ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระภัททิยกาฬิโคธาบุตร"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 45: | บรรทัด 45: | ||
== สาเหตุที่ทรงออกผนวช== |
== สาเหตุที่ทรงออกผนวช== |
||
⚫ | พระภัททิยเถรศากยราชา มีพระราชศรัทธาเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนาพร้อมกับเจ้าราชกุมารทั้ง 5 คือ [[เจ้าชายอนุรุทธะ]], [[เจ้าชายอานันทะ]], [[เจ้าชายภัคคุ]], [[เจ้าชายกิมพิละ]] และ[[เจ้าชายเทวทัตต์]] และนายช่างกัลบกนามว่านายอุบาลีภูษามาลาอีก 1 ท่าน รวมเป็น 7 ณ อนุปิยอัมพวัน ในอนุปิยนิคม โดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธะ โดยในวันผนวชนั้น เจ้าชายทั้ง 6 ได้ตกลงกันให้นายอุบาลีผู้เป็นช่างภูษามาลาออกบวชก่อนตน เพื่อจะได้ทำความเคารพเป็นการลดทิฐิและมานะแห่งความเป็นเชื้อสายกาษัตริย์ของตนลง โดยทั้งหมดได้อุปสมบทด้วยวิธี[[เอหิภิกขุอุปสัมปทา]]โดยตรงจากพระพุทธเจ้า |
||
⚫ | เมื่อผนวชแล้ว ได้ทรงตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ จนเมื่อบรรลุแล้วพระองค์มักเปล่งอุทานว่า "สุขหนอ ๆ" อยู่เสมอ ๆ จนพระสงฆ์เข้าใจผิดว่าท่านคำนึงเสียดายราชสมบัติที่ทรงสละมา พระสงฆ์เหล่านั้นจึงไปกราบบังคมทูลความนั้นแด่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงเรียกท่านมาสอบถาม ท่านกราบบังคมทูลพระพุทะเจ้าว่าที่ท่านชอบอุทานเช่นนั้นเป็นเพราะความสุขคือความสบายและปลอดภัยอันเกิดจากการสละราชสมบัติ เพราะเมื่อยังทรงครองราชสมบัตินั้น มีแต่ความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ต้องมีข้าราชบริพารและทหารรักษาพระองค์ล้อมรอบเพื่อถวายการอารักขา ทำให้เมื่อออกบวชแล้วจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องมานั่งมัวระแวงภัย อาสัยบิณฑบาตเลี้ยงชีพ มีใจดุจมฤคา คือคนผู้ไม่มีภาระท่องเที่ยวไป เมื่อกราบทูลเสร็จ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสชมเชยพระภัททิยเถรศากยะ |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
{{Infobox Monarch |
{{Infobox Monarch |
||
|สี = |
|สี = |
||
บรรทัด 65: | บรรทัด 72: | ||
| รัชกาลถัดมา = ไม่ทราบ |
| รัชกาลถัดมา = ไม่ทราบ |
||
}} |
}} |
||
⚫ | พระภัททิยเถรศากยราชา มีพระราชศรัทธาเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนาพร้อมกับเจ้าราชกุมารทั้ง 5 คือ [[เจ้าชายอนุรุทธะ]], [[เจ้าชายอานันทะ]], [[เจ้าชายภัคคุ]], [[เจ้าชายกิมพิละ]] และ[[เจ้าชายเทวทัตต์]] และนายช่างกัลบกนามว่านายอุบาลีภูษามาลาอีก 1 ท่าน รวมเป็น 7 ณ อนุปิยอัมพวัน ในอนุปิยนิคม โดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธะ โดยในวันผนวชนั้น เจ้าชายทั้ง 6 ได้ตกลงกันให้นายอุบาลีผู้เป็นช่างภูษามาลาออกบวชก่อนตน เพื่อจะได้ทำความเคารพเป็นการลดทิฐิและมานะแห่งความเป็นเชื้อสายกาษัตริย์ของตนลง โดยทั้งหมดได้อุปสมบทด้วยวิธี[[เอหิภิกขุอุปสัมปทา]]โดยตรงจากพระพุทธเจ้า |
||
⚫ | เมื่อผนวชแล้ว ได้ทรงตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ จนเมื่อบรรลุแล้วพระองค์มักเปล่งอุทานว่า "สุขหนอ ๆ" อยู่เสมอ ๆ จนพระสงฆ์เข้าใจผิดว่าท่านคำนึงเสียดายราชสมบัติที่ทรงสละมา พระสงฆ์เหล่านั้นจึงไปกราบบังคมทูลความนั้นแด่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงเรียกท่านมาสอบถาม ท่านกราบบังคมทูลพระพุทะเจ้าว่าที่ท่านชอบอุทานเช่นนั้นเป็นเพราะความสุขคือความสบายและปลอดภัยอันเกิดจากการสละราชสมบัติ เพราะเมื่อยังทรงครองราชสมบัตินั้น มีแต่ความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ต้องมีข้าราชบริพารและทหารรักษาพระองค์ล้อมรอบเพื่อถวายการอารักขา ทำให้เมื่อออกบวชแล้วจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องมานั่งมัวระแวงภัย อาสัยบิณฑบาตเลี้ยงชีพ มีใจดุจมฤคา คือคนผู้ไม่มีภาระท่องเที่ยวไป เมื่อกราบทูลเสร็จ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสชมเชยพระภัททิยเถรศากยะ |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
{{โครงส่วน}} |
|||
== บั้นปลายพระชนม์ชีพ == |
== บั้นปลายพระชนม์ชีพ == |
||
บรรทัด 87: | บรรทัด 86: | ||
# [http://www.84000.org/one/index.shtml เว็บไซต์ 84000] |
# [http://www.84000.org/one/index.shtml เว็บไซต์ 84000] |
||
# [http://www.dharma-gateway.com/monk-specialist-index-page.htm เว็บไชต ธรรมะ เกตเวย์] |
# [http://www.dharma-gateway.com/monk-specialist-index-page.htm เว็บไชต ธรรมะ เกตเวย์] |
||
{{เอตทัคคะบุคคล}} |
{{เอตทัคคะบุคคล}} |
||
[[หมวดหมู่:พระอสีติสาวก|พระอสีติสาวก]] |
[[หมวดหมู่:พระอสีติสาวก|พระอสีติสาวก]] |
||
บรรทัด 94: | บรรทัด 94: | ||
[[หมวดหมู่:บุคคลในพุทธประวัติ]] |
[[หมวดหมู่:บุคคลในพุทธประวัติ]] |
||
[[หมวดหมู่:เอตทัคคะบุคคล]] |
[[หมวดหมู่:เอตทัคคะบุคคล]] |
||
{{โครงพุทธศาสนา}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:27, 13 สิงหาคม 2553
พระภัททิยเถรศากยราชา | |
---|---|
ซากอาคารพระราชวัง เมืองกบิลพัสดุ์ | |
ข้อมูลทั่วไป | |
พระนามเดิม | ภัททิยกุมาร, พระเจ้าภัททิยะศากยราช |
สถานที่ประสูติ | พระราชวัง กรุงกบิลพัสดุ์ |
สถานที่บวช | อนุปิยอัมพวัน แคว้นมัลละ |
วิธีบวช | เอหิภิกขุอุปสัมปทา |
เอตทัคคะ | ผู้เกิดในสกุลสูง (เพราะทรงสละราชสมบัติออกผนวช) |
ฐานะเดิม | |
ชาวเมือง | เมืองกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ |
พระราชมารดา | พระนางกาฬิโคธาราชเทวี |
วรรณะเดิม | พระมหากษัตริย์แห่งศากยราชวงศ์ |
ราชวงศ์ | ศากยราชวงศ์ |
สถานที่รำลึก | |
สถานที่ | โบราณสถานพระราชวังเมืองกบิลพัสดุ์ |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
พระภัททิยเถรศากยราชา หรือ พระภัททิยศากยะ เป็นพระภิกษุสาวกเอตทัคคะของพระพุทธเจ้า นับเนื่องในพระอสีติมหาสาวก 80 องค์สำคัญในพระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล พระภัททิยเถรศากยราชา เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งศากยราชวงศ์ก่อนทรงสละราชสมบัติออกผนวชจนบรรลุเป็นพระอรหันต์
พระภัททิยเถรศากยราชา ออกผนวชโดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธกุมารผู้ทรงเป็นพระสหาย พระองค์ออกผนวชพร้อมกับเจ้าราชกุมารอีก 5 พระองค์ และนายอุบาลีภูษามาลา ณ อนุปิยนิคม เมื่อท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านมักอุทานเสมอว่า "สุขหนอ ๆ" พระพุทธเจ้ายกย่องท่านให้เป็นพระเอตทัคคะผู้เลิศทางผู้เกิดในสกุลสูง
พระราชประวัติ
พระภัททิยเถรศากยราชา เป็นพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า โดยท่านเป็นเจ้าชายนับเนื่องในพระบรมศากยราชวงศ์ ไม่ปรากฏว่าพระราชบิดาของพระองค์ทรงพระนามใด แต่พระราชมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่าพระนางกาฬิโคธาราชเทวี พระองค์ได้เสวยราชสมบัติสืบต่อจากพระราชบิดาจวบจนเสด็จออกผนวช
สาเหตุที่ทรงออกผนวช
พระภัททิยเถรศากยราชา มีพระราชศรัทธาเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนาพร้อมกับเจ้าราชกุมารทั้ง 5 คือ เจ้าชายอนุรุทธะ, เจ้าชายอานันทะ, เจ้าชายภัคคุ, เจ้าชายกิมพิละ และเจ้าชายเทวทัตต์ และนายช่างกัลบกนามว่านายอุบาลีภูษามาลาอีก 1 ท่าน รวมเป็น 7 ณ อนุปิยอัมพวัน ในอนุปิยนิคม โดยการชักชวนของเจ้าชายอนุรุทธะ โดยในวันผนวชนั้น เจ้าชายทั้ง 6 ได้ตกลงกันให้นายอุบาลีผู้เป็นช่างภูษามาลาออกบวชก่อนตน เพื่อจะได้ทำความเคารพเป็นการลดทิฐิและมานะแห่งความเป็นเชื้อสายกาษัตริย์ของตนลง โดยทั้งหมดได้อุปสมบทด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทาโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
เมื่อผนวชแล้ว ได้ทรงตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ จนเมื่อบรรลุแล้วพระองค์มักเปล่งอุทานว่า "สุขหนอ ๆ" อยู่เสมอ ๆ จนพระสงฆ์เข้าใจผิดว่าท่านคำนึงเสียดายราชสมบัติที่ทรงสละมา พระสงฆ์เหล่านั้นจึงไปกราบบังคมทูลความนั้นแด่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงเรียกท่านมาสอบถาม ท่านกราบบังคมทูลพระพุทะเจ้าว่าที่ท่านชอบอุทานเช่นนั้นเป็นเพราะความสุขคือความสบายและปลอดภัยอันเกิดจากการสละราชสมบัติ เพราะเมื่อยังทรงครองราชสมบัตินั้น มีแต่ความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ต้องมีข้าราชบริพารและทหารรักษาพระองค์ล้อมรอบเพื่อถวายการอารักขา ทำให้เมื่อออกบวชแล้วจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องมานั่งมัวระแวงภัย อาสัยบิณฑบาตเลี้ยงชีพ มีใจดุจมฤคา คือคนผู้ไม่มีภาระท่องเที่ยวไป เมื่อกราบทูลเสร็จ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสชมเชยพระภัททิยเถรศากยะ
และด้วยความที่ท่านเกิดในตระกูลแห่งกษัตริย์ ดำรงพระราชสถานะเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ผู้เป็นประธานแห่งแคว้นสักกะ แต่มีใจพระราชศรัทธาออกผนวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา บำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงยกย่องท่านว่าเป็นผู้เลิศด้าน ผู้เกิดในตระกูลสูง
บุพกรรมในอดีตชาติ
พระภัททิยกาฬิโคธาบุตร | |
---|---|
ภัททิยโคตมะ ภัททิยศากยราชา | |
พระมหากษัตริย์แห่งศากยราชวงศ์ | |
รัชกาลก่อนหน้า | พระเจ้ามหานามศากยราชา |
รัชกาลถัดไป | ไม่ทราบ |
ภัททิยศากยราชา | |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ศากยะ |
พระราชมารดา | พระนางกาฬิโคธาราชเทวี |
บั้นปลายพระชนม์ชีพ
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไม่ระบุว่าท่านดับขันธปรินิพพานเมื่อใดและที่ใด แต่ท่านคงดำรงขันธ์อยู่พอสมควรแก่กาลจึงปรินิพพาน
อ้างอิง
- สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. (2525). ธรรมวิภาคปริเฉทที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 23. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการแผนกตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย.