สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน
สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีรานยาใน ค.ศ. 2018 | |||||
สมเด็จพระราชินีแห่งจอร์แดน | |||||
ดำรงพระยศ | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1999 – ปัจจุบัน | ||||
พิธีประกาศ | 22 มีนาคม ค.ศ. 1999 | ||||
พระราชสมภพ | คูเวตซิตี ประเทศคูเวต รานยา อัลยัสซิน | 31 สิงหาคม ค.ศ. 1970||||
คู่อภิเษก | สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดน (สมรส 1993) | ||||
พระราชบุตร | |||||
| |||||
พระราชบิดา | ไฟซาล อัลยัสซิน | ||||
พระราชมารดา | อิลฮาม ยัสซิน | ||||
ลายพระอภิไธย |
พระราชวงศ์จอร์แดน |
---|
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน
|
สมเด็จพระราชินีรานยา อัลอับดุลลอฮ์ (อาหรับ: رانيا العبد الله Rāniyā al-ʻAbd Allāh; พระนามเดิม: รานยา อัลยัสซิน; พระราชสมภพ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2513) เป็นพระบรมราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดน นับตั้งแต่ทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสใน พ.ศ. 2536 พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา สุขภาพ การเสริมพลังชุมชน เยาวชน บทสนทนาข้ามวัฒนธรรมและไมโครไฟแนนซ์ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นผู้ใช้โซเชียลมีเดียตัวยงและทรงดูแลเพจบน เฟซบุ๊ก ยูทูบ อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ พระองค์มีพระราชโอรสสองพระองค์และพระราชธิดาสองพระองค์ ทรงได้รับการถวายราชสดุดีและรางวัลมากมาย
พระองค์ทรงมีบทบาทในด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีภายในประเทศจอร์แดน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิสตรีและให้มีความทัดเทียมกับบุรุษเพศ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จนัก สืบเนื่องมาจากการต่อต้านของกลุ่มอนุรักษนิยม[1][2]
นอกจากนี้สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีพระสิริโฉมที่งดงาม ทำให้พระองค์เป็นสตรีที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากที่สุดเป็นอันดับที่สองรองจากนิโคล คิดแมน จากการสำรวจจากประชาชนใน พ.ศ. 2545[3]
พระราชประวัติ
[แก้]พระชนพ์ชีพช่วงต้น
[แก้]สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ณ คูเวตซิตี ประเทศคูเวต มีพระนามเดิมว่า รานยา อัลยัสซิน เป็นธิดาของนายไฟซาล เซดกี อัลยัสซินกับนางอิลฮาม อัลยัสซิน ครอบครัวของพระองค์เป็นชาวปาเลสไตน์ โดยพระชนกมีอาชีพเป็นแพทย์[1][3]
การศึกษาและการทำงาน
[แก้]ทรงสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเอกชนคูเวต จากนั้นจึงทรงเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา สาขาวิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอเมริกัน กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ จนสำเร็จการศึกษา ต่อมาทรงเข้าทำงานที่ธนาคารซิตีแบงก์ในแผนกการตลาด[1][3] และทำงานกับบริษัทแอปเปิลในกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน[4]
อภิเษกสมรส
[แก้]พระองค์มีพระปฏิสันถารกับเจ้าชายอับดุลลอฮ์ บิน ฮุซัยน์เป็นครั้งแรก ณ งานเลี้ยงอาหารค่ำในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2535 และทรงประกาศการหมั้นในอีกสองเดือนต่อมา
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายอับดุลลอฮ์ท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับเชื้อสายปาเลสไตน์ของพระองค์[1]
