คณะก้าวหน้า
คณะก้าวหน้า | |
---|---|
ผู้ก่อตั้ง | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล พรรณิการ์ วานิช |
ประธาน | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ |
เลขาธิการ | ปิยบุตร แสงกนกกุล |
โฆษก | พรรณิการ์ วานิช |
ที่ปรึกษา | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ |
ก่อตั้ง | 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 |
ก่อนหน้า | พรรคอนาคตใหม่ (สมาชิกที่โดนตัดสิทธิ์) พรรคก้าวไกล (สมาชิกที่โดนตัดสิทธิ์) |
ที่ทำการ | 167 อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 5 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร |
อุดมการณ์ | พิพัฒนาการนิยม ประชาธิปไตยสังคมนิยม |
จุดยืน | ซ้ายกลาง ถึง ซ้าย |
เว็บไซต์ | |
progressivemovement pgmf |
คณะก้าวหน้า (อังกฤษ: Progressive Movement) เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ก่อตั้งโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พรรณิการ์ วานิช เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 ภายหลังจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเคลื่อนไหวนอกสภาเป็นหลัก คู่ขนานไปกับการทำงานในสภาของพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชนตามลำดับ เดิมชื่อ คณะอนาคตใหม่[1] แต่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย โดยในปีถัดมาได้มีการจัดตั้งมูลนิธิขึ้นในชื่อ มูลนิธิคณะก้าวหน้า
คณะกรรมการบริหาร
[แก้]กรรมการบริหารของคณะก้าวหน้า เดิมคือ 12 ใน 16 ของอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ในปี พ.ศ. 2563 ก่อนที่ต่อมาในปี พ.ศ. 2567 จะมี 11 อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เข้ามาร่วมด้วย รวมจำนวน 27 คน ซึ่งทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ดังต่อไปนี้
นโยบาย
[แก้]คณะก้าวหน้ามีภารกิจหลัก 3 ประการคือ
- การสร้างเครือข่ายทั่วประเทศไทย
- รณรงค์ทางความคิดทั่วประเทศไทย
- รณรงค์หาเสียงให้กับการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับทั่วประเทศไทย[2]
นอกจากนี้คณะก้าวหน้ายังรณรงค์อีก 12 ประการ ได้แก่
- ปฏิรูปการศึกษา
- รัฐสวัสดิการ
- ปฏิรูปที่ดิน
- ทลายทุนผูกขาด
- สิ่งแวดล้อม
- เกษตรก้าวหน้า
- ปฏิรูปกองทัพ
- ยุติรัฐราชการรวมศูนย์
- ความหลากหลายทางวัฒนธรรม
- ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
- เศรษฐกิจก้าวหน้าและเป็นธรรม
- การรณรงค์ให้มีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ในฐานะที่เป็นฉันทามติใหม่ของสังคมไทยร่วมกัน[2]
มูลนิธิคณะก้าวหน้า
[แก้]ต่อมาในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้ง มูลนิธิคณะก้าวหน้า[3] โดยมีสมาชิกดังต่อไปนี้
อันดับ | ชื่อ | ตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ | ประธานกรรมการ |
2 | ชำนาญ จันทร์เรือง | รองประธานกรรมการ |
3 | พลโท พงศกร รอดชมภู | |
4 | สุรชัย ศรีสารคาม | |
5 | ปิยบุตร แสงกนกกุล | กรรมการ |
6 | พรรณิการ์ วานิช | |
7 | เดชรัต สุขกำเนิด | |
8 | สุนทร บุญยอด | |
9 | ชัน ภักดีศรี | |
10 | เจนวิทย์ ไกรสินธุ์ | |
11 | ไกลก้อง ไวทยการ | |
12 | เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ | กรรมการและเหรัญญิก |
13 | กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ | กรรมการและเลขานุการ |
มูลนิธิคณะก้าวหน้ามีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- ส่งเสริมการศึกษา วิจัย ด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่น ๆ
- ส่งเสริมการแปลหนังสือภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย
- เผยแพร่ความรู้หรือผลงานการศึกษาวิจัยด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่นๆ ให้แพร่หลายแก่ประชาชน
- ส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ดำเนินกิจกรรมค่ายศึกษาอบรมเกี่ยวกับการเสริมสร้างค่านิยมประชาธิปไตย
- ส่งเสริมและให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่ยากไร้
- ส่งเสริมและสนับสนุนการสังคมสงเคราะห์ที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
- ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการกีฬาทุกประเภท
- เพื่อส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยความเป็นกลาง และไม่ให้การสนับสนุนด้านการเงินหรือทรัพย์สินแก่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด
โดยมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเพื่อจัดตั้งมูลนิธิอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 กันยายน ปีเดียวกัน ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 500,000 บาท[4]
ทั้งนี้ หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบในปี พ.ศ. 2567 ภายหลังชำระบัญชีโดยการหักหนี้สินและค่าใช้จ่ายแล้ว ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของพรรคจะถูกโอนไปยังมูลนิธิคณะก้าวหน้าทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค[5]
การเลือกตั้งท้องถิ่น
[แก้]ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 คณะก้าวหน้าได้ส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหมด 42 จังหวัด ทว่าไม่มีผู้ใดได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม้แต่รายเดียว[6]
จังหวัด | นาม | คะแนนเสียง | ผลการเลือกตั้ง | หลังจากการเลือกตั้ง |
---|---|---|---|---|
ภาคเหนือ | ||||
พะเยา | ชัยประพันธ์ สิงห์ชัย | 68,964 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2567 ในนามกลุ่มพะเยาก้าวไกล แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง |
แพร่ | สุภวัฒน์ ศุภศิริ | 45,373 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลป่าแมต จังหวัดแพร่ |
อุตรดิตถ์ | ปัณณวัฒน์ นาคมูล | 33,558 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | ||||
นครพนม | ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ | 49,983 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย ในปี พ.ศ. 2566 |
นครราชสีมา | สาธิต ปิติวรา[a] | 255,482 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง ในนามพรรคประชาชน |
บึงกาฬ | ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น | 34,917 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามพรรคเพื่อไทย |
มุกดาหาร | สุพจน์ สุอริยพงษ์ | 32,087 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามพรรคประชาชน |
ยโสธร | สฤษดิ์ ประดับศรี | 100,297 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.ยโสธร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในปี พ.ศ. 2566 |
ร้อยเอ็ด | สถาพร ว่องสัธนพงษ์ | 94,324 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พรรคเพื่อไทย ในปี พ.ศ. 2566 |
สกลนคร | ณรงเดช อุฬารกุล | 91,466 (ลำดับที่ 4) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน |
สุรินทร์ | มานพ แสงดำ | 57,808 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย |
หนองคาย | กฤศภณ หล้าวงศา | 50,333 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.หนองคาย เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ในปี พ.ศ. 2566 กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามอิสระ |
หนองบัวลำภู | สมเกียรติ เชษฐสุมน | 36,752 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.หนองบัวลำภู เขต 3 พรรคก้าวไกล ในปี พ.ศ. 2566 (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) |
อำนาจเจริญ | ชัยศรี กีฬา | 15,770 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
อุดรธานี | ฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ | 185,801 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.อุดรธานี เขต 8 พรรคไทยสร้างไทย ในปี พ.ศ. 2566 |
อุบลราชธานี | เชษฐา ไชยสัตย์ | 100,164 (ลำดับที่ 4) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ |
ภาคกลาง | ||||
กำแพงเพชร | อภิสิทธิ พรมฤทธิ์ | 41,137 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า |
นครปฐม | ชัชวาล นันทะสาร | 74,868 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
นครสวรรค์ | ศรัญ ฤกษ์อัตการ | 67,136 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | อดีตกรรมการจังหวัดนครสวรรค์ |
นนทบุรี | ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ[a] | 139,401 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล |
พระนครศรีอยุธยา | วัสพงศ์ วิทูรเมธา | 90,739 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | |
พิจิตร | มาโนช วัฒนประสิทธิ | 8,409 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
พิษณุโลก | ณชพล พลอาสา | 32,967 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
ลพบุรี | ฤทธิ์ พัวพันธ์ | 23,760 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
สมุทรปราการ | ธัชชัย เมตโต | 74,531 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
สมุทรสงคราม | อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย | 13,087 (ลำดับที่ 4) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็น สส.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน |
สมุทรสาคร | อวยชัย จาตุรพันธ์ | 26,463 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | |
สระบุรี | วิทูลย์ แก้วสุวรรณ | 14,378 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
สิงห์บุรี | สุรชัย บุญลือ | 8,756 (ลำดับที่ 4) |
พ่ายแพ้ | |
อ่างทอง | โยธิน เปาอินทร์ | 45,637 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย |
ภาคตะวันออก | ||||
ฉะเชิงเทรา | จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ | 128,129 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางผึ้ง และอดีตผู้สมัคร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในปี พ.ศ. 2566 |
ชลบุรี | พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง | 167,354 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | |
ปราจีนบุรี | กฤษณ์กมล แพงศรี | 56,623 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามอิสระ |
ระยอง | สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์[a] | 61,583 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็น สส.ระยอง เขต 5 พรรคประชาชน |
ภาคตะวันตก | ||||
ตาก | คริษฐ์ ปานเนียม | 41,656 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็น สส.ตาก เขต 1 พรรคประชาชน |
ราชบุรี | ภรมน นรการกุมพล | 74,929 (ลำดับที่ 2) |
พ่ายแพ้ | ปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดราชบุรี |
ภาคใต้ | ||||
นครศรีธรรมราช | นายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ | 9,825 (ลำดับที่ 6) |
พ่ายแพ้ | |
นราธิวาส | คอยรูซามัน มะ | 2,567 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | อดีตผู้สมัคร สว. กลุ่มที่ 20 |
พังงา | สุทธิโชค ทองชุมนุม | 19,665 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามพรรคประชาชน |
ภูเก็ต | สรวุฒิ ปาลิมาพันธ์ | 15,375 (ลำดับที่ 3) |
พ่ายแพ้ | |
สุราษฎร์ธานี | พงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ | 9,794 (ลำดับที่ 5) |
พ่ายแพ้ |
- ↑ 1.0 1.1 1.2 ได้รับเลือกให้เป็นผู้สมัครนายก อบจ. จากพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังพรรคถูกยุบ จึงย้ายมาสังกัดคณะก้าวหน้าแทน
แต่ถึงอย่างนั้น คณะก้าวหน้าก็สามารถส่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 57 ราย จาก 18 จังหวัด [7]
|
|
ต่อมาในปี พ.ศ. 2564 มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ คณะก้าวหน้าได้ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี 106 เทศบาล และได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 15 เทศบาล ประกอบด้วยลำพูน 3 ราย, ร้อยเอ็ด 3 ราย, หนองบัวลำภู 3 ราย, อุดรธานี 3 ราย, มุกดาหาร 2 ราย, และสมุทรปราการ 1 ราย [8] และในช่วงการเลือกตั้งซ่อมนายกเทศมนตรีด่านสำโรง ซึ่งจัดขึ้นเนื่องจาก นายสมพงษ์ วีรชาติวัฒนา เสียชีวิตกะทันหัน คณะก้าวหน้าก็ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้[9]
และในปีเดียวกันนั้น คณะก้าวหน้าได้ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งหมด 196 ราย ทั่วประเทศ และได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 38 ราย คิดเป็น 19.4 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด[10] อยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดชัยภูมิ, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดนครปฐม, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดน่าน, จังหวัดบึงกาฬ, จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดเพชรบูรณ์, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดสุพรรณบุรี, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดหนองบัวลำภู, และจังหวัดอุดรธานี [11]
ในการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา พ.ศ. 2565 คณะก้าวหน้าได้ส่ง กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย ลงสมัครนายกเมืองพัทยา[12] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยได้คะแนนทั้งสิ้น 8,794 คะแนน เป็นลำดับที่สาม
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครปากเกร็ด เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2566 ทางคณะก้าวหน้าได้ส่ง นายนนทกร จันทร์จำรัสแสง ลงชิงตำแหน่งแข่งกับ ว่าที่ร้อยตรี ภาณุพงศ์ บรรดาศักดิ์ จากกลุ่มนายวิชัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของนายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด ผลปรากฏว่านายนนทกรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับว่าที่ร้อยตรีภาณุพงศ์[13]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่างเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ทางคณะก้าวหน้าได้ส่ง มนตรี แสนเวียงจันทร์ ลงชิงตำแหน่งแข่งกับ พิสิษฐ์ ประเสริฐพงษ์ จากกลุ่มเรารักชลบุรี[14] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[15]
ทิศทางของคณะก้าวหน้าในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งถัดไป
[แก้]พรรณิการ์ วานิช ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ วอยซ์ทีวี หลังจากที่พรรคก้าวไกลได้ประกาศว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบต่อไป ทางพรรคจะส่งผู้สมัครด้วยตนเองว่า คณะก้าวหน้าจะยังคงทำงานด้านความคิดให้กับผู้คนต่อไป และจะเป็นกลุ่มที่มีความรู้เรื่องท้องถิ่นมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการทำงานท้องถิ่นเดิมเป็นความตั้งใจมาตั้งแต่ยุคพรรคอนาคตใหม่ ว่าจะเป็นพรรคการเมืองแรกที่ลงสมัครเลือกตั้งทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับประเทศ หรือระดับท้องถิ่น แต่พรรคกลับถูกยุบเสียก่อนที่จะเกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้น พรรณิการ์ยังได้กล่าวอีกว่า ไม่กังวลเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือเรียกว่า บ้านใหญ่ เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา 2 ครั้ง ชี้ชัดแล้วว่า พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลเอาชนะบ้านใหญ่ได้แล้ว เหลือเพียงบางกลุ่มเท่านั้น[16]
สนับสนุนกลุ่มประกันสังคมก้าวหน้า
[แก้]คณะก้าวหน้าเปิดตัว กลุ่มประกันสังคมก้าวหน้า พร้อมกับเปิดตัวผู้สมัครฝ่ายผู้ประกันตนทั้ง 7 คน ซึ่งจะลงสมัครใน การเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม พ.ศ. 2566 พร้อมกับชูนโยบายประกันสังคม 14 ข้อ นอกจากนี้ ผู้สมัครกลุ่มประกันสังคมก้าวหน้ายังได้กล่าวว่า ใน 2 ปีแรกของการได้รับเลือกตั้ง จะงดการดูงานต่างประเทศ[17]
ภายหลังการเลือกตั้ง ผู้สมัคร 6 ใน 7 ของกลุ่มได้ชนะการเลือกตั้ง ยกเว้นธนพร วิจันทร์ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัคร[18]
สนับสนุนการสมัคร สว.
[แก้]คณะก้าวหน้าได้มีการประชุมร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw - ไอลอว์) ในการส่งผู้สมัครในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไทย พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นการสรรหาโดยให้ผู้สมัครลงคะแนนเสียงกันเอง เนื่องจากผู้สมัครไม่สามารถสังกัดหรือเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองได้ คณะก้าวหน้าจึงรับหน้าที่ร่วมกับไอลอว์โดยการส่งผู้สมัคร สว. เข้าประกอบในทุกพื้นที่ โดยจะมีการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งประมาณ 100 คนทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว โดยการผลักดันผู้สมัครรับเลือกตั้ง สว.ในครั้งนี้ มีวาระเพื่อขับเคลื่อนการแก้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และลดอำนาจองค์กรอิสระ[19]
นอกจากนี้ คณะก้าวหน้ายังมีการรณรงค์การลงสมัครสมาชิกวุฒิสภาอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยตำแหน่งวุฒิสภานั้น นอกจากจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้ว วุฒิสภาชุดใหม่สามารถลงมติให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบให้กับบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครองสูงสุด, หรือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นต้น[20]
ภายหลังการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเสร็จสิ้น พบว่ามีสมาชิกของคณะก้าวหน้าได้รับการคัดเลือกเป็น สว. ด้วย คือ วีรยุทธ สร้อยทอง สว.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME โดยวีรยุทธเป็นนักนโยบายของคณะก้าวหน้า ผู้ทำนโยบายน้ำประปาดื่มได้[21]
ความสำเร็จ
[แก้]อ่านปั้นฝัน
[แก้]คณะก้าวหน้ามีความเห็นว่าในช่วงอายุ 2-6 ขวบ คือช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กเล็ก ทั้งในทางร่างกาย ความคิด และจิตใจของพวกเขา การดูแลเด็กในช่วงอายุนี้ จึงมีความสำคัญไม่แพ้กับการศึกษาในข่วงวัยอื่นๆ และอาจจะมีความสำคัญที่สุดด้วยซ้ำ แต่เมื่อมาดูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ยังไม่มีมีหนังสือนิทานดีๆ ในจำนวนที่มากพอให้กับลูกหลานและคุณครู แค่การมีโครงสร้างอาคารที่ดี มีสุขอนามัย มีความสะอาด มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นและของเล่นที่เพียงพอยังหาได้ยากมาก ไม่ต้องพูดถึงการดูแลเอาใจใส่คุณครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้มีองค์ความรู้และเครื่องมือทางการศึกษาที่ดีและเพียงพอในการดูแลลูกหลานของคนในชุมชน ด้วยงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรอย่างจำกัด คณะก้าวหน้า จึงได้ทำโครงการอ่านปั้นฝันร่วมกับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลหลายแห่งที่คณะก้าวหน้าให้คำปรึกษาอยู่ ในการจัดหาหนังสือนิทานที่มีคุณภาพ จากการบริจาคสนับสนุนโดยภาคเอกชน มามอบให้แก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เข้าร่วมโครงการที่ละ 100 แห่ง พร้อมอบรมคุณครูให้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้นิทานเป็นเครื่องมือส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็ก โดยกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า ได้นำทีมงานเข้ามาอบรมและมอบหนังสือนิทานและสื่อการเรียนรู้ที่สำคัญ ให้แก่คุณครู ศพด. ที่เข้าร่วมโครงการ ในหลายจังหวัด เช่น ที่อุดรธานี มุกดาหาร ลำพูน หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ซึ่งโครงการอ่านปั้นฝันของคณะก้าวหน้าเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคุณครู ที่จะได้มีอุปกรณ์สำคัญในการดูแลพัฒนาการของเด็กเล็กเพิ่มมากขึ้น สำหรับเด็กเล็ก พวกเขาได้สนุกสนานไปกับหนังสือนิทาน ได้เปิดดูภาพ ได้จินตนาการ ได้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้อ่านร่วมกับเพื่อนๆ และคุณครูของเขา และยังได้ยืมกลับไปบ้าน ไปให้ผู้ปกครองอ่านให้ฟัง หรือบางบ้านผู้ปกครองก็เป็นฝ่ายได้ฟังนิทานจากการอ่านของลูกหลานก็มี ทำให้เกิดกิจกรรมร่วมกันระหว่างเด็ก ครู และผู้ปกครอง สร้างสรรค์พัฒนาการให้เด็กเล็กในชุมชนของพวกเขาไปด้วยกัน[22] ซึ่งต่อมาคณะก้าวหน้าได้ส่งมอบตู้ “อ่านปั้นฝัน” ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลายแห่ง เพื่อส่งต่อหนังสือนิทานดีกว่า 100 เล่ม และสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและทำงานร่วมด้วย ซึ่งโครงการอ่านปั้นฝันเป็นโครงการส่งต่อหนังสือดีที่ถูกคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กเล็กกว่า 100 เล่ม พร้อมสื่อการเรียนการสอนที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เป็นมิตร และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของเด็กเล็ก ที่เป็นหัวใจสำคัญของอนาคตด้านการศึกษาของเด็กเล็ก โดยกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางถึงจังหวัดอุดรธานี เพื่อส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 13 แห่ง ในเทศบาลตำบลปะโค เทศบาลตำบลศรีธาตุ เทศบาลตำบลบ้านยวด เทศบาลตำบลที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและทำงานร่วมด้วย เพื่อนำเอาตู้อ่านปั้นฝันไปใช้พัฒนาทักษะการเรียนของเด็กเล็กและช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมในท้องถิ่นต่อไป[23] ปัจจุบันคณะก้าวหน้าสามารถส่งต่อตู้อ่านปั้นฝันไปยังศูนย์เด็กเล็กในการดูแลแล้ว 8 แห่ง และเตรียมขยายพื้นที่ออกไปอีก 13 แห่ง โดยในช่วงที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าได้ส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันไปยังเทศบาลตำบลสองแห่งได้แก่ เทศบาลตำบลเหมืองจี้ และ เทศบาลตำบลทากาศเหนือ โดยมี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้งหมด 7 แห่งเข้าร่วมเวิร์กช็อปและรับมอบตู้อ่านปั้นฝัน นอกจากนี้ ยังได้ทำการส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันให้กับเทศบาลตำบลในสังกัดคณะก้าวหน้า จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ เทศบาลตำบลปะโค เทศบาลตำบลบ้านยอด และเทศบาลตำบลศรีธาตุ ทั้งหมดอีก 13 ตู้[24]
Baby Box
[แก้]คณะก้าวหน้าได้นำร่องโครงการกล่องของขวัญแรกเกิด (Baby Box) โดยนำร่องที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งภายในกล่อง Baby Box มีอุปกรณ์ที่และสิ่งของจำเป็นสำหรับแม่และเด็ก พร้อมทั้งคู่มือการใช้กล่อง โดยมีเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำแพงแสน และเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตร ร่วมให้ความรู้แนะนำแนวทางการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโตตามวัยและมีพัฒนาการตามเกณฑ์[25]
ประปาดื่มได้
[แก้]หลังจากเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล คณะก้าวหน้าได้นำร่องนโยบาย ประปาดื่มได้ โดยเริ่มที่เทศบาลตำบลอาจสามารถ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเทพพร จำปานวน นายกเทศมนตรีตำบลอาจสามารถกล่าวไว้ว่า ตนและทีมงานคณะก้าวหน้าตั้งใจว่าใน 99 วันแรกของการทำงาน หรือประมาณ 3 เดือนแรกนี้ จะต้องทำให้น้ำประปาดื่มได้ให้เป็นจริง[26]
วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เป็นเวลา 6 เดือนนับจากการประกาศนโยบายประปาดื่มได้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบเกียรติบัตรให้กับเทศบาล เนื่องจากมีคุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์คุณภาพบริโภค[27]
วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เทศบาลตำบลอาจสามารถได้รับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประเภทเทศบาลตำบลโดดเด่น โดยได้รับรางวัลที่ 1 พร้อมกับเงินรางวัลมูลค่า 3,200,000 บาท[28] และในปี พ.ศ. 2567 ก็ยังได้รับรางวัลที่ 1 เป็นปีที่สอง
ในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567 เทศบาลตำบลอาจสามารถได้รับรางวัลชนะเลิศในโครงการประกวดน้ำประปาสะอาดดื่มได้ ซึ่งจัดโดยกระทรวงมหาดไทย โดยได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท
พรรณิการ์ วานิช ได้ประกาศรายชื่อพื้นที่ที่โครงการประปาดื่มได้ทำสำเร็จ และได้รับเกียรติบัตรจากกรมอนามัย เนื่องจากมีคุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์คุณภาพบริโภค มีดังนี้[29]
- เทศบาลตำบลอาจสามารถ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด
- เทศบาลตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
- เทศบาลตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร
- องค์การบริหารส่วนตำบลดอนงัว อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
- องค์การบริหารส่วนตำบลนาบัว อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี
แอพลิเคชันฟองดูว์
[แก้]คณะก้าวหน้าได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดย ธงชัย โชคดำรงสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้เข้าร่วมการอบรมที่จัดอบรมความรู้ เริ่มเปิดใช้งานแอพลิเคชัน “ฟองดูว์” แอพลิเคชั่นแจ้งปัญหาต่างๆ สำหรับประชาชนในพื้นที่กำแพงแสน เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา หลังจากที่ธงชัย โชคดำรงสุข ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่กำแพงแสนให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ก็ได้เร่งทำตามนโยบายหลักตามเมนูนโยบายของคณะก้าวหน้าที่ได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชนในทันที สำหรับฟองดูว์ คณะก้าวหน้าได้เปิดตัวแอพลิเคชั่นนี้ไปเมื่อกลางปีพ.