ข้ามไปเนื้อหา

สี่แพร่ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สี่แพร่ง
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับ
บทภาพยนตร์
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพ
ดนตรีประกอบ
บริษัทผู้สร้าง
จอกว้าง ฟิล์ม
ผู้จัดจำหน่ายจีทีเอช
วันฉาย24 เมษายน 2551
ความยาว112 นาที
ประเทศไทย
ภาษาไทย
ทำเงิน85 ล้านบาท[ต้องการอ้างอิง]
ต่อจากนี้
ข้อมูลจากสยามโซน

สี่แพร่ง (อังกฤษ: 4 Bia) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญแบบรวมตอน ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2551 กำกับโดย ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ, บรรจง ปิสัญธนะกุล นำแสดงโดย มณีรัตน์ คำอ้วน, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, วิทวัส สิงห์ลำพอง, อภิญญา สกุลเจริญสุข, ชล วจนานนท์, ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์ และ กันตพัฒน์ สีดา[1] ทำรายได้รวม 85 ล้านบาท[2]

เนื้อเรื่อง

[แก้]

เหงา

[แก้]

กำกับโดย ยงยุทธ ทองกองทุน

พิน หญิงสาวที่ติดอยู่ในอพาร์ตเมนท์เนื่องจากใส่เฝือกที่ขา สื่อสารกับโลกภายนอกผ่านโทรศัพท์มือถือและข้อความ เธอบ่นกับแฟนหนุ่มชื่อปั๊กที่ไปตั้งแคมป์ที่เชียงใหม่ว่าเธอรู้สึกเหงามาก ทุกคืน พินจะส่งข้อความหาคนแปลกหน้าซึ่งขอเป็นเพื่อนกับเธอและดูเป็นมิตรพอสมควร คนแปลกหน้าบอกว่าเขาอยู่ในที่ที่ "คับแคบ" มา 100 วันแล้ว และแปลกที่ติดต่อได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น หลังจากส่งรูปถ่ายของเธอให้กับคนแปลกหน้าลึกลับ พินก็ขอรูปถ่ายกลับ และได้รับรูปถ่ายเดียวกันนั้นมา เมื่อเธอถามเขา เขาก็บอกว่าเขาอยู่ในรูปถ่ายข้างๆ เธอ ใบหน้าผีๆ ปรากฏขึ้นเล็กน้อยข้างๆ ใบหน้ายิ้มแย้มของพิน ขณะที่เธอค้นหาเกี่ยวกับการตายเมื่อไม่นานมานี้ พินก็พบว่าลูกชายของเจ้าหญิงโซเฟียแห่งเวอร์นิสถานเสียชีวิตและถูกฝังไว้กับโทรศัพท์มือถือ เพื่อที่เขาจะได้ติดต่อกับแม่หรือติดต่อกับคนอื่นได้เมื่อรู้สึกเหงา พินก็ได้รับข้อความจากคนแปลกหน้าที่บอกว่าเขาจะมาที่บ้านของเธอตอนนี้ ไฟทั้งหมดเริ่มดับลงและพินก็ร้องไห้ด้วยความกลัว เธอถูกผีเข้าโจมตีและถูกโยนออกไปนอกหน้าต่างจนเสียชีวิต ฉากจากอดีตแสดงให้เห็นเจ้าชายได้รับข้อความจากแฟนสาวที่บอกเลิกความสัมพันธ์ซึ่งทำให้เขาฆ่าตัวตายด้วยการเดินผ่านหน้ารถแท็กซี่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุเดียวกับที่ทำให้พินขาหักในขณะที่เธออยู่ในรถแท็กซี่

ยันต์สั่งตาย

[แก้]