หลังพระราชพิธีอภิเษกสมรสเสร็จสิ้นลง ทรงได้รับพระราชทานพระอิสริยยศ เจ้าหญิงรานยา อัลอับดุลลอฮ์แห่งจอร์แดน ทั้งสองพระองค์มีพระโอรส-ธิดาสี่พระองค์ ได้แก่
เจ้าชายฮุซัยน์ มกุฎราชกุมารแห่งจอร์แดน (พระราชสมภพ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ณ กรุงอัมมาน)
เจ้าหญิงอีมาน (ประสูติ 27 กันยายน พ.ศ. 2539 ณ กรุงอัมมาน)
เจ้าหญิงซัลมา (ประสูติ 26 กันยายน พ.ศ. 2543 ณ กรุงอัมมาน)
เจ้าชายฮาเชม (ประสูติ 30 มกราคม ค.ศ. 2548 ณ กรุงอัมมาน)
แม้จะมีพระราชกรณียกิจจำนวนมาก แต่พระองค์ก็ทรงจัดเวลาให้กับครอบครัว ซึ่งพระองค์เองก็ทรงทำหน้าที่ของพระมารดาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทรงดูแลเอาใจใสพระโอรส-ธิดาอย่างใกล้ชิดด้วยพระองค์เอง[1]
สมเด็จพระราชินี
[แก้]ต่อมา เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 พระสวามีของพระองค์ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน[5][6]
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2542 สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 ทรงประกาศสถาปนาให้พระองค์ขึ้นดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระราชินีแห่งจอร์แดน[7] หากมิทรงได้รับการสถาปนาจากพระราชสวามี พระองค์จะทรงมีพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงพระวรราชชายา เหมือนเจ้าหญิงมูนา อัลฮุซัยน์ พระสัสสุ(แม่สามี)ของพระองค์[8][9]
พระราชกรณียกิจ
[แก้]นับตั้งแต่ทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับพระราชสวามี สมเด็จพระราชินีรานยาได้ทรงใช้บทบาทของพระองค์ในการส่งเสริมภาคส่วนต่างๆของสังคมในจอร์แดนและที่อื่นๆ
ในประเทศ
[แก้]ด้านการศึกษา
[แก้]ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีรานยาทรงให้การอุปถัมภ์ต่อการริเริ่มด้านการศึกษาและการเรียนรู้
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 ในความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีได้ทรงริเริ่มรางวัลครูประจำปี รางวัลพระราชินีรานยาเพื่อความเป็นเลิศทางการศึกษา[10][11]
สมเด็จพระราชินีทรงเป็นประธานพิพิธภัณฑ์เด็กเชิงโต้ตอบแห่งแรกของจอร์แดน เปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับเด็กและครอบครัว[12][13]
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 สมเด็จพระราชินีได้ทรงก่อตั้ง“ Madrasati”(โรงเรียนของฉัน) ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของภาครัฐและเอกชนที่มีเป้าหมายในการปรับปรุงโรงเรียนรัฐบาลของจอร์แดน 500 แห่งในระยะเวลาห้าปี[14]
ในระดับอุดมศึกษาโครงการทุนการศึกษาราชินีรานยา[15] เป็นพาร์ทเนอร์กับมหาวิทยาลัยหลายแห่งจากทั่วโลก
สมเด็จพระราชินีรานยาทรงเป็นประธานสมาคมให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ (Royal Health Awareness Society: RHAS)[16]
ด้านการเสริมพลังชุมชน
[แก้]สมเด็จพระราชินีรานยาทรงจัดตั้งมูลนิธิ Jordan River (JRF)ในปีพ.ศ. 2538[17]
โครงการ The Jordan River Children Program(JRCP) พัฒนาโดยสมเด็จพระราชินีรานยา เพื่อวางสวัสดิการของเด็กๆเหนือวาระทางการเมืองและข้อห้ามทางวัฒนธรรม[18] นำไปสู่การเปิดตัวในปีพ.ศ. 2541 ของโครงการ JRF’s Child Safety Program ซึ่งตอบสนองความต้องการของเด็กๆที่มีความเสี่ยงจากการถูกทารุณกรรมและริเริ่มการรณรงค์ระยะยาวเพื่อเพิ่มความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับความรุนแรงต่อเด็ก