ศ. 2564 ภายใต้ความร่วมมือกับเทศบาลในสังกัดคณะก้าวหน้า 16 แห่ง และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่และมีสถิติการใช้เพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือน ปัจจุบันความสำเร็จดังกล่าว ทำให้หลายเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล หลายแห่งเดินหน้าอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อนำฟองดูว์ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตน[30] นอกจากที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสนแล้ว ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสูง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี พงษ์พิพัฒน์ โคตรกำกับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสูง ได้เริ่มต้นที่การเปิดใช้ "ฟองดูว์" แอพลิเคชั่นแจ้งเตือนปัญหาแบบเรียลไทม์ให้กับประชาชน ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาที่ประชาชนได้ลองเรียนเข้ามา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ปัญหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว[31]
โครงการขยะก้าวหน้า
[แก้]คณะก้าวหน้าได้ผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในทุกเทศบาลตำบลที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน โดยได้จัดทำ"โครงการขยะก้าวหน้า" ซึ่งมีเทศบาลตำบลขวาว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพื้นที่นำร่อง มีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนพ่อค้าแม่ขายในตลาดสดเทศบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการจัดการขยะที่สามารถสร้างมูลค่าและลดปัญหามลภาวะรบกวน[32]
โครงการเปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ
[แก้]ในพื้นที่เทศบาลตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน ได้มีการจัดทำโครงการ "เปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ" ของเทศบาลตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โดยเปิดให้ประชาชนนำเอาขยะที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือเป็นขยะที่สามารถสร้างมูลค่าได้ นำไปขายยังธนาคารขยะ รายได้จากการขายขยะก็จะนำไปสะสมในกองทุนฌาปนกิจของสมาชิก ซึ่งจะถูกนำไปสมทบและคำนวณ เแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในอนาคตหากมีพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งธนาคารขยะของเทศบาลตำบลหนองแคน เปิดรับขยะจากสมาชิก และได้รับขยะทั้งสิ้น 1,185 กิโลกรัม หรือคิดเป็นตัวเลขประมาณส 1 ตัน สำหรับการทำกิจกรรมในครั้งแรก เดิมธนาคารขยะและกองทุนฌาปนกิจของ เทศบาลตำบลหนองแคน มีสมาชิกทั้งหมด 132 ราย เมื่อเปิดรับขยะวันแรกมีผู้สนใจสมัครร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มเติมอีก 19 ราย ทำให้เห็นถึงความสนใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยขยะที่ได้รับจากการเปิดรับของธนาคารขยะในครั้งแรก ส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทพลาสติกรวม มีประชาชนกว่า 36 ครัวเรือนจาก 3 หมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรมอย่างหนาแน่น[33]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ ""ธนาธร" ประกาศตั้ง "คณะอนาคตใหม่" ยัน ก้าวเดินต่อไป ด้วยความมั่นคง". www.thairath.co.th. 2020-02-21.
- ↑ 2.0 2.1 เป็นทางการ! 'ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ'เปิดตัว 'คณะก้าวหน้า'ปักธงความคิด-สถาปนาอำนาจนำใหม่
- ↑ ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิคณะก้าวหน้า
- ↑ ‘มูลนิธิคณะก้าวหน้า’ จดทะเบียนตั้งเป็นทางการแล้ว มี ธนาธร เป็นประธาน ปิยบุตร กรรมการ
- ↑ "เปิดรายได้-เงินบริจาค ก้าวไกล มีเท่าไหร่ หลังยุบพรรคถูกโอนไปไหน". ประชาชาติธุรกิจ. 10 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 19 สิงหาคม 2024.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "แถลงการณ์จากประธานคณะก้าวหน้า กรณีผลการเลือกตั้ง อบจ. 2563". คณะก้าวหน้า.
- ↑ "สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ได้รับเลือกในนามคณะก้าวหน้า". คณะก้าวหน้า.
- ↑ "ก้าวหน้าซิวเทศบาลได้15นายก". khaosod.co.th. 2021-03-30.
- ↑ "'ไพศาล' คณะก้าวหน้า คว้าชัย 'นายก ทต.ด่านสำโรง' แถลงขอบคุณทุกคะแนน รับแข่งดุเดือด". matichon.co.th. 2022-08-14.
- ↑ "'คณะก้าวหน้า' คว้าชัย 38 อบต. ขณะที่ อุบลฯ ผู้สมัครหน้าใหม่สายเพื่อไทย ล้มแชมป์อื้อ". ประชาไท. 2021-11-29.
- ↑ "เปิด 17 จว. "ก้าวหน้า" ชนะนายก อบต. 38 ที่นั่ง "ธนาธร" ปักธง "นายกฯพัทยา" ต่อ". bangkokbiznews.com. 2021-11-29.
- ↑ "'ธนาธร' นำคณะก้าวหน้าเปิดตัว 'กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย' ลงเลือกตั้งชิงเก้านายกเมืองพัทยา". workpointTODAY.
