มาโกะ โคมูโระ
มาโกะ โคมูโระ | |
|---|---|
มาโกะ โคมูโระ เมื่อ พ.ศ. 2558 | |
| เกิด | เจ้าหญิงมาโกะ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2534 โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น |
| การศึกษา | มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ศศ.บ.) มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ (ศศ.ม.) |
| อาชีพ | นักวิจัย |
| คู่สมรส | เค โคมูโระ (พ.ศ. 2564–ปัจจุบัน) |
| บุตร | 1 คน |
| บุพการี | เจ้าชายฟูมิฮิโตะ พระยุพราชอากิชิโนะ เจ้าหญิงคิโกะ พระชายาในพระยุพราช |
มาโกะ โคมูโระ (ญี่ปุ่น: 小室 眞子; โรมาจิ: Komuro Mako) เธอเคยดำรงฐานันดร "ไนชินโน" หรือเจ้าหญิงชั้นเอกแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น
นามเดิมของเธอ คือ เจ้าหญิงมาโกะ (ญี่ปุ่น: 眞子内親王殿下[1]; โรมาจิ: Mako Naishinnō Denka; อังกฤษ; Her Imperial Highness Princess Mako[2]) ซึ่งเธอลาออกจากฐานันดรแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น เพื่อเสกสมรสกับนายเค โคมูโระ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564
มาโกะ โคมูโระ เป็นธิดาในเจ้าชายฟูมิฮิโตะ พระยุพราชกับเจ้าหญิงคิโกะ พระชายาฯ
เธอมีศักดิ์เป็นหลานสาว (ธิดาของพระราชอนุชา) ของสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ และมีศักดิ์เป็นหลานสาว (ธิดาของพระราชโอรส) ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
เจ้าหญิงมาโกะ
[แก้]การประสูติ
[แก้]วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2534 เจ้าหญิงอากิชิโนะได้ประสูติพระธิดา ณ โรงพยาบาลสำนักพระราชวัง (宮内庁病院) กรุงโตเกียว[3] ซึ่งถือว่าเป็นบุตรพระองค์แรกในเจ้าชายอากิชิโนะกับเจ้าหญิงอากิชิโนะ และเป็นพระราชนัดดาพระองค์แรกในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
ทรงมีพระขนิษฐา 1 พระองค์ คือ เจ้าหญิงคาโกะ และพระอนุชา 1 พระองค์ คือ เจ้าชายฮิซาฮิโตะ ตามลำดับ[1]

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2534 มีการจัดพิธีเฉลิมพระนาม (命名の儀) ซึ่งเป็นธรรมเนียมราชสำนักที่จัดหลังจากการประสูติประมาณ 7 วัน ในพิธีนี้จะมีการตั้งพระนามและกำหนดสัญลักษณ์ประจำพระองค์ แต่เนื่องด้วยพระองค์ไม่ใช่พระราชธิดาในจักรพรรดิหรือมกุฎราชกุมาร แต่เป็นพระธิดาของเจ้าชายในราชวงศ์ (ณ ขณะนั้น) จึงทำให้พระนามถูกตั้งโดยพระชนกแทนที่จะเป็นจักรพรรดิ และไม่ได้รับพระราชทานพระนาม "โกโชโง"[4]
พระชนกและพระชนนีทรงร่วมกันตั้งพระนามพระธิดาว่า "มาโกะ" (眞子) ด้วยความปรารถนาให้ใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่เสแสร้ง ไม่แต่งเติม และไม่สูญเสียความเป็นตัวเองโดยกำเนิด[4]
ณ วันประสูติ พระองค์ทรงเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ จึงทำให้พระองค์ดำรงฐานันดร ไนชินโน" หรือเจ้าหญิงชั้นเอกแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ตั้งแต่แรกประสูติ ตามกฎหมายราชวงศ์ญี่ปุ่น มาตราที่ 6[5]
อีกทั้งมีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำพระองค์ เป็นดอกพวงร้อย (モッコウバラ)[4]
การศึกษา
[แก้]- เดือนเมษายน พ.ศ. 2541 ทรงเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนประถมศึกษากาคุชูอิน (学習院初等科)
- วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2547 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา[6]
- วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2547 ทรงเข้าเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนมัธยมหญิงกากูชูอิน (学習院女子中・高等科)[7]
- วันที่ 3 - 16 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทรงไปพักอาศัยที่โฮมสเตย์ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย[8]

ราชวงศ์สาขาอากิชิโนะ เมื่อ พ.ศ. 2545 - วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2550 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น[9]
- เดือน เมษายน พ.ศ. 2550 ทรงเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมัธยมหญิงกากูชูอิน (学習院女子中・高等科)
- วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย[10]
- วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553 ทรงเข้าพิธีเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศิลปะและวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU)[2][11]
- วันที่ 4 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ทรงเข้าร่วมโปรแกรมการศึกษาภาษาอังกฤษเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ณ ยูนิเวอร์ซิตีคอลเลจดับลิน กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์[12][13]
- วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ทรงเข้าโปรแกรมนักศึกษาแลกเปลี่ยนสาขาประวัติศาสตร์ศิลป์วิทยา มหาวิทยาลัยเอดินบะระ สหราชอาณาจักร [13][14][15]
- วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาตรีของพระองค์มีชื่อว่า 明治時代における神話画の誕生、発展、そして葛藤 (การกำเนิด พัฒนาการ และความขัดแย้งของภาพเขียนเทพปกรณัมในสมัยเมจิ) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เหตุผลที่ว่าทำไมภาพวาดที่ใช้เทพปกรณัมญี่ปุ่นเป็นแรงบันดาลใจ ถึงถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยเมจิเป็นส่วนใหญ่[16]
- วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU)[17]
- วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557 ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาโท สาขาพิพิธภัณฑ์วิทยา มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ สหราชอาณาจักร[13][18][19]
- ทรงเข้าฝึกงานเป็นเวลา 8 สัปดาห์ตามหลักสูตร ที่พิพิธภัณฑ์และห้องแสดงงานศิลปะเฮอร์เบิร์ต (Herbert Art Gallery and Museum) และทรงทำวิจัยที่พิพิธภัณฑ์และห้องแสดงงานศิลปะเลสเตอร์ (Leicester Museum & Art Gallery)[20][21]
วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโทของพระองค์มีชื่อว่า 博物館におけるオブジェクトの解釈の可能性 (ความเป็นไปได้ในการตีความวัตถุในพิพิธภัณฑ์) โดยใช้แบบจำลองสิ่งมีชีวิตในทะเลที่เรียกว่า "แก้วบรัชกา" (Blaschka) เป็นกรณีศึกษา ในการพูดถึงวิธีการจัดแสดงวัตถุในพิพิธภัณฑ์[22]
ราชวงศ์สาขาอากิชิโนะ เมื่อ พ.ศ. 2563 - วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559 ทรงเข้าพิธีสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเลสเตอร์[13][23]
- เดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ทรงเข้าศึกษาระดับชั้นปริญญาเอก หลักสูตรบัณฑิตวิทยาลัยศิลปะและวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU) แต่ทรงไม่ได้ศึกษาต่อจนจบการศึกษา[24]
การบรรลุนิติภาวะ
[แก้]วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เจ้าหญิงมาโกะทรงมีพระชนมายุครบ 20 ชัณษา ซึ่งถือว่าทรงบรรลุนิติภาวะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของญี่ปุ่น โดยพระองค์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นประถมาภรณ์ (มงกุฎดอกพอโลเนีย) จากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะในงานพิธีบรรลุนิติภาวะ[25] อีกทั้งมีงานแถลงข่าวการบรรลุนิติภาวะของพระองค์อย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนครั้งแรก[26] หลังจากผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะแล้ว จะทรงมีส่วนร่วมในกิจกรรมของราชวงศ์อย่างเต็มพระองค์
การเติบโตในบทบาทของสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่น
[แก้]งานพิธี
[แก้]เจ้าหญิงมาโกะทรงตามเสด็จเจ้าชายอากิชิโนะ และเจ้าหญิงอากิชิโนะ เพื่อเข้าร่วมงานต่างๆ เช่น นิทรรศการ "ทูตแห่งราชวงศ์ถังและศิลปะแห่งราชวงศ์ถัง" ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว (2548)[27], ร่วมพิธี "โอกิฮิกิ" ที่ศาลเจ้าอิเซะ (2549)[28]
การเยือนต่างประเทศ
[แก้]- วันที่ 21 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2546 เจ้าหญิงมาโกะ ทรงตามเสด็จเจ้าชายอากิชิโนะ และเจ้าหญิงอากิชิโนะ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ซึ่งถือเป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศครั้งแรกของพระองค์ โดยเจ้าหญิงคาโกะดำเนินเสด็จด้วย[29][30]
- วันที่ 13 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ทรงตามเสด็จเจ้าชายอากิชิโนะ เยือนประเทศมาดากัสการ์ เพื่อทรงสำรวจธรรมชาติและวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ปีก
- วันที่ 23 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2553 ทรงตามเสด็จเจ้าชายอากิชิโนะ เยือนประเทศลาว เพื่อทรงเข้าร่วมพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ของมหาวิทยาลัยโตเกียว[31]
พระกรณียกิจ
[แก้]
งานราชสำนัก
[แก้]- ทรงตามเสด็จสมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีออกมหาสมาคม เนื่องในวันขึ้นปีใหม่[32] และวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระจักรพรรดิ[33]
- ทรงเข้าร่วมพิธี "อุตาไก ฮาจิเมะ" (歌会始) ซึ่งเป็นธรรมเนียมประจำปีในพระราชสำนัก โดยจะมีการร่วมกันขับร้องบทกวีในท่วงทำนองโบราณตามแบบแผนดั้งเดิมของญี่ปุ่น[34]
- ทรงเข้าร่วมพิธี "โคโช ฮาจิเมะ" (講書始) เป็นพิธีที่จัดขึ้นทุกปีในเดือนมกราคม โดยสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี พร้อมสมาชิกราชวงศ์ จะเสด็จออกรับฟังการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์[35]
- ทรงเข้าร่วมงานเลี้ยงพระกระยาอาหารค่ำ ณ พระราชวังอิมพีเรียล เพื่อเลี้ยงต้อนรับแขกระดับประเทศ[36][37]
- ทรงปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ต้อนรับเอกอัครราชทูตประจำประเทศญี่ปุ่นจากประเทศต่าง ๆ ที่สนามล่านกเป็ดน้ำชินฮามะ สำนักพระราชวัง เมืองอิจิกาวะ จังหวัดชิบะ[38]
- ทรงรับเสด็จและส่งเสด็จการเยือนต่างประเทศของสมเด็จพระจักรพรรดิ, สมเด็จพระจักรพรรดินี, เจ้าชายและเจ้าหญิงอากิชิโนะ[39]
- ทรงเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจัดโดยสมเด็จพระจักรพรรดิ เพื่อเลี้ยงต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการในประเทศญี่ปุ่น ที่เขตพระราชฐานอากาซากะ (赤坂御用地) กรุงโตเกียว[40]
งานเพื่อผู้พิการ
[แก้]งานด้านพิพิธภัณฑ์
[แก้]- พ.ศ. 2559 ทรงทำงานนอกเวลาเป็นนักวิจัยรับเชิญที่พิพิธภัณฑ์รวมวัฒนธรรมทางการศึกษาเจพีทาวเวอร์ "อินเตอร์มิเดียเทค" เขตโยชิดะ กรุงโตเกียว โดยทรงทำงานสัปดาห์ละ 2 วัน[43][44]
- พ.ศ. 2559 ทรงเป็นนักวิจัยพิเศษที่พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยโตเกียว (東京大学総合研究博物館) ซึ่งทรงผ่านกระบวนการสรรหาของภาครัฐ โดยพระองค์ทำงานสัปดาห์ละ 3 วัน และทรงได้รับเงินเดือนจากการทรงงานนี้ด้วย[45]

- วันที่ 2 - 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในโอกาสครบรอบ 80 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศในงานทางการโดยพระองค์เองเป็นครั้งแรก

- วันที่ 6 - 16 กันยายน พ.ศ. 2559 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของการอพยพของชาวญี่ปุ่น

- วันที่ 31 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เสด็จเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามคำเชิญของประเทศภูฏาน [47]


- วันที่ 19 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ทรงตามเสด็จเจ้าชายอากิชิโนะ เพื่อทรงวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ปีก[48]

- วันที่ 17 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ทรงเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในโอกาสครบรอบ 110 ปีของการอพยพของชาวญี่ปุ่น[49]

- วันที่ 27 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ทรงเยือนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในโอกาสครบรอบ 120 ปีของการอพยพของชาวญี่ปุ่น[50]
ประธานองค์กร
[แก้]- ประธานกิตติมศักดิ์งานเทศกาลเซรามิคนานาชาติมิโนะ (国際陶磁器フェスティバル美濃) จังหวัดกิฟุ (2557)[51]
- ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมเทนนิสแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本テニス協会) (2558 - 2564)
- ประธานกิตติมศักดิ์สมาคมหัตถกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (日本工芸会) (2559 - 2564)
มาโกะ โคมูโระ
[แก้]การประกาศหมั้น
[แก้]วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 สำนักข่าว NHK ได้รายงานว่าเจ้าหญิงมาโกะจะทรงทำการหมั้นกับนายเค โคมูโระ และวางแผนจะจัดงานอภิเษกสมรสในปีหน้า โดยเจ้าหญิงมาโกะจะทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์หลังจากการอภิเษกสมรสตามกฎหมายของราชวงศ์ มาตราที่ 12[5][52][53] ซึ่งสำนักพระราชวังก็ได้ออกมายืนยันว่าข่าวการหมั้นหมายเป็นเรื่องจริง ซึ่งมีการวางแผนว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูร้อน[54] โดยเจ้าชายและเจ้าหญิงอากิชิโนะได้อนุมัติการหมั้นหมายแล้ว[55]
เจ้าหญิงมาโกะและนายเค โคมูโระ เรียนที่มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU) ด้วยกัน[56] โดยพบกันครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านชิบูยะ เพื่อทำการหารือกันเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ[53][56][57]
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560 สำนักพระราชวังได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการสำหรับการหมั้นหมายของทั้งคู่ โดยมีแผนจะจัดงานแต่งงานในฤดูใบไม้ร่วงของปีหน้า ซึ่งเจ้าหญิงมาโกะและนายเค โคมูโระได้ทำการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ โดยพระองค์ได้ทรงพระราชทานพระบรมราชานุมัติการหมั้นหมายในครั้งนี้แล้ว ในช่วงบ่ายวันเดียวกันเจ้าหญิงมาโกะเสด็จลงพร้อมด้วยนายเค โคมูโระ โปรดให้มีการจัดแถลงข่าวการหมั้นหมายร่วมกัน และในช่วงเย็นมีการเสวยพระกระยาหารร่วมกันระหว่างเจ้าชาย-เจ้าหญิงอากิชิโนะ, เจ้าหญิงมาโกะ โดยมี นายเค โคมูโระ และมารดาของเขา ร่วมโต๊ะเสวยด้วย เดิมทีการแถลงข่าวนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม แต่ถูกเลื่อนเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ภูมิภาคคีวชู[58]

พระคู่หมั้น (นายเค โคมูโระ)
[แก้]นายเค โคมูโระ (ญี่ปุ่น: 小室圭; โรมาจิ: Komuro Kei) อาศัยอยู่ที่เมืองโยโกฮามะกับมารดาและคุณตา โดยบิดาเสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็ก[52] งานอดิเรกของเขาคือการเล่นไวโอลิน, ทำอาหาร และการเล่นสกี[53]
ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เขาได้ทำกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว โดยเมื่อปี พ.ศ. 2553 เขาเคยได้รับเลือกให้เป็น "เจ้าชายแห่งทะเลโชนันเอโนชิมะ" หรือทูตการท่องเที่ยวของเมืองฟูจิวาระ จังหวัดคานากาวะ [53]
พอหลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU) เขาได้เข้าทำงานที่ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ[52] และได้ย้ายมาทำงานที่สำนักงานกฎหมายโอคุโนะ โซโก โฮริสึ จิมุโฉะ (奥野総合法律事務所)[59] ขณะเดียวกันเขาก็ได้มีการเข้าศึกษาวิชาเอกด้านกฎหมาย สถาบันมหาบัณฑิตยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฮิตตสึบาชิ อีกด้วย[52]
การเลื่อนพิธี
[แก้]ก่อนพิธีหมั้น มีการขุดคุ้ยเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายเค โคมูโระเกิดขึ้น เช่น การกล่าวหาว่ามารดาของนายเค โคมูโระรับเงินจากอดีตคู่หมั้นเป็นจำนวน 4 ล้านเยนโดยมิชอบ[60][61] อีกทั้งมีการกล่าวหาว่านายเค โคมูโระมีพฤติกรรมกลั่นแกล้งเพื่อนในชั้นเรียน[62]
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 สำนักพระราชวังออกประกาศว่า เดิมทีพิธีหมั้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561 และพิธีอภิเษกสมรสที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 พฤษจิกายน ปีเดียวกัน จะถูกเลื่อนออกไปก่อน โดยคาดว่าจะจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากปีหน้าจะมีการประกาศสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ ซึ่งเจ้าหญิงมาโกะทรงชี้แจงเหตุผลของการเลื่อนกำหนดการว่า “ข้าพเจ้าเริ่มตระหนักว่ามีเวลาไม่มากเพียงพอที่จะเตรียมการ ทั้งในส่วนของพิธีการก่อนสมรสและชีวิตหลังแต่งงาน ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่แผนการต่าง ๆ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้” ซึ่งสำนักพระราชวังยังระบุอีกด้วยว่าการเลื่อนในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีของมารดานายเค โคมูโระ[63]
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 นายเค โคมูโระเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาต่อด้านกฎหมาย ซึ่งทำให้เจ้าหญิงกับเขาต้องแยกกันอยู่สักพัก[64]
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เจ้าชายอากิชิโนะ พระชนก ได้พระราชทานสัมภาษณ์สื่อในวันคล้ายวันประสูติว่า พระองค์ทรงทราบดีถึงข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ หากทั้งคู่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานกันจริง ก็ควรจัดการเรื่องราวต่างๆอย่างเหมาะสม เนื่องจากทั้งคู่ยังไม่ได้หมั้นกัน จึงรู้สึกลำบากใจที่จะไปพูดเรื่องของครอบครัวผู้อื่น และถ้าหากไม่สามารถทำให้ประชาชนเข้าใจและรู้สึกยินดีในเรื่องนี้ได้ ก็จะยังไม่สามารถดำเนินพิธีการใดๆได้[65]
วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2562 นายเค โคมูโระได้แถลงการณ์ว่ามารดาของตนได้ทำการตกลงเรื่องปัญหาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากอดีตคู่หมั้นของมารดาเคยกล่าวไว้ว่า ไม่ได้ต้องการขอเงินคืนแต่อย่างใด แต่ทว่าปัญหาก็ยังไม่คลี่คลาย[61][66]
วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2563 เจ้าหญิงอากิชิโนะ พระชนนี ได้ประทานสัมภาษณ์สื่อในวันคล้ายวันประสูติว่า พระองค์อยากเคารพความรู้สึกของเจ้าหญิงมาโกะให้มากที่สุด[67]
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เจ้าหญิงมาโกะทรงออกแถลงการณ์ยืนยันการแต่งงานว่า “สำหรับเราทั้งสองคนแล้ว ต่างฝ่ายต่างเป็นคนสำคัญที่ไม่อาจแทนที่ได้ ผู้ซึ่งสามารถอยู่เคียงข้างกันได้ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ การแต่งงานจึงเป็นทางเลือกที่จำเป็นสำหรับเราสองคนในการใช้ชีวิต โดยให้ความสำคัญกับจิตใจของเราเอง”[68]
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เจ้าชายอากิชิโนะ พระชนก ทรงยอมรับการแต่งงานของพระธิดาจากการพระราชทานสัมภาษณ์สื่อในวันคล้ายวันประสูติ โดยทรงกล่าวว่า “เกี่ยวกับเหตุผลที่ยอมรับการแต่งงานนั้น ตามรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้ว่าการแต่งงานต้องอาศัยเพียงความยินยอมของทั้งสองฝ่าย หากทั้งสองมีความรู้สึกอย่างแท้จริงเช่นนั้น ในฐานะพ่อแม่ก็ควรเคารพในสิ่งนั้น” แต่พระองค์ก็ยังคงยืนยันว่าการจัดการปัญหาเหล่านั้นให้เป็นรูปธรรม น่าจะเป็นสิ่งจำเป็น[69]
วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2563 นายนิชิมูระ ยาสุฮิโกะ ผู้อำนวยการสำนักพระราชวัง ได้แสดงความเห็นว่า นายเค โคมูโระควรรับผิดชอบในการอธิบายปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้การแต่งงานของทั้งสองคนดำเนินไปได้[70]
