อง เหม่ยหลิง
อง เหม่ยหลิง | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
![]() สวมบทบาท อึ้งย้งสุดคลาสสิค | |||||||||||
สารนิเทศภูมิหลัง | |||||||||||
เกิด | 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 อง เหม่ยหลิง ฮ่องกงของบริเตน | ||||||||||
เสียชีวิต | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 (26 ปี) Kowloon Tong, ฮ่องกงของบริเตน | ||||||||||
ส่วนสูง | 159 ซม. | ||||||||||
คู่ครอง | ทัง เจิ้นเยี่ย (2525–2528) | ||||||||||
อาชีพ | นักแสดง | ||||||||||
ปีที่แสดง | 2525–2528 | ||||||||||
ผลงานเด่น | -"อึ้งย้ง" ใน มังกรหยก ภาค1 (1983) -"ฉินซิซิ" ใน "ยุทธจักรชิงเจ้าบัลลังค์" -"หลินฉู่เอี้ยน" ใน เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ - "องค์หญิง ซางเสี่ยวจิ้ง" ใน ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว - "เซี่ยปี้ฮว๋า" ใน เทพบุตรทรนง | ||||||||||
สังกัด | สถานีโทรทัศน์ทีวีบี | ||||||||||
ฐานข้อมูล | |||||||||||
IMDb | |||||||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||||||
ภาษาจีน | 翁美玲 | ||||||||||
|
อง เหม่ยหลิง (จีน: 翁美玲; พินอิน: Wēng Měilíng เวิง เหม่ย์หลิง; กวางตุ้ง: ยุ้ง เหมย์เล่ง; 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 – 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า บาร์บาร่า อง (Barbara Yung) เป็นอดีตนักแสดงหญิงจอแก้วยอดนิยมชาวฮ่องกง สัญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชียในยุคทศวรรษที่ 80 เธอเป็นนางเอกจอแก้วเบอร์หนึ่งของฮ่องกงต่อจาก วังหมิงฉวน และทางทีวีบีจัดอันดับเธอให้เป็นหนึ่งในสิบดาราจอแก้วยุค 80 ที่สวยแบบน่ารักที่สุดของทางช่อง[1] เธอมีผลงานแสดงละครในช่วงปี พ.ศ. 2525-2528 ผลงานที่สร้างชื่อให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกในวัย 23 ปีคือการรับบทเป็น อึ้งย้ง ในละครชุดกำลังภายในสุดคลาสสิกของกิมย้งเรื่อง "มังกรหยก ภาค1 (1983)" ด้วยความสำเร็จอย่างสูงทั่วทั่งเอเชียของละครมังกรหยกเวอร์ชันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮ่องกงที่มีเรตติ้งยอดผู้ชมสูงถึง 99% และเรตติ้งเฉลี่ยสูงถึง 65 จุดเปิด ส่วนในจีน ก็สามารถทำเรตติ้งสูงถึง 90% กลายเป็นหนึ่งในละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงสุดในจีน นอกจากนี้ องเหม่ยหลิง ยังได้รับความนิยมในไต้หวันจากละครเรื่อง มังกรหยก ภาคก๊วยเจ๋ง (1983) ที่ได้ออกอากาศทางช่องสี่ ในไต้หวันด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังคว้ารางวัลสิบอันดับแรกของละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดทั่วโลกอีกด้วย โดยมียอดดูสดผ่านทางทีวีครั้งแรกทั่วโลกมากถึง 356 ล้านคน และทุกวันนี้ยังคงติด 10 อันดับละครที่ออกอากาศรีรันซ้ำบ่อยมากที่สุดในจีน[2]จากความสำเร็จทั่วเอเชียถือได้ว่าเป็นละครชุดคลาสสิกที่ทรงอิทธิพลและประสบความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์ฮ่องกง ส่งให้เธอเป็น "อึ้งย้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด" ในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการละครชุดหนังจีน และถูกยกย่องให้เป็น "อึ้งย้งสุดคลาสสิก" อีกทั้งการแสดงในบทนี้ของเธอยังได้รับการยกย่องยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงจากบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่หลายสถาบันของทั้งในฮ่องกง,ไต้หวัน, สิงคโปร์ และจีน ว่าเป็น "อึ้งย้งที่แสดงได้ยอดเยี่ยมที่สุด" [3][4][5][6][7][8][9][10] ในปีพ.ศ. 2550 (2007) หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลที่ขายดีที่สุดในฮ่องกง "แอปเปิลเดลี่" (Apple Daily) ที่มีสาขาในจีน และไต้หวัน ต่างคัดเลือกเธอให้เป็น "อันดับหนึ่งของนักแสดงที่สวมบทบาทอึ้งย้งได้ยอดเยี่ยมที่สุดชนะหมีเซียะและจูอิน โดยบทอึ้งย้ง ที่ องเหม่ยหลิง แสดงอยู่ในอันดับที่สิบ จากผลโหวตของผู้ชมของการจัดอันดับใน 100 นักแสดงที่สวมบทบาทในละครชุดได้ยอดเยี่ยมที่สุด. [11][12]
จนมาถึงปัจจุบันนี้ หลังการเสียชีวิตของเธอไปนานหลายสิบปีก็ยังคงไม่มีใครลบสถิติความสำเร็จที่เธอทำไว้ได้ ในบทเดียวกัน จนเป็นที่มาของการขนานนามเธอว่า "อึ้งย้งตลอดกาล"(Ronger Forever) และยังเป็นดาราหญิงเพียงคนเดียวในวงการจอแก้วฮ่องกงที่รับบทนางเอกในละครที่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนเกินกว่า 60 จุดเปิด ได้ถึง 2 เรื่อง ติด 10 อันดับแรกของละครที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในเกาะฮ่องกง คือ "มังกรหยก 1983 (The Legend of the Condor Heroes)" และเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ (1984 天師執位) [13]
องเหม่ยหลิง เกิดที่ฮ่องกงต่อมาเธอได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยอาศัยอยู่กับมารดาที่ได้รับสัญชาติอังกฤษ และในระหว่างช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ที่นั้นได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันการประกวดนางงามไชน่าทาวน์ของประเทศอังกฤษและสามารถคว้ารองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครองได้สำเร็จ หลังจากจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาศิลปะการออกแบบสิ่งทอ จาก "สถาบันการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design) ของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน ( University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ แล้ว เธอได้เดินทางกลับมายังฮ่องกง และเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเข้าร่วมประกวดนางงามฮ่องกงในปี พ.ศ. 2525 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเสิศ ไดยได้อันดับ 8 จากนั้นได้มีโอกาสเป็นนักแสดงในสังกัดของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี และแจ้งเกิดกับผลงานละครกำลังภายในเรื่องแรก สมิงสาวใจเพชร ในบทนางรองคู่กับ เยิ่น ต๊ะหัว และยังเป็นผลงานที่ทำให้เธอได้พบรักกลางกองถ่ายกับ ทัง เจิ้นเยี่ย พระเอกของเรื่องนี้อีกด้วย ต่อมาผลงานละครเรื่อง "มังกรหยก ภาค1 (1983)" ที่เธอได้รับบทเป็นอึ้งย้ง คู่กับหวง เย่อหัว ในบทก๊วยเจ๋ง และยังมี เหมียว เฉียวเหว่ย และหยาง พ่านพ่าน ร่วมแสดงนำ โดยเฉพาะละครเรื่องหลังนี้ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกและได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วเอเชียทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ประเทศจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ไต้หวัน และไทย อีกทั้งเธอยังได้รับความนิยมในย่านไชน่าทาวน์ ทั้งใน อเมริกา, แคนาดา และทวีปยุโรป ในปีเดียวกันเธอกลายเป็น นางเอกยอดนิยม ในต่างประเทศเมื่อละครชุด มังกรหยก 1983 คว้ารางวัลละครที่มีผู้ชมสูงสุดแห่งปีในเทศกาลงาน "นิวยอร์กฟิล์มเฟสติวัล" จาก ย่านไชน่าทาวน์ในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็น 1 ใน 4 ดาราสาวจอแก้วยอดนิยม คือ 4 ดรุณีหยกแห่งยุค 80s[14]และกลุ่ม 7 นางฟ้าทีวีบีแห่งยุค 80s (TVB 七仙女之一 1980-1986) อีกด้วย หลังจากละครเรื่องมังกรหยกส่งให้เธอได้ก้าวขึ้นเป็นนักแสดงหญิงเบอร์หนึ่งของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีทันทีและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลาเกือบ 3 ปี เธอมีผลงานแสดงหนังและละคร 10 เรื่อง ทั้งละครเรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" และ "เทพบุตรทรนง" ต่างก็เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมเช่นกัน
ในขณะที่ชื่อเสียงรุ่งโรจน์สุดขีด และเป็นนางเอกจอแก้วเบอร์หนึ่งอยู่นั้น องเหม่ยหลิง ได้เสียชีวิตกระทันหันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ด้วยวัยเพียง 26 ปี เนื่องจากการฆ่าตัวตาย เพราะผิดหวังในความรักโดยการรมแก๊สในห้องพักหลังจากมีปากเสียงกับทังเจิ้นเยี่ย แฟนหนุ่มของเธอในขณะที่ทั้งคู่เพิ่งจะเปิดกล้องละครที่แสดงเป็นพระ-นางร่วมกันในเรื่อง เซียนโค่นเซียน (The King of the Bridge King 1985) ไปได้ไม่นานทำให้บทบาทของเธอในเรื่องนี้และอีกเรื่องที่แต่เดิมมีการวางตัวเธอแสดงเอาไว้ คือ เล็กเซี่ยวหงส์ เวอร์ชันว่านจือเหลียง (The Return of Luk Siu Fung 1986) ต้องทำการเปลี่ยนตัวนักแสดงสาวคนอื่นมาเล่นแทน ข่าวการเสียชีวิตของเธอโด่งดังมากและกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดฝันนำพาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจให้กับแฟนละครของเธอทั่วทั้งเอเชีย พิธีศพของเธอถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตามแบบคริสต์ศาสนา มีแฟน ๆ ละครมาร่วมไว้อาลัยมากมายเป็นประวัติศาตร์ มีฝูงชนนับหมื่นคนที่มายืนบริเวณหน้างานศพรวมไปถึงผู้คนที่ออกมาร่วมส่งขบวนศพของเธอตามท้องถนนข้างทางอีกประมาณ 100,000 คน โดยที่ร่างของเธอถูกนำไปฌาปนกิจและกลับไปฝังไว้ที่สุสานในเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ทุกวันนี้ยังคงมีแฟน ๆ จำนวนมากมายที่คิดถึงเธอจะเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของเธอที่อังกฤษเป็นประจำทุกปี[15] [16][17]
ในปีพ.ศ. 2548 (2005) บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน "ซินล่าง คอร์ป (Sina Corp)" ที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน ได้เปิดให้สมาชิกโหวตว่า "บทบาทการแสดงในละครชุดของใครที่ประทับใจคนจีนมากที่สุด" และองเหม่ยหลิง จากบทบาทอึ้งย้ง เอาชนะ เจิ้ง เส้าชิว ในบท ชอลิ้วเฮียง และโจวเหวินฟะ ในบท สวี่ เหวินเฉียง จากเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ได้[18] .ในปีพ.ศ. 2549 (2006) '"สำนักข่าวซินหัว""(新华通讯社) เว็บไซต์สำนักข่าวชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ได้ยกย่อง องเหม่ยหลิง ให้เป็นนักแสดงสาวที่สวมบทบาทตัวละครอึ้งย้งที่ดีที่สุด และไม่มีนักแสดงสาวคนไหนเทียบชั้นได้[19] .ในปีพ.ศ. 2550 (2007) หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลที่ขายดีที่สุดในฮ่องกง "แอปเปิลเดลี่" Apple Daily ที่มีสาขาในจีน และไต้หวัน ต่างคัดเลือกเธอให้เป็น "นักแสดงที่สวมบทบาทอึ้งย้งได้ดีที่สุด" ชนะหมีเซียะ ในบทเดียวกัน จากการจัดอันดับใน 100 นักแสดงที่สวมบทบาทในละครชุดได้ยอดเยี่ยมที่สุด. [20]ในปีพ.ศ. 2553 (2010) เว็บไซด์ "ไป่ตู้" (Baidu) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก [21] ได้ยกย่อง อง เหม่ยหลิง เป็น 1 ใน 500 ดารานักแสดงที่มีอิทธิพลต่อผู้คนจากวงการบันเทิงทั่วโลก. [22]
ประวัติ[แก้]
ชีวิตช่วงแรก (พ.ศ. 2502–2524)[แก้]
ชีวิตวัยเด็ก[แก้]
อง เหม่ยหลิง ชื่อเล่นของเธอคือ (Niu) นัน นัน เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 ที่เกาลูน เกาะฮ่องกง ในครอบครัวข้าราชการพลเรือน โดยที่พ่อของเธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่กรมศุลกากรท่าเรือฮ่องกง หรือ เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ (naval officer) [23]บิดาของเธอชื่อว่า องฟู่ [24](Weng Fu) ส่วนมารดาชื่อว่า จางหมิงอี้ (Cheung Ming Yee), ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นเป็น คริสเตียน นิกาย คาทอลิก เธอเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ในวัยเด็กของเธอปกติเหมือนครอบครัวทั่วไป เธอชอบการเต้นรำเป็นพิเศษและได้มีโอกาสเรียนบัลเล่ต์ จนกระทั่งพ่อของเธอได้เสียชีวิตลงไป เมื่อเธออายุได้เพียง 7 ปี หลังจากนั้นครอบครัวก็เริ่มประสบปัญหาการเงิน สาเหตุมาจาก องเหม่ยหลิง เป็นลูกนอกสมรสเพราะแม่ของเธอเป็นภรรยาน้อยจึงไม่สามารถเข้าบ้านสามีหรือได้รับสิทธิ์มรดกใด ๆ จากการที่สามีเสียชีวิต ต่อมาไม่กี่ปีแม่ของเธอก็ได้พบรักใหม่กับหนุ่มแซ่ ''เหลียว(廖)'' นามว่า "เหลียวจินถัง" จึงได้แต่งงานกับเขาและเปลี่ยนชื่อแซ่ตามสามีใหม่จาก จางหมิงอี้ เป็น ''เหลียวหมิงอี้'' แทน หลังจากนั้นได้มีโอกาสย้ายตามสามีใหม่ไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ จึงจำเป็นต้องฝาก องเหม่ยหลิง ซึ่งมีอายุเพียง 11 ปี ไว้กับลุงเฉินจิง (Chen jing) และญาติที่ฮ่องกงเป็นผู้ดูแล[25][26]
ในช่วงที่เธออาศัยอยู่กับคุณลุง ซึ่งเป็นนักจิตรกร ที่ฮ่องกงนั้น อง เหม่ยหลิง เป็นเด็กเรียนดี แต่เธอไม่ค่อยขยันนัก วิชาที่ได้คะแนนดีกว่าวิชาอื่นๆ คือวิชาวิทยาศาสตร์ แถมเธอยังมีนิสัยเหมือนเด็กผู้ชายเป็นอย่างมากทั้ง ห้าว ทั้งซุกซน และรักอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอเกลียดการนุ่งกระโปรง จนคุณลุงของเธอกลัวว่าเมื่อเธอเติบโตขึ้น จะกลายเป็น ทอมบอย จึงได้พยายามสอนเกี่ยวกับทางด้านศิลปะและให้ความรู้ ทางด้านทฤษฎีกับเธอบ้าง เพื่อทำให้เธอมีความรักสวยรักงามมากขึ้น ซึ่งอิทธิพลเหล่านี้จากคุณลุงได้ส่งผลให้เมื่อเธอเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เธอจึงเลือกเรียนทางด้านศิลปะเพราะเธอใฝ่ฝันอยากจะทำอาชีพทางด้านนี้[27][28]
ความรักในช่วงวัยรุ่น[แก้]
ความรักครั้งแรกของ อง เหม่ยหลิง ได้เกิดขึ้น เมื่อเธออายุประมาณ 14 ปี เธอได้พบรักครั้งแรก กับเด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกันทั้งคู่ได้พบรักกันที่ วัดคาทอลิก หลังจากนมัสการพระเจ้า ระหว่างจะกลับบ้าน องเหม่ยหลิงได้ชนชายคนหนึ่งจนหนังสือในมือหล่น ทั้งสองสบตากัน ไม่กี่วันต่อมาขณะที่เธอกำลังเล่นแบตมินตันที่โรงเรียน และบังเอิญตีลูกขนไก่ไปถูกหัวของนักเรียนชายคนนี้
ต่อมาเธอถึงได้รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นพี่ชายเพื่อนสนิทของเธอเอง เธอเคยให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ว่าเป็นแค่ความรักแบบเด็ก ๆ ใส ๆ บริสุทธิ์ และไม่มีอะไรเกินเลย หรือที่เรียกว่า ป๊อปปี้ เลิฟ เท่านั้นเอง ทั้งคู่ได้คบหากันเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ สาเหตุเพราะต่อมาเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทั้งเขาและเธอต่างแยกย้ายไปเรียนต่อ แฟนคนแรกของเธอต้องไปเรียนต่อที่ประเทศ แคนาดา ส่วนเธอต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศ อังกฤษ [29]
ความรักครั้งที่ 2 ในปี 2519 เมื่อ อง เหม่ยหลิง อายุ 17 ปี ได้พบรักกับหนุ่มชาวต่างชาติที่ชื่อว่า " ร๊อป เรดเบาด์" (Rob Radboud) โดยความสัมพันธ์ครั้งนี้ นั้นเป็นความรักแบบลึกซึ้ง ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอได้เข้าไปศึกษาต่อใน วิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยีแห่งเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ จนได้พบกับ ร็อบ ที่เป็นนักศึกษาเช่นเดียวกัน ทั้งคู่รักกันมากและคบหากันอยู่หลายปี แต่ความรักครั้งนี้ของเธอต้องฟันฝ่าอุปสรรคเป็นอย่างมาก สาเหตุเพราะคุณแม่ของเธอกีดกันและไม่เห็นด้วยกับความรักในครั้งนี้ของทั้งคู่ อีกทั้งนานวันเข้า อง เหม่ยหลิง กลับพบว่า ทั้งเขาและเธอต่างมีมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน จนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2524 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์และเลิกลากันไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย[30]
การศึกษา[แก้]
ในช่วงที่เธอศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนนานาชาติคาทอลิก โรซารี่ ฮิว (Rosaryhill School) ซึ่งเป็นโรงเรียนคริสเตียนนิกายคาทอลิกแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในย่านหว่านไจ๋ (Wan Chai) ที่ฮ่องกง ในช่วงที่เรียนอยู่ที่นั้นเธอเก่งทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากและได้เกรด A ในวิชาวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด ซึ่งตอนแรกเธอตั้งใจไว้ว่าเมื่อศึกษาจนจบชั้นมัยธมปีที่6 แล้วเธอจะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง คณะแพทยศาสตร์โดยทันที เพราะเธออยากเป็นหมอ แต่ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2517 เอกสารการเป็นผู้ติดตามไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษก็ได้รับการอนุมัติขึ้นมา ทำให้เธอจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปีที่ 4 ในฮ่องกง และต้องย้ายตามไปอยู่กับแม่ที่ประเทศอังกฤษทันที เธอได้อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลานานถึง 8 ปี ในช่วงปีแรกที่เธอมาถึงสหราชอาณาจักรครอบครัวของเธอได้อาศัยอยู่ในเขตย่าน "เบิรก์คิงไซด์" (Barkingside) อยู่ในเมืองอิลฟอร์ด (Ilford) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน แฟนหนุ่มคนแรกของเธอที่เคยคบหาตอนอยู่ในฮ่องกงด้วยกันซึ่งต่อมาเขาได้ย้ายไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดานั้น เขาได้มีโอกาสบินจากแคนาดาไปเยี่ยมเธอถึงสองครั้งด้วยกันในช่วงปิดเทอม แต่ต่อมาทั้งคู่ต้องเลิกกันสาเหตุเพราะทั้งคู่ยังเด็กเกินไปและมีอุปสรรคในการเดินทางเพราะอยู่กันคนละประเทศ ต่อมาครอบครัวของเธอก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) ในย่านฮิสตัน (Histon) โดยเธอเริ่มศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมศึกษา วาเลนไทน์ไฮสคูล แห่งอิลฟอร์ด (Ilford Valentines High School) ในระดับ GCE O และผ่านระดับ O-Level (ม.6) และในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้มีการไปช่วยกิจการที่ร้านอาหาร fish and chips shop จากนั้นได้เข้าศึกษาต่ออีก 2 ปี ในหลักสูตรปรับพื้นฐาน ที่วิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยีเคมบริดจ์ (Cambridgeshire College of Arts and Technology หรือ CCAT) ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยแองเกลียรัสกิน (Anglia Ruskin University)
ต่อมา เธอได้ไปศึกษาต่อที่ ลอนดอน เป็นเวลา 4 ปี ในสาขาศิลปะการออกแบบสิ่งทอที่ "สถาบัน เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design ของ "มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน" (University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงที่ศึกษาที่นี้ เธอเองได้มีโอกาสเข้าร่วมประกวด นางงามไชน่าทาวน์ (Miss British Chinese 1980) และสามารถคว้ามงกุฎรองอันดับ 1 มาครอง (อ้างอิงจาก)[31] [32][33][34]
- จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่ โรงเรียนนานาชาติ โรซารี่ฮิว (Rosaryhill School) ที่ฮ่องกง
- จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ที่โรงเรียนมัธยมศึกษา "วาเลนไทน์ไฮสคูล" แห่งอิลฟอร์ด (Ilford Valentines High School) และผ่านระดับ O-Level (ม.6)
- จบการศึกษาระดับ อนุปริญญา หลักสูตรปรับพื้นฐานเพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาตรี หรือ Foundation Program ที่วิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยีเคมบริดจ์ (CCAT) ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยแองเกลียรัสกิน" (Anglia Ruskin University)
- จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะ ศิลปศาสตร์ สาขา ศิลปะการออกแบบสิ่งทอ จาก "สถาบันการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design) ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในหกสถาบันหลักในเครือของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน (University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ
ก้าวแรกในวงการบันเทิง (พ.ศ. 2525)[แก้]
เข้าร่วมเวที นางงามฮ่องกง[แก้]
ในวัย 22 ปี หลังจากที่เธอได้จบการศึกษาจาก "สถาบันการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design) ของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน ( University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับดีกรี รองอันดับ 1 นางงามไชน่าทาวน์ มาครองแล้ว[35][36][37] ในราวปลายเดือนมีนาคม ของปีพ.ศ. 2525 ซึ่งตรงกับช่วงเทศการอีสเตอร์ (Easter) วันสำคัญของทางศาสนาคริสต์ เธอได้มีโอกาสกลับมาเที่ยวที่ฮ่องกง โดยทีแรกเธอตั้งใจเพียงแค่จะกลับมาพักผ่อนไม่กี่เดือนเพื่อใช้โอกาสนี้ในการรักษาแผลใจกับเหตุการณ์ความรักที่เพิ่งจะจบลงไประหว่างเธอกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ทว่า...การกลับมาที่ฮ่องกงของเธอในครั้งนี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาลเมื่อเธอได้ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมประกวดเวที "นางงามฮ่องกง" ในปีพ.ศ. 2525 ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีแม่อุปถัมภ์ (God parents) ของเธอได้ชักชวนให้เข้าลงแข่งขันการประกวดนางงามครั้งนี้แต่ตอนแรกเธอยังลังเล จนเธอได้เห็นแผ่นโปสเตอร์ประกาศรับสมัครประกวดนางงาม จึงใช้เวลาตัดสินใจเข้าลงการประกวดเพียงแค่ 5 นาที ถึงแม้ว่าการประกวดในครั้งนี้เธอจะไม่มีรายชื่อติด 1 ใน 3 คนสุดท้ายในปีนั้น สาเหตุเพราะความสูงของเธอไม่ได้มาตราฐานนางงาม แต่ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นรวมไปถึงคุณสมบัติทางด้านการศึกษาที่จบในระดับชั้น ปริญญาตรี และเป็นถึงนักเรียนนอก บวกกับความสามารถในการตอบคำถามของเธอ ที่เธอได้แสดงปฏิภาณไหวพริบความเฉลียวฉลาด ซึ่งเป็นที่ถูกใจคณะกรรมการและผู้ชมเป็นอย่างมาก จึงทำให้เธอสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 15 คนสุดท้ายได้ โดยมีคะแนนรวมอยู่ในอันดับที่ 8.
เป็นพีธีกร[แก้]
หลังจากการประกวดเสร็จสิ้นลงไป เธอก็ได้รับการทาบทามจากแมวมองท่านหนึ่งที่เห็นแววและพรสวรรค์ของเธอบนเวทีการประกวด จึงได้ชักชวนเธอให้เซ็นสัญญากับ บริษัท ทีวีบี โดยทันที และได้มอบหมายงานชิ้นแรกในวงการบันเทิงให้กับเธอโดยให้เธอรับหน้าที่ เป็นหนึ่งในพิธีกร รายการ ผู้หญิงวันนี้ 《婦女新姿》 ซึ่งเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทและคำแนะนำจากพิธีกรรุ่นพี่เป็นอย่างดี ถึงแม้เธอจะทำหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน ก็ตาม.แต่เธอก็สามารถทำหน้าที่เป็น พิธีกร ได้อย่างดีเยี่ยม[38]
งานโฆษณาชิ้นแรก[แก้]
ในเดือนกรกฎาคมปี พ.ศ. 2525 เธอมีโอกาสได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้กับ ยาสระผม ยี่ห้อ แฟซ่า (Kao) อ้างอิงจาก (影视圈内初露锋芒。1982年7月,拍摄了一辑花王洗发水的广告) [39][40]
ผลงานละครเรื่องแรก[แก้]
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้เปิดตัวกับการแสดงละครชุดเรื่องแรกในชีวิตของเธอ สมิงสาวใจเพชร ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ของ ทีวีบี (TVB) โดยเธอรับบทเป็นนางรองแสดงคู่กับเยิ่น ต๊ะหัว ในบทพระรอง ซึ่งละครเรื่องนี้เองเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอได้พบรักกับพระเอกของเรื่องคือ นักแสดงหนุ่ม เพลย์บอย ทัง เจิ้นเยี่ย ( ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันจนเกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้นในเวลาต่อมา ) ซึ่งฝ่ายชายเองในขณะนั้นเป็นหนึ่งใน ห้าพยัคฆ์ทีวีบี ชื่อดังแห่งยุค โดยที่เขามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากมาก่อนจากการสวมบทบาทเป็น ต้วนอี้ ในละครเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า สาเหตุที่ทั้งคู่พบรักกันก็เพราะทั้งคู่ได้เจอกันในกองถ่ายของละครเรื่องนี้นั้นเอง ซึ่งในตอนนั้น องเหม่ยหลิง เพิ่งเข้าวงการมาใหม่ ๆ เลยยังไม่มีพื้นฐานทางด้านการแสดง เพราะเธอไม่ได้จบจากโรงเรียนสอนการแสดงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) โดยตรงเหมือนดารานักแสดงคนอื่น ๆ ดังนั้นบริษัททีวีบี จึงได้มอบหมายให้ ทังเจิ้นเยี่ย ซึ่งได้แสดงละครในเรื่องนี้ด้วยกันกับเธอคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลและให้คำแนะนำทางด้านการแสดงให้กับเธอตลอดช่วงการถ่ายทำ ซึ่งฝ่ายชายเองก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่น ๆ จนสร้างความประทับใจให้กับ องเหม่ยหลิง เป็นอย่างมากเลยทำให้ทั้งคู่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันในกองถ่ายจนก่อให้เกิดเป็นความรักขึ้นมาและหลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็ได้เปิดตัวกับสื่อว่าคบกันในฐานะคนรู้ใจ ความรักของทั้งคู่นั้นเป็นไปอย่างเปิดเผยและได้รับความสนใจจากบรรดาสื่อเป็นอย่างมาก สาเหตุเพราะในตอนนั้นฝ่ายชายมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือถึงความเจ้าชู้มาก่อน เพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาพบรักกับเธอเขาเคยได้รับฉายาจากสื่อว่าเป็น เทพบุตรแห่งความรัก ที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับสาวคนใดมาก่อน เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกกับหญิงสาวมาแล้วหลายคนเช่น จิ่ง ไต้อิง (นักแสดงสาวสมทบชื่อดัง) และเดปอร่า มัวร์ (รองนางงามรุ่นก่อนหน้าองเหม่ยหลิง หนึ่งปี) แต่ถึงกระนั้น องเหม่ยหลิง เองก็ยังยืนยันในสายตาตัวเองว่า เธอดูคนไม่ผิด ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
ดิฉันคบกับทัง เจิ้นเยี่ย ไม่เห็นเลยว่าเขาจะเป็นอย่างที่สื่อเขียนถึงกัน แต่ถ้าหากเขาเคยเป็นอย่างที่สื่อเขียนไว้ก็ถือว่าเป็นเรื่องอดีต คนเราจะคบกันไม่ควรจะยึดติดอยู่กับอดีต และดิฉันคิดว่าเราทั้งคู่ควรจะเปิดโอกาสให้กันและกันและมองไปยังอนาคตมากกว่าค่ะ[41]
จากบทสัมภาษณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าเธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมากถึงแม้จะมีหลายคนพยายามบอกกล่าวตักเตือนเธอถึงความเจ้าชู้ของฝ่ายชายแล้วก็ตามแต่เธอก็ยังคงเชื่อมั่นในความรักที่เขามีต่อเธอ ซึ่งจริง ๆ จะว่าไปแล้วความรักของคนทั้งคู่นั้นก็ดูเหมือนว่าจะราบรื่นไร้อุปสรรค์เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นคนที่มีชื่อเสียงและเหมาะสมกันดี ถึงแม้ว่าในบางครั้งจะมีข่าวลือซุบซิบเล็ดลอดออกมาบ้างก็ตามแต่ความรักของทั้งคู่นั้นก็ดูราวกับว่ากำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
ทันทีที่ได้ถ่ายทำละครเรื่อง สมิงสาวใจเพชร เสร็จและได้มีการนำออกฉาย เธอก็ได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงโดยทันที โดยเธอได้รับคำชมจากผู้ชมและบรรดาสื่อว่า เธอสามารถเล่นละครเรื่องแรกออกมาได้เป็นธรรมชาติและน่ารักมาก ๆ นับเป็นผลงานละครเรื่องแรกที่สามารถปูทางเริ่มต้นชีวิตการแสดงในวงการบันเทิงของเธอได้อย่างสวยงาม จนทำให้เธอเป็นที่จับตามองในฐานะ ดาวรุ่งพุ่งแรง ประจำปี.
โด่งดังเป็นพลุแตกทั่วเอเชีย (พ.ศ. 2526)[แก้]
รับบท อึ้งย้ง ผู้โด่งดัง[แก้]
หลังจากที่เธอได้แจ้งเกิดและเริ่มเป็นที่รู้จักกับผลงานละครเรื่อง "สมิงสาวใจเพชร" ในฐานะดาวรุ่งน้องใหม่ของวงการแล้ว ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบีได้มองเห็นอนาคตอันสดใสของเธอ จึงได้ตัดสินใจคัดเลือกเธอให้รับบท อึ้งย้ง คู่กับ พระเอกที่กำลังมาแรงในขณะนั้น หวงเย่อหัว รับบทเป็น ก๊วยเจ๋ง ในละครกำลังภายในฟอร์มใหญ่เรื่อง มังกรหยก ภาค1 (2526) ซึ่งการได้มาขององเหม่ยหลิง กับบท อึ้งย้ง ไม่ใช่ง่าย โดยเธอเองก็ได้มีโอกาสไปทดสอบหน้ากล้องในบทดังกล่าว เพราะทางบริษัททีวีบี ได้ประกาศหาผู้สมัครรับบทนี้ในโครงการ " "อึ้งย้งในอุดมคติ" กันอย่างเปิดเผย [42]และเธอต้องฝ่าด่านผู้สมัครรับบทอึ้งย้งนี้ถึง 3,000 คน ต่อมาทางทีวีบีได้คัดจนเหลือ 60 คนทันทีโดยรวมถึงนักแสดงสาวที่เป็นตัวเก็งคาดว่าจะได้บทนี้ เช่น หวงซิ่งซิ่ว, เฉินฟู่เซิง, จิ่งไต้อิง และ ชีเหม่ยเจิน เป็นต้น แต่ทว่าเมื่อทางช่องคัดเหลือเพียง 4 คนสุดท้ายกลับไม่มีรายชื่อเหล่านักแสดงตัวเก็งดังกล่าวเลยสักคนแต่กลับกลายเป็นทั้งสี่คนคือนักแสดงสาวหน้าใหม่ทั้งหมด ได้แก่ หันเส้าหลิง, หลี่เยี่ยนซัน, ลู่จิ่งหง และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยคะแนนทั้ง 4 คนสูสีกันมากจนทำให้ทั้งผู้กำกับและฝ่ายโปรดิวเซอร์ของละครชุดนี้ลำบากใจในการเลือก ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ กิมย้ง ผู้แต่งละครเรื่องนี้เป็นคนตัดสินใจเลือกแทน ครั้งแรกที่กิมย้ง พบ องเหม่ยหลิง ก็สะดุดในความน่ารักบนใบหน้าของเธอทันทีโดยเฉพาะดวงตาที่กลมโตของเธอซึ่งส่อแววความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก กิมย้งได้ให้นักแสดงหน้าใหม่ทั้ง 4 คนสุดท้ายได้ลองแนะนำตัวเองให้เขาได้รู้จักทีละคน ซึ่งคนอื่นทั้งสามคนที่เข้ารอบต่างแนะนำตัวเองด้วยชื่อแซ่จริงของแต่ละคน แต่พอมาถึงคิว องเหม่ยหลิง เธอได้ใช้ปฏิภาณไหวพริบที่ฉลาดกว่าคนอื่นโดยแนะนำตัวเองว่า[43]
"ข้าน้อยแซ่อึ้ง มีนามว่า อึ้งย้ง บุตรีคนเดียวของเจ้าเกาะดอกท้อ อึ้งเอี๊ยะซือ ขอคารวะท่านกิมย้ง"
เธอได้ใช้ชื่อแซ่ของตัวละครอึ้งย้งมาแนะนำตัวแทนการใช้ชื่อแซ่จริงของเธอซึ่งเป็นการแนะนำตัวที่แปลกแตกต่างจากคนอื่นทั้งสามคนที่เข้ารอบมาด้วยกันทำให้กิมย้งถึงกับหัวเราะชอบใจและผู้กำกับ หวังเทียนหลิน เองก็ปรบมือให้กับเธอ จากนั้น กิมย้งได้ให้ทั้งสี่คนลองร่ายรำกระบี่ให้เขาดู ทันทีที่เขาเห็น องเหม่ยหลิง ร่ายรำกระบี่เขาได้พูดกับผู้กำกับว่า นี่คือ อึ้งย้งที่เขากำลังมองหา ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงคล่องแคล่วเหมือนอึ้งย้งในนิยาย ในที่สุดทั้งกิมย้ง,ผู้กำกับและฝ่ายโปรดิวเซอร์ของกองละครเรื่องนี้ได้ตัดสินใจเลือกเธอเป็นอึ้งย้งคนใหม่ หลังจากที่บริษัท (TVB) ได้ประกาศสร้างละครฟอร์มใหญ่เรื่อง มังกรหยก ภาค1 (2526) ซึ่งมีความยาวถึง 60 ตอนดั่งเดิม (59 ตอนปัจจุบัน "cut") โดยมีเธอรับบทนำเป็น อึ้งย้ง ซึ่งเป็นตัวละครหลักสำคัญในนวนิยายชื่อดัง แต่สื่อจับเธอไปเปรียบเทียบกับ ดาราสาว หมีเซียะ ที่เคยได้รับความนิยมจากบทนี้มาก่อน จึงทำให้เธอถูกแรงกดดันเป็นอย่าง แต่นั้นคือช่วงแรก ๆ เท่านั้น
ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำ มังกรหยก เธอได้เริ่มอ่านบทประพันธ์ของกิมย้ง และศึกษาทำความเข้าใจตัวละครในแบบฉบับของเธอ โดยเธอตีความหมายตัวละครอึ้งย้งว่า ดีสามส่วน ร้ายเจ็ดส่วน ในด้านดีสามส่วนก็มีความร้ายกาจแฝงอยู่ ตามสไตล์ลูกสาวของเจ้าเกาะดอกทอง
ความสำเร็จระดับตำนาน[แก้]
ในที่สุด หลังจากที่ได้ถ่ายทำละครชุดนี้เสร็จสิ้นลงในแต่ละภาค(สามภาค) และเริ่มมีการแบ่งการออกอากาศทั้งสามภาคย่อย โดยครั้งแรกในฮ่องกงออกอากาศในช่วงต้นปีพ.ศ. 2526 (1983) องเหม่ยหลิง ในวัย 23 ปีเริ่มโด่งดังขึ้นมาจากบทบาท อึ้งย้ง ต่อมาได้มีโอกาสนำทยอยออกฉายทั่วเอเชียผลปรากฏว่า เธอกลับได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ชื่อเสียงของ องเหม่ยหลิง โด่งดังเป็นพลุแตกทั่วเอเชีย โดยทันที และทำให้เธอกลายเป็นดารายอดนิยม เพียงชั่วข้ามคืน คนดูและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ต่างยอมรับในความสามารถทางด้านการแสดงของเธอที่มาจากพรสวรรค์ ซึ่งการแสดงของเธอในบท อึ้งย้ง นั้น เธอได้ใช้ความสามารถในการตีบทนี้ให้แตกได้สำเร็จ และที่สำคัญคือ องเหม่ยหลิง ไม่เลียนแบบหมีเซียะ ถึงแม้อึ้งย้งฉบับ องเหม๋ยหลิง จะมีด้านความร้ายกาจที่ผู้เขียนบทใส่เพิ่มเติมเข้าไปบ้างเล็กน้อย แต่โดยเสน่ห์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร บวกกับ ฝีมือการแสดงของ องเหม่ยหลิง เองที่สามารถถ่ายทอดบุคลิกของตัวละครอึ้งย้ง ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเฉลียวฉลาด น่ารักแก่นแก้วซุกซนเป็นที่สุด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมละครส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก และจากการแสดงบทนี้ได้ทำให้เธอเป็นขวัญใจของผู้ชมหมู่มากในทุกเพศทุกวัย ทั่วทั้งเอเชีย ส่งผลให้ชื่อของ องเหม่ยหลิง กลายเป็น ดาราแม่เหล็กชั้นแนวหน้าของบริษัท TVB ไปโดยทันที และเมื่อสิ้นสุดการฉายของละครเรื่องนี้ผลปรากฏว่าละครเรื่อง มังกรหยก ชุดนี้ได้สร้างปรากฏการณ์เป็นละครชุดกำลังภายในที่มีเรทติ้งสูงสุดตลอดกาล โดยมีเรทติ้งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65 จุด และมีเรตติ้งสูงสุด 99% จากยอดคนดูกลายเป็นมังกรหยกเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทำลายสถิติ มังกรหยกเวอร์ชันก่อนหน้านี้ในปี 2519 ที่แสดงโดย "หมีเซียะ" ไว้อีกด้วย และเมื่อนำไปออกฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ทำเรตติ้งได้สูงถึง 90% กลายเป็นสิบอันดับแรกของละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในจีนเป็นประวัติการณ์
อีกทั้งเรตติ้งทั่วเอเชียสูงมากทำให้กลายเป็นหนึ่งในสิบละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในโลก (該劇是TVB全球收視率最高的十部劇集之一) โดยมียอดผู้ชมดูสดผ่านทีวีครั้งแรกที่ออกฉายในแต่ละประเทศรวมมากกว่า 356 ล้านคน ต่อมาสื่อในมาเลเซียและสิงคโปร์ได้คัดเลือกละครทีวีจีนคลาสสิก 100 เรื่องในศตวรรษที่ 20 และละครมังกรหยกชุดนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก[44][45]
ผลงานละครเรื่องต่อมาของเธอเป็นละครแนวสากลฟอร์มใหญ่ เรื่อง "เฉือนรักเฉือนคม" ที่เธอได้มีโอกาสประชันบทบาท กับ นักแสดงชื่อดังรุ่นพี่ "เจิ้ง เส้าชิว" ซึ่งเรตติ้งก็ประสบความสำเร็จพอสมควร. [46]
รับเชิญในภาพยนตร์[แก้]
ในเดือน สิงหาคม ปีเดียวกัน หลังจากความโด่งดังในบท อึ้งย้ง ของเธอ ส่งผลให้ชื่อของเธอติดโผ ดารายอดนิยมสูงสุดประจำปี พ.ศ. 2526 และทำให้ทั้ง เธอ และ หวงเย่อหัว ที่รับบทเป็น ก๊วยเจ๋ง ได้ถูกรับเชิญให้มารับบทเล็ก ๆ เป็น สายลับ FBI ในภาพยนตร์ตลกฟอร์มใหญ่ประจำปี เรื่อง ลูกบ้าดีเดือด (瘋狂83 ,Mad Mad 1983 ) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการรวมตัวเอาเหล่า ดารานักแสดงและนักร้อง ที่มีรายชื่อติดอันดับความนิยมสูงสุดประจำปี ระดับแถวหน้ามาเล่นด้วยกัน และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถทำรายได้ในตลาดหนังฮ่องกงไปมากกว่า 5 ล้านเหรียญ นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวในชีวิตอันแสนสั้นของเธอ.อ้างอิงจาก [47]
โชว์ตัวที่ประเทศไทยและกลุ่มสี่ดรุณีหยก[แก้]
จากความโด่งดังทั่วเอเชียเป็นอย่างมากของดาราสาว องเหม่ยหลิง ในการแสดงบท อึ้งย้ง ทำให้เธอได้รับการติดต่อจากเมืองไทยให้เดินทางไปโชว์ตัวที่นั้นราวสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4-11 ธันวาคม ที่ภัตตาคารแกแล็กซี่และไนท์คลับ โดยดาราสาวคนดังได้เดินทางไปถึงกรุงเทพในวันที่ 2 ธันวาคม ราว 11 นาฬิกาเศษและเข้าเช็คอินที่โรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนตัลในเวลาไล่เลี่ยกัน และในเวลาราว 1 ทุ่มเศษของวันเดียวกัน เธอได้ปรากฏตัวต่อสื่อในงานแถลงข่าวที่ภัตตาคารแกแล็กซี่และไนท์คลับ โดยตารางการโชว์ตัวของเธอมีดังนี้
4 ธันวาคม เป็นวันแรกของการโชว์ตัวและเธอต้องโชว์ตัวร่วมกับนักร้องนานาชาติ วงสตริง "อะโวคาโด้" และคณะกายกรรมจากฟิลิปปินส์ ระหว่างเวลา 15.00-17.30 น.
7 ธันวาคม มีรอบพิเศษจัดเป็นคอนเสริต์ใหญ่ที่ อินเดอร์สเตเดี้ยม มีผู้คนมาดูเธอล้น หลายพันคน
10 ธันวาคม ทางภัตตาคารแกแล็กซี่และไนท์คลับร่วมกับชมรมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมได้จัดรอบพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งรอบเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือการศึกษาบุตรหลานของผู้สื่อข่าว ระหว่างเวลา 15.00-17.30 น.
11 ธันวาคม เธอต้องโชว์ตัวร่วมกับ "วงสาว สาว สาว" ซึ่งเป็นวงสตริงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของไทยในยุคสมัยนั้นโดยในวง ประกอบด้วยสามสาว ได้แก่ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, พัชริดา วัฒนา และ อรวรรณ เย็นพูนสุข ระหว่างเวลา 15.00-17.30 น.
ซึ่งการแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยของ องเหม่ยหลิง ตลอดทั้ง 7 วัน ประสบความสำเร็จอย่างมากมีแฟน ๆ นับหมื่นต่างเข้ามาดูการแสดงของเธอเต็มทุกรอบการโชว์ตัว และเป็นคอนเสิร์ตของดาราต่างประเทศที่ฮือฮาที่สุดในรอบปี[48]หลังกลับจากการโชว์ตัวที่ประเทศไทย ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ก็ได้มีการก่อตั้งกลุ่ม 4 ดรุณีหยก รุ่นสอง ขึ้นมาแทนรุ่นแรกที่กำลังจะหมดยุคไป โดยในรุ่นใหม่ประกอบด้วยดาราสาวมาแรงของทางช่องสี่คน ได้แก่ องเหม่ยหลิง เฉินอวี้เหลียน หลิวเจียหลิง และเจิงหัวเชี่ยน
ผลงานตอกย้ำความสำเร็จ (พ.ศ. 2527)[แก้]
ปีทองของเธอ[แก้]
ในปีนี้เองชื่อเสียงของ องเหม่ยหลิง ถือได้ว่าเป็นระดับขวัญใจมหาชน จากความโด่งดังของเธอ ในบท อึ้งย้ง ทำให้เธอได้มีโอกาสไปโชว์ตัว ตามต่างประเทศอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งใน สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และย่านไชน่าทาว์น แถว ทวีปยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เป็นต้น และในช่วงนี้เอง ทีวีบีได้เล็งเห็นความสำคัญของเธอ จึงมอบหมายให้เธอได้รับเล่นละครติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าผลงานละครเรื่องต่อ ๆ มาของเธอ จะไม่ได้รับความนิยมเท่า มังกรหยก ก็ตาม แต่ผลงานละครเหล่านี้ก็สามารถทำให้ชื่อเสียงของเธอได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะละครเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ กลายเป็นแชมป์เรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในปีพ.ศ. 2527(1984) ด้วยเรตติ้งคะแนนเฉลี่ย 61 จุดเปิด คนดูในฮ่องกงมากกว่า 3.15 ล้านคนต่อตาตอน (ติดสิบละครเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดตลอดกาลในฮ่องกง) และยังเป็นหนึ่งในละครฮ่องกงสุดคลาสสิกของศตวรรษที่ 20 ที่ได้รับการคัดเลือกโดยสื่อสิงคโปร์ นับเป็นเรื่องที่สองของเธอ (ต่อจากเรื่อง มังกรหยก 1983) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ส่งผลให้ชื่อของเธอติดหนึ่งในดารายอดนิยมสูงสุด ประจำปี พ.ศ. 2527 นับได้ว่าเป็นปีทองของเธอ เลยทีเดียวเพราะเธอ รุ่งทั้งเรื่องงานและความรัก
จับคู่กับเหมียวเฉียวเหว่ย[แก้]
ในปี พ.ศ. 2527 บริษัท (TVB) ได้ป้อนงานละครให้กับเธอติดต่อกัน และมอบหมายให้เธอจับคู่กับ ดาราหนุ่มมาดเทห์ เหมียว เฉียวเหว่ย หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งการเล่นละคร คู่กัน ของเธอ กับ เหมียว เฉียวเหว่ย นั้นได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นกระแสคู่ขวัญคู่ใหม่ของวงการบันเทิง สาเหตุนั้นก็เพราะทั้งคู่มีเคมีที่ตรงกันและสามารถเล่นเข้าขากันได้ดี จนกระทั่งคนดูและบรรดาสื่อต่าง ๆ พยายามจับคู่เธอกับเหมียว เฉียวเหว่ยให้เป็นคู่รักกัน ทั้งในจอและนอกจอ มีแฟน ๆ ละครมากมาย เชียร์ทั้งคู่ให้เป็นแฟนกันจริง ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลเพราะเธอกับ เหมียว เฉียวเหว่ย ต่างเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันในวงการเท่านั้น และที่สำคัญต่างฝ่ายต่างก็มีแฟนที่คบหาดูใจกันอยู่แล้ว ผลงานละครที่ตามมาของเธอในปีนี้ ได้แก่ ยุทธจักรชิงจ้าวบัลลังค์, เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์, เฉือนคมเจ้าพ่อ, และ "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" ซึ่งละครทั้ง 4 เรื่องที่เธอเล่นกับ เมียวเฉียวเหว่ย ต่างติด 10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดแห่งปี โดยเฉพาะผลงานละคร เรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" นี้ ถือได้ว่าได้รับความนิยมในระดับเอเชีย นับว่าเป็นผลงานที่ตอกย้ำความนิยมในตัวเธอได้เป็นอย่างดี และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แฟน ๆ ละครของเธอจดจำมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งไม่แพ้ เรื่อง มังกรหยก
งานโฆษณาชิ้นที่สอง[แก้]
ด้วยกระแสความสำเร็จของเธอในปีนี้ ทำให้ในช่วงปลายปีเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อง เหม่ยหลิง ก็ได้รับการติดต่อให้รับงานโฆษณาครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อ ครีมเฮสลีน สโนว์ (Hazeline Snow). แหล่งอ้างอิง[49]
ชื่อเสียงโด่งดังสุดขีด (พ.ศ. 2528)[แก้]
ถูกจับตามองในเรื่องส่วนตัว[แก้]
ในปี พ.ศ. 2528 ชื่อเสียงของ อง เหม่ยหลิง ถึงจุดสูงสุด ในตำแหน่งหน้าที่การงาน ของเธอ เธอได้รับความนิยม อย่างมาก และเป็นที่สนใจ ของประชาชน รวมถึงเป็นที่จับตามองของบรรดาสื่อ ต่าง ๆ ทั้งในเรื่อง ชื่อเสียง , การงาน โดยเฉพาะเรื่อง ส่วนตัว ของเธอนั้น จะเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษมากกว่าเรื่อง อื่น ๆ จนเป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะในปีนี้เอง ที่บรรดาสื่อ ชอบเล่นข่าวลือเกี่ยวกับข่าวความรักของเธอ ( มีบรรดาแฟน ๆ ละครของเธอ บางคนมีความเห็นว่านี้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ อง เหม่ยหลิง ตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย อาจเนื่องมาจาก เธอต้องการหนีปัญหา เกี่ยวกับข่าวลือ ต่าง ๆ ที่รุมประดังเข้ามาอย่างมากมาย ก็เป็นได้ ). เธอเองเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องชื่อเสียงที่โด่งดังของเธอเอาไว้ว่า ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ขยับตัวไปไหนก็กลายเป็นข่าวไปซะทุกเรื่อง จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจริง ๆ จะว่าไปแล้ว ด้วยความที่เธอเป็น ดาราดัง ก็ย่อมตกเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อ ต่าง ๆ มากมาย ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเหล่าคนดังในวงการบันเทิง เพียงแต่เธอไม่สามารถควบคุม สภาวะทางด้านอารมณ์ หรือ รับมือกับข่าวลือต่าง ๆ ได้ดีเท่ากับดาราดังคนอื่น ๆ เพราะเธอเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวเป็นอย่างมาก จนหลายคนคาดเดาว่า นี้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็น โรคซึมเศร้า ขึ้นมา. [50]
มรสุมข่าวลือและปัญหาความรัก[แก้]
ตลอดเกือบทั้งปีก่อนเธอจะเสียชีวิต เธอมีข่าวลือ ซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องความรักของเธอออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในบางครั้งสร้างความไม่พอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก และเพราะข่าวลือต่าง ๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตรักของคนทั้งคู่มีปัญหาอย่างหนักจนถึงขั้นมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งด้วยความหึงหวง จนในที่สุดความรักของคนทั้งคู่นั้น ก็ได้ขาดสะบั้นลง เป็นจริงตามที่ใครหลายคนเคยคาดหมายเอาไว้ สาเหตุเพราะได้เกิดพายุข่าวลือโหมกระหน่ำเข้ามาในชีวิตรักของเธออย่างมากมาย โดยเฉพาะข่าวลือที่ว่า:
1.ข่าวลือเรื่อง ทังเจิ้นเยี่ย คิดเกาะกระแสความดังของเธอ เพราะในช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของฝ่ายชาย ความนิยมลดน้อยลงเป็นอย่างมาก สวนทางกับชื่อเสียงของ องเหม่ยหลิง ที่กลับโด่งดังสุดขีด
2.และในช่วงที่ชื่อเสียงของ ทังเจิ้นเยี่ย กระแสความนิยมเริ่มลดน้อยลง ฝ่ายชายก็ได้ตัดสินใจ รับเล่น หนังเรท R เรื่อง รักร้อนสวาท Maybe It's Love (窺情) คู่กับดาราสาวชื่อดัง จง ฉู่หง โดยที่เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังเรท R เรื่องนี้จะสามารถเรียกกระแสฮือฮาทำให้คนดูและบรรดาสื่อต่าง ๆ กลับมาสนใจในตัวเขาได้เหมือนเดิม ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ องเหม่ยหลิง เกิดความรู้สึกลึก ๆ ไม่พอใจที่เขาไปรับแสดงหนังเกรดสามแบบนั้นเหมือนเป็นการลดเกรดตัวเอง ส่วนทางด้าน องเหม่ยหลิง เธอก็มีข่าวซุบซิบเล็ก ๆ น้อย ๆ กับทั้ง หวงเย่อหัว หลิวเต๋อหัว เหมียวเฉียวเหว่ย และ เหลียงเฉาเหว่ย เพราะการโปรโมทของทีวีบี[51] ซึ่งทั้ง 3 คน ก็เคยมีข่าวลือในระยะสั้น ๆ ว่า ไปออกเดทกับเธอมาแล้วทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงทั้ง 3 คน เป็นแค่เพื่อนในวงการของเธอเท่านั้นเอง และข่าวส่วนใหญ่เป็นการโปรโมท[52] แต่โดยเฉพาะกับ เหมียวเฉียวเหว่ย นั้น สื่อต่างๆ พยามยามจับคู่เธอ กับ เหมียวเฉียวเหว่ยให้เป็นแฟนกัน และพยายามสร้างกระแสเล่นข่าวเธอ กับ เหมียวเฉียวเหว่ย ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันในตอนถ่ายละครเรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" บวกกับแรงเชียร์จากบรรดาแฟนคลับของคนทั้งคู่ ที่อยากให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริง ๆ จนกระทั่งมีข่าวลือซุบซิบออกมาว่าดาราสาว ชี เหม่ยเจิน ซึ่งเป็นแฟนสาวตัวจริงของ เหมียวเฉียวเหว่ย และเป็นเพื่อนสนิทของ องเหม่ยหลิง เกิดการไม่พอใจขึ้นมา และไม่ต้องการให้ เหมียวเฉียวเหว่ย เล่นประกบคู่ กับ องเหม่ยหลิง อีก หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้เล่นประกบคู่กันอีกเลย ข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้สร้างความอึดอัดใจให้กับทั้ง เหมียวเฉียวเหว่ย และ องเหม่ยหลิง เป็นอย่างมาก เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีคนรักที่คบหาดูใจกันอยู่แล้ว จนกระทั่ง เหมียวเฉียวเหว่ย ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ กับสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตัวเขารัก ชีเหม่ยเจิน เพียงคนเดียว ส่วน องเหม่ยหลิง นั้นเขาเห็นเธอเหมือนน้องสาวที่แสนดีเท่านั้น เพราะเขาเองไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเธอเลย จากข่าวลือเรื่องนี้ทำให้ในระยะหลัง องเหม่ยหลิง และ เหมียวเฉียวเหว่ย เองต่างก็ติดต่อกันน้อยลงจนความสัมพันธ์ก็เริ่มห่างเหินกันไป เพราะกลัวแฟนสาวของเขาจะเข้าใจผิด. (อ้างอิงจาก) [53][54][55][56]
3.ข่าวซุบซิบยังมีต่อเนื่องออกมาอีก เมื่อนิตยสารชื่อดังเล่มหนึ่งของฮ่องกง ได้ตีพิมพ์ภาพที่เธอถ่ายรูปลงนิตยสารในท่าทางที่เซ็กส์ซี่ออกมา กลายเป็นข่าวดังสุดฮอต จนบรรสื่อต่าง ๆ พยายาม นำภาพเหล่านี้ไปเชื่อมโยงกับข่าวลือในเรื่องความรักของเธอ ทำนองว่า เธอตั้งใจจะถ่ายภาพเหล่านี้ออกมาเพื่อประชดประชัน ทังเจิ้นเยี่ย ที่ไปเล่นหนังเรท R กับ จงฉู่หง โดยที่ไม่บอกเธอ จนกระทั่งทางบริษัท (TVB) ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดของเธอ ได้เรียกเธอไปตักเตือนเกี่ยวกับภาพที่ออกมาในนิตยสารดังกล่าว ถึงแม้เธอจะอ้างว่าเธอถูกหลอกให้ถ่ายภาพในลักษณะท่าทางดังกล่าวจากตากล้องช่างภาพ ของนิตยสารเล่มนั้นก็ตาม และเธอเองก็มีความเห็นว่า ภาพดังกล่าวไม่ได้ดูเซ็กส์ซี่มากมายจนถึงขนาดที่จะสร้างความเสียหายให้กับเธอได้[57]
4.ข่าวลือที่สร้างความเจ็บปวดในหัวใจของ องเหม่ยหลิง มาก ๆ อีกข่าวคือช่วงต้นปีในขณะที่ ทัง เจิ้นเยี่ย ต้องห่างเหินกับเธอเพราะเขาต้องเดินทางไปถ่ายหนังที่ ไต้หวัน ต่อมาไม่นานสื่อที่ไต้หวันได้ออกข่าวซุบซิบในหนังสือบันเทิงว่า ทังเจิ้นเยี่ย มีความสัมพันธ์กับสาว ๆ ที่ไต้หวันเป็นว่าเล่น ทั้งกับนักแสดงสาวที่เล่นหนังด้วยกัน หรือแม้กระทั่งกับสาว ทั่ว ๆ ไป จนข่าวลือเรื่องนี้ดังไกลมาถึงฝั่งฮ่องกง สร้างความกลุ้มใจให้กับเธอเป็นอย่างมากและเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเริ่มติดยานอนหลับ ต่อมาก็มีข่าวซุบซิบออกมาว่าเธอเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว เธอเคยพูดคุยกับเพื่อนสาวนอกวงการว่าเธอกลัวจะสูญเสียเขาไป ถ้าหากเขาไปเจอผู้หญิงคนอื่นแล้วเกิดเปลี่ยนใจไปจากเธอ
5.และข่าวซุบซิบในเรื่องของความไม่เหมาะสมกันทางด้านสถานะทางสังคมในเรื่องความแตกต่างทางด้านวุฒิการศึกษาที่ฝ่ายชายจบแค่ชั้นมัธยม แต่ฝ่ายหญิงจบสูงกว่าเป็นถึงนักเรียนนอก จนเป็นสาเหตุให้ความรักของคนทั้งคู่เกิดช่องว่างระหว่างกัน ฝ่ายชาย จึงมีความรู้สึกอึดอัดและเริ่มตีตัวออกห่างจากเธอ
6.มีข่าวซุบซิบลงหนังสือบันเทิงช่วงวันที่ 17 มีนาคม 2528 ว่า องเหม่ยหลิง ได้ไปเล่นคอนเสริต์โชว์ตัวที่ประเทศ สิงค์โปร์ ได้มีนักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวยชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง มาเกี้ยวพาราสีเธอและขอเธอแต่งงานด้วยแหวนเพชรมูลค่ากว่า 20,000 ดอลลาร์ แต่เธอได้ปฏิเสธเขาไป เมื่อเธอกลับมาที่ฮ่องกงได้ถูกสื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอตอบไปว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นแค่แฟนคลับทั่วไป
7.ต่อมาไม่นานนัก ข่าวลือเรื่องมือที่สามที่ดูเหมือนจะจริงจังกว่าครั้งก่อนเริ่มเข้ามาในชีวิตรักของคนทั้งคู่ จนเป็นสาเหตุทำให้คนทั้งคู่มีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะข่าวลือที่ว่า ทังเจิ้นเยี่ย ได้ไปออกเดท กับดาราตลกสาวที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียง ในขณะนั้นอย่าง อู๋ จวินหยู จนสื่อสามารถถ่ายภาพของคนทั้งคู่นำมาเขียนลงหน้า 1 จนกลายเป็นข่าวซุบซิบที่สร้างความสะเทือนใจให้กับ องเหม่ยหลิง เป็นอย่างมาก (ถึงแม้ว่าเธอจะปากแข็ง และเคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพที่เป็นข่าวก็ตาม).อ้างอิงจาก [58]
8.และในช่วงเข้าสู่กลางปี ผลงานละครชุดแนวสากลฟอร์มใหญ่เรื่อง เทพบุตรทรนง ได้ถูกนำออกฉาย เป็นการประกบคู่กันครั้งแรก ระหว่างเธอ กับนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งมาแรง เหลียงเฉาเหว่ย (ซึ่ง ละครเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นละครแนวสากล ที่แฟน ๆ ละครของเธอ ชื่นชอบและถูกจดจำมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของเธอ) หลังจากออกฉายไปได้ไม่นาน ก็ได้เกิดกระแสข่าวลือออกมาว่า เธอกับ เหลียงเฉาเหว่ยได้ไปออกเดทด้วยกัน ข่าวลือสืบเนื่องมาจากการเล่นประกบคู่กันในละครเรื่องนี้ระหว่างเธอกับเหลียงเฉาเหว่ย นั้นมี ฉากเลิฟซีน ที่ทั้งคู่ประกบปากจูบกันจริง ๆ อยู่หลายฉากโดยไม่ได้ใช้มุมกล้องใด ๆ และตัวของ เหลียงเฉาเหว่ยเองก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาแอบปลื้ม องเหม่ยหลิงอยู่มากจึงทำให้บรรดาสื่อต่างๆ พยายามสร้างข่าวโดยจับคู่เธอกับเหลียงเฉาเหว่ยให้เกิดเป็นกระแสว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวกับนักข่าวว่าไม่เป็นความจริงเลย เพราะเธอเห็น เหลียงเฉาเหว่ย เป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ดีที่ตัวเธอชื่นชมเท่านั้น.
9.ข่าวลืออีกหนึ่งข่าวที่สร้างความสั่นคลอนให้ความรักของคนทั้งคู่อย่างมากคือเธอได้เริ่มคบหาดูใจกับหนุ่มไฮโซหน้าตาดีลูกเศรษฐีนอกวงการ นามว่า โจวซื่อหลุง(邹世龙) ซึ่งเขาคนนี้เคยคบหาดูใจกับ ดารานักร้องระดับซุบเปอร์สตาร์ เหมยเยี่ยนฟาง มาก่อน ที่ข่าวลือออกมาทำนองนี้ก็เพราะว่า ในช่วงระยะหลัง ๆ นี้เอง มีผู้คนไปพบเห็น องเหม่ยหลิง ออกไปเที่ยวกลางคืนและเต้นรำกับเขาอย่างสนุกสนานใน ผับดิสโก้ กันสองต่อสองอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เกิดกระแสข่าวลือหนาหู นี้ขึ้นมา,(แหล่งอ้างอิง)[59] หลังจากนั้นก็ได้เกิดกระแสข่าวลือตามมาอีกทำนองว่า องหม่ยหลิงเป็นมือที่สามที่แทรกแซงความรักระหว่างโจวซื่อหลุง กับ เหมยเยี่ยนฟาง จนกระทั่ง เหมยเยี่ยนฟาง และ โจวซื่อหลุง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเพราะ โจวซื่อหลุง ได้เลิกลากับเหมยเยี่ยนฟาง มาได้ประมาณ 2-3 เดือนก่อนหน้าที่เขาจะมาพบเจอกับ องเหม่ยหลิง ที่ดิสโก้เธคแห่งหนึ่งและเขาเริ่มตามจีบเธอ.
ฆ่าตัวตาย[แก้]
จนกระทั่ง กลางปี วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 หลังจากครบรอบวันเกิดอายุ 26 ปีของเธอได้เพียงแค่ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ร้ายที่ไม่มีใครคาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเธอได้ตัดสินใจ จบชีวิตการแสดงที่รุ่งโรจน์ของเธอ ไปพร้อมกับมรสุมข่าวลือและปัญหาความรัก ที่ผิดหวัง โดยการ รมแก๊สฆ่าตัวตาย ในห้องพักของเธอ หลังจากที่มีปากเสียงทะเลาะกับ ทัง เจิ้นเยี่ย แฟนหนุ่มของเธอ. กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ที่สร้างความเสียใจ และ เสียดายฝีมือการแสดงของเธอ เป็นอย่างมาก นับเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการบันเทิงเอเชีย.
ผลงานละครเรื่องสุดท้าย เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) (橋王之王) ที่เธอเพิ่งถ่ายไปได้แค่ 2 ตอน แล้วมาเสียชีวิตลงไปอย่างกะทันหัน จึงทำให้บทบาทนางเอกของเธอในละครเรื่องนี้ถูกแทนที่โดยดาราสาว จาง ม่านอวี้ และมีละครอีกหนึ่งเรื่องที่มีการวางตัว องเหม่ยหลิง ให้รับบท "จิงจิง" ซึ่งเป็นนางเอกเอาไว้ก่อนจะเปิดกล้องในเดือน กรกฎาคม คือ เล็กเซี่ยวหงส์ เวอร์ชันว่านจือเหลียง (The Return of Luk Siu Fung 1986) ซึ่งต่อมาบทดังกล่าวถูกแทนที่โดยดาราสาว เฉินซิ่วจู[60]
สาเหตุการตายและข่าวลือต่าง ๆ[แก้]
เหตุการณ์ก่อนวันเสียชีวิต[แก้]
ลำดับเหตุการณ์ในเดือนที่เธอเสียชีวิต (14 วันสุดท้ายในชีวิตของเธอ)
1 พ.ค. 2528 ตอนบ่าย ๆ ได้ทำพิธีเปิดกล้องละครใหม่เรื่อง เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) ที่ทางบริษัททีวีบีได้วางตัว องเหม่ยหลิง เป็นนางเอก และ ทังเจิ้นเยี่ย เป็นพระเอก ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกในบทบาทคู่พระนางของเรื่อง เธอตื่นเต้นมากที่ได้เล่นประกบคู่กับเขาและหวังว่าจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อปรับความเข้าใจกับฝ่ายชายเพราะในช่วงเวลานั้นมีข่าวรัก ๆ เลิก ๆ ของคนทั้งคู่มาได้ระยะหนึ่ง หลังจากทำพิธีเปิดกล้องละครเสร็จสิ้น นักข่าวได้ขอถ่ายรูปคู่ของคนทั้งสองในฐานะพระนางของละครเรื่องนี้ แต่ องเหม่ยหลิงดูเกร็งและชักสีหน้าออกมาไม่ค่อยดีนัก ทำให้ ทังเจิ้นเยี่ย หัวเสียเป็นอย่างมาก หลังจากการถ่ายทำในคืนนั้นเขาหัวเสียและได้ออกจากกองถ่ายทิ้งเธอไว้ตามลำพัง และเมื่อเธอออกมาพบว่าเขาออกจากกองโดยไม่รอเธอ ทำให้เธอโกรธมาก คืนนั้นเธอออกจากกองถ่ายไปแต่ไม่กลับไปยังที่พัก เธอไปเที่ยวดิสโก้ต่อกับเพื่อนสาวนอกวงการโดยมี โจวซื่อหลุง เพื่อนชายคนใหม่ของเธอไปด้วย คืนนั้นเธอกินเหล้าเมามายอย่างหนักจนเพื่อนสาวที่ไปเที่ยวด้วยกันต้องช่วยกันพาเธอกลับมายังที่พัก โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ทังเจิ้นเยี่ย มารอเธออยู่ในห้องพักตั้งแต่ออกจากกองถ่ายแล้ว และเขาก็รู้ว่าเธอออกไปเที่ยวดิสโก้กับ โจวซื่อหลุง (ลูกไฮโซ เศรษฐีนอกวงการที่มีข่าวลือว่าตามจีบเธอ) พอเขาเปิดประตูออกมาเห็นสภาพเมามายของเธอแล้วไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ในคืนนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ถึงขั้นแตกหัก[61][62]
2 พ.ค. 2528 ประมาณเที่ยง ทังเจิ้นเยี่ยเก็บเสื้อผ้าที่มีอยู่ทั้งหมดออกจากห้องพักของเธอ ทั้งสองแยกทางกัน เขาได้กล่าวอำลาเธอทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมาก
3 พ.ค. 2528 เธอไปออกรายการเกมส์โชว์ "การแข่งขันงานกุศลคนดัง"(Celebrity Charity Competition) โดยมีดาราหลายคนได้เข้าร่วมการแข่งขันงานกุศลในครั้งนี้ ซึ่งในวันนั้นเธอได้ร่วมทีมแข่งขันดารากับ โจวเหวินฟะ และ ชีเหม่ยเจิน และนับได้ว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเธอบนหน้าจอทีวี
4 พ ค. 2528 (ก่อนเธอจะเสียชีวิต 10 วัน) องเหม่ยหลิง ได้ไปเล่นไพ่นกกระจอกกับนักแสดงท่านอื่น ๆ วันนั้น องเหม่ยหลิง เธอดูเป็นปกติ และยังได้พูดชักชวนนักแสดงรุ่นน้า "ซูชิงฉวน" 苏杏璇 (นักแสดงที่รับบทเป็น แม่ของ "ก๊วยเจ๋ง" ใน มังกรหยก เวอร์ชันเดียวกันกับเธอ) ให้มาเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน แต่ ซูชิงฉวน ปฏิเสธไป
- (ต่อมาหลังจาก องเหม่ยหลิง ได้เสียชีวิตไปแล้ว "ซูชิงฉวน" ได้กล่าวว่า ฉันเสียดายเป็นอย่างมาก ถ้าวันนั้นฉันตอบตกลงเล่นไพ่นกกระจอกกับอง เหม่ยหลิง และถ้าเธอมีเรื่องไม่สบายใจจริง ๆ ก็คงได้มีโอกาสคุยและปรับทุกข์กันบ้าง แต่ฉันไม่รู้เลยว่า องเหม่ยหลิง ในตอนนั้นมีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง เพราะวันนั้น เธอดูร่าเริงและดูมีความสุข เท่าที่ฉันสังเกตเห็นได้จากใบหน้าของเธอ) [63]
5 พ.ค. 2528 เธอได้ให้หมอดูฮวงจุ้ย ซึ่งเพื่อนสาวของเธอเป็นคนแนะนำมาปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยภายในห้อง เพื่อว่าเธอกับทังเจิ้นเยี่ยจะได้กลับมาคืนดีกันเพราะเธอเชื่อว่าสาเหตุการทะเลาะกับ ทัง เจิ้นเยี่ยอยู่เป็นประจำอาจจะมาจากฮวงจุ้ยในห้องไม่ดี
6 พ.ค. 2528 เธอไปถ่ายรูปลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นการถ่ายรูปลงนิตยสาร ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ
7 พ.ค. 2528 ฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 26 ปีกับแฟนคลับส่วนตัว ไร้เงา ทังเจิ้นเยี่ย มาร่วมงาน คืนนั้นหลังจากตัดเค้กวันเกิด เธอไม่ได้ไปฉลองที่ไหนต่อ และรีบกลับห้องพักโดยเธอหวังว่า ทังเจิ้นเยี่ย จะโทรมาอวยพรวันเกิดเธอ แต่สุดท้ายฝ่ายชายก็เมินเฉย
8-10 พ.ค. 2528 สามวันได้เข้าถ่ายทำ อัตชีวประวัติ แบบย่อ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของเธอ จนกระทั่งถ่ายเสร็จในตอนเย็นของวันที่ 10 พ.ค. และคืนนั้นเอง องเหม่ยหลิง ก็ได้ไปเที่ยวดิสโก้กับ โจวซื่อหลุงอีกครั้ง
11 พ.ค. 2528 ทั้ง โจวซื่อหลุงและองเหม่ยหลิง ได้ไปเที่ยวเกาะมาเก๊าด้วยกันต่ออีก 1 วัน ในขณะที่ทางฝั่งฮ่องกงช่วงเวลาบ่ายๆ ของวันเดียวกัน นักข่าวได้ถ่ายภาพดารา 4 คนเอาไว้ได้ โดยมี เหมียว เฉียวเหว่ย, ชี เหม่ยเจิน, ทัง เจิ้นเยี่ย และ อู๋ จวินหยู พวกเขาไปเที่ยวทะเลด้วยกันแต่ไม่มี องเหม่ยหลิง ไปด้วยนักข่าวแปลกใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ทังเจิ้นเยี่ย กับ องเหม่ยหลิง น่าจะมีปัญหากันอย่างหนักแล้ว พอตกกลางคืน ทังเจิ้นเยี่ย และ อู๋จวินหยูได้ไปร้องเพลงที่คาราโอเกะด้วยกันอีก และมีนักข่าวถ่ายรูปได้เช่นกัน จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวในวันถัดมา
12 พ.ค. 2528 เมื่อรูปภาพของคนทั้ง 4 ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันถูกนำมาลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ โดยพาดหัวข่าวว่า "2คู่ชูชื่น" แล้ว องเหม่ยหลิงล่ะ? กลายเป็นข่าวดังสุดฮอตทันที และ ในวันเดียวกันขณะที่ องเหม่ยหลิง ยังคงอยู่กับ โจวซื่อหลุง ที่มาเก๊าเธอไม่ได้อ่านข่าวแต่อย่างใด และตอนเย็นก็ได้เดินทางกลับมายังฮ่องกง
ในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ก่อน องเหม่ยหลิง จะเสียชีวิตเพียงแค่ 1 วัน
ช่วงเวลาเช้าตรู่ มีนักข่าวคนหนึ่งชื่อ เหลียงเพ่ยอวี้ ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเพื่อนัดสัมภาษณ์ส่วนตัว แต่ไม่บอกเธอว่าจะสัมภาษณ์เรื่องอะไร เธอตอบตกลงแต่ให้มาตอนใกล้เที่ยงและเธอรับปากจะเลี้ยงมื้อเที่ยงนักข่าวอีกด้วย
เวลาประมาณ 11.00 น. นักข่าวไปถึงบ้านพักของเธอก่อนเวลานัดราวครึ่งชั่วโมง องเหม่ยหลิง เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จและเปิดประตูต้อนรับ พอนักข่าวเข้าห้องก็รีบหยิบรูปภาพของคนทั้ง 4 ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันให้เธอดูทันที และถามเธอว่าเห็นรูปนี้ที่เป็นข่าวแล้วหรือยัง เธอจ้องดูรูปราว 2-3 วินาที ก็ยื่นกลับให้นักข่าวและบอกว่า
ยังค่ะ... ช่วงนี้ยุ่ง ๆ เลยไม่มีเวลาอ่านข่าว แต่รูปนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลยนี่คะ ก็แค่พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันเท่านั้น
ซึ่งในการพูดคุยกันครั้งนี้นักข่าวเองก็ไม่คาดฝันว่านี้จะเป็นการสัมภาษณ์แบบส่วนตัวครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ ซึ่งในภายหลังนักข่าวคนนี้ได้ออกมาให้ความเห็นว่าในวันนั้น องเหม่ยหลิงดู ซึมเศร้าจริง ๆ สาเหตุอาจจะเกิดจากข่าวลือต่างๆ ที่รุมประดังเข้ามาในชีวิตของเธออย่างมากมายก็เป็นได้ เธอบอกกับนักข่าวว่า ช่วงระยะหลัง ๆ มานี้ เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากและไม่มีความสุขเอาเสียเลยกับข่าวลือที่ว่าเธอไปแย่งแฟนของดาราสาวคนนั้น...คนนี้ เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอยังตัดพ้อต่ออีกว่าในวงการบันเทิงช่างเป็นข่าวง่ายดายเสียเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเวลามีผู้ชายเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ ด้วยความที่เธอเป็นคนสนุกสนานง่าย ๆ ไม่ถือตัว เลยทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจเธอผิด รวมไปถึงข่าวลือที่ว่า เธอกับทังเจิ้นเยี่ย แตกหักกันแล้วเพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้ จนฝ่ายชายได้ตีตัวออกห่างจากเธอแล้วหันไปคบหากับดาราตลกสาวที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียงในขณะนั้น อย่าง อู๋ จวินหยู แทน [64]
เวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากได้พูดคุยกับนักข่าวเสร็จสิ้นแล้ว องเหม่ยหลิงต้องรีบไปที่โรงถ่ายเพื่อเข้าถ่ายทำละครประกบคู่กับทังเจิ้นเยี่ย ในเรื่อง เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) (橋王之王) ที่เพิ่งจะเปิดกล้องไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
เวลา 13.00 น.(ช่วงเวลาบ่ายๆ ของวันนั้น) เมื่อเธอไปถึงกองถ่าย ปรากฏว่าเธอโดนนักข่าวนับสิบรุมล้อมสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของฝ่ายชายกับดาราหญิงคนอื่น ตอนนั้นเธอดูเป็นปกติสามารถพูดคุยกับนักข่าวและหัวเราะได้เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่เธอเคยเป็น (ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะฆ่าตัวตาย) แต่ทว่าหลังจากคุยกับนักข่าวแล้วเธอก็เข้าไปในกองถ่าย เมื่อ ทังเจิ้นเยี่ยพบเธอก็มีปากเสียงกันเล็กน้อยเขาได้ถามเธอว่า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปเที่ยวกับโจวซื่อหลุงสนุกไหม? องเหม่ยหลิง ไม่ตอบแต่ถามเขาถึงเรื่องราวที่เป็นข่าว เขาตอบเธอว่า เขาเป็นคนดีพอและระหว่างเขากับ อู๋จวินหยู ไม่มีอะไรกัน แต่ องเหม่ยหลิงพูดกับเขาว่า ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ทำไมต้องหลบหน้านักข่าวด้วย แต่ทั้งคู่ยังไม่ทันจะได้คุยกันให้รู้เรื่องก็ถูกเรียกให้ไปแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปและเข้าฉากถ่ายทำละคร [65] หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองต้องมาถ่ายรูปคู่กันในฐานะพระนางของเรื่องมีนักข่าวบางคนสังเกตเห็นได้ชัดว่าตอนเธอถ่ายรูปคู่กับเขาสีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีนักและดูเธอไม่มีความสุขเอามาก ๆ เหมือนมีอะไรในใจ
18.00 น. หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำฉากหนึ่งในวันนั้น ทั้งคู่ได้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวเพื่อรอที่จะถ่ายทำฉากต่อไป ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้องแต่งตัวก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันอีกครั้ง ต่อมาไม่นานมีคนในกองถ่ายละครได้ยินเสียงเธอกับ ทังเจิ้นเยี่ยทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นแตกหัก และได้ยินเสียงของ องเหม่ยหลิงร้องไห้และพูดขอจบความสัมพันธ์กับฝ่ายชายว่า ดี..ถ้าเป็นแบบนี้เราเลิกกัน (เธอพูดออกไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่ใจจริงเธอไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น) เมื่อฝ่ายชายได้ยินก็ไม่ได้โต้ตอบกลับเพียงแต่เดินออกจากห้องแต่งตัวหายไปจากกองถ่ายอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหนปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่ในห้องแต่งตัวตามลำพัง เป็นเหตุให้กองถ่ายทำต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่เพราะต้องจบถ่ายทำฉากที่ทั้งสองต้องแสดงร่วมกันเอาไว้แค่นั้น ในช่วงนี้มีดารารุ่นแม่ หลี่เซี่ยงฉิน (แม่บุญธรรมของเธอในวงการบันเทิง) ได้เข้าไปพูดคุยปลอบใจเธอว่า
ถ้าวันนี้อารมณ์ไม่ดีไม่อยากถ่ายละครต่อก็ไม่ต้องถ่าย ตอนนี้การแสดงของเธอยังได้รับความนิยมควรมุ่งเป้าหมายของชีวิตไปทางด้านการงานมาก่อนเรื่องความรักนะ
องเหม่ยหลิงเพียงแต่รับฟังในสิ่งที่ดาราแม่บุญธรรมบอกกล่าวแต่ยังคงร้องไห้ ต่อมามีตัวประกอบชายท่านหนึ่งที่ค่อนข้างสนิทกับเธออาสาจะไปนอนเป็นเพื่อนเธอในวันนั้นแต่ องเหม่ยหลิงปฏิเสธไป ไม่นานผู้กำกับได้ตัดสินใจถ่ายทำฉากตัวละครที่เล่นโดยคนอื่นต่อไป
18.30 น. ตอนเย็นใกล้ค่ำ เธอได้หุนหันพลันแล่นเดินออกจากกองถ่ายด้วยน้ำตานองหน้าเรียกรถตู้ของทางกองให้ไปส่งเธอที่บ้านพัก เมื่อดาราแม่บุญธรรม "หลี่เซี่ยงฉิน" รู้ก็รีบเดินออกจากกองถ่ายตามเธอไปยังรถตู้บอกจะขอไปส่งเธอที่บ้านพักแต่ องเหม่ยหลิง ปฏิเสธ และนั่งรถตู้ของบริษัทกลับที่พักของเธอตามลำพังโดยไม่มีใครคาดฝันว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เห็นเธออยู่บนโลกใบนี้[66]
ข่วงเวลาประมาณ 23.00-24.00 น. คืนนั้น...เธอพยายามส่งข้อความไปหาเขาทาง เพจเจอร์ เพื่อให้เขาโทรกลับมาเครียร์ปัญหาความรักกับเธอ อยู่หลายครั้งเป็นสิบ ๆ ข้อความแต่ทว่ากลับไม่มีการโทรติดต่อกลับมาแต่อย่างใด (ทราบในภายหลังว่าคืนนั้นฝ่ายชายปิดเครื่องเพราะหลังจากทะเลาะกับเธอแล้วเขายังคงหัวเสียและอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ต้องการพูดคุยหรือติดต่อกับใครจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้อ่านข้อความที่เธอส่งมา) องเหม่ยหลิง น้อยใจเพราะเข้าใจผิดคิดว่าฝ่ายชายได้อ่านข้อความของเธอแล้วแต่ไม่สนใจ เธอจึงฝากข้อความสุดท้ายเหมือนกับเธอกำลังจะคิดสั้นส่งไปข่มขู่ฝ่ายชายว่า (อ้างอิงจาก [67])
ถ้าเธอไม่ติดต่อกลับมา เธอจะต้องเสียใจ เพราะนี้จะเป็นข้อความสุดท้ายจากฉันที่เธอจะได้รับ ต่อไปเธอจะไม่มีวันได้พบหน้าและได้ยินเสียงของฉันอีกเลย
โดยเธอหวังว่าเมื่อเขาได้อ่านข้อความนี้แล้วจะเกิดเป็นห่วงเธอขึ้นมาและรีบติดต่อกลับมาหา หลังจากนั้นเธอจะได้ใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับเขาอีกครั้งเพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่ทว่าทุกอย่างยังคงเงียบงันและไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้
14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 (เข้าสู่วันใหม่ของ วันเกิดเหตุ)
องเหม่ยหลิง ได้ใช้โทรศัพท์โทรออกเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอเพื่อไปปรับทุกข์กับโจวซื่อหลุง [68] รำพึงรำพันตัดพ้อ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเศร้าสร้อยเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องข่าวลือต่าง ๆ ที่รุมประดังเข้ามาจนทำให้ความรักระหว่างเธอกับทัง เจิ้นเยี่ยนั้นมีอันต้องจบลง ประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะวางสาย เธอพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "เซ็งชีวิตจริง ๆ การมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ฉันเหนื่อยแล้วที่จะทนอยู่แบบนี้" หลังจากนั้นก็วางสายไปตอนประมาณ ตี 1.25 น. โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการเดินไปปิดประตูหน้าต่างที่มีอยู่ทั้งหมด แล้วเปิดแก๊สทิ้งเอาไว้ ตามด้วยกินยานอนหลับแล้วดื่มเหล้าเข้าไปครึ่งขวดทำให้เธอสลบและค่อย ๆ สูดดมแก๊สเข้าไปในร่างกาย ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่เธอวางสาย โจวซื่อหลุง เองก็เกิดรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงเธอมาก กลางดึกคืนนั้นจึงได้ตัดสินใจไปหาเธอที่บ้านพัก เพื่อจะไปปลอบใจเธอ
ตี 2.00 น. ของวันเดียวกัน เมื่อเขาไปถึงหน้าห้องของเธอก็พยายามเคาะประตูเรียกเธออยู่หลายครั้งนานหลายนาที แต่ก็ไม่มีใครตอบหรือเปิดประตูออกมา เขาก็เลยคิดว่าเธอคงหลับไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงกลับที่พักไปแล้วค่อยมาใหม่ในตอนเช้า
7.00 น. เช้าตรู่ของวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 โจวซื่อหลุง ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเพื่อจะนัดเธอไปทานข้าวเช้าด้วยกัน แต่ทว่ากลับไม่มีใครรับสาย ด้วยความแปลกใจจึงโทรศัพท์ไปสอบถามยัง ร.ป.ภ ผู้ดูแลตึก ว่าเธอได้ออกไปไหนตั้งแต่เช้าเลยหรือเปล่า, ต่อมา ร.ป.ภ ที่รับสายได้แจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ อง เหม่ยหลิงไม่ได้ออกจากห้องไปไหนเลย แต่บริเวณอาคารที่เธอพักมีกลิ่นแก๊สโชยคลุ้งไปทั่วอาคาร แต่ไม่รู้ว่ากลิ่นแก๊สรั่วมาจากห้องไหน ซึ่งตอนนี้ได้ทำการติดต่อไปยังบริษัทแก๊สให้มาตรวจสอบแล้ว เมื่อ โจวซื่อหลุงได้ยินดังนั้นเขาเกิดสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับเธอจึงรีบแต่งตัวและขับรถไปยังที่พักของเธอโดยทันที.
8.00 น. ของวันเดียวกัน โจวซื่อหลุง ได้ขับรถมาถึงที่พักของเธอ พอดีกับที่เจ้าหน้าที่บริษัทแก๊สเพิ่งมาถึงแล้วเช่นกัน เมื่อพวกเขาทั้งหมดแน่ใจแล้วว่าแก๊สได้รั่วออกมาจากห้องพักของดาราสาว โจวซื่อหลุง ซึ่งรู้ลู่ทางห้องพักของเธอเป็นอย่างดี ได้ปีนไปทางด้านข้างของห้องพักและงัดหน้าต่างด้านข้างออกเพื่อเข้าไปในห้องพักของเธอ พอเข้าไปได้ เขาได้กลิ่นแก๊สรุนแรงโชยไปทั่วห้อง สังเกตเห็นขวดเหล้า (บรั่นดี) ที่เปิดดื่มแล้วครึ่งขวดกับแก้วบรั่นดีตกอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น และบริเวณห่างกันไม่มากนักพบร่างของเธอสวมชุดนอนสีชมพูนอนโคม่าหมดสติอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นใกล้กับประตูห้อง เมื่อเขาเห็นดังนั้นสิ่งแรกที่ทำได้คือ โทรหาตำรวจ แล้วจึง นำร่างของเธอที่ไม่ได้สตินำส่งโรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" ซึ่งอยู่แถวเกาลูนใกล้บริเวณที่พักอย่างเร่งด่วน แต่ทุกอย่างช้าไปเธอได้สิ้นใจระหว่างทางนำส่งโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น.