กำกับโดย ปวีณ ภูริจิตปัญญา

นักเรียนเนิร์ดชื่อ งิด เห็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเสพยาเสพติด และเขาถูกตีจนตาย หนึ่งในสมาชิกแก๊งค์ชื่อ พิงค์ รู้สึกกังวลแต่ก็ไม่สามารถห้ามเพื่อนๆ ไม่ให้รังแกงิดได้ แต่น่าเสียดายที่เมื่อเขาถูกตี เขาสาปแช่งเพื่อนๆ ด้วยเครื่องรางมรณะ ซึ่งต้องใช้รูปคนตายที่ลืมตาเอาไว้ เรื่องราวยิ่งเลวร้ายลงเมื่อทุกอย่างดำเนินไปเองตามคำสั่งของวิญญาณของงิด และผู้ติดยาก็เริ่มตายทีละคน แม้ว่าพิงค์ จะไม่ได้ตีเขา แต่วิญญาณของงิด ก็ตัดสินใจไม่ไว้ชีวิตเธอเช่นกัน เพราะเธอเห็นทุกอย่างแล้วแต่ยังไม่ทำอะไรเพื่อช่วยเขา ในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเตือนเธอไม่ให้ออกไปข้างนอก และตกใจเมื่อเห็นพิงก์ หัวเราะหลังจากควักดวงตาของตัวเองเพราะคำสาปกำหนดให้เหยื่อต้องเห็นงิด เขาจึงไม่สามารถทำร้ายเธอได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้เธอสูญเสียความสามารถในการมองเห็นไปแล้ว เผยว่าบุคคลในภาพที่งิดเคยฝึกเสน่ห์คือพิน หญิงสาวพิการในเรื่องแรกที่เสียชีวิตขณะที่ลืมตาอยู่

คนกลาง

[แก้]

กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกุล

เพื่อนสี่คน เอ้ เต้ ชิน และผ่อง ไปล่องแพในป่าเปลี่ยวแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ คืนนั้นขณะตั้งแคมป์ เอ้บอกเพื่อนๆ ว่าถ้าต้องตาย คนที่นอนตรงกลางจะเป็นคนต่อไปที่ต้องตายไปกับเขา วันรุ่งขึ้น ขณะที่เพื่อนทั้งสี่กำลังล่องแก่ง เอ้ก็ถูกโยนลงจากแพและหาตัวไม่พบ หลังจากค้นหามานานหลายชั่วโมง เพื่อนทั้งสามที่เหลือก็ยอมแพ้และตัดสินใจพักค้างคืนที่นั่น สามเพื่อนที่หวาดกลัวกับเรื่องราวการตายของเอ้ จึงทะเลาะกันว่าใครควรนอนตรงกลาง จนกระทั่งตกลงกันได้ซึ่งไม่มีใครจำเป็นต้องทำ ต่อมาในคืนนั้น เอ้มาถึงค่ายและเข้าไปในเต็นท์ แต่เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นทำให้เพื่อนๆ ของเขาเริ่มสงสัย เอ้ ชิน และผ่อง ออกจากเต็นท์เพื่อไปสูบบุหรี่ แล้วชินก็พบศพเอ้ เตอร์ ชิน และผ่องตกใจวิ่งเข้าไปในป่าและพบศพของตัวเองลอยอยู่ในแม่น้ำ ปรากฏว่าทั้งสี่คนจมน้ำตายเมื่อแพพลิกคว่ำในน้ำเชี่ยว แต่มีเพียงเอยเท่านั้นที่ยอมรับความตายของเขา ในขณะที่คนอื่นๆ ยังคงเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าพวกเขาตายไปแล้ว ในที่สุดเพื่อนทั้งสี่ก็ผูกพันกันเป็นวิญญาณ

เที่ยวบิน 224

[แก้]

ตอนสุดท้าย กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์พูล

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พิมแอบมี สัมพันธ์ลับๆกับเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งเวอร์นิสถาน วันหนึ่งเธอได้รับคำสั่งให้ขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำให้กับเจ้าหญิงโซเฟีย พระมเหสีของเจ้าชาย ทุย พนักงานต้อนรับ บนเครื่องบินของเธอ ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้เนื่องจากพบเทอร์ พี่ชายของเธอ (จากเรื่องก่อนหน้า) จมน้ำเสียชีวิตที่เชียงใหม่ เที่ยวบินปกติกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อเจ้าหญิงเกิดอาการแพ้อาหารกลางวันของพิม เนื่องจากมีส่วนผสมของกุ้งที่เจ้าหญิงแพ้หลังจากที่ราชวงศ์เวอร์นิสถานขอให้ส่งศพของเธอกลับไปเผา ทันที พิมจึงต้องอยู่บนเครื่องบินและคุ้มกันร่างของเธอ ซึ่งเป็นผู้โดยสารเพียงคนเดียว เพื่อขึ้นเครื่องบินเที่ยวกลับ ขณะที่เจ้าหญิงพยายามจะถอดผ้าห่อศพ ฝันร้ายที่สุดของพิมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สหราชอาณาจักรพบร่างของพิมนอนอยู่บนพื้นใต้พระบาทของศพเจ้าหญิงโซเฟียที่ห่อศพไว้

นักแสดง

[แก้]

ดีวีดี

[แก้]

ดีวีดีเรื่อง สี่แพร่ง ออกวางจำหน่ายและผลิตเองโดย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ แกรมมี่บิ๊ก ซึ่งเป็นผลงานการผลิตของทาง Raccoon City มีอยู่ 2 รูปแบบคือแบบธรรมดา (2 แผ่น) และLimited Edition ที่แถมสินค้าพรีเมี่ยมโมเดลเครื่องบิน (2 แผ่นเช่นกัน) มีระบบภาพเป็น Widescreen Anamorphic 1.85.1 ระบบเสียงเป็นไทย Dolby Digital 5.1,2.0

แผ่นที่ 1
  • ภาพยนตร์
  • หลากหลายผู้คนพบกับที่สี่แพร่ง (Interview)
  • แพร่งแห่งความ "กลัว" (Music Video)
  • ภาพนิ่งทั้งสี่แพร่ง (Photo Gallery)
  • ตัวอย่างภาพยนตร์ (Trailers)
แผ่นที่ 2
  • เบื้องหลังการถ่ายทำ (The Making)
  • คุยภาพยนตร์สั้นขวัญผวา (Video Commentary)
  • บางแพร่งที่หายไป (Deleted Scene)
  • สื่อประชาสัมพันธ์ (Special VTRs)

เพลงประกอบภาพยนตร์

[แก้]

รายได้

[แก้]

หลังจากเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ สี่แพร่งสามารถมากเกิน 70 ล้านทาง GTH จึงได้จัดงาน กริ๊ดเกินคาด 4แพร่งแรงสู่ 70 ล้าน โดยรวมรายได้ทั้งหมดอยู่ที่ 85 ล้านบาท

รางวัลและการเข้าชิง

[แก้]

รางวัลที่ได้รับ

[แก้]
  1. ลำดับภาพยอดเยี่ยม (วิชชพัชร์ โกจิ๋ว, ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์)
  1. นักแสดงหญิงในบทสมทบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์)

เข้าชิงรางวัล

[แก้]
  1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (สี่แพร่ง)
  2. บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์)
  3. ลำดับภาพยอดเยี่ยม (วิชชพัชร์ โกจิ๋ว, ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์)
  4. การสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม (บริษัท โอเรียนทัล โพสท์ จำกัด)
  1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (สี่แพร่ง)
  2. นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (มณีรัตน์ คำอ้วน)
  3. บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ, เอกสิทธิ์ ไทยรัฐ )
  4. กำกับภาพยอดเยี่ยม (นิรมล รอสส์)
  5. กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (อรรคเดช แก้วโคตร, วุฒินันท์ สุจริตพงศ์, โสภณ พูลสวัสดิ์, ปรัชวิญณ์ เพ็ชรกรด และ คนึง ดำแก้ว)
  6. ลำดับภาพยอดเยี่ยม (วิชชพัชร์ โกจิ๋ว, ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์)
  1. นักแสดงหญิงในบทสมทบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์)
  2. นักแสดงหญิงในบทสมทบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี (มณีรัตน์ คำอ้วน)

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]