ข้ามไปเนื้อหา

โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 3 (ภาพยนตร์)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 3
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับJeff Fowler
เขียนบท
สร้างจากSonic the Hedgehog
โดย Sega[a]
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพBrandon Trost
ตัดต่อAl LeVine
ดนตรีประกอบJunkie XL
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่าย
  • Paramount Pictures (สหรัฐ)
  • โตโฮ (ญี่ปุ่น)
  • ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ยูไอพี) (ไทย)
วันฉาย
  • 20 ธันวาคม ค.ศ. 2024 (2024-12-20) (อเมริกา)
  • 27 ธันวาคม ค.ศ. 2024 (2024-12-27) (ญี่ปุ่น)
  • 25 ธันวาคม ค.ศ. 2024 (2024-12-25) (ประเทศไทย)
ความยาว108 นาที
ประเทศ
  • United States
  • Japan
ภาษาEnglish
ทุนสร้าง122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน235 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 3 (อังกฤษ: Sonic the Hedgehog 3) เป็น ภาพยนตร์ตลกแอ็คชั่นผจญภัย ที่กำลังเตรียมเข้าฉาย โดยเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย Jeff Fowler และเขียนบทโดย Pat Casey, Josh Miller และ John Whittington ซึ่งมีฐานจากแฟรนไชส์วิดีโอเกมที่เผยแพร่โดยเซกา ภาคต่อลำดับที่ 3 ของ โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก (2020) และ โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2 (2022) และภาคต่อโดยตรงของ นัคเคิลส์ รวมถึงเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 3 แต่เป็นสื่ออันดับที่ 4 ในภาพยนตร์ชุดโซนิค นำแสดงโดย เบน ชวาร์ตซ์ , เจมส์ มาร์สเดน, ทิกา ซัมป์เตอร์, นาตาชา รอธเวลล์, เชมาร์ มัวร์, อดัม พาลลี่, คอลลีน โอ'ชอเนสซีย์, อิดริส เอลบา และ ลี มาจโดป ที่กลับมารับบทเดิมจากภาคที่แล้ว สมทบด้วยนักแสดงชุดใหม่ คีอานู รีฟส์, คริสเตน ริตเตอร์

แผนการสำหรับภาพยนตร์ โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 3 ได้รับการประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ระหว่างงานนักลงทุนของ พาราเมาต์โกลบอล ก่อนที่จะออกฉายภาพยนตร์ภาคที่สอง การถ่ายทำเริ่มในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 และได้ปิดกล้องในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 โดยภาพยนตร์ได้แรงบันดาลใจและดัดแปลงจากเกม โซนิค แอดเวนเจอร์ 2 และ ชาโดว์ เดอะ เฮดจ์ฮ็อก

โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 3 มีกำหนดเข้าฉายโดย พาราเมาต์พิกเจอส์ ในสหรัฐอเมริกาวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ไม่เหมือนภาพยนตร์สองเรื่องก่อน ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกล้นหลามถึงฉากแอ็คชั่น ความใส่ใจในองค์ประกอบต้นฉบับ ความเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ การแสดง ทั้งนักแสดงและนักพากย์ โดยเฉพาะ จิม แคร์รีย์ และ คีอานู รีฟส์ได้รับการยกย่องว่าเป็นส่วนที่ยอดเยี่ยมในภาพยนตร์ ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จในการเข้าฉาย ทำรายได้ทั่วโลก 235 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำรายได้เปิดตัวในอเมริกาเป็นรองภาพยนตร์ก่อน

โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 4 ภาพยนตร์ภาคต่อลำดับที่สี่ต่อจากไตรภาคดัดแปลงจากวิดีโอเกมส์ โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก ซีดี และ โซนิคฮีโร่ส์ อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา มีกำหนดฉายปี 2027 พร้อมซีรีส์ภาคแยกของชาโดว์ ชาโดว์ เดอะ เฮ็ดจ์ฮ็อก และซีรีส์ภาคแยก ดิ เคออติกซ์ ตัวละครสมทบจากวิดีโอเกม กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

เรื่องย่อ

[แก้]