8.50 น. ถึงโรงพยาบาล แพทย์พยายามช่วยเหลือชีวิตของเธอแต่ไม่สำเร็จ
9.00 น. ทางโรงพยาบาล แจ้งว่า ไม่สามารถช่วยชีวิตของ อง เหม่ยหลิง เอาไว้ได้ เพราะ เธอได้เสียชีวิตไปก่อนที่จะเดินทางมาถึงโรงพยาบาล สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เธอไม่ได้เสียชีวิตเพราะยานอนหลับโดยตรง แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เธอต้องเสียชีวิตนั้น เกิดจากพิษแก๊สที่เธอนอนสูดดมเข้าไปในร่างกายจนเกินขนาด แต่จะมีการผ่าชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในวันถัดไป ร่างของเธอได้ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าขาวและส่งไปที่ห้องดับจิตทันที
ประมาณ 09.00 น. เศษ ในขณะที่ทัง เจิ้นเยี่ยยังนอนอยู่เขาได้ยินเสียงข้อความที่ทางบริษัท ทีวีบี ส่งเข้ามาทางเพจเจอร์ อย่างมากมาย จึงลุกขึ้นมาเปิดอ่านดู เมื่อทราบข่าวร้าย เขาจึงรีบรุดไปยัง โรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" โดยทันที
10.00 น. ข่าวการเสียชีวิตของเธอถูกรายงานออกไป สร้างความตกใจให้แก่ผู้คนทั่วทั้งเกาะฮ่องกงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับบรรดาแฟนคลับของเธอที่มีอยู่กันอย่างมากมาย หลายคนเมื่อรู้ข่าวร้ายถึงกับซึมเศร้า และมีบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นที่ต้องสงสัยของตำรวจเป็นอย่างมากและหน่วยงานรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ถึงขนาดสั่งให้ทางโรงพยาบาลห่อหุ้มศพของเธอด้วยฟอยล์ถึง 5 ชั้นคลุมร่างกายและปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งอีกที เพื่อป้องกันการถูกเปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และรอการชันสูตรศพต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง [69] [70]
ประมาณ10.00 น. เศษ เมื่อ ทังเจิ้นเยี่ยไปถึงที่โรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" มีทั้งนักข่าวและตำรวจได้มาถึงก่อนแล้ว ทัง เจิ้นเยี่ยปฏิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวทุกกรณี และเขาได้เข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อขออนุญาตดูศพผู้ตาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกลับปฏิเสธ เพราะถือว่าเขาเป็นแค่คนรู้จักไม่ใช่ญาติที่แท้จริง ต่อมาเขาจึงนั่งรถของตำรวจกลับไปยังห้องพักที่เกิดเหตุ
เวลา 11.15 น. ทัง เจิ้นเยี่ยนั่งซึมเหม่อลอยในที่เกิดเหตุ โดยมีเพื่อนคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ
14.00 น. มีการรายงานข่าวว่า ตำรวจสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดว่า องเหม่ยหลิงฆ่าตัวตาย สาเหตุมาจาก รักเป็นพิษ ตามรายงาน จากคำให้การของ โจวซื่อหลุง เกี่ยวกับเหตุการณ์ 24 ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตของเธอ และจากหลักฐานการพบข้อความที่เธอได้เขียนทิ้งไว้บนหน้าปฏิทินในห้องนั่งเล่นว่า "ที่รัก ฉันรักคุณ" Darling I Love You ทำให้ ทัง เจิ้ยเยี่ย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสาเหตุในการฆ่าตัวตายของเธอโดยทันที[71][72]
วันถัดมา 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ข่าวการเสียชีวิตของเธอ ถูกรายงานข่าวออกไปทั่วทวีปเอเชีย ทั้งในจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับบรรดาแฟนคลับของเธอที่มีอยู่ในประเทศเหล่านี้เป็นอย่างมาก
ข่าวลือเกี่ยวกับการเสียชีวิต[แก้]
หลังจากการเสียชีวิตของเธอได้ไม่นาน ก็ได้เกิดกระแส ข่าวลือ ต่าง ๆ ออกมาพูดถึงกันอย่างมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ ประเด็นหลักคือ อง เหม่ยหลิง เองไม่ได้เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้แต่อย่างใด จึงทำให้การเสียชีวิตของเธอเป็นที่สงสัยของผู้คนจำนวนมาก และได้กลายเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เธอเสียชีวิตเพราะสาเหตุใดกันแน่ เพราะเธอเป็นดาราสาวที่มีอนาคตที่สดใสมาก และชื่อเสียงก็อยู่ในช่วงที่โด่งดังสุดขีด อีกทั้ง เธอเองก็มีนิสัยที่ร่าเริง สนุกสนานและมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก เลยทำให้มีแฟนละครของเธอจำนวนหนึ่งไม่เชือว่าเธอจะฆ่าตัวตายเพียงแค่ปัญหาความรักเพียงเรื่องเดียว และมีหลายต่อหลายคนคิดว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ จึงกลายเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ และคาใจแฟนละครจำนวนมากของเธอมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งนักวิเคราะห์ ผู้คนและสื่อ ที่ต่างให้ความเห็นในการเสียชีวิตที่แตกต่างกันออกไป.[73] [74]
- บางคนสันนิษฐานว่ามันเป็น อุบัติเหตุจากแก๊สรั่วที่เธอลืมปิดเพราะคืนนั้นเธอกินเหล้าจนเมาและหลับไปเป็นเหตุให้ค่อย ๆ นอนสูดดมแก๊สเข้าไปในร่างกายจนเกินขนาดมากกว่าการที่เธอจะตั้งใจฆ่าตัวตาย
- บางคนสันนิษฐานว่าการฆ่าตัวตายของเธอ เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตัวตายไปจริง ๆ
- มีข่าวลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ว่า มีแฟนคลับของ องเหม่ยหลิง คนหนึ่ง สามารถติดต่อสื่อสารกับดวงวิญญาณของเธอได้ และได้เล่าถึงรายละเอียดในคืนที่เกิดเหตุว่า จริงๆ เดิมทีตอนที่ อง เหม่ยหลิง คิดจะฆ่าตัวตายนั้น เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เสียชีวิตลงไปจริง ๆ เพียงแต่คืนนั้นเธอต้องการที่จะทำให้ ทัง เจิ้นเยี่ย ตกใจจะได้รีบมาหาเธอ และปรับความเข้าใจกัน แต่เพราะความประมาทของเธอในครั้งนี้ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เลยทำให้เธอต้องเสียชีวิตไปจริง ๆ
- บางคนสันนิษฐานว่าเธอฆ่าตัวตาย เพราะสื่อ เพราะระยะหลัง ๆ นี้ เธอโดนมรสุมข่าวลืออย่างมากมาย สาเหตุเพราะ สื่อมักจะชอบเขียนข่าวลือด้านลบในเรื่องความรักของเธอมากกว่าเรื่องงานละคร ที่เธอทุ่มเท จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัด และไม่พอใจ กับข่าวลือที่สื่อเขียนออกมา และเพราะสื่อนี้เองที่ทำให้ความรักของเธอมีปัญหาจนมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเวลามีข่าวที่ทำให้เธอไม่สบายใจ เธอก็ไม่สามารถระบายความทุกข์ ให้กับใครได้เลย เพราะเธอไม่มีญาติ หรือเพื่อนสนิทมากพอที่จะระบายความทุกข์ได้
- ข่าวลือที่พูดกัน อย่างมากอีกข่าวคือ เธอเป็นลูกสาวลับ ๆ ของอดีตดาราสาวชื่อดังยุค ชอว์บราเดอร์ ที่ชื่อว่า หลิน ฟ่ง (林鳳 Patrica Lam Fung) ส่วนแม่ที่เลี้ยงดูเธอมานั้นไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเธอ จึงทำให้เธอเติบโตมาขึ้นมาในชีวิตวัยเด็กที่ขาดความรักความอบอุ่น และทำให้เธอแสวงหาความรักเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจได้ปันใจให้คนอื่นและกำลังจะทิ้งเธอไป เธอเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย[75]
- ข่าวลืออีกข่าวคือ เธอโดนฆาตกรรมจากใครบางคน เพราะมีข่าวลือว่า มีนักแสดงสาวรุ่นเดียวกันกับเธอบางคนที่ไม่ชอบเธอเพราะอิจฉาในความโด่งดังของเธอ เลยหาวิธีกำจัดเธอให้ออกไปจากเส้นทางในวงการบันเทิง
- มีข่าวลือออกมาว่าเธออาจถูกฆาตกรรมจากคนที่เป็นหนี้เธอ หรือตัวเธอเองอาจจะฆ่าตัวตายเพราะปัญหาเรื่องเงิน เพราะตอนที่เธอเสียชีวิต แม่ของเธอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอเหลือเงินในบัญชีแค่ 150 เหรียญ (689บาท) เท่านั้นเอง สาเหตุมาจาก อง เหม่ยหลิงเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไป เวลาที่คนในวงการบันเทิงที่เธอรู้จักเดือดร้อน เธอมักจะนำเงินที่มีอยู่ไปช่วยเหลือเพื่อน ๆ และคนรู้จักทั้งในและนอกวงการเสมอ.[76]
- บางคนก็สันนิษฐานว่าเธอถูกฆาตกรรมจากพวกมาเฟีย ที่ขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจจอแก้วในวงการบันเทิง สาเหตุเพราะในสื่อของฮ่องกงต่างมีนายทุนที่เป็นพวกมาเฟียอยู่เบื้องหลัง[77]
- ข่าวลือที่สร้างความตกใจให้แก๋ผุ้คนอีกข่าว คือ เธอถูกข่มขืน โดยผู้ชาย 3 คน ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ว่ากันว่า เจ้าแม่รายการทีวี เสิ่น เตี้ยนเสีย เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง (อ้างอิงจาก) [78][79] [80]
- ข่าวลือบางข่าวออกมาว่า เธอฆ่าตัวตายเพราะความเครียดและความกดดัน ในเรื่องงานแสดง สาเหตุมาจากในระยะหลัง เธอมักโดนวิจารณ์ว่าบทที่เธอได้รับในระยะหลัง ๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจจากคนดูเท่าที่ควร และความดังของเธอก็เริ่มถูกดาราสาว จาง ม่านอวี้ ขึ้นมาได้รับความนิยมเทียบเคียงกับเธอจนมีข่าวซุบซิบออกมาว่าชื่อเสียงและความนิยมในตัว อง เหม่ยหลิงเริ่มขาลง แต่แฟนละครของเธอส่วนใหญ่ไม่เชื่อข่าวลือนี้ ว่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอคิดฆ่าตัวตายได้ เพราะในช่วงเวลานั้น ทั้งชื่อเสียงและงานแสดงของเธอ ก็ยังได้รับความนิยมจากคนดูอยู่
- ข่าวลือว่า เธอถูกอาถรรพ์บั่นทอนอายุในละครเรื่อง สามก๊ก ตอน แบ่งแยกแผ่นดิน(ศึกสองแผ่นดิน) ที่เธอได้มีโอกาสได้เล่นรับเชิญเป็นตัวละคร อิงประวัติศาตร์ ที่มีอยู่จริงตามตำนานและต้องเสียชีวิตในเรื่อง ซึ่งระหว่างการถ่ายทำมีคุณป้าท่านหนึ่งที่ร่วมแสดงด้วยในละครเรื่องนี้ ได้นำผ้าสีแดงมอบให้แก่เธอเพื่อให้เธอได้พกติดตัวตลอดการถ่ายทำซึ่งทางธรรมเนียมจีนถือว่าเป็นการแก้เคล็ดเพื่อไม่ให้นักแสดงถูกอาถรรพ์จากละครเรื่องนี้ แต่เธอไม่เชื่อเพราะเธอเป็น คริสเตียน เลยไม่รับผ้าแดงนั้น ต่อมาไม่นานก็มีข่าวร้ายว่าเธอได้เสียชีวิตลง
- หนึ่งในข่าวลือส่วนใหญ่ที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ก็คือ การฆ่าตัวตายของเธอเป็นผลมาจาก โรคซึมเศร้า ที่เธอเป็นโดยไม่รู้ตัวมากกว่าการผิดหวังในเรื่องของความรัก.
บทสัมภาษณ์ที่สวนทางกับการฆ่าตัวตาย[แก้]
- เธอเคยให้สัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุฮ่องกง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2528 เมื่อมีการถามถึงข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับทัง เจิ้นเย่ อง เหม่ยหลิง ได้อธิบายว่า[81]
...เขาเป็นเพียงเพื่อนที่รู้ใจเท่านั้นและฉันก็เคารพหน้าที่การงานของเขา
- จากการให้สัมภาษณ์ของเพื่อนนักแสดงที่ร่วมงานกับเธอ เล่าว่า [82] ก่อนวันที่เหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้น
อง เหม่ยหลิง... เธอดูร่าเริงและดูเป็นปกติดีเหมือนทุกครั้ง และไม่มีวี่แววว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตายเลย
- อง เหม่ยหลิง ยังให้สัมภาษณ์ทางวิทยุเกี่ยวกับอนาคตของเธอ ประมาณสองสัปดาห์ก่อนการเสียชีวิตของเธอว่า[83]
ดิฉันมีความสุขดีในช่วงเวลานี้ค่ะ...เพราะในอนาคตดิฉันกำลังจะมี โปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ ที่ทางบริษัท (TVB) จะมอบหมายให้ดิฉันทำ
- ประมาณ 1 เดือน ก่อนเธอจะเสียชีวิต เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มหนึ่ง เมื่อเธอถูกนักข่าวถามว่า คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับดารารุ่นพี่ที่เคยฆ่าตัวตายเพราะความรัก เธอตอบเพียงสั้น ๆ ว่า[84]
การฆ่าตัวตายเพียงเพราะปัญหาความรักเป็นเรื่องที่โง่และน่าเสียดายมันไม่คุ้มค่ากับการแลกชีวิตกับคนที่หมดรักเราแล้วและตัวดิฉันเองก็ไม่คิดที่จะทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอนเพราะเสียเวลาเปล่า ๆ อีกอย่างดิฉันกลัวตายค่ะ
พิธีศพ[แก้]
พิธีศพของ อง เหม่ยหลิง ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เทียบเท่าพิธีศพของอดีตราชินีจอเงินชื่อดัง ยุค ชอร์บราเดอร์ หลินไต้ มีประชาชนในฮ่องกงกว่า 100,000 คน(อ้างอิงจาก [85][86]) ไปร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอมากเป็นประวัติศาสตร์ รวมถึงดาราดังอย่าง 5 พยัคฆ์ทีวีบี เช่น หวงเย่อหัว, เหมียวเฉียวเหว่ย, เหลียงเฉาเหว่ย, หลิวเต๋อหัว และ ทังเจิ้นเยี่ย พวกเขาได้แบกโลงศพของเธอเพื่อนำไปฌาปนกิจ และยังมีดาราดังคนอื่น ๆ อีกมากมายมาร่วมงานศพของเธอ อาทิเช่น จาง ม่านอวี้, หลิว เจียหลิง, เฉินหลง, อลัน ทัม, เหมย เยี่ยนฟาง, เจ้าหย่าจือ, เจิ้ง อวี้หลิง, หวงเจ้าสือ, เยิ่น ต๊ะหัว, ชิเหม่ยเจิน เป็นต้น อีกทั้งยังมีดาราสาวดาวรุ่งที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียง เช่น เจิ้ง หัวเชียน และ กง ฉือเอิน ฯลฯ ต่างมาร่วมอาลัยต่อการจากไปในพิธีศพของเธออีกด้วย ร่างของเธอฝังไว้ที่ เมืองเคมบริดจ์ ณ. สุสาน New Market Cemetry ลอนดอน ในประเทศอังกฤษ. [87](YouTube, Fan Video, 2007).
การยกย่อง[แก้]
"มังกรหยก ภาค1 (1983)" เวอร์ชันงานสร้างในปีพ.ศ. 2526 ได้ถูกสื่อจากทั่วเอเชียยกให้เป็นผลงานระดับสุดคลาสสิก และยังคงเป็นเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดทั่วทั่งเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเรตติ้งสูงถึง 99% จากยอดคนดูทั้งหมดในฮ่องกง และมีเรตติ้งโดยเฉลี่ยสูงมากเช่นกัน คือ 65 จุดเปิด และเมื่อนำไปออกฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ทำเรตติ้งได้สูงถึง 90% กลายเป็นสิบอันดับแรกของละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในจีนเป็นประวัติการณ์ ทุกวันนี้ยังคงเป็นหนึ่งในสิบละครที่มีการรีรันมากที่สุดในจีน อีกด้วย[88][89][90][91][92][93][94]
อีกทั้งเรตติ้งทั่วเอเชียสูงมากทำให้กลายเป็นหนึ่งในสิบละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในโลก (該劇是TVB全球收視率最高的十部劇集之一) โดยมียอดดูสดผ่านทางทีวี(ครั้งแรก)มากถึง 356 ล้านคน[95][96]
ต้นยุค 2000 สื่อทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ได้คัดเลือกละครทีวีจีนคลาสสิก 100 เรื่องในศตวรรษที่ 20 และละครมังกรหยกชุดนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก[97][98]
ซึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของละครชุด มังกรหยก ภาค 1 (1983) นั้นมีละครไม่กี่เรื่องที่พอจะเทียบเคียงได้ เช่น ซีรีส์ละครอันโด่งดังเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2523 และละครสากลสุดฮิตเรื่อง คู่แค้นสายโลหิต ที่สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2532, มังกรหยกเวอร์ชันนี้กลายเป็นหนึ่งในสิบละครทีวีบีที่มีเรทติ้งยอดผู้ชมสูงสุดทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วโลกตลอดกาล มาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีมังกรหยกเวอร์ชันไหนเลยที่มียอดเรตติ้งสูงเท่ากับเวอร์ชันนี้ โดยเฉพาะการแสดงบทอึ้งย้ง ที่นำแสดงโดย องเหม่ยหลิง นั้น ได้ถูกยกย่องชื่นชมจากรุ่นสู่รุ่น นานหลายทศวรรษเป็นอย่างมาก และเป็นเวอร์ชันที่มีแฟนๆ ยังคงประทับใจกับบทบาทอึ้งย้งของเธออยู่มากมายจนถึงปัจจุบัน ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่,ฮ่องกง และไต้หวัน จน องเหม่ยหลิง ได้รับคำยกย่องจากบรรดาสื่อและผู้คนมากมายว่า เป็นอึ้งย้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่มีการสร้าง มังกรหยกกภาค 1 มาและปัจจุบันนี้ก็ยังคงไม่มีดาราสาวคนไหนที่สวมบทบาทเป็นอึ้งย้งแล้วประสบความสำเร็จเท่าเธอ
1.กิมย้ง ผู้ประพันธ์เรื่อง มังกรหยก เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในช่วงปีพ.ศ. 2526 (1983) หลังอวสานของละครเรื่อง มังกรหยก ชุดนี้ว่า ตัวเขาก็ชื่นชอบ องเหม่ยหลิง และยอมรับว่า เธอเป็นอึ้งย้งที่ประสบความสำเร็จมาก จนเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมจำนวนมากได้ ด้วยการแสดงที่แปลกแตกต่างจาก หมีเซียะ ด้วยบุคลิกของ องเหม่ยหลิง เองที่ดูสดใสน่ารัก ซุกซนและมีแววตาที่แสดงถึงความฉลาดเป็นอย่างมาก จึงเป็นที่ประทับใจของคนดู[99]
2.เซียวเซิง ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างละครโทรทัศน์ดัง ๆ หลายเรื่อง เช่น มังกรหยก ภาค2 เวอร์ชัน หลิวเต๋อหัว-เฉินอวี้เหลียน และ มังกรหยก ภาค1 เวอร์ชัน ไป่เปียว-หมีเซียะ ได้กล่าวชื่นชม องเหม่ยหลิง ว่า องเหม่ยหลิง คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาผู้เข้าร่วมสมัครรับบทอึ้งย้ง 3,000 คน เพราะมีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทาบรัศมี หมีเซียะ และในสายตาของเขาและผู้คนส่วนใหญ่เห็นพ้องตรงกันว่า องเหม่ยหลิง สวมบทบาท อึ้งย้ง ดีกว่าหมีเซียะ
3.หมีเซียะ กล่าวชม องเหม่ยหลิงว่า เธอได้มีโอกาสดูมังกรหยกที่องเหม่ยหลิง แสดง บอกได้เลยว่า องเหม่ยหลิง สามารถถ่ายทอดความเป็น อึ้งย้ง ออกมาได้อย่างฉลาดหลักแหลม มาก เธอเล่นเป็นอึ้งย้ง ที่ฉลาด สุด ๆ (อ้างอิงจาก) [100]
4.เจิงเจียง ผู้รับบท อึ้งเอี๊ยะซือ กล่าวว่า แม้เวลาจะผ่านไปปีแล้วปีเล่า พวกเราก็มี อึ้งย้ง จากหลายคน หลายเวอร์ชัน แต่เขาอยากจะบอกว่า อง เหม่ยหลิง เธอคือ อึ้งย้ง ตัวจริง อ้างอิงจาก [101]
5. ฉินหวง ผู้รับบท เฒ่าทารก จิวแป๊ะทง ในภาคก๊วยเจ๋งถึงสองครั้งคือมังกรหยก 1976 และ มังกรหยก 1983 เขากล่าวกับสื่อเมื่อปีพ.ศ. 2563 (2020) ว่า ตัวเขาร่วมงานกับนักแสดงนำหญิง มามากมาย แต่ องเหม่ยหลิง คือ นักแสดงหญิงที่เขาอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด เธอสวยมากและมีนิสัยดี[102]
6. หลิวตัน ดาราอาวุโสผู้รับเป็นกับบท อั้งฉิกกง ของภาคก๊วยเจ๋งถึงสองครั้ง ใน มังหยกภาค1 (1983) และ มังกรหยก ภาค1 (1994) เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายต่อหลายครั้งว่า นักแสดงหญิงที่เขาร่วมงานด้วยแล้วประทับใจที่สุดในชีวิต คือ องเหม่ยหลิง
7.เจ้าเหว่ย แห่ง องค์หญิงกำมะลอ กล่าวว่าการแสดงของเธอในละคร เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ นั้นได้รับอิทธิพล มาจาก ความน่ารักซุกซน ในบท อึ้งย้ง ที่แสดงด้วย อง เหม่ยหลิง ซึ่งในวัยเด็กเธอได้มีโอกาสชมละครเรื่องมังกรหยกชุดนี้ และเธอก็ชื่นชอบ อง เหม่ยหลิง เป็นอย่างมาก และ อง เหม่ยหลิง ก็เป็นหนึ่งในไอดอล ของเธอ
มรดก(สิ่งสืบเนื่อง)[แก้]
องเหม่ยหลิง ทิ้งตำนานคลาสสิก กับตัวละคร อึ้งย้ง ใน มังกรหยกภาค 1 (1983) เอาไว้เป็นตำนาน จนยากที่นักแสดงคนอื่นในบทเดียวกันจะลบความสำเร็จของเธอ จนมีแฟนคลับ(บางคน)ของ อึ้งยัง คนอื่น ที่ไม่ชอบเธออย่างมาก จะคอยตามต่อว่าเธอตามที่ต่าง ๆ ทั้งใน Youtube และสื่ออื่น ๆ ที่มีคลิปเกี่ยวกับตัวเธอหรือละครของเธอ หรือแม้แต่ในบางบทความ,บางโพส ก็จะมีคนเหล่านี้ตามต่อว่าเธอด้วยคอมเมนต์ที่รุนแรง ซึ่งเป็นการไม่ให้เกียรติผู้วายชนม์ แต่อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความสำเร็จที่แท้จริงของเธอ
นอกจากบทบาท "อึ้งย้งสุดคลาสสิค" (คลาสสิคเหนือคลาสสิค) ที่กลายเป็นตำนานมาแล้วนานถึง 40 ปี น้อยคนจะรู้ว่า ภายหลังจากที่ "องเหม่ยหลิง" เสียชีวิต ช่างแต่งหน้าประจำตัวเธอ คือ "เจิ้งหมิงหมิง" ซึ่งเป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงมากในเกาะฮ่องกง ได้ร่วมกับคุณ "เฉียวหง" ก่อตั้ง "สมาคมศิลปินคริสเตียนฮ่องกง" (Hong Kong Artistes Christian Fellowship) ขึ้นมาในปีที่ องเหม่ยหลิง เสียชีวิตทันทีเพื่อเป็นการอุทิศให้เธอ โดยมีจุดประสงค์เพื่อหนุนใจเหล่านักแสดงคริสเตียนที่เป็นสมาชิกและป้องกันไม่ให้ศิลปินในสมาคม ฆ่าตัวตาย ขึ้นมาอีก
สมาคมนี้มีเหล่าดาราที่มีชื่อเสียงหลายคนพร้อมใจกันเข้าร่วม เช่น หลีเหม่ยเสียน, เหลียงเสี่ยวปิง, หลอฮุ่ยเจียน(เสียชีวิตแล้ว), หลิวเหม่ยเจียน, เติ้งชุ่ยเหวิน, ไช่เส้าเฟิน, เฉินซิ่วเหวิน, เว่ยชิวหัว, เฉินสงหลิง, หลีซือฉี, หันหม่าลี่, หลิวเหวินหลง , เวินเจ้าหลุน เป็นต้น อีกทั้งยังมีสาขาใน ไต้หวัน และ อเมริกา อีกด้วย
ล่าสุดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองงานครบรอบ 55 ปีของทีวึบี (TVB) ที่ได้จัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 (2022) ก่อนหน้านั้นทางทีวีบี ได้ทำการเปิดตัวกิจกรรมให้ผู้ชมโหวตละครดังในอดีตในหัวข้อ "ละครที่ฉันเลือก,ละครที่ฉันอยากดู" ("I Choose, I Want to Watch") และ "ละครที่น่าจดจำมากที่สุด' (Unforgettable...)
ผลชนะในหัวข้อละครที่ไม่ถูกลืมและอยู่ในความทรงจำของผู้ชมชาวฮ่องกงมากที่สุด คือ ละครเรื่อง "เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ (The Fearless Duo 1984)" ที่เธอแสดงคู่กับเหมียวเฉียวเหว่ย ได้ชนะผลโหวตเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนนโหวต 29.8% จากคะแนนโหวตทั้งหมดของผู้ชม ทำให้ละครเรื่องนี้จะมีการรีรันซ้ำครั้งที่ 10 [103]และกลายเป็นละครที่มีการรีรันซ้ำบ่อยที่สุดในฮ่องกง แสดงให้เห็นว่า องเหม่ยหลิง ยังคงเป็นดารายอดนิยมในใจผู้ชมชาวฮ่องกง ตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
ในอดีตละครเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ ฮิตถล่มทลายอย่างมากในฮ่องกงนอกจากจะเป็นละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดแห่งปีแล้วยังกลายเป็นละครเรื่องที่ 2 ขององเหม่ยหลิงที่รับบทนางเอก ที่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยเกิน 60 จุดเปิดต่อจาก มังกรหยก ภาค1 (1983) ที่เธอรับบท อึ้งย้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโด่งดังของ องเหม่ยหลิง ในช่วงเวลานั้น
ก่อนหน้านี้ ละครเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ มีการออกอากาศและรีรันซ้ำรวม 10 ครั้ง (ครั้งแรก+รีรัน9ครั้ง ยังไม่รวมรีรันครั้งล่าสุด) ทำให้มีผู้คนหลายรุ่นในฮ่องกงได้มีโอกาสดูและการแสดงเรื่องนี้ของ องเหม๋ยหลิง ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมหลายรุ่นหลายช่วงอายุ, ชาวเน็ตในฮ่องกงต่างชี้ว่าฉากที่ องเหม่ยหลิงแต่งตัวเป็นตุ๊กตากระดาษและใช้แหขนาดใหญ่ไล่จับ(ผีเสื้อ)วิญญาณของพระเอก (เหมียวเฉียวเหว่ย) ที่สิงอยู่กับผีเสื้อ เรียกกลับคืนร่าง เป็นฉากละครที่คลาสสิกที่สุด และชาวเน็ตส่วนหนึ่งยกย่องว่า: "แม้ว่าละครเรื่องนี้จะมีการรีรันซ้ำกลับมาดูหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังอยากดู เพราะมันคือละครขั้นเทพท่ามกลางละครขั้นเทพทั้งหลาย! [104]
โดยทั่วไปละครเรื่องอื่น ๆ ที่มีการรีรันซ้ำบ่อย คนดูจะเบื่อ แต่กับละครเรื่องนี้ผู้ชมชาวฮ่องกงกลับยังคงอยากดูในทุกรอบที่มีการนำกลับมาออกอากาศอยู่เสมอ
ต้นปีพ.ศ. 2566 (2023) ทางรายการวาไรตี้รำลึกละครดังในอดีต ที่ทางทีวีบีร่วมกับจีน ได้เชิญ หลี่อีถง เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้แสดงเป็น อึ้งยัง เวอร์ชัน องเหม่ยหลิง ในฉากสุดคลาสสิคของ มังกรหยก 1983 เพื่อเป็นการระลึกถึงอึ้งย้งคลาสสิคและเป็นการให้เกียรติ องเหม่ยหลิง [105]
ผลงาน[แก้]
ผลงานละคร[แก้]
พ.ศ. | ชื่อละครภาษาจีน | ชื่อละครภาษาไทย |
---|---|---|
2525 | 十三妹 | สมิงสาวใจเพชร |
2526 | 射鵰英雄傳 | มังกรหยก ภาค1
Part 1: ตอน กำเนิด ก๊วยเจ๋ง-เอี้ยคัง (鐵血丹心) |
夹心人 | เฉือนรักเฉือนคม | |
2527 | 決戰玄武門 | ยุทธจักรชิงจ้าวบัลลังค์ |
天師執位 | เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ | |
生銹橋王 | เฉือนคมเจ้าพ่อ | |
楚留香之蝙蝠傳奇 | ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว | |
2528 | 挑戰 | เทพบุตรทรนง |
楚河漢界 | สามก๊ก ตอน แบ่งแยกแผ่นดิน
(ศึกสองแผ่นดิน) | |
橋王之王 | เซียนโค่นเซียน |
ผลงานภาพยนตร์[แก้]
ปี พ.ศ. | ชื่อภาพยนตร์ | บทที่ได้รับ |
2526 | ลูกบ้าดีเดือด 《瘋狂83》 Mad mad 83 [106][107][108] | FBI (探員) สายลับ FBI |
รายการปกิณกะ (ทีวีบี)[แก้]
ปี พ.ศ. | ชื่อรายการ | หน้าที่ |
2525 | 《婦女新姿》 รายการผู้หญิงวันนี้ [109][110] | ผู้ดำเนินรายการ (พิธีกร) |
2526-2528 | 《歡樂今宵》 รายการค่ำคืนวาไรตี้ [111][112][113] | ผู้ร่วมรายการ (แขกรับเชิญ) |
คอนเสิร์ต[แก้]
- 《1985 翁美玲星馬個人演唱會》[114]
อัลบั้ม[แก้]
ชื่ออัลบั้ม | บริษัท จำหน่าย | ภาษา | ออกจำหน่าย | ชื่อเพลง |
---|---|---|---|---|
翁美玲個人演唱會專輯
(อัลบั้มบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตของ อง เหม่ยหลิง) |
Kolin | กวางตุ้ง | กลางปี พ.ศ. 2528 |
第一面 หน้าแรก
第二面 หน้าสอง
|
รางวัลและการจัดอันดับ[แก้]
อง เหม่ยหลิง ได้รับ การจัดอันดับจากบรรดาเว็บไซต์และนิตยสารเอเชียต่าง ๆ มากมายทั่วเอเชีย โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ของประเทศจีน ต่างจัดทำรายการรำลึกถึงเธอขึ้นอย่างยิ่งใหญ่[115]
- รองอันดับ 1 นางงามไชน่าทาวน์ ปี พ.ศ. 2523 ประเทศ อังกฤษ[116][117]
- นางงามฮ่องกง ปี พ.ศ. 2525 อันดับที่ 8 [118]
- องเหม่ยหลิง ได้รับการโหวต ให้เป็นนักแสดงหญิงยอดนิยมสองปีในฮ่องกง คือ พ.ศ. 2526 (1983) และ พ.ศ. 2527 (1984)
- องเหม่ยหลิง ได้รับการโหวต ให้เป็นนักแสดงหญิงยอดนิยมสองปีในไต้หวัน คือ พ.ศ. 2526 (1983) และ พ.ศ. 2528 (1985)
- อันดับ 1 จาก 10 นักแสดงหญิงที่แสดงดีที่สุดในจอแก้วของฮ่องกง โดย เว๊ปไซด์ Chinese whispers[119]
- อันดับ 1 จาก 10 สุดยอดบทบาทละครนวนิยายกำลังภายใน โดย เว๊ปไซด์ Chinese whispers[120]
- อันดับ 1 จากบทอึ้งย้ง (ชนะ) ในการออกเสียงลงคะแนนทางออนไลน์ ผ่านทาง เว๊ปไซด์ Sina.com ในปี พ.ศ. 2548 [121]
- อันดับ 1 จาก 10 สุดยอดละครชุด ยุค 80s โดย เว๊ปไซด์ spcnet.tv [122]
- อันดับ 2 จาก 10 อันดับหนังจีนที่อยู่ในใจแฟน ช่อง 3 [123]
- อันดับ 5 จาก 100 อันดับละครซีรีส์ยอดนิยมสูงสุดในประเทศ มาเลเซีย จากการสวมบทบาท อึ้งย้ง ในละครชุด มังกรหยก
- อันดับ 6 จาก 100 อันดับละครซีรีส์ยอดนิยมสูงสุดในประเทศ สิงค์โปร์ จากการสวมบทบาท อึ้งย้ง ในละครชุด มังกรหยก
- อันดับ 8 จาก สุดยอด 100 ดาราจอแก้วของฮ่องกงตลอดกาล (วัดจากเรตติ้งความนิยม) โดย TVB Guide Magazine[124] 10 อันดับ แรก ดาราจอแก้วยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล ประกอบด้วย
1. โจว เหวินฟะ
2. หวัง หมิงฉวน
4. หวง เย่อหัว
6. หลิว สงเหยิน
8. อง เหม่ยหลิง
9. หมี เซียะ
- อันดับ 4 จาก 11 คนดังผู้จากไปอย่างน่าเสียดาย โดยหนังสือพิมพ์ South China Morning Post[125]
- อันดับ 8 จาก 10 คนดังเอเชียที่จากไปก่อนวัยอันสมควร โดย China Internet Information Center[126]
- อันดับ 10 จาก Top 100 "บทบาทการแสดง" ในซีรีส์ฮ่องกง จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Apple Daily (Hong Kong) [127]
- อันดับ 474 จาก 13,629 ดารานักแสดงที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในวงการบันเทิงจากทั่วโลก จัดอันดับโดย Baidu
- นางเอกยอดนิยม จากละครชุด มังกรหยก ปี พ.ศ. 2526 ในเทศกาลงาน นิวยอร์กฟิล์มเฟสติวัล จาก ย่านไชน่าทาวน์ ใน ประเทศ สหรัฐอเมริกา [128]
- หนึ่งในสี่ยอดนางเอก TVB แห่งยุค 80 ( TVB第二代花旦 ) ซึ่งประกอบไปด้วย อง เหม่ยหลิง ( 翁美玲 )、เจิ้ง หัวเชี่ยน ( 曾华倩 )、เฉิน อวี้เหลียน ( 陈玉莲)、และ หลิว เจียหลิง ( 刘嘉玲 )[129][130]
- 7 สาวงามในชุดโบราณ (7 นางฟ้าทีวีบี ยุค80s) TVB Seven Fairies ร่วมกับ องเหม่ยหลิง, ชีเหม่ยเจิน, เจิงหัวเชี่ยน, หลัน เจี๋ยอิง, หลิวเจียหลิง, จิ่ง ไต้อิง และ ซัง เทียนเอ๋อ[131]
- บทอึ้งย้งที่ดีที่สุด กับ 10 บทบาทการแสดงในวงการบันเทิงเอเชีย ที่หาผู้อื่นเทียบชั้นได้ยาก[132][133]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 电影聚焦. "10ดาราจอแก้วยุค 80 ที่สวยที่สุดของทีวีบี จัดอันดับโดย TVB". โดย qq. สืบค้นเมื่อ December 12, 2021.
- ↑ 澎湃新闻 (2022-02-18). "ติด 10 อันดับเล่นซ้ำบ่อยที่สุดในจีน". news.ifuun.com. สืบค้นเมื่อ 2021-11-27.
- ↑ 發表于娛樂 (2016-09-06). "สิงคโปร์ ยกย่อง องเหม่ยหลิง". news.kk.com. สืบค้นเมื่อ 2022-02-19.
- ↑ 电影聚焦 (November 13, 2017). "อึ้งย้งที่ดังที่สุด". โดย sohu. สืบค้นเมื่อ July 5, 2018.
- ↑ "今日早报"Today Morning (May 27, 2011). "องเหม่ยหลิง คือ อึ้งย้งเล่นดีที่สุด". chinanews. สืบค้นเมื่อ July 5, 2018.
- ↑ 收起义. ""เปรียบเทียบอึ้งย้งองเหม่ยหลิง กับโจวซวิ่น"". โดย Baike. สืบค้นเมื่อ July 19, 2018.
- ↑ "华商报" (June 18, 2016). ""เปรียบเทียบอึ้งย้งองเหม่ยหลิง กับหลี่อี้ถง"". people.com.cn. สืบค้นเมื่อ July 19, 2018.
- ↑ "王志平" (March 4, 2017). ""อึ้งย้งในดวงใจ องเหม่ยหลิง"". โดย ซินล่าง คอร์ป. สืบค้นเมื่อ June 18, 2017.
- ↑ "一點資訊". ""เรื่องราวของเธอ"". สืบค้นเมื่อ August 5, 2018.
