ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชพฤกษ์"
ประภาพร227 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ประภาพร227 (คุย | ส่วนร่วม) ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552 |
ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552 |
||
== ลักษณะ == |
== ลักษณะของดอกไม้ == |
||
ลักษณะของดอกราชพฤกษ์คือช่อดอกห้อยลงคล้ายดอกวิสทีเรียญี่ปุ่น แต่ดอกราชพฤกษ์ให้ความรู้สึกสวยงามมากแตกต่างจากดอกวิสทีเรียญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกสงบมากกว่า ชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Golden Shower” ลักษณะเหมือนฝนตกสีทอง |
|||
ช่วงเวลาออกดอกจะใกล้เคียงกับดอกซากุระของญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม นอกจากนี้ช่วงที่ใบไม้ร่วงหล่น และช่วงที่ดอกไม้บานก็คล้ายกับดอกซากุระ เมื่อโตขึ้น ต้นจะสูงประมาณ 10 เมตร ลำต้นมีสีขาวเทาหรือดำและดูเหมือนว่ากิ่งก้านที่เรียวยาวจะมีใบไม้รูปไข่ 4 ถึง 8 ใบทางซ้ายและขวา |
|||
ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูง 10–20 เมตร ดอกขึ้นเป็นช่อยาว 20–40 เซนติเมตร แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4–7 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีเหลืองขนาดเท่ากัน 5 กลีบ ผลยาว 30–62 เซนติเมตร และกว้าง 1.5–2.5 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุน และมีเมล็ดที่มีพิษเป็นจำนวนมาก |
|||
[[ไฟล์:Cassia fistula-flower-detail.jpg|thumb|ลักษณะดอกของต้นราชพฤกษ์]] |
|||
== เกี่ยวกับชื่อ == |
== เกี่ยวกับชื่อ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:08, 6 ตุลาคม 2563
ดอกไม้ที่เรียกว่า "ดอกราชพฤกษ์ (ต้นพระราชา)" ในภาษาไทย โดยทั่วไปเป็นคำที่ประกอบด้วย ราช (ราชา) พฤกษ์ (กลีบ) จึงเรียกว่า "ดอกไม้ประจำชาติ" ในความเป็นจริงมันถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยในปี 2552
ลักษณะของดอกไม้
ลักษณะของดอกราชพฤกษ์คือช่อดอกห้อยลงคล้ายดอกวิสทีเรียญี่ปุ่น แต่ดอกราชพฤกษ์ให้ความรู้สึกสวยงามมากแตกต่างจากดอกวิสทีเรียญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกสงบมากกว่า ชื่อภาษาอังกฤษ คือ “Golden Shower” ลักษณะเหมือนฝนตกสีทอง ช่วงเวลาออกดอกจะใกล้เคียงกับดอกซากุระของญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม นอกจากนี้ช่วงที่ใบไม้ร่วงหล่น และช่วงที่ดอกไม้บานก็คล้ายกับดอกซากุระ เมื่อโตขึ้น ต้นจะสูงประมาณ 10 เมตร ลำต้นมีสีขาวเทาหรือดำและดูเหมือนว่ากิ่งก้านที่เรียวยาวจะมีใบไม้รูปไข่ 4 ถึง 8 ใบทางซ้ายและขวา
เกี่ยวกับชื่อ
ชื่อของราชพฤกษ์นั้นมีการเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น ส่วนใหญ่จะเรียกราชพฤกษ์ว่า คูน เนื่องจากจำง่ายกว่า (แต่มักจะเขียนผิดเป็น คูณ) ทางภาคเหนือเรียกว่า ลมแล้ง ทางภาคใต้เรียกว่า ราชพฤกษ์ ลักเกลือ หรือลักเคย ชาวกะเหรี่ยงและในกาญจนบุรีเรียกว่า กุเพยะ
การปลูกและการดูแลรักษา
การปลูก
ในช่วงแรก ๆ ต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตได้ช้าในระยะเวลาประมาณ 1–3 ปีแรก หลังจากนั้นต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตเร็วขึ้น เปลือกจะเป็นสีน้ำตาลเรียบ มีรากแก้วยาวสีเหลือง และ มีรากแขนงเป็นจำนวนมาก เมื่อต้นราพฤกษ์มีอายุ 4–5 ปี จึงออกดอกและเมล็ดและเจริญเติบโตต่อไป
สรรพคุณ
นอกจากนั้น ราชพฤกษ์ยังเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที สารสกัดจากฝักด้วยเอทานอลสามารถยับยั้งการเจริญของคะน้าได้[1]
ความเชื่อ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้มงคลนิยมใช้ประกอบพีธีที่สำคัญ เช่น พีธีเสาไม้หลักเมือง เป็นส่วนประกอบในการทำคฑาจอมพล และ ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ทำพิธีปลูกบ้าน ฯลฯ
คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่า ควรปลูกต้นราชพฤกษ์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านเรือนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ ซึ่งความเป็นจริงคือทิศดังกล่าวจะได้รับแดดจัดตลอดช่วงบ่าย จึงควรปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ลดความร้อนและทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น[2]
คนไทยในสมัยโบราณยังมีความเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ด้วยคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย นอกจากนี้มีความเชื่อว่า ใบของต้นราชพฤกษ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะในพิธีทางไสยศาสตร์ให้ใบทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดังนั้นจึงถือว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนาม[3]
อ้างอิง
- ↑ ศานิต สวัสดิกาญจน์ สุวิทย์ เฑียรทอง เนาวรัตน์ ประดับเพ็ชร์ สิริวรรณ สมิทธิอาภรณ์ และวริสรา ปลื้มฤดี. 2553. ผลของสารสกัดจากพืชบางชนิดต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของคะน้า. เรื่องเต็มการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 48. 3-5 ก.พ. 2553 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน้า 412-421
- ↑ หลักการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับทิศ
- ↑ การเป็นมงคล