ปี 2024 หกเดือนหลังจากเหตุการณ์โรบอทนิกส์ถล่มกรีนฮิลล์และเชื่อว่าได้เสียชีวิต ณ อ่าวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของเรือนจำกลางทะเลที่แช่แข็งชาโดว์ไว้โดยองค์กร G.U.N เกิดถูกแทรกแซงและทำให้ชาโดว์ เดอะ เฮดจ์ฮ็อกถูกปลุกขึ้นมาอาละวาดและหนีออกมาที่กรุงโตเกียว พร้อมปฏิญาณที่จะตามหามาเรียและที่ที่ตัวเองจากมา ก่อนจะเล่นงานเจ้าหน้าที่และชาวเมือง ทำให้ย่านชิบูยะเสียหายและตกอยู่ในความวุ่นวาย

อีกด้านนึงที่กรีนฮิลล์ มอนทาน่า ครอบครัววะชาวสกีประกอบด้วย ทอม แมดดี้ โซนิค เทลส์ และนัคเคิลส์กำลังเฉลิมฉลองวันเหยียบโลกของโซนิค ทอมได้บอกกับโซนิคว่าตัวตนที่แท้จริงคือสิ่งที่อยู่ในใจ ไม่นานหลังตั้งแคมป์ เจ้าหน้าที่ G.U.N นำโดย ผู้อำนวยการร็อคเวลล์ ได้แจ้งให้พวกเขาทราบว่า ผู้บัญชาการวอลเตอส์ต้องการให้โซนิคและเพื่อน ๆ เดินทางไปโตเกียวเพื่อหยุดยั้งชาโดว์ เมื่อไปถึงชาโดว์กลับเล่นงานพวกเขาจนพ่ายแพ้ และทำให้ไฟฟ้าทั้งโตเกียวดับไปชั่วขณะ

ความจริงเปิดเผยว่า องค์กร G.U.N เป็นองค์กรวิจัยลับรัฐบาลที่ก่อตั้งมานานตั้งแต่ก่อนโซนิคจะมาที่โลกในปี 1974 โดยได้เก็บกู้อุกกาบาตจาก รัฐโอคลาโฮมา ที่บรรจุชาโดว์ไว้ ชาโดว์ถูกคุ้มกันและทดลองโดยนักวิทยาศาสตร์จนเกิดระเบิดขึ้นและมีคนเสียชีวิต ทำให้ชาโดว์นั้นถูกจับแช่แข็งเป็นเวลานานกว่า 5 ทศวรรษ ไม่นานผู้บัญชาการวอลเตอส์ก็โดนเอกโดรน หุ่นยนต์ของโรบอทนิกสังหาร ก่อนจะสิ้นใจ เขาได้มอบกุญแจ 1 ใน 2 ที่จะนำไปสู่อาวุธอันทรงพลังที่รัฐบาลเก็บซ่อนที่เขาไว้ใจให้โซนิคเก็บรักษามันเอาไว้ โซนิคและพรรคพวกได้รับการช่วยเหลือจาก สโตน ที่นำทางพวกเขาไปหาโรบอทนิกที่ยังมีชีวิตอยู่หลังได้รับการช่วยเหลือจากซากหุ่นเดดเอ้กโดยสโตน ในขณะที่ผู้อำนวยการร็อคเวลล์ได้ประกาศจับโซนิคและผองเพื่อนหลังพบร่างที่ไร้ลมหายใจของวอลเตอส์

โซนิคและเพื่อนจำยอมร่วมมือกับโรบอทนิกหลังเขาพบว่ามีการเคลื่อนไหวของคนคล้าย ๆ กัน ทั้งหมดเดินทางไปที่องค์กร G.U.N ที่ถูกทิ้งร้างในภูเขาลึก ที่ชาโดว์รำลึกความหลังของมาเรีย เด็กสาวผู้ที่เขาเป็นเพื่อนและได้เรียนรู้ถึงโลกมนุษย์ในแง่ดี แต่เธอเสียชีวิตไป ก่อนที่เขาจะถูกจับแช่แข็งหลังการการระเบิดครั้งใหญ่ เจอรัลด์ โรบอทนิก ปู่ของโรบอทนิกปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าและเสนอแผนการล้างแค้นให้กับชาโดว์และบงการให้โรบอทนิกหักหลังโซนิคและปล่อยให้ถูกหลุมดำ โชคดีที่แหวนทะลุมิติพาพวกเขาหลบหนีออกมาได้

โซนิคและเพื่อนได้วางแผนที่จะบุกไปเอากุญแจอันที่ 2 ในศูนย์บัญชาการของ G.U.N. ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วยความช่วยเหลือของทอมและแมดดี้ พวกเขาวางภารกิจเข้าไปทำลายม่านพลังงานแรงสูงที่จะทำให้โซนิคสามารถเข้าไปขโมยกุญแจได้ แต่แผนผิดพลาดเพราะโรบอทนิกได้นำหน้าไปหนึ่งก้าว ก่อนที่ผู้อำนวยการร็อคเวลล์จะวางแผนซ้อนตลบหลังทั้งคู่ ทอม แมดดี้และเทลส์เกือบจะโดนหินทับใส่ แต่โซนิคช่วยชีวิตไว้ได้ แต่ผู้อำนวยการร็อคเวลล์ได้กุญแจไป ทอมตัดสินใจใช้โฮโลแกรมที่เทลส์สร้างขึ้นแปลงกายเป็นวอลเตอร์และเอากุญแจมาได้ แต่ถูกชาโดว์ที่มีความแค้นกับตัววอลเตอร์ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสหมดสติ โซนิคเสียใจมาก แมดดี้ตามไปดูแลอาการทอมที่โรงพยาบาลและปลอบโซนิคว่าจงตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูก ขณะที่โรบอทนิกและเจอรัลด์ พร้อมชาโดว์สามารถนำ อีคลิปแคนอน ปืนใหญ่ที่มีพลังทำลายล้างขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ โดยได้ทิ้งสโตนที่พยายามห้ามเพราะรู้ถึงแผนการเลวร้ายที่ชาโดว์พูดออกมา โซนิคแค้นชาโดว์และยอมผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับนัคเคิลส์ว่าจะไม่ใช้มรกตหายนะ โดยที่เทลส์ได้แต่มองด้วยความเสียใจ

โซนิคเดินทางมาหาเวดที่เป็นคนดูแลมรกตหายนะไว้ และแปลงร่างเป็นซูเปอร์โซนิคไปโจมตีชาโดว์และโรบอทนิก แต่ชาโดว์กลับสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ชาโดว์เช่นกัน ทั้งสองได้เข้าห้ำหั่น โซนิคเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำกระทั่งชาโดว์พูดถึงทอมทำให้โซนิคเลือดขึ้นหน้าทำให้ชาโดว์พ่ายแพ้ ชาโดว์ขอให้โซนิคล้างแค้น แต่โซนิคที่นึกถึงคำของทอม ปล่อยวางความแค้น ทั้งสองพูดปลอบประโลมถึงความสูญเสียที่เคยเจอ ก่อนจะตัดสินใจร่วมมือกันไปถล่ม อีคลิปแคนอน ฝั่งโรบอทนิกได้รู้แผนการทำลายล้างโลก เขาตัดสินใจหักหลังเจอรัลด์ที่ตั้งใจจะทำลายล้างมนุษย์ที่ทำให้มาเรีย หลานสาวของเขาโดนลูกหลงจากการที่วอลเตอร์พยายามไปห้ามไม่ให้ทหารยิงปืนใส่ไปโดนระเบิด โรบอทนิกถูกเจอรัลด์เล่นงานจนเกือบตกลงสู่อวกาศ ถ้าไม่ใช่เพราะเทลส์ นัคเคิลส์ตามมาช่วยและสังหารเจอรัลด์โดยการใช้ขนซูเปอร์โซนิคจิ้มก้นให้ไปชนม่านพลังงานปืนใหญ่จนร่างสลาย

