อุปดิศร์ ปาจรียางกูร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อุปดิศร์ ปาจรียางกูร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ดำรงตำแหน่ง
22 ตุลาคม พ.ศ. 2519 – 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523
นายกรัฐมนตรีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร
ก่อนหน้าพิชัย รัตตกุล
ถัดไปพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด10 ธันวาคม พ.ศ. 2463
เสียชีวิต5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 (91 ปี)
พรรคการเมืองพรรคชาติประชาธิปไตย
คู่สมรสอภิรา ปาจีรยางกูร
บุตรอุปกิต ปาจรียางกูร

อุปดิศร์ ปาจรียางกูร[1] อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 3 สมัย[2][3][4] ต่อจากพิชัย รัตตกุล ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ถึง 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ผู้ดำรงตำแหน่งคนต่อไปคือพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา ในสมัยของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร และเป็นเอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรไทยประจำสมาพันธรัฐสวิส ต่อจากพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 ถึง พ.ศ. 2516 ผู้ดำรงตำแหน่งคนต่อไปคือพลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล[5]

อุปดิศร์ ปาจรียางกูร หรือ ดร.อุปดิศร์ ปาจรียางกูร เคยร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองกับพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในปี พ.ศ. 2525 และได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคชาติประชาธิปไตย[6]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. สายตรงจากต่างแดน 30/08/52 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
  2. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๗ ราย)
  3. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๓๓ ราย)
  4. "พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๔ ราย)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-09-23. สืบค้นเมื่อ 2019-10-29.
  5. thaiembassybern อัครราชทูต/ เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรไทยประจำสมาพันธรัฐสวิส พ.ศ. 2475 -ปัจจุบัน (2553)
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจดทะเบียนพรรคการเมือง เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนเล่ม 99 ตอนที่ 154 วันที่ 20 ตุลาคม 2525
  7. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๖ ตอนที่ ๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓, ๓๑ มกราคม ๒๕๒๒
  8. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๕ ตอนที่ ๓๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๔, ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๑
  9. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๘๗ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๙๘๐, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๓