- ↑ "entertainment celebrities". ""100 อันดับดารานักแสดงที่โด่งดังที่สุดในจอ แก้วฮ่องกง"". 23yy. สืบค้นเมื่อ August 5, 2018.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 娛樂名人 (November 17, 2007). ""100 นักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง". โดย "หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ หนังสือพิมพ์ "แอ็ปเปิ้ลเดลี่" "(Apple Daily) ในวงการบันเทิงฮ่องกง ไต้หวันและจีน. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-14. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
- ↑ 电影聚焦. "100 นักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง". โดย ทีวีบีโทรทัศน์ไต้หวัน. สืบค้นเมื่อ January 3, 2022.
- ↑ 《เรตติ้ง》จัดทำโดยทีวีบีฮ่องกง:
- ↑ "4 ยอดนางเอกรุ่นสอง". January 11, 2006. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 温情八卦. "100,000 คนมาร่วมส่งขบวนศพของเธอ". kknews. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-24. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ 回到以前 (November 1, 2006). "อัตชีวประวัติของ "องเหม่ยหลิง"". โดย 360doc. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
{{cite web}}
: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า :|1=
(help) - ↑ "ละคร เล็กเซี่ยวหงส์ เปลี่ยนนางเอกจาก องเหม่ยหลิง เป็น เฉินซิวจู่". sina. October 29, 2016. สืบค้นเมื่อ December 18, 2019.
{{cite web}}
: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า :|1=
(help) - ↑ ""บทบาทที่ประทับใจคนจีนมากที่สุด"". โดย Sina. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "เว๊ปผู้จัดการหมวด:ข่าวบันเทิง" (August 9, 2006). ""10 ยอดฝีมือบนเวทีการแสดงของโลกบันเทิงมังกร ที่หาผู้อื่นเทียบชั้นได้ยาก". โดย "สำนักข่าวซินหัวของ ทางการจีน". สืบค้นเมื่อ July 18, 2018.
- ↑ 娛樂名人 (November 17, 2007). ""100 นักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง". โดย "หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ หนังสือพิมพ์ "แอ็ปเปิ้ลเดลี่" "(Apple Daily) ในวงการบันเทิงฮ่องกง ไต้หวันและจีน. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-14. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
- ↑ ""Baidu เว็บไซด์ที่มีคนใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก"". โดย "Alexa". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-28. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ""Baidu จัดอันดับ องเหม่ยหลิง อยู่ใน 500 อันดับแรก"". โดย "Baidu". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "報導" (January 31, 2018). "การเสียของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย Rob Radboud. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ "温情八卦". "ประวัติของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". Sohu. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ "ขุดคุ้ยข่าวบันเทิง" (August 19, 2014). "ประวัติดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". 8794. สืบค้นเมื่อ June 24, 2019.
- ↑ ""ข้อมูลจากหนังสือ อัตชีวประวัติ องเหม่ยหลิง (1959-1985)"". สืบค้นเมื่อ December 19, 2019.
- ↑ " 只看該作者" (May 15, 2018). "ประวัติ องเหม่ยหลิง". xocat2. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
- ↑ "搜狐母婴社区" (December 30, 2013). "ประวัติ องเหม่ยหลิงจากหนังสือ (บางส่วน)". โดย baobao. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
- ↑ "รักแรกของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย Rob Radboud . June 26, 2018. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ "ความรักครั้งที่สองของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย Rob Radboud . May 30, 2014. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ 词条人人可编辑. "ชีวิตและการศึกษาของ องเหม่ยหลิง". โดย Baidu. สืบค้นเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/725-1980-februari-18-sue-wants-a-title
- ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/726-1980-februari-20-singapore-girl-wins-uk-price-english
- ↑ "ประวัติการศึกษา อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย "Rediff pages". สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/725-1980-februari-18-sue-wants-a-title
- ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/726-1980-februari-20-singapore-girl-wins-uk-price-english
- ↑ "korat" (August 27, 2007). "องเหม่ยหลิง ดารา-นางงาม ผู้อาภัพ". โดย โอเคเนชั่น. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ "错误". "พิธีกรรายการ "ผู้หญิงวันนี้"". โดย โอเคเนชั่น. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-06. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ "康利川". ""永远的翁美玲(纪念)永远的爱"". โดย renren. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-09. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "องเหม่ยหลิง ถ่ายโฆษณา "แฟซ่า"". โดย renren. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "บทสัมภาษณ์บางส่วนของ องเหม่ยหลิง". สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "vivian". "การคัดเลือก "อึ้งย้งในดวงใจ" (Weng Meiling is the ideal Huang Rong)". โดย barbarayung.net. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "由 石头陈史 發表于娱乐原文網址" (20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562). "กิมย้งเลือก องเหม่ยหลิง เป็น อึ้งย้ง". โดย kknews. สืบค้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "二มาเลย์เซียและสิงค์โปร์ เลือก มังกรหยกชุดนี้ เป็นสิบอันดับแรก ละครยอดนิยมในยุคศตวรรษ 20" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-04-30.
- ↑ "100 อันดับละครฺฮ่องกง(1970-2000)ในมาเลย์เซีย และ สิงคโปร์". 豆瓣(手机版). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ "ประวิทย์". "25 ปี มังกรหยก 1983". โดย supavitt. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ภาพยนตร์เรื่อง "ลูกบ้าดีเดือด" 瘋狂83". โดย "hkmdb". สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "Cai Qingwenyu" (31 ธันวาคม พ.ศ. 2561). "องเหม่ยหลิงร้องเพลงบนเวทีที่กรุงเทพประเทศไทย". โดย kknews. สืบค้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "โฆษณาครีม "ครีมเฮสลีน สโนว์"". โดย barbarayung.net. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "只看楼主" (May 4, 2018). "彼此共享] 在错的时间遇见对的人!翁美玲离世多年,再回首汤镇业热泪盈眶". โดย 1m3d. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 少官. "หวงเย่อหัว เหมียวเฉาเหว่ย และทังเจิ้นเยี่ย ร่วมรำลึกถึงเธอ". โดย 情報周刊 NO.78 p61~62. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ 少官. ""องเหม่ยหลิง เปิดใจเรื่องภาพถ่ายเซ็กส์ซี่ของเธอ และหนังเรทอาร์ ของทังเจิ้นเยี่ย"". โดย 情報周刊 NO.78 p61~62. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/64-1985-newspaper/811-1985-may-13-barbara-s-last-interview
- ↑ 娛樂 (February 10, 2017). "บทวิเคราะห์องเหม่ยหลิง". kknews. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
- ↑ "Sina blog" (June 2, 2016). "ชีเหม่ยเจิน พูดถึง องเหม่ยหลิง". wmxa. สืบค้นเมื่อ August 5, 2018.
- ↑ "娱乐名人". "รักสามเส้า ของเหมียวเฉียวเหว่ย, ชีเหม่ยเจิน และ องเหม่ยหลิง". 23yy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-05. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ http://www.barbarayung.nl/the-kammi-picture-collection/68-1984-kammi-collection/575-1984-march-sexy-pictures
- ↑ 黄晓睛 (February 1, 2009). "[八卦江湖]害死"俏黄蓉"翁美玲的狐狸精就是吴君如(转载)". โดย tianya. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ http://www.barbarayung.nl/internet/23-videos/237-2012-untold-secrets
- ↑ "鑫心娱乐" (October 24, 2019). ""เฉินซิ่วจูแสดงแทนองเหม่ยหลิงในละคร เล็กเซี่ยวหงส์"". สืบค้นเมื่อ December 15, 2019.
- ↑ "新浪娱乐" (May 13, 2005). "รำลึก20ปี "องเหม่ยหลิง"". โดย ซินล่าง คอร์ป. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ ""เหตุเกิดในกองถ่ายละคร เซียนโค่นเซียนง"". โดย ซินล่าง คอร์ป. November 2, 2019. สืบค้นเมื่อ December 17, 2019.
- ↑ "萌神木木" (February 2, 2017). "นักแสดงรำลึกถึง "องเหม่ยหลิง"". read01. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "รู้ไปโม้ด" จาก น้าชาติ (May 12, 2015). "ย้อนอดีต "องเหม่ยหลิง" นางเอกอึ้งย้ง ครบ 37 ปีที่ฆ่าตัวตาย". โดย ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ 正文 (January 15, 2008). "บทความเกี่ยวกับ "องเหม่ยหลิง" (震惊!翁美玲自杀前十天的惊人事)". aboluowang. สืบค้นเมื่อ June 13, 2018.
- ↑ "ช่วงเวลาออกจากโรงถ่าย โดย แม่บุญธรรมของเธอ". May 20, 1985. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
- ↑ Sohu Entertainment (May 14, 2005). "ช่วงเวลาการส่งข้อความของเธอ". sohu. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "เกี่ยวกับ "องเหม่ยหลิง"". สืบค้นเมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "การเสียชีวิตขององเหม่ยหลิง". :China.com News:. June 29, 2017. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
{{cite web}}
: CS1 maint: extra punctuation (ลิงก์) - ↑ "即時要聞" (May 14, 2014). "ข่าวการตายองเหม่ยหลิง". hk.news. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=27572.100;wap2
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-18. สืบค้นเมื่อ 2016-01-20.
- ↑ 正文 (May 23, 2010). "ปริศนาการตาย องเหม่ยหลิง". โดย aboluowang. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "正文" (May 15, 2007). "ข่าวลือต่าง ๆ ขององ เหม่ยหลิง". 阿波羅新聞網. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "波叔" (April 4, 2010). "ใครคือแม่แท้ ๆ ขององเหม่ยหลิง?". oldhkmovie. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-16. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "Hiriotappa " (June 1, 2013). "นักแสดงชาวฮ่องกงยอดฮิตในยุคต้นปี 80'(ภาคแรก)". โอเคเนชั่น. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ Macau Admissions Office. "Hong Kong famous actress: Barbara Yung Mei-ling". artsuniversity. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "娱乐八卦" (February 20, 2008). "องเหม่ยหลิงฆ่าตัวตายจริงหรอ?". โดย ข่าวซุบซิบบันเทิง. สืบค้นเมื่อ June 17, 2018.
- ↑ http://www.barbarayung.nl/forum/barbara-s-life-in-hong-kong-1982-1985/20-the-alleged-rape-case
- ↑ "เธอถูกข่มขืนจริงหรือ?". โดย เว๊ปไซด์ของ Hong Kong และ Taiwan. October 30, 2005. สืบค้นเมื่อ July 7, 2018.
- ↑ http://www.barbarayung.nl/internet/19-radio-appearances/radio-interview[ลิงก์เสีย]
- ↑ http://www.barbarayung.nl/internet/21-radio-appearances/radio-interview-call-in-hk-commercial-radio-5-may-1985/240-radio-interview-hong-kong-radio-5-may-1985-subtitled
- ↑ http://www.barbarayung.net/video/video010.htm
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-18. สืบค้นเมื่อ 2019-12-18.
- ↑ "网络 作者" (September 1, 2013). "ประชาชนกว่า 100,000 คนได้ออกมาส่งขบวนศพของเธอ". tianya999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-11. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ 温情八卦. "ประชาชนส่งขบวนศพของเธอ". sohu. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ kora หมวด:แฟชั่น (August 27, 2007). "องเหม่ยหลิง ดารา-นางงาม ผู้อาภัพ". โดย โอเคเนชั่น. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "อึ้งย้งที่ดังที่สุด". โดย sohu. พฤศจิกายน 13, 2560. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ ""จัดอันดับอึ้งย้ง ที่เล่นดีที่สุด" โดย หนังสือพิมพ์ Apple Daily ของ ฮ่องกง และ ไต้หวัน". โดย " chinanews". พฤษภาคม 27, 2554. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ หมวด: บันเทิงเอเชีย (กุมภาพันธ์ 26, 2560). "เปรียบเทียบ อึ้งย้ง องเหม่ยหลิง". โดย "ข่าวสด ". สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "มังกรหยกฉบับพ.ศ. 2526". โดย sohu. สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 24, 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ หมวด: บันเทิงเอเชีย (กรกฎาคม 15, 2561). "เวอร์ชัน ตำนาน". โดย "ข่าวสด ". สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 24, 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ หมวด: บันเทิงเอเชีย. ""สุดยอดละครชุด ยุค 80s"". โดย "spcnet ". สืบค้นเมื่อ มกราคม 22, 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ หมวด: บันเทิงเอเชีย. ""เวอร์ชันมังกรหยก ที่มีเรตติ้งสูงสุดในประเทศสิงคโปร์"". โดย "remembersingapore ". สืบค้นเมื่อ มกราคม 22, 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ความสำเร็จของ มังกรหยก (1983)
- ↑ 《เรตติ้ง》โดยทีวีบีฮ่องกง:
- ↑ "二มาเลย์เซียและสิงค์โปร์ เลือก มังกรหยกชุดนี้ เป็นสิบอันดับแรก ละครยอดนิยมในยุคศตวรรษ 20" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-04-30.
- ↑ "100 อันดับละครฺฮ่องกง(1970-2000)ในมาเลย์เซีย และ สิงคโปร์". 豆瓣(手机版). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
- ↑ 墒墨山风 (May 20, 2010). "กิมย้ง พูดถึง องเหม่ยหลิง". โดย ซินล่างเวย์ปั๋ว . สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ YuAlicec (May 26, 2017). ""หมีเซียะ" พูดถึง บทบาทอึ้งย้ง ของ "องเหม่ยหลิง"". โดย bilibili. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ 深圳卫视年代秀 (June 30, 2014). ""เจิงเจีย" พูดถึง บทบาทอึ้งย้ง ของ "องเหม่ยหลิง"". โดย xuite. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "ฉินหวง ประทับใจ องเหม่ยหลิง มากที่สุด". สืบค้นเมื่อ 2022-04-30.
- ↑ 香港商報副刊部. "งานครบรอบทีวีบี 55 ปี ละครเรื่องนี้ชนะผลโหวตของละครที่มีผู้คนอยากดูซ้ำมากที่สุดในฮ่องกง". โดย Hk. สืบค้นเมื่อ October 28, 2022.
- ↑ "ผู้ชมชาวฮ่องกงยกย่องละครเรื่องนี้อย่างสูง". โดย Hkyahoo. สืบค้นเมื่อ December 19, 2022.
- ↑ 电影聚焦. ""หลี่อีถง ร่วมแสดงเป็น อึ้งย้ง ฉบับ องเหม่ยหลิง". HK. สืบค้นเมื่อ January 14, 2023.
- ↑ Madmax1983
- ↑ http://www.hkcinemagic.com/en/movie.asp?id=2349
- ↑ "Mad, Mad 83". Hong Kong Film Database. สืบค้นเมื่อ 29 September 2015.
- ↑ https://k.sina.cn/article_2701048492_a0febaac00100rzux.html{
- ↑ htmhttp://16888wwx.blog.163.com/blog/static/21140269200742384438342
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-06. สืบค้นเมื่อ 2016-01-20.
- ↑ http://www.tudou.com/listplay/E6IUc6WMP8c/ctP0_LgyKJQ.html[ลิงก์เสีย]
- ↑ http://blog.xuite.net/chak0507/hkblog/111305406-149.+翁美玲在[欢乐今宵]-我的初恋之拍摄地-+熙信大厦
- ↑ 1985 翁美玲星馬個人演唱會
- ↑ "entertainment celebrities". ""รางวัลบางส่วนของ องเหม่ยหลิง"". happyjuzi. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2561.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/725-1980-februari-18-sue-wants-a-title
- ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/726-1980-februari-20-singapore-girl-wins-uk-price-english
- ↑ http://www.oknation.net/blog/korat/2007/08/27/entry-1
- ↑ http://www.chinawhisper.com/the-10-best-hong-kong-tv-actresses/
- ↑ http://www.chinawhisper.com/top-10-classic-wuxia-series-roles/
- ↑ 知识产权风险管理 [BOOK]. "ประวัติของ "องเหม่ยหลิง"". โดย Baike. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ spcnet. "10 สุดยอดละครชุด ยุค 80s". โดย spcnet.tv. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-09. สืบค้นเมื่อ 2016-01-20.
- ↑ http://www.network54.com/Forum/231870/message/1044171851/ESther+ranked+highest+in+the+100+top+ever+TVB+STARS+!~+RECENT+NEWS!
- ↑ http://m.scmp.com/lifestyle/article/2084608/remembrance-eleven-chinese-stars-who-were-taken-us-too-young
- ↑ http://www.china.org.cn/top10/2011-07/21/content_23038059_3.htm
- ↑ http://news.chanyuklinonline.com/2007/1117ad.htm
- ↑ http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/62-1983-newspaper/598-1983-november-23-yung-mei-ling-awarded-for-international-television-award-translated
- ↑ http://www.360doc.cn/article/2253722_284294990.html?lan=cn&shareapp=1&from=wap&t=1651869005619&artid=284294990&code=wap30-11-22}
- ↑ "องเหม่ยหลิง เป็น 4 ดรุณีหยก ยุค 80". โดย hk. สืบค้นเมื่อ June 21, 2019.
- ↑ "การกลับคืนวงการของหนึ่งในอดีต 7 บุปพางามทีวีบี". โดย hk. สืบค้นเมื่อ June 21, 2019.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-08-20. สืบค้นเมื่อ 2016-01-19.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-15. สืบค้นเมื่อ 2016-01-19.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่ธันวาคม 2022
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่ตุลาคม 2021
- CS1 errors: empty unknown parameters
- CS1 maint: extra punctuation
- นักแสดงหญิงชาวฮ่องกง
- บุคคลจากมณฑลกวางตุ้ง
- นักแสดงละครโทรทัศน์หญิงชาวฮ่องกง
- นักแสดงหญิงชาวฮ่องกงในศตวรรษที่ 20
- นักแสดงภาพยนตร์หญิงชาวฮ่องกง
- นักแสดงที่ฆ่าตัวตาย
- นักแสดงทีวีบี
- นักแสดงจีน
- นักแสดงหญิงเชื้อสายจีน
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2502
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2528
- นักแสดงชาวฮ่องกงในศตวรรษที่ 20
- นักแสดงละครโทรทัศน์ชาวฮ่องกง
- ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยแองเกลียรัสกิน
- ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยศิลปะลอนดอน