ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัฐประหารในประเทศพม่า พ.ศ. 2505"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 21: | บรรทัด 21: | ||
| combatants_header = |
| combatants_header = |
||
| combatant1 = [[ไฟล์: Flag of Burma (1948-1974).svg | 22px]] [[กองทัพพม่า]] |
| combatant1 = [[ไฟล์: Flag of Burma (1948-1974).svg | 22px]] [[กองทัพพม่า]] |
||
| combatant2 = [[ไฟล์: Flag of Burma (1948-1974).svg | 22px]] [[สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า (พ.ศ. 2491–2505)|สาธารณรัฐแห่งสหภาพ |
| combatant2 = [[ไฟล์: Flag of Burma (1948-1974).svg | 22px]] [[สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า (พ.ศ. 2491–2505)|สาธารณรัฐแห่งสหภาพแม่]] |
||
| combatant3 = |
| combatant3 = |
||
| commander1 = [[ไฟล์: Flag of Burma (1948-1974).svg | 22px]] [[เนวี่น]] <br> <small> (ประธาน[[Union Revolutionary Council|สภาปฏิวัติ]]) </small> |
| commander1 = [[ไฟล์: Flag of Burma (1948-1974).svg | 22px]] [[เนวี่น]] <br> <small> (ประธาน[[Union Revolutionary Council|สภาปฏิวัติ]]) </small> |
||
บรรทัด 40: | บรรทัด 40: | ||
{{ประวัติศาสตร์พม่า}} |
{{ประวัติศาสตร์พม่า}} |
||
'''รัฐประหารในประเทศพม่า''' เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2505 เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบ[[สังคมนิยม]]และการครอบงำการเมืองของกองทัพพม่า เป็นระยะเวลา 26 ปี ระบบการเมืองที่เป็นผลสืบเนื่องดำเนินมากระทั่งวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2531 เมื่อกองทัพยึดอำนาจในฐานะ[[สภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ]] (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น [[สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ]]) หลัง[[การก่อการกำเริบ 8888]] ทั่วประเทศ รัฐประหาร พ.ศ. 2505 นำโดยพลเอก [[เนวี่น]] และสภาปฏิวัติสังคมนิยม ซึ่งมีสมาชิก 24 คน ในระยะเวลา 12 ปีถัดจากนี้ กระทั่ง พ.ศ. 2517 พม่าปกครองด้วย[[กฎอัยการศึก]] และมีการขยายบทบาทของทหารอย่างสำคัญในเศรษฐกิจ การเมืองและรัฐการพม่า<ref>{{cite journal |last1=Schock |first1=Kurt |year=1999 |title=People Power and Political Opportunities: Social Movement Mobilization and Outcomes in the Philippines and Burma |journal=Soc. Probs. |publisher= |volume=46 ||pages=358}}</ref> นโยบายและอุดมการณ์ของรัฐบาลหลังรัฐประหารตั้งอยู่บนแนวคิด[[วิถีพม่าสู่สังคมนิยม]] (Burmese Way to Socialism) ซึ่งมีการประกาศต่อสาธารณะหนึ่งเดือนหลังรัฐประหารและเสริมด้วยการจัดตัง[[พรรคโครงการสังคมนิยมพม่า]] |
'''รัฐประหารในประเทศพม่า''' เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2505 เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบ[[สังคมนิยม]]และการครอบงำการเมืองของกองทัพพม่า เป็นระยะเวลา 26 ปี ระบบการเมืองที่เป็นผลสืบเนื่องดำเนินมากระทั่งวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2531 เมื่อกองทัพยึดอำนาจในฐานะ[[สภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ]] (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น [[สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ]]) หลัง[[การก่อการกำเริบ 8888]] ทั่วประเทศ รัฐประหาร พ.ศ. 2505 นำโดยพลเอก [[เนวี่น]] และสภาปฏิวัติสังคมนิยม ซึ่งมีสมาชิก 24 คน ในระยะเวลา 12 ปีถัดจากนี้ กระทั่ง พ.ศ. 2517 พม่าปกครองด้วย[[กฎอัยการศึก]] และมีการขยายบทบาทของทหารอย่างสำคัญในเศรษฐกิจ การเมืองและรัฐการพม่า<ref>{{cite journal |last1=Schock |first1=Kurt |year=1999 |title=People Power and Political Opportunities: Social Movement Mobilization and Outcomes in the Philippines and Burma |journal=Soc. Probs. |publisher= |volume=46 ||pages=358}}</ref> นโยบายและอุดมการณ์ของรัฐบาลหลังรัฐประหารตั้งอยู่บนแนวคิด[[วิถีพม่าสู่สังคมนิยม]] (Burmese Way to Socialism) ซึ่งมีการประกาศต่อสาธารณะหนึ่งเดือนหลังรัฐประหารและเสริมด้วยการจัดตัง[[พรรคโครงการสังคมนิยมพม่า]] |
||
== ภูมิหลัง == |
== ภูมิหลัง == |
||
[[ไฟล์:David Ben Gurion - General Ne Win PM of Burma 1959.jpg|thumbnail|left|พลเอก เนวี่น (ขวา) ผู้นำในการก่อรัฐประหาร]] |
[[ไฟล์:David Ben Gurion - General Ne Win PM of Burma 1959.jpg|thumbnail|left|พลเอก เนวี่น (ขวา) ผู้นำในการก่อรัฐประหาร]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:47, 4 กุมภาพันธ์ 2564
รัฐประหารในประเทศพม่า พ.ศ. 2505 | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ความขัดแย้งภายในพม่า | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
กองทัพพม่า | สาธารณรัฐแห่งสหภาพแม่ | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เนวี่น (ประธานสภาปฏิวัติ) |
วี่น-มอง (ประธานาธิบดีพม่า) อู้นุ (นายกรัฐมนตรีพม่า) | ||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||
กองกำลังทหารพม่า | ตำรวจ. ที่เหลือเป็นกลาง | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
1 หรือ 2 คน |
ประวัติศาสตร์พม่า |
---|
|
|
|
|
ตัวเลขคือปีคริสต์ศักราช BCE หมายถึง ปีก่อนคริสต์ศักราช |
รัฐประหารในประเทศพม่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2505 เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบสังคมนิยมและการครอบงำการเมืองของกองทัพพม่า เป็นระยะเวลา 26 ปี ระบบการเมืองที่เป็นผลสืบเนื่องดำเนินมากระทั่งวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2531 เมื่อกองทัพยึดอำนาจในฐานะสภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ) หลังการก่อการกำเริบ 8888 ทั่วประเทศ รัฐประหาร พ.ศ. 2505 นำโดยพลเอก เนวี่น และสภาปฏิวัติสังคมนิยม ซึ่งมีสมาชิก 24 คน ในระยะเวลา 12 ปีถัดจากนี้ กระทั่ง พ.ศ. 2517 พม่าปกครองด้วยกฎอัยการศึก และมีการขยายบทบาทของทหารอย่างสำคัญในเศรษฐกิจ การเมืองและรัฐการพม่า[1] นโยบายและอุดมการณ์ของรัฐบาลหลังรัฐประหารตั้งอยู่บนแนวคิดวิถีพม่าสู่สังคมนิยม (Burmese Way to Socialism) ซึ่งมีการประกาศต่อสาธารณะหนึ่งเดือนหลังรัฐประหารและเสริมด้วยการจัดตังพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า
ภูมิหลัง
หลังจากพม่าได้รับเอกราช มีความตึงเครียดทางการทหารและการลุกฮือของชนกลุ่มน้อย ใน พ.ศ. 2491 เนวินขึ้นมามีอำนาจในกองทัพ ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2492 เนวินได้เป็นผู้บัญชาการทหารและเข้าควบคุมทหารทั้งหมดแทนนายพลสมิธ ดุนที่เป็นชาวกะเหรี่ยง ทำให้เนวินได้จัดระเบียบกองทัพใหม่ ต่อมา อู้นุได้ร้องขอให้เนวินเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลเมื่อ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2501 หลังจากที่สันนิบาตเสรีชนต่อต้านฟาสซิสต์แตกออกเป็นสองส่วน และอู้นุเกือบไม่ได้รับการไว้วางใจจากรัฐสภา เนวินได้ฟื้นฟูกฎระเบียบใหม่ในระหว่างที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล การเลือกตั้งใหม่ใน เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 นั้นอู้นุเป็นฝ่ายชนะ และได้จัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2503
รัฐประหาร
ต่อมาเมื่อ 2 มีนาคม พ.ศ. 2505 เนวินขึ้นสู่อำนาจอีกครั้งโดยการก่อรัฐประหาร ตัวเขาเองมีสถานะเป็นประมุขรัฐ ในฐานะประธานสภาปฏิวัติสหภาพ และเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เขาได้จับกุมอู้นุ เซา ส่วย เทียกและคนอื่นๆอีกหลายคน และประกาศจัดตั้งรัฐสังคมนิยม เซาเมียะ เทียก บุตรชายของเซา ส่วย เทียกถูกยิงเสียชีวิตหลังการวิจารณ์รัฐประหาร เจ้าฟ้าจาแสงหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากหยุดที่จุดตรวจใกล้ตองจี[2]
หลังจากมีการลุกฮือที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2505 ได้มีการส่งทหารเข้าไปจัดระเบียบใหม่ มีการเผาผู้ประท้วงและทำลายอาคารสหภาพนักศึกษา[3] หลังจากนั้น มหาวิทยาลัยทั่วประเทศถูกสั่งปิดเป็นเวลา 2 ปี จนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2507 ใน พ.ศ. 2531 อีก 26 ปีต่อมา เนวินปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการทำลายอาคารสหภาพนักศึกษา โดยกล่าวว่าเป็นคำสั่งของอ่องจี
หลังจากนั้นและผลกระทบ
รัฐประหารได้เปลี่ยนพม่าจากสหภาพที่มีหลายพรรคการเมืองไปเป็นรัฐที่มีพรรคการเมืองเดียวคือพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า การลงทุนของเอกชนโดยเฉพาะที่ไม่ใช่ของพม่าถูกยึดเป็นของรัฐ บริษัทต่างชาติต่างถอนตัวออกไป และปกครองประเทศด้วยกฎอัยการศึกจนถึง พ.ศ. 2517 จึงได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ใช้ชื่อประเทศว่าสาธารณรัฐสังคมแห่งสหภาพพม่าได้ใช้ธงชาติที่มีสัญลักษณ์ของสังคมนิยม ผลของรัฐประหารทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจของพม่าหยุดชะงักจนกลายเป็นประเทศด้อยพัฒนาใน พ.ศ. 2530
อ้างอิง
- ↑ Schock, Kurt (1999). "People Power and Political Opportunities: Social Movement Mobilization and Outcomes in the Philippines and Burma". Soc. Probs. 46: 358.
{{cite journal}}
: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า :|1=
(help) - ↑ Smith, Martin (1991). Burma — Insurgency and the Politics of Ethnicity. London and New Jersey: Zed Books.
- ↑ Boudreau, Vincent (2004) Resisting Dictatorship: Repression and Protest in Southeast Asia Cambridge University Press, Cambridge, U.K., pp. 37-39, 50-51, ISBN 0-521-83989-0