ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แคลช"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 55: | บรรทัด 55: | ||
{{คำพูด|วันนี้ที่พี่มายืนอยู่บนนั่งร้านนี้พี่รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าตอนที่อยู่บน เวทีคนดูเป็นหมื่นสองหมื่น ตอนนี้พี่ตื่นเต้นมากกว่าตอนเล่นคอนเสิร์ตคราวก่อนๆ เพราะมันเป็นคำพูดที่ไม่อยากพูด |
{{คำพูด|วันนี้ที่พี่มายืนอยู่บนนั่งร้านนี้พี่รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าตอนที่อยู่บน เวทีคนดูเป็นหมื่นสองหมื่น ตอนนี้พี่ตื่นเต้นมากกว่าตอนเล่นคอนเสิร์ตคราวก่อนๆ เพราะมันเป็นคำพูดที่ไม่อยากพูด |
||
มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจทุกคนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือแม้แต่กระทั่งพวกพี่เองก็ลำบากใจที่ต้องพูดแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเราเป็นกลุ่มคนที่โชคดีหรือร้าย ที่จะได้ฟังว่าวงแคลชอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มสุดท้ายจริงๆ พวกเราขอโทษ แล้วก็..... พี่ขออีกหนึ่งเทก ร้องไปแล้วนึกถึงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาที่เราอยู่ด้วยกันเสมอ ตามเนื้อเพลงต่อให้ไม่มีวงแคลชแล้ว แต่พวกเราจะอยู่กับทุกคนตลอดไป แล้วอาชีพพวกนี้คงจะทิ้งไม่ได้ เพราะเราทำอย่างอื่นไม่เป็น พวกเราก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงเหมือนเดิม แต่ในรูปแบบที่ทุกๆ คนใฝ่ฝันและต้องการจริงๆ ความตั้งใจนี้ไม่ได้เพิ่งคิดจริงๆ อัลบั้มที่แล้วควรจะเป็นอัลบั้มสุดท้าย แต่เราคิดว่ามันคงจะใจดำเกินไปที่ไม่ได้บอกก่อน จึงมีอัลบั้มนี้ แคลช 9 มิส ยู ทู ร้องอีกหนึ่งเทก ร้องด้วยความตั้งใจ ร้องให้ซึ้งที่สุด และเพราะที่สุดนะครับ<ref>[http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-clash-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0mv%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1---12490 clipmass.com] ''ปิด ตำนาน Clash ยุบวงแล้ว !!! และMVสุดท้ายตัวเต็ม'' เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554</ref>| |
มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจทุกคนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือแม้แต่กระทั่งพวกพี่เองก็ลำบากใจที่ต้องพูดแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเราเป็นกลุ่มคนที่โชคดีหรือร้าย ที่จะได้ฟังว่าวงแคลชอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มสุดท้ายจริงๆ พวกเราขอโทษ แล้วก็..... พี่ขออีกหนึ่งเทก ร้องไปแล้วนึกถึงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาที่เราอยู่ด้วยกันเสมอ ตามเนื้อเพลงต่อให้ไม่มีวงแคลชแล้ว แต่พวกเราจะอยู่กับทุกคนตลอดไป แล้วอาชีพพวกนี้คงจะทิ้งไม่ได้ เพราะเราทำอย่างอื่นไม่เป็น พวกเราก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงเหมือนเดิม แต่ในรูปแบบที่ทุกๆ คนใฝ่ฝันและต้องการจริงๆ ความตั้งใจนี้ไม่ได้เพิ่งคิดจริงๆ อัลบั้มที่แล้วควรจะเป็นอัลบั้มสุดท้าย แต่เราคิดว่ามันคงจะใจดำเกินไปที่ไม่ได้บอกก่อน จึงมีอัลบั้มนี้ แคลช 9 มิส ยู ทู ร้องอีกหนึ่งเทก ร้องด้วยความตั้งใจ ร้องให้ซึ้งที่สุด และเพราะที่สุดนะครับ<ref>[http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-clash-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0mv%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%A1---12490 clipmass.com] ''ปิด ตำนาน Clash ยุบวงแล้ว !!! และMVสุดท้ายตัวเต็ม'' เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554</ref>|BANKK CA$H}} |
||
ภายหลังการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเสร็จสิ้นแล้วนั้น แคลชได้แถลงข่าวยุบวงในเย็นวันที่ [[14 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2553]] ณ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พวกเขากล่าวว่าพวกเขาปรึกษาเรื่องการแยกวงมานานกว่า 3 ปีแล้วและกล่าวขอโทษแฟนๆ<ref name="gmember">[http://inside.gmember.com/news_detail.php?news_id=4988 inside.gmember.com] '''Clash' แถลง 'จบ' ด้วยดี ยัน ไม่ได้ทะเลาะ!!'' เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554</ref> สาเหตุการประกาศแยกวง พวกเขากล่าวว่าเป็นเพราะแต่ละคนมีมุมมองและทิศทางการทำดนตรีที่แตกต่างกัน พร้อมบอกว่าจะแยกย้ายกันไปทำงานเพลงตามแนวทางของตัวเอง<ref name="split">[http://entertain.teenee.com/thaistar/56025.html แฟนช็อค “แคลช” ประกาศแยกวง ปิดตำนานร็อก]</ref> โดยจะมีคอนเสิร์ตอำลาแฟนคลับในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554 พร้อมกันนั้นแบงก์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า |
ภายหลังการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเสร็จสิ้นแล้วนั้น แคลชได้แถลงข่าวยุบวงในเย็นวันที่ [[14 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2553]] ณ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พวกเขากล่าวว่าพวกเขาปรึกษาเรื่องการแยกวงมานานกว่า 3 ปีแล้วและกล่าวขอโทษแฟนๆ<ref name="gmember">[http://inside.gmember.com/news_detail.php?news_id=4988 inside.gmember.com] '''Clash' แถลง 'จบ' ด้วยดี ยัน ไม่ได้ทะเลาะ!!'' เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554</ref> สาเหตุการประกาศแยกวง พวกเขากล่าวว่าเป็นเพราะแต่ละคนมีมุมมองและทิศทางการทำดนตรีที่แตกต่างกัน พร้อมบอกว่าจะแยกย้ายกันไปทำงานเพลงตามแนวทางของตัวเอง<ref name="split">[http://entertain.teenee.com/thaistar/56025.html แฟนช็อค “แคลช” ประกาศแยกวง ปิดตำนานร็อก]</ref> โดยจะมีคอนเสิร์ตอำลาแฟนคลับในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554 พร้อมกันนั้นแบงก์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า {{คำพูด|พี่ๆ ทุกคนได้ข่าวว่าพวกผมกำลังจะเลิก ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องจริง จะเรียกว่าอิ่มตัวคงไม่ใช่ เรามีความฝันที่อยากจะเดินต่อไป เราจึงแยกย้ายเพื่อไปตามหาความฝันในอนาคต จริงๆ เราอยากหยุดตั้งแต่อัลบั้มที่แล้ว แต่ผู้ใหญ่เรียกไปคุยว่าทำไมใจร้ายอย่างนี้ นึกถึงคนที่เป็นแฟนกัน บอกเลิกกันยังทำใจได้ง่ายกว่าหายไปเฉยๆ เราเลยคิดว่าเราควรทำอีกอัลบั้มหนึ่ง เพื่อบอกทุกคนตรงๆ ว่าเรากำลังจะเลิก แต่เราจะเลิกไปเพื่อทำอะไร ทุกคนจะได้เข้าใจ|BANKK CA$H}} พร้อมกันนั้นก็ได้ปฏิเสธข่าวลือการทะเลาะภายในวงว่า {{คำพูด|เราอยู่กันมา 15 ปี ถ้าทะเลาะกัน พรุ่งนี้เช้าก็หาย ซึ่งเราเป็นเด็กมัธยม กินมาม่าหม้อเดียวกัน มันคงตัดไม่ได้เหมือนญาติ เรื่องเงินคงไม่มี ด้วยทัศนคติทางการฟังเพลงมันแตกต่าง ภารกิจหน้าที่ของเรามันค่อยๆ ถ่างออก ที่คล้ายกันคือเราเป็นทีมโปรดิวเซอร์กันหมด ถึงวงแคลชไม่มี ผมก็อยู่ในกลุ่มก้อนนี้ ก็ยังช่วยๆ กันครับ..<ref name="gmember"/>|BANKK CA$H}} |
||
== ภาพลักษณ์== |
== ภาพลักษณ์== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:46, 19 ตุลาคม 2556
แคลช | |
---|---|
ไฟล์:Clashrockofages.jpg | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ที่เกิด | กรุงเทพ ประเทศไทย |
แนวเพลง | นูเมทัล, ฮาร์ดร็อก, ร็อก, แร๊ป |
ช่วงปี | พ.ศ. 2544 - 2554 |
ค่ายเพลง | ดั๊กบาร์, จีนี่เรคอร์ดส, อัพจี, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ |
สมาชิก | ปรีติ บารมีอนันต์ (แบงค์) คชภัค ผลธนโชติ (พล) ฐาปนา ณ บางช้าง (แฮ็ค) สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ (สุ่ม) อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (ยักษ์) |
เว็บไซต์ | http://www.clashfansite0007.com/ |
แคลช (อังกฤษ: Clash) เป็นวงดนตรีชาวไทย รวมตัวกันครั้งแรกในชื่อวง ลูซิเฟอร์ เพื่อเข้าประกวดรายการดนตรีฮอตเวฟมิวสิกอวอร์ดส์ครั้งที่ 2 และ 3 แต่ครั้งสมัยศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ณ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งในการแข่งขันครั้งที่สามนี้ ลูซิเฟอร์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง[1] และได้เซ็นสัญญากับค่ายอัพจี หนึ่งในค่ายเพลงในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
แคลชมีผลงานสตูดิโออัลบั้มกว่า 7 ชุด และยังเข้าร่วมโครงการอัลบั้มพิเศษกับศิลปินในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผลงานอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง พันธุ์เอ็กซ์เด็กสุดขั้ว เพลงประกอบละคร เพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณา และซิงเกิลพิเศษอีกหลายเพลง และเนื่องจากแบงก์ หนึ่งในสมาชิกของวงมีความสามารถด้านการประพันธ์เพลง ทำให้เขามีโอกาสประพันธ์เพลงให้กับศิลปินอื่นๆอีกหลายเพลง พวกเขายังร่วมกันเปิดร้านอาหารกึ่งผับในชื่อ แคลงก์ และเขียนหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มแรกที่วางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551[2]
แคลชได้รับรางวัลการยกย่องเป็นตำนานของเพลงร็อกไทยและได้รับรางวัลจากสื่อมวลชนและรายการรางวัลดนตรีมากมาย และยังได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ อาทิ เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณารถมอเตอร์ไซค์ โครงการรณรงค์ไนกี้ นอกจากนี้แบงก์ นักร้องนำของวงยังได้รับยกย่องให้เป็น "ลูกยอดกตัญญู" ในงานวันแม่แห่งชาติเมื่อปี พ.ศ. 2549 อีกด้วย
ประวัติ
การรวมวงและก้าวแรกในวงการดนตรี [2541 - 2544]
แคลชรวมวงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2541 ครั้นแต่สมาชิกทั้งห้าคนยังเป็นนักเรียนโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยใช้ชื่อวงของตนว่า ลูซิเฟอร์ เพื่อเข้าประกวดการแข่งขันรายการดนตรีฮอตเวฟมิวสิกอวอร์ดส์ (Hot Wave Music Awards) ครั้งที่ 2 และ 3 ในครั้งที่ 3 วงลูซิเฟอร์ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง[1] โดยใช้เพลง "อย่าทำอย่างนั้น" ของจิระศักดิ์ ปานพุ่มและเพลง"เมื่อรักฉันเกิด ของซิลลี่ฟูลส์"[3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 ลูซิเฟอร์จึงได้เซ็นสัญญากับค่ายดนตรี อัพ จี อันเป็นค่ายเพลงในเครือบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี และได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดแรกในชื่อ วัน ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2544[4] โดยออกเผยแพร่ซิงเกิลแรกในเพลง "กอด" ผลงานการประพันธ์ของปรีติ บารมีอนันต์ (แบงก์) นักร้องนำของวงและเรียบเรียงดนตรีโดยกลุ่มสมาชิกของวง[5] นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์เพลง "เลิฟซีน" ซึ่งได้รับรางวัลสีสันครั้งที่ 14 สาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยมในปี พ.ศ. 2546อีกด้วย[1]
ประสบความสำเร็จ [2546]
ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 แคลชได้ออกอัลบั้มลำดับที่สองในชื่อ ซาวด์เชก ในอัลบั้มนี้พวกเขามีส่วนร่วมมากขึ้นตั้งแต่การประพันธ์จวบจนการบันทึกเสียง[6] ซิงเกิลจากอัลบั้มนี้ได้แก่ "เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป" "ขอเช็ดน้ำตา" และ "หนาว"[5] ซึ่งเพลง "หนาว" เป็นผลงานการประพันธ์ของแบงก์เอง[6] นอกจากนี้ยังมีเพลงพิเศษอย่าง "หยุดฝันก็ไปไม่ถึง" ซึ่งเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเมื่อพล หนึ่งในสมาชิกของวงได้ขอแยกวงและได้กลับมาออกอัลบั้มนี้อีกครั้ง[7] และเพลง "มือน้อย" เพลงของเรวัติ พุทธินันทน์ซึ่งได้นำมาเรียบเรียงใหม่ในอัลบั้มนี้
จากความสำเร็จในอัลบั้ม ชาวด์เชก ที่มีเพลงติดชาร์ตโดยทั่วไป[8] พวกเขาจึงมีโอกาสเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้าน้ำมันเครื่อง[9] และยังได้ขับร้องเพลง "หนึ่งมิตรชิดใกล้" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง บิวตีฟูลบ็อกเซอร์ นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน วงแคลชได้จัดทำอัลบั้มพิเศษขึ้นในชื่อ ซาวด์ครีม โดยเรียบเรียงดนตรีจากอัลบั้ม วัน และ ซาวด์เชก อาทิ "กอด" "รับได้ทุกอย่าง" "ขอเช็ดน้ำตา" และ "หนาว" ในรูปแบบใหม่ในแนวอะคูสติกส์ พร้อมเพลงใหม่อย่าง "เธอคือนางฟ้าในใจ" ซิงเกิลแรกเพื่อประชาสัมพันธ์อัลบั้มดังกล่าว
นอกจากผลงานอัลบั้มของวงเองและการโฆษณาแล้วนั้น ในปีเดียวกันนี้ แคลชและวงดนตรีร็อกในเครือค่ายเพลงสามค่ายอันประกอบด้วยมอร์มิวสิก จีนีเรเคิดส์ และอัปจีเรเคิดส์ ได้จัดทำโครงการพิเศษในชื่อว่า ลิตเติลร็อกโปรเจกต์ (Little Rock Project) โดยออกอัลบั้มร่วมกันประกอบด้วยอัลบั้ม ลิตเติลร็อกโปรเจกต์ ชุดที่ 1 และ ชุดที่ 2 ออกจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2546 โดยนำเพลงของวง ไมโคร มาเรียบเรียงดนตรีใหม่และขับร้องใหม่ตามรูปแบบของแต่ละวง วงแคลชได้ร้องเพลงเปิดตัวโครงการด้วยเพลง "เอาไปเลย" ขับร้องคู่กับวงกะลา นอกจากนี้ยังมีเพลงอื่นๆที่แคลชได้ขับร้องอาทิ "ตอก ไว้ใจ แผลในใจ" และ "หยุดมันเอาไว้" และอีกเพลงหนึ่งซึ่งร้องร่วมกันทั้ง 7 วงคือเพลง "ลองบ้างไหม"
วงดนตรียอดนิยม [2547 - 2548]
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2547 แคลชได้ออกสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามในชื่อ เบรนสตอร์ม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและมีการวิจารณ์ไปในทางที่ดี ดนตรีในอัลบั้มนี้ประกอบด้วยเพลงหลากหลายแนวทั้งร็อก ป๊อป และซอฟต์ร็อก โดยออกซิงเกิลเพลง "ใส่ร้ายป้ายสี" เป็นเพลงเปิดตัวของอัลบั้ม และเพลงเด่นอย่าง "เขาชื่ออะไร" ในปีเดียวกัน แบงก์ หนึ่งในสมาชิกของวงได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง พันธุ์เอ็กซ์เด็กสุดขั้ว ร่วมกับหนุ่ม สมาชิกจากวงกะลา จึงได้ขับร้องเพลง "เพลงรักพันธุ์ X" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวร่วมกับวงกะลา นอกจากนี้แคลชยังได้เข้าร่วมโครงการจัดทำเพลงเพื่อเฉลิมฉลองการสถาปนาบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ครบ 20 ปีโดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้มชุด แพ็กต์โฟร์ร่วมกับวงร็อกในสังกัดเดียวกันอันได้แก่วงกะลา โปเตโต้ และเอบีนอร์มอล ซึ่งนำเพลงยอดนิยมในอดีตจากวงดนตรีในสังัดบริษัทแกรมมี่ของวงโลโซ ซิลลี่ฟูลส์ และอัสนี-วสันต์ นำมาขับร้องและเรียบเรียงใหม่โดยร็อก 4 วง ซึ่งรวมถึงแคลชด้วย โดยแคลชได้นำเพลงของโจ-ก้อง วายน็อตเซเว่น และจิระศักดิ์ ปานพุ่ม มาเรียบเรียงใหม่
