เจ้าจอมละม้าย ในรัชกาลที่ 5
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เจ้าจอมละม้าย ในรัชกาลที่ 5 | |
---|---|
เกิด | ละม้าย สุวรรณทัต พ.ศ. 2399 |
ถึงแก่กรรม | 19 มีนาคม 2476 |
คู่สมรส | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
บิดา | พระยาอนุชิตชาญไชย (พึ่ง สุวรรณทัต) |
มารดา | คุณหญิงเกษร |
เจ้าจอมละม้าย ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2399 - 19 มีนาคม 2476) เป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นธิดาของพระยาอนุชิตชาญไชย (พึ่ง สุวรรณทัต) ที่เกิดแต่คุณหญิงเกษร ต่อมาได้เข้าถวายตัวต่อรัชกาลที่ 5
ประวัติ
[แก้]เจ้าจอมละม้าย เป็นธิดาของพระยาอนุชิตชาญไชย (พึ่ง สุวรรณทัต) ที่เกิดแต่คุณหญิงเกษร มีพี่สาวอีกคนชื่อเจ้าจอมจำเริญ ในรัชกาลที่ 5 ท่านทั้งสองเป็นธิดาของพระยาอนุชิตชาญชัย(พึ่ง สุวรรณทัต) จางวางกรมพระตำรวจขวา มารดาชื่อคุณหญิงเกษร เป็นธิดาพระยาสุนทรบุรีศรีพิชัยสงคราม (เสือ) ต้นสกุล สุนทรศารทูล คุณจอมละม้ายมีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๔ ท่านคือเจ้าจอมจำเริญ เจ้าจอมละม้าย พระยาธรรมศาสตร์นาถประนัย(จุ้ย สุวรรณทัต) และคุณหญิงเชย ภรรยาพระยาอนุชิตชาญชัย (สาย สิงหเสนี) มีประวัติแค่นี้ ไม่มีประวัติเมื่อท่านไปอยู่ในวัง[1]
เจ้าจอมละม้าย ถือเป็นครูสอนนาฏศิลป์ที่มีฝีมือท่านหนึ่ง ท่านได้รับการถ่ายทอดจากละครหลวงสายรัชกาลที่ ๒ เรื่องอิเหนา และเป็นละครหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๔ ในช่วงพ.ศ. ๒๔๒๕ เจ้าจอมละม้ายได้เป็นครูละครซ้อมเรื่องอิเหนาให้กับเจ้านายต่าง ๆ ไว้สำหรับการแสดงสมโภชเฉลิมพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท การระบำกิ่งไม้เงินไม้ทองหน้าม่านเป็นการแสดงรูปแบบใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ ซึ่งเจ้าจอมละม้ายท่านได้มีท่วงท่าการรำกิ่งไม้เงินกิ่งไม้ทองได้งามเลิศ และยังจัดท่ารำฝรั่งคู่ได้อย่างงดงาม จนการรำเป็นท่าแบบฉบับของเจ้าจอมละม้ายไปในที่สุดคือ ท่ารำฉุยฉายนางถือกิ่งไม้เงินทอง (สองนางเนื้อเหลือง) ไปในที่สุด
เมื่อละครฝ่ายวังสวนกุหลาบเริ่มมีการหัดนางในมีการคัดสรรครูละครหลวงมาต่อท่ารำให้กับละครวังสวนกุหลาบด้วย ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครราชสีมาท่านก็โปรดให้เรียกเจ้าจอมละม้ายเข้ามาสอน เนื่องจากเป็นละครที่ได้รับท่วงท่าสมัยรัชกาลที่ ๒ โดยลูกศิษย์ที่สอนคือ ครูเฉลย ศุขวณิชย์ (ตัวพระ)[2]
ภายหลังจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 เจ้าจอมละม้ายจึงได้ย้ายออกมาพำนักอยู่นอกพระราชวังดุสิต กระทั่งถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2476 อายุ 77 ปี[3]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2439 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 3 ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2447 : เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 5 (ม.ป.ร.5)[4]
- พ.ศ. 2451 - เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5259.0
- ↑ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5259.0
- ↑ ข่าวตาย
- ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 21 (32): 570. 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-10-02. สืบค้นเมื่อ 2020-02-10.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลปัจจุบันฝ่ายใน เก็บถาวร 2011-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๒๕, ตอน ๓๙, ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๑, หน้า ๑๑๕๓