ทว่าเวลานับถอยหลังได้หมดลงปืนใหญ่ได้ยิงลำแสงสู่โลก แต่โซนิคและชาโดว์ใช้พลังรับไว้ พร้อมทั้งเทลส์และนัคเคิลส์พยายามจะช่วยโรบอทนิกหันทิศทางปืนใหญ่ได้สำเร็จแต่ทำให้ดวงจันทร์เสียหาย โซนิคหมดพลังกลับคืนร่างและร่วงหล่นสู่ชั้นบรรยากาศ เทลส์รีบบินตามลงไปช่วย แต่โดนแรงดันทำให้หมดสติ นัคเคิลส์รีบใช้แหวนร่อนตามลงมาช่วยพาทั้งสองไปยังที่ปลอดภัยอย่างไร่ข้าวโพด ชาโดว์ขอให้โรบอทนิกยื้อสนามพลังไว้แล้วเขาจะทำให้มันระเบิดในตัวเอง โดยไม่กระทบต่อโลกที่เขาและมาเรียรัก โรบอทนิกยอมรับชะตากรรมและเข้าใจแล้วว่าครอบครัวไม่สำคัญเท่ากับมีคนที่ห่วงใย นั่นคือ สโตน เขาส่งสาส์นบอกความในใจถึงมือขวาคนสนิท ก่อนจะระเบิดหายไปพร้อมกับชาโดว์ โซนิคขอโทษเทลส์และนัคเคิลส์ที่ไม่ยอมฟังทั้งสอง ทั้งหมดให้อภัยแล้วรีบไปหาทอมกับแมดดี้ สโตนหายตัวไปจากสายตาของสาธารณชน

หลายเดือนผ่านไป ทอมที่หายดีแต่ยังต้องเข้าเฝือก พร้อมทั้งแมดดี้ได้จัดการแข่งขันให้ทั้งโซนิค เทลส์ นัคเคิลส์ เรียนรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นครอบครัวของพวกเขานั้นแข็งแกร่งและไม่มีอะไรมาแยกจากได้ด้วยความรัก ก่อนจะมุ่งสู่เส้นชัยไปด้วยกัน ทว่า โซนิคกลับวิ่งเลยจนมาถึงที่สวนสาธารณะในนครนิวยอร์ก ที่ซึ่งเขาถูกโจมตีโดย เมตัลโซนิค หุ่นยนต์อัจฉริยะที่มีพลังเหมือนกับเขาทุกอย่าง มันได้เอากองทัพร่างโคลนโจมตีโซนิคที่ไม่ทันตั้งตัว แต่กลับมีค้อนพลังงาน "พิโกะพิโกะ" พุ่งเข้าหากองทัพจนหมด ก่อนจะกลับสู่มือของร่างในผ้าคลุมและช่วยทุบเมทัลโซนิคไว้ได้ เมื่อโซนิคถามว่าเป็นใคร เม่นสีชมพูได้เผยตัวในผ้าคลุมพร้อมมอบรอยยิ้มให้โซนิค

ณ สถานที่ไม่ทราบแห่ง ชาโดว์เก็บแหวนคุมพลังจากหลุมอุกกาบาต เผยว่าเขายังมีชีวิตรอดจากการระเบิดของอีคลิปแคนอน

นักแสดง

[แก้]

เสียงพากย์

[แก้]
  • เบน ชวาร์ตซ์ รับบทเป็น โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก: เม่นสีน้ำเงินที่เป็นเหมือนมนุษย์ แต่ความมั่นใจเปี่ยมล้น ซึ่งสามารถวิ่งด้วยความเร็วเหนือเสียงได้ [3]
  • คอลลีน โอ'ชอเนสซีย์ รับบทเป็น ไมล์ส "เทลส์" พราวเออร์: สุนัขจิ้งจอกสีเหลืองส้มที่เป็นมนุษย์ซึ่งสามารถบินได้ด้วยสองหางของเขา เทลส์เป็นอัจฉริยะผู้ถ่อมตัว ผู้คิดค้นอุปกรณ์สำหรับสถานที่และการต่อสู้
  • อิดริส เอลบา รับบทเป็น นัคเคิลส์ ดิอีคิดนา: นักรบอีคิดน่าสีแดงที่เป็นมนุษย์ซึ่งมี พละกำลังมหาศาล เขาเป็นคนบูดบึ้ง จริงจัง ก้าวร้าว และอารมณ์ร้อน แต่มียึดมั่นในเกียรติสูง อาจารย์ของเวด
  • คีอานู รีฟส์ รับบทเป็น ชาโดว์ เดอะเฮ็ดจ์ฮ็อก สัตว์เม่นสีดำลายทางมนุษย์ที่มีพลังพลังงานหายนะ และผลลัพธ์ของการทดลอง "โปรเจกต์ชาโดว์"[4]

นักแสดงสด

[แก้]
  • เจมส์ มาร์สเดน รับบทเป็น ทอม วะชาวสกี (Tom Wachowski) : อดีตนายอำเภอของเมือวกรีนฮิลส์ รัฐมอนแทนา เพื่อนของโซนิคที่ต่อมากลายเป็นเสมือนพ่อของเขา และอาศัยร่วมกับเทลส์ และ นัคเคิลส์ เขาปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษขององค์กร G.U.N แต่ต้องประสบความเดือดร้อน
  • ทิกา ซัมป์เตอร์ รับบทเป็น ดร. แมดดี วะชาวสกี (Dr. Maddie Wachowski) : ภรรยาของทอม และ สัตวแพทย์ ท้องถิ่นประจำกรีนฮิลส์ ต่อมากลายเป็นเสมือนแม่ของโซนิค เทลส์ นัคเคิลส์ ผู้คอยซัพพอร์ทสามีในทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องกอบกู้โลก
  • จิม แคร์รีย์ รับบทเป็น ดร. ไอโว "เอกแมน" โรบอทนิก (Dr. Ivo Robotnik)/ดร. เจอรัลด์ โรบอทนิกส์ นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งและศัตรูตัวฉกาจของโซนิคที่หายตัวไปอย่างลึกลับหลังเหตุการณ์ปะทะที่กรีนฮิลล์ องค์กร G.U.N เชื่อว่าเขาตายไปแล้ว แท้จริงเขารอดชีวิตและหลบซ่อนจากสายตาโลก ด้วยความช่วยเหลือคนสนิทของเขา สโตน แครีย์ยังแสดงเป็น ดร. เจอรัลด์ โรบอทนิก ปู่ของดร.เอ้กแมน ผู้ที่เขาเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
  • ลี มาจโดป รับบทเป็น สโตน (Stone) : ผู้ช่วยและคนสนิทสำคัญ ผู้สนิทสนมและทำงานถวายหัว ของโรบอทนิก
  • นาตาชา รอธเวลล์ รับบทเป็น เรเชล (Rachel) : พี่สาวของแมดดีที่ไม่ชอบทอม ปัจจุบันก็ยังไม่ชอบอยู่ ภรรยาของแรนดัล
  • อดัม พาลลี่ รับบทเป็น เวด วิปเปิล (Wade Whipple) : เพื่อนของทอมและปลัดประจำกรีนฮิลส์ที่มีบุคลิกแปลก ๆ แต่ใจดีและมีฝีมือ ลูกศิษย์ของนัคเคิลส์ ภายหลังเหตุการณ์ในซีรีส์ นัคเคิลส์ เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ที่เก่งกาจและกลายเป็นนายอำเภอแทนทอม
  • เชมาร์ มัวร์ รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ แรนดัล แฮนเดล (Agent Randall Handel) สามีเรเชล เจ้าหน้าที่ของ G.U.N
  • คริสเตน ริตเตอร์ รับบทเป็น ผู้อำนวยการ ร็อกเวลล์ เจ้าหน้าที่ของ G.U.N ผู้นำกำลังวางแผนและสนับสนุนแผนการจับกุมชาโดว์ เธอไม่ชอบสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว อย่างโซนิคและผองเพื่อน
  • ทอม บัตเลอร์ รับบทเป็น ผู้บัญชาการวอลเตอส์ (Commander Walters) ผู้บัญชาการขององค์กร G.U.N ผู้กุมความลับของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโปรเจกต์ชาโดว์เมื่อ 50 ปีที่แล้ว เจมส์ โวล์ก รับบทเป็นวัยหนุ่มของตัวละครนี้
  • อไลลา บราวน์ รับบทเป็น มาเรีย โรบอทนิก (Maria Robotnik) หลานสาวของเจอร์รัลด์ โรบอทนิกส์ ปู่ของดร.โรบอทนิกส์ และหลานทวดของเขา เด็กสาวที่ทำงานให้กับโปรเจกต์ชาโดว์ และมีสายใยวิเศษ แต่เพราะอุบัติเหตุระเบิดทำให้เธอเสียชีวิต เป็นชนวนแค้นให้ชาโดว์
  • ยอร์มา แทคโคนี รับบท ไคล์ แลนซ์บอตทอม เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ของ G.U.N บนเกาะเรือนจำในอ่าวโตเกียว
  • กริสโต้ เฟร์นันเดซ รับบท ฮวน/เปาโล พระเอกจากละครละตินที่ชาโดว์ดูกับสโตน
  • โซเฟีย เพอร์นาส รับบท กาเบรียลล่า นางเอกจากละครละตินที่ชาโดว์ดูกับสโตน

ตัวละครหลักจาก โซนิคเดอะเฮดจ์ฮ็อก CD ได้แก่ เอมมี่ โรส ตัวละครเม่นสีชมพู ผู้เชื่อว่าเป็นแฟนกับโซนิคในวิดีโอเกมส์ และ เมตัลโซนิค คู่ปรับแรกของโซนิคในวิดีโอเกมส์ ปรากฏตัวในฉากท้ายภาพยนตร์และจะเป็นตัวละครหลักของภาพยตร์ลำดับที่ 4 โดยบทบาทของทั้งสองยังมีความคล้ายคลึงกับวิดีโอเกม แต่เอมี่จะไม่ตกเป็นเป้าหมายของเมทัลโซนิคในครั้งแรกที่ได้พบโซนิคเหมือนในวิดีโอเกม แต่จะเป็นนักรบที่แฝงตัวอยู่บนโลกในเวลาไล่เลี่ยกับโซนิคแทน

นักพากย์ภาษาไทย

[แก้]

นักพากย์

[แก้]

นักแสดง

[แก้]
  • ทอม วะชาวสกี - ประภัฒน์ สินธพวรกุล
  • แมดดี้ วะชาวสกี – อธิตญา บุรณนัฏ
  • ดร. ไอโว "เอกแมน" โรบอทนิก/เจอรัลด์ โรบอทนิก – ปิยะ ชำนาญกิจ
  • สโตน – อภิชิต ลิขิตลิ้มปรีชา
  • เรเชล – ชิดชนก แย้มมา
  • แรนดัล แฮนดัล – ธนกฤต เจนคลองธรรม
  • เวด วิปเปิล – ชานน จำเนียรแพทย์
  • ผู้บัญชาการวอลเตอร์ - เอกชัย พงศ์สมัย, ณัชสพล โชติช่วงมั่นคง (วัยหนุ่ม)
  • ผู้อำนวยการร็อกเวลล์/กาเบรียลล่า - สมิตา ไทยจำนง
  • มาเรีย โรบอทนิกส์ - ปริม ปานบุญ
  • ฮวน/เปาโล - นฤนาถ โพธิ์ศิริกุล

เพลงประกอบ

[แก้]
  • 99 Red Balloons - Goldfinger
  • Neon - วันโอเคร็อก
  • I WANT YOU BACK - Folder
  • LOLLiPOP - Tempura Kidz
  • Firestarter - เดอะโพรดิจี
  • End of the Line - Traveling Wilburys
  • Wouldn’t It Be Nice - เดอะบีชบอยส์
  • Green Hill Zone - Jon Batiste (จากเพลงต้นฉบับของวิดีโอเกม โซนิคเดอะเฮดจ์ฮ็อก โดย มาซาโตะ นากามูระ)
  • London Town - Mr Eazi, Giggs
  • Galvanize - เดอะเคมิคอลบราเทอส์
  • Live and Learn (Junkie XL version) - ครัชฟอร์ตี feat. จังกีเอกซ์แอล (จากเพลงต้นฉบับของวิดีโอเกม โซนิคแอดเวนเจอร์ 2)
  • Run It - Jelly Roll
  • วิ่งไป (Run It Thai Version) - Mar
  • ใช้ชีวิต (Live and Learn Thai Version) - Mar feat. จังกีเอกซ์แอล

การผลิต

[แก้]

การพัฒนา

[แก้]

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 เซก้า แซมมี่ กรุ๊ป และ พาราเมาท์ พิคเจอร์ส อยู่ระหว่างการพัฒนาภาพยนตร์เรื่อง Sonic the Hedgehog (2020) เรื่องที่สาม ต่อจาก Sonic the Hedgehog 2 (2022) ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการระหว่างงานนักลงทุนของ ViacomCBS ซึ่งมีทีมงานส่วนใหญ่จากภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ [3] ซีรีส์ ที่นำแสดงโดย Knuckles the Echidna ซึ่งเคยปรากฏใน Sonic the Hedgehog 2 สำหรับ Paramount+ ได้รับการพัฒนาพร้อมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ [3]