ในปีต่อมาเดือนมกราคม แคลชได้ร่วมคอนเสิร์ต แพ็กต์โฟร์ฟรีดอมโรแมนติกร็อก (Pack 4 Freedom Romantic Rock) ร่วมกับกลุ่มศิลปินในโครงการดังกล่าว และในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน พวกเขากได้ออกสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สี่ในชื่อ อีโมชัน ซิงเกิลจากอัลบั้มดังกล่าวได้แก่ "ละครรักแท้" "ซบที่อกฉัน" "เพลงผีเสื้อ" และ "ไฟรัก" ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2549 แคลชได้ออกอัลบั้มพิเศษในชื่อ สะมูสแคลช ซึ่งนำเพลงเด่นจากอัลบั้ม เบรนสตอร์ม และ อีโมชัน มาเรียบเรียงดนตรีใหม่ อาทิ เพลง "เขาชื่ออะไร" "ละครรักแท้" "เพลงผีเสื้อ" เป็นต้น โดยได้ออกเผยแพร่เพลงใหม่เพื่อประชาสัมพันธ์อัลบั้มคือ "นางฟ้าคนเดิม" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง สะดุดรัก ในเวลาต่อมา[10] และในเดือนเดียวกัน พวกเขาได้จัดคอนเสิร์ตขึ้นโดยได้รับการสนับสนุนจากซี้ด เอฟเอ็มในชื่อ ซีดไลฟ์คอนเสิร์ตเฟิสต์แคลช (Seed Live Concert First Clash)[11]
ยักษ์ประสบอุบัติเหตุ [2549 - 2550]
ในวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ยักษ์ มือกลองของวงประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์พลิกคว่ำ ระหว่างไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดสมุทรปราการ[12][13] ส่งผลให้ยักษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารับการรักษากายภาพบำบัดเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน วงแคลชก็ได้ออกอัลบั้มลำดับที่ห้าในชื่อ แครชชิง โดยชุดนี้มีเพลงที่ได้รับความนิยมเช่นเพลง "ค้างคา" "มือที่ไร้ไออุ่น" "รอ" "ขอเจ็บแทน" "วังวน" และ "ยิ้มเข้าไว้" โดยมีผู้อื่นมาช่วยเล่นในตำแหน่งกลองแทนยักษ์ที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 แคลชได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่เป็นครั้งที่ 2 ในชื่อว่า แคลชอาร์มีร็อกคอนเสิร์ต (Clash Army Rock Concert)[14] คอนเสิร์ตนี้มีแขกรับเชิญพิเศษมากมายอาทิโอซา แวง นางเอกมิวสิกวิดีโอในเพลงอัลบั้ม แครชชิง 3 เพลงและชนัทธา สายศิลา (แน็ป) นักร้องนำวงเรโทรสเปกต์ร่วมแสดงละครด้วยกัน เบนจามิน จุง ทัฟเนล (เบน) จากวงซิลลี่ ฟูลส์ และ ชินวุฒิ อินทรคูสิน (ชิน) มาร่วมร้องเพลงอีกด้วย นอกจากนี้ วงแคลชยังได้มีเพลงใหม่ 2 เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะคือเพลง "ซากคน" และ "สักวันฉันจะไปหาเธอ" ซึ่งต่อมาทั้งสองเพลงได้นำมาขับร้องใหม่และรวบรวมไว้ในอัลบั้ม แฟน
ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน แคลชได้ประชาสัมพันธ์อัลบั้ม แฟน โดยมีกิจกรรมพิเศษที่ให้โอกาสแฟนเพลงมาร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอเพลง "เกินคำว่ารัก" เพลงใหม่จากอัลบั้มนี้ อัลบั้มออกจำหน่ายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 โดยเพลงส่วนใหญ่เป็นการนำเพลงเด่นตั้งแต่อัลบั้มแรกมาเรียบเรียงใหม่ในท่วงทำนองแบบออเคสตร้า และยังรวบรวมเพลงใหม่อีก 2 เพลงที่ประพันธ์ไว้ในการแสดงคอนเสิร์ต แคลชอาร์มีร็อกคอนเสิร์ต อีกด้วย
การสร้างอัลบั้มที่ออสเตรเลีย [2551 - 2552]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 แคลชได้สร้างอัลบั้มชุดใหม่ ณ ประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากพวกเขารู้จักและสนิทสนมกับ แดเนียล เลฟเฟลอร์ โปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานร่วมกัน[15] และพวกเขากล่าวว่าต้องการเสียงดนตรีที่แปลกใหม่ และที่นั่นมีค่าใช้จ่ายน้อย แต่มีคุณภาพดี แต่ก็ประสบปัญหากันในเรื่องเกี่ยวกับเสียงดนตรี เนื่องจากความเห็นที่แตกต่างกัน แต่ในที่สุดก็ได้ผลงานอัลบั้มนี้ออกมา และได้ประกาศชื่ออัลบั้มชุดนี้ว่า ร็อกออฟเอจเจส [16] มีการถ่ายทำคลิปวิดีโอเบื้องหลังการทำงานอัลบั้มนี้เผยแพร่ในเว็บไซต์จีเม็มเบอรื.คอม และได้ปล่อยผลงานเพลงแรกในอัลบั้มนี้ ทางคลื่นฮอตเวฟ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ในเพลง "รักเองช้ำเอง" การสร้างอัลบั้มในต่างประเทศทำให้ดนตรีในอัลบั้มนี้มีความเป็นสากลมากขึ้น ในวันที่29 กรกฎาคม วันออกจำหน่ายอัลบั้มดังกล่าวได้มีการจัดคอนเสิร์ตเปิดตัวอัลบั้มนี้ ณ อาคารแกรมมี่เพลส ชั้น 21 แคลชได้กล่าวถึงเรื่องราวขำขันปนจริงจังกับการใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย และกล่าวถึงมิวสิกวิดีโอเพลงในอัลบั้มนี้ที่จะออกเผยแพร่ 4 เพลงออกมาเป็นรูปแบบของซีรีส์แบบเดียวกับอัลบั้มก่อนหน้านี้ ซึ่งได้แก่เพลง "รักเองช้ำเอง" "ถอนตัว" "ปฏิเสธรัก" และ "ความทรงจำครั้งสุดท้าย "[17] ในปีถัดมาวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2552 ได้มีคอนเสิร์ต แคลชอาร์มีร็อกคอนเสิร์ต: ชีวิต มิตรภาพ ความรัก โดยประพันธ์เพลงเพิ่มเติมเพื่อการแสดงเฉพาะในคอนเสิร์ตดังกล่าวได้แก่ "ชีวิต มิตรภาพ ความรัก" และ "ปฏิเสธไม่ได้ว่ารักเธอ" ร่วมร้องกับแคล แคลอรีน นอกจากนี้ยังได้มีแขกรับเชิญพิเศษ อาทิ ซีล ศุภรุจ เตชะตานนท์ (รุจ เดอะสตาร์) และชินวุฒิ อินทรคูสิน (ชิน) มาร่วมร้องในคอนเสิร์ตนี้ด้วย
การแยกวงและคอนเสิร์ตสุดท้าย [2553 - 2554]
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 แคลชได้ออกอัลบั้มชุดที่เจ็ดในชื่อ ไนน์มิสยูทู เพลงเด่นจากอัลบั้มนี้ได้แก่เพลง "ลางสังหรณ์" ซึ่งออกเผยแพร่มิวสิกวิดีโอวันที่ 17 พฤษภาคมในปีเดียวกัน[18] และ "เพลงสุดท้าย" ซึ่งเปิดโอกาสให้แฟนเพลงเข้าร่วมขับร้องกว่า 70 คนเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553[19] และแสดงประกอบมิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าว ในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 โดยถ่ายทำ ณ ลานเทนนิสของคอนโดร้างแห่งหนึ่ง ระหว่างการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอดังกล่าว แบงก์ นักร้องนำของวงได้กล่าวกับแฟนเพลงที่ร่วมถ่ายทำมิวสิกวิดีโอว่า
วันนี้ที่พี่มายืนอยู่บนนั่งร้านนี้พี่รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าตอนที่อยู่บน เวทีคนดูเป็นหมื่นสองหมื่น ตอนนี้พี่ตื่นเต้นมากกว่าตอนเล่นคอนเสิร์ตคราวก่อนๆ เพราะมันเป็นคำพูดที่ไม่อยากพูด มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจทุกคนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือแม้แต่กระทั่งพวกพี่เองก็ลำบากใจที่ต้องพูดแบบนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเราเป็นกลุ่มคนที่โชคดีหรือร้าย ที่จะได้ฟังว่าวงแคลชอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มสุดท้ายจริงๆ พวกเราขอโทษ แล้วก็..... พี่ขออีกหนึ่งเทก ร้องไปแล้วนึกถึงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาที่เราอยู่ด้วยกันเสมอ ตามเนื้อเพลงต่อให้ไม่มีวงแคลชแล้ว แต่พวกเราจะอยู่กับทุกคนตลอดไป แล้วอาชีพพวกนี้คงจะทิ้งไม่ได้ เพราะเราทำอย่างอื่นไม่เป็น พวกเราก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงเหมือนเดิม แต่ในรูปแบบที่ทุกๆ คนใฝ่ฝันและต้องการจริงๆ ความตั้งใจนี้ไม่ได้เพิ่งคิดจริงๆ อัลบั้มที่แล้วควรจะเป็นอัลบั้มสุดท้าย แต่เราคิดว่ามันคงจะใจดำเกินไปที่ไม่ได้บอกก่อน จึงมีอัลบั้มนี้ แคลช 9 มิส ยู ทู ร้องอีกหนึ่งเทก ร้องด้วยความตั้งใจ ร้องให้ซึ้งที่สุด และเพราะที่สุดนะครับ[20]
— BANKK CA$H
ภายหลังการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเสร็จสิ้นแล้วนั้น แคลชได้แถลงข่าวยุบวงในเย็นวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ณ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พวกเขากล่าวว่าพวกเขาปรึกษาเรื่องการแยกวงมานานกว่า 3 ปีแล้วและกล่าวขอโทษแฟนๆ[21] สาเหตุการประกาศแยกวง พวกเขากล่าวว่าเป็นเพราะแต่ละคนมีมุมมองและทิศทางการทำดนตรีที่แตกต่างกัน พร้อมบอกว่าจะแยกย้ายกันไปทำงานเพลงตามแนวทางของตัวเอง[22] โดยจะมีคอนเสิร์ตอำลาแฟนคลับในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554 พร้อมกันนั้นแบงก์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
พี่ๆ ทุกคนได้ข่าวว่าพวกผมกำลังจะเลิก ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องจริง จะเรียกว่าอิ่มตัวคงไม่ใช่ เรามีความฝันที่อยากจะเดินต่อไป เราจึงแยกย้ายเพื่อไปตามหาความฝันในอนาคต จริงๆ เราอยากหยุดตั้งแต่อัลบั้มที่แล้ว แต่ผู้ใหญ่เรียกไปคุยว่าทำไมใจร้ายอย่างนี้ นึกถึงคนที่เป็นแฟนกัน บอกเลิกกันยังทำใจได้ง่ายกว่าหายไปเฉยๆ เราเลยคิดว่าเราควรทำอีกอัลบั้มหนึ่ง เพื่อบอกทุกคนตรงๆ ว่าเรากำลังจะเลิก แต่เราจะเลิกไปเพื่อทำอะไร ทุกคนจะได้เข้าใจ
— BANKK CA$H
พร้อมกันนั้นก็ได้ปฏิเสธข่าวลือการทะเลาะภายในวงว่า
เราอยู่กันมา 15 ปี ถ้าทะเลาะกัน พรุ่งนี้เช้าก็หาย ซึ่งเราเป็นเด็กมัธยม กินมาม่าหม้อเดียวกัน มันคงตัดไม่ได้เหมือนญาติ เรื่องเงินคงไม่มี ด้วยทัศนคติทางการฟังเพลงมันแตกต่าง ภารกิจหน้าที่ของเรามันค่อยๆ ถ่างออก ที่คล้ายกันคือเราเป็นทีมโปรดิวเซอร์กันหมด ถึงวงแคลชไม่มี ผมก็อยู่ในกลุ่มก้อนนี้ ก็ยังช่วยๆ กันครับ..[21]
— BANKK CA$H
ภาพลักษณ์
แคลชเป็นศิลปินอีกกลุ่มหนึ่งที่มีหลากหลายแนวเพลง เริ่มแรกนั้นดนตรีของแคลชจะเป็นแนวร็อกแบบญี่ปุ่นหรือเจ-ร็อก ต่อมามีการปรับเปลี่ยนแนวดนตรีโดยมีท่วงทำนองหนักหน่วงยิ่งขึ้นเป็นแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก ฮาร์ดร็อก และ นูเมทัล ซึ่งพบได้ในบทเพลง "รักจริงรักปลอม" "ใส่ร้ายป้ายสี" "สวรรค์ไม่มีตา" หรือ "อีโมชัน" เป็นต้น นอกกจากดนตรีแนวร็อกแล้ว แคลชยังมีเพลงแนวอะคูสติกส์ซึ่งมีทั้งการเรียบเรียงทำนองในแบบอะคูสติกส์อย่างเพลง "ละครรักแท้" "ขอเจ็บแทน" "เธอคือนางฟ้าในใจ" "นางฟ้าคนเดิม" หรือการเรียบเรียงทำนองใหม่จากเพลงแนวร็อก เช่น "ขอเช็ดน้ำตา" "หนาว" "รับได้ทุกอย่าง" "ซบที่อกฉัน" เป็นต้น นอกจากนี้บางเพลงยังมีการสอดแทรกท่อนแร็ป เช่น เพลง "ผมไม่ได้บ้า" "โรคประจำตัว" "มันนี่เอนต์ฟลาย" เป็นต้น หรือแนวอาร์แอนด์บี ในเพลง "เชื่อในฉัน" "ปฏิเสธรัก" และอีกเพลงที่เห็นได้ชัดคือเพลง "ละครรักแท้" โดยต้นฉบับเป็นเพลงแนวอะคูสติกส์ซึ่งถูกนำมาเรียบเรียงใหม่เป็นแนวอาร์แอนด์บี ในอัลบั้ม แฟน มีการสอดแทรกดนตรีแนวออเคสตร้าเข้าผสมผสานอีกด้วย เช่นในเพลง "เกินคำว่ารัก" หรือการนำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่เป็นแนวออเคสตร้า อาทิ "เธอคือนางฟ้าในใจ" "หนาว" "ไฟรัก" เป็นต้น ในอัลบั้มชุด ร็อกออฟเอจเจส แคลชได้เดินทางไปสร้างอัลบั้ม ณ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีแดเนียล เลฟเฟลอร์ โปรดิวเซอร์ชาวออสเตรเลียช่วยควบคุมดูแลเพลงให้ทำให้มีความเข้มข้นและเป็นสากลมากขึ้น[23]
ในส่วนเนื้อหาเพลงของแคลช มีทั้งเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรักเหมือนบทเพลงทั่วไปและเนื้อหาที่สะท้อนสังคม เพลงช้าเป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก อกหัก และปลอบใจ หรือความสมหวัง คิดถึง และให้กำลังใจ ในเพลงเร็วส่วนใหญ่จะเป็นแนวสะท้อนสังคมหรือเสียดสีสังคม ซึ่งพบได้ในอัลบั้ม เบรนสตอร์ม โดยแบงก์กล่าวให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอัลบั้มชุดดังกล่าวว่า "ก็อยากให้ผู้ฟังเปิดใจยอมรับสิ่งที่เรานำเสนอออกไป ดนตรีดุดัน เนื้อหาเข้มข้น สะท้อนสังคมในยุคปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ว่า ไม่ได้โจมตีใคร และเรามั่นใจว่าเพลงช้าในอัลบั้มชุดนี้เพราะมาก ๆ ครับ" ส่วนเพลงเร็วที่มีความหมายเกี่ยวกับความรักนั้นจะพบได้ในอัลบั้มเก่า เช่นเพลง "ไฟรัก" "รักจริงรักปลอม" เป็นต้น[23]
นอกจากนี้แบงก์นักร้องนำยังได้รับเกียรติให้เป็น "ลูกยอดกตัญญูต่อผู้เป็นแม่" เนื่องจากเมื่อทราบว่าแม่ป่วยเป็นโรค MDS หรือความผิดปกติของโครโมโซมในกระดูกสันหลังแล้ว ก็ดั้นด้นทำงานหางานมารักษาแม่ให้หายขาด จนได้รับการประกาศยกย่องจาก สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เป็น "ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่" ประจำปี 2549 โดยจะเข้ารับพระราชทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในงานวันแม่แห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ณ สวนอัมพร โดยแบงก์กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า “ดีใจมากครับที่ได้รับรางวัลนี้เพราะเป็นรางวัลที่มีค่าสูงสุดในชีวิตผม จึงจะขอมอบเป็นของขวัญให้กับคุณแม่ในวันแม่ปีนี้ไปเลย คิดว่าคุณแม่คงจะภูมิใจเพราะผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วไม่ค่อยมีใครเห็นนอกจาก คุณแม่"[24] แม้ว่าตอนนี้แม่ของแบงก์จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำงานเพลงต่อไปเพื่อแฟนคลับอันเป็นที่รักของเขา
กิจกรรมและงานอื่นๆ
ผลงานร่วมกับศิลปินอื่น
นอกจากแบงก์นักร้องนำของแคลชจะมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีความสามารถในการประพันธ์เพลงอีกด้วย โดยมีเพลงของแคลชจำนวนไม่น้อยที่เขาเป็นคนแต่ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้มีโอกาสในการแต่งเพลงให้ศิลปินอื่น ๆ ด้วย อาทิ กอล์ฟ-ไมค์ในเพลงแนวร็อกผสมฮิปฮอปอย่างเพลง "ไม่ตามใคร" และเพลง "เต้นกันไหม" ซึ่งเป็นเพลงแนวป๊อปผสมฮิปฮอป นอกจากนี้ยังประพันธ์เพลงให้กับศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์ (โรส) ซึ่งแบงก์ได้ประพันธ์เพลงส่งท้ายปี พ.ศ. 2550 ในเพลง "ปีใหม่ใหม่" โดยการโปรดิวซ์ของเพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ โปรดิวเซอร์ของแคลชมาเรียงเรียงดนตรี ให้โรสเป็นคนร้องซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างดี แคลชยังมีส่วนร่วมในการทำดนตรีให้กับเพลงส่วนใหญ่ของพิมพ์รดาภา ไรท์ (ตีน่า) ในอัลบั้ม มามาคิสส์ อีกด้วย[25] นอกจากนี้แคลชยังได้ประพันธ์เพลง "อ้อมกอดจากดวงดาว" สนองโครงการ “คลายหนาวให้น้อง” ซึ่งแคลชได้ธงไชย แมคอินไตย์ มาร่วมร้องในเพลงนี้ด้วย[26]
วงแคลชมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองมาแล้วถึง 3 ครั้ง นอกจากนี้แล้ว แบงก์ยังเคยมีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น โอเพนฮาร์ตคอนเสิร์ต (Open Heart Concert) ของมาช่า วัฒนพานิช โดยแบงก์ได้ร่วมร้องในเพลง "ขอเช็ดน้ำตา" และ "เจ้าช่อมาลี" และแสดงเดี่ยวในเพลง "ค้างคา"[27] และยังได้รับเชิญในคอนเสิร์ต ไทยทาเนียมอันเซ็นเซอร์ดคอนเสิร์ต (Thaitanium Uncensored Concert) ของไทยเทเนี่ยม กลุ่มศิลปินแร็ปซึ่งแบงก์ได้แต่งกายเป็นเด็กฮิปฮอปร่วมแสดงในคอนเสิร์ตดังกล่าว[28] และแสดงเดี่ยวในเพลง "ละครรักแท้" ในฉบับแบบอาร์แอนด์บี เป็นต้น
งานโฆษณาและนิตยสาร
ด้วยความนิยมของวงแคลชในหมู่วัยรุ่น จึงได้รับเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์ยามาฮ่า กับจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่น Mio ซึ่งทางยามาฮ่าออกมาพูดว่า ลูกค้าจดจำรุ่นจักรยานยนต์ได้โดยผ่านพรีเซ็นเตอร์ "ลูกค้าหลายคนมาซื้อจักรยานยนต์มักจะพูดว่า อยากได้รุ่นแบงก์วงแคลช"[29] และยังได้ร่วมแคมเปญของไนกี้ กับโครงการ "เซียนหรือเกรียน" ที่ให้วัยรุ่นส่งคลิปวิดีโอบันทึกการเตะบอลตามที่ต่าง ๆ มาทางไนกี้ โดยแคลชร้องเพลง “ขอเจอสักที” ประกอบแคมเปญนี้[30] ซึ่งเรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ที่ได้คุยกับน้องๆ ซึ่งรักการเล่นฟุตบอล และน้องๆ พวกนี้ได้มีส่วนร่วมในการแต่งเพลงกับวงแคลชด้วย[31]
ภาพยนตร์โฆษณาไทยตัวอื่น เช่น กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ พิเชียร คูสมิทธิ์ กล่าวว่า "เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของเบอร์ดี้ โดยนำเหตุการณ์จริงมานำเสนอผ่านพรีเซนเตอร์ คือ แบงก์ วงแคลช ซึ่งถือเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่มีความพยายามจนประสบความสำเร็จ"[32] รวมถึงภาพยนตร์โฆษณาน้ำมันเครื่อง ปตท. ชุด พีทีที 4 ที ชาเลนเจอร์ ที่ได้ ฝน ชญาฎา ยุทธมานพ มาเป็นนางเอก โฆษณา
ธุรกิจและหนังสือ
นอกจากผลงานเพลงแล้ววงแคลชยังร่วมมือกันเปิดร้านอาหารที่มีชื่อว่า แคลงก์ (Clank) ที่บริเวณถนนศรีนครินทร์ หลังห้างซีคอนสแควร์[2] ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมกับขันเงิน และเดย์ ศิลปินจากวงไทยเทเนี่ยม[33] เป็นร้านอาหารกึ่งผับ และได้แถลงข่าวเปิดตัวผลงานพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มแรกของแคลชชื่อ ดาร์คโน้ตสตูดิโอ (Dark Note Studio) ที่จะกล่าวถึงแง่มุมต่าง ๆ ของสมาชิกแต่ละคน[34]
สมาชิก
- ปรีติ บารมีอนันต์ (แบงก์) ร้องนำ
- คชภัค ผลธนโชติ (พล) กีตาร์ ชื่อเดิมคือ ธนะพล ฤกษ์สมผุส
- ฐาปนา ณ บางช้าง (แฮ็คส์) กีตาร์
- สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ (สุ่ม) เบส
- อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (ยักษ์) กลองชุด
ผลงาน
ผลงานเพลง
สตูดิโออัลบั้ม
|
อัลบั้มรวมเพลงและอัลบั้มพิเศษ
|
คอนเสิร์ต
ลำดับ | ชื่อคอนเสิร์ต | วันแสดง | รูปแบบ/ชื่อสื่อบันทึกการแสดง |
---|---|---|---|
1. | ลิตเติลร็อกโปรเจกต์ร็อกไซส์เอสคอนเสิร์ตอินฟรีดอมฟันเดย์ (Little Rock Project Rock Size S Concert In Freedom Funday)/small> |
22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 | วีซีดี: ร็อกไซส์เอสคอนเสิร์ต |
2. | แพ็กโฟร์ฟรีดอมโรแมนติกร็อกคอนเสิร์ต (Pack 4 Freedom Romantic Rock Concert) |
27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 | วีซีดี: แพ็กโฟร์ฟรีดอมโรแมนติกร็อกคอนเสิร์ต |
3. | ซีดไลฟ์คอนเสิร์ตเฟิสต์แคลช (Seed Live Concert First Clash) |
11 มีนาคม พ.ศ. 2549 | วีซีดี: ซีดไลฟ์คอนเสิร์ตเฟิสต์แคลช |
4. | แคลชอาร์มีร็อกคอนเสิร์ต (Clash Army Rock Concert) |
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 | วีซีดี, ดีวีดี: แคลชอาร์มีร็อกคอนเสิร์ต |
5. | แมลงร็อกเดย์คอนเสิร์ตครั้งที่ 4 ร็อกมอนสเตอร์ (Malang Rock Day Concert #4: Rock Monster) |
28 กันยายน พ.ศ. 2551 | |
6. | แคลชอาร์มีร็อกคอนเสิร์ตครั้งที่ 2 สงครามรัก บนดนตรีร็อก | 4 เมษายน พ.ศ. 2552 | |
7. | แคลช รีเบิร์ธ เดอะไฟนอล คอนเสิร์ต | 30 เมษายน พ.ศ. 2554 |
ซิงเกิลพิเศษ
|
|
อื่น ๆ
- ภาพยนตร์เรื่อง พันธุ์เอ็กซ์เด็กสุดขั้ว' (พ.ศ. 2547) (แบงค์)
- พ็อคเก็ตบุ๊ค A Clash Rockumentory: DarkNote Studio (พ.ศ. 2551)
- ภาพยนตร์เรื่อง ท้าชน (พ.ศ. 2552) (แบงค์)
รางวัลที่เคยได้รับ
- รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย (พล แฮ็ค สุ่ม ยักษ์) [1]
- รองชนะเลิศอันดับ 1 Hot Wave Music Awards # 3 ปี 2541 [1]
- นักร้องนำยอดเยี่ยม (แบงค์) [1]
- สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2544 สาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยม ได้แก่เพลง Love Scene [35]
- สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 17 ประจำปี 2547 สาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยม ได้แก่เพลง เมืองคนเหล็ก 2004 [36]
- สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2548 สาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยม ได้แก่เพลง Emotion [37]
- ปี พ.ศ. 2547 ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในฐานะแกนนำในการรณรงค์เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาโรคเอดส์ โดยได้รับมอบเข็มกลัดและตราสัญลักษณ์การประชุมรูปช้างเผือก 3 เชือก (แบงก์)
- รางวัลจากแชนแนล วี ไทยแลนด์ มิวสิกวิดีโอ อวอร์ดส #4 สาขาศิลปินไทยกลุ่มยอดนิยม ซึ่งตัดสินโดยคะแนนโหวตจากประชาชนทั่วไป[38]
- Seed Awards ประจำปี 2005 สาขา อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี ได้แก่อัลบั้ม Emotion และสาขารางวัลมิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี ได้แก่มิวสิกวิดีโอเพลงไฟรัก กำกับโดย ณัฐพล มุขขันธ์ และชาติชาย วรเพียรกุล[39][40]
- Seed Awards ประจำปี 2006 สาขา อัลบั้มร็อกยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี ได้แก่อัลบั้ม Crashing
- การประกาศยกย่องให้เป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ประจำปี 2549 จาก สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในงาน “วันแม่แห่งชาติ” พ.ศ. 2549 ณ สวนอัมพร (แบงค์) [24]
- รางวัลหนึ่งในเพลงฮิตที่สุดแห่งปีจากงาน Virgin Hitz Awards 2007 ได้แก่เพลง ขอเจ็บแทน ยิ้มเข้าไว้ และ มือที่ไร้ไออุ่น[41]
- สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2551 สาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยม ได้แก่เพลง ชีวิตไม่มีหัวใจ [42]
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของวงแคลช แคลช
- Hi5 อย่างเป็นทางการของ Clash
- Facebook ทางการของ Clash
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 http://guitar.kaidown.com/Artist-History/Clash.aspx
- ↑ 2.0 2.1 ร้าน " Clank " ถนนศรีนครินทร์ ( หลังซีคอนสแควร์ )
- ↑ เพลงก่อนดัง วง Clash ตอนประกวด HotWave
- ↑ สยามโซน อัลบั้ม One เรียกข้อมูลวันที่ 14 มกราคม 2544
- ↑ 5.0 5.1 กูเกิลกูรู ประวัติแคลช (Clash) เรียกข้อมูลวันที่ 14 มกราคม 2554
- ↑ 6.0 6.1 สยามโซน อัลบั้ม Soundshake เรียกข้อมูลวันที่ 15 มกราคม 2554
- ↑ วีซีดี/ดีวีดี บันทึกการแสดงคอนเสิร์ต Seed Live Concert First Clash
- ↑ virginradiothailand.com Clash:Music Virgin]
- ↑ exteen.com ประวัติความเป็นมาวงแคลช เรียกข้อมูลวันที่ 15 มกราคม 2554
- ↑ tongchaivillage.blogspot.com เพลง : นางฟ้าคนเดิม - Clash (ละคร สะดุดรัก) เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554
- ↑ SEED LIVE CONCERT : FIRST CLASH
- ↑ ยักษ์วงแคลชซิ่งบิ๊กไบค์คว่ำ
- ↑ "ยักษ์" วงแคลช ซิ่งมอเตอร์ไซค์แหกโค้ง
- ↑ Clash Army Rock Concert แคลชอาร์มี่ร็อกคอนเสิร์ต
- ↑ 5 หนุ่ม แคลช ตอกย้ำร็อกไม่มีวันตายด้วย Rock Of Ages
- ↑ http://hotwave.fm/master/showpow_08.html
- ↑ เปิดตัว "Rock of Ages" สุดเซอร์ไพรส์ "แคลช" ขนมิวสิกฯกระแทกใจคอร็อกแบบไม่อั้น
- ↑ inside.gmember.com Clash ดีเดย์!! เตรียมปล่อย 'ลางสังหรณ์' เอ็มวีตัวใหม่ 17 พ.ค. นี้ เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554
- ↑ thaimusicstory.com แคลช (Clash) เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554
- ↑ clipmass.com ปิด ตำนาน Clash ยุบวงแล้ว !!! และMVสุดท้ายตัวเต็ม เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554
- ↑ 21.0 21.1 inside.gmember.com 'Clash' แถลง 'จบ' ด้วยดี ยัน ไม่ได้ทะเลาะ!! เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554
- ↑ แฟนช็อค “แคลช” ประกาศแยกวง ปิดตำนานร็อก
- ↑ 23.0 23.1 fws.cc ประวัติความเป็นมาวงแคลช เรียกข้อมูลวันที่ 16 มกราคม 2554
- ↑ 24.0 24.1 ‘แบงค์’ ชีวิตผกผัน ‘รวยแล้วตกต่ำ’ ‘คุณแม่’ ฝันเป็นจริง ‘ลูกยอดกตัญญู’
- ↑ 10 เพลงในอัลบั้ม MAMAKISS ในชีวิตของสาว TINA
- ↑ 'CLASH' Feat.'เบิร์ด' Feat. 'อ้อมกอดจากดวงดาว' สื่อแทนความห่วงใยถึงแฟนเพลง
- ↑ “มาช่า” เต็มที่ “Open Heart Concert”
- ↑ ไทยเทเนี่ยมระเบิดความมันส์ ถล่ม บีอีซีเทโร ฮอล์
- ↑ วัฒนะชัย ยะนินทร ,บิดสองล้อ เจาะเทรนดี้สร้างแบรนด์ Positioning Magazine กรกฎาคม 2550
- ↑ เซียนหรือเกรียน ? แคมเปญล้อม “คลิป” Positioning Magazine ตุลาคม 2550
- ↑ ไนกี้ ท้าโจ๋ดวลแข้งวง แคลช พิสูจน์ เซียนหรือเกรียน
- ↑ เบอร์ดี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ทุ่มงบ 500 ล้านบาทจัดกิจกรรมด้านการตลาดพร้อมมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์
- ↑ CLANKBAR STORY
- ↑ 5 หนุ่มวง "แคลช" เมาท์กระจาย แบบหมดเปลือก แถมเผยความลับในพ็อกเก็ตบุ๊กส่วนตัว "Dark Room Studio"
- ↑ ผลการตัดสินรางวัล สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2544
- ↑ ผลการตัดสินรางวัล สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 17 ประจำปี 2547
- ↑ ผลการตัดสินรางวัล สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2548
- ↑ ผลรางวัล แชนแนล วี ไทยแลนด์ มิวสิกวิดีโอ อวอร์ดส #4
- ↑ ประกาศผลรางวัลสุดซี้ด Seed Awards ประจำปี 2005
- ↑ บอดี้สแลม, แคลช, โปเตโต้ คว้ารางวัล Seed Awards
- ↑ เต็มอิ่มกับทัพศิลปินในงาน เวอร์จิ้น ฮิตซ์ อวอร์ดส์ 2007
- ↑ ผลการตัดสินรางวัล สีสัน อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2551