การเสียชีวิตของเด็กสองคนในอัมมานอันเป็นผลมาจากการทารุณกรรมเด็กเมื่อต้นปีพ.ศ. 2552 ทำให้สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีรับสั่งเรียกประชุมรัฐบาลและเอกชน(รวมถึง JRF)เป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อหารือเกี่ยวกับจุดที่ทำให้ระบบเกิดความล้มเหลว[19]
ด้านเยาวชน
[แก้]สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีพระราชดำรัสว่าสิ่งสำคัญของการศึกษาคือการจัดหาทักษะที่จำเป็นสำหรับคนหนุ่มสาวให้ทำงานได้ดีในสถานที่ทำงาน[20]
พระองค์ทรงริเริ่มกองทุนอัล-อามันเพื่ออนาคตของเด็กกำพร้าในปีพ.ศ. 2546[21] และทรงร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนานาชาติที่มอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนชาวจอร์แดนในต่างประเทศ พระองค์ทรงให้การอุปถัมภ์ INJAZ Al-Arab ซึ่งก่อตั้งโดย Save the Children ในปีพ.ศ. 2542 และเปิดตัวในฐานะองค์กรไม่แสวงผลกำไรของจอร์แดนในปีพ.ศ. 2544[22] ในฐานะที่ทรงเป็นเอกอัครราชทูตประจำภูมิภาคของ INJAZ Al-Arab พระองค์ได้ทรงสอนภายในชั้นเรียนและมีพระราชปฏิสันถารกับคนหนุ่มสาวในประเทศอื่นๆ พระองค์ทรงเป็นประธานการเสวนากับผู้ประกอบการเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบปีที่ 10 ของ INJAZ Al-Arab ที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความสำเร็จของศิษย์เก่า[23]
ที่งานประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอสในปีค.ศ. 2551 พระองค์ได้เปิดตัวแคมเปญ "เพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนชาวอาหรับหนึ่งล้านคนภายในปี 2551" ซึ่งเป็นแนวคิดของ INJAZ Arabia[24]
ในระดับสากล
[แก้]ด้านการศึกษาระดับสากล
[แก้]ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2543 เพื่อระลึกถึงความมุ่งมั่นของพระองค์ที่ทรงมีต่อของเด็กและเยาวชน กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(UNICEF) ได้ทูลเชิญสมเด็จพระราชินีรานยาเข้าร่วมโครงการริเริ่มการเป็นผู้นำระดับโลก[25] สมเด็จพระราชินีทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกับผู้นำโลกคนอื่นๆ รวมถึงอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ประเทศแอฟริกาใต้ ในขบวนการระดับโลกที่พยายามปรับปรุงสวัสดิการของเด็กๆ[26] ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 สมเด็จพระราชินีรานยาทรงได้รับการขนานพระนามว่าทรงเป็นผู้ให้การอุปถัมภ์ที่มีชื่อเสียงคนแรกของยูนิเซฟสำหรับเด็ก[27] ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 สมเด็จพระราชินีรานยาทรงเป็นประธานระดับโลกกิตติมศักดิ์ของการริเริ่มการศึกษาของเด็กหญิงแห่งสหประชาชาติ(UNGEI)[28]
ในฐานะที่ทรงเป็นผู้ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนานของแคมเปญระดับโลกเพื่อการศึกษา(GCE)[29] สมเด็จพระราชินีรานยาทรงมีพระราชปฏิสันถารกับเด็กๆและผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจในแอฟริกาใต้ทั้งในเมืองของ Johannesburและโซเวโต ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552[30] สมเด็จพระราชินีรานยาและผู้หญิงผลัดกันอ่านเรื่องสั้นจาก The Big Read ให้กับเด็กๆในความพยายามที่จะส่งเสริมการรู้หนังสือ หนึ่งในเรื่องราวในหนังสือ "Maha of the Mountains” ได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระราชินีรานยา[31] ในเมืองโซเวโต ทรงลงพระนามาภิไธยของพระองค์ที่ด้านหลังของ Big Read ก่อนที่จะทรงส่งต่อให้ทุกคนเขียนชื่อของพวกเขา[32][33]
พระราชนิพนธ์
[แก้]เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชาธิบดีฮุซัยน์ สมเด็จพระราชินีรานยาได้ทรงพระราชนิพนธ์ “The King’s Gift” ซึ่งเป็นหนังสือสำหรับเด็กเกี่ยวกับสมเด็จพระราชาธิบดีฮุซัยน์ รายได้ทั้งหมดนั้นทรงพระราชทานแก่เด็กด้อยโอกาสในจอร์แดน[34]
