อง เหม่ยหลิง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อง เหม่ยหลิง
สวมบทบาท อึ้งย้งสุดคลาสสิค
สวมบทบาท อึ้งย้งสุดคลาสสิค
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด7 พฤษภาคม พ.ศ. 2502
อง เหม่ยหลิง
ฮ่องกงของบริเตน
เสียชีวิต14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528
(26 ปี)
Kowloon Tong, ฮ่องกงของบริเตน
ส่วนสูง159 ซม.
คู่ครองทัง เจิ้นเยี่ย (2525–2528)
อาชีพนักแสดง
ปีที่แสดง2525–2528
ผลงานเด่น-"อึ้งย้ง" ใน มังกรหยก ภาค1 (1983)
-"ฉินซิซิ" ใน "ยุทธจักรชิงเจ้าบัลลังค์"
-"หลินฉู่เอี้ยน" ใน เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์
- "องค์หญิง ซางเสี่ยวจิ้ง" ใน ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว
- "เซี่ยปี้ฮว๋า" ใน เทพบุตรทรนง
สังกัดสถานีโทรทัศน์ทีวีบี
ฐานข้อมูล
IMDb
ชื่อภาษาจีน
ภาษาจีน翁美玲

อง เหม่ยหลิง (จีน: 翁美玲; พินอิน: Wēng Měilíng เวิง เหม่ย์หลิง; กวางตุ้ง: ยุ้ง เหมย์เล่ง; 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 – 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า บาร์บาร่า อง (Barbara Yung) เป็นอดีตนักแสดงหญิงจอแก้วยอดนิยมชาวฮ่องกง สัญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชียในยุคทศวรรษที่ 80 เธอเป็นนางเอกจอแก้วเบอร์หนึ่งของฮ่องกงต่อจาก วังหมิงฉวน และทางทีวีบีจัดอันดับเธอให้เป็นหนึ่งในสิบดาราจอแก้วยุค 80 ที่สวยแบบน่ารักที่สุดของทางช่อง[1] เธอมีผลงานแสดงละครในช่วงปี พ.ศ. 2525-2528 ผลงานที่สร้างชื่อให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกในวัย 23 ปีคือการรับบทเป็น อึ้งย้ง ในละครชุดกำลังภายในสุดคลาสสิกของกิมย้งเรื่อง "มังกรหยก ภาค1 (1983)" ด้วยความสำเร็จอย่างสูงทั่วทั่งเอเชียของละครมังกรหยกเวอร์ชันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮ่องกงที่มีเรตติ้งยอดผู้ชมสูงถึง 99% และเรตติ้งเฉลี่ยสูงถึง 65 จุดเปิด ส่วนในจีน ก็สามารถทำเรตติ้งสูงถึง 90% กลายเป็นหนึ่งในละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงสุดในจีน นอกจากนี้ องเหม่ยหลิง ยังได้รับความนิยมในไต้หวันจากละครเรื่อง มังกรหยก ภาคก๊วยเจ๋ง (1983) ที่ได้ออกอากาศทางช่องสี่ ในไต้หวันด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังคว้ารางวัลสิบอันดับแรกของละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดทั่วโลกอีกด้วย โดยมียอดดูสดผ่านทางทีวีครั้งแรกทั่วโลกมากถึง 356 ล้านคน และทุกวันนี้ยังคงติด 10 อันดับละครที่ออกอากาศรีรันซ้ำบ่อยมากที่สุดในจีน[2]จากความสำเร็จทั่วเอเชียถือได้ว่าเป็นละครชุดคลาสสิกที่ทรงอิทธิพลและประสบความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์ฮ่องกง ส่งให้เธอเป็น "อึ้งย้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด" ในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการละครชุดหนังจีน และถูกยกย่องให้เป็น "อึ้งย้งสุดคลาสสิก" อีกทั้งการแสดงในบทนี้ของเธอยังได้รับการยกย่องยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงจากบรรดาสื่อยักษ์ใหญ่หลายสถาบันของทั้งในฮ่องกง,ไต้หวัน, สิงคโปร์ และจีน ว่าเป็น "อึ้งย้งที่แสดงได้ยอดเยี่ยมที่สุด" [3][4][5][6][7][8][9][10] ในปีพ.ศ. 2550 (2007) หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลที่ขายดีที่สุดในฮ่องกง "แอปเปิลเดลี่" (Apple Daily) ที่มีสาขาในจีน และไต้หวัน ต่างคัดเลือกเธอให้เป็น "อันดับหนึ่งของนักแสดงที่สวมบทบาทอึ้งย้งได้ยอดเยี่ยมที่สุดชนะหมีเซียะและจูอิน โดยบทอึ้งย้ง ที่ องเหม่ยหลิง แสดงอยู่ในอันดับที่สิบ จากผลโหวตของผู้ชมของการจัดอันดับใน 100 นักแสดงที่สวมบทบาทในละครชุดได้ยอดเยี่ยมที่สุด. [11][12]

จนมาถึงปัจจุบันนี้ หลังการเสียชีวิตของเธอไปนานหลายสิบปีก็ยังคงไม่มีใครลบสถิติความสำเร็จที่เธอทำไว้ได้ ในบทเดียวกัน จนเป็นที่มาของการขนานนามเธอว่า "อึ้งย้งตลอดกาล"(Ronger Forever) และยังเป็นดาราหญิงเพียงคนเดียวในวงการจอแก้วฮ่องกงที่รับบทนางเอกในละครที่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยต่อตอนเกินกว่า 60 จุดเปิด ได้ถึง 2 เรื่อง ติด 10 อันดับแรกของละครที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในเกาะฮ่องกง คือ "มังกรหยก 1983 (The Legend of the Condor Heroes)" และเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ (1984 天師執位) [13]

องเหม่ยหลิง เกิดที่ฮ่องกงต่อมาเธอได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยอาศัยอยู่กับมารดาที่ได้รับสัญชาติอังกฤษ และในระหว่างช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ที่นั้นได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันการประกวดนางงามไชน่าทาวน์ของประเทศอังกฤษและสามารถคว้ารองชนะเลิศอันดับหนึ่งมาครองได้สำเร็จ หลังจากจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาศิลปะการออกแบบสิ่งทอ จาก "สถาบันการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design) ของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน ( University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ แล้ว เธอได้เดินทางกลับมายังฮ่องกง และเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเข้าร่วมประกวดนางงามฮ่องกงในปี พ.ศ. 2525 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเสิศ ไดยได้อันดับ 8 จากนั้นได้มีโอกาสเป็นนักแสดงในสังกัดของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี และแจ้งเกิดกับผลงานละครกำลังภายในเรื่องแรก สมิงสาวใจเพชร ในบทนางรองคู่กับ เยิ่น ต๊ะหัว และยังเป็นผลงานที่ทำให้เธอได้พบรักกลางกองถ่ายกับ ทัง เจิ้นเยี่ย พระเอกของเรื่องนี้อีกด้วย ต่อมาผลงานละครเรื่อง "มังกรหยก ภาค1 (1983)" ที่เธอได้รับบทเป็นอึ้งย้ง คู่กับหวง เย่อหัว ในบทก๊วยเจ๋ง และยังมี เหมียว เฉียวเหว่ย และหยาง พ่านพ่าน ร่วมแสดงนำ โดยเฉพาะละครเรื่องหลังนี้ทำให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกและได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วเอเชียทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ประเทศจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ไต้หวัน และไทย อีกทั้งเธอยังได้รับความนิยมในย่านไชน่าทาวน์ ทั้งใน อเมริกา, แคนาดา และทวีปยุโรป ในปีเดียวกันเธอกลายเป็น นางเอกยอดนิยม ในต่างประเทศเมื่อละครชุด มังกรหยก 1983 คว้ารางวัลละครที่มีผู้ชมสูงสุดแห่งปีในเทศกาลงาน "นิวยอร์กฟิล์มเฟสติวัล" จาก ย่านไชน่าทาวน์ในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็น 1 ใน 4 ดาราสาวจอแก้วยอดนิยม คือ 4 ดรุณีหยกแห่งยุค 80s[14]และกลุ่ม 7 นางฟ้าทีวีบีแห่งยุค 80s (TVB 七仙女之一 1980-1986) อีกด้วย หลังจากละครเรื่องมังกรหยกส่งให้เธอได้ก้าวขึ้นเป็นนักแสดงหญิงเบอร์หนึ่งของสถานีโทรทัศน์ทีวีบีทันทีและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลาเกือบ 3 ปี เธอมีผลงานแสดงหนังและละคร 10 เรื่อง ทั้งละครเรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" และ "เทพบุตรทรนง" ต่างก็เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมเช่นกัน

ในขณะที่ชื่อเสียงรุ่งโรจน์สุดขีด และเป็นนางเอกจอแก้วเบอร์หนึ่งอยู่นั้น องเหม่ยหลิง ได้เสียชีวิตกระทันหันเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ด้วยวัยเพียง 26 ปี เนื่องจากการฆ่าตัวตาย เพราะผิดหวังในความรักโดยการรมแก๊สในห้องพักหลังจากมีปากเสียงกับทังเจิ้นเยี่ย แฟนหนุ่มของเธอในขณะที่ทั้งคู่เพิ่งจะเปิดกล้องละครที่แสดงเป็นพระ-นางร่วมกันในเรื่อง เซียนโค่นเซียน (The King of the Bridge King 1985) ไปได้ไม่นานทำให้บทบาทของเธอในเรื่องนี้และอีกเรื่องที่แต่เดิมมีการวางตัวเธอแสดงเอาไว้ คือ เล็กเซี่ยวหงส์ เวอร์ชันว่านจือเหลียง (The Return of Luk Siu Fung 1986) ต้องทำการเปลี่ยนตัวนักแสดงสาวคนอื่นมาเล่นแทน ข่าวการเสียชีวิตของเธอโด่งดังมากและกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดฝันนำพาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจให้กับแฟนละครของเธอทั่วทั้งเอเชีย พิธีศพของเธอถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตามแบบคริสต์ศาสนา มีแฟน ๆ ละครมาร่วมไว้อาลัยมากมายเป็นประวัติศาตร์ มีฝูงชนนับหมื่นคนที่มายืนบริเวณหน้างานศพรวมไปถึงผู้คนที่ออกมาร่วมส่งขบวนศพของเธอตามท้องถนนข้างทางอีกประมาณ 100,000 คน โดยที่ร่างของเธอถูกนำไปฌาปนกิจและกลับไปฝังไว้ที่สุสานในเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ทุกวันนี้ยังคงมีแฟน ๆ จำนวนมากมายที่คิดถึงเธอจะเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของเธอที่อังกฤษเป็นประจำทุกปี[15] [16][17]

ในปีพ.ศ. 2548 (2005) บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน "ซินล่าง คอร์ป (Sina Corp)" ที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคน ได้เปิดให้สมาชิกโหวตว่า "บทบาทการแสดงในละครชุดของใครที่ประทับใจคนจีนมากที่สุด" และองเหม่ยหลิง จากบทบาทอึ้งย้ง เอาชนะ เจิ้ง เส้าชิว ในบท ชอลิ้วเฮียง และโจวเหวินฟะ ในบท สวี่ เหวินเฉียง จากเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ได้[18] .ในปีพ.ศ. 2549 (2006) '"สำนักข่าวซินหัว""(新华通讯社) เว็บไซต์สำนักข่าวชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ได้ยกย่อง องเหม่ยหลิง ให้เป็นนักแสดงสาวที่สวมบทบาทตัวละครอึ้งย้งที่ดีที่สุด และไม่มีนักแสดงสาวคนไหนเทียบชั้นได้[19] .ในปีพ.ศ. 2550 (2007) หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลที่ขายดีที่สุดในฮ่องกง "แอปเปิลเดลี่" Apple Daily ที่มีสาขาในจีน และไต้หวัน ต่างคัดเลือกเธอให้เป็น "นักแสดงที่สวมบทบาทอึ้งย้งได้ดีที่สุด" ชนะหมีเซียะ ในบทเดียวกัน จากการจัดอันดับใน 100 นักแสดงที่สวมบทบาทในละครชุดได้ยอดเยี่ยมที่สุด. [20]ในปีพ.ศ. 2553 (2010) เว็บไซด์ "ไป่ตู้" (Baidu) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก [21] ได้ยกย่อง อง เหม่ยหลิง เป็น 1 ใน 500 ดารานักแสดงที่มีอิทธิพลต่อผู้คนจากวงการบันเทิงทั่วโลก. [22]

ประวัติ[แก้]

ชีวิตช่วงแรก (พ.ศ. 2502–2524)[แก้]

ชีวิตวัยเด็ก[แก้]

อง เหม่ยหลิง ชื่อเล่นของเธอคือ (Niu) นัน นัน เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 ที่เกาลูน เกาะฮ่องกง ในครอบครัวข้าราชการพลเรือน โดยที่พ่อของเธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่กรมศุลกากรท่าเรือฮ่องกง หรือ เจ้าหน้าที่กองทัพเรือ (naval officer) [23]บิดาของเธอชื่อว่า องฟู่ [24](Weng Fu) ส่วนมารดาชื่อว่า จางหมิงอี้ (Cheung Ming Yee), ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นเป็น คริสเตียน นิกาย คาทอลิก เธอเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ในวัยเด็กของเธอปกติเหมือนครอบครัวทั่วไป เธอชอบการเต้นรำเป็นพิเศษและได้มีโอกาสเรียนบัลเล่ต์ จนกระทั่งพ่อของเธอได้เสียชีวิตลงไป เมื่อเธออายุได้เพียง 7 ปี หลังจากนั้นครอบครัวก็เริ่มประสบปัญหาการเงิน สาเหตุมาจาก องเหม่ยหลิง เป็นลูกนอกสมรสเพราะแม่ของเธอเป็นภรรยาน้อยจึงไม่สามารถเข้าบ้านสามีหรือได้รับสิทธิ์มรดกใด ๆ จากการที่สามีเสียชีวิต ต่อมาไม่กี่ปีแม่ของเธอก็ได้พบรักใหม่กับหนุ่มแซ่ ''เหลียว(廖)'' นามว่า "เหลียวจินถัง" จึงได้แต่งงานกับเขาและเปลี่ยนชื่อแซ่ตามสามีใหม่จาก จางหมิงอี้ เป็น ''เหลียวหมิงอี้'' แทน หลังจากนั้นได้มีโอกาสย้ายตามสามีใหม่ไปทำงานที่ประเทศอังกฤษ จึงจำเป็นต้องฝาก องเหม่ยหลิง ซึ่งมีอายุเพียง 11 ปี ไว้กับลุงเฉินจิง (Chen jing) และญาติที่ฮ่องกงเป็นผู้ดูแล[25][26]

ในช่วงที่เธออาศัยอยู่กับคุณลุง ซึ่งเป็นนักจิตรกร ที่ฮ่องกงนั้น อง เหม่ยหลิง เป็นเด็กเรียนดี แต่เธอไม่ค่อยขยันนัก วิชาที่ได้คะแนนดีกว่าวิชาอื่นๆ คือวิชาวิทยาศาสตร์ แถมเธอยังมีนิสัยเหมือนเด็กผู้ชายเป็นอย่างมากทั้ง ห้าว ทั้งซุกซน และรักอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอเกลียดการนุ่งกระโปรง จนคุณลุงของเธอกลัวว่าเมื่อเธอเติบโตขึ้น จะกลายเป็น ทอมบอย จึงได้พยายามสอนเกี่ยวกับทางด้านศิลปะและให้ความรู้ ทางด้านทฤษฎีกับเธอบ้าง เพื่อทำให้เธอมีความรักสวยรักงามมากขึ้น ซึ่งอิทธิพลเหล่านี้จากคุณลุงได้ส่งผลให้เมื่อเธอเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี เธอจึงเลือกเรียนทางด้านศิลปะเพราะเธอใฝ่ฝันอยากจะทำอาชีพทางด้านนี้[27][28]

ความรักในช่วงวัยรุ่น[แก้]

ความรักครั้งแรกของ อง เหม่ยหลิง ได้เกิดขึ้น เมื่อเธออายุประมาณ 14 ปี เธอได้พบรักครั้งแรก กับเด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกันทั้งคู่ได้พบรักกันที่ วัดคาทอลิก หลังจากนมัสการพระเจ้า ระหว่างจะกลับบ้าน องเหม่ยหลิงได้ชนชายคนหนึ่งจนหนังสือในมือหล่น ทั้งสองสบตากัน ไม่กี่วันต่อมาขณะที่เธอกำลังเล่นแบตมินตันที่โรงเรียน และบังเอิญตีลูกขนไก่ไปถูกหัวของนักเรียนชายคนนี้

ต่อมาเธอถึงได้รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นพี่ชายเพื่อนสนิทของเธอเอง เธอเคยให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ว่าเป็นแค่ความรักแบบเด็ก ๆ ใส ๆ บริสุทธิ์ และไม่มีอะไรเกินเลย หรือที่เรียกว่า ป๊อปปี้ เลิฟ เท่านั้นเอง ทั้งคู่ได้คบหากันเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ สาเหตุเพราะต่อมาเมื่อเธออายุได้ 15 ปี ทั้งเขาและเธอต่างแยกย้ายไปเรียนต่อ แฟนคนแรกของเธอต้องไปเรียนต่อที่ประเทศ แคนาดา ส่วนเธอต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศ อังกฤษ [29]

ความรักครั้งที่ 2 ในปี 2519 เมื่อ อง เหม่ยหลิง อายุ 17 ปี ได้พบรักกับหนุ่มชาวต่างชาติที่ชื่อว่า " ร๊อป เรดเบาด์" (Rob Radboud) โดยความสัมพันธ์ครั้งนี้ นั้นเป็นความรักแบบลึกซึ้ง ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอได้เข้าไปศึกษาต่อใน วิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยีแห่งเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ จนได้พบกับ ร็อบ ที่เป็นนักศึกษาเช่นเดียวกัน ทั้งคู่รักกันมากและคบหากันอยู่หลายปี แต่ความรักครั้งนี้ของเธอต้องฟันฝ่าอุปสรรคเป็นอย่างมาก สาเหตุเพราะคุณแม่ของเธอกีดกันและไม่เห็นด้วยกับความรักในครั้งนี้ของทั้งคู่ อีกทั้งนานวันเข้า อง เหม่ยหลิง กลับพบว่า ทั้งเขาและเธอต่างมีมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน จนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2524 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์และเลิกลากันไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย[30]

การศึกษา[แก้]

ในช่วงที่เธอศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนนานาชาติคาทอลิก โรซารี่ ฮิว (Rosaryhill School) ซึ่งเป็นโรงเรียนคริสเตียนนิกายคาทอลิกแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในย่านหว่านไจ๋ (Wan Chai) ที่ฮ่องกง ในช่วงที่เรียนอยู่ที่นั้นเธอเก่งทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากและได้เกรด A ในวิชาวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด ซึ่งตอนแรกเธอตั้งใจไว้ว่าเมื่อศึกษาจนจบชั้นมัยธมปีที่6 แล้วเธอจะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง คณะแพทยศาสตร์โดยทันที เพราะเธออยากเป็นหมอ แต่ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2517 เอกสารการเป็นผู้ติดตามไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษก็ได้รับการอนุมัติขึ้นมา ทำให้เธอจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปีที่ 4 ในฮ่องกง และต้องย้ายตามไปอยู่กับแม่ที่ประเทศอังกฤษทันที เธอได้อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรเป็นเวลานานถึง 8 ปี ในช่วงปีแรกที่เธอมาถึงสหราชอาณาจักรครอบครัวของเธอได้อาศัยอยู่ในเขตย่าน "เบิรก์คิงไซด์" (Barkingside) อยู่ในเมืองอิลฟอร์ด (Ilford) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน แฟนหนุ่มคนแรกของเธอที่เคยคบหาตอนอยู่ในฮ่องกงด้วยกันซึ่งต่อมาเขาได้ย้ายไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดานั้น เขาได้มีโอกาสบินจากแคนาดาไปเยี่ยมเธอถึงสองครั้งด้วยกันในช่วงปิดเทอม แต่ต่อมาทั้งคู่ต้องเลิกกันสาเหตุเพราะทั้งคู่ยังเด็กเกินไปและมีอุปสรรคในการเดินทางเพราะอยู่กันคนละประเทศ ต่อมาครอบครัวของเธอก็ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) ในย่านฮิสตัน (Histon) โดยเธอเริ่มศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมศึกษา วาเลนไทน์ไฮสคูล แห่งอิลฟอร์ด (Ilford Valentines High School) ในระดับ GCE O และผ่านระดับ O-Level (ม.6) และในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้มีการไปช่วยกิจการที่ร้านอาหาร fish and chips shop จากนั้นได้เข้าศึกษาต่ออีก 2 ปี ในหลักสูตรปรับพื้นฐาน ที่วิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยีเคมบริดจ์ (Cambridgeshire College of Arts and Technology หรือ CCAT) ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยแองเกลียรัสกิน (Anglia Ruskin University)

ต่อมา เธอได้ไปศึกษาต่อที่ ลอนดอน เป็นเวลา 4 ปี ในสาขาศิลปะการออกแบบสิ่งทอที่ "สถาบัน เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design ของ "มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน" (University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ ในช่วงที่ศึกษาที่นี้ เธอเองได้มีโอกาสเข้าร่วมประกวด นางงามไชน่าทาวน์ (Miss British Chinese 1980) และสามารถคว้ามงกุฎรองอันดับ 1 มาครอง (อ้างอิงจาก)[31] [32][33][34]

  • จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่ โรงเรียนนานาชาติ โรซารี่ฮิว (Rosaryhill School) ที่ฮ่องกง
  • จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ที่โรงเรียนมัธยมศึกษา "วาเลนไทน์ไฮสคูล" แห่งอิลฟอร์ด (Ilford Valentines High School) และผ่านระดับ O-Level (ม.6)
  • จบการศึกษาระดับ อนุปริญญา หลักสูตรปรับพื้นฐานเพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาตรี หรือ Foundation Program ที่วิทยาลัยศิลปะและเทคโนโลยีเคมบริดจ์ (CCAT) ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยแองเกลียรัสกิน" (Anglia Ruskin University)
  • จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะ ศิลปศาสตร์ สาขา ศิลปะการออกแบบสิ่งทอ จาก "สถาบันการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design) ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในหกสถาบันหลักในเครือของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน (University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ

ก้าวแรกในวงการบันเทิง (พ.ศ. 2525)[แก้]

เข้าร่วมเวที นางงามฮ่องกง[แก้]

ในวัย 22 ปี หลังจากที่เธอได้จบการศึกษาจาก "สถาบันการออกแบบ เซ็นทรัลสคูล ออฟ อาร์ท แอนด์ดีไซน์" (Central School of Art and Design) ของ มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งลอนดอน ( University of the Arts London) ที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับดีกรี รองอันดับ 1 นางงามไชน่าทาวน์ มาครองแล้ว[35][36][37] ในราวปลายเดือนมีนาคม ของปีพ.ศ. 2525 ซึ่งตรงกับช่วงเทศการอีสเตอร์ (Easter) วันสำคัญของทางศาสนาคริสต์ เธอได้มีโอกาสกลับมาเที่ยวที่ฮ่องกง โดยทีแรกเธอตั้งใจเพียงแค่จะกลับมาพักผ่อนไม่กี่เดือนเพื่อใช้โอกาสนี้ในการรักษาแผลใจกับเหตุการณ์ความรักที่เพิ่งจะจบลงไประหว่างเธอกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติเท่านั้น แต่ทว่า...การกลับมาที่ฮ่องกงของเธอในครั้งนี้ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาลเมื่อเธอได้ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมประกวดเวที "นางงามฮ่องกง" ในปีพ.ศ. 2525 ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีแม่อุปถัมภ์ (God parents) ของเธอได้ชักชวนให้เข้าลงแข่งขันการประกวดนางงามครั้งนี้แต่ตอนแรกเธอยังลังเล จนเธอได้เห็นแผ่นโปสเตอร์ประกาศรับสมัครประกวดนางงาม จึงใช้เวลาตัดสินใจเข้าลงการประกวดเพียงแค่ 5 นาที ถึงแม้ว่าการประกวดในครั้งนี้เธอจะไม่มีรายชื่อติด 1 ใน 3 คนสุดท้ายในปีนั้น สาเหตุเพราะความสูงของเธอไม่ได้มาตราฐานนางงาม แต่ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นรวมไปถึงคุณสมบัติทางด้านการศึกษาที่จบในระดับชั้น ปริญญาตรี และเป็นถึงนักเรียนนอก บวกกับความสามารถในการตอบคำถามของเธอ ที่เธอได้แสดงปฏิภาณไหวพริบความเฉลียวฉลาด ซึ่งเป็นที่ถูกใจคณะกรรมการและผู้ชมเป็นอย่างมาก จึงทำให้เธอสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 15 คนสุดท้ายได้ โดยมีคะแนนรวมอยู่ในอันดับที่ 8.

เป็นพีธีกร[แก้]

หลังจากการประกวดเสร็จสิ้นลงไป เธอก็ได้รับการทาบทามจากแมวมองท่านหนึ่งที่เห็นแววและพรสวรรค์ของเธอบนเวทีการประกวด จึงได้ชักชวนเธอให้เซ็นสัญญากับ บริษัท ทีวีบี โดยทันที และได้มอบหมายงานชิ้นแรกในวงการบันเทิงให้กับเธอโดยให้เธอรับหน้าที่ เป็นหนึ่งในพิธีกร รายการ ผู้หญิงวันนี้ 《婦女新姿》 ซึ่งเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทและคำแนะนำจากพิธีกรรุ่นพี่เป็นอย่างดี ถึงแม้เธอจะทำหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน ก็ตาม.แต่เธอก็สามารถทำหน้าที่เป็น พิธีกร ได้อย่างดีเยี่ยม[38]

งานโฆษณาชิ้นแรก[แก้]

ในเดือนกรกฎาคมปี พ.ศ. 2525 เธอมีโอกาสได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้กับ ยาสระผม ยี่ห้อ แฟซ่า (Kao) อ้างอิงจาก (影视圈内初露锋芒。1982年7月,拍摄了一辑花王洗发水的广告) [39][40]

ผลงานละครเรื่องแรก[แก้]

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้เปิดตัวกับการแสดงละครชุดเรื่องแรกในชีวิตของเธอ สมิงสาวใจเพชร ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ของ ทีวีบี (TVB) โดยเธอรับบทเป็นนางรองแสดงคู่กับเยิ่น ต๊ะหัว ในบทพระรอง ซึ่งละครเรื่องนี้เองเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอได้พบรักกับพระเอกของเรื่องคือ นักแสดงหนุ่ม เพลย์บอย ทัง เจิ้นเยี่ย ( ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันจนเกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้นในเวลาต่อมา ) ซึ่งฝ่ายชายเองในขณะนั้นเป็นหนึ่งใน ห้าพยัคฆ์ทีวีบี ชื่อดังแห่งยุค โดยที่เขามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากมาก่อนจากการสวมบทบาทเป็น ต้วนอี้ ในละครเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า สาเหตุที่ทั้งคู่พบรักกันก็เพราะทั้งคู่ได้เจอกันในกองถ่ายของละครเรื่องนี้นั้นเอง ซึ่งในตอนนั้น องเหม่ยหลิง เพิ่งเข้าวงการมาใหม่ ๆ เลยยังไม่มีพื้นฐานทางด้านการแสดง เพราะเธอไม่ได้จบจากโรงเรียนสอนการแสดงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) โดยตรงเหมือนดารานักแสดงคนอื่น ๆ ดังนั้นบริษัททีวีบี จึงได้มอบหมายให้ ทังเจิ้นเยี่ย ซึ่งได้แสดงละครในเรื่องนี้ด้วยกันกับเธอคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลและให้คำแนะนำทางด้านการแสดงให้กับเธอตลอดช่วงการถ่ายทำ ซึ่งฝ่ายชายเองก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่น ๆ จนสร้างความประทับใจให้กับ องเหม่ยหลิง เป็นอย่างมากเลยทำให้ทั้งคู่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันในกองถ่ายจนก่อให้เกิดเป็นความรักขึ้นมาและหลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็ได้เปิดตัวกับสื่อว่าคบกันในฐานะคนรู้ใจ ความรักของทั้งคู่นั้นเป็นไปอย่างเปิดเผยและได้รับความสนใจจากบรรดาสื่อเป็นอย่างมาก สาเหตุเพราะในตอนนั้นฝ่ายชายมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือถึงความเจ้าชู้มาก่อน เพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาพบรักกับเธอเขาเคยได้รับฉายาจากสื่อว่าเป็น เทพบุตรแห่งความรัก ที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับสาวคนใดมาก่อน เดี๋ยวคบเดี๋ยวเลิกกับหญิงสาวมาแล้วหลายคนเช่น จิ่ง ไต้อิง (นักแสดงสาวสมทบชื่อดัง) และเดปอร่า มัวร์ (รองนางงามรุ่นก่อนหน้าองเหม่ยหลิง หนึ่งปี) แต่ถึงกระนั้น องเหม่ยหลิง เองก็ยังยืนยันในสายตาตัวเองว่า เธอดูคนไม่ผิด ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

ดิฉันคบกับทัง เจิ้นเยี่ย ไม่เห็นเลยว่าเขาจะเป็นอย่างที่สื่อเขียนถึงกัน แต่ถ้าหากเขาเคยเป็นอย่างที่สื่อเขียนไว้ก็ถือว่าเป็นเรื่องอดีต คนเราจะคบกันไม่ควรจะยึดติดอยู่กับอดีต และดิฉันคิดว่าเราทั้งคู่ควรจะเปิดโอกาสให้กันและกันและมองไปยังอนาคตมากกว่าค่ะ[41]

จากบทสัมภาษณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าเธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมากถึงแม้จะมีหลายคนพยายามบอกกล่าวตักเตือนเธอถึงความเจ้าชู้ของฝ่ายชายแล้วก็ตามแต่เธอก็ยังคงเชื่อมั่นในความรักที่เขามีต่อเธอ ซึ่งจริง ๆ จะว่าไปแล้วความรักของคนทั้งคู่นั้นก็ดูเหมือนว่าจะราบรื่นไร้อุปสรรค์เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นคนที่มีชื่อเสียงและเหมาะสมกันดี ถึงแม้ว่าในบางครั้งจะมีข่าวลือซุบซิบเล็ดลอดออกมาบ้างก็ตามแต่ความรักของทั้งคู่นั้นก็ดูราวกับว่ากำลังดำเนินไปได้ด้วยดี

ทันทีที่ได้ถ่ายทำละครเรื่อง สมิงสาวใจเพชร เสร็จและได้มีการนำออกฉาย เธอก็ได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงโดยทันที โดยเธอได้รับคำชมจากผู้ชมและบรรดาสื่อว่า เธอสามารถเล่นละครเรื่องแรกออกมาได้เป็นธรรมชาติและน่ารักมาก ๆ นับเป็นผลงานละครเรื่องแรกที่สามารถปูทางเริ่มต้นชีวิตการแสดงในวงการบันเทิงของเธอได้อย่างสวยงาม จนทำให้เธอเป็นที่จับตามองในฐานะ ดาวรุ่งพุ่งแรง ประจำปี.

โด่งดังเป็นพลุแตกทั่วเอเชีย (พ.ศ. 2526)[แก้]

รับบท อึ้งย้ง ผู้โด่งดัง[แก้]

หลังจากที่เธอได้แจ้งเกิดและเริ่มเป็นที่รู้จักกับผลงานละครเรื่อง "สมิงสาวใจเพชร" ในฐานะดาวรุ่งน้องใหม่ของวงการแล้ว ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบีได้มองเห็นอนาคตอันสดใสของเธอ จึงได้ตัดสินใจคัดเลือกเธอให้รับบท อึ้งย้ง คู่กับ พระเอกที่กำลังมาแรงในขณะนั้น หวงเย่อหัว รับบทเป็น ก๊วยเจ๋ง ในละครกำลังภายในฟอร์มใหญ่เรื่อง มังกรหยก ภาค1 (2526) ซึ่งการได้มาขององเหม่ยหลิง กับบท อึ้งย้ง ไม่ใช่ง่าย โดยเธอเองก็ได้มีโอกาสไปทดสอบหน้ากล้องในบทดังกล่าว เพราะทางบริษัททีวีบี ได้ประกาศหาผู้สมัครรับบทนี้ในโครงการ " "อึ้งย้งในอุดมคติ" กันอย่างเปิดเผย [42]และเธอต้องฝ่าด่านผู้สมัครรับบทอึ้งย้งนี้ถึง 3,000 คน ต่อมาทางทีวีบีได้คัดจนเหลือ 60 คนทันทีโดยรวมถึงนักแสดงสาวที่เป็นตัวเก็งคาดว่าจะได้บทนี้ เช่น หวงซิ่งซิ่ว, เฉินฟู่เซิง, จิ่งไต้อิง และ ชีเหม่ยเจิน เป็นต้น แต่ทว่าเมื่อทางช่องคัดเหลือเพียง 4 คนสุดท้ายกลับไม่มีรายชื่อเหล่านักแสดงตัวเก็งดังกล่าวเลยสักคนแต่กลับกลายเป็นทั้งสี่คนคือนักแสดงสาวหน้าใหม่ทั้งหมด ได้แก่ หันเส้าหลิง, หลี่เยี่ยนซัน, ลู่จิ่งหง และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยคะแนนทั้ง 4 คนสูสีกันมากจนทำให้ทั้งผู้กำกับและฝ่ายโปรดิวเซอร์ของละครชุดนี้ลำบากใจในการเลือก ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้ กิมย้ง ผู้แต่งละครเรื่องนี้เป็นคนตัดสินใจเลือกแทน ครั้งแรกที่กิมย้ง พบ องเหม่ยหลิง ก็สะดุดในความน่ารักบนใบหน้าของเธอทันทีโดยเฉพาะดวงตาที่กลมโตของเธอซึ่งส่อแววความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก กิมย้งได้ให้นักแสดงหน้าใหม่ทั้ง 4 คนสุดท้ายได้ลองแนะนำตัวเองให้เขาได้รู้จักทีละคน ซึ่งคนอื่นทั้งสามคนที่เข้ารอบต่างแนะนำตัวเองด้วยชื่อแซ่จริงของแต่ละคน แต่พอมาถึงคิว องเหม่ยหลิง เธอได้ใช้ปฏิภาณไหวพริบที่ฉลาดกว่าคนอื่นโดยแนะนำตัวเองว่า[43]

"ข้าน้อยแซ่อึ้ง มีนามว่า อึ้งย้ง บุตรีคนเดียวของเจ้าเกาะดอกท้อ อึ้งเอี๊ยะซือ ขอคารวะท่านกิมย้ง"

เธอได้ใช้ชื่อแซ่ของตัวละครอึ้งย้งมาแนะนำตัวแทนการใช้ชื่อแซ่จริงของเธอซึ่งเป็นการแนะนำตัวที่แปลกแตกต่างจากคนอื่นทั้งสามคนที่เข้ารอบมาด้วยกันทำให้กิมย้งถึงกับหัวเราะชอบใจและผู้กำกับ หวังเทียนหลิน เองก็ปรบมือให้กับเธอ จากนั้น กิมย้งได้ให้ทั้งสี่คนลองร่ายรำกระบี่ให้เขาดู ทันทีที่เขาเห็น องเหม่ยหลิง ร่ายรำกระบี่เขาได้พูดกับผู้กำกับว่า นี่คือ อึ้งย้งที่เขากำลังมองหา ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงคล่องแคล่วเหมือนอึ้งย้งในนิยาย ในที่สุดทั้งกิมย้ง,ผู้กำกับและฝ่ายโปรดิวเซอร์ของกองละครเรื่องนี้ได้ตัดสินใจเลือกเธอเป็นอึ้งย้งคนใหม่ หลังจากที่บริษัท (TVB) ได้ประกาศสร้างละครฟอร์มใหญ่เรื่อง มังกรหยก ภาค1 (2526) ซึ่งมีความยาวถึง 60 ตอนดั่งเดิม (59 ตอนปัจจุบัน "cut") โดยมีเธอรับบทนำเป็น อึ้งย้ง ซึ่งเป็นตัวละครหลักสำคัญในนวนิยายชื่อดัง แต่สื่อจับเธอไปเปรียบเทียบกับ ดาราสาว หมีเซียะ ที่เคยได้รับความนิยมจากบทนี้มาก่อน จึงทำให้เธอถูกแรงกดดันเป็นอย่าง แต่นั้นคือช่วงแรก ๆ เท่านั้น

ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำ มังกรหยก เธอได้เริ่มอ่านบทประพันธ์ของกิมย้ง และศึกษาทำความเข้าใจตัวละครในแบบฉบับของเธอ โดยเธอตีความหมายตัวละครอึ้งย้งว่า ดีสามส่วน ร้ายเจ็ดส่วน ในด้านดีสามส่วนก็มีความร้ายกาจแฝงอยู่ ตามสไตล์ลูกสาวของเจ้าเกาะดอกทอง

ความสำเร็จระดับตำนาน[แก้]

ในที่สุด หลังจากที่ได้ถ่ายทำละครชุดนี้เสร็จสิ้นลงในแต่ละภาค(สามภาค) และเริ่มมีการแบ่งการออกอากาศทั้งสามภาคย่อย โดยครั้งแรกในฮ่องกงออกอากาศในช่วงต้นปีพ.ศ. 2526 (1983) องเหม่ยหลิง ในวัย 23 ปีเริ่มโด่งดังขึ้นมาจากบทบาท อึ้งย้ง ต่อมาได้มีโอกาสนำทยอยออกฉายทั่วเอเชียผลปรากฏว่า เธอกลับได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ชื่อเสียงของ องเหม่ยหลิง โด่งดังเป็นพลุแตกทั่วเอเชีย โดยทันที และทำให้เธอกลายเป็นดารายอดนิยม เพียงชั่วข้ามคืน คนดูและนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ต่างยอมรับในความสามารถทางด้านการแสดงของเธอที่มาจากพรสวรรค์ ซึ่งการแสดงของเธอในบท อึ้งย้ง นั้น เธอได้ใช้ความสามารถในการตีบทนี้ให้แตกได้สำเร็จ และที่สำคัญคือ องเหม่ยหลิง ไม่เลียนแบบหมีเซียะ ถึงแม้อึ้งย้งฉบับ องเหม๋ยหลิง จะมีด้านความร้ายกาจที่ผู้เขียนบทใส่เพิ่มเติมเข้าไปบ้างเล็กน้อย แต่โดยเสน่ห์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร บวกกับ ฝีมือการแสดงของ องเหม่ยหลิง เองที่สามารถถ่ายทอดบุคลิกของตัวละครอึ้งย้ง ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเฉลียวฉลาด น่ารักแก่นแก้วซุกซนเป็นที่สุด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมละครส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก และจากการแสดงบทนี้ได้ทำให้เธอเป็นขวัญใจของผู้ชมหมู่มากในทุกเพศทุกวัย ทั่วทั้งเอเชีย ส่งผลให้ชื่อของ องเหม่ยหลิง กลายเป็น ดาราแม่เหล็กชั้นแนวหน้าของบริษัท TVB ไปโดยทันที และเมื่อสิ้นสุดการฉายของละครเรื่องนี้ผลปรากฏว่าละครเรื่อง มังกรหยก ชุดนี้ได้สร้างปรากฏการณ์เป็นละครชุดกำลังภายในที่มีเรทติ้งสูงสุดตลอดกาล โดยมีเรทติ้งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65 จุด และมีเรตติ้งสูงสุด 99% จากยอดคนดูกลายเป็นมังกรหยกเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทำลายสถิติ มังกรหยกเวอร์ชันก่อนหน้านี้ในปี 2519 ที่แสดงโดย "หมีเซียะ" ไว้อีกด้วย และเมื่อนำไปออกฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ทำเรตติ้งได้สูงถึง 90% กลายเป็นสิบอันดับแรกของละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในจีนเป็นประวัติการณ์

อีกทั้งเรตติ้งทั่วเอเชียสูงมากทำให้กลายเป็นหนึ่งในสิบละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในโลก (該劇是TVB全球收視率最高的十部劇集之一) โดยมียอดผู้ชมดูสดผ่านทีวีครั้งแรกที่ออกฉายในแต่ละประเทศรวมมากกว่า 356 ล้านคน ต่อมาสื่อในมาเลเซียและสิงคโปร์ได้คัดเลือกละครทีวีจีนคลาสสิก 100 เรื่องในศตวรรษที่ 20 และละครมังกรหยกชุดนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก[44][45]

ผลงานละครเรื่องต่อมาของเธอเป็นละครแนวสากลฟอร์มใหญ่ เรื่อง "เฉือนรักเฉือนคม" ที่เธอได้มีโอกาสประชันบทบาท กับ นักแสดงชื่อดังรุ่นพี่ "เจิ้ง เส้าชิว" ซึ่งเรตติ้งก็ประสบความสำเร็จพอสมควร. [46]

รับเชิญในภาพยนตร์[แก้]

ในเดือน สิงหาคม ปีเดียวกัน หลังจากความโด่งดังในบท อึ้งย้ง ของเธอ ส่งผลให้ชื่อของเธอติดโผ ดารายอดนิยมสูงสุดประจำปี พ.ศ. 2526 และทำให้ทั้ง เธอ และ หวงเย่อหัว ที่รับบทเป็น ก๊วยเจ๋ง ได้ถูกรับเชิญให้มารับบทเล็ก ๆ เป็น สายลับ FBI ในภาพยนตร์ตลกฟอร์มใหญ่ประจำปี เรื่อง ลูกบ้าดีเดือด (瘋狂83 ,Mad Mad 1983 ) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการรวมตัวเอาเหล่า ดารานักแสดงและนักร้อง ที่มีรายชื่อติดอันดับความนิยมสูงสุดประจำปี ระดับแถวหน้ามาเล่นด้วยกัน และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถทำรายได้ในตลาดหนังฮ่องกงไปมากกว่า 5 ล้านเหรียญ นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวในชีวิตอันแสนสั้นของเธอ.อ้างอิงจาก [47]

โชว์ตัวที่ประเทศไทยและกลุ่มสี่ดรุณีหยก[แก้]

จากความโด่งดังทั่วเอเชียเป็นอย่างมากของดาราสาว องเหม่ยหลิง ในการแสดงบท อึ้งย้ง ทำให้เธอได้รับการติดต่อจากเมืองไทยให้เดินทางไปโชว์ตัวที่นั้นราวสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4-11 ธันวาคม ที่ภัตตาคารแกแล็กซี่และไนท์คลับ โดยดาราสาวคนดังได้เดินทางไปถึงกรุงเทพในวันที่ 2 ธันวาคม ราว 11 นาฬิกาเศษและเข้าเช็คอินที่โรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนตัลในเวลาไล่เลี่ยกัน และในเวลาราว 1 ทุ่มเศษของวันเดียวกัน เธอได้ปรากฏตัวต่อสื่อในงานแถลงข่าวที่ภัตตาคารแกแล็กซี่และไนท์คลับ โดยตารางการโชว์ตัวของเธอมีดังนี้

4 ธันวาคม เป็นวันแรกของการโชว์ตัวและเธอต้องโชว์ตัวร่วมกับนักร้องนานาชาติ วงสตริง "อะโวคาโด้" และคณะกายกรรมจากฟิลิปปินส์ ระหว่างเวลา 15.00-17.30 น.

7 ธันวาคม มีรอบพิเศษจัดเป็นคอนเสริต์ใหญ่ที่ อินเดอร์สเตเดี้ยม มีผู้คนมาดูเธอล้น หลายพันคน

10 ธันวาคม ทางภัตตาคารแกแล็กซี่และไนท์คลับร่วมกับชมรมผู้สื่อข่าวอาชญากรรมได้จัดรอบพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งรอบเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือการศึกษาบุตรหลานของผู้สื่อข่าว ระหว่างเวลา 15.00-17.30 น.

11 ธันวาคม เธอต้องโชว์ตัวร่วมกับ "วงสาว สาว สาว" ซึ่งเป็นวงสตริงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของไทยในยุคสมัยนั้นโดยในวง ประกอบด้วยสามสาว ได้แก่ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, พัชริดา วัฒนา และ อรวรรณ เย็นพูนสุข ระหว่างเวลา 15.00-17.30 น.

ซึ่งการแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทยของ องเหม่ยหลิง ตลอดทั้ง 7 วัน ประสบความสำเร็จอย่างมากมีแฟน ๆ นับหมื่นต่างเข้ามาดูการแสดงของเธอเต็มทุกรอบการโชว์ตัว และเป็นคอนเสิร์ตของดาราต่างประเทศที่ฮือฮาที่สุดในรอบปี[48]หลังกลับจากการโชว์ตัวที่ประเทศไทย ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ก็ได้มีการก่อตั้งกลุ่ม 4 ดรุณีหยก รุ่นสอง ขึ้นมาแทนรุ่นแรกที่กำลังจะหมดยุคไป โดยในรุ่นใหม่ประกอบด้วยดาราสาวมาแรงของทางช่องสี่คน ได้แก่ องเหม่ยหลิง เฉินอวี้เหลียน หลิวเจียหลิง และเจิงหัวเชี่ยน

ผลงานตอกย้ำความสำเร็จ (พ.ศ. 2527)[แก้]

ปีทองของเธอ[แก้]

ในปีนี้เองชื่อเสียงของ องเหม่ยหลิง ถือได้ว่าเป็นระดับขวัญใจมหาชน จากความโด่งดังของเธอ ในบท อึ้งย้ง ทำให้เธอได้มีโอกาสไปโชว์ตัว ตามต่างประเทศอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งใน สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และย่านไชน่าทาว์น แถว ทวีปยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เป็นต้น และในช่วงนี้เอง ทีวีบีได้เล็งเห็นความสำคัญของเธอ จึงมอบหมายให้เธอได้รับเล่นละครติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าผลงานละครเรื่องต่อ ๆ มาของเธอ จะไม่ได้รับความนิยมเท่า มังกรหยก ก็ตาม แต่ผลงานละครเหล่านี้ก็สามารถทำให้ชื่อเสียงของเธอได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะละครเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ กลายเป็นแชมป์เรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดในปีพ.ศ. 2527(1984) ด้วยเรตติ้งคะแนนเฉลี่ย 61 จุดเปิด คนดูในฮ่องกงมากกว่า 3.15 ล้านคนต่อตาตอน (ติดสิบละครเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดตลอดกาลในฮ่องกง) และยังเป็นหนึ่งในละครฮ่องกงสุดคลาสสิกของศตวรรษที่ 20 ที่ได้รับการคัดเลือกโดยสื่อสิงคโปร์ นับเป็นเรื่องที่สองของเธอ (ต่อจากเรื่อง มังกรหยก 1983) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ส่งผลให้ชื่อของเธอติดหนึ่งในดารายอดนิยมสูงสุด ประจำปี พ.ศ. 2527 นับได้ว่าเป็นปีทองของเธอ เลยทีเดียวเพราะเธอ รุ่งทั้งเรื่องงานและความรัก

จับคู่กับเหมียวเฉียวเหว่ย[แก้]

ในปี พ.ศ. 2527 บริษัท (TVB) ได้ป้อนงานละครให้กับเธอติดต่อกัน และมอบหมายให้เธอจับคู่กับ ดาราหนุ่มมาดเทห์ เหมียว เฉียวเหว่ย หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งการเล่นละคร คู่กัน ของเธอ กับ เหมียว เฉียวเหว่ย นั้นได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นกระแสคู่ขวัญคู่ใหม่ของวงการบันเทิง สาเหตุนั้นก็เพราะทั้งคู่มีเคมีที่ตรงกันและสามารถเล่นเข้าขากันได้ดี จนกระทั่งคนดูและบรรดาสื่อต่าง ๆ พยายามจับคู่เธอกับเหมียว เฉียวเหว่ยให้เป็นคู่รักกัน ทั้งในจอและนอกจอ มีแฟน ๆ ละครมากมาย เชียร์ทั้งคู่ให้เป็นแฟนกันจริง ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลเพราะเธอกับ เหมียว เฉียวเหว่ย ต่างเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันในวงการเท่านั้น และที่สำคัญต่างฝ่ายต่างก็มีแฟนที่คบหาดูใจกันอยู่แล้ว ผลงานละครที่ตามมาของเธอในปีนี้ ได้แก่ ยุทธจักรชิงจ้าวบัลลังค์, เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์, เฉือนคมเจ้าพ่อ, และ "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" ซึ่งละครทั้ง 4 เรื่องที่เธอเล่นกับ เมียวเฉียวเหว่ย ต่างติด 10 อันดับละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดแห่งปี โดยเฉพาะผลงานละคร เรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" นี้ ถือได้ว่าได้รับความนิยมในระดับเอเชีย นับว่าเป็นผลงานที่ตอกย้ำความนิยมในตัวเธอได้เป็นอย่างดี และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่แฟน ๆ ละครของเธอจดจำมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งไม่แพ้ เรื่อง มังกรหยก

งานโฆษณาชิ้นที่สอง[แก้]

ด้วยกระแสความสำเร็จของเธอในปีนี้ ทำให้ในช่วงปลายปีเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อง เหม่ยหลิง ก็ได้รับการติดต่อให้รับงานโฆษณาครีมบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อ ครีมเฮสลีน สโนว์ (Hazeline Snow). แหล่งอ้างอิง[49]

ชื่อเสียงโด่งดังสุดขีด (พ.ศ. 2528)[แก้]

ถูกจับตามองในเรื่องส่วนตัว[แก้]

ในปี พ.ศ. 2528 ชื่อเสียงของ อง เหม่ยหลิง ถึงจุดสูงสุด ในตำแหน่งหน้าที่การงาน ของเธอ เธอได้รับความนิยม อย่างมาก และเป็นที่สนใจ ของประชาชน รวมถึงเป็นที่จับตามองของบรรดาสื่อ ต่าง ๆ ทั้งในเรื่อง ชื่อเสียง , การงาน โดยเฉพาะเรื่อง ส่วนตัว ของเธอนั้น จะเป็นที่จับตามองเป็นพิเศษมากกว่าเรื่อง อื่น ๆ จนเป็นที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะในปีนี้เอง ที่บรรดาสื่อ ชอบเล่นข่าวลือเกี่ยวกับข่าวความรักของเธอ ( มีบรรดาแฟน ๆ ละครของเธอ บางคนมีความเห็นว่านี้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ อง เหม่ยหลิง ตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย อาจเนื่องมาจาก เธอต้องการหนีปัญหา เกี่ยวกับข่าวลือ ต่าง ๆ ที่รุมประดังเข้ามาอย่างมากมาย ก็เป็นได้ ). เธอเองเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องชื่อเสียงที่โด่งดังของเธอเอาไว้ว่า ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ขยับตัวไปไหนก็กลายเป็นข่าวไปซะทุกเรื่อง จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจริง ๆ จะว่าไปแล้ว ด้วยความที่เธอเป็น ดาราดัง ก็ย่อมตกเป็นที่สนใจของบรรดาสื่อ ต่าง ๆ มากมาย ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเหล่าคนดังในวงการบันเทิง เพียงแต่เธอไม่สามารถควบคุม สภาวะทางด้านอารมณ์ หรือ รับมือกับข่าวลือต่าง ๆ ได้ดีเท่ากับดาราดังคนอื่น ๆ เพราะเธอเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวเป็นอย่างมาก จนหลายคนคาดเดาว่า นี้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็น โรคซึมเศร้า ขึ้นมา. [50]

มรสุมข่าวลือและปัญหาความรัก[แก้]

ตลอดเกือบทั้งปีก่อนเธอจะเสียชีวิต เธอมีข่าวลือ ซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องความรักของเธอออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในบางครั้งสร้างความไม่พอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก และเพราะข่าวลือต่าง ๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตรักของคนทั้งคู่มีปัญหาอย่างหนักจนถึงขั้นมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งด้วยความหึงหวง จนในที่สุดความรักของคนทั้งคู่นั้น ก็ได้ขาดสะบั้นลง เป็นจริงตามที่ใครหลายคนเคยคาดหมายเอาไว้ สาเหตุเพราะได้เกิดพายุข่าวลือโหมกระหน่ำเข้ามาในชีวิตรักของเธออย่างมากมาย โดยเฉพาะข่าวลือที่ว่า:

1.ข่าวลือเรื่อง ทังเจิ้นเยี่ย คิดเกาะกระแสความดังของเธอ เพราะในช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของฝ่ายชาย ความนิยมลดน้อยลงเป็นอย่างมาก สวนทางกับชื่อเสียงของ องเหม่ยหลิง ที่กลับโด่งดังสุดขีด

2.และในช่วงที่ชื่อเสียงของ ทังเจิ้นเยี่ย กระแสความนิยมเริ่มลดน้อยลง ฝ่ายชายก็ได้ตัดสินใจ รับเล่น หนังเรท R เรื่อง รักร้อนสวาท Maybe It's Love (窺情) คู่กับดาราสาวชื่อดัง จง ฉู่หง โดยที่เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังเรท R เรื่องนี้จะสามารถเรียกกระแสฮือฮาทำให้คนดูและบรรดาสื่อต่าง ๆ กลับมาสนใจในตัวเขาได้เหมือนเดิม ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ องเหม่ยหลิง เกิดความรู้สึกลึก ๆ ไม่พอใจที่เขาไปรับแสดงหนังเกรดสามแบบนั้นเหมือนเป็นการลดเกรดตัวเอง ส่วนทางด้าน องเหม่ยหลิง เธอก็มีข่าวซุบซิบเล็ก ๆ น้อย ๆ กับทั้ง หวงเย่อหัว หลิวเต๋อหัว เหมียวเฉียวเหว่ย และ เหลียงเฉาเหว่ย เพราะการโปรโมทของทีวีบี[51] ซึ่งทั้ง 3 คน ก็เคยมีข่าวลือในระยะสั้น ๆ ว่า ไปออกเดทกับเธอมาแล้วทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงทั้ง 3 คน เป็นแค่เพื่อนในวงการของเธอเท่านั้นเอง และข่าวส่วนใหญ่เป็นการโปรโมท[52] แต่โดยเฉพาะกับ เหมียวเฉียวเหว่ย นั้น สื่อต่างๆ พยามยามจับคู่เธอ กับ เหมียวเฉียวเหว่ยให้เป็นแฟนกัน และพยายามสร้างกระแสเล่นข่าวเธอ กับ เหมียวเฉียวเหว่ย ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันในตอนถ่ายละครเรื่อง "ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว" บวกกับแรงเชียร์จากบรรดาแฟนคลับของคนทั้งคู่ ที่อยากให้ทั้งคู่เป็นแฟนกันจริง ๆ จนกระทั่งมีข่าวลือซุบซิบออกมาว่าดาราสาว ชี เหม่ยเจิน ซึ่งเป็นแฟนสาวตัวจริงของ เหมียวเฉียวเหว่ย และเป็นเพื่อนสนิทของ องเหม่ยหลิง เกิดการไม่พอใจขึ้นมา และไม่ต้องการให้ เหมียวเฉียวเหว่ย เล่นประกบคู่ กับ องเหม่ยหลิง อีก หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้เล่นประกบคู่กันอีกเลย ข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้สร้างความอึดอัดใจให้กับทั้ง เหมียวเฉียวเหว่ย และ องเหม่ยหลิง เป็นอย่างมาก เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีคนรักที่คบหาดูใจกันอยู่แล้ว จนกระทั่ง เหมียวเฉียวเหว่ย ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ กับสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตัวเขารัก ชีเหม่ยเจิน เพียงคนเดียว ส่วน องเหม่ยหลิง นั้นเขาเห็นเธอเหมือนน้องสาวที่แสนดีเท่านั้น เพราะเขาเองไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเธอเลย จากข่าวลือเรื่องนี้ทำให้ในระยะหลัง องเหม่ยหลิง และ เหมียวเฉียวเหว่ย เองต่างก็ติดต่อกันน้อยลงจนความสัมพันธ์ก็เริ่มห่างเหินกันไป เพราะกลัวแฟนสาวของเขาจะเข้าใจผิด. (อ้างอิงจาก) [53][54][55][56]

3.ข่าวซุบซิบยังมีต่อเนื่องออกมาอีก เมื่อนิตยสารชื่อดังเล่มหนึ่งของฮ่องกง ได้ตีพิมพ์ภาพที่เธอถ่ายรูปลงนิตยสารในท่าทางที่เซ็กส์ซี่ออกมา กลายเป็นข่าวดังสุดฮอต จนบรรสื่อต่าง ๆ พยายาม นำภาพเหล่านี้ไปเชื่อมโยงกับข่าวลือในเรื่องความรักของเธอ ทำนองว่า เธอตั้งใจจะถ่ายภาพเหล่านี้ออกมาเพื่อประชดประชัน ทังเจิ้นเยี่ย ที่ไปเล่นหนังเรท R กับ จงฉู่หง โดยที่ไม่บอกเธอ จนกระทั่งทางบริษัท (TVB) ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดของเธอ ได้เรียกเธอไปตักเตือนเกี่ยวกับภาพที่ออกมาในนิตยสารดังกล่าว ถึงแม้เธอจะอ้างว่าเธอถูกหลอกให้ถ่ายภาพในลักษณะท่าทางดังกล่าวจากตากล้องช่างภาพ ของนิตยสารเล่มนั้นก็ตาม และเธอเองก็มีความเห็นว่า ภาพดังกล่าวไม่ได้ดูเซ็กส์ซี่มากมายจนถึงขนาดที่จะสร้างความเสียหายให้กับเธอได้[57]

4.ข่าวลือที่สร้างความเจ็บปวดในหัวใจของ องเหม่ยหลิง มาก ๆ อีกข่าวคือช่วงต้นปีในขณะที่ ทัง เจิ้นเยี่ย ต้องห่างเหินกับเธอเพราะเขาต้องเดินทางไปถ่ายหนังที่ ไต้หวัน ต่อมาไม่นานสื่อที่ไต้หวันได้ออกข่าวซุบซิบในหนังสือบันเทิงว่า ทังเจิ้นเยี่ย มีความสัมพันธ์กับสาว ๆ ที่ไต้หวันเป็นว่าเล่น ทั้งกับนักแสดงสาวที่เล่นหนังด้วยกัน หรือแม้กระทั่งกับสาว ทั่ว ๆ ไป จนข่าวลือเรื่องนี้ดังไกลมาถึงฝั่งฮ่องกง สร้างความกลุ้มใจให้กับเธอเป็นอย่างมากและเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเริ่มติดยานอนหลับ ต่อมาก็มีข่าวซุบซิบออกมาว่าเธอเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว เธอเคยพูดคุยกับเพื่อนสาวนอกวงการว่าเธอกลัวจะสูญเสียเขาไป ถ้าหากเขาไปเจอผู้หญิงคนอื่นแล้วเกิดเปลี่ยนใจไปจากเธอ

5.และข่าวซุบซิบในเรื่องของความไม่เหมาะสมกันทางด้านสถานะทางสังคมในเรื่องความแตกต่างทางด้านวุฒิการศึกษาที่ฝ่ายชายจบแค่ชั้นมัธยม แต่ฝ่ายหญิงจบสูงกว่าเป็นถึงนักเรียนนอก จนเป็นสาเหตุให้ความรักของคนทั้งคู่เกิดช่องว่างระหว่างกัน ฝ่ายชาย จึงมีความรู้สึกอึดอัดและเริ่มตีตัวออกห่างจากเธอ

6.มีข่าวซุบซิบลงหนังสือบันเทิงช่วงวันที่ 17 มีนาคม 2528 ว่า องเหม่ยหลิง ได้ไปเล่นคอนเสริต์โชว์ตัวที่ประเทศ สิงค์โปร์ ได้มีนักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวยชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง มาเกี้ยวพาราสีเธอและขอเธอแต่งงานด้วยแหวนเพชรมูลค่ากว่า 20,000 ดอลลาร์ แต่เธอได้ปฏิเสธเขาไป เมื่อเธอกลับมาที่ฮ่องกงได้ถูกสื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอตอบไปว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นแค่แฟนคลับทั่วไป

7.ต่อมาไม่นานนัก ข่าวลือเรื่องมือที่สามที่ดูเหมือนจะจริงจังกว่าครั้งก่อนเริ่มเข้ามาในชีวิตรักของคนทั้งคู่ จนเป็นสาเหตุทำให้คนทั้งคู่มีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะข่าวลือที่ว่า ทังเจิ้นเยี่ย ได้ไปออกเดท กับดาราตลกสาวที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียง ในขณะนั้นอย่าง อู๋ จวินหยู จนสื่อสามารถถ่ายภาพของคนทั้งคู่นำมาเขียนลงหน้า 1 จนกลายเป็นข่าวซุบซิบที่สร้างความสะเทือนใจให้กับ องเหม่ยหลิง เป็นอย่างมาก (ถึงแม้ว่าเธอจะปากแข็ง และเคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพที่เป็นข่าวก็ตาม).อ้างอิงจาก [58]

8.และในช่วงเข้าสู่กลางปี ผลงานละครชุดแนวสากลฟอร์มใหญ่เรื่อง เทพบุตรทรนง ได้ถูกนำออกฉาย เป็นการประกบคู่กันครั้งแรก ระหว่างเธอ กับนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งมาแรง เหลียงเฉาเหว่ย (ซึ่ง ละครเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นละครแนวสากล ที่แฟน ๆ ละครของเธอ ชื่นชอบและถูกจดจำมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของเธอ) หลังจากออกฉายไปได้ไม่นาน ก็ได้เกิดกระแสข่าวลือออกมาว่า เธอกับ เหลียงเฉาเหว่ยได้ไปออกเดทด้วยกัน ข่าวลือสืบเนื่องมาจากการเล่นประกบคู่กันในละครเรื่องนี้ระหว่างเธอกับเหลียงเฉาเหว่ย นั้นมี ฉากเลิฟซีน ที่ทั้งคู่ประกบปากจูบกันจริง ๆ อยู่หลายฉากโดยไม่ได้ใช้มุมกล้องใด ๆ และตัวของ เหลียงเฉาเหว่ยเองก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาแอบปลื้ม องเหม่ยหลิงอยู่มากจึงทำให้บรรดาสื่อต่างๆ พยายามสร้างข่าวโดยจับคู่เธอกับเหลียงเฉาเหว่ยให้เกิดเป็นกระแสว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวกับนักข่าวว่าไม่เป็นความจริงเลย เพราะเธอเห็น เหลียงเฉาเหว่ย เป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ดีที่ตัวเธอชื่นชมเท่านั้น.

9.ข่าวลืออีกหนึ่งข่าวที่สร้างความสั่นคลอนให้ความรักของคนทั้งคู่อย่างมากคือเธอได้เริ่มคบหาดูใจกับหนุ่มไฮโซหน้าตาดีลูกเศรษฐีนอกวงการ นามว่า โจวซื่อหลุง(邹世龙) ซึ่งเขาคนนี้เคยคบหาดูใจกับ ดารานักร้องระดับซุบเปอร์สตาร์ เหมยเยี่ยนฟาง มาก่อน ที่ข่าวลือออกมาทำนองนี้ก็เพราะว่า ในช่วงระยะหลัง ๆ นี้เอง มีผู้คนไปพบเห็น องเหม่ยหลิง ออกไปเที่ยวกลางคืนและเต้นรำกับเขาอย่างสนุกสนานใน ผับดิสโก้ กันสองต่อสองอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เกิดกระแสข่าวลือหนาหู นี้ขึ้นมา,(แหล่งอ้างอิง)[59] หลังจากนั้นก็ได้เกิดกระแสข่าวลือตามมาอีกทำนองว่า องหม่ยหลิงเป็นมือที่สามที่แทรกแซงความรักระหว่างโจวซื่อหลุง กับ เหมยเยี่ยนฟาง จนกระทั่ง เหมยเยี่ยนฟาง และ โจวซื่อหลุง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเพราะ โจวซื่อหลุง ได้เลิกลากับเหมยเยี่ยนฟาง มาได้ประมาณ 2-3 เดือนก่อนหน้าที่เขาจะมาพบเจอกับ องเหม่ยหลิง ที่ดิสโก้เธคแห่งหนึ่งและเขาเริ่มตามจีบเธอ.

ฆ่าตัวตาย[แก้]

จนกระทั่ง กลางปี วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 หลังจากครบรอบวันเกิดอายุ 26 ปีของเธอได้เพียงแค่ 1 สัปดาห์ เหตุการณ์ร้ายที่ไม่มีใครคาดฝันก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเธอได้ตัดสินใจ จบชีวิตการแสดงที่รุ่งโรจน์ของเธอ ไปพร้อมกับมรสุมข่าวลือและปัญหาความรัก ที่ผิดหวัง โดยการ รมแก๊สฆ่าตัวตาย ในห้องพักของเธอ หลังจากที่มีปากเสียงทะเลาะกับ ทัง เจิ้นเยี่ย แฟนหนุ่มของเธอ. กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ที่สร้างความเสียใจ และ เสียดายฝีมือการแสดงของเธอ เป็นอย่างมาก นับเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการบันเทิงเอเชีย.

ผลงานละครเรื่องสุดท้าย เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) (橋王之王) ที่เธอเพิ่งถ่ายไปได้แค่ 2 ตอน แล้วมาเสียชีวิตลงไปอย่างกะทันหัน จึงทำให้บทบาทนางเอกของเธอในละครเรื่องนี้ถูกแทนที่โดยดาราสาว จาง ม่านอวี้ และมีละครอีกหนึ่งเรื่องที่มีการวางตัว องเหม่ยหลิง ให้รับบท "จิงจิง" ซึ่งเป็นนางเอกเอาไว้ก่อนจะเปิดกล้องในเดือน กรกฎาคม คือ เล็กเซี่ยวหงส์ เวอร์ชันว่านจือเหลียง (The Return of Luk Siu Fung 1986) ซึ่งต่อมาบทดังกล่าวถูกแทนที่โดยดาราสาว เฉินซิ่วจู[60]

สาเหตุการตายและข่าวลือต่าง ๆ[แก้]

เหตุการณ์ก่อนวันเสียชีวิต[แก้]

ลำดับเหตุการณ์ในเดือนที่เธอเสียชีวิต (14 วันสุดท้ายในชีวิตของเธอ)

1 พ.ค. 2528 ตอนบ่าย ๆ ได้ทำพิธีเปิดกล้องละครใหม่เรื่อง เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) ที่ทางบริษัททีวีบีได้วางตัว องเหม่ยหลิง เป็นนางเอก และ ทังเจิ้นเยี่ย เป็นพระเอก ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกในบทบาทคู่พระนางของเรื่อง เธอตื่นเต้นมากที่ได้เล่นประกบคู่กับเขาและหวังว่าจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อปรับความเข้าใจกับฝ่ายชายเพราะในช่วงเวลานั้นมีข่าวรัก ๆ เลิก ๆ ของคนทั้งคู่มาได้ระยะหนึ่ง หลังจากทำพิธีเปิดกล้องละครเสร็จสิ้น นักข่าวได้ขอถ่ายรูปคู่ของคนทั้งสองในฐานะพระนางของละครเรื่องนี้ แต่ องเหม่ยหลิงดูเกร็งและชักสีหน้าออกมาไม่ค่อยดีนัก ทำให้ ทังเจิ้นเยี่ย หัวเสียเป็นอย่างมาก หลังจากการถ่ายทำในคืนนั้นเขาหัวเสียและได้ออกจากกองถ่ายทิ้งเธอไว้ตามลำพัง และเมื่อเธอออกมาพบว่าเขาออกจากกองโดยไม่รอเธอ ทำให้เธอโกรธมาก คืนนั้นเธอออกจากกองถ่ายไปแต่ไม่กลับไปยังที่พัก เธอไปเที่ยวดิสโก้ต่อกับเพื่อนสาวนอกวงการโดยมี โจวซื่อหลุง เพื่อนชายคนใหม่ของเธอไปด้วย คืนนั้นเธอกินเหล้าเมามายอย่างหนักจนเพื่อนสาวที่ไปเที่ยวด้วยกันต้องช่วยกันพาเธอกลับมายังที่พัก โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ทังเจิ้นเยี่ย มารอเธออยู่ในห้องพักตั้งแต่ออกจากกองถ่ายแล้ว และเขาก็รู้ว่าเธอออกไปเที่ยวดิสโก้กับ โจวซื่อหลุง (ลูกไฮโซ เศรษฐีนอกวงการที่มีข่าวลือว่าตามจีบเธอ) พอเขาเปิดประตูออกมาเห็นสภาพเมามายของเธอแล้วไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหตุการณ์ในคืนนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ถึงขั้นแตกหัก[61][62]

2 พ.ค. 2528 ประมาณเที่ยง ทังเจิ้นเยี่ยเก็บเสื้อผ้าที่มีอยู่ทั้งหมดออกจากห้องพักของเธอ ทั้งสองแยกทางกัน เขาได้กล่าวอำลาเธอทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมาก

3 พ.ค. 2528 เธอไปออกรายการเกมส์โชว์ "การแข่งขันงานกุศลคนดัง"(Celebrity Charity Competition) โดยมีดาราหลายคนได้เข้าร่วมการแข่งขันงานกุศลในครั้งนี้ ซึ่งในวันนั้นเธอได้ร่วมทีมแข่งขันดารากับ โจวเหวินฟะ และ ชีเหม่ยเจิน และนับได้ว่าเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเธอบนหน้าจอทีวี

4 พ ค. 2528 (ก่อนเธอจะเสียชีวิต 10 วัน) องเหม่ยหลิง ได้ไปเล่นไพ่นกกระจอกกับนักแสดงท่านอื่น ๆ วันนั้น องเหม่ยหลิง เธอดูเป็นปกติ และยังได้พูดชักชวนนักแสดงรุ่นน้า "ซูชิงฉวน" 苏杏璇 (นักแสดงที่รับบทเป็น แม่ของ "ก๊วยเจ๋ง" ใน มังกรหยก เวอร์ชันเดียวกันกับเธอ) ให้มาเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน แต่ ซูชิงฉวน ปฏิเสธไป

  • (ต่อมาหลังจาก องเหม่ยหลิง ได้เสียชีวิตไปแล้ว "ซูชิงฉวน" ได้กล่าวว่า ฉันเสียดายเป็นอย่างมาก ถ้าวันนั้นฉันตอบตกลงเล่นไพ่นกกระจอกกับอง เหม่ยหลิง และถ้าเธอมีเรื่องไม่สบายใจจริง ๆ ก็คงได้มีโอกาสคุยและปรับทุกข์กันบ้าง แต่ฉันไม่รู้เลยว่า องเหม่ยหลิง ในตอนนั้นมีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้าง เพราะวันนั้น เธอดูร่าเริงและดูมีความสุข เท่าที่ฉันสังเกตเห็นได้จากใบหน้าของเธอ) [63]

5 พ.ค. 2528 เธอได้ให้หมอดูฮวงจุ้ย ซึ่งเพื่อนสาวของเธอเป็นคนแนะนำมาปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยภายในห้อง เพื่อว่าเธอกับทังเจิ้นเยี่ยจะได้กลับมาคืนดีกันเพราะเธอเชื่อว่าสาเหตุการทะเลาะกับ ทัง เจิ้นเยี่ยอยู่เป็นประจำอาจจะมาจากฮวงจุ้ยในห้องไม่ดี

6 พ.ค. 2528 เธอไปถ่ายรูปลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นการถ่ายรูปลงนิตยสาร ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ

7 พ.ค. 2528 ฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 26 ปีกับแฟนคลับส่วนตัว ไร้เงา ทังเจิ้นเยี่ย มาร่วมงาน คืนนั้นหลังจากตัดเค้กวันเกิด เธอไม่ได้ไปฉลองที่ไหนต่อ และรีบกลับห้องพักโดยเธอหวังว่า ทังเจิ้นเยี่ย จะโทรมาอวยพรวันเกิดเธอ แต่สุดท้ายฝ่ายชายก็เมินเฉย

8-10 พ.ค. 2528 สามวันได้เข้าถ่ายทำ อัตชีวประวัติ แบบย่อ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาของเธอ จนกระทั่งถ่ายเสร็จในตอนเย็นของวันที่ 10 พ.ค. และคืนนั้นเอง องเหม่ยหลิง ก็ได้ไปเที่ยวดิสโก้กับ โจวซื่อหลุงอีกครั้ง

11 พ.ค. 2528 ทั้ง โจวซื่อหลุงและองเหม่ยหลิง ได้ไปเที่ยวเกาะมาเก๊าด้วยกันต่ออีก 1 วัน ในขณะที่ทางฝั่งฮ่องกงช่วงเวลาบ่ายๆ ของวันเดียวกัน นักข่าวได้ถ่ายภาพดารา 4 คนเอาไว้ได้ โดยมี เหมียว เฉียวเหว่ย, ชี เหม่ยเจิน, ทัง เจิ้นเยี่ย และ อู๋ จวินหยู พวกเขาไปเที่ยวทะเลด้วยกันแต่ไม่มี องเหม่ยหลิง ไปด้วยนักข่าวแปลกใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ทังเจิ้นเยี่ย กับ องเหม่ยหลิง น่าจะมีปัญหากันอย่างหนักแล้ว พอตกกลางคืน ทังเจิ้นเยี่ย และ อู๋จวินหยูได้ไปร้องเพลงที่คาราโอเกะด้วยกันอีก และมีนักข่าวถ่ายรูปได้เช่นกัน จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวในวันถัดมา

12 พ.ค. 2528 เมื่อรูปภาพของคนทั้ง 4 ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันถูกนำมาลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ โดยพาดหัวข่าวว่า "2คู่ชูชื่น" แล้ว องเหม่ยหลิงล่ะ? กลายเป็นข่าวดังสุดฮอตทันที และ ในวันเดียวกันขณะที่ องเหม่ยหลิง ยังคงอยู่กับ โจวซื่อหลุง ที่มาเก๊าเธอไม่ได้อ่านข่าวแต่อย่างใด และตอนเย็นก็ได้เดินทางกลับมายังฮ่องกง

ในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ก่อน องเหม่ยหลิง จะเสียชีวิตเพียงแค่ 1 วัน

ช่วงเวลาเช้าตรู่ มีนักข่าวคนหนึ่งชื่อ เหลียงเพ่ยอวี้ ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเพื่อนัดสัมภาษณ์ส่วนตัว แต่ไม่บอกเธอว่าจะสัมภาษณ์เรื่องอะไร เธอตอบตกลงแต่ให้มาตอนใกล้เที่ยงและเธอรับปากจะเลี้ยงมื้อเที่ยงนักข่าวอีกด้วย

เวลาประมาณ 11.00 น. นักข่าวไปถึงบ้านพักของเธอก่อนเวลานัดราวครึ่งชั่วโมง องเหม่ยหลิง เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จและเปิดประตูต้อนรับ พอนักข่าวเข้าห้องก็รีบหยิบรูปภาพของคนทั้ง 4 ที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันให้เธอดูทันที และถามเธอว่าเห็นรูปนี้ที่เป็นข่าวแล้วหรือยัง เธอจ้องดูรูปราว 2-3 วินาที ก็ยื่นกลับให้นักข่าวและบอกว่า

ยังค่ะ... ช่วงนี้ยุ่ง ๆ เลยไม่มีเวลาอ่านข่าว แต่รูปนี้ก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลยนี่คะ ก็แค่พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันเท่านั้น

ซึ่งในการพูดคุยกันครั้งนี้นักข่าวเองก็ไม่คาดฝันว่านี้จะเป็นการสัมภาษณ์แบบส่วนตัวครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ ซึ่งในภายหลังนักข่าวคนนี้ได้ออกมาให้ความเห็นว่าในวันนั้น องเหม่ยหลิงดู ซึมเศร้าจริง ๆ สาเหตุอาจจะเกิดจากข่าวลือต่างๆ ที่รุมประดังเข้ามาในชีวิตของเธออย่างมากมายก็เป็นได้ เธอบอกกับนักข่าวว่า ช่วงระยะหลัง ๆ มานี้ เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากและไม่มีความสุขเอาเสียเลยกับข่าวลือที่ว่าเธอไปแย่งแฟนของดาราสาวคนนั้น...คนนี้ เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอยังตัดพ้อต่ออีกว่าในวงการบันเทิงช่างเป็นข่าวง่ายดายเสียเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเวลามีผู้ชายเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ ด้วยความที่เธอเป็นคนสนุกสนานง่าย ๆ ไม่ถือตัว เลยทำให้ใครหลาย ๆ คนเข้าใจเธอผิด รวมไปถึงข่าวลือที่ว่า เธอกับทังเจิ้นเยี่ย แตกหักกันแล้วเพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้ จนฝ่ายชายได้ตีตัวออกห่างจากเธอแล้วหันไปคบหากับดาราตลกสาวที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียงในขณะนั้น อย่าง อู๋ จวินหยู แทน [64]

เวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากได้พูดคุยกับนักข่าวเสร็จสิ้นแล้ว องเหม่ยหลิงต้องรีบไปที่โรงถ่ายเพื่อเข้าถ่ายทำละครประกบคู่กับทังเจิ้นเยี่ย ในเรื่อง เซียนโค่นเซียน (เหนือฟ้ายังมีฟ้า) (橋王之王) ที่เพิ่งจะเปิดกล้องไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

เวลา 13.00 น.(ช่วงเวลาบ่ายๆ ของวันนั้น) เมื่อเธอไปถึงกองถ่าย ปรากฏว่าเธอโดนนักข่าวนับสิบรุมล้อมสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของฝ่ายชายกับดาราหญิงคนอื่น ตอนนั้นเธอดูเป็นปกติสามารถพูดคุยกับนักข่าวและหัวเราะได้เหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่เธอเคยเป็น (ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะฆ่าตัวตาย) แต่ทว่าหลังจากคุยกับนักข่าวแล้วเธอก็เข้าไปในกองถ่าย เมื่อ ทังเจิ้นเยี่ยพบเธอก็มีปากเสียงกันเล็กน้อยเขาได้ถามเธอว่า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปเที่ยวกับโจวซื่อหลุงสนุกไหม? องเหม่ยหลิง ไม่ตอบแต่ถามเขาถึงเรื่องราวที่เป็นข่าว เขาตอบเธอว่า เขาเป็นคนดีพอและระหว่างเขากับ อู๋จวินหยู ไม่มีอะไรกัน แต่ องเหม่ยหลิงพูดกับเขาว่า ถ้าไม่มีอะไรกันจริง ๆ ทำไมต้องหลบหน้านักข่าวด้วย แต่ทั้งคู่ยังไม่ทันจะได้คุยกันให้รู้เรื่องก็ถูกเรียกให้ไปแต่งหน้าเพื่อถ่ายรูปและเข้าฉากถ่ายทำละคร [65] หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองต้องมาถ่ายรูปคู่กันในฐานะพระนางของเรื่องมีนักข่าวบางคนสังเกตเห็นได้ชัดว่าตอนเธอถ่ายรูปคู่กับเขาสีหน้าของเธอดูไม่สู้ดีนักและดูเธอไม่มีความสุขเอามาก ๆ เหมือนมีอะไรในใจ

18.00 น. หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำฉากหนึ่งในวันนั้น ทั้งคู่ได้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวเพื่อรอที่จะถ่ายทำฉากต่อไป ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้องแต่งตัวก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันอีกครั้ง ต่อมาไม่นานมีคนในกองถ่ายละครได้ยินเสียงเธอกับ ทังเจิ้นเยี่ยทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นแตกหัก และได้ยินเสียงของ องเหม่ยหลิงร้องไห้และพูดขอจบความสัมพันธ์กับฝ่ายชายว่า ดี..ถ้าเป็นแบบนี้เราเลิกกัน (เธอพูดออกไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่ใจจริงเธอไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น) เมื่อฝ่ายชายได้ยินก็ไม่ได้โต้ตอบกลับเพียงแต่เดินออกจากห้องแต่งตัวหายไปจากกองถ่ายอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหนปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่ในห้องแต่งตัวตามลำพัง เป็นเหตุให้กองถ่ายทำต้องหยุดชะงักไปชั่วครู่เพราะต้องจบถ่ายทำฉากที่ทั้งสองต้องแสดงร่วมกันเอาไว้แค่นั้น ในช่วงนี้มีดารารุ่นแม่ หลี่เซี่ยงฉิน (แม่บุญธรรมของเธอในวงการบันเทิง) ได้เข้าไปพูดคุยปลอบใจเธอว่า

ถ้าวันนี้อารมณ์ไม่ดีไม่อยากถ่ายละครต่อก็ไม่ต้องถ่าย ตอนนี้การแสดงของเธอยังได้รับความนิยมควรมุ่งเป้าหมายของชีวิตไปทางด้านการงานมาก่อนเรื่องความรักนะ

องเหม่ยหลิงเพียงแต่รับฟังในสิ่งที่ดาราแม่บุญธรรมบอกกล่าวแต่ยังคงร้องไห้ ต่อมามีตัวประกอบชายท่านหนึ่งที่ค่อนข้างสนิทกับเธออาสาจะไปนอนเป็นเพื่อนเธอในวันนั้นแต่ องเหม่ยหลิงปฏิเสธไป ไม่นานผู้กำกับได้ตัดสินใจถ่ายทำฉากตัวละครที่เล่นโดยคนอื่นต่อไป

18.30 น. ตอนเย็นใกล้ค่ำ เธอได้หุนหันพลันแล่นเดินออกจากกองถ่ายด้วยน้ำตานองหน้าเรียกรถตู้ของทางกองให้ไปส่งเธอที่บ้านพัก เมื่อดาราแม่บุญธรรม "หลี่เซี่ยงฉิน" รู้ก็รีบเดินออกจากกองถ่ายตามเธอไปยังรถตู้บอกจะขอไปส่งเธอที่บ้านพักแต่ องเหม่ยหลิง ปฏิเสธ และนั่งรถตู้ของบริษัทกลับที่พักของเธอตามลำพังโดยไม่มีใครคาดฝันว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เห็นเธออยู่บนโลกใบนี้[66]

ข่วงเวลาประมาณ 23.00-24.00 น. คืนนั้น...เธอพยายามส่งข้อความไปหาเขาทาง เพจเจอร์ เพื่อให้เขาโทรกลับมาเครียร์ปัญหาความรักกับเธอ อยู่หลายครั้งเป็นสิบ ๆ ข้อความแต่ทว่ากลับไม่มีการโทรติดต่อกลับมาแต่อย่างใด (ทราบในภายหลังว่าคืนนั้นฝ่ายชายปิดเครื่องเพราะหลังจากทะเลาะกับเธอแล้วเขายังคงหัวเสียและอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่ต้องการพูดคุยหรือติดต่อกับใครจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้อ่านข้อความที่เธอส่งมา) องเหม่ยหลิง น้อยใจเพราะเข้าใจผิดคิดว่าฝ่ายชายได้อ่านข้อความของเธอแล้วแต่ไม่สนใจ เธอจึงฝากข้อความสุดท้ายเหมือนกับเธอกำลังจะคิดสั้นส่งไปข่มขู่ฝ่ายชายว่า (อ้างอิงจาก [67])

ถ้าเธอไม่ติดต่อกลับมา เธอจะต้องเสียใจ เพราะนี้จะเป็นข้อความสุดท้ายจากฉันที่เธอจะได้รับ ต่อไปเธอจะไม่มีวันได้พบหน้าและได้ยินเสียงของฉันอีกเลย

โดยเธอหวังว่าเมื่อเขาได้อ่านข้อความนี้แล้วจะเกิดเป็นห่วงเธอขึ้นมาและรีบติดต่อกลับมาหา หลังจากนั้นเธอจะได้ใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับเขาอีกครั้งเพื่อปรับความเข้าใจกัน แต่ทว่าทุกอย่างยังคงเงียบงันและไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้

14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 (เข้าสู่วันใหม่ของ วันเกิดเหตุ)

องเหม่ยหลิง ได้ใช้โทรศัพท์โทรออกเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอเพื่อไปปรับทุกข์กับโจวซื่อหลุง [68] รำพึงรำพันตัดพ้อ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเศร้าสร้อยเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องข่าวลือต่าง ๆ ที่รุมประดังเข้ามาจนทำให้ความรักระหว่างเธอกับทัง เจิ้นเยี่ยนั้นมีอันต้องจบลง ประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะวางสาย เธอพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "เซ็งชีวิตจริง ๆ การมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ฉันเหนื่อยแล้วที่จะทนอยู่แบบนี้" หลังจากนั้นก็วางสายไปตอนประมาณ ตี 1.25 น. โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการเดินไปปิดประตูหน้าต่างที่มีอยู่ทั้งหมด แล้วเปิดแก๊สทิ้งเอาไว้ ตามด้วยกินยานอนหลับแล้วดื่มเหล้าเข้าไปครึ่งขวดทำให้เธอสลบและค่อย ๆ สูดดมแก๊สเข้าไปในร่างกาย ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่เธอวางสาย โจวซื่อหลุง เองก็เกิดรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงเธอมาก กลางดึกคืนนั้นจึงได้ตัดสินใจไปหาเธอที่บ้านพัก เพื่อจะไปปลอบใจเธอ

ตี 2.00 น. ของวันเดียวกัน เมื่อเขาไปถึงหน้าห้องของเธอก็พยายามเคาะประตูเรียกเธออยู่หลายครั้งนานหลายนาที แต่ก็ไม่มีใครตอบหรือเปิดประตูออกมา เขาก็เลยคิดว่าเธอคงหลับไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงกลับที่พักไปแล้วค่อยมาใหม่ในตอนเช้า

7.00 น. เช้าตรู่ของวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 โจวซื่อหลุง ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเพื่อจะนัดเธอไปทานข้าวเช้าด้วยกัน แต่ทว่ากลับไม่มีใครรับสาย ด้วยความแปลกใจจึงโทรศัพท์ไปสอบถามยัง ร.ป.ภ ผู้ดูแลตึก ว่าเธอได้ออกไปไหนตั้งแต่เช้าเลยหรือเปล่า, ต่อมา ร.ป.ภ ที่รับสายได้แจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ อง เหม่ยหลิงไม่ได้ออกจากห้องไปไหนเลย แต่บริเวณอาคารที่เธอพักมีกลิ่นแก๊สโชยคลุ้งไปทั่วอาคาร แต่ไม่รู้ว่ากลิ่นแก๊สรั่วมาจากห้องไหน ซึ่งตอนนี้ได้ทำการติดต่อไปยังบริษัทแก๊สให้มาตรวจสอบแล้ว เมื่อ โจวซื่อหลุงได้ยินดังนั้นเขาเกิดสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นกับเธอจึงรีบแต่งตัวและขับรถไปยังที่พักของเธอโดยทันที.

8.00 น. ของวันเดียวกัน โจวซื่อหลุง ได้ขับรถมาถึงที่พักของเธอ พอดีกับที่เจ้าหน้าที่บริษัทแก๊สเพิ่งมาถึงแล้วเช่นกัน เมื่อพวกเขาทั้งหมดแน่ใจแล้วว่าแก๊สได้รั่วออกมาจากห้องพักของดาราสาว โจวซื่อหลุง ซึ่งรู้ลู่ทางห้องพักของเธอเป็นอย่างดี ได้ปีนไปทางด้านข้างของห้องพักและงัดหน้าต่างด้านข้างออกเพื่อเข้าไปในห้องพักของเธอ พอเข้าไปได้ เขาได้กลิ่นแก๊สรุนแรงโชยไปทั่วห้อง สังเกตเห็นขวดเหล้า (บรั่นดี) ที่เปิดดื่มแล้วครึ่งขวดกับแก้วบรั่นดีตกอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น และบริเวณห่างกันไม่มากนักพบร่างของเธอสวมชุดนอนสีชมพูนอนโคม่าหมดสติอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่นใกล้กับประตูห้อง เมื่อเขาเห็นดังนั้นสิ่งแรกที่ทำได้คือ โทรหาตำรวจ แล้วจึง นำร่างของเธอที่ไม่ได้สตินำส่งโรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" ซึ่งอยู่แถวเกาลูนใกล้บริเวณที่พักอย่างเร่งด่วน แต่ทุกอย่างช้าไปเธอได้สิ้นใจระหว่างทางนำส่งโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น.

8.50 น. ถึงโรงพยาบาล แพทย์พยายามช่วยเหลือชีวิตของเธอแต่ไม่สำเร็จ

9.00 น. ทางโรงพยาบาล แจ้งว่า ไม่สามารถช่วยชีวิตของ อง เหม่ยหลิง เอาไว้ได้ เพราะ เธอได้เสียชีวิตไปก่อนที่จะเดินทางมาถึงโรงพยาบาล สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เธอไม่ได้เสียชีวิตเพราะยานอนหลับโดยตรง แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เธอต้องเสียชีวิตนั้น เกิดจากพิษแก๊สที่เธอนอนสูดดมเข้าไปในร่างกายจนเกินขนาด แต่จะมีการผ่าชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในวันถัดไป ร่างของเธอได้ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าขาวและส่งไปที่ห้องดับจิตทันที

ประมาณ 09.00 น. เศษ ในขณะที่ทัง เจิ้นเยี่ยยังนอนอยู่เขาได้ยินเสียงข้อความที่ทางบริษัท ทีวีบี ส่งเข้ามาทางเพจเจอร์ อย่างมากมาย จึงลุกขึ้นมาเปิดอ่านดู เมื่อทราบข่าวร้าย เขาจึงรีบรุดไปยัง โรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" โดยทันที

10.00 น. ข่าวการเสียชีวิตของเธอถูกรายงานออกไป สร้างความตกใจให้แก่ผู้คนทั่วทั้งเกาะฮ่องกงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับบรรดาแฟนคลับของเธอที่มีอยู่กันอย่างมากมาย หลายคนเมื่อรู้ข่าวร้ายถึงกับซึมเศร้า และมีบางคนถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นที่ต้องสงสัยของตำรวจเป็นอย่างมากและหน่วยงานรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ถึงขนาดสั่งให้ทางโรงพยาบาลห่อหุ้มศพของเธอด้วยฟอยล์ถึง 5 ชั้นคลุมร่างกายและปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งอีกที เพื่อป้องกันการถูกเปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต และรอการชันสูตรศพต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง [69] [70]

ประมาณ10.00 น. เศษ เมื่อ ทังเจิ้นเยี่ยไปถึงที่โรงพยาบาล "แบ๊บติส (Baptist)" มีทั้งนักข่าวและตำรวจได้มาถึงก่อนแล้ว ทัง เจิ้นเยี่ยปฏิเสธที่จะตอบคำถามนักข่าวทุกกรณี และเขาได้เข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อขออนุญาตดูศพผู้ตาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกลับปฏิเสธ เพราะถือว่าเขาเป็นแค่คนรู้จักไม่ใช่ญาติที่แท้จริง ต่อมาเขาจึงนั่งรถของตำรวจกลับไปยังห้องพักที่เกิดเหตุ

เวลา 11.15 น. ทัง เจิ้นเยี่ยนั่งซึมเหม่อลอยในที่เกิดเหตุ โดยมีเพื่อนคอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ

14.00 น. มีการรายงานข่าวว่า ตำรวจสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดว่า องเหม่ยหลิงฆ่าตัวตาย สาเหตุมาจาก รักเป็นพิษ ตามรายงาน จากคำให้การของ โจวซื่อหลุง เกี่ยวกับเหตุการณ์ 24 ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตของเธอ และจากหลักฐานการพบข้อความที่เธอได้เขียนทิ้งไว้บนหน้าปฏิทินในห้องนั่งเล่นว่า "ที่รัก ฉันรักคุณ" Darling I Love You ทำให้ ทัง เจิ้ยเยี่ย ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสาเหตุในการฆ่าตัวตายของเธอโดยทันที[71][72]

วันถัดมา 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ข่าวการเสียชีวิตของเธอ ถูกรายงานข่าวออกไปทั่วทวีปเอเชีย ทั้งในจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับบรรดาแฟนคลับของเธอที่มีอยู่ในประเทศเหล่านี้เป็นอย่างมาก

ข่าวลือเกี่ยวกับการเสียชีวิต[แก้]

หลังจากการเสียชีวิตของเธอได้ไม่นาน ก็ได้เกิดกระแส ข่าวลือ ต่าง ๆ ออกมาพูดถึงกันอย่างมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ ประเด็นหลักคือ อง เหม่ยหลิง เองไม่ได้เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้แต่อย่างใด จึงทำให้การเสียชีวิตของเธอเป็นที่สงสัยของผู้คนจำนวนมาก และได้กลายเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เธอเสียชีวิตเพราะสาเหตุใดกันแน่ เพราะเธอเป็นดาราสาวที่มีอนาคตที่สดใสมาก และชื่อเสียงก็อยู่ในช่วงที่โด่งดังสุดขีด อีกทั้ง เธอเองก็มีนิสัยที่ร่าเริง สนุกสนานและมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก เลยทำให้มีแฟนละครของเธอจำนวนหนึ่งไม่เชือว่าเธอจะฆ่าตัวตายเพียงแค่ปัญหาความรักเพียงเรื่องเดียว และมีหลายต่อหลายคนคิดว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ จึงกลายเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ และคาใจแฟนละครจำนวนมากของเธอมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งนักวิเคราะห์ ผู้คนและสื่อ ที่ต่างให้ความเห็นในการเสียชีวิตที่แตกต่างกันออกไป.[73] [74]

  • บางคนสันนิษฐานว่ามันเป็น อุบัติเหตุจากแก๊สรั่วที่เธอลืมปิดเพราะคืนนั้นเธอกินเหล้าจนเมาและหลับไปเป็นเหตุให้ค่อย ๆ นอนสูดดมแก๊สเข้าไปในร่างกายจนเกินขนาดมากกว่าการที่เธอจะตั้งใจฆ่าตัวตาย
  • บางคนสันนิษฐานว่าการฆ่าตัวตายของเธอ เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตัวตายไปจริง ๆ
  • มีข่าวลงนิตยสารเล่มหนึ่ง ว่า มีแฟนคลับของ องเหม่ยหลิง คนหนึ่ง สามารถติดต่อสื่อสารกับดวงวิญญาณของเธอได้ และได้เล่าถึงรายละเอียดในคืนที่เกิดเหตุว่า จริงๆ เดิมทีตอนที่ อง เหม่ยหลิง คิดจะฆ่าตัวตายนั้น เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เสียชีวิตลงไปจริง ๆ เพียงแต่คืนนั้นเธอต้องการที่จะทำให้ ทัง เจิ้นเยี่ย ตกใจจะได้รีบมาหาเธอ และปรับความเข้าใจกัน แต่เพราะความประมาทของเธอในครั้งนี้ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เลยทำให้เธอต้องเสียชีวิตไปจริง ๆ
  • บางคนสันนิษฐานว่าเธอฆ่าตัวตาย เพราะสื่อ เพราะระยะหลัง ๆ นี้ เธอโดนมรสุมข่าวลืออย่างมากมาย สาเหตุเพราะ สื่อมักจะชอบเขียนข่าวลือด้านลบในเรื่องความรักของเธอมากกว่าเรื่องงานละคร ที่เธอทุ่มเท จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัด และไม่พอใจ กับข่าวลือที่สื่อเขียนออกมา และเพราะสื่อนี้เองที่ทำให้ความรักของเธอมีปัญหาจนมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเวลามีข่าวที่ทำให้เธอไม่สบายใจ เธอก็ไม่สามารถระบายความทุกข์ ให้กับใครได้เลย เพราะเธอไม่มีญาติ หรือเพื่อนสนิทมากพอที่จะระบายความทุกข์ได้
  • ข่าวลือที่พูดกัน อย่างมากอีกข่าวคือ เธอเป็นลูกสาวลับ ๆ ของอดีตดาราสาวชื่อดังยุค ชอว์บราเดอร์ ที่ชื่อว่า หลิน ฟ่ง (林鳳 Patrica Lam Fung) ส่วนแม่ที่เลี้ยงดูเธอมานั้นไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเธอ จึงทำให้เธอเติบโตมาขึ้นมาในชีวิตวัยเด็กที่ขาดความรักความอบอุ่น และทำให้เธอแสวงหาความรักเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มที่เธอรักสุดหัวใจได้ปันใจให้คนอื่นและกำลังจะทิ้งเธอไป เธอเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย[75]
  • ข่าวลืออีกข่าวคือ เธอโดนฆาตกรรมจากใครบางคน เพราะมีข่าวลือว่า มีนักแสดงสาวรุ่นเดียวกันกับเธอบางคนที่ไม่ชอบเธอเพราะอิจฉาในความโด่งดังของเธอ เลยหาวิธีกำจัดเธอให้ออกไปจากเส้นทางในวงการบันเทิง
  • มีข่าวลือออกมาว่าเธออาจถูกฆาตกรรมจากคนที่เป็นหนี้เธอ หรือตัวเธอเองอาจจะฆ่าตัวตายเพราะปัญหาเรื่องเงิน เพราะตอนที่เธอเสียชีวิต แม่ของเธอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอเหลือเงินในบัญชีแค่ 150 เหรียญ (689บาท) เท่านั้นเอง สาเหตุมาจาก อง เหม่ยหลิงเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไป เวลาที่คนในวงการบันเทิงที่เธอรู้จักเดือดร้อน เธอมักจะนำเงินที่มีอยู่ไปช่วยเหลือเพื่อน ๆ และคนรู้จักทั้งในและนอกวงการเสมอ.[76]
  • บางคนก็สันนิษฐานว่าเธอถูกฆาตกรรมจากพวกมาเฟีย ที่ขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจจอแก้วในวงการบันเทิง สาเหตุเพราะในสื่อของฮ่องกงต่างมีนายทุนที่เป็นพวกมาเฟียอยู่เบื้องหลัง[77]
  • ข่าวลือที่สร้างความตกใจให้แก๋ผุ้คนอีกข่าว คือ เธอถูกข่มขืน โดยผู้ชาย 3 คน ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ว่ากันว่า เจ้าแม่รายการทีวี เสิ่น เตี้ยนเสีย เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง (อ้างอิงจาก) [78][79] [80]
  • ข่าวลือบางข่าวออกมาว่า เธอฆ่าตัวตายเพราะความเครียดและความกดดัน ในเรื่องงานแสดง สาเหตุมาจากในระยะหลัง เธอมักโดนวิจารณ์ว่าบทที่เธอได้รับในระยะหลัง ๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจจากคนดูเท่าที่ควร และความดังของเธอก็เริ่มถูกดาราสาว จาง ม่านอวี้ ขึ้นมาได้รับความนิยมเทียบเคียงกับเธอจนมีข่าวซุบซิบออกมาว่าชื่อเสียงและความนิยมในตัว อง เหม่ยหลิงเริ่มขาลง แต่แฟนละครของเธอส่วนใหญ่ไม่เชื่อข่าวลือนี้ ว่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอคิดฆ่าตัวตายได้ เพราะในช่วงเวลานั้น ทั้งชื่อเสียงและงานแสดงของเธอ ก็ยังได้รับความนิยมจากคนดูอยู่
  • ข่าวลือว่า เธอถูกอาถรรพ์บั่นทอนอายุในละครเรื่อง สามก๊ก ตอน แบ่งแยกแผ่นดิน(ศึกสองแผ่นดิน) ที่เธอได้มีโอกาสได้เล่นรับเชิญเป็นตัวละคร อิงประวัติศาตร์ ที่มีอยู่จริงตามตำนานและต้องเสียชีวิตในเรื่อง ซึ่งระหว่างการถ่ายทำมีคุณป้าท่านหนึ่งที่ร่วมแสดงด้วยในละครเรื่องนี้ ได้นำผ้าสีแดงมอบให้แก่เธอเพื่อให้เธอได้พกติดตัวตลอดการถ่ายทำซึ่งทางธรรมเนียมจีนถือว่าเป็นการแก้เคล็ดเพื่อไม่ให้นักแสดงถูกอาถรรพ์จากละครเรื่องนี้ แต่เธอไม่เชื่อเพราะเธอเป็น คริสเตียน เลยไม่รับผ้าแดงนั้น ต่อมาไม่นานก็มีข่าวร้ายว่าเธอได้เสียชีวิตลง
  • หนึ่งในข่าวลือส่วนใหญ่ที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ก็คือ การฆ่าตัวตายของเธอเป็นผลมาจาก โรคซึมเศร้า ที่เธอเป็นโดยไม่รู้ตัวมากกว่าการผิดหวังในเรื่องของความรัก.

บทสัมภาษณ์ที่สวนทางกับการฆ่าตัวตาย[แก้]

  • เธอเคยให้สัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุฮ่องกง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2528 เมื่อมีการถามถึงข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับทัง เจิ้นเย่ อง เหม่ยหลิง ได้อธิบายว่า[81]

    ...เขาเป็นเพียงเพื่อนที่รู้ใจเท่านั้นและฉันก็เคารพหน้าที่การงานของเขา

  • จากการให้สัมภาษณ์ของเพื่อนนักแสดงที่ร่วมงานกับเธอ เล่าว่า [82] ก่อนวันที่เหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้น

    อง เหม่ยหลิง... เธอดูร่าเริงและดูเป็นปกติดีเหมือนทุกครั้ง และไม่มีวี่แววว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตายเลย

  • อง เหม่ยหลิง ยังให้สัมภาษณ์ทางวิทยุเกี่ยวกับอนาคตของเธอ ประมาณสองสัปดาห์ก่อนการเสียชีวิตของเธอว่า[83]

    ดิฉันมีความสุขดีในช่วงเวลานี้ค่ะ...เพราะในอนาคตดิฉันกำลังจะมี โปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ ที่ทางบริษัท (TVB) จะมอบหมายให้ดิฉันทำ

  • ประมาณ 1 เดือน ก่อนเธอจะเสียชีวิต เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มหนึ่ง เมื่อเธอถูกนักข่าวถามว่า คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับดารารุ่นพี่ที่เคยฆ่าตัวตายเพราะความรัก เธอตอบเพียงสั้น ๆ ว่า[84]

    การฆ่าตัวตายเพียงเพราะปัญหาความรักเป็นเรื่องที่โง่และน่าเสียดายมันไม่คุ้มค่ากับการแลกชีวิตกับคนที่หมดรักเราแล้วและตัวดิฉันเองก็ไม่คิดที่จะทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอนเพราะเสียเวลาเปล่า ๆ อีกอย่างดิฉันกลัวตายค่ะ

พิธีศพ[แก้]

พิธีศพของ อง เหม่ยหลิง ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เทียบเท่าพิธีศพของอดีตราชินีจอเงินชื่อดัง ยุค ชอร์บราเดอร์ หลินไต้ มีประชาชนในฮ่องกงกว่า 100,000 คน(อ้างอิงจาก [85][86]) ไปร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเธอมากเป็นประวัติศาสตร์ รวมถึงดาราดังอย่าง 5 พยัคฆ์ทีวีบี เช่น หวงเย่อหัว, เหมียวเฉียวเหว่ย, เหลียงเฉาเหว่ย, หลิวเต๋อหัว และ ทังเจิ้นเยี่ย พวกเขาได้แบกโลงศพของเธอเพื่อนำไปฌาปนกิจ และยังมีดาราดังคนอื่น ๆ อีกมากมายมาร่วมงานศพของเธอ อาทิเช่น จาง ม่านอวี้, หลิว เจียหลิง, เฉินหลง, อลัน ทัม, เหมย เยี่ยนฟาง, เจ้าหย่าจือ, เจิ้ง อวี้หลิง, หวงเจ้าสือ, เยิ่น ต๊ะหัว, ชิเหม่ยเจิน เป็นต้น อีกทั้งยังมีดาราสาวดาวรุ่งที่เพิ่งเริ่มจะมีชื่อเสียง เช่น เจิ้ง หัวเชียน และ กง ฉือเอิน ฯลฯ ต่างมาร่วมอาลัยต่อการจากไปในพิธีศพของเธออีกด้วย ร่างของเธอฝังไว้ที่ เมืองเคมบริดจ์ ณ. สุสาน New Market Cemetry ลอนดอน ในประเทศอังกฤษ. [87](YouTube, Fan Video, 2007).

การยกย่อง[แก้]

"มังกรหยก ภาค1 (1983)" เวอร์ชันงานสร้างในปีพ.ศ. 2526 ได้ถูกสื่อจากทั่วเอเชียยกให้เป็นผลงานระดับสุดคลาสสิก และยังคงเป็นเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดทั่วทั่งเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเรตติ้งสูงถึง 99% จากยอดคนดูทั้งหมดในฮ่องกง และมีเรตติ้งโดยเฉลี่ยสูงมากเช่นกัน คือ 65 จุดเปิด และเมื่อนำไปออกฉายในจีนแผ่นดินใหญ่ทำเรตติ้งได้สูงถึง 90% กลายเป็นสิบอันดับแรกของละครที่มีเรตติ้งสูงสุดในจีนเป็นประวัติการณ์ ทุกวันนี้ยังคงเป็นหนึ่งในสิบละครที่มีการรีรันมากที่สุดในจีน อีกด้วย[88][89][90][91][92][93][94]

อีกทั้งเรตติ้งทั่วเอเชียสูงมากทำให้กลายเป็นหนึ่งในสิบละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในโลก (該劇是TVB全球收視率最高的十部劇集之一) โดยมียอดดูสดผ่านทางทีวี(ครั้งแรก)มากถึง 356 ล้านคน[95][96]

ต้นยุค 2000 สื่อทั้งในมาเลเซียและสิงคโปร์ได้คัดเลือกละครทีวีจีนคลาสสิก 100 เรื่องในศตวรรษที่ 20 และละครมังกรหยกชุดนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก[97][98]

ซึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของละครชุด มังกรหยก ภาค 1 (1983) นั้นมีละครไม่กี่เรื่องที่พอจะเทียบเคียงได้ เช่น ซีรีส์ละครอันโด่งดังเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2523 และละครสากลสุดฮิตเรื่อง คู่แค้นสายโลหิต ที่สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2532, มังกรหยกเวอร์ชันนี้กลายเป็นหนึ่งในสิบละครทีวีบีที่มีเรทติ้งยอดผู้ชมสูงสุดทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วโลกตลอดกาล มาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีมังกรหยกเวอร์ชันไหนเลยที่มียอดเรตติ้งสูงเท่ากับเวอร์ชันนี้ โดยเฉพาะการแสดงบทอึ้งย้ง ที่นำแสดงโดย องเหม่ยหลิง นั้น ได้ถูกยกย่องชื่นชมจากรุ่นสู่รุ่น นานหลายทศวรรษเป็นอย่างมาก และเป็นเวอร์ชันที่มีแฟนๆ ยังคงประทับใจกับบทบาทอึ้งย้งของเธออยู่มากมายจนถึงปัจจุบัน ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่,ฮ่องกง และไต้หวัน จน องเหม่ยหลิง ได้รับคำยกย่องจากบรรดาสื่อและผู้คนมากมายว่า เป็นอึ้งย้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่มีการสร้าง มังกรหยกกภาค 1 มาและปัจจุบันนี้ก็ยังคงไม่มีดาราสาวคนไหนที่สวมบทบาทเป็นอึ้งย้งแล้วประสบความสำเร็จเท่าเธอ

