ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจ ไบเดิน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Narutzy (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{ผู้นำประเทศ
{{ผู้นำประเทศ
<!----------ชื่อ---------->
<!----------ชื่อ---------->

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:11, 20 ธันวาคม 2563

โจ ไบเดิน
Joe Biden
ภาพถ่ายทางการเมื่อ พ.ศ. 2556
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ว่าที่ตำแหน่ง
20 มกราคม พ.ศ. 2564
รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส (ว่าที่)
รับช่วงจากดอนัลด์ ทรัมป์
รองประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 47
ดำรงตำแหน่ง
20 มกราคม พ.ศ. 2552 – 20 มกราคม พ.ศ. 2560
ประธานาธิบดีบารัก โอบามา
ก่อนหน้าดิก ชีนีย์
ถัดไปไมก์ เพนซ์
สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ
จากรัฐเดลาแวร์
ดำรงตำแหน่ง
3 มกราคม พ.ศ. 2516 – 15 มกราคม พ.ศ. 2552
(36 ปี 12 วัน)
ก่อนหน้าคาเร็บ บ็อกส์
ถัดไปเท็ด คอล์ฟแมน
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 (81 ปี)
สแกรนตัน เพนซิลเวเนีย สหรัฐ
ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
พรรคการเมืองเดโมแครต
คู่สมรสจิล เจคอบส์
บุตร
  • โบ
  • ฮันเตอร์
  • นาโอมิ
  • แอชลีย์
การศึกษามหาวิทยาลัยเดลาแวร์
มหาวิทยาลัยซีราคิวส์
วิชาชีพนักกฎหมาย
ลายมือชื่อ

โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดิน จูเนียร์ (อังกฤษ: Joseph Robinette Biden, Jr.) หรือโจ ไบเดิน เป็นนักการเมืองชาวอเมริกัน และเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐจากการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี พ.ศ. 2563 ในอดีตไบเดินเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ระหว่าง พ.ศ. 2552 ถึง 2560 เป็นสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐเดลาแวร์เจ็ดสมัยติดต่อกัน ระหว่าง พ.ศ. 2515 ถึง 2552 สังกัดพรรคเดโมแครต

ไบเดินเกิดที่เมืองสแครนตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย และอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ขวบจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์จวบจนปัจจุบัน เขาได้เริ่มศึกษาที่มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ และได้รับปริญญาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ในปี พ.ศ. 2511 ไบเดินประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513 ไบเดินเข้ามารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกในปี 2515 โดยการเลือกตั้ง ทำให้กลายเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ จากนั้น เขาก็ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2521, 2527, 2533, 2539 และ 2545 นับว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ครองตำแหน่งมานานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

ไบเดินเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศมายาวนานจนเป็นประธานของคณะกรรมการชุดนี้ ศิลปะการเจรจาของเขาเคยนำมาซึ่งความช่วยเหลือทางการทหารของสหรัฐและการเข้าแทรกแซงในสงครามบอสเนีย เขาออกเสียงสนับสนุนนโยบายการแก้ปัญหาสงครามอิรัก แต่ต่อมาได้ประกาศจุดยืนว่าอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ดังกล่าว นอกจากนั้น ไบเดินยังได้ดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมาธิการศาลยุติธรรมสำหรับสมาชิกวุฒิสภาอีกด้วย โดยมีส่วนในเรื่องของยาเสพติด อาชญากรรม การป้องกันภัย และสิทธิพลเมือง และยังเป็นแกนนำในการเสนอกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาชญากรรมการใช้ความรุนแรงและการบีบบังคับ และกฎหมายว่าด้วยการคุกคามสตรี

ไบเดินเคยลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2531 และ 2551 แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งสองครั้ง แต่ในปี 2551 บารัก โอบามา ผู้สมัครที่ได้ตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตตัดสินใจเลือกไบเดินเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเป็นคู่สมัครในการเลือกตั้ง ค.ศ. 2551 นี้ และได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ในเดือนมกราคม 2560 ไบเดนได้รับรางวัลเกียรติยศเหรียญอิสรภาพประธานาธิบดีจากประธานาธิบดีโอบามา

ในเดือนเมษายน 2562 ไบเดนประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐใน พ.ศ. 2563 ในเดือนมิถุนายน 2563 เขามีคุณสมบัติตามเกณฑ์จากคณะผู้ออกเสียงที่จำเป็นเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรค[1] และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ไบเดนประกาศให้กมลา แฮร์ริส เป็นคู่สมัครรับเลือกตั้ง จนในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ไบเดิน ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง นับเป็นบุคคลที่ไดรับคะแนน Popular Votes หรือคะแนนมหาชน มากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ด้วยคะแนนมากกว่า 74 ล้านเสียง โค่นเเชมป์เก่าอย่างบารัค โอบามา ที่ได้คะแนน Popular Votes 69 ล้านคะแนน

อ้างอิง

  1. Linskey, Annie (June 9, 2020). "Biden clinches the Democratic nomination after securing more than 1,991 delegates".
ก่อนหน้า โจ ไบเดิน ถัดไป
ดิก ชีนีย์
รองประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 47
(20 มกราคม พ.ศ. 2552 - 20 มกราคม พ.ศ. 2560)
ไมก์ เพนซ์