สมเด็จพระราชินีรานยาได้ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือเล่มที่สองเนื่องในวันแม่ปีพ.ศ. 2551 ชื่อว่า "ความงามอันเป็นนิรันด์" บอกเล่าเรื่องราวการสนทนาของเด็กสาวกับแกะตัวน้อยในขณะที่เธอกำลังค้นหาสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลก[35]
สำหรับเทศกาล Big Read พ.ศ. 2552 สมเด็จพระราชินีรานยาได้ทรงพระราชนิพนธ์ “Maha of the Mountains” ซึ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของหญิงสาวที่จะได้รับการศึกษาและความท้าทายที่เธอต้องเผชิญ[31]
The Sandwich Swap เป็นพระราชนิพนธ์ที่ทรงได้รับแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากเหตุการณ์เมื่อทรงพระเยาว์ของสมเด็จพระราชินีรานยา ทรงบอกเล่าเรื่องราวของพระสหายคนสนิททั้งสองคน ลิลี่และซัลมา ผู้โต้เถียงกันเกี่ยวกับรสชาติสุดแหยะของเนยถั่ว แซนวิชเยลลี่และฮัมมัส ทรงพระราชนิพนธ์ร่วมกับ Kelly DiPucchio[36][37]
พระเกียรติยศ
[แก้]พระอิสริยยศ
[แก้]• รานยา อัลยัสซิน (31 สิงหาคม ค.ศ. 2513 – 10 มิถุนายน พ.ศ. 2536)
• เฮอร์รอยัลไฮเนส เจ้าหญิงรานยา อัลอับดุลลอฮ์แห่งจอร์แดน (10 มิถุนายน พ.ศ. 2536 – 24 มกราคม พ.ศ. 2542)
• เฮอร์มาเจสตี้ สมเด็จพระราชินีแห่งจอร์แดน (22 มีนาคม พ.ศ. 2542 – ปัจจุบัน)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จอร์แดน
[แก้]- จอร์แดน: Knight Grand Cordon with Collar of the Order of al-Hussein bin Ali (9 มิถุนายน พ.ศ. 2542)[38]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
[แก้]- บาห์เรน : Member 1st Class of the Order of al-Khalifa (4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542)[38]
- เบลเยียม: Grand Cordon of the Order of Leopold (18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559)[39]
- บรูไน: Dame Grand Cross of the Royal Family Order of Brunei, 1st Class (DK, 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2551)[38][40]
- เยอรมนี: Grand Cross of the Order of Merit of the Federal Republic of Germany, Special Class
- อิตาลี: Grand Cross of the Order of Merit of the Italian Republic (19 ตุลาคม พ.ศ. 2552)[38][41]
- ญี่ปุ่น: Paulwonia Dame Grand Cordon of the Order of the Precious Crown (30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542)[38]
- เนเธอร์แลนด์: Dame Grand Cross of the Order of the Netherlands Lion (30 ตุลาคม พ.ศ. 2549)[38][42]
- นอร์เวย์: Dame Grand Cross of the Order of Saint Olav[43]
- โปรตุเกส: Grand Cross of the Order of Infante Henry (5 มีนาคม พ.ศ. 2551)[44]
- โปรตุเกส: Grand Cross of the Order of Saint James of the Sword (16 มีนาคม พ.ศ. 2552)[44]
- สเปน: Dame Grand Cross of the Order of Charles III (21 เมษายน พ.ศ. 2549)[38][45]
- สเปน: Dame Grand Cross of the Royal Order of Isabella the Catholic (18 ตุลาคม พ.ศ. 2542)[38][46][47]
- สวีเดน: Member Grand Cross of the Royal Order of the Seraphim (7 ตุลาคม พ.ศ. 2546)[38][48]
รางวัล
[แก้]•พ.ศ. 2544: รางวัลแห่งความสำเร็จในชีวิต มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ ประเทศอิตาลี
•พ.ศ. 2545: รางวัล Ambrogino D’Oro จากเทศบาลเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
•พ.ศ. 2546: รางวัลสื่อมวลชนเยอรมันจาก Deutscher Medienpreis ประเทศเยอรมนี
