ข้ามไปเนื้อหา

ธงชาติอิรัก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ธงชาติอิรักแบบปัจจุบัน สัดส่วนธง 2:3

ธงชาติอิรัก (อาหรับ: علم العراق) มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้งจากความผันผวนทางการเมืองในประเทศ นับตั้งแต่การก่อตั้งประเทศใน พ.ศ. 2464 เป็นต้นมา ธงชาติแบบที่เปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดนี้ดัดแปลงจากธงชาติอิรัก พ.ศ. 2547–2551 ลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นสีแดง-ขาว-ดำ แบ่งตามแนวนอน มีความกว้างแต่ละแถบเท่ากัน กลางแถบสีขาวมีอักษรกูฟีย์ เขียนเป็นข้อความภาษาอาหรับว่า "อัลลอหุ อักบัร" แปลว่า พระอัลเลาะห์เจ้าทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมโดยยกเอารูปดาวห้าแฉกสีเขียว 3 ดวงออกจากธงเดิมไป

ควรรู้ด้วยว่า ด้านคันธงของธงที่มีอักษรอาหรับจารึกอย่างธงนี้อยู่ทางด้านขวา ไม่ใช่ทางด้านซ้ายของผู้สังเกตอย่างธงปกติทั่วไป

ประวัติ

[แก้]

พ.ศ. 2464–2502

[แก้]
พ.ศ. 2464- 2502 (สัดส่วนธง: 1:2)
พ.ศ. 2464- 2502 (สัดส่วนธง: 1:2)

ธงชาติแบบแรกสุดของประเทศอิรัก กำหนดให้มีขึ้นเมื่อมีการจัดตั้งประเทศในปี พ.ศ. 2464 โดยเป็นรัฐอารักขาเมโสโปเตเมียของสหราชอาณาจักร ลักษณะเป็นธงสามสีพื้นสีดำ-ขาว-เขียว ที่ด้านคันธงมีรูปสี่เหลี่ยมคางหมูในแนวตั้งพื้นสีแดง (บางแบบก็เป็นรูปสามเหลี่ยมก็มี) ในพื้นสีแดงนั้นมีดาว 7 แฉก 2 ดวง เรียงกันในแนวตั้ง หมายถึงทั้ง 14 จังหวัดของราชอาณาจักรอิรักในขณะนั้น สังเกตได้ว่า ธงนี้มีความคล้ายคลึงกับธงชาติจอร์แดนเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าสีในธงทั้งหมดนั้น บรรดาเจ้าผู้ครองนคร (Hashemite leaders) ในการปฏิวัติอาหรับ ซึ่งเป็นผู้สถาปนาประเทศนี้ เป็นผู้เลือกให้ใช้ในธงชาติอิรัก ธงนี้มีการใช้มาตลอดสมัยที่อิรักปกครองด้วยระบอบกษัตริย์จนถึง พ.ศ. 2502 ซึ่งในหมู่พวกนิยมกษัตริย์ในอิรัก ก็ยังมีการใช้ธงนี้อยู่

พ.ศ. 2502–2506

[แก้]
พ.ศ. 2502- 2506 (สัดส่วนธง: 1:2)
พ.ศ. 2502- 2506 (สัดส่วนธง: 1:2)

หลังจากการปฏิวัติเพื่อโค่นล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ภายใต้การนำของอิบด์ อัล-คะริม กอซิม (Abdul Karim Qassim) ในปี พ.ศ. 2501 ประเทศอิรักก็ได้มีการออกกฎหมายเลขที่ 102 ค.ศ. 1959 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2502 ให้ใช้ธงชาติอย่างใหม่ของสหพันธรัฐอาหรับอิรักและจอร์แดน ซึ่งมีลักษณะเป็นธงสามสีแนวตั้ง พื้นสีดำ-ขาว-เขียว ที่กลางแถบสีขาวนั้นมีรูปดาว 8 แฉกสีแดง 1 ดวง ภายในมีวงกลมสีเหลือง ความหมายของสีดำและสีเขียวคือเป็นสีพันธมิตรอาหรับ ดวงตะวันสีเหลืองหมายถึงชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด ส่วนดาว 7 แฉกสีแดงนั้นหมายถึงชนกลุ่มน้อยชาวอัสซีเรีย

