนวนลูก ๆ ทั้งหมด 3 คน ของนายมานพ เอี่ยมท้วม เจ้าของค่ายมวยสิงห์มนัสศักดิ์ และนางบัวเรียม เอี่ยมท้วม ผู้เป็นแม่ เมื่อยังเด็ก ศิริมงคลชอบร้องรำลิเกมาก เพราะติดตามแม่ซึ่งชอบดูลิเก ศิริมงคลเดิมทีเป็นคนไม่ชอบมวยเลย ทางพ่อ นายมานพจับให้ศิริมงคลชกมวย โดยเริ่มจากมวยไทยก่อน ด้วยการหลอกล่อให้ชกในงานวัดแถวบ้าน ได้ค่าตัวครั้งแรก 100 บาท ซึ่งทางครอบครัวเองก็มีลูกชายคนโต คือ มานพชัย สิงห์มนัสศักดิ์ เป็นอดีตแชมป์มวยไทยเวทีมวยช่อง 7 สี

สำหรับมวยสากลสมัครเล่น ศิริมงคลเองก็เคยชกมาก่อน ในนามของโรงเรียนสมัยศึกษาอยู่ระดับมัธยมศึกษา ได้แชมป์ในระดับนักเรียนมาจำนวนหนึ่ง[1]

แชมป์โลก WBU และ WBC

ศิริมงคลขึ้นชกมวยสากลครั้งแรกเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ชนะคะแนน ฤทธิชัย เกียรติประภัสร์ จากนั้นชกชนะรวด จนได้ครองแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท และแบนตั้มเวท ของสหภาพมวยโลก (WBU) ในปี พ.ศ. 2538 ก่อนที่จะสละตำแหน่งไปเพื่อครองแชมป์โลกในสถาบันที่ใหญ่กว่า คือ สภามวยโลก (WBC) ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2539 ศิริมงคลเอาชนะน็อกยก 3 เขาใหญ่ มหาสารคาม หรือชื่อเดิมว่า ถนอมศักดิ์ ศิษย์โบ๊เบ๊ นักมวยรุ่นพี่ซึ่งเคยมีโอกาสขึ้นแชมป์โลกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้งและเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 รุ่นแบนตัมเวท WBC ในขณะนั้น ไปได้อย่างสวยงาม ซึ่งในการชกครั้งนี้ถือเป็นการชกมวยครั้งสุดท้ายของถนอมศักดิ์

ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน ที่จังหวัดพิษณุโลก ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ ก็เอาชนะน็อก โฮเซ่ หลุยส์ บัวโน่ นักมวยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวทในสถาบันเดียวกันนี้ ในยกที่ 5 ไปได้อย่างงดงาม คว้าแชมป์เฉพาะกาลไปได้ ด้วยวัยเพียง 19 ปี และต่อมาในปี พ.ศ. 2540 สภามวยโลกก็ประกาศให้ศิริมงคลเป็นแชมป์โลกตัวจริง ศิริมงคล สามารถป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน ในปลายปี ศิริมงคลได้เดินทางไปชกป้องกันตำแหน่งที่ประเทศญี่ปุ่น กับ โจอิชิโร ทัตสุโยชิ อดีตแชมป์โลกในรุ่นนี้ชาวญี่ปุ่น ศิริมงคลต้องลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก ถึงวันชกร่างกายซูบซีด แก้มตอบ ตาลึกโบ๋ แต่ก็ยังอดทนกัดฟันสู้กับทัตสุโยชิได้จนถึงยก 7 ก่อนที่จะแพ้น็อกไปอย่างบอบช้ำ

ไฟล์:Tatuyosisirimonnkonn.jpg
แพ้น็อก โจอิชิโร ทัตสุโยชิ เสียแชมป์โลกครั้งแรก

เลื่อนรุ่น

จากนั้นจึงเลื่อนรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่า และอุ่นเครื่องอีกหลายครั้ง ก่อนจะขึ้นชิงตำแหน่งแชมป์รุ่นซุปเปอร์เฟเธอร์เวทสถาบันเดิม เอาชนะ เคนโกะ นากาจิมา นักมวยชาวญี่ปุ่น ไปได้เมื่อปี พ.ศ. 2545 และป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้หนึ่งครั้ง ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะแพ้ เฮซุส ชาเวซ นักมวยชาวเม็กซิกัน ในการชกไฟต์บังคับ ในปี พ.ศ. 2546 ที่สหรัฐอเมริกา

ตกอับและปัจจุบัน

เมื่อเสียแชมป์โลกสมัยที่ 2 แล้ว การชกมวยของศิริมงคลเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ เนื่องจากเป็นมวยรุ่นใหญ่ หาผู้สนับสนุนยาก ศิริมงคลเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2548 เมื่อปรากฏเป็นข่าวว่าตำรวจได้ทลายจับแหล่งค้าสื่อลามกแหล่งใหญ่ย่านตลาดนัดสวนจตุจักร พบอัลบั้มนู้ดของอดีตแชมป์โลก ศิริมงคล อยู่ด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้สารภาพว่า ถ่ายไปเพราะค่าตัวดี ประกอบกับขณะนั้นคิดจะแขวนนวม เนื่องจากขณะนั้น ศิริมงคลได้เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายแฟชั่นและแสดงละครโทรทัศน์เป็นตัวประกอบทางช่อง 7 เช่น เรื่อง เปรตวัดสุทัศน์ และได้แสดงมิวสิกวีดีโอของวงโมทีฟ โดยแสดงคู่กับ ดอม เหตระกูล หลังจากนั้นศิริมงคลก็ได้ออกหนังสือมาเล่มหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจถ่ายรูปนู้ดครั้งนี้

