กรมที่ดิน
Department of Lands | |
ตรากรมที่ดิน | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 |
เขตอำนาจ | ทั่วราชอาณาจักร |
สำนักงานใหญ่ | ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 |
งบประมาณต่อปี | 6,403 ล้านบาท (พ.ศ. 2561)[1] |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัดหน่วยงาน | กระทรวงมหาดไทย |
เว็บไซต์ | http://www.dol.go.th |
กรมที่ดิน (อังกฤษ: Department of Lands) เป็นหน่วยงานระดับกรม สังกัดกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ราษฎรและให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น รวมถึงการจัดที่ทำกินให้ประชาชนตามประมวลกฎหมายที่ดินอีกด้วย ปัจจุบันนาย พรพจน์ เพ็ญพาส เป็นรักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน
ประวัติ
[แก้]ในรัชกาลพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระองค์ทรงดำเนินรัฐประศาสนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน โดยให้ราษฏรทำประโยชน์บนที่ดินซึ่งผลประโยชน์จะตกแก่คนๆนั้น
ครั้นมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีมีระบบการบริหารประเทศแบบจตุสดมภ์ที่เรียกว่า เวียง วัง คลัง นา ซึ่งเรื่องของที่ดินนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ของ นา หรือ กรมนา นั่นเอง โดยหน้าที่ของกรมนาสมัยนั้น แบ่งออกเป็น 2 หน้าที่ คือ บริหารและตุลาการ
หน้าที่บริหารจะจัดหาที่ดิน โดยให้ราษฏรเข้าไปบุกเบิกที่ดินเปล่าที่รกร้างอยู่และให้ใช้ประกอบการทำกิน โดยเขียนโฉนดไว้ให้แก่ผู้เข้าไปบุกเบิกที่ดินตรงนั้น พร้อมกับหาที่ดินเพื่อการศาสนา สร้างเป็นวัดวาอารามต่าง ๆ
ส่วนหน้าที่ตุลาการจะมีหน้าที่ดูแลการเข้าไปโค่นร้างว่าผู้ใดลักลอบกระทำการให้นำมาลงโทษ อีกทั้งระงับเหตุทะเลาะวิวาทในเรื่องที่ดิน เช่น กรณีแย่งนากันทำ รวมถึงข้อพิพาทเกี่ยวกับการลักเครื่องมือทำนา ขโมยไถ ลักแอก เป็นต้น
ต่อมากรุงรัตนโกสินทร์ลักษณะการบริหารที่ดินส่วนคงยึดหลักเดียวกันไว้
กระทั่งสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เกิดกรณีพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ ที่ดินบ่อยครั้ง ๆ ขนาดขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นว่าเล่น เพราะเจ้าหน้าที่ผู้เก็บภาษีอากรออกหนังสือสำคัญให้เจ้าของที่ดินไว้ยึดถือ ไม่อาจระงับข้อพิพาทโต้แย้งปัญหาเรื่องกรรมสิทธิได้ เนื่องจากข้อความบนหนังสือ ไม่กระจ่างไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าจึงโปรดฯ ให้ เจ้าพระยาเทเวศวิวัฒน์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงเกษตรธิการ จัดทำทะเบียนที่ดินให้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับกรมสิทธิในที่ดินจริงจังและเร่งด่วนด้วยทรงพระราชดำริเห็นว่าที่ดินมีราคายิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นอันมาก ย่อมเป็นสาเหตุให้ราษฏรมีข้อพิพาทมากขึ้นอีก สมควรจัดหมายเขตที่ดินนั้นให้มั่นคงยิ่งขึ้น
พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ออกพระบรมราชโองการวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2442 ให้ พระยาประชาชีพบริบาล(ผึ่ง ชูโต) ข้าหลวงเกษตรให้อยู่ในบังคับบัญชาของเทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า ออกไปดำเนินการออกโฉนด โดยกำหนดท้องที่ทิศใต้แต่แยกบางไทรขึ้นไปตามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทิศตะวันตก และตามฝั่งแม่น้ำแควอ่างทอง ทิศตะวันออกไปจนถึงคลองตะเคียนเป็นที่สุดฝ่ายเหนือ
พระยาประชาชีพบริบาลกับเจ้าพนักงานแผนที่ทำการเดินสำรวจครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2444 ได้ถือเอาโฉนดเป็นหลักทะเบียน ซึ่งหลายตำบลในเขตอำเภอบางปะอินมณฑลกรุงเก่าได้รับการออกโฉนดหรือแจกโฉนดให้
ทว่าช่วงเวลานั้นยังไม่มีกฎหมายเป็นหลักในการออกโฉนดชัดเจน พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ออกประกาศพระบรมราชโองการลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2444 วางระเบียบเรื่องโฉนดไว้อย่างชัดเจน และพระบรมราชโองการนี้ถือเป็นกฎหมายใช้ในการออกโฉนด
นอกจานี้พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา กรมทะเบียนที่ดิน สังกัดกระทรวงเกษตราธิการขึ้นมา เพื่อจัดการดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยประกาศเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444[3]มี นาย ดับบลิว เอ.เกรแฮม ผู้ช่วยเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการเป็นเจ้ากรมคนแรก[4]
ด้วยเหตุนี้กรมที่ดิน จึงถือเอาวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2444 เป็นวันสถาปนากรมที่ดิน
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2475 กรมทะเบียนที่ดิน ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น กรมที่ดิน สังกัดกระทรวงมหาดไทยตามประกาศพระบรมราชโองการผลัดเปลี่ยนเสนาบดีปลัดทูลฉลอง กระทรวงต่าง ๆ และรวมกระทรวง พ.ศ. 2475
หลังจากนั้นถัดมาอีกหนึ่งปีก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น กรมที่ดินและโลหะกิจ พร้อมทั้งโอนมาสังกัดกระทรวงเศรษฐการ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2476 แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่นานนักก็ต้องโอนกลับมาสังกัดกระทรวงเกษตราธิการอีกครั้งในอีก 2 ปีต่อมา
ท้ายสุดเมื่อมีพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2484 ต้องเปลี่ยนชื่อกันอีก โดยใช้ชื่อว่า กรมที่ดิน เพียงอย่างเดียวและมาสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้
อำนาจและหน้าที่
[แก้]- ดำเนินงานออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ราษฎร
- ให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น
- จัดที่ทำกินให้ประชาชนตามประมวลกฎหมายที่ดิน
- ควบคุมการจัดสรรที่ดิน
- การจดทะเบียนอาคารชุด
- ควบคุมช่างรังวัดเอกชน
หน่วยงานในสังกัด
[แก้]ราชการบริหารส่วนกลาง
[แก้]- สำนักงานเลขานุการกรม
- กลุ่มตรวจสอบภายใน
- กองการเจ้าหน้าที่
- กองการพิมพ์
- กองคลัง
- กองเทคโนโลยีทำแผนที่
- กองแผนงาน
- กองฝึกอบรม
- กองพัสดุ
- ศูนย์ข้อมูลแผนที่รูปแปลงที่ดิน
- สำนักกฎหมาย
- สำนักงานคณะกรรมการช่างรังวัดเอกชน
- สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร
- สำนักจัดการที่ดินของรัฐ
- สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ
- สำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน
- สำนักมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ
- สำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัด
- สำนักส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์[5]
ราชการส่วนภูมิภาค
[แก้]- สำนักงานที่ดินจังหวัด มีหน้าที่ดําเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน กฎหมายวาด้วยอาคารชุด กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการจัดสรรที่ดิน กฎหมายว่าด้วยช่างรังวัดเอกชน และ กฎหมายว่าด้วยการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมในจังหวัด โดยมีเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด (อำนวยการ ระดับสูง) เป็นหัวหน้าหน่วยงาน โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น 5 กลุ่มงาน ได้แก่
- ฝ่ายอำนวยการ
- ฝ่ายทะเบียน
- ฝ่ายรังวัด
- ฝ่ายควบคุมและรักษาหลักฐานที่ดิน
- กลุ่มงานวิชาการที่ดิน
- สำนักงานที่ดินจังหวัด สาขา มีหน้าที่ดําเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน กฎหมายวาด้วยอาคารชุด กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการจัดสรรที่ดิน กฎหมายว่าด้วยช่างรังวัดเอกชน และ กฎหมายว่าด้วยการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมในจังหวัด โดยมีเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด (อำนวยการ ระดับต้น) เป็นหัวหน้าหน่วยงาน โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่
- ฝ่ายอำนวยการ
- ฝ่ายทะเบียน
- ฝ่ายรังวัด
- สำนักงานที่ดินอำเภอ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด มีอำนาจหน้าที่ด้านการทะเบียนที่ดิน และด้านการรังวัด
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
- ↑ สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 20 กุมภาพันธ์ 2567
- ↑ ประกาศ ตั้งกรมทะเบียนที่ดิน ในกระทรวงเกษตราธิการ
- ↑ แจ้งความกระทรวงเกษตราธิการ เรื่อง ว่าด้วยตำแหน่งเจ้ากรมทะเบียนที่ดิน
- ↑ ราชการบริหารส่วนกลาง
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์กรมที่ดิน เก็บถาวร 2010-02-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน