หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล
หม่อมหม่อมบงกชปริยา ยุคล ณ อยุธยา
พระบุตร หม่อมราชวงศ์ศรีเฉลิม ยุคล
หม่อมราชวงศ์อุรรัตน ยุคล
พระราชวชิราภินันท์ (หม่อมราชวงศ์นันทวัฒน์ ยุคล)
ราชวงศ์จักรี
พระบิดาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร
พระมารดาสมเชื้อ มุกสิกบุตร
ประสูติ31 ธันวาคม พ.ศ. 2479
สิ้นชีพิตักษัย1 กันยายน พ.ศ. 2565 (85 ปี)
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล (31 ธันวาคม พ.ศ. 2479 – 1 กันยายน พ.ศ. 2565) เป็นพระโอรสในพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร ประสูติแต่สมเชื้อ มุกสิกบุตร​ และเป็นพระราชวงศ์ที่เสด็จแทนพระองค์ในพระราชพิธีสำคัญอยู่บ่อยครั้ง

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ประสูติแต่สมเชื้อ มุกสิกบุตร (สกุลเดิม ชมเสวี) ธิดาของพระนิเวศน์วิสุทธิ์ (เอิบ ชมเสวี) มีพี่น้องต่างพระบิดา 2 คน[1] และต่างมารดาอีก 6 องค์

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิมเสกสมรสกับหม่อมบงกชปริยา ยุคล ณ อยุธยา (นามเดิม เบ็ตตี คอลค์สตีน) มีโอรส-ธิดาสามคน คือ[2]

  1. หม่อมราชวงศ์ศรีเฉลิม กาญจนภู ผู้ช่วยเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา สมรสกับวรุณ กาญจนภู ผู้บริหารระดับสูง ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) มีบุตรสองคน
  2. หม่อมราชวงศ์อุรรัตนา ยุคล
  3. พระราชวชิราภินันท์ (หม่อมราชวงศ์นันทวัฒน์ ชยวฑฺฒโน)

การศึกษา[แก้]

การทรงงาน[แก้]

ภายหลังทรงสำเร็จการศึกษา หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ทรงปฏิบัติงานที่ ธนาคารกรุงเทพ ในตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้

  • 2547 - 2565: กรรมการตรวจสอบ บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)[4]
  • เมษายน 2546 - 2565: กรรมการอิสระ บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  • 2543 - 2546: ที่ปรึกษาประจำฝ่ายการประชาสัมพันธ์ บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  • 2509 - 2542: ผู้บริหาร บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

กรณียกิจ[แก้]

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ทรงร่วมงานพระราชพิธีและเคยเสด็จแทนพระองค์หลายครั้ง เช่น พระราชพิธีสังเวยพระป้าย ในเทศกาลตรุษจีน[5][6][7][8] พระราชพิธีวิสาขบูชา[9][10] เป็นต้น

ในการบำเพ็ญพระราชกุศลพิธีกงเต็ก ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทำหน้าที่อัญเชิญเครื่องทองน้อย ในพิธีข้ามสะพานโอฆสงสาร โดยพระสงฆ์จีนสวดพระพุทธมนต์ นำเสด็จดวงพระวิญญาณลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมเชิญเครื่องทองน้อย และธงพุ่มดวงพระวิญญาณลงมาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธี พระสงฆ์จีนสวดพระพุทธมนต์ นำดวงพระวิญญาณ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินข้ามสะพานโอฆสงสาร 3 รอบ โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินตามเครื่องทองน้อยที่อัญเชิญโดยหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล และธงพุ่มดวงพระวิญญาณ อัญเชิญโดยหม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล พร้อมกันนั้นได้ทรงโปรยเหรียญลงในขันสาครที่หัวสะพานและท้ายสะพาน เมื่อครบ 3 รอบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยเพื่อบูชาเทพรักษาสะพานที่ท้ายสะพาน ทรงรับกระดาษเงิน กระดาษทอง แล้วพระราชทานแก่เจ้าพนักงานนำไปเผา พระสงฆ์จีนสวดพระพุทธมนต์นำดวงพระวิญญาณ เสด็จพระราชดำเนินข้ามสะพานโอฆสงสาร เที่ยวกลับ 3 รอบจนครบ จึงเชิญดวงพระวิญญาณเสด็จขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เป็นหนึ่งในผู้ทูลเกล้าฯ ถวายน้ำอภิเษกแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ โดยหม่อมเจ้ามงคลเฉลิมทรงเป็นผู้แทนประจำทิศอาคเนย์[11]

ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เสด็จแทนพระองค์ ไปยังศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ในการทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมเทียนรุ่ง เทียนเดิน และธูปที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทาน ไปจุดบูชาพระรัตนตรัย ตามพระอารามหลวงต่าง ๆ เนื่องในวันวิสาขบูชา จำนวน 6 วัด และเนื่องในวันอัฏฐมีบูชา อีก 7 วัด[12] และในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.51 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงจุดเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศบูชาพระรัตนตรัยตามพระอารามหลวงต่าง ๆ เนื่องในวันอัฏฐมีบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม[13][14]

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ยังได้ถวายงานสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในการเสด็จไปทรงประกอบพระกรณียกิจแทนพระองค์อยู่บ่อยครั้ง

นอกจากนี้ หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ยังโปรดสนทนาธรรมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่อยู่เสมอ หม่อมเจ้ามงคลเฉลิมทรงแขวนพระเครื่องติดตัวประจำหลายองค์ ส่วนใหญ่เป็นพระกริ่ง โดยได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล เคยประทานสัมภาษณ์ว่า "ชีวิตตั้งแต่เกิดมา มีเหตุการณ์เฉียดตายมาตลอด ขนาดรถพลิกคว่ำหลายตลบยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งสมัยเด็ก ๆ เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ที่วังลดาวัลย์ ซึ่งเป็นบ้านเก่าของปู่ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์) มีลูกระเบิดเพลิงลงหน้าบ้านหลังบ้านก็ไม่ระเบิด"[15]

ในการพระศพสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร พ.ศ. 2556 หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพในตำแหน่งคณะที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส[16]

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ และตติยจุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า สืบตระกูลพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร

สิ้นชีพิตักษัย[แก้]

หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล สิ้นชีพิตักษัยด้วยพระอาการหทัยเต้นผิดจังหวะรุนแรง ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 15.17 น. สิริชันษา 85 ปี ในการนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ณ ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2565

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนชั้นเกียรติยศประกอบศพ จากโกศราชวงศ์เป็นโกศมณฑป ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวดตั้งประดับ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 7 คืน

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน ไปในการพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ธรรมเนียมพระยศของ
หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล
การทูลฝ่าพระบาท
การแทนตนกระหม่อม/หม่อมฉัน
การขานรับกระหม่อม/เพคะ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

พงศาวลี[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. บุตรเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) กับท่านผู้หญิงอ่วม
  2. กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มดี, พ.ศ. 2551. 290 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-20. สืบค้นเมื่อ 2020-08-16.
  4. "ธนาคารกรุงเทพ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-20. สืบค้นเมื่อ 2020-08-16.
  5. “ในหลวง” โปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจสังเวยพระป้าย ณ พระราชวังบางปะอิน
  6. ข่าวในพระราชสำนักราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอนที่ 16ข วันที่ 15 มิถุนายน 2559
  7. ข่าวในพระราชสำนัก (๑ มกราคม - ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐)
  8. ข่าวในพระราชสำนัก (๑ มกราคม - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑)
  9. โปรดเกล้าฯให้'ม.จ.มงคลเฉลิม ยุคล'เสด็จแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา
  10. ในหลวง โปรดเกล้าฯ มจ.มงคลเฉลิม เสด็จแทนพระองค์ พระราชพิธีวิสาขบูชา
  11. หมายกำหนดการ ที่ ๑๐/๒๕๖๒ หมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
  12. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-03. สืบค้นเมื่อ 2020-07-03.
  13. https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/880567
  14. โปรดเกล้าฯให้'ม.จ.มงคลเฉลิม ยุคล'เสด็จแทนพระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา
  15. สุทธิคุณ  กองทอง ความสุขในร่มกาสาวพัสตร์ ของ...พระมหา ม.ร.ว.นันทวัฒน์ ชยวฑฺฒโน http://oknation.nationtv.tv/blog/sutku/2010/01/24/entry-1
  16. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 299/2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณ สังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
  17. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เล่ม 129, ตอนที่ 18 ข 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555, หน้า 2
  18. ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม 125, ตอนที่ 16 ข 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551, หน้า 1
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า กับเหรียญรัตนาภรณ์ และพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเป็นกรณีพิเศษ, เล่ม 136, ตอนที่ 16 ข, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 2
  20. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า กับเหรียญรัตนาภรณ์ และพระราชทานยศทหารชั้นนายพลเป็นกรณีพิเศษ, เล่ม 136, ตอนที่ 16 ข, 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, หน้า 2