ซีอุย
ซีอุย | |
---|---|
細偉 | |
ศพของซีอุยภายในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน | |
เกิด | หลีอุย แซ่อึ้ง (黃利輝) พ.ศ. 2470 ซัวเถา สาธารณรัฐจีน |
เสียชีวิต | 16 กันยายน พ.ศ. 2502 (32 ปี) เรือนจำกลางบางขวาง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย |
สุสาน | พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน (จนถึงปี 2563) |
สัญชาติ | จีน |
อาชีพ | รับจ้าง |
มีชื่อเสียงจาก | ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องและกินเนื้อมนุษย์ |
สถานะทางคดี | ถูกประหารชีวิต |
บิดามารดา | อึ้งฮุนฮ้อ อึ้งไป๋ติ้ง |
พิพากษาลงโทษฐาน | ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย (ปี 2501) |
บทลงโทษ | ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิง |
รายละเอียด | |
ผู้เสียหาย | สมบุญ บุญยกาญจน์, 6 ปี |
วันที่ | 27 มกราคม พ.ศ. 2501 15–16 นาฬิกา (GMT+07:00) |
ประเทศ | ประเทศไทย |
รัฐ | จังหวัดระยอง |
ตำแหน่ง | ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง |
ตาย | 1 |
อาวุธ | มีด |
วันที่ถูกจับ | 27 มกราคม พ.ศ. 2501 |
จำคุกที่ | เรือนจำกลางบางขวาง |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สาธารณรัฐจีน |
ชั้นยศ | พลทหาร |
การยุทธ์ | สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง |
ซีอุย (จีน: 細偉; พินอิน: Xì wěi; พ.ศ. 2470 – 16 กันยายน พ.ศ. 2502) เป็นชื่อของชาวจีนที่ถูกประหารชีวิตฐานฆ่าเด็ก เขาถูกจับกุมฐานฆ่าเด็กชายสมบูรณ์ บุญยกาญจน์ที่จังหวัดระยองในปี 2501 ต่อมาตำรวจสืบสวนจนได้คำรับสารภาพจากซีอุยว่าก่อคดีอีกอย่างน้อย 6 คดีในช่วงปี พ.ศ. 2497–2501 แบ่งเป็นที่ประจวบคีรีขันธ์ 4 คดี กรุงเทพมหานครและนครปฐมแห่งละ 1 คดี ศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตเฉพาะคดีฆ่าเด็กชายสมบูรณ์บุญยกาญจน์ อย่างไรก็ดี สื่อมวลชนในขณะนั้นเขียนว่าศพในคดีที่ซีอุยรับสารภาพมีการหั่นศพและอวัยวะภายในหายไป ทำให้มีข่าวว่าซีอุยเป็นมนุษย์กินคน ต่อมาผู้ใหญ่มักขู่เด็กว่า "ซีอุยจะมากินตับ" เพื่อให้อยู่ในโอวาท[2]
ศพของซีอุยเดิมถูกเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช ภายในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน ซึ่งมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "พิพิธภัณฑ์ซีอุย"[3][2] มีการนำชีวิตของเขามาสร้างเป็นละครโทรทัศน์รวมถึงภาพยนตร์ในภายหลัง พ.ศ. 2562 มีกระแสเรียกร้องทางอินเทอร์เน็ตให้มีการนำศพซีอุยออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพราะเห็นว่าซีอุยไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงของเหยื่อทั้งหมด[4] รวมถึงมีการรณรงค์ทาง change.org เพื่อนำศพออกจากที่จัดแสดง[5] โรงพยาบาลศิริราชได้ประกาศตามหาญาติซีอุยเพื่อจัดการศพ[6] สุดท้ายมีการฌาปณกิจใน พ.ศ. 2563[7]
ประวัติ
[แก้]ชีวประวัติของซีอุยได้มาจากคำให้การต่อตำรวจผ่านล่ามหลังถูกจับในคดีฆ่าเด็กเมื่อปี 2501[1]
ปฐมวัย
[แก้]ซีอุย มีชื่อจริงว่า หลีอุย แซ่อึ้ง (จีน: 黃利輝; พินอิน: Huáng Lìhuī) แต่คนไทยเรียกเพี้ยนเป็น ซีอุย เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2470 ตำบลฮุนไหล จังหวัดซัวเถา ประเทศจีน[8] โดยเป็นลูกคนสุดท้องจากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คน ของนายฮุนฮ้อกับนางไป๋ติ้ง แซ่อึ้ง[8] ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ และมีฐานะยากจน เขาตระเวนตามที่ต่าง ๆ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง มักถูกเด็กด้วยกันทำร้ายและเอาเปรียบจนเกิดความแค้นในใจ[8] หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ลงว่า ซีอุยวัยเด็กไปพบกับนักบวชรูปหนึ่งที่แนะนำให้เขากินหัวใจและตับมนุษย์เพื่อให้มีพละกำลัง ทำให้เขาหันมาฆ่าสัตว์เพื่อกินเนื้อดิบโดยเฉพาะเครื่องในนับแต่นั้น[8]
ซีอุยวัย 18 ปี ถูกเกณท์ทหารที่มณฑลเอ้หมึง ในสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง ระหว่างสงครามมีครั้งหนึ่งซีอุยตกอยู่ในวงล้อมญี่ปุ่นพร้อมกับทหารจีนคนอื่น เมื่อเสบียงเริ่มหมดลง ซีอุยใช้มีดกรีดศพเพื่อนทหารเพื่อควักหัวใจ ตับและไส้ออกมาต้มกิน[8] หลังสงครามยุติ บ้างว่าซีอุยกลับบ้านเกิดที่ซัวเถา แต่ด้วยมีฐานะยากจน จึงพยายามดิ้นร้นเพื่อย้ายเข้ามาทำงานในประเทศไทย บ้างว่าต่อมาเพื่อนทหารรุ่นเดียวกันชวนซีอุยสมัครเข้าทำงานกับบริษัทเดินเรือทะเล ทำได้อยู่ปีเศษ ก็ลอบหนีเข้าประเทศไทยตามเพื่อน[9] บ้างก็ว่าซีอุยถูกเกณฑ์ไปรบกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีก จึงหนีทหารเข้ามาในประเทศไทย[10]
ย้ายเข้าประเทศไทย
[แก้]ก่อนจะหนีเข้ามาประเทศไทย ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2489 ทางเรือโปรดิว[8] เมื่อซีอุยขึ้นฝั่งประเทศไทย ก็ถูกกักตัวอยู่ที่กองตรวจคนเข้าเมือง 10 วัน ก่อนที่นายทินกี่ แซ่อึ้ง จะมารับรองออกไปได้[8] จากนั้นก็พักอยู่จังหวัดพระนครที่โรงแรมเทียนจิน ตรอกเทียนกัวเทียน ประมาณ 5-6 วัน ก่อนจะเดินทางไปทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรงกับคำให้การวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2501 ยืนยันว่า "มาอยู่เมืองไทยครั้งแรกที่ตำบลทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์"[8] หลังจากนั้นซีอุยก็เดินทางไปมาทำงานรับจ้างอยู่หลายที่ ก็ย้ายที่อยู่ไปไม่มีหลักแหล่ง และยากที่จะจัดลำดับได้เนื่องจากคำให้การแต่ละครั้ง ซีอุยระบุชื่อเจ้าของบ้านที่ไปพักไม่ค่อยตรงกัน และมักจะเป็นการอยู่ชั่วคราวสั้นๆ ขึ้นอยู่กับอายุงาน[8]
ในระยะ 8 ปีแรกที่พำนักในประเทศไทย ซีอุยไม่ได้ก่อคดีร้ายแรงใด ๆ นอกจากคดีทะเลาะวิวาทบ้างเป็นบางครั้ง แต่เงื่อนงำที่สำคัญก็คือ เส้นทางและแหล่งพักพิงของซีอุย ตรงสถานที่เกิดเหตุของคดีทั้ง 7 อย่างเหลือเชื่อ คือ ประจวบคีรีขันธ์ 5 คดี กรุงเทพฯ นครปฐม และระยอง แห่งละ 1 คดี[8]
การก่อคดีฆาตกรรม
[แก้]ซีอุยถูกจับขณะกำลังพยายามเผาทำลายศพเด็กชายสมบุญ บุญยกาญจน์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2501 นาวา บิดาของเด็กชายสมบุญ เคยให้สัมภาษณ์ว่า "ตอนเห็นศพลูกชายนอนจมกองเลือดอยู่อย่างน่าอเนจอนาถ มีฟางกลบยังไม่ทั่วตัว เท่าที่รู้เขากำลังจะเผาลูกชายผม [...] ผมระงับอารมณ์ไม่อยู่ ผมเข้าไปรุมสกรัมฆาตกรโดยไม่ฟังเสียงอะไรทั้งสิ้น ถึงขนาดที่ว่ารองเท้าบูตยางเต็มไปด้วยเลือด"[8]
ซีอุยถูกจับได้พร้อมกับหลักฐานอวัยวะในถ้วยชาม แต่แพทย์ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นของมนุษย์ หลังถูกจับได้ สื่อเผยแพร่ภาพเขาหาวอ้าปากกว้างโดยนำไปสร้างความสยดสยอง[11]
บันทึกคำให้การ
[แก้]ซีอุยถูกจับในคดีเด็กชายสมบุญ ที่ระยอง คดีดังกล่าวถูกเชื่อมโยงเข้าคดีเก่าอีก 2 คดี คือ คดีฆาตกรรมที่สถานีรถไฟสวนจิตรลดา เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2489 ที่จังหวัดพระนคร และคดีฆาตกรรมที่องค์พระปฐมเจดีย์ ที่นครปฐม เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2500 โดยรูปแบบและการฆาตกรรมลักษณะเดียวกัน ตำรวจจึงมุ่งเป้าไปที่ซีอุย ซีอุยถูกนำตัวมาสอบสวนตั้งแต่คืนวันที่ 27 มกราคม 2501 มีการบันทึกคำเป็นหลักฐานลงในวันที่ 30 มกราคม เนื่องจากซีอุยพูดและอ่านเขียนไทยไม่ได้การสอบสวนแต่ละครั้งจึงมีล่ามจีนอยู่เสมอ เนื้อหาของบันทึกปากคำฉบับวันที่ 30 มกราคม มี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ ยอมรับคดีที่ระยอง และปฏิเสธข้อกล่าวหาคดีพระนครและคดีนครปฐม ซีอุยยอมรับคดีที่ระยองว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรก[8] โดยกล่าวนัยว่า "ไม่เคยฆ่าคนเพื่อจะเอาตับและหัวใจมากินเลย"[12]
และคดีที่กรุงเทพ ซีอุยได้กล่าวทำนองว่า "ที่กรุงเทพฯ ข้าฯ เคยได้ยินคนพูดกันว่ามีคนฆ่าเด็กแล้วเอาสมอง เมื่อประมาณ ๑ ปีเศษๆ ขณะนั้น ข้าฯ พักอยู่จังหวัดพระนคร โดยอยู่บ้านนายบักเทียม แซ่ไล้ แต่ข้าฯ ไม่ได้ไปดู” และซีอุยยังให้การปฏิเสธในบันทึกปากคำครั้งนี้ “การฆ่าเด็กรายนี้ ข้าฯ ไม่ได้ทำร้าย ใครทำร้าย ข้าฯ ไม่ทราบ… " และ "ในการที่มีคนฆ่าเด็กแล้วผ่าท้องที่นครปฐมนั้นทราบข่าวเหมือนกัน โดยขณะนั้นอยู่ที่จังหวัดนครปฐม โดย ข้าฯ ค้างที่นครปฐม ๑ คืน [...] ได้ยินชาวบ้านพูดกัน แต่ไม่ได้ไปดูเพราะรอรถไฟด่วนจะกลับทับสะแก แต่ใครจะเป็นคนฆ่า ข้าฯ ไม่ทราบ…"[12]
รายชื่อผู้เสียหายที่รับสารภาพ
[แก้]ตำรวจได้คำรับสารภาพจากซีอุยในคดีฆ่าเด็กทั้งหมด 7 คน ดังนี้[9][12]
ที่ | ผู้เสียหาย | วันที่และสถานที่ | ลักษณะการทำร้าย |
---|---|---|---|
1 | เด็กหญิงบังอร ภมรสูตร | 8 เมษายน 2497 อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
ถูกเชือดคอ แต่รอดชีวิต |
2 | เด็กหญิงนิด แซ่ภู่ | 10 พฤษภาคม 2497 อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
ศพถูกชำแหละ อวัยวะภายในหายไป |
3 | เด็กหญิงลิ้มเฮียง แซ่เล้า | 20 มิถุนายน 2497 อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
ถูกเชือดคอ และถูกข่มขืนกระทำชำเรา |
4 | เด็กหญิงกำหงัน แซ่ลี้ | 27 ตุลาคม 2497 อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ |
ถูกเชือดคอ |
5 | เด็กหญิงลี่จู แซ่ตั้ง | 28 พฤศจิกายน 2497 อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร |
ศพถูกชำแหละ |
6 | เด็กหญิงซิ่วจู แซ่ตั้ง | 5 กุมภาพันธ์ 2500 อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม |
ศพถูกชำแหละ อวัยวะภายในหายไป |
7 | เด็กชายสมบุญ บุญยกาญจน์ | 27 มกราคม 2501 อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง |
ศพถูกชำแหละ ตับและหัวใจหายไป และพยายามอำพรางศพด้วยการเผา (ศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิต) |
อย่างไรก็ดี ศาลอุทธรณ์พิพากษาประหารชีวิตเฉพาะคดีฆ่าเด็กชายสมบุญ บุญยกาญจน์ ซึ่งซีอุยถูกจับได้ในที่เกิดเหตุเท่านั้น
การพิจารณาและคำพิพากษา
[แก้]เริ่มการพิจารณาคดีซีอุยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2501 เขารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา มีน้องของผู้เสียหายที่มีอายุ 6 ขวบให้การว่าเห็นเขาพาน้องสาวจากงานตรุษจีนในไชนาทาวน์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2497 ซึ่งเป็นคืนก่อนพบศพเธอ[1] การพิจารณาคดีเขากินเวลา 9 วัน ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเพราะจำเลยยอมรับสารภาพ แต่ตำรวจอุทธรณ์เพราะเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ[1] เขาจึงถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ประหารชีวิต ซีอุยถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2502 เวลา 6.13 น.[10] โดยเพชฌฆาตเพี้ยน คนแรงดี[13][14] และหลังจากถูกประหารชีวิต ศพของซีอุยถูกนำมาดองเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ภายในโรงพยาบาลศิริราชนับแต่นั้น
สิ่งสืบเนื่อง
[แก้]ร่างศพ