- ↑ ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ท.นครปากเกร็ด ไม่เป็นทางการ ‘ภาณุพงศ์’ หลานวิชัย ชนะคณะก้าวหน้าขาดลอย
- ↑ "เลือกซ่อม 'ชลบุรี-รังสิต' สนามเล็ก เช็กพลัง 'สีส้ม'". bangkokbiznews. 2024-05-31.
- ↑ "บ้านใหญ่ชลฯ โค่นก้าวไกล คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.ชลบุรี ชนะท่วมท้น". www.thairath.co.th. 2024-06-02.
- ↑ ‘คณะก้าวหน้า’ นำร่องลุยสนามท้องถิ่น ปูทาง ‘ก้าวไกล’ รับไม้ต่อทลายบ้านใหญ่ #WakeUpThailand, สืบค้นเมื่อ 2023-10-06
- ↑ "เปิดตัวทีมประกันสังคมก้าวหน้า ชู 14 นโยบาย-ก้าวแรกสู่รัฐสวัสดิการ". workpointTODAY.
- ↑ ""ทีมประกันสังคมก้าวหน้า" ขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลังชนะเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม". www.thairath.co.th. 2023-12-25.
- ↑ ""ก้าวหน้า-ไอลอว์" เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร สว. 27 มี.ค.นี้ เปิดหน้าสู้ขั้วอำนาจเดิม". www.thairath.co.th. 2024-03-23.
- ↑ แจ๊ค (2024-04-24). "คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง".
- ↑ "200 สว. ใหม่ แบ่ง เป็น สาย ใดบ้าง?". THE STANDARD. 2024-07-02.
- ↑ "อ่านปั้นฝัน : เพราะหนังสือคือการสร้างอนาคตของชาติที่ทันโลก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement". 2022-02-10.
- ↑ "เพราะการอ่านเปลี่ยนอนาคต คณะก้าวหน้า ลุยด้านการศึกษา "อ่านปั้นฝัน" เพื่อเปลี่ยนท้องถิ่น คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-06-02.
- ↑ "อัปเดตโครงการอ่านปั้นฝัน เตรียมส่งต่ออีกหลายพื้นที่ คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-05-12.
- ↑ Thesender - (2023-02-07). "นายกฯ อบต.คณะก้าวหน้าสุดล้ำ นำร่องมอบ baby Box ของขวัญแรกเกิดให้เด็ก มุ่งสร้างสวัสดิการครบวงจร". ThesenderTH. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-25. สืบค้นเมื่อ 2023-09-25.
- ↑ "99 วัน หลังรับตำแหน่ง นายกฯ "เทศบาลก้าวหน้า" มั่นใจ "น้ำประปาดื่มได้" เป็นจริง !". คณะก้าวหน้า. 2021-05-18.
- ↑ "ธนาธร ปลื้ม เทศบาลก้าวหน้า ทำน้ำประปาดื่มได้ ได้การรับรองระดับ 'กรมอนามัย'". khaosod.co.th. 2021-12-09.
- ↑ "ประกาศ ก.ก.ถ. เรื่อง ผลการคัดเลือก อปท. 66.pdf". Google Docs.
- ↑ "ปชน.ขนทัพช่วย 'คณิศร' ชิงนายก อบจ.อุดร ชู 6 นโยบายด่วน 'น้ำประปาดื่มได้' ทำทันทีปีแรก". prachatai.com. 2024-11-17.
- ↑ "อบต.ก้าวหน้าขยับ อบต. กำแพงแสน เริ่มระบบ "ฟองดูว์" พ่วงน้ำประปาดื่มได้ มุ่งมั่นยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชนรอบด้านตลอดทั้งปี คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-04-02.
- ↑ "บ่ต้องซอมเบิ่งแล้วเด้อ ไผมีปัญหา ฟ้องโลดฟองดูว์!!! อบต. โพนสูง เปิดใช้ "ฟองดูว์" แอพแจ้งปัญหา ให้พ่อใหญ่แม่ใหญ่ มาจ่ม มาฟ้อง มาฮ้องเฮียน ปัญหาบ้านเฮา คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-03-03.
- ↑ "หนองแคน-โพนทราย คึกคัก "เปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ" เริ่มครั้งแรกประชาชนขายขยะกว่า 1 ตัน คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-02-02.
- ↑ "หนองแคน-โพนทราย คึกคัก "เปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ" เริ่มครั้งแรกประชาชนขายขยะกว่า 1 ตัน คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-02-02.