ข้ามไปเนื้อหา

คณะก้าวหน้า

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คณะก้าวหน้า
ผู้ก่อตั้งธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ปิยบุตร แสงกนกกุล
พรรณิการ์ วานิช
ประธานธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เลขาธิการปิยบุตร แสงกนกกุล
โฆษกพรรณิการ์ วานิช
ที่ปรึกษาพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ก่อตั้ง18 มีนาคม พ.ศ. 2563; 4 ปีก่อน (2563-03-18)
ก่อนหน้าพรรคอนาคตใหม่
(สมาชิกที่โดนตัดสิทธิ์)

พรรคก้าวไกล
(สมาชิกที่โดนตัดสิทธิ์)
ที่ทำการ167 อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 5 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
อุดมการณ์พิพัฒนาการนิยม
ประชาธิปไตยสังคมนิยม
จุดยืนซ้ายกลาง ถึง ซ้าย
เว็บไซต์
progressivemovement.in.th
pgmf.in.th (มูลนิธิคณะก้าวหน้า)

คณะก้าวหน้า (อังกฤษ: Progressive Movement) เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ก่อตั้งโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พรรณิการ์ วานิช เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563 ภายหลังจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเคลื่อนไหวนอกสภาเป็นหลัก คู่ขนานไปกับการทำงานในสภาของพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชนตามลำดับ เดิมชื่อ คณะอนาคตใหม่[1] แต่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อเลี่ยงข้อกฎหมาย โดยในปีถัดมาได้มีการจัดตั้งมูลนิธิขึ้นในชื่อ มูลนิธิคณะก้าวหน้า

คณะกรรมการบริหาร

[แก้]

กรรมการบริหารของคณะก้าวหน้า เดิมคือ 12 ใน 16 ของอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ในปี พ.ศ. 2563 ก่อนที่ต่อมาในปี พ.ศ. 2567 จะมี 11 อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เข้ามาร่วมด้วย รวมจำนวน 27 คน ซึ่งทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ดังต่อไปนี้

นโยบาย

[แก้]

คณะก้าวหน้ามีภารกิจหลัก 3 ประการคือ

  1. การสร้างเครือข่ายทั่วประเทศไทย
  2. รณรงค์ทางความคิดทั่วประเทศไทย
  3. รณรงค์หาเสียงให้กับการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับทั่วประเทศไทย[2]

นอกจากนี้คณะก้าวหน้ายังรณรงค์อีก 12 ประการ ได้แก่

  • ปฏิรูปการศึกษา
  • รัฐสวัสดิการ
  • ปฏิรูปที่ดิน
  • ทลายทุนผูกขาด
  • สิ่งแวดล้อม
  • เกษตรก้าวหน้า
  • ปฏิรูปกองทัพ
  • ยุติรัฐราชการรวมศูนย์
  • ความหลากหลายทางวัฒนธรรม
  • ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
  • เศรษฐกิจก้าวหน้าและเป็นธรรม
  • การรณรงค์ให้มีการทำรัฐธรรมนูญใหม่ในฐานะที่เป็นฉันทามติใหม่ของสังคมไทยร่วมกัน[2]

มูลนิธิคณะก้าวหน้า

[แก้]
เครื่องหมายมูลนิธิคณะก้าวหน้า

ต่อมาในวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้ง มูลนิธิคณะก้าวหน้า[3] โดยมีสมาชิกดังต่อไปนี้

อันดับ ชื่อ ตำแหน่ง
1 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ
2 ชำนาญ จันทร์เรือง รองประธานกรรมการ
3 พลโท พงศกร รอดชมภู
4 สุรชัย ศรีสารคาม
5 ปิยบุตร แสงกนกกุล กรรมการ
6 พรรณิการ์ วานิช
7 เดชรัต สุขกำเนิด
8 สุนทร บุญยอด
9 ชัน ภักดีศรี
10 เจนวิทย์ ไกรสินธุ์
11 ไกลก้อง ไวทยการ
12 เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการและเหรัญญิก
13 กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ กรรมการและเลขานุการ

มูลนิธิคณะก้าวหน้ามีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. ส่งเสริมการศึกษา วิจัย ด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่น ๆ
  2. ส่งเสริมการแปลหนังสือภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย
  3. เผยแพร่ความรู้หรือผลงานการศึกษาวิจัยด้านสังคมศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และอื่นๆ ให้แพร่หลายแก่ประชาชน
  4. ส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ดำเนินกิจกรรมค่ายศึกษาอบรมเกี่ยวกับการเสริมสร้างค่านิยมประชาธิปไตย
  5. ส่งเสริมและให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่ยากไร้
  6. ส่งเสริมและสนับสนุนการสังคมสงเคราะห์ที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส
  7. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการกีฬาทุกประเภท
  8. เพื่อส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยความเป็นกลาง และไม่ให้การสนับสนุนด้านการเงินหรือทรัพย์สินแก่นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใด

โดยมีการประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเพื่อจัดตั้งมูลนิธิอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 กันยายน ปีเดียวกัน ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 500,000 บาท[4]

ทั้งนี้ หลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบในปี พ.ศ. 2567 ภายหลังชำระบัญชีโดยการหักหนี้สินและค่าใช้จ่ายแล้ว ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของพรรคจะถูกโอนไปยังมูลนิธิคณะก้าวหน้าทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค[5]

การเลือกตั้งท้องถิ่น

[แก้]

ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 คณะก้าวหน้าได้ส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหมด 42 จังหวัด ทว่าไม่มีผู้ใดได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม้แต่รายเดียว[6]

ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของคณะก้าวหน้า
จังหวัด นาม คะแนนเสียง ผลการเลือกตั้ง หลังจากการเลือกตั้ง
ภาคเหนือ
พะเยา ชัยประพันธ์ สิงห์ชัย 68,964
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2567 ในนามกลุ่มพะเยาก้าวไกล
แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
แพร่ สุภวัฒน์​ ศุภศิริ 45,373
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลป่าแมต จังหวัดแพร่
อุตรดิตถ์ ปัณณวัฒน์ นาคมูล 33,558
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 49,983
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย ในปี พ.ศ. 2566
นครราชสีมา สาธิต ปิติวรา[a] 255,482
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง ในนามพรรคประชาชน
บึงกาฬ ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น 34,917
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามพรรคเพื่อไทย
มุกดาหาร สุพจน์ สุอริยพงษ์ 32,087
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามพรรคประชาชน
ยโสธร สฤษดิ์ ประดับศรี 100,297
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.ยโสธร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในปี พ.ศ. 2566
ร้อยเอ็ด สถาพร ว่องสัธนพงษ์ 94,324
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 พรรคเพื่อไทย ในปี พ.ศ. 2566
สกลนคร ณรงเดช อุฬารกุล 91,466
(ลำดับที่ 4)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
สุรินทร์ มานพ แสงดำ 57,808
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
หนองคาย กฤศภณ หล้าวงศา 50,333
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.หนองคาย เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ในปี พ.ศ. 2566
กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามอิสระ
หนองบัวลำภู สมเกียรติ เชษฐสุมน 36,752
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.หนองบัวลำภู เขต 3 พรรคก้าวไกล ในปี พ.ศ. 2566
(ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
อำนาจเจริญ ชัยศรี กีฬา 15,770
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
อุดรธานี ฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ 185,801
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.อุดรธานี เขต 8 พรรคไทยสร้างไทย ในปี พ.ศ. 2566
อุบลราชธานี เชษฐา ไชยสัตย์ 100,164
(ลำดับที่ 4)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ภาคกลาง
กำแพงเพชร อภิสิทธิ พรมฤทธิ์ 41,137
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า
นครปฐม ชัชวาล นันทะสาร 74,868
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
นครสวรรค์ ศรัญ ฤกษ์อัตการ 67,136
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตกรรมการจังหวัดนครสวรรค์
นนทบุรี ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ[a] 139,401
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
พระนครศรีอยุธยา วัสพงศ์ วิทูรเมธา 90,739
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้
พิจิตร มาโนช วัฒนประสิทธิ 8,409
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
พิษณุโลก ณชพล พลอาสา 32,967
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
ลพบุรี ฤทธิ์ พัวพันธ์ 23,760
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
สมุทรปราการ ธัชชัย เมตโต 74,531
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
สมุทรสงคราม อานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย 13,087
(ลำดับที่ 4)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็น สส.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน
สมุทรสาคร อวยชัย จาตุรพันธ์ 26,463
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้
สระบุรี วิทูลย์ แก้วสุวรรณ 14,378
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
สิงห์บุรี สุรชัย บุญลือ 8,756
(ลำดับที่ 4)
ไม่ พ่ายแพ้
อ่างทอง โยธิน เปาอินทร์ 45,637
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ภาคตะวันออก
ฉะเชิงเทรา จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ 128,129
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบางผึ้ง และอดีตผู้สมัคร สส.ฉะเชิงเทรา
เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในปี พ.ศ. 2566
ชลบุรี พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง 167,354
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้
ปราจีนบุรี กฤษณ์กมล แพงศรี 56,623
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามอิสระ
ระยอง สว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์[a] 61,583
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็น สส.ระยอง เขต 5 พรรคประชาชน
ภาคตะวันตก
ตาก คริษฐ์ ปานเนียม 41,656
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็น สส.ตาก เขต 1 พรรคประชาชน
ราชบุรี ภรมน นรการกุมพล 74,929
(ลำดับที่ 2)
ไม่ พ่ายแพ้ ปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดราชบุรี
ภาคใต้
นครศรีธรรมราช นายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ 9,825
(ลำดับที่ 6)
ไม่ พ่ายแพ้
นราธิวาส คอยรูซามัน​ มะ 2,567
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ อดีตผู้สมัคร สว. กลุ่มที่ 20
พังงา สุทธิโชค ทองชุมนุม 19,665
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้ กลับมาลงสงสมัครอีกครั้งในปี พ.ศ. 2568 ในนามพรรคประชาชน
ภูเก็ต สรวุฒิ ปาลิมาพันธ์ 15,375
(ลำดับที่ 3)
ไม่ พ่ายแพ้
สุราษฎร์ธานี พงษ์ศักดิ์ โพธิครูประเสริฐ 9,794
(ลำดับที่ 5)
ไม่ พ่ายแพ้
  1. 1.0 1.1 1.2 ได้รับเลือกให้เป็นผู้สมัครนายก อบจ. จากพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังพรรคถูกยุบ จึงย้ายมาสังกัดคณะก้าวหน้าแทน


แต่ถึงอย่างนั้น คณะก้าวหน้าก็สามารถส่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด 57 ราย จาก 18 จังหวัด [7]

สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับเลือกตั้ง
จังหวัด จำนวน ส.อบจ. (คน)
ฉะเชิงเทรา 10
ชลบุรี 1
นนทบุรี 3
น่าน 1
บึงกาฬ 1
พะเยา 1
ภูเก็ต 1
มุกดาหาร 1
ยโสธร 7
ร้อยเอ็ด 3
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับเลือกตั้ง
จังหวัด จำนวน ส.อบจ. (คน)
ระยอง 1
ลำพูน 2
สกลนคร 2
สมุทรปราการ 1
สมุทรสาคร 1
หนองคาย 5
หนองบัวลำภู 2
อ่างทอง 1
อุดรธานี 10
อุตรดิตถ์ 3

ต่อมาในปี พ.ศ. 2564 มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ คณะก้าวหน้าได้ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี 106 เทศบาล และได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 15 เทศบาล ประกอบด้วยลำพูน 3 ราย, ร้อยเอ็ด 3 ราย, หนองบัวลำภู 3 ราย, อุดรธานี 3 ราย, มุกดาหาร 2 ราย, และสมุทรปราการ 1 ราย [8] และในช่วงการเลือกตั้งซ่อมนายกเทศมนตรีด่านสำโรง ซึ่งจัดขึ้นเนื่องจาก นายสมพงษ์ วีรชาติวัฒนา เสียชีวิตกะทันหัน คณะก้าวหน้าก็ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้[9]

และในปีเดียวกันนั้น คณะก้าวหน้าได้ส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งหมด 196 ราย ทั่วประเทศ และได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 38 ราย คิดเป็น 19.4 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่ส่งทั้งหมด[10] อยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดชัยภูมิ, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดนครปฐม, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดน่าน, จังหวัดบึงกาฬ, จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดเพชรบูรณ์, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดร้อยเอ็ด, จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดสุพรรณบุรี, จังหวัดหนองคาย, จังหวัดหนองบัวลำภู, และจังหวัดอุดรธานี [11]


ในการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา พ.ศ. 2565 คณะก้าวหน้าได้ส่ง กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย ลงสมัครนายกเมืองพัทยา[12] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยได้คะแนนทั้งสิ้น 8,794 คะแนน เป็นลำดับที่สาม


ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครปากเกร็ด เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2566 ทางคณะก้าวหน้าได้ส่ง นายนนทกร จันทร์จำรัสแสง ลงชิงตำแหน่งแข่งกับ ว่าที่ร้อยตรี ภาณุพงศ์ บรรดาศักดิ์ จากกลุ่มนายวิชัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของนายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด ผลปรากฏว่านายนนทกรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับว่าที่ร้อยตรีภาณุพงศ์[13]

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่างเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ทางคณะก้าวหน้าได้ส่ง มนตรี แสนเวียงจันทร์ ลงชิงตำแหน่งแข่งกับ พิสิษฐ์ ประเสริฐพงษ์ จากกลุ่มเรารักชลบุรี[14] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[15]


ทิศทางของคณะก้าวหน้าในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งถัดไป

[แก้]

พรรณิการ์ วานิช ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ วอยซ์ทีวี หลังจากที่พรรคก้าวไกลได้ประกาศว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบต่อไป ทางพรรคจะส่งผู้สมัครด้วยตนเองว่า คณะก้าวหน้าจะยังคงทำงานด้านความคิดให้กับผู้คนต่อไป และจะเป็นกลุ่มที่มีความรู้เรื่องท้องถิ่นมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการทำงานท้องถิ่นเดิมเป็นความตั้งใจมาตั้งแต่ยุคพรรคอนาคตใหม่ ว่าจะเป็นพรรคการเมืองแรกที่ลงสมัครเลือกตั้งทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับประเทศ หรือระดับท้องถิ่น แต่พรรคกลับถูกยุบเสียก่อนที่จะเกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้น พรรณิการ์ยังได้กล่าวอีกว่า ไม่กังวลเรื่องผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือเรียกว่า บ้านใหญ่ เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา 2 ครั้ง ชี้ชัดแล้วว่า พรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลเอาชนะบ้านใหญ่ได้แล้ว เหลือเพียงบางกลุ่มเท่านั้น[16]

สนับสนุนกลุ่มประกันสังคมก้าวหน้า

[แก้]

คณะก้าวหน้าเปิดตัว กลุ่มประกันสังคมก้าวหน้า พร้อมกับเปิดตัวผู้สมัครฝ่ายผู้ประกันตนทั้ง 7 คน ซึ่งจะลงสมัครใน การเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม พ.ศ. 2566 พร้อมกับชูนโยบายประกันสังคม 14 ข้อ นอกจากนี้ ผู้สมัครกลุ่มประกันสังคมก้าวหน้ายังได้กล่าวว่า ใน 2 ปีแรกของการได้รับเลือกตั้ง จะงดการดูงานต่างประเทศ[17]

ภายหลังการเลือกตั้ง ผู้สมัคร 6 ใน 7 ของกลุ่มได้ชนะการเลือกตั้ง ยกเว้นธนพร วิจันทร์ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัคร[18]

สนับสนุนการสมัคร สว.

[แก้]

คณะก้าวหน้าได้มีการประชุมร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw - ไอลอว์) ในการส่งผู้สมัครในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไทย พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นการสรรหาโดยให้ผู้สมัครลงคะแนนเสียงกันเอง เนื่องจากผู้สมัครไม่สามารถสังกัดหรือเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองได้ คณะก้าวหน้าจึงรับหน้าที่ร่วมกับไอลอว์โดยการส่งผู้สมัคร สว. เข้าประกอบในทุกพื้นที่ โดยจะมีการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งประมาณ 100 คนทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว โดยการผลักดันผู้สมัครรับเลือกตั้ง สว.ในครั้งนี้ มีวาระเพื่อขับเคลื่อนการแก้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และลดอำนาจองค์กรอิสระ[19]

นอกจากนี้ คณะก้าวหน้ายังมีการรณรงค์การลงสมัครสมาชิกวุฒิสภาอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยตำแหน่งวุฒิสภานั้น นอกจากจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญแล้ว วุฒิสภาชุดใหม่สามารถลงมติให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบให้กับบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เช่น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ, ศาลปกครองสูงสุด, หรือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นต้น[20]

ภายหลังการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเสร็จสิ้น พบว่ามีสมาชิกของคณะก้าวหน้าได้รับการคัดเลือกเป็น สว. ด้วย คือ วีรยุทธ สร้อยทอง สว.กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SME โดยวีรยุทธเป็นนักนโยบายของคณะก้าวหน้า ผู้ทำนโยบายน้ำประปาดื่มได้[21]

ความสำเร็จ

[แก้]

อ่านปั้นฝัน

[แก้]