การคัดเลือกนักแสดง

[แก้]

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2020 James Marsden ยืนยันว่าเขาได้เซ็นสัญญากับภาคต่อหลายภาค [5] ในเดือนเมษายน ปี 2022 จิม แคร์รี่ย์ ซึ่งรับบทเป็น ดร. โรบ็อตนิก ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ประกาศว่าเขากำลังพิจารณาที่จะลาออกจากการแสดง [6] ด้วยความเป็นไปได้ที่จะเกษียณ โปรดิวเซอร์ นีล เอช. มอริตซ์ และโทบี แอสเชอร์ยืนยันว่าบทบาทของเขาในฐานะโรบ็อตนิกจะไม่ถูกสร้างใหม่ในภาคต่อใดๆ หากเขาทำตามแผนการเกษียณอายุต่อไป อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงหวังว่าพวกเขาจะพัฒนาบทภาพยนตร์ที่ดีพอที่จะให้เขาแสดงต่อไปได้ [7]

การถ่ายทำยูนิตที่สองเริ่มในปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ใน เมืองฟาร์น แฮม เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ [8] การถ่ายภาพยนตร์ฉากสำคัญ เดิมมีกำหนดจะเริ่มในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ใน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ [9] [10] แต่เลื่อนไปจนถึงเดือนกันยายนของปีนั้น[ต้องการอ้างอิง]</link>[ ต้องการอ้างอิง ] เนื่องจาก การนัดหยุดงาน SAG-AFTRA ในปี 2023 ฉากที่ไม่มีนักแสดงจะถูกถ่ายทำก่อน [11]

โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 3 มีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาโดย Paramount Pictures ในวันที่ 20 ธันวาคม 2024[12]

อนาคต

[แก้]

ในเดือนกันยายน 2024 โปรดิวเซอร์ โทบี้ แอสเชอร์ กล่าวถึงความตั้งใจที่จะสร้างภาพยนตร์โซนิคเพิ่มอีกหลายภาค เช่นเดียวกับ เจฟฟ์ ฟาวเลอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์นั้น มีแผนอยากจะทำภาพยนตร์โซนิคต่อไปเรื่อย ๆ [13] เอลบาและรีฟส์ได้แสดงความสนใจในการสร้างภาพยนตร์ภาคแยกโดยมีตัวละครของพวกเขาเป็นตัวเอก[14] ในขณะที่พาราเมาต์มีความสนใจที่จะสร้างภาคแยกของตัวละครรีฟส์ และตัวละครเสริมอย่าง ดิเคโอติก กลุ่มนักสืบที่ได้รับงานจากผู้ว่าจ้างลึกลับให้ทำภารกิจพิเศษโดยประกอบไปด้วย เอสปิโอ เดอะคาเมเลี่ยน, ชาร์มมี่ บี, เวกเตอร์ เดอะครอคโคไดลย์ อยู่ในการพัฒนา

ในเดือนธันวาคม 2024 โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 4 ภาพยนตร์ลำดับที่ 4 ได้เข้าสู่การพัฒนา มีกำหนดออกฉายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2027[15] แพท เคซีย์ ผู้เขียนบทภาพยนตร์ในแฟรนไชน์ภาพยนตร์โซนิคเผยว่า ตั้งใจจะให้เอมี่ โรส ปรากฏตัวในบทบาทสำคัญก่อนตั้งแต่ภาคที่ 2 และ ภาคที่ 3 แต่ไม่อยากให้บทบาทเธอโดนบดบังโดยตัวละครอื่น เธอเป็นตัวละครหญิงที่แฟน ๆ ทั้งโลกรัก และมีจะทำให้ภาพยนตร์ต่อไปจะมีโทนรักตลก ซึ่งแตกต่างจากภาพยนตร์ไตรภาคที่จะสำรวจตัวละครตามตีมเรื่องที่พัฒนา จากความโดดเดี่ยว มี เพื่อน ครอบครัว และศัตรูในไตรภาค โดยเธอจะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่โซนิคต้องเผชิญต่อจากนี้คือ "ผู้หญิง" เธอเป็นตัวละครที่จะเสริมการเติบโตของตัวละครโซนิค เป็นไปได้ว่าจะเป็นสถานะคนรักที่ชัดเจนกว่าฉบับวิดีโอเกม [16]