[แก้]ศาสตราจารย์นายแพทย์สงกรานต์ นิยมเสน หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ขอรับศพซีอุยมาผ่าตรวจสมอง ส่วนร่างถูกเก็บรักษาในลักษณะดองแห้งโดยการฉีดฟอร์มาลินเข้าหลอดเลือด แช่น้ำยารักษาทั้งร่างไว้ 1 ปี และทำการทาขี้ผึ้งทุก ๆ 2 ปี เพื่อป้องกันเชื้อรา ร่างของซีอุยยังถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช ("พิพิธภัณฑ์ซีอุย") หลังจากนั้นคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับมอบร่างนายซีอุยมาจัดแสดง โดยเขียนข้อความว่า "นายซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)"[10] ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์สรรใจ แสงวิเชียร อดีตหัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ไว้เมื่อปี พ.ศ. 2552 ว่า "ถ้าอาจารย์หมอสงกรานต์ไม่ขอมาไว้ที่นี่ ก็จะไม่มีใครทำบุญให้เขาเลย มาอยู่ที่นี่มีการทำบุญให้อาจารย์ใหญ่ทุกปี อวัยวะ ร่าง โครงกระดูกทุกชิ้นถือเป็นอาจารย์ใหญ่"[10]
วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 มีข่าวว่าโรงพยาบาลศิริราชปลดป้าย "มนุษย์กินคน" ออกไปแล้ว พร้อมทั้งเตรียมจัดทำบอร์ดให้ความรู้แก่สาธารณะเกี่ยวกับคดี[15] ด้านฟาโรห์ จักรภัทรานน เจ้าของเว็บไซต์ Change.org ที่รณรงค์เรื่องซีอุย ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้ฌาปณกิจร่าง แล้วอาจจะนำหุ่นขี้ผึ้งมาจัดแสดงแทน และมีความเห็นว่า "ไม่ได้ตัดสินว่าซีอุยไม่ได้เป็นมนุษย์กินคน แต่อยากให้ประชาชนที่มาอ่านข้อมูลได้ตัดสินเองว่าซีอุยเป็นมนุษย์กินคนหรือไม่"[16]
วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ทำพิธีฌาปนกิจร่างนายซีอุย แซ่อึ้ง[17][18] พร้อมกับร้อยเอก คง สุเพือน อดีตนายทหารผ่านศึกชาวกัมพูชาซึ่งถูกประหารชีวิตในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2545 จากคดีฆาตกรรมตัวประกันที่จับไปเรียกค่าไถ่ที่บริเวณป่าใกล้กับช่องโชคเมื่อปีพ.ศ. 2539 โดยร่างของทั้งสองถูกฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้ จังหวัดนนทบุรี[19]
วัฒนธรรมร่วมสมัย
[แก้]- กันตนานำมาสร้างละครโทรทัศน์ชื่อ ซีอุย ละครโทรทัศน์ออกอากาศในปี พ.ศ. 2527 ทางช่อง 5 โดยเทอดพร มโนไพบูลย์เป็นผู้รับบท เป็นการรื้อฟื้นความทรงจำของสังคม และเทอดพรถูกมองว่าเป็นตัวแทนของซีอุยในฐานะฆาตกรโรคจิต[10]
- แมทชิงโมชันพิกเจอส์นำมาสร้างภาพยนตร์เรื่อง ซีอุย ในปี 2547 ซึ่งได้ฉายในต่างประเทศด้วย มีโฆษณาในโปสเตอร์ว่า "ผีหรือคน" เป็นการเน้นย้ำการกินมนุษย์ของซีอุย[10]
รวมถึงในวงการมวยไทย มีนักมวยไทยใช้ชื่อ ซีอุย ส.สุนันท์ชัย ในการขึ้นชก[20]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 HE ATE CHILDREN: THE SERIAL KILLER WHO STILL TERRORIZES THAILAND TODAY Teeranai Charuvastra, News Chief - October 30, 2016
- ↑ 2.0 2.1 "สุดระทึก!!! เจอ "ซีอุย" คนกินตับ ตัวจริง ของจริง". ผู้จัดการออนไลน์. May 29, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-18. สืบค้นเมื่อ July 10, 2016.
- ↑ "สารคดีประวัติของ ซีอุย (In Thai)". ยูทูบ. October 27, 2012. สืบค้นเมื่อ July 10, 2016.