•พ.ศ. 2548: โล่รางวัลสถาบันการศึกษาแห่งความสำเร็จ ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2548: รางวัล Sesame Workshop ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2550: รางวัลเมดิเตอร์เรเนียน สาขาความเป็นปึกแผ่นทางสังคมจากมูลนิธิเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศอิตาลี
•พ.ศ. 2550: รางวัลการดำเนินการด้านมนุษยธรรมระดับโลกจาก UNSA-USA และสภาธุรกิจแห่งสหประชาชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2550: รางวัล Bambi สาขางานการกุศลตามความสนใจโดย Hubert Burda Media ประเทศเยอรมนี
•พ.ศ. 2550: รางวัลด้านมนุษยธรรมจอห์น วัลลัค สาขาเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2551: รางวัล World Savers จาก Conde Nast Traveller ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2551: รางวัล David Rockefeller Bridging Leadership จากมหาวิทยาลัยซินเนอโกส ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2552: รางวัลมาริสา เบลลิสาริโอระดับนานาชาติจาก Fondazione Bellisario ประเทศอิตาลี
•พ.ศ. 2552: รางวัล North South Prize โดย the North South Prize ประเทศโปรตุเกส
•พ.ศ. 2552: รางวัล FIFA Presidential Award ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
•พ.ศ. 2553: รางวัล Arab Knight of Giving Award จาก Arab Giving Forum ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
•พ.ศ. 2553: รางวัล The Leadership Award จาก White Ribbon Alliance สาขา Safe Motherhood ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2553: รางวัล เจมส์ ซี มอร์แกน สาขามนุษยธรรมระดับโลกจาก Tech Awards ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2553: ผู้หญิงแห่งปี 2010 จาก Glamour ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2556: รางวัล Global Citizen ของสภาแอตแลนติก
•พ.ศ. 2556: รางวัล Walther Rathenau จาก Walther Rathenau Institut ประเทศเยอรมนี
•พ.ศ. 2557: รางวัลด้านมนุษยธรรม ประเทศอิตาลี
•พ.ศ. 2559: รางวัลด้านมนุษยธรรมแห่งสมาคมสื่อมวลชนต่างประเทศ สหราชอาณาจักร
•พ.ศ. 2559: รางวัล Golden Heart Award ประเทศเยอรมนี
•พ.ศ. 2559: เหรียญเกียรติยศสำหรับผู้หญิงจากชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด มอบโดยพระโอรสของพระองค์ ชีค ฮัมดาน ที่การประชุม Global Women Forum ในดูไบ
•พ.ศ. 2560: รางวัล Global Trailblazer ประเทศสหรัฐอเมริกา
•พ.ศ. 2560: รางวัล Fellowship จาก Fashion for Relief เพื่อรับทราบถึงความพยายามด้านมนุษยธรรมของสมเด็จพระราชินีต่อเด็กที่ติดอยู่ในความขัดแย้ง ประเทศฝรั่งเศส
•พ.ศ. 2561: รางวัลบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี ในการประชุมสุดยอดผู้มีอิทธิพลต่อสื่อโซเชียลมีเดียประจำปีครั้งที่สาม (ASMIS) ในดูไบ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 "Rania Al-Yasin ราชินีแห่งจอร์แดน". Pakxe.com. 29-07-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-15. สืบค้นเมื่อ 2011-9-22.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "ราชินีราเนีย ทรงสิริโฉมเหนือกาลเวลา". โพสต์ทูเดย์. 2009-06-16. สืบค้นเมื่อ 2011-9-22.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ 3.0 3.1 3.2 "คอลัมรู้ไปโม้ด ราชินีราเนีย". ไทยรัฐ. 2004-10-01. สืบค้นเมื่อ 2011-9-22.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Profile: Jordan's Queen Rania", BBC 7 November 2001.
- ↑ "King proclaims Rania Queen". Jordanembassyus.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ "The incredible life of Jordan's Instagram-famous Queen, an ex-Apple employee, human rights activist, and global style icon". Business Insider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มีนาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2018.
- ↑ "King proclaims Rania Queen". Jordanembassyus.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-05. สืบค้นเมื่อ 2010-06-20.
- ↑ "King proclaims Rania Queen". Jordanembassyus.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 มิถุนายน 2011. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ "The incredible life of Jordan's Instagram-famous Queen, an ex-Apple employee, human rights activist, and global style icon". Business Insider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มีนาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2018.
- ↑ Queen Rania Award for Excellence in Education เก็บถาวร 23 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- ↑ Queen launches award to honor school principals เก็บถาวร 22 กรกฎาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 15 April 2009.
- ↑ King, Queen join Jordanian children at opening of children's museum เก็บถาวร 7 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Jordan Times, 23 May 2007.
- ↑ "Children's Museum of Jordan". Cmj. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 กรกฎาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ "Madrasati.jo". Madrasati. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2010. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ Craig Mead (27 พฤษภาคม 2010). "Queen Rania Scholarship Program". Queen Rania. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มกราคม 2010. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ Queen Rania chairs first meeting of Royal Health Awareness Society เก็บถาวร 7 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 7 September 2005.
- ↑ "Queen Rania honours Jordan River Foundation supporters". Jordan Times (ภาษาอังกฤษ). 25 กุมภาพันธ์ 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 มีนาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2018.
- ↑ Interview with Il Messaggero เก็บถาวร 7 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 13 May 2008.
- ↑ Queen calls emergency meeting to discuss child abuse cases เก็บถาวร 27 กันยายน 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Jordan Times, 24 July 2009
- ↑ Interview: Gateway to the Middle East[ลิงก์เสีย], 2009.
- ↑ Orphans' future security depends on society's commitment, contributions เก็บถาวร 14 มีนาคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Jordan Times, 22 January 2004.
- ↑ INJAZ Al-Arab[ลิงก์เสีย] for the creation of economic opportunity for Jordanian youth.
- ↑ "Queen Rania chairs a discussion with entrepreneurs from INJAZ Al-Arab celebrating its 10th anniversary". Queen rania Al Abdullah. มกราคม 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 พฤษภาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 28 พฤษภาคม 2015.
- ↑ Queen Rania launches campaign to prepare 1 million Arab youth for workforce เก็บถาวร 7 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 24 January 2008.
- ↑ Queen Rania Joins UNICEF Leadership Initiative[ลิงก์เสีย], U.N. Wire, 15 November 2000.
- ↑ Jordan's Queen Rania shares school bench in Soweto township, Monsters and Critics, 27 March 2009.
- ↑ Queen Rania becomes UNICEF’s first Eminent Advocate for Children at the World Economic Forum เก็บถาวร 3 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, UNICEF, Press Centre, 26 January 2007.
- ↑ Queen Rania designated as Honorary Global Chair of the United Nations Girls’ Education Initiative (UNGEI) เก็บถาวร 3 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, UNGEI, 15 July 2009.
- ↑ "Global Campaign for Education". Campaignforeducation.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 กรกฎาคม 2010. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ A Promising Glimpse of Africa's Future Can Be Found in Its Children เก็บถาวร 31 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Huffington Post, 27 March 2009.
- ↑ 31.0 31.1 Maha of the Mountains เก็บถาวร 3 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Big Read, The Global Campaign for Education, 2009.
- ↑ Youth leaders in Soweto greet Queen Rania of Jordan เก็บถาวร 7 มกราคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, UNICEF, 30 March 2009.
- ↑ Queen Rania of Jordan, reads her story to children and announces her role as Honorary Chair of Action Week เก็บถาวร 3 มีนาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Global Campaign for Education, 27 March 2009.
- ↑ The King's Gift เก็บถาวร 5 พฤศจิกายน 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Queen Rania Al Abdullah, Amazon.com, 2000
- ↑ Ahead of Mother’s Day, Queen Rania announces winners of “Mama’s Story” competition highlighting importance of reading เก็บถาวร 1 มีนาคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Jordan Times, 20 March 2009
- ↑ The Sandwich Swap เก็บถาวร 28 มีนาคม 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Amazon.com, 2010
- ↑ "The Sandwich Swap". CSMonitor.com. 27 เมษายน 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 มิถุนายน 2010. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2010.
- ↑ 38.0 38.1 38.2 38.3 38.4 38.5 38.6 38.7 38.8 Royal Ark, Jordanian genealogy details เก็บถาวร 15 กรกฎาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "Nuevo duelo de reinas: una Rania muy demodé no puede con una Matilde sublime. Noticias de Casas Reales". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 กรกฎาคม 2016.
- ↑ "Archived copy". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 6 กันยายน 2015.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) - ↑ Italian Presidency Website, S.M. la Regina Rania Al Abdullah เก็บถาวร 28 กันยายน 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ PPE Agency, State visit of Jordan in Netherlands 2006, Photo เก็บถาวร 6 ตุลาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "Søk - Scanpix". scanpix.no.
- ↑ 44.0 44.1 "Cidadãos Estrangeiros Agraciados com Ordens Portuguesas (search form)" (ภาษาโปรตุเกส). Portuguese Presidency (presidencia.pt). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2012. สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2013.
- ↑ Royal Decree 502/2006 เก็บถาวร 25 ธันวาคม 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Boletin Oficial del Estado (BOE). Reference: BOE-A-2006-7242.
- ↑ Royal Decree 1605/1999 เก็บถาวร 25 ธันวาคม 2015 ที่ Wikiwix. Boletin Oficial del Estado (BOE). Reference: BOE-A-1999-20603
- ↑ Foro Dinastías เก็บถาวร 8 กรกฎาคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, State visit of Jordan in Spain, Sofia & Rania เก็บถาวร 27 กันยายน 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ State visit of Jordan in Sweden (2003), Group photo เก็บถาวร 20 สิงหาคม 2012 ที่ Wikiwix of Swedish & Jordanian sovereigns wearing reciprocal orders
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์ทางการ
- Official biography
- Queen Rania ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- Madrasati
- Jordan River Foundation
- Jordan Education Initiative เก็บถาวร 2018-04-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- UNICEF
- Global Campaign for Education
- Education for All: Class of 2015 เก็บถาวร 2019-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Foundation for International Community Assitance (FINCA) เก็บถาวร 2010-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- National Council for Family Affairs
- Ten Questions for Queen Rania on Time.com เก็บถาวร 2010-04-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Wolf Blitzer interviews Jordan's Queen Rania, CNN, October 26, 2007
- Queen Rania on YouTube's "End Poverty – Be the Generation" video
- Queen Rania's Environment Aspirations
- The Hard-Line on Grocery Items by Queen Rania, The Huffington Post
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีรานยาแห่งจอร์แดน | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ลิซา นาจีบ ฮัลลาบี | สมเด็จพระราชินีแห่งจอร์แดน (ค.ศ. 1999 - ปัจจุบัน) |
ดำรงตำแหน่งปัจจุบัน |