ภาษาโรฮีนจา
ภาษาโรฮีนจา | |
---|---|
| |
คำว่า "โรฮีนจา" ในอักษรฮะนีฟีโรฮีนจา | |
ประเทศที่มีการพูด | พม่า (รัฐยะไข่) |
ภูมิภาค | รัฐยะไข่ (พม่า) และภาคจิตตะกองตะวันออกเฉียงใต้ (บังกลาเทศ) |
ชาติพันธุ์ | โรฮีนจา |
จำนวนผู้พูด | 2.5 ล้านคน (2017)[1] |
ตระกูลภาษา | |
ระบบการเขียน | ฮะนีฟีโรฮีนจา, เปอร์เซีย-อาหรับ, พม่า, ละติน, เบงกอล–อัสสัม (พบน้อย) |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | rhg |
บริเวณที่มีผู้พูดภาษาโรฮีนจา | |
ภาษาโรฮีนจา (โรฮีนจา: 𐴌𐴗𐴥𐴝𐴙𐴚𐴒𐴙𐴝, Ruáingga, رُحَ࣪ڠۡگَ࣪ࢬ,[2] ออกเสียง: [rʊˈɜiɲɟə])[3] เป็นภาษาที่พูดโดยชาวมุสลิมโรฮีนจา มีผู้พูดทั้งหมด 1,500,000 คน พบในพม่า 1,000,000 คน (พ.ศ. 2549) ในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า พบในบังกลาเทศ 200,000 คน (พ.ศ. 2549) และอาจจะมีในมาเลเซีย ซาอุดีอาระเบีย และไทย จัดอยู่ในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน กลุ่มภาษาอินโด-อารยัน สาขาอินโด-อารยันตะวันออก สาขาย่อยเบงกอล-อัสสัม ใกล้เคียงกับภาษาจิตตะกองในบังกลาเทศ โดยผู้พูดของทั้งสองภาษาสามารถพูดคุยสื่อสารเข้าใจกันได้มาก[4] มีคำยืมจากภาษาอูรดู ภาษาเบงกอล ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอาหรับ ภาษาพม่า และภาษาอังกฤษมาก เดิมชาวโรฮีนจาอพยพจากบังกลาเทศเข้าไปอยู่ในพม่า และปัจจุบันมีผู้อพยพส่วนหนึ่งอพยพกลับไปสู่บังกลาเทศ แต่ถูกผลักดันให้กลับไปสู่พม่า
สัทวิทยา
[แก้]ภาษาโรฮีนจามีหน่วยเสียงพยัญชนะ 25 หน่วยเสียง มีเสียงที่ยืมมาจากภาษาอาหรับ ภาษาเบงกอล ภาษาพม่า และภาษาอูรดู
ไวยากรณ์
[แก้]คำนำหน้านาม
[แก้]คำนำหน้านามแบบชี้เฉพาะสำหรับนามที่ลงท้ายด้วยสระเป็น án หรือ wá สำหรับเอกพจน์ และ ún สำหรับพหูพจน์หรือนับไม่ได้ โดยทั่วไป wá ใช้กับวัตถุทรงกลม ส่วน án ใช้กับวัตถุทรงแบน เช่น Fata wá ใบไม้ใบเดียว Fata ún ใบไม้หลายใบ ถ้าคำนามลงท้ายด้วยตัวสะกด จะนำเสียงตัวสะกดมารวมกับคำนำหน้าด้วย เช่น Kitap pwá หนังสือเล่มเดียว Kitap pún หนังสือหลายเล่ม ถ้าตัวสะกดเป็น r ใช้เสียง g รวมกับคำนำหน้านาม เช่น Kuñir gwá สุนัขตัวเดียว Kuñir gún หมาหลายตัว คำนำหน้านามแบบไม่ชี้เฉพาะจะวางไว้หลังหรือหน้านามก็ได้ โดย Uggwá ใช้กับวัตถุทรงกลม ekkán ใช้กับวัตถุทรงแบน เช่น Uggwá fata หรือ fata uggwá ใบไม้ใบหนึ่ง Hodún fata หรือ fata hodún ใบไม้บางใบ
การเรียงประโยค
[แก้]การเรียงประโยคเป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา เช่น Aiñ (ฉัน), bát (ข้าว), hái (กิน)
กาล
[แก้]ภาษาโรฮีนจามี 12 กาลกริยาช่วย félai แสดง perfect tense félaat แสดง perfect continuous tense คำว่า táki และ táikki เทียบได้กับ be และ been ในภาษาอังกฤษ มีปัจจัยแสดงบุคคลและกาล ปัจจัย -ir, -yi, -lám, -youm ใช้สำหรับบุรุษที่หนึ่ง -or, -yó, -lá, -bá ใช้สำหรับบุรุษที่สอง -ar, -ye, -l, -bou ใช้สำหรับบุรุษที่สาม -ir, -or, -ar แสดงการกระทำที่ต่อเนื่อง -yi, -yó, -ye แสดง present perfect tense, -lám, -lá, -l แสดงอดีต และ -youm, -bá, -bou แสดงอนาคต
อักษร
[แก้]มีระบบการเขียนที่หลากหลาย ซึ่งมีทั้งอักษรอาหรับ[5] อักษรอูรดู อักษรฮานิฟ อักษรพม่า และล่าสุดคืออักษรโรมัน
อักษรอาหรับ
[แก้]การเขียนด้วยอักษรอาหรับเกิดขึ้นเมื่อ 300 ปีที่ผ่านมา เมื่อยะไข่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ชาวโรฮีนจาใช้ภาษาอังกฤษและอูรดูในการสื่อสารด้วยการเขียน หลังจากที่พม่าได้รับเอกราชและใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการ ชาวโรฮีนจาเริ่มพยายามพัฒนาระบบการเขียนเป็นของตนเอง ใน พ.ศ. 2518 ได้พัฒนาระบบการเขียนโดยนำอักษรอูรดูมาดัดแปลง แต่การเขียนแบบนี้ยังยากสำหรับชาวโรฮีนจา และต้องมีการเพิ่มสัญลักษณ์แทนเสียงวรรณยุกต์[6]
[6][2][7] | |||||
---|---|---|---|---|---|
ب | پ | ت | ٹ | ث | ج |
چ | ح | خ | د | ڈ | ذ |
ر | ࢪ | ڑ | ز | س | ش |
ص | ض | ط | ظ | ع | غ |
ڠ | ف | ڤ | ق | ک | گ |
ل | م | ن | ں | و | ࢫ |
ه | ي | ࢬ |
อักษรในช่องสีเหลืองใช้เฉพาะในคำยืม ส่วนอักษรในช่องสีเขียวพบเฉพาะในภาษาโรฮีนจา
สระสั้น | |||||
---|---|---|---|---|---|
◌َ | ◌ࣤ | ◌ِ | ◌ࣦ | ◌ُ | ◌ࣥ |
สระเสียงหลังจมูก | |||||
◌ً | ◌ࣧ | ◌ٍ | ◌ࣩ | ◌ࣱ | ◌ࣨ |
◌ۡ | ◌ّ |
◌࣪ / ◌࣭ | ◌࣫ / ◌࣮ | ◌࣬ / ◌࣯ |
อักษรฮานิฟ
[แก้](Maolana) Mohammad Hanif ได้ประดิษฐ์อักษรแบบใหม่ ซึ่งเขียนจากขวาไปซ้ายโดยใช้อักษรที่มีลักษณะคล้ายอักษรอาหรับ[10][11] และได้ยืมอักษรบางตัวจากอักษรโรมันและอักษรพม่า อักษรฮานิฟได้รับการบรรจุในยูนิโคดตั้งแต่รุ่น 11.0 เมื่อปี พ.ศ. 2561 คำว่า "ฮานิฟ" นั้น (ภาษาอังกฤษผันเป็น Hanifi ฮานีฟี) ตั้งชื่อตามผู้ประดิษฐ์
อักษร
[แก้]𐴌𐴟𐴇𐴥𐴝𐴚𐴒𐴙𐴝 𐴇𐴥𐴡𐴌𐴟𐴉𐴢[12] | |||||
---|---|---|---|---|---|
𐴅 | 𐴄 | 𐴃 | 𐴂 | 𐴁 | 𐴀 |
𐴋 | 𐴊 | 𐴉 | 𐴈 | 𐴇 | 𐴆 |
𐴑 | 𐴐 | 𐴏 | 𐴎 | 𐴍 | 𐴌 |
𐴗 | 𐴖 | 𐴕 | 𐴔 | 𐴓 | 𐴒 |
𐴜 | 𐴛 | 𐴚 | 𐴙 | 𐴘 |