ศิริมงคล กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อต้นปี พ.ศ. 2550 เมื่อจะเบนเข็มไปชกมวยเค-วัน ที่ประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากค่าตัวดี และสามารถชกได้ดี และในปีเดียวกันนี้ ศิริมงคลได้ครองแชมป์ WBC เอเชียรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท ชนะคะแนน ทอง ป.โชคชัย และใน พ.ศ. 2551 ได้ครองแชมป์ PABA รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท แต่ต่อมาก็สละตำแหน่งไปทั้งหมด

ต่อมา ศิริมงคลกลับมาชกมวยสากลอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกา ในรุ่นเวลเตอร์เวท โดยเปลี่ยนผู้จัดการมาเป็น นริส สิงหวังชา ที่ชื่นชมในตัวของศิริมงคลมาตั้งแต่ต้น แต่ต่อมาก็ตกเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งเมื่อถูกจับในข้อหาค้ายาไอซ์เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ที่พัทยา โดยศิริมงคลไม่ได้มีเจตนา แต่ว่าติดอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมค้ายา จึงทำให้ตกกระไดพลอยโจนไปด้วย ทำให้มีแนวโน้มว่าต้องเลิกชกมวยไปโดยปริยาย ในช่วงนี้ทางครอบครัวของศิริมงคลทุกคนมีแต่ความโศกเศร้ารันทด เพราะศิริมงคลถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของครอบครัว[1] แต่ศิริมงคลก็ยังได้รับการปล่อยตัวให้ออกมาชกมวยเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งได้แชมป์ WBC เอเชียคอนติเนนตัล ในรุ่นเวลเตอร์เวท[2]

ไฟล์:Siri-top.jpg
หน้าปกหนังสือ เงิน หรือ โง่ โอ๋ ศิริมงคล เปลือย เปิด เป้า! หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจถ่ายนู้ดของศิริมงคล โดยสำนักพิมพ์กู๊ด มอร์นิ่ง (พ.ศ. 2549)
ไฟล์:38214840 singmanassuk300.jpg
ชนะน็อกยก 2 เคนโกะ นากาจิม่า

ขณะที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำ ศิริมงคลถือเป็นนักโทษที่มีความประพฤติดี และเป็นครูสอนมวยให้แก่นักโทษคนอื่นในเรือนจำด้วย จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดหย่อนโทษ และได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556[1] และยังคงชกมวยต่อมา จนได้ครองแชมป์ WBO เอเชียรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท อีกทั้งยังเป็นเทรนเนอร์ให้กับ ก้องพลากุลวงศ์ ก่อเกียรติยิม แชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวท WBC เอเชีย ซึ่งเป็นนักมวยรุ่นน้องอีกด้วย

ในปี พ.ศ. 2558 ศิริมงคลมีกำหนดได้ขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท องค์กรมวยโลก (WBO) กับ แอนเดรียส อันดราเด แชมป์โลกชาวอเมริกัน ที่สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 15 สิงหาคม ปีเดียวกัน แต่ก่อนที่จะมีกำหนดชกไม่นาน ปรากฏว่าทาง WBO ได้ปลดอันดราเดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่ได้ชกป้องกันตำแหน่งมานานกว่า 13 เดือน จึงทำให้การชกครั้งนี้ต้องยุติไป[3] จากนั้น ศิริมงคลยังคงชกมวยต่อเนื่องมาจนทำสถิติชกมวยสากลอาชีพครบ 100 ครั้ง ใน พ.ศ. 2561 ก่อนจะแขวนนวมไป

ฉายา

ศิริมงคล ถือได้ว่าเป็นนักมวยหน้าตาดี มีหมัดแย็บที่แม่นยำ แฟนมวยชาวไทยจึงตั้งฉายาให้ด้วยการโหวตผ่านนิตยสารมวยโลกว่า เทพบุตรหน้าหยก โดยที่ศิริมงคลเป็นผู้เลือกฉายานี้ด้วยตนเอง

ชื่อในการชกมวยชื่ออื่น

  • ศิริมงคล นครทองปาร์ควิว
  • ศิริมงคล นครหลวงโปรโมชั่น

เกียรติประวัติ

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 "ยกสุดท้ายของศิริมงคล". ครอบครัวเดียวกัน Big Family. 6 April 2014. สืบค้นเมื่อ 7 April 2014.
  2. ศิริมงคลน็อกปินส์ซิวแชมป์ว่าง, คอลัมน์ ย่อยข่าวกีฬา. เดลินิวส์หน้า 19 ฉบับที่ 23,044: พฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12 ปีมะโรง
  3. หน้า 14 กีฬา, "โอ๋"แห้วWBOปลด"อันดราเด". "ย่อยข่าวกีฬา". เดลินิวส์ฉบับที่ 24,034: วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 แรม 3 ค่ำ เดือน 8-8 ปีมะแม