คณะก้าวหน้ามีความเห็นว่าในช่วงอายุ 2-6 ขวบ คือช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กเล็ก ทั้งในทางร่างกาย ความคิด และจิตใจของพวกเขา การดูแลเด็กในช่วงอายุนี้ จึงมีความสำคัญไม่แพ้กับการศึกษาในข่วงวัยอื่นๆ และอาจจะมีความสำคัญที่สุดด้วยซ้ำ แต่เมื่อมาดูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ยังไม่มีมีหนังสือนิทานดีๆ ในจำนวนที่มากพอให้กับลูกหลานและคุณครู แค่การมีโครงสร้างอาคารที่ดี มีสุขอนามัย มีความสะอาด มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นและของเล่นที่เพียงพอยังหาได้ยากมาก ไม่ต้องพูดถึงการดูแลเอาใจใส่คุณครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้มีองค์ความรู้และเครื่องมือทางการศึกษาที่ดีและเพียงพอในการดูแลลูกหลานของคนในชุมชน ด้วยงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรอย่างจำกัด คณะก้าวหน้า จึงได้ทำโครงการอ่านปั้นฝันร่วมกับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลหลายแห่งที่คณะก้าวหน้าให้คำปรึกษาอยู่ ในการจัดหาหนังสือนิทานที่มีคุณภาพ จากการบริจาคสนับสนุนโดยภาคเอกชน มามอบให้แก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เข้าร่วมโครงการที่ละ 100 แห่ง พร้อมอบรมคุณครูให้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้นิทานเป็นเครื่องมือส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็ก โดยกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า ได้นำทีมงานเข้ามาอบรมและมอบหนังสือนิทานและสื่อการเรียนรู้ที่สำคัญ ให้แก่คุณครู ศพด. ที่เข้าร่วมโครงการ ในหลายจังหวัด เช่น ที่อุดรธานี มุกดาหาร ลำพูน หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ซึ่งโครงการอ่านปั้นฝันของคณะก้าวหน้าเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคุณครู ที่จะได้มีอุปกรณ์สำคัญในการดูแลพัฒนาการของเด็กเล็กเพิ่มมากขึ้น สำหรับเด็กเล็ก พวกเขาได้สนุกสนานไปกับหนังสือนิทาน ได้เปิดดูภาพ ได้จินตนาการ ได้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้อ่านร่วมกับเพื่อนๆ และคุณครูของเขา และยังได้ยืมกลับไปบ้าน ไปให้ผู้ปกครองอ่านให้ฟัง หรือบางบ้านผู้ปกครองก็เป็นฝ่ายได้ฟังนิทานจากการอ่านของลูกหลานก็มี ทำให้เกิดกิจกรรมร่วมกันระหว่างเด็ก ครู และผู้ปกครอง สร้างสรรค์พัฒนาการให้เด็กเล็กในชุมชนของพวกเขาไปด้วยกัน[22] ซึ่งต่อมาคณะก้าวหน้าได้ส่งมอบตู้ “อ่านปั้นฝัน” ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหลายแห่ง เพื่อส่งต่อหนังสือนิทานดีกว่า 100 เล่ม และสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและทำงานร่วมด้วย ซึ่งโครงการอ่านปั้นฝันเป็นโครงการส่งต่อหนังสือดีที่ถูกคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กเล็กกว่า 100 เล่ม พร้อมสื่อการเรียนการสอนที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เป็นมิตร และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของเด็กเล็ก ที่เป็นหัวใจสำคัญของอนาคตด้านการศึกษาของเด็กเล็ก โดยกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางถึงจังหวัดอุดรธานี เพื่อส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 13 แห่ง ในเทศบาลตำบลปะโค เทศบาลตำบลศรีธาตุ เทศบาลตำบลบ้านยวด เทศบาลตำบลที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุนและทำงานร่วมด้วย เพื่อนำเอาตู้อ่านปั้นฝันไปใช้พัฒนาทักษะการเรียนของเด็กเล็กและช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมในท้องถิ่นต่อไป[23] ปัจจุบันคณะก้าวหน้าสามารถส่งต่อตู้อ่านปั้นฝันไปยังศูนย์เด็กเล็กในการดูแลแล้ว 8 แห่ง และเตรียมขยายพื้นที่ออกไปอีก 13 แห่ง โดยในช่วงที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าได้ส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันไปยังเทศบาลตำบลสองแห่งได้แก่ เทศบาลตำบลเหมืองจี้ และ เทศบาลตำบลทากาศเหนือ โดยมี ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้งหมด 7 แห่งเข้าร่วมเวิร์กช็อปและรับมอบตู้อ่านปั้นฝัน นอกจากนี้ ยังได้ทำการส่งมอบตู้อ่านปั้นฝันให้กับเทศบาลตำบลในสังกัดคณะก้าวหน้า จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ เทศบาลตำบลปะโค เทศบาลตำบลบ้านยอด และเทศบาลตำบลศรีธาตุ ทั้งหมดอีก 13 ตู้[24]

Baby Box

[แก้]

คณะก้าวหน้าได้นำร่องโครงการกล่องของขวัญแรกเกิด (Baby Box) โดยนำร่องที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งภายในกล่อง Baby Box มีอุปกรณ์ที่และสิ่งของจำเป็นสำหรับแม่และเด็ก พร้อมทั้งคู่มือการใช้กล่อง โดยมีเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำแพงแสน และเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตร ร่วมให้ความรู้แนะนำแนวทางการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโตตามวัยและมีพัฒนาการตามเกณฑ์[25]

ประปาดื่มได้

[แก้]

หลังจากเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล คณะก้าวหน้าได้นำร่องนโยบาย ประปาดื่มได้ โดยเริ่มที่เทศบาลตำบลอาจสามารถ อำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเทพพร จำปานวน นายกเทศมนตรีตำบลอาจสามารถกล่าวไว้ว่า ตนและทีมงานคณะก้าวหน้าตั้งใจว่าใน 99 วันแรกของการทำงาน หรือประมาณ 3 เดือนแรกนี้ จะต้องทำให้น้ำประปาดื่มได้ให้เป็นจริง[26]

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เป็นเวลา 6 เดือนนับจากการประกาศนโยบายประปาดื่มได้ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบเกียรติบัตรให้กับเทศบาล เนื่องจากมีคุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์คุณภาพบริโภค[27]

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เทศบาลตำบลอาจสามารถได้รับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประเภทเทศบาลตำบลโดดเด่น โดยได้รับรางวัลที่ 1 พร้อมกับเงินรางวัลมูลค่า 3,200,000 บาท[28] และในปี พ.ศ. 2567 ก็ยังได้รับรางวัลที่ 1 เป็นปีที่สอง

ในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567 เทศบาลตำบลอาจสามารถได้รับรางวัลชนะเลิศในโครงการประกวดน้ำประปาสะอาดดื่มได้ ซึ่งจัดโดยกระทรวงมหาดไทย โดยได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท

พรรณิการ์ วานิช ได้ประกาศรายชื่อพื้นที่ที่โครงการประปาดื่มได้ทำสำเร็จ และได้รับเกียรติบัตรจากกรมอนามัย เนื่องจากมีคุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์คุณภาพบริโภค มีดังนี้[29]


แอพลิเคชันฟองดูว์

[แก้]

คณะก้าวหน้าได้เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดย ธงชัย โชคดำรงสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้เข้าร่วมการอบรมที่จัดอบรมความรู้ เริ่มเปิดใช้งานแอพลิเคชัน “ฟองดูว์” แอพลิเคชั่นแจ้งปัญหาต่างๆ สำหรับประชาชนในพื้นที่กำแพงแสน เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา หลังจากที่ธงชัย โชคดำรงสุข ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่กำแพงแสนให้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ก็ได้เร่งทำตามนโยบายหลักตามเมนูนโยบายของคณะก้าวหน้าที่ได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชนในทันที สำหรับฟองดูว์ คณะก้าวหน้าได้เปิดตัวแอพลิเคชั่นนี้ไปเมื่อกลางปีพ.ศ. 2564 ภายใต้ความร่วมมือกับเทศบาลในสังกัดคณะก้าวหน้า 16 แห่ง และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่และมีสถิติการใช้เพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือน ปัจจุบันความสำเร็จดังกล่าว ทำให้หลายเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล หลายแห่งเดินหน้าอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อนำฟองดูว์ไปปรับใช้ในพื้นที่ของตน[30] นอกจากที่องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงแสนแล้ว ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสูง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี พงษ์พิพัฒน์ โคตรกำกับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพนสูง ได้เริ่มต้นที่การเปิดใช้ "ฟองดูว์" แอพลิเคชั่นแจ้งเตือนปัญหาแบบเรียลไทม์ให้กับประชาชน ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาที่ประชาชนได้ลองเรียนเข้ามา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ปัญหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว[31]

โครงการขยะก้าวหน้า

[แก้]

คณะก้าวหน้าได้ผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในทุกเทศบาลตำบลที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน โดยได้จัดทำ"โครงการขยะก้าวหน้า" ซึ่งมีเทศบาลตำบลขวาว อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพื้นที่นำร่อง มีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนพ่อค้าแม่ขายในตลาดสดเทศบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการจัดการขยะที่สามารถสร้างมูลค่าและลดปัญหามลภาวะรบกวน[32]

โครงการเปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ

[แก้]

ในพื้นที่เทศบาลตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ที่คณะก้าวหน้าให้การสนับสนุน ได้มีการจัดทำโครงการ "เปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ" ของเทศบาลตำบลหนองแคน อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โดยเปิดให้ประชาชนนำเอาขยะที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือเป็นขยะที่สามารถสร้างมูลค่าได้ นำไปขายยังธนาคารขยะ รายได้จากการขายขยะก็จะนำไปสะสมในกองทุนฌาปนกิจของสมาชิก ซึ่งจะถูกนำไปสมทบและคำนวณ เแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในอนาคตหากมีพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งธนาคารขยะของเทศบาลตำบลหนองแคน เปิดรับขยะจากสมาชิก และได้รับขยะทั้งสิ้น 1,185 กิโลกรัม หรือคิดเป็นตัวเลขประมาณส 1 ตัน สำหรับการทำกิจกรรมในครั้งแรก เดิมธนาคารขยะและกองทุนฌาปนกิจของ เทศบาลตำบลหนองแคน มีสมาชิกทั้งหมด 132 ราย เมื่อเปิดรับขยะวันแรกมีผู้สนใจสมัครร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มเติมอีก 19 ราย ทำให้เห็นถึงความสนใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยขยะที่ได้รับจากการเปิดรับของธนาคารขยะในครั้งแรก ส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทพลาสติกรวม มีประชาชนกว่า 36 ครัวเรือนจาก 3 หมู่บ้านเข้าร่วมกิจกรรมอย่างหนาแน่น[33]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ""ธนาธร" ประกาศตั้ง "คณะอนาคตใหม่" ยัน ก้าวเดินต่อไป ด้วยความมั่นคง". www.thairath.co.th. 2020-02-21.
  2. 2.0 2.1 เป็นทางการ! 'ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ'เปิดตัว 'คณะก้าวหน้า'ปักธงความคิด-สถาปนาอำนาจนำใหม่
  3. ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิ เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิคณะก้าวหน้า
  4. ‘มูลนิธิคณะก้าวหน้า’ จดทะเบียนตั้งเป็นทางการแล้ว มี ธนาธร เป็นประธาน ปิยบุตร กรรมการ
  5. "เปิดรายได้-เงินบริจาค ก้าวไกล มีเท่าไหร่ หลังยุบพรรคถูกโอนไปไหน". ประชาชาติธุรกิจ. 10 สิงหาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 19 สิงหาคม 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. "แถลงการณ์จากประธานคณะก้าวหน้า กรณีผลการเลือกตั้ง อบจ. 2563". คณะก้าวหน้า.
  7. "สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ได้รับเลือกในนามคณะก้าวหน้า". คณะก้าวหน้า.
  8. "ก้าวหน้าซิวเทศบาลได้15นายก". khaosod.co.th. 2021-03-30.
  9. "'ไพศาล' คณะก้าวหน้า คว้าชัย 'นายก ทต.ด่านสำโรง' แถลงขอบคุณทุกคะแนน รับแข่งดุเดือด". matichon.co.th. 2022-08-14.
  10. "'คณะก้าวหน้า' คว้าชัย 38 อบต. ขณะที่ อุบลฯ ผู้สมัครหน้าใหม่สายเพื่อไทย ล้มแชมป์อื้อ". ประชาไท. 2021-11-29.
  11. "เปิด 17 จว. "ก้าวหน้า" ชนะนายก อบต. 38 ที่นั่ง "ธนาธร" ปักธง "นายกฯพัทยา" ต่อ". bangkokbiznews.com. 2021-11-29.
  12. "'ธนาธร' นำคณะก้าวหน้าเปิดตัว 'กิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย' ลงเลือกตั้งชิงเก้านายกเมืองพัทยา". workpointTODAY.
  13. ผลเลือกตั้งซ่อม ส.ท.นครปากเกร็ด ไม่เป็นทางการ ‘ภาณุพงศ์’ หลานวิชัย ชนะคณะก้าวหน้าขาดลอย
  14. "เลือกซ่อม 'ชลบุรี-รังสิต' สนามเล็ก เช็กพลัง 'สีส้ม'". bangkokbiznews. 2024-05-31.
  15. "บ้านใหญ่ชลฯ โค่นก้าวไกล คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.ชลบุรี ชนะท่วมท้น". www.thairath.co.th. 2024-06-02.
  16. ‘คณะก้าวหน้า’ นำร่องลุยสนามท้องถิ่น ปูทาง ‘ก้าวไกล’ รับไม้ต่อทลายบ้านใหญ่ #WakeUpThailand, สืบค้นเมื่อ 2023-10-06
  17. "เปิดตัวทีมประกันสังคมก้าวหน้า ชู 14 นโยบาย-ก้าวแรกสู่รัฐสวัสดิการ". workpointTODAY.
  18. ""ทีมประกันสังคมก้าวหน้า" ขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลังชนะเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม". www.thairath.co.th. 2023-12-25.
  19. ""ก้าวหน้า-ไอลอว์" เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร สว. 27 มี.ค.นี้ เปิดหน้าสู้ขั้วอำนาจเดิม". www.thairath.co.th. 2024-03-23.
  20. แจ๊ค (2024-04-24). "คณะก้าวหน้า-ธนาธรปักธง "สว.สีส้ม" แชร์เก้าอี้สภาสูง".
  21. "200 สว. ใหม่ แบ่ง เป็น สาย ใดบ้าง?". THE STANDARD. 2024-07-02.
  22. "อ่านปั้นฝัน : เพราะหนังสือคือการสร้างอนาคตของชาติที่ทันโลก คณะก้าวหน้า - Progressive Movement". 2022-02-10.
  23. "เพราะการอ่านเปลี่ยนอนาคต คณะก้าวหน้า ลุยด้านการศึกษา "อ่านปั้นฝัน" เพื่อเปลี่ยนท้องถิ่น คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-06-02.
  24. "อัปเดตโครงการอ่านปั้นฝัน เตรียมส่งต่ออีกหลายพื้นที่ คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-05-12.
  25. Thesender - (2023-02-07). "นายกฯ อบต.คณะก้าวหน้าสุดล้ำ นำร่องมอบ baby Box ของขวัญแรกเกิดให้เด็ก มุ่งสร้างสวัสดิการครบวงจร". ThesenderTH. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-25. สืบค้นเมื่อ 2023-09-25.
  26. "99 วัน หลังรับตำแหน่ง นายกฯ "เทศบาลก้าวหน้า" มั่นใจ "น้ำประปาดื่มได้" เป็นจริง !". คณะก้าวหน้า. 2021-05-18.
  27. "ธนาธร ปลื้ม เทศบาลก้าวหน้า ทำน้ำประปาดื่มได้ ได้การรับรองระดับ 'กรมอนามัย'". khaosod.co.th. 2021-12-09.
  28. "ประกาศ ก.ก.ถ. เรื่อง ผลการคัดเลือก อปท. 66.pdf". Google Docs.
  29. "ปชน.ขนทัพช่วย 'คณิศร' ชิงนายก อบจ.อุดร ชู 6 นโยบายด่วน 'น้ำประปาดื่มได้' ทำทันทีปีแรก". prachatai.com. 2024-11-17.
  30. "อบต.ก้าวหน้าขยับ อบต. กำแพงแสน เริ่มระบบ "ฟองดูว์" พ่วงน้ำประปาดื่มได้ มุ่งมั่นยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชนรอบด้านตลอดทั้งปี คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-04-02.
  31. "บ่ต้องซอมเบิ่งแล้วเด้อ ไผมีปัญหา ฟ้องโลดฟองดูว์!!! อบต. โพนสูง เปิดใช้ "ฟองดูว์" แอพแจ้งปัญหา ให้พ่อใหญ่แม่ใหญ่ มาจ่ม มาฟ้อง มาฮ้องเฮียน ปัญหาบ้านเฮา คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-03-03.
  32. "หนองแคน-โพนทราย คึกคัก "เปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ" เริ่มครั้งแรกประชาชนขายขยะกว่า 1 ตัน คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-02-02.
  33. "หนองแคน-โพนทราย คึกคัก "เปลี่ยนขยะเป็นสวัสดิการ" เริ่มครั้งแรกประชาชนขายขยะกว่า 1 ตัน คณะก้าวหน้า - ท้องถิ่น". 2022-02-02.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]