ธงชาติแบบดังกล่าวนี้ ได้รับอนุญาตให้ใช้ชักในจังหวัดเคอร์ดิชสถาน ซึ่งเป็นเขตปกครองของชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด ส่วนธงในรุ่นหลัง ซึ่งมีการใช้ในกลุ่มสมาชิกพรรคบะอัธ และกลุ่มสมาคมพันธมิตรอาหรับ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้[1][2]

พ.ศ. 2506–2534

[แก้]
พ.ศ. 2506- 2534 (สัดส่วนธง: 2:3)
พ.ศ. 2506- 2534 (สัดส่วนธง: 2:3)

ต่อมาเมื่อรัฐบาลปฏิวัติของอิบด์ อัล-คะริม กอซิมถูกโค่นอำนาจโดยพรรคบะอัธ จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงธงชาติอิรักอีกครั้งหนึ่ง ตามกฎหมายเลขที่ 28 ค.ศ. 1963 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 ธงแบบใหม่นี้เป็นธงริ้วสามสีแนวนอนพื้นสีแดง-ขาว-ดำ มีดาว 5 แฉกสีเขียว 3 ดวง ในแถบสีขาว ซึ่งดาวสีเขียว 3 ดวงในธงนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของอิรักในการเข้าร่วมสหสาธารณรัฐอาหรับ อันเป็นสหภาพทางการเมืองช่วงสั้น ๆ ระหว่างอียิปต์และซีเรีย[3] ภายหลังซีเรียซึ่งมีอุดมการณ์เดียวกับอิรักได้รับเอาธงชาติอิรักในยุคนี้ไปใช้เป็นธงชาติตัวเองจนถึงปี พ.ศ. 2514 เมื่อดาวสีเขียวบนธงชาติซีเรียถูกแทนที่ด้วยเหยี่ยวแห่งกุเรช ตราแผ่นดินของซีเรีย[4]

พ.ศ. 2534–2547

[แก้]
พ.ศ. 2534–2547 (สัดส่วนธง: 2:3)
พ.ศ. 2534–2547 (สัดส่วนธง: 2:3)

ในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2534 ได้มีการเปลี่ยนแปลงธงชาติอิรักอีกครั้ง โดยธงชาติมีลักษณะคล้ายกับธงชาติยุค พ.ศ. 2506 แต่มีการเปลี่ยนนิยามความหมายของดาว 3 ดวงในธง ให้หมายถึงหลัก 3 ข้อคำขวัญของพรรคบะอัธ คือ เอกภาพ เสรีภาพ สังคมนิยม (อาหรับ: Wahda, Hurriyah, Ishtirakiyah) และเพิ่มข้อความอักษรกูฟีย์ ภาษาอาหรับ แทรกระหว่างดาวสีเขียว 3 ดวงว่า "อัลลอหุ อักบัร" โดยประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน เป็นผู้ออกคำสั่งให้เพิ่มข้อความข้างต้น แม้จะไม่เป็นที่ยืนยันนัก แต่ก็มีการกล่าวกันว่า ข้อความอักษรกูฟีย์ดังกล่าวเป็นลายมือของซัดดัม ฮุสเซนเอง ทั้งยังมีอีกหลายคนตีความกันว่า ที่ซัดดัมทำเช่นนี้ก็เพื่อแสวงหาความสนับสนุนจากโลกอิสลามในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก (พ.ศ. 2534)

พ.ศ. 2547–2551

[แก้]
พ.ศ. 2547–2551 (สัดส่วนธง: 2:3)
พ.ศ. 2547–2551 (สัดส่วนธง: 2:3)

หลังการสิ้นอำนาจของซัดดัมใน พ.ศ. 2547 ได้มีการเสนอธงชาติแบบใหม่ให้แทนธงเดิมในเดือนเมษายนปีเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยมีการนำมาใช้แต่อย่างใด (ดูเพิ่มเติมข้างล่าง) ต่อมาในพิธีการส่งมอบอำนาจแก่รัฐบาลรักษาการของอิรัก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2547 นั้น ได้มีการตกแต่งเวทีโดยใช้ธงซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับธงชาติแบบเดิม กล่าวคือ เป็นธงสามสีแนวนอนพื้นสีแดง-ขาว-ดำ กลางแถบสีขาวมีรูปดาวสีเขียว 3 ดวง ระหว่างดาวทั้งสามมีข้อความภาษาอาหรับ เขียนด้วยอักษรกูฟีย์ว่า "อัลลอหุ อักบัร" ในลักษณะเป็นอักษรตัวเหลี่ยมสมัยใหม่ ธงชาติอิรักแบบแก้ไขเพิ่มเติมนี้ได้มีการเชิญขึ้นสู่ยอดเสาที่สถานทูตอิรักในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547[5]

การเปลี่ยนธงชาติ พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2551

[แก้]
แบบธงชาติอิรักที่มีการเสนอใหม่ พ.ศ. 2547 (ยกเลิกในภายหลัง)

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2547 สภาการปกครองอิรัก (Iraqi Governing Council หรือ IGC) ได้ประกาศใช้ธงชาติอย่างใหม่แทนธงเดิมในยุคของซัดดัม ฮุสเซน โดยเลือกจากธงที่ได้มีการการส่งเข้าประกวด 30 แบบ ซึ่งแบบธงที่ได้รับการคัดเลือกนี้ เป็นผลงานของของริฟัต อัล ชาเดอร์ชี (Rifat al-Chaderchi) ศิลปินและสถาปนิกชาวอิรัก ซึ่งพำนักอยู่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และเป็นพี่ชายของสมาชิกสภาการปกครองอิรักคนหนึ่งด้วย

ลักษณะของธงดังกล่าว เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าพื้นสีขาว ตอนล่างมีแถบสีฟ้า-เหลือง-ฟ้า ขนาดเล็ก ความกว้างรวมกันเป็น 1 ใน 4 ส่วนของความกว้างธงทั้งหมด แถบสีฟ้านั้นหมายถึงแม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรติส ซึ่งไหลผ่านที่ราบลุ่มเมโสโปเตเมีย อันเป็นที่ตั้งของประเทศอิรัก แถบสีเหลืองหมายถึงชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด ซึ่งเหตุผลในการให้คำนิยามเช่นนี้ไม่เป็นที่ชัดเจนนัก แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ในธงเคอร์ดิชสถานนั้นมีรูปดวงอาทิตย์สีเหลืองประกอบอยู่ด้วย ส่วนที่กลางพื้นสีขาวนั้น มีรูปจันทร์เสี้ยวสีฟ้า หมายถึง ศาสนาอิสลาม

แบบธงดังกล่าวนี้ ถือได้ว่าแตกต่างจากธงที่ใช้ในกลุ่มประเทศอาหรับอย่างสิ้นเชิง เพราะตามประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ ในแถบตะวันออกกลาง ธงชาติมักจะใช้สีเขียวและสีดำ เพื่อแทนความหมายของศาสนาอิสลาม ใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของแนวคิดชาตินิยมอาหรับ และในตราสัญลักษณ์แบบอาหรับนั้น ก็นิยมใช้สีเขียวหรือสีแดงโดยทั่วไปอีกด้วย การที่ใช้ธงชาติที่มีสีหลักเป็นสีขาวและฟ้าเช่นนี้ จึงได้กลายเป็นประเด็นที่โต้แย้งและถกเถียงกันในอิรัก เพราะลักษณะธงนี้ไปคล้ายคลึงกับธงชาติอิสราเอล ซึ่งอิรักถือว่าเป็นประเทศชนชาติศัตรู (อนึ่ง แบบธงชาติอิสราเอลจำนวนหนึ่งก่อนที่จะมีการประกาศใช้ธงชาติของตนจริงๆ นั้น ก็มีสีเหลืองประกอบอยู่ในธงด้วย)[6]) ข้อวิจารณ์ในหลายแห่งแสดงออกมามาว่ารู้สึกเสียใจที่ธงชาติอย่างใหม่นี้ ได้ละเลยการใช้สีพันธมิตรอาหรับ และไม่มีข้อความสรรเสริญพระเจ้า "อัลลอหุ อักบัร" ปรากฏอยู่ โดยขาดความเคารพต่อผู้ที่ออกแบบธงเดิม

มีรายงานว่า ธงแบบใหม่ธงนี้ได้ถูกเผาเพื่อเป็นการประท้วงที่เมืองฟัลลูจาห์ (Fallujah) ในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2547 ก่อนหน้าวันที่จะมีการประกาศใช้ธงชาติใหม่อย่างเป็นทางการ 1 วัน

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2547 นายมัสซุด บาร์ซานี (Massoud Barzani) ประธานสภาการปกครองอิรัก ได้แสดงแบบธงใหม่อย่างเป็นทางการ โดยปรับแก้ให้ธงนี้มีโทนสีฟ้าที่เข้มขึ้นจากแบบเดิม ซึ่งเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนในวันที่ 26 เมษายน ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เหตุที่มีการแก้แบบธงนั้นมาจากการประท้วงที่เกิดขึ้นหรือไม่ หรือเป็นจากแก้ไขจากแบบเดิมด้วยสาเหตุความผิดพลาดด้านการพิมพ์เพื่อเผยแพร่สื่อตามที่นายมัสซุดอ้าง นายมัสซุดยังได้กล่าวด้วยว่า แบบธงดังกล่าวนี้จะใช้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการใช้แบบธงชาติที่แน่นอน

จากการเผชิญหน้ากับความขัดแยังในครั้งนี้ ทำให้ที่สุดแล้ว การประกาศใช้ธงชาติแบบใหม่อย่างเป็นทางการจึงถูกยกเลิกไป ต่อมาในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ในพิธีการส่งมอบอำนาจการปกครองอิรัก ธงชาติอิรักที่แสดงอยู่ในพิธีการดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นการปรับแบบธงเล็กน้อยจากแบบธงชาติสมัยของซัดดัม ฮุสเซนเพียงเล็กน้อย โดยเปลี่ยนรูปตัวอักษรในข้อความภาษาอาหรับ จากแบบลายมือ มาเป็นแบบตัวเหลี่ยมสมัยใหม่[7]

ภายหลังเมื่อต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ได้มีการเสนอแบบธงชาติใหม่ โดยยกเอาดาวห้าแฉก 3 ดวงสีเขียว อันเป็นสัญลักษณ์ของพรรคบะอัธในธงชาติเดิมออก และแทนที่ด้วยรูปวงกลมสีเหลืองซ้อนทับบนดาวแปดแฉกสีเขียว ที่ระหว่างข้อความภาษาอาหรับ "อัลลอหุ อักบัร" เพื่อแทนความหมายถึงชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดในอิรัก [8] นอกจากนี้ยังมีการเสนอแบบธงใหม่อีกแบบหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับธงชาติช่วง พ.ศ. 2547-2551 แต่เปลี่ยนสีตัวอักษรภาษาอาหรับในธง จากเดิมสีเขียว ให้เป็นสีเหลือง เพื่อให้มีความหมายถึงชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดด้วยเช่นกัน และได้เปลี่ยนนิยามความหมายของดาว 3 ดวงในธงเป็น "สันติภาพ ขันติธรรม และยุติธรรม"[9]

22 มกราคม พ.ศ. 2551 รัฐสภาอิรักได้ลงมติให้ใช้ธงชาติใหม่ มีลักษณะคล้ายธงชาติแบบเดิม แต่ยกเอาดาว 3 ดวงในธงออกเสีย[10]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-25. สืบค้นเมื่อ 2007-12-24.
  2. http://memri.org/bin/articles.cgi?Page=archives&Area=ia&ID=IA29306
  3. "Syrian Flag". History of Syria. สืบค้นเมื่อ 7 August 2012.
  4. Sergie, Lina, Recollecting history : songs, flags and a Syrian square Massachusetts Institute of Technology. Dept. of Architecture, 2003, p.26
  5. http://www.foxnews.com/story/0,2933,124329,00.html
  6. Gutterman, Dov (2007-06-09). "Israel - Flag Proposals (1948-1949)". Flags of the World. สืบค้นเมื่อ 2008-01-24.
  7. http://www.cnn.com/2004/WORLD/meast/06/28/iraq.handover/
  8. Garrels, Anne (2008-01-12). "Iraq to Restore Former Baath Party Followers". National Public Radio. สืบค้นเมื่อ 2008-01-24.
  9. Charif, Chalaan (2008-01-15). "Iraq's new flag half satisfies everyone". Radio Netherlands. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-18. สืบค้นเมื่อ 2008-01-24.
  10. "Flag of Iraq". Britannica. สืบค้นเมื่อ November 1, 2020.
  11. Mohammed, Abeer; Moore, Solomon (January 23, 2008). "Iraq Parliament Purges Hussein Vestiges on Flag". The New York Times. สืบค้นเมื่อ November 1, 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]