ในเดือนมกราคม 2025 จิม แคร์รี่เผยอยากจะกลับมาในภาคต่อ หลังเขาประกาศเกษียณการแสดง แม้ว่าบทบาทตัวละครของเขาจะเสียชีวิตแล้วในตอนนี้[17]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. Sonic the Hedgehog was developed by Sonic Team, published by Sega, directed and programmed by Yuji Naka, designed by Hirokazu Yasuhara, and illustrated by Naoto Ohshima.[1][2]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "The bizarre evolution of Sonic the Hedgehog". Business Insider. February 13, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 14, 2020. สืบค้นเมื่อ February 17, 2020.
  2. "How Sega conquered the video games industry – and then threw it all away". The Independent. February 16, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 17, 2020. สืบค้นเมื่อ February 17, 2020.
  3. 3.0 3.1 3.2 Kroll, Justin (February 15, 2022). "Sonic The Hedgehog Universe Continues To Grow As Sega And Paramount Sign Off On Third Film As Well As A Knuckles Spin-Off Series In The Works At Paramount+ With Idris Elba Reprising Role". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2022. สืบค้นเมื่อ February 15, 2022.
  4. Sandwell, Ian (January 4, 2022). "How Sonic the Hedgehog 2[[:แม่แบบ:'s]] credit scene directly sets up the third movie". Digital Spy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 4, 2022. สืบค้นเมื่อ April 4, 2022. {{cite web}}: URL–wikilink ขัดแย้งกัน (help)
  5. Perine, Aaron (March 6, 2020). "Sonic the Hedgehog Star James Marsden Confirms He's Signed on for Multiple Sequels". Comicbook.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 7, 2020. สืบค้นเมื่อ March 6, 2020.
  6. Sharf, Zack (April 1, 2022). "Jim Carrey 'Fairly Serious' About Retiring From Acting: 'I Have Enough. I've Done Enough'". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 7, 2022. สืบค้นเมื่อ April 3, 2022.
  7. Dick, Jeremy (April 7, 2022). "Sonic the Hedgehog 2 Producers Believe Jim Carrey Would Return for Part 3". MovieWeb. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 7, 2022. สืบค้นเมื่อ April 7, 2022.
  8. Williams, Sophie (2023-07-30). "Sonic the Hedgehog 3 Begins Filming in Surrey with Leaked Set Images". Maxblizz (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 30, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-07-30.
  9. Paz, Maggie Dela (20 June 2023). "Sonic the Hedgehog 3 Production Start Date Revealed for Ben Schwartz-Led Movie". ComingSoon.net. สืบค้นเมื่อ 21 June 2023.
  10. "'Sonic the Hedgehog 3' Sets Summer Filming Date in London". Collider. สืบค้นเมื่อ 2023-06-21.
  11. Tabbara, Mona (2023-08-08). "UK crews in crisis as SAG-AFTRA strike thwarts production: "Is the UK industry really our own?"". Screen Daily (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 8, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-08-09.
  12. Grobar, Matt (August 9, 2022). "Paramount Sets Sonic The Hedgehog 3 Release, Pushes Date For Smurfs Animated Musical". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2022. สืบค้นเมื่อ April 17, 2023.
  13. Deschamps, Marc (2024-09-24). "Sonic 3 Producer Teases More Movies: "I Don't See Us Slowing Down"". ComicBook.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  14. Cavanaugh, Patrick (2024-12-10). "Keanu Reeves & Idris Elba Want Shadow & Knuckles TV Spinoff (and Even Pitch a Title)". ComicBook.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  15. Lang, Brent (2024-12-19). "'Sonic the Hedgehog 4' in the Works for 2027 Release (EXCLUSIVE)". Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  16. Hermanns, Grant (2024-12-29). "Sonic The Hedgehog 3's Pat Casey & Josh Miller Talk Jim Carrey's Return, New Game Characters & Major Spoilers". ScreenRant (ภาษาอังกฤษ).
  17. "ジム・キャリー、俳優引退ではなく"休息" 『ソニック4』続投に前向き【インタビュー】|シネマトゥデイ". シネマトゥデイ (ภาษาญี่ปุ่น). 2024-12-27.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]