1.กิมย้ง ผู้ประพันธ์เรื่อง มังกรหยก เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในช่วงปีพ.ศ. 2526 (1983) หลังอวสานของละครเรื่อง มังกรหยก ชุดนี้ว่า ตัวเขาก็ชื่นชอบ องเหม่ยหลิง และยอมรับว่า เธอเป็นอึ้งย้งที่ประสบความสำเร็จมาก จนเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมจำนวนมากได้ ด้วยการแสดงที่แปลกแตกต่างจาก หมีเซียะ ด้วยบุคลิกของ องเหม่ยหลิง เองที่ดูสดใสน่ารัก ซุกซนและมีแววตาที่แสดงถึงความฉลาดเป็นอย่างมาก จึงเป็นที่ประทับใจของคนดู[99]

2.เซียวเซิง ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างละครโทรทัศน์ดัง ๆ หลายเรื่อง เช่น มังกรหยก ภาค2 เวอร์ชัน หลิวเต๋อหัว-เฉินอวี้เหลียน และ มังกรหยก ภาค1 เวอร์ชัน ไป่เปียว-หมีเซียะ ได้กล่าวชื่นชม องเหม่ยหลิง ว่า องเหม่ยหลิง คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาผู้เข้าร่วมสมัครรับบทอึ้งย้ง 3,000 คน เพราะมีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทาบรัศมี หมีเซียะ และในสายตาของเขาและผู้คนส่วนใหญ่เห็นพ้องตรงกันว่า องเหม่ยหลิง สวมบทบาท อึ้งย้ง ดีกว่าหมีเซียะ

3.หมีเซียะ กล่าวชม องเหม่ยหลิงว่า เธอได้มีโอกาสดูมังกรหยกที่องเหม่ยหลิง แสดง บอกได้เลยว่า องเหม่ยหลิง สามารถถ่ายทอดความเป็น อึ้งย้ง ออกมาได้อย่างฉลาดหลักแหลม มาก เธอเล่นเป็นอึ้งย้ง ที่ฉลาด สุด ๆ (อ้างอิงจาก) [100]

4.เจิงเจียง ผู้รับบท อึ้งเอี๊ยะซือ กล่าวว่า แม้เวลาจะผ่านไปปีแล้วปีเล่า พวกเราก็มี อึ้งย้ง จากหลายคน หลายเวอร์ชัน แต่เขาอยากจะบอกว่า อง เหม่ยหลิง เธอคือ อึ้งย้ง ตัวจริง อ้างอิงจาก [101]

5. ฉินหวง ผู้รับบท เฒ่าทารก จิวแป๊ะทง ในภาคก๊วยเจ๋งถึงสองครั้งคือมังกรหยก 1976 และ มังกรหยก 1983 เขากล่าวกับสื่อเมื่อปีพ.ศ. 2563 (2020) ว่า ตัวเขาร่วมงานกับนักแสดงนำหญิง มามากมาย แต่ องเหม่ยหลิง คือ นักแสดงหญิงที่เขาอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด เธอสวยมากและมีนิสัยดี[102]

6. หลิวตัน ดาราอาวุโสผู้รับเป็นกับบท อั้งฉิกกง ของภาคก๊วยเจ๋งถึงสองครั้ง ใน มังหยกภาค1 (1983) และ มังกรหยก ภาค1 (1994) เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายต่อหลายครั้งว่า นักแสดงหญิงที่เขาร่วมงานด้วยแล้วประทับใจที่สุดในชีวิต คือ องเหม่ยหลิง

7.เจ้าเหว่ย แห่ง องค์หญิงกำมะลอ กล่าวว่าการแสดงของเธอในละคร เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ นั้นได้รับอิทธิพล มาจาก ความน่ารักซุกซน ในบท อึ้งย้ง ที่แสดงด้วย อง เหม่ยหลิง ซึ่งในวัยเด็กเธอได้มีโอกาสชมละครเรื่องมังกรหยกชุดนี้ และเธอก็ชื่นชอบ อง เหม่ยหลิง เป็นอย่างมาก และ อง เหม่ยหลิง ก็เป็นหนึ่งในไอดอล ของเธอ

มรดก(สิ่งสืบเนื่อง)[แก้]

องเหม่ยหลิง ทิ้งตำนานคลาสสิก กับตัวละคร อึ้งย้ง ใน มังกรหยกภาค 1 (1983) เอาไว้เป็นตำนาน จนยากที่นักแสดงคนอื่นในบทเดียวกันจะลบความสำเร็จของเธอ จนมีแฟนคลับ(บางคน)ของ อึ้งยัง คนอื่น ที่ไม่ชอบเธออย่างมาก จะคอยตามต่อว่าเธอตามที่ต่าง ๆ ทั้งใน Youtube และสื่ออื่น ๆ ที่มีคลิปเกี่ยวกับตัวเธอหรือละครของเธอ หรือแม้แต่ในบางบทความ,บางโพส ก็จะมีคนเหล่านี้ตามต่อว่าเธอด้วยคอมเมนต์ที่รุนแรง ซึ่งเป็นการไม่ให้เกียรติผู้วายชนม์ แต่อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความสำเร็จที่แท้จริงของเธอ

นอกจากบทบาท "อึ้งย้งสุดคลาสสิค" (คลาสสิคเหนือคลาสสิค) ที่กลายเป็นตำนานมาแล้วนานถึง 40 ปี น้อยคนจะรู้ว่า ภายหลังจากที่ "องเหม่ยหลิง" เสียชีวิต ช่างแต่งหน้าประจำตัวเธอ คือ "เจิ้งหมิงหมิง" ซึ่งเป็นช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงมากในเกาะฮ่องกง ได้ร่วมกับคุณ "เฉียวหง" ก่อตั้ง "สมาคมศิลปินคริสเตียนฮ่องกง" (Hong Kong Artistes Christian Fellowship) ขึ้นมาในปีที่ องเหม่ยหลิง เสียชีวิตทันทีเพื่อเป็นการอุทิศให้เธอ โดยมีจุดประสงค์เพื่อหนุนใจเหล่านักแสดงคริสเตียนที่เป็นสมาชิกและป้องกันไม่ให้ศิลปินในสมาคม ฆ่าตัวตาย ขึ้นมาอีก

สมาคมนี้มีเหล่าดาราที่มีชื่อเสียงหลายคนพร้อมใจกันเข้าร่วม เช่น หลีเหม่ยเสียน, เหลียงเสี่ยวปิง, หลอฮุ่ยเจียน(เสียชีวิตแล้ว), หลิวเหม่ยเจียน, เติ้งชุ่ยเหวิน, ไช่เส้าเฟิน, เฉินซิ่วเหวิน, เว่ยชิวหัว, เฉินสงหลิง, หลีซือฉี, หันหม่าลี่, หลิวเหวินหลง , เวินเจ้าหลุน เป็นต้น อีกทั้งยังมีสาขาใน ไต้หวัน และ อเมริกา อีกด้วย

ล่าสุดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองงานครบรอบ 55 ปีของทีวึบี (TVB) ที่ได้จัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 (2022) ก่อนหน้านั้นทางทีวีบี ได้ทำการเปิดตัวกิจกรรมให้ผู้ชมโหวตละครดังในอดีตในหัวข้อ "ละครที่ฉันเลือก,ละครที่ฉันอยากดู" ("I Choose, I Want to Watch") และ "ละครที่น่าจดจำมากที่สุด' (Unforgettable...)

ผลชนะในหัวข้อละครที่ไม่ถูกลืมและอยู่ในความทรงจำของผู้ชมชาวฮ่องกงมากที่สุด คือ ละครเรื่อง "เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ (The Fearless Duo 1984)" ที่เธอแสดงคู่กับเหมียวเฉียวเหว่ย ได้ชนะผลโหวตเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนนโหวต 29.8% จากคะแนนโหวตทั้งหมดของผู้ชม ทำให้ละครเรื่องนี้จะมีการรีรันซ้ำครั้งที่ 10 [103]และกลายเป็นละครที่มีการรีรันซ้ำบ่อยที่สุดในฮ่องกง แสดงให้เห็นว่า องเหม่ยหลิง ยังคงเป็นดารายอดนิยมในใจผู้ชมชาวฮ่องกง ตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน

ในอดีตละครเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ ฮิตถล่มทลายอย่างมากในฮ่องกงนอกจากจะเป็นละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดแห่งปีแล้วยังกลายเป็นละครเรื่องที่ 2 ขององเหม่ยหลิงที่รับบทนางเอก ที่สามารถทำเรตติ้งเฉลี่ยเกิน 60 จุดเปิดต่อจาก มังกรหยก ภาค1 (1983) ที่เธอรับบท อึ้งย้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโด่งดังของ องเหม่ยหลิง ในช่วงเวลานั้น

ก่อนหน้านี้ ละครเรื่อง เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์ มีการออกอากาศและรีรันซ้ำรวม 10 ครั้ง (ครั้งแรก+รีรัน9ครั้ง ยังไม่รวมรีรันครั้งล่าสุด) ทำให้มีผู้คนหลายรุ่นในฮ่องกงได้มีโอกาสดูและการแสดงเรื่องนี้ของ องเหม๋ยหลิง ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมหลายรุ่นหลายช่วงอายุ, ชาวเน็ตในฮ่องกงต่างชี้ว่าฉากที่ องเหม่ยหลิงแต่งตัวเป็นตุ๊กตากระดาษและใช้แหขนาดใหญ่ไล่จับ(ผีเสื้อ)วิญญาณของพระเอก (เหมียวเฉียวเหว่ย) ที่สิงอยู่กับผีเสื้อ เรียกกลับคืนร่าง เป็นฉากละครที่คลาสสิกที่สุด และชาวเน็ตส่วนหนึ่งยกย่องว่า: "แม้ว่าละครเรื่องนี้จะมีการรีรันซ้ำกลับมาดูหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังอยากดู เพราะมันคือละครขั้นเทพท่ามกลางละครขั้นเทพทั้งหลาย! [104]

โดยทั่วไปละครเรื่องอื่น ๆ ที่มีการรีรันซ้ำบ่อย คนดูจะเบื่อ แต่กับละครเรื่องนี้ผู้ชมชาวฮ่องกงกลับยังคงอยากดูในทุกรอบที่มีการนำกลับมาออกอากาศอยู่เสมอ

ต้นปีพ.ศ. 2566 (2023) ทางรายการวาไรตี้รำลึกละครดังในอดีต ที่ทางทีวีบีร่วมกับจีน ได้เชิญ หลี่อีถง เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้แสดงเป็น อึ้งยัง เวอร์ชัน องเหม่ยหลิง ในฉากสุดคลาสสิคของ มังกรหยก 1983 เพื่อเป็นการระลึกถึงอึ้งย้งคลาสสิคและเป็นการให้เกียรติ องเหม่ยหลิง [105]

ผลงาน[แก้]

ผลงานละคร[แก้]

พ.ศ. ชื่อละครภาษาจีน ชื่อละครภาษาไทย
2525 十三妹 สมิงสาวใจเพชร
2526 射鵰英雄傳 มังกรหยก ภาค1

Part 1: ตอน กำเนิด ก๊วยเจ๋ง-เอี้ยคัง (鐵血丹心)
Part 2: ตอน อาวเอี๊ยงฮง และ อั้งฉิกกง (東邪西毒)
Part 3: ตอน ประลองยุทธบนเขาหัวซาน (華山論劍)

夹心人 เฉือนรักเฉือนคม
2527 決戰玄武門 ยุทธจักรชิงจ้าวบัลลังค์
天師執位 เทพอาจารย์จอมอิทธิฤทธิ์
生銹橋王 เฉือนคมเจ้าพ่อ
楚留香之蝙蝠傳奇 ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว
2528 挑戰 เทพบุตรทรนง
楚河漢界 สามก๊ก ตอน แบ่งแยกแผ่นดิน

(ศึกสองแผ่นดิน)

橋王之王 เซียนโค่นเซียน

ผลงานภาพยนตร์[แก้]

ปี พ.ศ. ชื่อภาพยนตร์ บทที่ได้รับ
2526 ลูกบ้าดีเดือด 《瘋狂83》 Mad mad 83 [106][107][108] FBI (探員) สายลับ FBI

รายการปกิณกะ (ทีวีบี)[แก้]

ปี พ.ศ. ชื่อรายการ หน้าที่
2525 婦女新姿》 รายการผู้หญิงวันนี้ [109][110] ผู้ดำเนินรายการ (พิธีกร)
2526-2528 歡樂今宵》 รายการค่ำคืนวาไรตี้ [111][112][113] ผู้ร่วมรายการ (แขกรับเชิญ)

คอนเสิร์ต[แก้]

  • 1985 翁美玲星馬個人演唱會[114]

อัลบั้ม[แก้]

ชื่ออัลบั้ม บริษัท จำหน่าย ภาษา ออกจำหน่าย ชื่อเพลง
翁美玲個人演唱會專輯

(อัลบั้มบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตของ อง เหม่ยหลิง)

Kolin กวางตุ้ง กลางปี พ.ศ. 2528

第一面 หน้าแรก

  1. 蝙蝠傳奇
  2. 夢裡幾番哀
  3. 誰可改變
  4. 鐵血丹心
  5. 夢想黃包車

第二面 หน้าสอง

  1. 順流逆流
  2. 情比雨絲
  3. 在雨中
  4. 愛情陷阱
  5. 收場

รางวัลและการจัดอันดับ[แก้]

อง เหม่ยหลิง ได้รับ การจัดอันดับจากบรรดาเว็บไซต์และนิตยสารเอเชียต่าง ๆ มากมายทั่วเอเชีย โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ของประเทศจีน ต่างจัดทำรายการรำลึกถึงเธอขึ้นอย่างยิ่งใหญ่[115]

  • รองอันดับ 1 นางงามไชน่าทาวน์ ปี พ.ศ. 2523 ประเทศ อังกฤษ[116][117]
  • นางงามฮ่องกง ปี พ.ศ. 2525 อันดับที่ 8 [118]
  • องเหม่ยหลิง ได้รับการโหวต ให้เป็นนักแสดงหญิงยอดนิยมสองปีในฮ่องกง คือ พ.ศ. 2526 (1983) และ พ.ศ. 2527 (1984)
  • องเหม่ยหลิง ได้รับการโหวต ให้เป็นนักแสดงหญิงยอดนิยมสองปีในไต้หวัน คือ พ.ศ. 2526 (1983) และ พ.ศ. 2528 (1985)
  • อันดับ 1 จาก 10 นักแสดงหญิงที่แสดงดีที่สุดในจอแก้วของฮ่องกง โดย เว๊ปไซด์ Chinese whispers[119]
  • อันดับ 1 จาก 10 สุดยอดบทบาทละครนวนิยายกำลังภายใน โดย เว๊ปไซด์ Chinese whispers[120]
  • อันดับ 1 จากบทอึ้งย้ง (ชนะ) ในการออกเสียงลงคะแนนทางออนไลน์ ผ่านทาง เว๊ปไซด์ Sina.com ในปี พ.ศ. 2548 [121]
  • อันดับ 1 จาก 10 สุดยอดละครชุด ยุค 80s โดย เว๊ปไซด์ spcnet.tv [122]
  • อันดับ 2 จาก 10 อันดับหนังจีนที่อยู่ในใจแฟน ช่อง 3 [123]
  • อันดับ 5 จาก 100 อันดับละครซีรีส์ยอดนิยมสูงสุดในประเทศ มาเลเซีย จากการสวมบทบาท อึ้งย้ง ในละครชุด มังกรหยก
  • อันดับ 6 จาก 100 อันดับละครซีรีส์ยอดนิยมสูงสุดในประเทศ สิงค์โปร์ จากการสวมบทบาท อึ้งย้ง ในละครชุด มังกรหยก
  • อันดับ 8 จาก สุดยอด 100 ดาราจอแก้วของฮ่องกงตลอดกาล (วัดจากเรตติ้งความนิยม) โดย TVB Guide Magazine[124] 10 อันดับ แรก ดาราจอแก้วยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล ประกอบด้วย

1. โจว เหวินฟะ

2. หวัง หมิงฉวน

3. เจิ้ง เส้าชิว

4. หวง เย่อหัว

5. เจิ้ง อวี้หลิง

6. หลิว สงเหยิน

7. เหลียง เฉาเหว่ย

8. อง เหม่ยหลิง

9. หมี เซียะ

10.เวิน เจ้าหลุน

อ้างอิง[แก้]

  1. 电影聚焦. "10ดาราจอแก้วยุค 80 ที่สวยที่สุดของทีวีบี จัดอันดับโดย TVB". โดย qq. สืบค้นเมื่อ December 12, 2021.
  2. 澎湃新闻 (2022-02-18). "ติด 10 อันดับเล่นซ้ำบ่อยที่สุดในจีน". news.ifuun.com. สืบค้นเมื่อ 2021-11-27.
  3. 發表于娛樂 (2016-09-06). "สิงคโปร์ ยกย่อง องเหม่ยหลิง". news.kk.com. สืบค้นเมื่อ 2022-02-19.
  4. 电影聚焦 (November 13, 2017). "อึ้งย้งที่ดังที่สุด". โดย sohu. สืบค้นเมื่อ July 5, 2018.
  5. "今日早报"Today Morning (May 27, 2011). "องเหม่ยหลิง คือ อึ้งย้งเล่นดีที่สุด". chinanews. สืบค้นเมื่อ July 5, 2018.
  6. 收起义. ""เปรียบเทียบอึ้งย้งองเหม่ยหลิง กับโจวซวิ่น"". โดย Baike. สืบค้นเมื่อ July 19, 2018.
  7. "华商报" (June 18, 2016). ""เปรียบเทียบอึ้งย้งองเหม่ยหลิง กับหลี่อี้ถง"". people.com.cn. สืบค้นเมื่อ July 19, 2018.
  8. "王志平" (March 4, 2017). ""อึ้งย้งในดวงใจ องเหม่ยหลิง"". โดย ซินล่าง คอร์ป. สืบค้นเมื่อ June 18, 2017.
  9. "一點資訊". ""เรื่องราวของเธอ"". สืบค้นเมื่อ August 5, 2018.
  10. "entertainment celebrities". ""100 อันดับดารานักแสดงที่โด่งดังที่สุดในจอ แก้วฮ่องกง"". 23yy. สืบค้นเมื่อ August 5, 2018.[ลิงก์เสีย]
  11. 娛樂名人 (November 17, 2007). ""100 นักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง". โดย "หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ หนังสือพิมพ์ "แอ็ปเปิ้ลเดลี่" "(Apple Daily) ในวงการบันเทิงฮ่องกง ไต้หวันและจีน. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-14. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
  12. 电影聚焦. "100 นักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง". โดย ทีวีบีโทรทัศน์ไต้หวัน. สืบค้นเมื่อ January 3, 2022.
  13. 《เรตติ้ง》จัดทำโดยทีวีบีฮ่องกง:
  14. "4 ยอดนางเอกรุ่นสอง". January 11, 2006. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.[ลิงก์เสีย]
  15. 温情八卦. "100,000 คนมาร่วมส่งขบวนศพของเธอ". kknews. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-24. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  16. 回到以前 (November 1, 2006). "อัตชีวประวัติของ "องเหม่ยหลิง"". โดย 360doc. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018. {{cite web}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |1= (help)
  17. "ละคร เล็กเซี่ยวหงส์ เปลี่ยนนางเอกจาก องเหม่ยหลิง เป็น เฉินซิวจู่". sina. October 29, 2016. สืบค้นเมื่อ December 18, 2019. {{cite web}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า : |1= (help)
  18. ""บทบาทที่ประทับใจคนจีนมากที่สุด"". โดย Sina. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  19. "เว๊ปผู้จัดการหมวด:ข่าวบันเทิง" (August 9, 2006). ""10 ยอดฝีมือบนเวทีการแสดงของโลกบันเทิงมังกร ที่หาผู้อื่นเทียบชั้นได้ยาก". โดย "สำนักข่าวซินหัวของ ทางการจีน". สืบค้นเมื่อ July 18, 2018.
  20. 娛樂名人 (November 17, 2007). ""100 นักแสดงที่สวมบทบาทเป็นตัวละครได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง". โดย "หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ หนังสือพิมพ์ "แอ็ปเปิ้ลเดลี่" "(Apple Daily) ในวงการบันเทิงฮ่องกง ไต้หวันและจีน. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-14. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
  21. ""Baidu เว็บไซด์ที่มีคนใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก"". โดย "Alexa". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-28. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  22. ""Baidu จัดอันดับ องเหม่ยหลิง อยู่ใน 500 อันดับแรก"". โดย "Baidu". สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  23. "報導" (January 31, 2018). "การเสียของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย Rob Radboud. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  24. "温情八卦". "ประวัติของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". Sohu. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  25. "ขุดคุ้ยข่าวบันเทิง" (August 19, 2014). "ประวัติดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". 8794. สืบค้นเมื่อ June 24, 2019.
  26. ""ข้อมูลจากหนังสือ อัตชีวประวัติ องเหม่ยหลิง (1959-1985)"". สืบค้นเมื่อ December 19, 2019.
  27. " 只看該作者" (May 15, 2018). "ประวัติ องเหม่ยหลิง". xocat2. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
  28. "搜狐母婴社区" (December 30, 2013). "ประวัติ องเหม่ยหลิงจากหนังสือ (บางส่วน)". โดย baobao. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
  29. "รักแรกของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย Rob Radboud . June 26, 2018. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  30. "ความรักครั้งที่สองของ อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย Rob Radboud . May 30, 2014. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  31. 词条人人可编辑. "ชีวิตและการศึกษาของ องเหม่ยหลิง". โดย Baidu. สืบค้นเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  32. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/725-1980-februari-18-sue-wants-a-title
  33. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/726-1980-februari-20-singapore-girl-wins-uk-price-english
  34. "ประวัติการศึกษา อดีตดาราสาว "องเหม่ยหลิง"". โดย "Rediff pages". สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  35. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/725-1980-februari-18-sue-wants-a-title
  36. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/726-1980-februari-20-singapore-girl-wins-uk-price-english
  37. "korat" (August 27, 2007). "องเหม่ยหลิง ดารา-นางงาม ผู้อาภัพ". โดย โอเคเนชั่น. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  38. "错误". "พิธีกรรายการ "ผู้หญิงวันนี้"". โดย โอเคเนชั่น. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-06. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  39. "康利川". ""永远的翁美玲(纪念)永远的爱"". โดย renren. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-09. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  40. "องเหม่ยหลิง ถ่ายโฆษณา "แฟซ่า"". โดย renren. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  41. "บทสัมภาษณ์บางส่วนของ องเหม่ยหลิง". สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  42. "vivian". "การคัดเลือก "อึ้งย้งในดวงใจ" (Weng Meiling is the ideal Huang Rong)". โดย barbarayung.net. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  43. "由 石头陈史 發表于娱乐原文網址" (20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562). "กิมย้งเลือก องเหม่ยหลิง เป็น อึ้งย้ง". โดย kknews. สืบค้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  44. "二มาเลย์เซียและสิงค์โปร์ เลือก มังกรหยกชุดนี้ เป็นสิบอันดับแรก ละครยอดนิยมในยุคศตวรรษ 20" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-04-30.
  45. "100 อันดับละครฺฮ่องกง(1970-2000)ในมาเลย์เซีย และ สิงคโปร์". 豆瓣(手机版). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
  46. "ประวิทย์". "25 ปี มังกรหยก 1983". โดย supavitt. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  47. "ภาพยนตร์เรื่อง "ลูกบ้าดีเดือด" 瘋狂83". โดย "hkmdb". สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  48. "Cai Qingwenyu" (31 ธันวาคม พ.ศ. 2561). "องเหม่ยหลิงร้องเพลงบนเวทีที่กรุงเทพประเทศไทย". โดย kknews. สืบค้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  49. "โฆษณาครีม "ครีมเฮสลีน สโนว์"". โดย barbarayung.net. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  50. "只看楼主" (May 4, 2018). "彼此共享] 在错的时间遇见对的人!翁美玲离世多年,再回首汤镇业热泪盈眶". โดย 1m3d. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.[ลิงก์เสีย]
  51. 少官. "หวงเย่อหัว เหมียวเฉาเหว่ย และทังเจิ้นเยี่ย ร่วมรำลึกถึงเธอ". โดย 情報周刊 NO.78 p61~62. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  52. 少官. ""องเหม่ยหลิง เปิดใจเรื่องภาพถ่ายเซ็กส์ซี่ของเธอ และหนังเรทอาร์ ของทังเจิ้นเยี่ย"". โดย 情報周刊 NO.78 p61~62. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  53. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/64-1985-newspaper/811-1985-may-13-barbara-s-last-interview
  54. 娛樂 (February 10, 2017). "บทวิเคราะห์องเหม่ยหลิง". kknews. สืบค้นเมื่อ December 16, 2018.
  55. "Sina blog" (June 2, 2016). "ชีเหม่ยเจิน พูดถึง องเหม่ยหลิง". wmxa. สืบค้นเมื่อ August 5, 2018.
  56. "娱乐名人". "รักสามเส้า ของเหมียวเฉียวเหว่ย, ชีเหม่ยเจิน และ องเหม่ยหลิง". 23yy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-05. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  57. http://www.barbarayung.nl/the-kammi-picture-collection/68-1984-kammi-collection/575-1984-march-sexy-pictures
  58. 黄晓睛 (February 1, 2009). "[八卦江湖]害死"俏黄蓉"翁美玲的狐狸精就是吴君如(转载)". โดย tianya. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  59. http://www.barbarayung.nl/internet/23-videos/237-2012-untold-secrets
  60. "鑫心娱乐" (October 24, 2019). ""เฉินซิ่วจูแสดงแทนองเหม่ยหลิงในละคร เล็กเซี่ยวหงส์"". สืบค้นเมื่อ December 15, 2019.
  61. "新浪娱乐" (May 13, 2005). "รำลึก20ปี "องเหม่ยหลิง"". โดย ซินล่าง คอร์ป. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  62. ""เหตุเกิดในกองถ่ายละคร เซียนโค่นเซียนง"". โดย ซินล่าง คอร์ป. November 2, 2019. สืบค้นเมื่อ December 17, 2019.
  63. "萌神木木" (February 2, 2017). "นักแสดงรำลึกถึง "องเหม่ยหลิง"". read01. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  64. "รู้ไปโม้ด" จาก น้าชาติ (May 12, 2015). "ย้อนอดีต "องเหม่ยหลิง" นางเอกอึ้งย้ง ครบ 37 ปีที่ฆ่าตัวตาย". โดย ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  65. 正文 (January 15, 2008). "บทความเกี่ยวกับ "องเหม่ยหลิง" (震惊!翁美玲自杀前十天的惊人事)". aboluowang. สืบค้นเมื่อ June 13, 2018.
  66. "ช่วงเวลาออกจากโรงถ่าย โดย แม่บุญธรรมของเธอ". May 20, 1985. สืบค้นเมื่อ June 22, 2018.
  67. Sohu Entertainment (May 14, 2005). "ช่วงเวลาการส่งข้อความของเธอ". sohu. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  68. "เกี่ยวกับ "องเหม่ยหลิง"". สืบค้นเมื่อ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  69. "การเสียชีวิตขององเหม่ยหลิง". :China.com News:. June 29, 2017. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.{{cite web}}: CS1 maint: extra punctuation (ลิงก์)
  70. "即時要聞" (May 14, 2014). "ข่าวการตายองเหม่ยหลิง". hk.news. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  71. http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=27572.100;wap2
  72. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-18. สืบค้นเมื่อ 2016-01-20.
  73. 正文 (May 23, 2010). "ปริศนาการตาย องเหม่ยหลิง". โดย aboluowang. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  74. "正文" (May 15, 2007). "ข่าวลือต่าง ๆ ขององ เหม่ยหลิง". 阿波羅新聞網. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  75. "波叔" (April 4, 2010). "ใครคือแม่แท้ ๆ ขององเหม่ยหลิง?". oldhkmovie. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-09-16. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  76. "Hiriotappa " (June 1, 2013). "นักแสดงชาวฮ่องกงยอดฮิตในยุคต้นปี 80'(ภาคแรก)". โอเคเนชั่น. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  77. Macau Admissions Office. "Hong Kong famous actress: Barbara Yung Mei-ling". artsuniversity. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  78. "娱乐八卦" (February 20, 2008). "องเหม่ยหลิงฆ่าตัวตายจริงหรอ?". โดย ข่าวซุบซิบบันเทิง. สืบค้นเมื่อ June 17, 2018.
  79. http://www.barbarayung.nl/forum/barbara-s-life-in-hong-kong-1982-1985/20-the-alleged-rape-case
  80. "เธอถูกข่มขืนจริงหรือ?". โดย เว๊ปไซด์ของ Hong Kong และ Taiwan. October 30, 2005. สืบค้นเมื่อ July 7, 2018.
  81. http://www.barbarayung.nl/internet/19-radio-appearances/radio-interview[ลิงก์เสีย]
  82. http://www.barbarayung.nl/internet/21-radio-appearances/radio-interview-call-in-hk-commercial-radio-5-may-1985/240-radio-interview-hong-kong-radio-5-may-1985-subtitled
  83. http://www.barbarayung.net/video/video010.htm
  84. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-18. สืบค้นเมื่อ 2019-12-18.
  85. "网络 作者" (September 1, 2013). "ประชาชนกว่า 100,000 คนได้ออกมาส่งขบวนศพของเธอ". tianya999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-11. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  86. 温情八卦. "ประชาชนส่งขบวนศพของเธอ". sohu. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  87. kora หมวด:แฟชั่น (August 27, 2007). "องเหม่ยหลิง ดารา-นางงาม ผู้อาภัพ". โดย โอเคเนชั่น. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  88. "อึ้งย้งที่ดังที่สุด". โดย sohu. พฤศจิกายน 13, 2560. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  89. ""จัดอันดับอึ้งย้ง ที่เล่นดีที่สุด" โดย หนังสือพิมพ์ Apple Daily ของ ฮ่องกง และ ไต้หวัน". โดย " chinanews". พฤษภาคม 27, 2554. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  90. หมวด: บันเทิงเอเชีย (กุมภาพันธ์ 26, 2560). "เปรียบเทียบ อึ้งย้ง องเหม่ยหลิง". โดย "ข่าวสด ". สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  91. "มังกรหยกฉบับพ.ศ. 2526". โดย sohu. สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 24, 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  92. หมวด: บันเทิงเอเชีย (กรกฎาคม 15, 2561). "เวอร์ชัน ตำนาน". โดย "ข่าวสด ". สืบค้นเมื่อ สิงหาคม 24, 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  93. หมวด: บันเทิงเอเชีย. ""สุดยอดละครชุด ยุค 80s"". โดย "spcnet ". สืบค้นเมื่อ มกราคม 22, 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  94. หมวด: บันเทิงเอเชีย. ""เวอร์ชันมังกรหยก ที่มีเรตติ้งสูงสุดในประเทศสิงคโปร์"". โดย "remembersingapore ". สืบค้นเมื่อ มกราคม 22, 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  95. ความสำเร็จของ มังกรหยก (1983)
  96. 《เรตติ้ง》โดยทีวีบีฮ่องกง:
  97. "二มาเลย์เซียและสิงค์โปร์ เลือก มังกรหยกชุดนี้ เป็นสิบอันดับแรก ละครยอดนิยมในยุคศตวรรษ 20" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-04-30.
  98. "100 อันดับละครฺฮ่องกง(1970-2000)ในมาเลย์เซีย และ สิงคโปร์". 豆瓣(手机版). สืบค้นเมื่อ 2022-05-01.
  99. 墒墨山风 (May 20, 2010). "กิมย้ง พูดถึง องเหม่ยหลิง". โดย ซินล่างเวย์ปั๋ว . สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  100. YuAlicec (May 26, 2017). ""หมีเซียะ" พูดถึง บทบาทอึ้งย้ง ของ "องเหม่ยหลิง"". โดย bilibili. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  101. 深圳卫视年代秀 (June 30, 2014). ""เจิงเจีย" พูดถึง บทบาทอึ้งย้ง ของ "องเหม่ยหลิง"". โดย xuite. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  102. "ฉินหวง ประทับใจ องเหม่ยหลิง มากที่สุด". สืบค้นเมื่อ 2022-04-30.
  103. 香港商報副刊部. "งานครบรอบทีวีบี 55 ปี ละครเรื่องนี้ชนะผลโหวตของละครที่มีผู้คนอยากดูซ้ำมากที่สุดในฮ่องกง". โดย Hk. สืบค้นเมื่อ October 28, 2022.
  104. "ผู้ชมชาวฮ่องกงยกย่องละครเรื่องนี้อย่างสูง". โดย Hkyahoo. สืบค้นเมื่อ December 19, 2022.
  105. 电影聚焦. ""หลี่อีถง ร่วมแสดงเป็น อึ้งย้ง ฉบับ องเหม่ยหลิง". HK. สืบค้นเมื่อ January 14, 2023.
  106. Madmax1983
  107. http://www.hkcinemagic.com/en/movie.asp?id=2349
  108. "Mad, Mad 83". Hong Kong Film Database. สืบค้นเมื่อ 29 September 2015.
  109. https://k.sina.cn/article_2701048492_a0febaac00100rzux.html{
  110. htmhttp://16888wwx.blog.163.com/blog/static/21140269200742384438342
  111. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-06. สืบค้นเมื่อ 2016-01-20.
  112. http://www.tudou.com/listplay/E6IUc6WMP8c/ctP0_LgyKJQ.html[ลิงก์เสีย]
  113. http://blog.xuite.net/chak0507/hkblog/111305406-149.+翁美玲在[欢乐今宵]-我的初恋之拍摄地-+熙信大厦
  114. 1985 翁美玲星馬個人演唱會
  115. "entertainment celebrities". ""รางวัลบางส่วนของ องเหม่ยหลิง"". happyjuzi. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  116. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/725-1980-februari-18-sue-wants-a-title
  117. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/61-1982-newspaper/726-1980-februari-20-singapore-girl-wins-uk-price-english
  118. http://www.oknation.net/blog/korat/2007/08/27/entry-1
  119. http://www.chinawhisper.com/the-10-best-hong-kong-tv-actresses/
  120. http://www.chinawhisper.com/top-10-classic-wuxia-series-roles/
  121. 知识产权风险管理 [BOOK]. "ประวัติของ "องเหม่ยหลิง"". โดย Baike. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  122. spcnet. "10 สุดยอดละครชุด ยุค 80s". โดย spcnet.tv. สืบค้นเมื่อ June 19, 2018.
  123. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-09. สืบค้นเมื่อ 2016-01-20.
  124. http://www.network54.com/Forum/231870/message/1044171851/ESther+ranked+highest+in+the+100+top+ever+TVB+STARS+!~+RECENT+NEWS!
  125. http://m.scmp.com/lifestyle/article/2084608/remembrance-eleven-chinese-stars-who-were-taken-us-too-young
  126. http://www.china.org.cn/top10/2011-07/21/content_23038059_3.htm
  127. http://news.chanyuklinonline.com/2007/1117ad.htm
  128. http://www.barbarayung.nl/newspaper-and-magazin-articles/62-1983-newspaper/598-1983-november-23-yung-mei-ling-awarded-for-international-television-award-translated
  129. http://www.360doc.cn/article/2253722_284294990.html?lan=cn&shareapp=1&from=wap&t=1651869005619&artid=284294990&code=wap30-11-22}
  130. "องเหม่ยหลิง เป็น 4 ดรุณีหยก ยุค 80". โดย hk. สืบค้นเมื่อ June 21, 2019.
  131. "การกลับคืนวงการของหนึ่งในอดีต 7 บุปพางามทีวีบี". โดย hk. สืบค้นเมื่อ June 21, 2019.
  132. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-08-20. สืบค้นเมื่อ 2016-01-19.
  133. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-15. สืบค้นเมื่อ 2016-01-19.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]