ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ศรีคำ002 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 26: บรรทัด 26:
แม้ท่านหญิงประภาพันธุ์จะลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้ว แต่ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร]]ให้ดำรงพระฐานะเป็นพระราชวงศ์ฝ่ายใน และได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดจากพระคลังข้างที่เป็นประจำทุกปี ตลอดจนใช้คำราชาศัพท์ชั้นหม่อมเจ้าตามเดิม<ref name="ข่าวสด">{{cite web |url= https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3811544 |title= ม.จ.ประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ สิ้นชีพิตักษัยแล้ว สิริพระชันษา 90 ปี |author=|date= 24 มีนาคม 2563 |work= ข่าวสด |publisher=|accessdate= 27 มีนาคม 2563 }}</ref> ทั้งยังมีความสนิทสนมกับพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]]พระราชทาน[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก]] ชั้น 1 [[ประถมาภรณ์ช้างเผือก]] และ[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย]] ชั้น[[มหาวชิรมงกุฎ]] แก่ท่านหญิงประภาพันธุ์เป็นกรณีพิเศษ และ[[สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา]]ทรงเรียกท่านหญิงประภาพันธุ์อย่างสนิทสนมว่า "ยายชวด"<ref>{{cite web |url= https://www.thairath.co.th/news/royal/1562486 |title= เรื่องเล่าประทับใจ "รอยแย้มพระสรวล พระราชอิริยาบถ รัชกาลที่ 10" ในความทรงจำท่านหญิง |author=|date= 7 พฤษภาคม 2562 |work= ไทยรัฐออนไลน์ |publisher=|accessdate= 27 มีนาคม 2563 }}</ref>
แม้ท่านหญิงประภาพันธุ์จะลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้ว แต่ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร]]ให้ดำรงพระฐานะเป็นพระราชวงศ์ฝ่ายใน และได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดจากพระคลังข้างที่เป็นประจำทุกปี ตลอดจนใช้คำราชาศัพท์ชั้นหม่อมเจ้าตามเดิม<ref name="ข่าวสด">{{cite web |url= https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3811544 |title= ม.จ.ประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ สิ้นชีพิตักษัยแล้ว สิริพระชันษา 90 ปี |author=|date= 24 มีนาคม 2563 |work= ข่าวสด |publisher=|accessdate= 27 มีนาคม 2563 }}</ref> ทั้งยังมีความสนิทสนมกับพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]]พระราชทาน[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก]] ชั้น 1 [[ประถมาภรณ์ช้างเผือก]] และ[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย]] ชั้น[[มหาวชิรมงกุฎ]] แก่ท่านหญิงประภาพันธุ์เป็นกรณีพิเศษ และ[[สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา]]ทรงเรียกท่านหญิงประภาพันธุ์อย่างสนิทสนมว่า "ยายชวด"<ref>{{cite web |url= https://www.thairath.co.th/news/royal/1562486 |title= เรื่องเล่าประทับใจ "รอยแย้มพระสรวล พระราชอิริยาบถ รัชกาลที่ 10" ในความทรงจำท่านหญิง |author=|date= 7 พฤษภาคม 2562 |work= ไทยรัฐออนไลน์ |publisher=|accessdate= 27 มีนาคม 2563 }}</ref>


ท่านหญิงประภาพันธุ์ กรโกสียกาจสิ้นชีพิตักษัยด้วยโรค[[มะเร็งตับ]] เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563 ณ [[โรงพยาบาลจุฬาภรณ์]] สิริชันษา 90 ปี 3 เดือน<ref name="ข่าวสด"/> ในการนี้[[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ และทรงรับพระศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 3 วัน ตั้งพระศพบำเพ็ญพระกุศล ณ ศาลาภาณุรังษี [[วัดเทพศิรินทราวาส]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ทรงพระศพ และฉัตรเบญจา ตั้งประดับ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพิธีพระราชทานเพลิงพระศพโดยตลอด และในวันที่ 3 ธันวาคม ปีเดียวกัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้[[สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงพระศพ ณ [[พระเมรุ]] [[วัดเทพศิรินทราวาส]]
ท่านหญิงประภาพันธุ์ กรโกสียกาจสิ้นชีพิตักษัยด้วยโรค[[มะเร็งตับ]] เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563 ณ [[โรงพยาบาลจุฬาภรณ์]] สิริชันษา 90 ปี 3 เดือน<ref name="ข่าวสด"/> ในการนี้[[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ และทรงรับพระศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 3 วัน ตั้งพระศพบำเพ็ญพระกุศล ณ ศาลาภาณุรังษี [[วัดเทพศิรินทราวาส]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศแปดเหลี่ยมประกอบพระยศ ส่วนพระศพนั้นเชิญลงพระหีบ ทั้งนี้พระราชทานฉัตรเบญจา ตั้งประดับ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพโดยตลอด และในวันที่ 3 ธันวาคม ปี2563 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้[[สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงพระศพ ณ [[พระเมรุ]] [[วัดเทพศิรินทราวาส]]


== การทำงาน ==
== การทำงาน ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:20, 20 กรกฎาคม 2564


ท่านหญิงประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ

เกิดหม่อมเจ้าประภาพันธุ์ ภาณุพันธุ์
3 ธันวาคม พ.ศ. 2472
วังบูรพาภิรมย์ จังหวัดพระนคร
เสียชีวิต24 มีนาคม พ.ศ. 2563 (90 ปี)
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร
คู่สมรสโกสีย์ กรโกสียกาจ (2504–2554)[1]
บุตร3 คน
บิดามารดาพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นภาณุพงศ์พิริยเดช
หม่อมมาลี ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา

รองศาสตราจารย์ ดร.ประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ (เดิม: หม่อมเจ้าประภาพันธุ์ ภาณุพันธุ์; 3 ธันวาคม พ.ศ. 2472 – 24 มีนาคม พ.ศ. 2563) เป็นพระธิดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นภาณุพงศ์พิริยเดช กับหม่อมมาลี ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา เป็นพระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ประวัติ

หม่อมเจ้าประภาพันธุ์ ภาณุพันธุ์ มีพระนามลำลองว่า หญิงภา[2] เป็นพระธิดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นภาณุพงศ์พิริยเดช กับหม่อมมาลี ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม สุขเจริญ) ประสูติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2472 ณ พระตำหนักญี่ปุ่น วังบูรพาภิรมย์[2] เป็นพระนัดดาในสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช และเป็นพระราชปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อมีชันษาได้ 4 ปี พระบิดาได้สิ้นพระชนม์ หม่อมเจ้าประภาพันธุ์มีเจ้าพี่เจ้าน้องร่วมพระมารดาสององค์คือ คือหม่อมเจ้าสุริยพันธุ์ ภาณุพันธุ์ และพันธุ์วโรภาส เศวตรุนทร์

หม่อมเจ้าประภาพันธุ์ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรสกับ พลอากาศตรีโกสีย์ กรโกสียกาจ บุตร พลอากาศตรี หลวงกรโกสียกาจ (กอน โสมนะพันธ์) กับอบ กรโกสียกาจ[1] เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2504[3] มีโอรสธิดาด้วยกันสามคน

แม้ท่านหญิงประภาพันธุ์จะลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้ว แต่ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรให้ดำรงพระฐานะเป็นพระราชวงศ์ฝ่ายใน และได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดจากพระคลังข้างที่เป็นประจำทุกปี ตลอดจนใช้คำราชาศัพท์ชั้นหม่อมเจ้าตามเดิม[4] ทั้งยังมีความสนิทสนมกับพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ แก่ท่านหญิงประภาพันธุ์เป็นกรณีพิเศษ และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาทรงเรียกท่านหญิงประภาพันธุ์อย่างสนิทสนมว่า "ยายชวด"[5]

ท่านหญิงประภาพันธุ์ กรโกสียกาจสิ้นชีพิตักษัยด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563 ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สิริชันษา 90 ปี 3 เดือน[4] ในการนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ และทรงรับพระศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 3 วัน ตั้งพระศพบำเพ็ญพระกุศล ณ ศาลาภาณุรังษี วัดเทพศิรินทราวาส ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศแปดเหลี่ยมประกอบพระยศ ส่วนพระศพนั้นเชิญลงพระหีบ ทั้งนี้พระราชทานฉัตรเบญจา ตั้งประดับ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพโดยตลอด และในวันที่ 3 ธันวาคม ปี2563 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส

การทำงาน

หม่อมเจ้าประภาพันธุ์ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย, โรงเรียนราชินี และโรงเรียนราชินีบน ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาบัณฑิตจากคณะอักษรศาสตร์และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[2] ระดับปริญญามหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาพัฒนาการ จากวิทยาลัยวิชาการศึกษา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) เมื่อปี พ.ศ. 2500 ทรงเริ่มรับราชการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิตด้านการศึกษา (DODT.) จากประเทศฟิลิปปินส์ และเกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2533 ในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 9[6][7]

ประภาพันธุ์ได้ทรงงานด้านสาธารณกุศล เช่น เป็นองค์ประธานมูลนิธิหม่อมเจ้าพิจิตรจิราภา เทวกุล ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เพื่อประทานทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ใฝ่เรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์[ต้องการอ้างอิง] เป็นแบบอย่างของการปฏิบัติตนที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาการศึกษาของชาติ จนเป็นที่ประจักษ์ชัดและเป็นที่ยอมรับของสังคม ทำให้ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็น "ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ" ประเภทบุคคลในปี พ.ศ. 2558[8]

นิพนธ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ลำดับสาแหรก


อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "พระองค์โสมฯ พระราชทานเพลิงศพ พล.อ.ต.โกสีย์ กรโกสียกาจ". ครอบครัวข่าวสาม. 6 มกราคม 2555. สืบค้นเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. 2.0 2.1 2.2 "จากวังบูรพาภิรมย์ พเนจรพลัดถิ่น EP.1 ชีวิตเจ้าหญิงวัย 4ขวบ หลังสิ้นเสด็จพ่อ". ไทยรัฐออนไลน์. 11 มิถุนายน 2562. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักพระราชวัง ที่ ๑/๒๕๐๔ เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์พระราชวงศ์, เล่ม 78, ตอน 23 ง, 14 มีนาคม พ.ศ. 2504, หน้า 692
  4. 4.0 4.1 "ม.จ.ประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ สิ้นชีพิตักษัยแล้ว สิริพระชันษา 90 ปี". ข่าวสด. 24 มีนาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. "เรื่องเล่าประทับใจ "รอยแย้มพระสรวล พระราชอิริยาบถ รัชกาลที่ 10" ในความทรงจำท่านหญิง". ไทยรัฐออนไลน์. 7 พฤษภาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 27 มีนาคม 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. ธรรมดีที่พ่อทำ คณะกรรมการจัดงานนิทรรศการ "ธรรมดีที่พ่อทำ"http://www.anantara-news.com/~devanantara-news/download/asia/anantara_siam_art_exhibition.pdf
  7. ชมรมผู้สูงอายุมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, จดหมายข่าว ปีที่ 9 ฉบับที่ 4 เดือนพฤษภาคม 2546 http://seniorclub.swu.ac.th/news_9/9-04.pdf
  8. ประกาศสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง การสรรหาผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติhttp://www.bcca.go.th/uploads/file/Prakrad18112562_1.pdf
  9. 9.0 9.1 ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๓๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๑, ๒ ตุลาคม ๒๕๕๗
  10. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๙๘ ตอนที่ ๒๐๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๒๓๑, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๔