วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด (อังกฤษ : Roi Et Technical College ) เป็นวิทยาลัยด้านช่างอุตสาหกรรม สังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเปิดสอน 3 หลักสูตร คือ ปวช., ปวส. และปริญญาตรี (ต่อเนื่อง)

วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด
สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓
ชื่อย่อวท.รอ. / RETC
คติพจน์ทักษะเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม ล้ำเลิศวิชา พัฒนาสังคม
ประเภทรัฐบาล - วิทยาลัย
สังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓
สถาปนา15/10/1938
ผู้อำนวยการนายอาคม จันทร์นาม
ที่ตั้ง
เลขที่ 210 ถนนเทวาภิบาล ตำบลในเมือง
อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด 45000
เว็บไซต์https://www.retc.ac.th/

ประวัติ[แก้]

วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด[1] แรกเริ่มตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2481 เดิมชื่อโรงเรียน “โรงเรียนประถมอาชีพ” ในบริเวณโรงเรียนฝึกหัดครูมูล (เดิม) และเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ดในปัจจุบัน ถนนเทวาภิบาล อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ในบริเวณเนื้อที่ 37 ไร่

ปี พ.ศ. 2482 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนช่างไม้ร้อยเอ็ด” เปิดทำการสอนเฉพาะ มัธยม อาชีวศึกษาตอนต้น แผนกช่างไม้ หลักสูตร 3 ปี มีนักเรียนที่เข้าเรียนรุ่นแรก จำนวน 28 คน มี นายยงยุทธ นุกูลการ เป็นครูใหญ่คนแรก กิจการของโรงเรียนได้เจริญตลอดมาโดยลำดับ ปี พ.ศ. 2495 ได้เปิดทำการสอนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีแรกหลักสูตร 3 ปี

ปี พ.ศ. 2495 ได้รับโอนโรงเรียนฝึกอาชีพช่างดัดผมเข้ามารวมอยู่ด้วย ในสังกัด

ปี พ.ศ. 2502 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนจากช่างไม้ร้อยเอ็ด เป็นโรงเรียนการช่างร้อยเอ็ด

ปี พ.ศ. 2503 ได้เปิดสอนชั้น “มัธยมอาชีวศึกษาชั้นสูง” หลักสูตร 3 ปี (แผนกช่างไม้และก่อสร้าง)

ปี พ.ศ. 2504 ได้เปิดสอนหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สายอาชีพ (มศ.1) ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2503

ปี พ.ศ. 2506 ได้รับงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนไม้สองชั้น 4 ห้องเรียน ตามแบบ 031 ของกรมอาชีวศึกษา เป็นเงิน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) และได้ใช้จ่ายเป็นค่าชดเชยแลกเปลี่ยน ที่ดิน ซึ่งเป็นที่ปลูก บ้านพักนายอำเภอเมืองร้อยเอ็ดเป็นเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) เพื่อนำมา สมทบปลูกสร้างบ้านพักนายอำเภอเมืองร้อยเอ็ดแห่งใหม่ โดยได้รับอนุเคราะห์จากผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด (นายสมาส อมาตยกุล) ในสมัยนั้น

ปี พ.ศ. 2506 ได้ขอยกเลิกไม่รับนักเรียนกินอยู่ประจำ ได้ใช้หอพักนักเรียนประจำ ดัดแปลงเป็นอาคารเรียน

ปี พ.ศ. 2519 นี้ กระทรวงศึกษาธิการได้ยกฐานะโรงเรียนการช่างร้อยเอ็ด ขึ้นเป็นวิทยาลัย อาชีวศึกษาร้อยเอ็ด (วิทยาเขต) และเปิดสอนในระดับ ปวส. แผนกช่างก่อสร้าง เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2519 เป็นวันแรก มีนักศึกษารวม 30 คน โดยมี นางสาวอังกาบ วนรมย์ เป็นผู้อำนวยการ นายขวัญธนะ กระต่ายทอง เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ (รับผิดชอบการบริหารงานภายในวิทยาเขต 1)

ปี พ.ศ. 2523 ได้รับอนุมัติจากกรมอาชีวศึกษา ให้แยกตัวออกมาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษา วิทยาเขต1ยกฐานะขึ้นเป็น“วิทยาลัย”ชื่อว่า วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ดโดยมี นายเอนก จูจันทร์ เป็น ผู้อำนวยการ เปิดสอนแผนกช่างกลโรงงาน ระดับ ปวช. (ประกาศนียบัตรวิชาชีพ) เพิ่มขึ้นอีก 1 แผนก ได้รับเงินงบประมาณหมวดค่าก่อสร้าง สร้างโรงงานช่างกลโรงงานแบบจั่วแฝด 1 หลัง แบบ กช.301 ในวงเงิน 1,670,000 บาท เปิดซองประกวดราคา เมื่อ 5 เมษายน 2523 การก่อสร้างแล้วเสร็จในปีเดียวกัน

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นมา วิทยาลัยได้พัฒนาเจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ สร้างถนน ปรับปรุงบริเวณอาคารสถานที่ ที่ยังไม่แล้วเสร็จให้สมบูรณ์ต่อไป

หลักสูตร[แก้]

วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓ เปิดสอนระดับดังนี้

  • ปริญญาตรี
  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
หลักสูตรที่เปิดสอนในวิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓[2]
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ระดับปริญญาตรี (ต่อเนื่อง)[3]
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ
  • การก่อสร้าง
  • เครื่องกล
  • เครื่องมือกลและซ่อมบำรุง
  • ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
  • โลหะการ
หลักสูตรปรกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง
  • คอมพิวเตอร์ธุรกิจ
  • เครื่องกล
  • เทคนิคการผลิต
  • เทคนิคอุตสาหกรรม
  • ไฟฟ้ากำลัง
  • โยธา
  • อิเล็กทรอนิกส์
หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต (ทล.บ.)
  • สาขาวิชาเทคโลยีไฟฟ้า
  • สาขาวิชาเทคโลยีอิเล็กทรอนิกส์

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-30. สืบค้นเมื่อ 2017-05-07.
  2. "สถานศึกษาในสังกัด". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-04. สืบค้นเมื่อ 2017-05-12.
  3. "http://ivec.vec.go.th/" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-10-10. สืบค้นเมื่อ 2017-05-12. {{cite web}}: แหล่งข้อมูลอื่นใน |title= (help)