เซลมัน แวกส์มัน
เซลมัน แวกส์มัน | |
---|---|
เกิด | เซลมัน อับราฮัม แวกส์มัน 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1888 โนวาไพรลูกา เขตเคียฟ จักรวรรดิรัสเซีย |
เสียชีวิต | 16 สิงหาคม ค.ศ. 1973 วูดส์โฮล รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา | (85 ปี)
พลเมือง | อเมริกัน (หลัง ค.ศ. 1916) |
ศิษย์เก่า | |
รางวัล |
|
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | ชีวเคมี, จุลชีววิทยา |
เซลมัน อับราฮัม แวกส์มัน (อังกฤษ: Selman Abraham Waksman; 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1888 – 16 สิงหาคม ค.ศ. 1973) เป็นนักชีวเคมีและนักจุลชีววิทยาชาวอเมริกันเชื้อสายยิว เกิดที่เขตเคียฟ จักรวรรดิรัสเซีย[1] (ปัจจุบันอยู่ในประเทศยูเครน) เป็นบุตรของยาคอบ แวกส์มันและเฟรเดีย ลอนดอน[2] แวกส์มันย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1910 และได้รับสัญชาติอเมริกันในอีก 6 ปีต่อมา เขาเรียนปริญญาตรีสาขาเกษตรศาสตร์และปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์ที่วิทยาลัยรัตเกอส์ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยรัตเกอส์) ระหว่างเรียนปริญญาโท แวกส์มันทำงานเป็นผู้ช่วยยาคอบ กูเดล ลิปมันที่สถานีทดลองการเกษตรนิวเจอร์ซีย์ ต่อมาเขาได้รับตำแหน่งนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ แวกส์มันเรียนจบปริญญาเอกสาขาชีวเคมีที่นั่นในปี ค.ศ. 1918
ต่อมาแวกส์มันกลับไปทำงานที่ภาควิชาชีวเคมีและจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยรัตเกอส์ ที่นั่นทีมของเขาค้นพบยาปฏิชีวนะหลายชนิด เช่น สเตรปโตมัยซิน, นีโอมัยซิน, แด็กทิโนมัยซิน, แคนซิซิดิน โดยเฉพาะสเตรปโตมัยซินและนีโอมัยซินที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อหลายชนิด สเตรปโตมัยซินเป็นยาปฏิชีวนะชนิดแรกที่ใช้รักษาวัณโรค ในปี ค.ศ. 1942 แวกส์มันคิดคำว่า antibiotic เพื่อใช้อธิบายสารที่ได้จากเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่นได้[3][4] ในปี ค.ศ. 1951 เขาจัดตั้งมูลนิธิด้านจุลชีววิทยาและจัดตั้งสถาบันจุลชีววิทยาแวกส์มัน ปีต่อมาแวกส์มันได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์สำหรับการค้นพบสเตรปโตมัยซิน[5] โดยได้รับการประท้วงจากอัลเบิร์ต ชวาตซ์ ผู้ร่วมค้นพบแต่ไม่ได้รับรางวัลด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการรางวัลโนเบลแจ้งว่าชวาตซ์ในตอนนั้นเป็นเพียงผู้ช่วยในห้องปฏิบัติการ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานโดดเด่น[6] ปัญหาการเป็นผู้ค้นพบสเตรปโตมัยซินระหว่างแวกส์มันและชวาตซ์นำไปสู่การฟ้องร้องในเวลาต่อมา[7] แวกส์มันยอมตกลงกับชวาตซ์ โดยให้ค่าชดเชยต่าง ๆ และสิทธิ์เป็นผู้ร่วมค้นพบสเตรปโตมัยซินแก่ชวาตซ์[8][9]
ด้านชีวิตส่วนตัว แวกส์มันแต่งงานกับเดบอราห์ บี. มิตนิกในปี ค.ศ. 1916[10] มีบุตรด้วยกัน 1 คน แวกส์มันเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1973 ที่เมืองวูดส์โฮล ประเทศสหรัฐอเมริกา[11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "The Foundation and Its History". waksman-foundation.org (No further authorship information available). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ January 11, 2007.
- ↑ "Selman A. Waksman - Biographical". Nobelprize.org. สืบค้นเมื่อ 20 November 2016.
- ↑ Sanjai Saxena, Applied Microbiology
- ↑ SA Waksman (1947). "What Is an Antibiotic or an Antibiotic Substance?". Mycologia. 39 (5): 565–569. doi:10.2307/3755196. JSTOR 3755196. PMID 20264541.
- ↑ "The Nobel Prize in Physiology or Medicine 1952". Nobelprize.org. สืบค้นเมื่อ 20 November 2016.
- ↑ Pringle, Peter (June 11, 2012). "Notebooks Shed Light on a Discovery, and a Mentor's Betrayal". The New York Times. สืบค้นเมื่อ June 11, 2012.
- ↑ "The Schatz v. Waksman Lawsuit – 1950". scc.rutgers.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-14. สืบค้นเมื่อ 2016-11-20.
- ↑ Veronique Mistiaen (2 November 2002). "Time, and the great healer". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 17 August 2013.
- ↑ "Dr. Schatz Wins 3% of Royalty; Named Co-Finder of Streptomycin; Key Figures in Streptomycin Discovery Suit". New York Times. 30 December 1950. สืบค้นเมื่อ 17 August 2013.
- ↑ "Selman Abraham Waksman". Encyclopedia.com. สืบค้นเมื่อ 20 November 2016.
- ↑ "Selman A. Waksman". NNDB.com. สืบค้นเมื่อ 20 November 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เซลมัน แวกส์มัน
- วิกิคำคม มีคำคมที่กล่าวโดย หรือเกี่ยวกับ เซลมัน แวกส์มัน
- "Selman Waksman and Antibiotics". American Chemical Society.
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2431
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2516
- นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน
- นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน
- ผู้เขียนอัตชีวประวัติชาวอเมริกัน
- ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
- ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยรัตเกอส์
- ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์
- ชาวอเมริกันผู้ได้รับรางวัลโนเบล
- ชาวอเมริกันเชื้อสายยิว
- ชาวยิวยูเครน
- บุคคลจากแคว้นวินนึตเซีย
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์