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2564 นายเค โคมูโระได้ทำการเขียนแถลงการณ์ความยาว 28 หน้ากระดาษ A4 เพื่อแก้ไขข่าวเท็จว่า มารดาของเขาและอดีตคู่หมั้นทำการเลิกรากันอย่างกระทันหันในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555 และเคยทำการตกลงเรื่องเงินไปแล้วหลังจากการเลิกรา ซึ่งอดีตคู่หมั้นเคยกล่าวว่าไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องเงินคืน แต่ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556 ปรากฏว่ามีจดหมายขอทวงเงินคืนจากอดีตคู่หมั้นของเธอ เธอจึงตอบกลับไปว่าเธอไม่สามารถที่จะคืนเงินจำนวนนั้นได้ ซึ่งอดีตคู่หมั้นตอบกลับเพียงว่า ถ้ามีอะไรจะติดต่อมาอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยเป็นเวลาหลายปี เธอจึงเข้าใจว่าได้ตกลงเรื่องเงินกันเรียบร้อยแล้ว แต่พอข่าวการหมั้นหมายระหว่างเขาและเจ้าหญิงมาโกะออกมา เรื่องนี้กลับถูกเปิดเผยขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านไป 4 ปีผ่านนิตยสารฉบับนึงโดยบุคคลที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของอดีตคู่หมั้น ซึ่งนายเค โคมูโระไม่อยากที่จะชำระเงินคืนโดยที่ไม่ชี้แจงอะไรก่อนเลย ไม่เช่นนั้นมารดาของเขาจะถูกมองว่าเป็นฝ่ายผิด[71] โดยใน 4 วันถัดมา นายเค โคมูโระเปิดเผยว่าเขาจะทำการจ่ายเงินจำนวนนั้นให้กับอดีตคู่หมั้นของมารดา[72]
การอภิเษกสมรส
[แก้]วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2564 สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานข่าวว่าเจ้าหญิงมาโกะจะอภิเษกสมรสกับนายเค โคมูโระในช่วงปลายปี โดยจะไม่มีการจัดพิธีหมั้นและพิธีอภิเษกสมรสตามธรรมเนียมของราชวงศ์ญี่ปุ่น จะมีแค่การจดทะเบียนสมรสเท่านั้น รวมทั้งเจ้าหญิงมาโกะทรงปฏิเสธเงินบำเหน็จการลาออกจากฐานันดรศักดิ์จำนวน 150 ล้านเยน หรือราว 44 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของราชวงศ์ในยุคหลังสงคราม ที่ราชวงศ์หญิงทรงอภิเษกสมรสโดยไม่มีการจัดพิธีการและปฏิเสธเงินบำเหน็จ โดยหลังจากการจดทะเบียนสมรสเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์จะออกไปใช้ชีวิตกับนายเค โคมูโระที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา[73][74][75]
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ว่าเจ้าหญิงมาโกะจะอภิเษกสมรสกับนายเค โคมูโระในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564[76] และเนื่องด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ ทรงปรารถนาให้ประชาชนยอมรับและยินดีกับการอภิเษกสมรสของเจ้าหญิง แต่สถานการณ์ ณ ขณะนั้น กลับมีความเห็นที่หลากหลายต่อการสมรส จึงทรงตัดสินพระราชหฤทัยว่าจะไม่จัดพิธีการใดๆ ส่วนการปฏิเสธเงินบำเหน็จนั้นเป็นการตัดสินพระทัยของเจ้าหญิงเอง[77] อีกทั้งยังมีการเปิดเผยด้วยว่าเจ้าหญิงทรงประชวรโรค PTSD ที่ซับซ้อน (ภาวะความเครียดผิดปกติหลังเหตุสะเทือนใจ)[78]
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เจ้าหญิงมาโกะ เสด็จไปถวายพระราชสักการะสุสานจักรพรรดิโชวะ และจักรพรรดินีโคจุง เพื่อรายงานการอภิเษกสมรสของพระองค์[79]
วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เจ้าหญิงมาโกะทรงเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ เพื่อทูลอำลาทั้งสองพระองค์[80]
วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2564 สำนักพระราชวังออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเจ้าหญิงมาโกะได้ทรงอภิเษกสมรสกับนายเค โคะมูโระ และด้วยเหตุแห่งการสมรสดังกล่าว ตามบทบัญญัติมาตรา 12 แห่งกฎหมายว่าด้วยราชวงศ์ญี่ปุ่น พระองค์จึงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์[81] โดยเธอจะใช้ชื่อว่า มาโกะ โคมูโระ (ญี่ปุ่น: 小室 眞子; โรมาจิ: Komuro Mako)[82] และในบ่ายวันเดียวกันได้มีการจัดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน แต่เนื่องด้วยอาการป่วยของเธอ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนจากการถาม-ตอบสด เป็นการส่งคำถามจากสื่อมวลชนไปให้ทั้งคู่อ่านล่วงหน้าก่อน[83]
ทรงประชวรเป็นโรค PTSD (ภาวะความเครียดผิดปกติหลังเหตุสะเทือนใจ)
[แก้]วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 นอกจากที่สำนักพระราชวังได้ออกประกาศเรื่องการอภิเษกสมรส ก็มีการประกาศด้วยว่าเจ้าหญิงทรงประชวรโรค PTSD ที่ซับซ้อน (ภาวะความเครียดผิดปกติหลังเหตุสะเทือนใจ) ตามรายงานโดยนายแพทย์สึโยชิ อากิยามะ จากโรงพยาบาล NTT Medical Centre Tokyo ระบุว่าเจ้าหญิงทรงประสบกับเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าเป็นการใส่ร้ายหรือโจมตี ทั้งต่อตัวพระองค์เอง ต่อพระคู่หมั้น และต่อครอบครัวของพระองค์อย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยทรงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือหนีจากสถานการณ์นั้นได้ ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2561 - 2562 พระองค์จึงทรงเริ่มรู้สึกถึงความหมดหนทางที่จะสามารถแก้ไขหรือหักล้างคำกล่าวร้ายเหล่านั้นได้ และทรงรู้สึกว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพระองค์ถูกเหยียบย่ำ อีกทั้งยังทรงเกิดความหวาดกลัวว่าหลังการสมรส ความปรารถนาที่จะมีชีวิตที่สงบสุขและเปี่ยมด้วยความสุขจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้[78]
ชีวิตส่วนตัวหลังการแต่งงาน
[แก้]หลังจากการแต่งงาน เธอพักอาศัยที่อพาร์ทเมนต์ที่ย่านชิบูยะเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกับสามี[80] ซึ่งนายเค โคมูโระได้สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม (Fordham University) ใน พ.ศ. 2564 และทำงานในบริษัทกฎหมายโลเวนสไตน์แซนด์เลอร์ แอลแอลพี (Lowenstein Sandler LLP) ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่เขายังสอบเนติบัณฑิตในอเมริกายังไม่ผ่าน[84][85][86]
วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เธอและสามีเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกา[87][86]
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 สำนักพระราชวังได้เปิดเผยว่า มาโกะ โคมูโระได้ให้กำเนิดบุตรคนแรก แต่ไม่มีการเปิดเผยวันเกิดและเพศของทารก เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอหลังจากที่ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้ว โดยทารกคนนี้ถือเป็นหลานคนแรกในเจ้าชายอากิชิโนะ มกุฎราชกุมาร กับเจ้าหญิงอากิชิโนะ มกุฎราชกุมารี และเหลนคนแรกในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ[88]
เกียรติยศ
[แก้]| ธรรมเนียมพระยศของ เจ้าหญิงมาโกะ (พ.ศ. 2534 - 2564) | |
|---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำราชวงศ์สาขา | |
| สัญลักษณ์ | ดอกพวงร้อย (モッコウバラ) |
| คำยกย่อง | เด็งกะ (殿下) |
| ราชวงศ์สาขา | อากิชิโนะ |
ลำดับฐานันดรศักดิ์
[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ ชั้นประถมาภรณ์ (มงกุฎดอกพอโลเนีย) (2554)[25]
Order of Rio Branco ชั้นประถมาภรณ์ - ประเทศบราซิล (2564)[89]
National Order of Merit (Paraguay) ชั้นประถมาภรณ์ - ประเทศปารากวัย (2564)[90]
เกร็ด
[แก้]- สมัยพระเยาว์ เจ้าหญิงมาโกะและพระขนิษฐา (เจ้าหญิงคาโกะ) ทรงช่วยพระอัยกา (สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ) ปลูกข้าวไร่และลูกเดือยในนาข้าวที่เขตพระราชฐาน[91]
- ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เจ้าหญิงมาโกะได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่ประชาชนผ่านทางอินเทอร์เน็ต สื่อบางสำนักเรียกพระองค์ว่า "เน็ตไอดอล"[92] หลังมีพระฉายาลักษณ์ขณะทรงฉลองพระองค์นักเรียนแบบกะลาสีออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ต่อมาพระฉายาลักษณ์ดังกล่าวและวีดิโอที่จัดทำโดยแฟนอาร์ตที่ชื่นชมเจ้าหญิงคาโกะ (พระขนิษฐา) ถูกอัปโหลดลงเว็บไซต์นิโกนิโกโดกะ (ญี่ปุ่น: ニコニコ動画) ผลคือมีผู้รับชมกว่า 340,000 ครั้ง และมีผู้แสดงความเห็น 86,000 ข้อความ ส่วนสำนักพระราชวังได้แสดงความเห็นว่าไม่ทราบว่าจะจัดการกับปรากฏการณ์นี้อย่างไร เพราะพวกเขาไม่เห็นร่องรอยแห่งการอาฆาตมาดร้ายหรือดูหมิ่นพระราชวงศ์[93]
- เจ้าหญิงมาโกะทรงมีชื่อเล่นสมัยเรียนมหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU) ว่า まこしー (มาโกะชี่)[94]
- เจ้าหญิงมาโกะทรงเคยทำงานอาสาสมัครในพื้นที่ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในภูมิภาคโทโฮกุ เมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยไม่ได้เปิดเผยสถานะว่าพระองค์เป็นเจ้าหญิง และทรงใช้ชื่อเล่นว่ามาโกะชี่[94]
- เจ้าหญิงมาโกะทรงอยู่ชมรมสกีที่มหาวิทยาลัยนานาชาติคริสเตียน (ICU)[95]
- ระหว่างที่พระองค์ศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ เจ้าหญิงมาโกะทรงพักที่อยู่หอพักนักศึกษาปกติ โดยมีแค่นักศึกษาญี่ปุ่นเท่านั้นที่รู้ว่าพระองค์เป็นเจ้าหญิง[20]
- เนื่องจากราชวงศ์ญี่ปุ่นไม่มีนามสกุล พระองค์จึงใช้ มิยาเกะ (ราชวงศ์สาขา) แทนนามสกุล เป็น 秋篠宮 眞子 (Akishino-no-Miya Mako)[96]
พงศาวลี
[แก้]| พงศาวลีของมาโกะ โคมูโระ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อ้างอิง
[แก้]- 1 2 3 "秋篠宮家". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- 1 2 3 "Their Imperial Highnesses Crown Prince and Crown Princess Akishino and their family". The Imperial Household Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ อ้างอิง https://archive.is/qhOkO
- 1 2 3 "秋篠宮「眞子」さま 内親王命名の儀 ご夫妻でお決めに : 秋篠宮ご一家の歩み : 秋篠宮家 男児ご誕生 : 特集 : YOMIURI ON…". archive.is. 2008-06-18. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- 1 2 "e-Gov 法令検索". laws.e-gov.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-06-17.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "Japanese royal to spend time in Dublin studying English". The Irish Times. June 18, 2010. สืบค้นเมื่อ April 11, 2016.
- 1 2 3 4 5 "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(平成21年以降) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "Hosting royalty". ed.ac.uk. 4 June 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-27. สืบค้นเมื่อ 2017-05-18.
- ↑ INC., SANKEI DIGITAL. "眞子さま、国際基督教大学をご卒業「感謝しています」:イザ!". イザ! (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-08. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "Princess Mako leaves for one year of study in England ‹ Japan Today: Japan News and Discussion". japantoday.com.
- 1 2 "Princess Mako of Japan studies at University of Leicester". HELLO! (ภาษาอังกฤษ). 2015-09-22. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ Dimmer, Sam (2015-09-21). "Japanese princess secretly worked at Coventry's Herbert Art Gallery". Coventry Live (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "英留学から帰る「眞子さま」のキラリと輝く研究対象". デイリー新潮 (ภาษาญี่ปุ่น). 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ INC., SANKEI DIGITAL. "眞子さま、英国で修了式 レスター大大学院". 産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-24. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "眞子内親王殿下のご紹介 - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- 1 2 "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "祝28歳! 可憐なプリンセス♡ 佳子さまのご誕生から現在までの成長アルバム". 25ans (ภาษาญี่ปุ่น). 2022-12-27. สืบค้นเมื่อ 2025-05-28.
- ↑ List of Overseas Visits by the Emperor, Empress and Imperial Family (1999 – 2008)
- ↑ "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(平成21年以降) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "講書始". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-27.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 佳子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "東大関連施設勤務の眞子さま 紀子さまが運命の出会い期待か". NEWSポストセブン (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "眞子さま、今月末で勤務先の博物館を退職へ 結婚後、年内に渡米予定:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-09-24. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "眞子さま、東大総合研究博物館の特任研究員に". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2016-04-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "天皇・皇族の外国ご訪問一覧表(令和元年以降)". 宮内庁 (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "秋篠宮家 眞子さま 写真特集:時事ドットコム". 時事ドットコム (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ INC., SANKEI DIGITAL. "眞子さま、国際基督教大学をご卒業「感謝しています」:イザ!". イザ! (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-08. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- 1 2 3 4 "เผยประวัติว่าที่คู่หมั้นหนุ่มที่เจ้าหญิงมาโกะจะทรงสละฐานันดรศักดิ์มาแต่งงานด้วย". ข่าวสด. 17 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 2017-05-18.
- 1 2 3 4 日本放送協会. "眞子さま 同級生とご婚約へ | NHKニュース". NHKニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-16. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "眞子さまの婚約内定は今夏に 宮内庁長官". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-05-25. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "眞子さま婚約へ 大学の同級・小室さんと". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-05-16. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- 1 2 "Princess Mako to lose Japan royal status by marrying commoner". BBC. 18 May 2017. สืบค้นเมื่อ 27 September 2017.
- ↑ "เผยโฉมหนุ่มสุดหล่อ ว่าที่คู่หมั้นเจ้าหญิงแห่งญี่ปุ่น". MGR Online. 17 พฤษภาคม 2560. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-19. สืบค้นเมื่อ 2017-05-18.
- ↑ "眞子さま、小室さんと来年秋にも挙式 婚約内定". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-09-03. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "眞子さま婚約へ 大学の同級・小室さんと". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2017-05-16. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "詐欺罪で告発された小室佳代さん 渡米に必要なビザ取得に影響の可能性も". News Post Seven (ภาษาญี่ปุ่น). Shogakukan. October 13, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 23, 2021. สืบค้นเมื่อ October 25, 2021.
- 1 2 "คู่หมั้น 'เจ้าหญิงมาโกะ' ประกาศเคลียร์ปัญหาหนี้สินของครอบครัว-พร้อมเดินหน้าพิธีเสกสมรส". ผู้จัดการออนไลน์. 23 มกราคม 2562. สืบค้นเมื่อ 2020-01-01.
- ↑ "小室圭さんから"イジメ被害"の同級生が初告白「あれだけのことをしておいて、既読スルー」". Bunshun Online (ภาษาญี่ปุ่น). Bunshun. May 9, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 3, 2021. สืบค้นเมื่อ October 25, 2021.