- ↑ ชาวเน็ตถก ‘ซีอุย’ อาจเป็น “แพะรับบาป” มนุษย์กินคน ล่ารายชื่อจัดการศพ-ลบตราบาป มติชนออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 14 พฤษภาคม 2562
- ↑ "ล่ารายชื่อนำร่าง "ซีอุย" ออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราช คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ล้างฉายามนุษย์กินคน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-14. สืบค้นเมื่อ 2019-05-14.
- ↑ อนุชิต ไกรวิจิตร (2 กรกฎาคม 2562). "โรงพยาบาลศิริราชเตรียมประกาศตามหาญาติ 'ซีอุย' เพื่อแนวทางจัดการร่างต่อไป". The Standard. สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ปิดตำนาน 61 ปี ตีตรา " ซีอุย มนุษย์กินคน"". ThaiPBS. 23 กรกฎาคม 2563. สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2563.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 8.00 8.01 8.02 8.03 8.04 8.05 8.06 8.07 8.08 8.09 8.10 8.11 ย้อนชีวิต "ซีอุย" ถูกรังแก กินตับเพื่อน เจอรุมสกรัม ฆาตกรรมโหด ฉบับตำนานไทย ไทยรัฐ สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2562
- ↑ 9.0 9.1 “ซีอุย” ฆาตกรวิปริต หรือ “แพะ”? เก็บถาวร 2019-05-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Springnews สืบค้นเมื่อ 14 พฤษภาคม 2019
- ↑ 10.0 10.1 10.2 10.3 10.4 10.5 ซีอุย : ความพยายามทวงคืนศักดิ์ศรีผู้ถูกศาลตัดสินและสังคมตราหน้าเป็น “มนุษย์กินคน” บีบีซีไทย สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2019
- ↑ นักประวัติศาสตร์โต้กระแส คืนศักดิ์ศรีให้ซีอุย “ฆาตกรคงเป็นแน่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด” ผู้จัดการออนไลน์ สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2562
- ↑ 12.0 12.1 12.2 "ซีอุย” มนุษย์กินคน หรือเหยื่อสังคม? ศิลปวัฒนธรรม ฉบับตุลาคม 2546
- ↑ เผาแล้วซีอุย ปิดตํานาน 60 ปี คดีกินคน "ทับสะแก" ขอทําบุญอุทิศทุกปี (คลิป)
- ↑ "รายชื่อเพชฌฆาตเรือนจำกลางบางขวาง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-05. สืบค้นเมื่อ 2022-08-06.
- ↑ รพ.ศิริราชปลดป้าย 'ซีอุย มนุษย์กินคน' คมชัดลึก สืบค้นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2562
- ↑ ปลดแล้ว ป้าย“มนุษย์กินคน” ฟาโรห์ ขอให้เผาร่าง "ซีอุย" ด้วย ไทยรัฐ สืบค้นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2562
- ↑ ปิดตำนานมนุษย์กินคน ราชทัณฑ์ทำพิธีเผาศพ ซีอุย แซ่อึ้ง workpointTODAY สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2563
- ↑ ปิดตำนาน 60 ปี มนุษย์กินคน ข่าวสยองขวัญ ซีอุย ไทยรัฐ สืบค้นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2562
- ↑ คุ้มครองสิทธิฯ เข้าร่วมงานบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจร่างของนายซีอุย แซ่อึ้ง และนายคง สุเพือน อดีตนักโทษประหาร[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ซีอุยหลั่งเลือดเชือดขวัญเมืองเดือดมวย 7 สี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-29. สืบค้นเมื่อ 2011-01-21.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่สิงหาคม 2024
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2470
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2501
- ฆาตกรต่อเนื่องชาวไทย
- บุคคลจากซัวเถา
- ชาวจีนในประเทศไทย
- ชาวจีนที่ถูกประหารชีวิต
- ชาวไทยที่ถูกประหารชีวิต
- ผู้ถูกประหารชีวิตในประเทศไทย
- ฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกประหารชีวิต
- มัมมี
- ทหารชาวจีนในสงครามโลกครั้งที่สอง
- ความสัมพันธ์จีน–ไทย