ปานปรีย์ พหิทธานุกร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปานปรีย์ พหิทธานุกร
ปานปรีย์ ใน พ.ศ. 2567
รองนายกรัฐมนตรี
เริ่มดำรงตำแหน่ง
1 กันยายน พ.ศ. 2566
(0 ปี 210 วัน)
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน
ก่อนหน้าประวิตร วงษ์สุวรรณ
วิษณุ เครืองาม
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
อนุทิน ชาญวีรกูล
ดอน ปรมัตถ์วินัย
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
1 กันยายน พ.ศ. 2566
(0 ปี 210 วัน)
นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน
รัฐมนตรีช่วยจักรพงษ์ แสงมณี
ก่อนหน้าดอน ปรมัตถ์วินัย
ผู้แทนการค้าไทย
ดำรงตำแหน่ง
15 สิงหาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549
(1 ปี 35 วัน)
นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ก่อนหน้าสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
ถัดไปเกียรติ สิทธีอมร
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ดำรงตำแหน่ง
7 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 9 กันยายน พ.ศ. 2553
(1 ปี 276 วัน)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด20 สิงหาคม พ.ศ. 2500 (66 ปี)
ศาสนาพุทธ
พรรคการเมืองเพื่อไทย
คู่สมรสปวีณา พหิทธานุกร
ศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย
ลายมือชื่อ

ปานปรีย์ พหิทธานุกร ป.ช. ป.ม. (เกิด 20 สิงหาคม พ.ศ. 2500) เป็นนักการเมืองชาวไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตผู้แทนการค้าไทย ประธานกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ในรัฐบาล พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ

ประวัติ[แก้]

ปานปรีย์ เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2500[1] สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ (รุ่น 90)[2] จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อและจบปริญญาตรีที่คณะคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย และปริญญาเอกด้านการบริหารจัดการภาครัฐจาก Claremont Graduate University

ประสบการณ์การทำงาน[แก้]

ปานปรีย์เริ่มทำงานเป็นข้าราชการที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย และเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ และพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ[1]

ในปี 2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศในรัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ และในปี 2545 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา

ในปี 2546 เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างปี 2546–2548 ได้รับมอบหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (ประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศ BIMST-EC) และในปี 2547 เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรม มีบทบาทสำคัญในการวางแผน แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่ออุตสาหกรรมใน Eastern Seaboard จนเป็นผลสำเร็จ

ในปี 2548 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนการค้าไทย และได้รับมอบให้ทำหน้าที่ประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการค้าภายใต้กรอบความตกลงเขตการค้าเสรี และประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า

ในปี 2551 เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (อันดับ 1) รับผิดชอบในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และเป็นกรรมการยุทธศาสตร์พรรค (7 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 9 กันยายนกันยายน พ.ศ. 2553)

ในปี 2556 ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ปานปรีย์ เป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกทาบทามให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ[3] แต่ก็ไม่ได้ตอบรับเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ในปี 2566[4]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 รู้จัก"ปานปรีย์ พหิทธานุกร" ว่าที่รองนายกฯ คุมเศรษฐกิจ-ตปท. ดีกรีไม่ธรรมดา
  2. "ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อสช 26047 รุ่น 90". สมาคมอัสสัมชัญ. สืบค้นเมื่อ 8 September 2023.
  3. รู้จัก “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ว่าที่ผู้นำทัพ ”พรรคไทยรักษาชาติ" ที่แท้ลูกหม้อพรรคเพื่อไทย​?
  4. โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี "เศรษฐา" นายกฯ ควบ "รมว.คลัง"
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๒๙, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๗๑, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

ก่อนหน้า ปานปรีย์ พหิทธานุกร ถัดไป
ประวิตร วงษ์สุวรรณ
วิษณุ เครืองาม
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
อนุทิน ชาญวีรกูล
ดอน ปรมัตถ์วินัย
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์

รองนายกรัฐมนตรี
(ครม. 63)

(1 กันยายน พ.ศ. 2566 - ปัจจุบัน)
อยู่ในวาระ
ดอน ปรมัตถ์วินัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
(ครม. 63)

(1 กันยายน พ.ศ. 2566 - ปัจจุบัน)
อยู่ในวาระ