- ↑ "眞子さまと小室さん、結婚を2020年に延期". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2018-02-06. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "眞子さま、小室圭さんと年内結婚…アメリカで新生活の見通し". 読売新聞オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-09-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ "秋篠宮さま、大嘗祭の国費支出に疑問". 日本経済新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2018-11-30. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "「金銭トラブル」進展なし 小室圭さんの母の元婚約者がコメント公表:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-10-10. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "紀子さま54歳に 眞子さまの結婚「気持ち尊重したい」:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2020-09-11. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "眞子内親王殿下が記されたご結婚についてのお二人のお気持ち - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "秋篠宮さま、眞子さまの結婚「認める」 誕生日の会見で:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2020-11-30. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "小室圭さん側に「説明責任がある」 金銭問題で宮内庁長官が要望 眞子さまの結婚巡り:東京新聞デジタル". 東京新聞デジタル (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "「金銭トラブルと言われている事柄に対する私と母の認識を説明します」…小室圭さんが公表した文書の全文2". 読売新聞オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-04-09. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "「金銭トラブル」進展なし 小室圭さんの母の元婚約者がコメント公表:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-10-10. สืบค้นเมื่อ 2025-06-07.
- ↑ "เจ้าหญิงมาโกะ เข้าพิธีเสกสมรสปลายปีนี้ และไม่ขอรับเงินจากราชวงศ์ตามสิทธิที่ได้รับ". มติชนออนไลน์. 1 กันยายน 2564. สืบค้นเมื่อ 2021-09-02.
- ↑ "眞子さま、小室圭さんと年内結婚…アメリカで新生活の見通し". 読売新聞オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-09-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ "【独自】眞子さま、一時金辞退の意向…前例なく政府内で可否議論へ". 読売新聞オンライン (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-09-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ "眞子さまと小室圭さん、26日結婚へ 年内に米国で新生活 宮内庁:朝日新聞". 朝日新聞 (ภาษาญี่ปุ่น). 2021-10-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ 日本放送協会. "眞子さまと小室氏結婚発表 宮内庁 西村泰彦長官 記者対応概要 | NHKニュース". NHKニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- 1 2 日本放送協会. "眞子さま「複雑性PTSD」と診断される状態 医師の説明は | NHKニュース". NHKニュース (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-01. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ 産経新聞 (2021-10-12). "眞子さま、昭和天皇陵をご参拝 結婚をご報告". 産経新聞:産経ニュース (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- 1 2 "眞子さま渋谷区内のマンションで渡米準備 あす婚姻届提出後に皇籍離脱". TBS News (ภาษาญี่ปุ่น). October 25, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-25. สืบค้นเมื่อ October 25, 2021.
- ↑ "告示 宮内庁告示 2021/10/26 令和3年 官報本紙 第603号 - 官報検索!". kanpoo.jp (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ "眞子さまと小室さんの婚姻届提出 皇室離れ「小室眞子さん」に". NHK NEWS WEB (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-26. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
- ↑ "眞子さまと小室さんの会見 質疑応答は取りやめに". TV Asashi News (ภาษาญี่ปุ่น). TV Asashi. October 26, 2021. สืบค้นเมื่อ October 26, 2021.
- ↑ McCurry, Justin (1 October 2021). "Princess Mako wedding announcement stirs up media frenzy in Japan". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 1 October 2021.
- ↑ Landers, Peter; Inada, Miho (1 October 2021). "Japan's Princess Mako to Marry as Palace Blames Media for Her PTSD". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 1 October 2021.
- 1 2 "อดีตเจ้าหญิงมาโกะพร้อมสามี ออกเดินทางตั้งต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐฯ". ไทยรัฐออนไลน์. 14 พฤศจิกายน 2564. สืบค้นเมื่อ 2021-11-15.
- ↑ Philip Wang (14 พฤศจิกายน 2564). "Former Japanese princess moves to New York with newlywed husband". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-11-15.
- ↑ 日本放送協会 (2025-05-30). "小室眞子さん出産 宮内庁が発表 | NHK". NHKニュース. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "Brazil Decorates Princess Mako". Nippon.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-12. สืบค้นเมื่อ 2021-10-26.
- ↑ "Crown Prince Akishino, Princess Mako Get Medals from Paraguay". 5 October 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-10-09. สืบค้นเมื่อ 2021-10-26.
- ↑ "皇后陛下お誕生日に際し(平成14年) - 宮内庁". www.kunaicho.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "Japanese princess found secretly living in Leicester". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 2015-09-20. สืบค้นเมื่อ 2025-06-06.
- ↑ "ネットで大人気「眞子様萌え」! 宮内庁は困惑気味?". Yahoo! Netallica. 15 June 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2008.
- 1 2 https://archive.today/20151106100637/http://headlines.yahoo.co.jp/videonews/fnn?a=20151106-00000707-fnn-soci
- ↑ The Asahi Shimbun Company. "眞子さま、ICU卒業 結婚は「遅すぎず早すぎず」:朝日新聞デジタル". 朝日新聞デジタル (ภาษาญี่ปุ่น). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-26. สืบค้นเมื่อ 2025-06-05.
- ↑ "研究者コラム - INTERMEDIATHEQUE". www.intermediatheque.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-26. สืบค้นเมื่อ 2025-06-08.
แหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการ (พ.ศ. 2534 - 2564)
[แก้]- เว็บไซต์สำนักพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Household Agency) ภาษาอังกฤษ https://www.kunaicho.go.jp/eindex.html
- เว็บไซต์สำนักพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Household Agency) ภาษาญี่ปุ่น https://www.kunaicho.go.jp/
- ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาเยอรมัน สเปน ญี่ปุ่น และมลายู ลงวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

