เทศกาลไหว้พระจันทร์
เทศกาลไหว้พระจันทร์ | |
---|---|
![]() เทศกาลในปักกิ่ง | |
ชื่ออื่น | เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง, เทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ |
จัดขึ้นโดย | จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน (วันหยุดที่คล้ายกันมีการเฉลิมฉลองในญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) |
ประเภท | วัฒนธรรม ศาสนา |
ความสำคัญ | เฉลิมฉลองการสิ้นสุดของการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง |
การเฉลิมฉลอง | การจุดโคม, การทำและมอบขนมไหว้พระจันทร์, การหาคู่, ดอกไม้ไฟ, การรวมตัวของครอบครัว, ระบำมังกร, มื้ออาหารครอบครัว, การเยี่ยมเพื่อนและญาติ,. การมอบของขวัญ |
การถือปฏิบัติ | การกินขนมไหว้พระจันทร์ การดื่มไวน์แคสเซีย |
วันที่ | ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ |
วันที่ในปี 2022 | 10 กันยายน[1] |
วันที่ในปี 2023 | 29 กันยายน[1] |
วันที่ในปี 2024 | 17 กันยายน[1] |
ความถี่ | ทุกปี |
ส่วนเกี่ยวข้อง | ชูซ็อก (เกาหลี), ทสึคิมิ (ญี่ปุ่น), เต๊ดจุงทู (เวียดนาม), Uposatha ของ Ashvini หรือ กฤตฺติกา (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ศรีลังกา และไทย) |
เทศกาลไหว้พระจันทร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
![]() "เทศกาลไหว้พระจันทร์" อักษรจีนตัวเต็ม (บน) และตัวย่อ (ล่าง) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 中秋節 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 中秋节 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ความหมายตามตัวอักษร | "เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง" | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อภาษาหมิ่น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวเต็ม | 八月節 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ความหมายตามตัวอักษร | "เทศกาลเดือนแปด" | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อภาษาเวียดนาม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
ภาษาเวียดนาม | Tết Trung thu, Tết thiếu nhi, Tết trông Trăng, Tết hoa đăng | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่อมลายู | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
มลายู | Perayaan Kuih Bulan, Perayaan Pertengahan Musim Luruh | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชื่ออินโดนีเซีย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
อินโดนีเซีย | Festival Pertengahan Musim Gugur, Festival Kue Bulan |
เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือ เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง (อังกฤษ: Moon Festival, Mid-Autumn Festival; จีนตัวย่อ: 中秋节; จีนตัวเต็ม: 中秋節; พินอิน: zhōngqiū jié; เวียดนาม: Tết Trung Thu) เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่มีขึ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว จะมีขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ (กันยายนตามปฏิทินสากล)
ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ในบางประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือเวียดนาม[2] จะจัดเป็นประเพณีใหญ่ มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง[3] เป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร[4] ทั้งนี้จะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ท้องถิ่น ส่วนในประเทศไทย พื้นที่ที่มีการจัดเทศกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่ และปฏิบัติตามประเพณีดั้งเดิม นั่นก็คือ อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ในตำบลทุ่งยาว และถือได้ว่าเป็นชุมชนเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยในขณะนี้ ที่ยังคงยึดถือธรรมเนียมดังกล่าวนี้อย่างต่อเนื่อง[5]
นอกจากนี้แล้ว ยังมีขนมชนิดหนึ่ง เรียกว่า "ขนมไหว้พระจันทร์" (月饼) ที่มีสันฐานกลมคล้ายขนมเค้ก ทำจากแป้ง มีไส้ต่าง ๆ เป็นธัญพืช ใช้เซ่นไหว้และรับประทานกันจนเป็นเอกลักษณ์สำหรับเทศกาลนี้
พิธีไหว้พระจันทร์[แก้]
การไหว้พระจันทร์เป็นหนึ่งในพระราชพิธีประจำปีสำคัญ ตามคติศาสนาขงจื๊อ ลัทธิเต๋าและศาสนาพื้นบ้านจีน สำหรับจักรพรรดิเป็นตัวแทนของราษฎรทรงต้องเสร็จประกอบพิธีบวงสรวงเป็นประจำทุกปีควบคู่กับการบวงสรวงฟ้า (ทีกง) ดิน (พระแม่ธรณี) พระอาทิตย์ และเทพเจ้าแห่งการเกษตรทุกปีเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน โดยเป็นพระราชพิธีสำคัญที่จะต้องประกอบพระราชพิธีทุกปี ในสมัยรัชกาลหมิงซื่อจงแห่งราชวงศ์หมิง ทรงมีพระราชศรัทธาพิเศษอย่างยิ่งยวดในลัทธิเต๋า โดยโปรดให้สร้างเย่วถาน (จีน: 月坛) ขึ้นทางทิศตะวันตก ณ ตรงประตู ฟู่เฉิงเหมิน (จีน: 阜成门) เพื่อใช้ในการพระราชพิธีพิธีไหว้พระจันทร์โดยเฉพาะ คู่กับวิหารแห่งพระอาทิตย์ (จีน: 日坛) ขึ้นทางทิศตะวันออกของปักกิ่ง และวิหารแห่งโลก (จีน: 地坛) ทางทิศเหนือ และโปรดให้ทำการต่อเติมหอสักการะแผ่นดินและฟ้า (เทียนตี้ถัน) และให้เปลี่ยนชื่อเป็น "หอสักการะฟ้า" (เทียนถัน)[6] โดยเย่วถาน (จีน: 月坛) แห่งนี้ได้ใช้ในพระราชพิธีพิธีไหว้พระจันทร์ตลอดมาในสมัยราชวงศ์ชิงจนระบบราชสำนักจีนโบราณสิ้นสุด[7][8]ในปัจจุบันเย่วถาน (จีน: 月坛) ได้กลายเป็นสวนสาธารณะประจำนครปักกิ่งแล้วแต่โดยรวมยังคงสภาพความเป็นโบราณสถานไว้อยู่
ในพระราชพิธีไหว้พระจันทร์จักรพรรดิจะทรงฉลองพระองค์สีขาวนวล ทรงพระประคำรอบพระศอ เข็มขัดรัดพระองค์เป็นหยกขาว โดยการบูชาพระจันทร์นั้นจะเสด็จพระราชดำเนินไปยามค่ำ ประมาณหกโมงเย็น ถึงหนึ่งทุ่ม โดยเน้นสิ่งสำคัญที่สุดในพิธีคือขนมไหว้พระจันทร์จำนวนมากและหลังจากเสร็จพระราชพิธีบวงสรวงแล้วจะทรงพระราชทานขนมไหว้พระจันทร์แด่พระมเหสีและพระบรมวงศ์ทั้งปวง จนนางข้าหลวงและขันทีชั้นล่างและเฉลิมฉลองอย่างเป็นพิเศษ และในพระพุทธศาสนาแบบจีนนับถือเป็นพระจันทรประภาโพธิสัตว์ (จีน: 月光菩薩; พินอิน: Yuèguāng púsà; ญี่ปุ่น: Gekkō bosatsu) เป็นพระโพธิสัตว์เป็นสาวกของพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า คู่กับพระสุริยประภาโพธิสัตว์ (จีน: 日光菩薩; พินอิน: Rìguāng púsà; ญี่ปุ่น: Nikkō bosatsu) และเป็นหนึ่งในยี่สิบสี่เทพธรรมบาลจีนของพระพุทธศาสนาแบบจีน[9]
โดยทั่วไป[แก้]
ที่มาของเทศกาลแบ่งเป็นสองส่วนคือ ในส่วนของราชสำนักและส่วนของชาวบ้านนี้ ในส่วนของราชสำนักถือเป็นพระราชพิธีหลวงที่จักรพรรดิจีนโบราณ จะทรงประกอบพระราชพิธีบวงสรวงสักการะบูชาพระจันทรเทวี (เทพธิดารักษาพระจันทร์) ซึ่งต้องกระทำเป็นทางราชการประจำปี ณ ที่บูชาด้านทิศตะวันตกของกรุงปักกิ่งคือ เย่วถาน (จีน: 月坛) ประมาณวันที่ยี่สิบสองหรือยี่สิบสิบสามกันยายนตามปฏิทินจีน โดยถือเป็นพระราชพิธีหลักของราชสำนักจีนโบราณรวมกับพิธีบูชาฟ้า (ทีกง) ดิน (พระแม่ธรณี) พระอาทิตย์ และเทพเจ้าแห่งการเกษตร โดยพิธีดังกล่าวมีมานานก่อนสมัยของขงจื๊อ แต่ขงจื๊อเล็งเห็นคุณประโยชน์ต่อจิตใจ จึงรวบรวมประเพณีพิธีกรรมเหล่านี้ไว้ในตำราของท่าน กลายเป็นส่วนหนึ่งของศาสนาขงจื๊อไปด้วย โดยถึงแม้จะระบบราชสำนักจีนโบราณจะสิ้นสุดแล้ว แต่ธรรมเนียมประเพณีการไหว้พระจันทร์แบบราชสำนักยังคงต่อมาและรักษาด้วยลัทธิเต๋าและศาสนาพื้นบ้านจีนในปัจจุบัน [10] [11]และเป็นพื้นฐานของหยินหยางในโหราศาสตร์จีนและดวงจีน[12] ในส่วนของชาวบ้านเกี่ยวกับเทพปกรณัมจีนที่เล่าถึง เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ นามว่า "ฉางเอ๋อ" (嫦娥) ซึ่งเป็นหญิงคนรักของโฮวอี้ นักยิงธนูแห่งสวรรค์ ที่ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ตกลงไปถึง 9 ดวงจากทั้งหมด 10 ดวง ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบัญชาสวรรค์ จึงโดนลงทัณฑ์ให้ไปใช้ชีวิตธรรมดาเช่นมนุษย์ทั่วไปบนโลกมนุษย์กับฉางเอ๋อ แต่แล้วโฮวอี้ก็ถูกคนสนิททรยศฆ่าตาย ส่วนฉางเอ๋อนางได้ดื่มน้ำอมฤตเพื่อที่จะมีชีวิตอมตะ แล้วเหาะกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้งตามลำพังด้วยความเศร้าสร้อย ในยุคของฮั่นเหวินตี้ (漢文帝) แห่งราชวงศ์ฮั่น ได้ทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบกับฉางเอ๋อกำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม ในสุบินนั้น พระองค์ทรงเพลิดเพลินและเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเมื่อตื่นพระบรรทมและโปรดให้สุบินนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาฉางเอ๋อที่พระองค์ได้พบเจอมา จนแพร่หลายไปสู่ราษฎรและเป็นประเพณีมา ซึ่งในอดีต ชาวจีนโดยเฉพาะหญิงสาวจะสวดขอพรจากฉางเอ๋อเพื่อที่ขอให้มีความเยาว์วัยและงดงามตลอดไปดุจดั่งนาง[4]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 https://www.timeanddate.com/holidays/china/mid-autumn-festival
- ↑ "เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วงเวียดนาม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-11. สืบค้นเมื่อ 2012-11-28.
- ↑ "เทศกาลฉลองกลางฤดูใบไม้ร่วง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-18. สืบค้นเมื่อ 2012-11-28.
- ↑ 4.0 4.1 "เกร็ดตำนานวันไหว้พระจันทร์ จากผู้จัดการออนไลน์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2012-11-28.
- ↑ "องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม, ประเพณีท้องถิ่น, เทศกาลไหว้พระจันทร์". สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตรัง. 15 ตุลาคม 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-25. สืบค้นเมื่อ 2022-10-25.
- ↑ "นายกคาถาเขียว". ไทยรัฐ. 3 June 2016. สืบค้นเมื่อ 3 June 2016.
- ↑ "北京月坛". 中国文化网. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-23. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ "月坛公园完成改造正式开放". 北京西城报. 2008-12-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-15. สืบค้นเมื่อ 2009-07-14.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|deadurl=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ 帛尸梨蜜多羅譯. "卷十二". 佛說灌頂經. 大正藏 (密教部).
此藥師琉璃光如來國土清淨。無五濁無愛欲無意垢。以白銀琉璃為地。宮殿樓閣悉用七寶。亦如西方無量壽國無有異也。有二菩薩一名日曜二名月淨。是二菩薩次補佛處。
- ↑ ฟื้น ดอกบัว (2555). ศาสนาเปรียบเทียบ. กรุงเทพ : ศิลปบรรณาคาร.
- ↑ Craig 1998, p. 550 .
- ↑ Field, Stephen L. "The Zangshu, or Book of Burial".
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: เทศกาลไหว้พระจันทร์ |