𐴌𐴟𐴇𐴥𐴝𐴚𐴒𐴙𐴝 𐴀𐴝𐴉𐴡𐴌 𐴀𐴞𐴉𐴡𐴌𐴢 | |||||
---|---|---|---|---|---|
𐴢 | 𐴡 | 𐴠 | 𐴟 | 𐴞 | 𐴝 |
◌𐴧 | ◌𐴦 | ◌𐴥 | ◌𐴤 | 𐴣 |
𐴌𐴟𐴇𐴥𐴝𐴚𐴒𐴙𐴝 𐴓𐴡𐴔𐴁𐴡𐴌𐴢 | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
𐴰 | 𐴱 | 𐴲 | 𐴳 | 𐴴 | 𐴵 | 𐴶 | 𐴷 | 𐴸 | 𐴹 |
อักษรโรมัน
[แก้]A a | B b | C c | Ç ç | D d | E e | F f |
G g | H h | I i | J j | K k | L l | M m |
N n | Ñ ñ | O o | P p | Q q | R r | S s |
T t | U u | V v | W w | X x | Y y | Z z |
E.M. Siddique Basu ได้พัฒนาระบบการเขียนที่ใช้อักษรละตินเพียงอย่างเดียว โดยใช้อักษร 26 ตัว เครื่องหมายการออกเสียงสระ 5 ตัว และอักษรเพิ่ม 2 ตัวเพื่อแสดงเสียงม้วนลิ้นและเสียงนาสิก ซึ่งสระจะมีรูปที่เน้น (á é í ó ú) สำหรับ c ในภาษาโรฮีนจาแทนเสียง /ช/ หรือ /sh/, ç แทนเสียง r ม้วนลิ้น และ ñ ใช้แทนเสียงนาสิก โดย Q, V และ X ใช้เฉพาะกับคำยืมภาษาอื่นเท่านั้น[13]
ตัวอย่าง
[แก้]ข้อความด้านล่างมาจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนข้อที่ 1 ในภาษาโรฮีนจา[14]
อักษรละติน | :Manúic beggún azad hísafe, ar izzot arde hók ókkol ót, fúainna hísafe foida óiye. Fottí insán óttu honó forók sára elan ot aséde tamám hók ókkol arde azadi ókkol loi fáaida goróon ór hók asé. Ar, taráre dil arde demak diyé. Ótolla, taráttu ekzon loi arekzon bái hísafe maamela goróon saá. |
---|---|
อักษรฮะนีฟี | .𐴔𐴝𐴕𐴟𐴤𐴞𐴐 𐴁𐴠𐴒𐴧𐴟𐴤𐴕 𐴝𐴎𐴝𐴊 𐴇𐴞𐴤𐴏𐴝𐴉𐴠,. 𐴝𐴌 𐴞𐴎𐴧𐴡𐴃𐴝𐴌𐴊𐴠 𐴇𐴡𐴤𐴑 𐴡𐴤𐴑𐴧𐴡𐴓 𐴡𐴤𐴃, 𐴉𐴟𐴤𐴝𐴞𐴕𐴧𐴝 𐴇𐴞𐴤𐴏𐴝𐴉𐴠 𐴉𐴡𐴞𐴊𐴝 𐴡𐴤𐴞𐴘𐴠. 𐴉𐴡𐴃𐴧𐴞𐴤 𐴞𐴕𐴏𐴝𐴤𐴕 𐴡𐴤𐴃𐴧𐴟 𐴇𐴡𐴕𐴡𐴤 𐴉𐴡𐴌𐴡𐴤𐴑. 𐴏𐴝𐴤𐴌𐴝 𐴠𐴓𐴝𐴕 𐴡𐴃 𐴀𐴏𐴠𐴤𐴊𐴠 𐴃𐴝𐴔𐴝𐴤𐴔 𐴇𐴡𐴤𐴑 𐴡𐴤𐴑𐴧𐴡𐴓 𐴝𐴌𐴊𐴠 𐴝𐴎𐴝𐴊𐴞 𐴡𐴤𐴑𐴧𐴡𐴓 𐴓𐴡𐴞 𐴉𐴝𐴥𐴞𐴊𐴝 𐴒𐴡𐴌𐴡𐴥𐴕 𐴡𐴤𐴌 𐴇𐴡𐴤𐴑 𐴝𐴌, 𐴃𐴝𐴌𐴝𐴤𐴌𐴠, 𐴊𐴞𐴓 𐴝𐴌𐴊𐴠 𐴊𐴠𐴔𐴝𐴑 𐴊𐴞𐴘𐴠𐴤. 𐴡𐴤𐴃𐴡𐴓𐴧𐴝, 𐴃𐴝𐴌𐴝𐴤𐴃𐴧𐴟 𐴠𐴑𐴎𐴡𐴕 𐴓𐴡𐴞. 𐴝𐴌𐴠𐴑𐴎𐴡𐴕 𐴁𐴝𐴤𐴞 𐴇𐴞𐴤𐴏𐴝𐴉𐴠 𐴔𐴝𐴧𐴔𐴠𐴓𐴝 𐴒𐴡𐴌𐴡𐴥𐴕 𐴏𐴝𐴦. |
อักษรอาหรับ | مَنُ࣪شۡ بࣦگُّ࣪نۡ اَزَدۡ حِ࣭سَفࣦ، اَرۡ عِزّࣤتۡ اَرۡدࣦ حࣤ࣪قۡ اࣤ࣪كّࣤلۡ اࣤ࣪تۡ، فُ࣪وَ࣪نَّ࣪ࢬ حِ࣭سَفࣦ فࣤيۡدَ اࣤ࣪يّࣦ. فࣤتِّ اِنۡسَ࣪نۡ اࣤ࣪تُّ هࣤنࣤ࣪ فࣤرࣤ࣪كۡ سَ࣪رَ࣪ عࣦلَنۡ اࣤتۡ اَسࣦ࣭دࣦ تَمَ࣪مۡ حࣤ࣪قۡ اࣤ࣪كّࣤلۡ اَرۡدࣦ اَزَدِ اࣤ࣪كّࣤلۡ لࣤيۡ فَ࣫يۡدَ࣪ گࣤرࣤ࣫نۡ اࣤ࣪رۡ حࣤ࣪قۡ اَسࣦ࣭. اَرۡ، تَرَ࣪رࣦ࣭ دِلۡ اَرۡدࣦ دࣦمَكۡ دِيࣦ࣭ اࣤ࣪تࣤ࣪لَّ، تَرَ࣪تُّ࣪ اࣦك زࣤنۡ لࣤيۡ اَرۡ اࣦكۡزࣤنۡ بَ࣪يۡ حِ࣭سَفࣦ مَامَلَ گࣤرࣤ࣫نۡ سَ࣬. |
แปลไทย: | "มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ ต่างในตนมีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ" |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ภาษาโรฮีนจา at Ethnologue (26th ed., 2023)
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 Muhammad Ibrahim, (2013) Rohingya Text Book I. رُحَ࣪ڠۡگِ࣭ࢬ فࣤنَّ࣪رۡ كِتَفۡ لࣤمۡبࣤ࣪رۡ (١), Published by Rohingya fonna
- ↑ "Rohingya". Oxford English Dictionary (3rd ed.). Oxford University Press. กันยายน 2005.
- ↑ Christine Ro. (13 กันยายน 2019). "The Linguistic Innovation Emerging From Rohingya Refugees". Forbes.
- ↑ Mohammed Siddique Basu. Starting with Rohingyalish.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 Priest, Lorna A; Hosken, Martin; SIL International (12 August 2010). "Proposal to add Arabic script characters for African and Asian languages" (PDF). pp. 13–18, 34–37. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-10-08. สืบค้นเมื่อ 2013-08-11.
- ↑ Wolfram Siegel (2022-02-19) Rohingya Scripts https://omniglot.com/charts/rohingya.pdf
- ↑ Wolfram Siegel (2022-02-19) Rohingya Scripts https://omniglot.com/charts/rohingya.pdf
- ↑ Wolfram Siegel (2022-02-19) Rohingya Scripts https://omniglot.com/charts/rohingya.pdf
- ↑ "Rohingya alphabets, pronunciation and language". Omniglot. Simon Ager. สืบค้นเมื่อ 9 October 2017.
- ↑ James, Ian (5 July 2012). "Hanifi alphabet for Rohingya". Sky Knowledge. สืบค้นเมื่อ 9 October 2017.
- ↑ "Rohingya Language Academy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-12. สืบค้นเมื่อ 2024-02-11.
- ↑ "Rohingya alphabets, pronunciation and language". www.omniglot.com.
- ↑ "OHCHR | Universal Declaration of Human Rights - Rohingya". OHCHR (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-07-24.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "Rohingya Language Academy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 กันยายน 2019.
- "Rohingya Language Foundation". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 ธันวาคม 2021. สืบค้นเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2022.
- "Dic-A2Z English–Rohingya Dictionary". rohingyalanguage.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 ธันวาคม 2021.
- "Rohingya Font & Keyboard". rohingyavision.com.