เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่ 5
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก |
เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่ ๕ | |
---|---|
![]() | |
เกิด | สาย สุกุมลจันทร์ พ.ศ. 2400 |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2498 |
คู่สมรส | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
บุตร | พระองค์เจ้าหญิงไม่มีพระนาม |
บิดามารดา | พระยาสุรินทรราชเสนี (จั่น สุกุมลจันทร์) คุณหญิงสุรินทรราชเสนี (กลิ่น) |
เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่ 5 เกิดเมื่อ พ.ศ. 2400 เป็นธิดาของพระยาสุรินทรราชเสนี (จั่น สุกุมลจันทร์) กับ คุณหญิงกลิ่น สุรินทรราชเสนี (สกุลเดิม รักตประจิต)[1] ท่านมีพี่น้องที่ถวายตัวเข้ารับราชการฝ่ายใน ดังนี้
ท่านได้ถวายตัวเข้ารับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ให้ประสูติกาลพระองค์เจ้าหญิงไม่มีพระนามหนึ่งพระองค์ ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2424 และสิ้นพระชนม์ในวันต่อมา[2]
เจ้าจอมมารดาสาย ขึ้นชื่อว่าเป็น "นางเอกละครแถวหน้า" อีกท่านหนึ่งในราชสำนักรัชกาลที่ ๔-๕ ด้วยเพราะรูปร่างหน้าตาสะสวย และมีความสามารถในการรำที่โดดเด่น เมื่อมีการประดิษฐ์ท่ารำ ชุด ฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าจอมมารดาสาย ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดท่ารำ และคาดว่าน่าจะเป็นตัวแสดงฉุยฉายนี้คู่กับเจ้าจอมละม้าย สุวรรณทัต ด้วยเพราะท่านทั้งสองเป็นนางละครรุ่นเดียวกัน มีความสามารถโดดเด่นเหมือนกัน และเป็นที่ร่ำลือเรื่องความงามของหน้าตา
เจ้าจอมมารดาสายเป็นนางละครหลวงรุ่นเล็ก ในรัชกาลที่ ๔ ต่อมาได้เป็นครูละครหลวงในรัชกาลที่ 5 และคณะละครวังสวนกุหลาบอีกด้วย มีความสามารถสูงในการรำบทบาทตัวละครเอกในเรื่องต่างๆ วิชาความรู้จากเจ้าจอมมารดาสาย ที่ตกทอดมายังกรมศิลปากร และวิทยาลัยนาฏศิลป ตลอดจนสถาบันการศึกษาด้านนาฏศิลป์อื่น ๆ และยึดเป็นรูปแบบมาถึงปัจจุบัน มีดังนี้ ๑ รำที่มีกิ่งไม้เงินทองประดับ เช่น รำกลมกิ่งไม้เงินทอง รำฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง ๒ รำฝรั่งคู่ ทั้งตัวพระ และตัวนาง ๓ ท่ารำอวดฝีมือของตัวละครเอกต่าง ๆ เช่นพระอุณรุท และนางอุษา จากละครใน เรื่อง อุณรุท , พระอรชุน และนางเมขลา จากละครใน เรื่อง รามเกียรติ์
เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่ 5 ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2498 อัฐิของท่านบรรจุไว้ที่เจดีย์หน้าศาลาวรลักษณาวดี วัดพระยายัง กรุงเทพมหานคร
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2436 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 3 ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) (ฝ่ายใน)[3]
- พ.ศ. 2447 :
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 5 (ม.ป.ร.5)[4]
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3 (จ.ป.ร.3)[5]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ เจฟฟี่ ไฟน์สโตน. จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ พระบรมราชวงศ์แห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ:พิษณุโลกการพิมพ์. 2532
- ↑ กรมศิลปากร. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ (2554). ราชสกุลวงศ์ (PDF). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. p. 89. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-02-02. สืบค้นเมื่อ 2014-10-22.
{{cite book}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
(help) - ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2436/035/374_1.PDF
- ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 21 (32): 570. 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลปัตยุบันฝ่ายใน" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 25 (39): 1154. 23 ธันวาคม พ.ศ. 2451.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)
- สาระ มีผลกิจ. ราชสำนักฝ่ายในสมัยรัตนโกสินทร์. กรุงเทพฯ : มิวเซียมเพรส, 2551. 296 หน้า. ISBN 9744516817
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5332.0
- ส.พลายน้อย. พระบรมราชินีและเจ้าจอมมารดาแห่งราชสำนักสยาม. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์ฐานบุ๊คส์, ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2554. 368 หน้า. ISBN 9786167058580