โอลิมปิกฤดูร้อน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน
ตราวงแหวนโอลิมปิก
ชื่อย่อOlympiad
คำขวัญCitius, Altius, Fortius
เร็วขึ้น, สูงขึ้น, แกร่งขึ้น
ก่อตั้งสมัยโบราณ: 776 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยใหม่: พ.ศ. 2439
กรีซ กรุงเอเธนส์, กรีซ
จัดขึ้นทุก4 ปี
ครั้งล่าสุดครั้งที่ 32 ที่โตเกียว
ญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น
วัตถุประสงค์กีฬาสำหรับนานาชาติ
สำนักงานใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล
สวิตเซอร์แลนด์ โลซาน, สวิตเซอร์แลนด์
ประธานเยอรมนี โทมัส บัค
เว็บไซต์คณะกรรมการโอลิมปิกสากล

กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน หรือ ซัมเมอร์โอลิมปิกเกมส์ (อังกฤษ: Summer Olympic Games) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายชนิดระหว่างประเทศ ซึ่งตามปกติจะมีการจัดแข่งขันทุกสี่ปี โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee หรือ IOC) ในแต่ละครั้งจะมีการมอบเหรียญรางวัล ผู้ชนะเลิศได้เหรียญทอง อันดับสองได้เหรียญเงิน และอันดับสามได้เหรียญทองแดง การมอบเหรียญนี้เป็นประเพณีตั้งแต่ปี 1904 ต่อมามีการจัดแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว อันสืบเนื่องมาจากความสำเร็จของโอลิมปิกฤดูร้อน

การแข่งขันนั้นเริ่มต้นครั้งแรกด้วยกีฬาเพียง 42 ประเภท และนักกีฬาชายเพียง 250 คน จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 10,000 คน ของนักกีฬาชายและหญิงจาก 202 ประเทศทั่วโลก คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่ง คาดการณ์ว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประมาณ 10,500 คน เข้าชิงชัยใน 302 รายการ ในขณะที่กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประมาณการไว้ว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันประมาณ 10,500 คน แต่ก็เกิดการคลาดเคลื่อนขึ้นเพราะมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 11,099 คน ใน 301 รายการแข่งขัน

นักกีฬาถูกส่งเข้าแข่งขันโดยคณะกรรมการโอลิมปิกของประเทศต่าง ๆ (NOC) เพื่อแสดงจำนวนพลเมืองในบังคับของประเทศตน เพลงชาติและธงชาติประกอบพิธีมอบเหรียญ และตารางแสดงจำนวนเหรียญที่ชนะ โดยถูกใช้อย่างกว้างขวางในบางประเทศ โดยปกติแล้วเฉพาะประเทศที่ได้รับการรับรองเท่านั้นที่จะมีผู้แทนได้ แต่มีแค่เพียงประเทศมหาอำนาจบางประเทศเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วม

โดยมีเพียง 4 ประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนทุกครั้ง ได้แก่ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร กรีซ และสวิตเซอร์แลนด์ และมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ชนะและได้รับเหรียญทองอย่างน้อย 1 เหรียญจากการแข่งขันทุกครั้ง คือ สหราชอาณาจักร โดยได้รับตั้งแต่ 1 เหรียญทอง ในปี 1904 1952 และ 1996 จนถึงได้รับ 56 เหรียญทอง ในปี 1908

วิวัฒนาการของโอลิมปิกฤดูร้อนสมัยใหม่ ปี 1896-2032[แก้]

แผนที่แสดงประเทศที่เคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน

1896 เอเธนส์[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกมีขึ้นที่ยุโรปเป็นครั้งแรก โดยกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1896 หลังจากที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้หยุดไปเป็นเวลานาน โดยจัดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่สนามกีฬา Olympic Stadium ซึ่งได้ถูกทำลายไปโดยทหารฝรั่งเศส

การแข่งขันครั้งนี้นับว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของกรีก ไม่ใช่แค่เพียงได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้เท่านั้น แต่เพราะนักกีฬาชาติกรีกได้นำชัยชนะมาให้กรีซ เป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันวิ่งมาราธอนซึ่งถือเป็นกีฬาสัญลักษณ์ของโอลิมปิก ในครั้งนี้กรีกเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันทั้งหมดด้วยการกวาดเหรียญรางวัลชนะเลิศถึง 47 เหรียญ

ชัยชนะของนักกีฬากรีกในครั้งนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Loues ผู้ชนะในการแข่งขันวิ่งมาราธอนและได้กลายเป็นขวัญใจของคนทั้งประเทศของตน

1900 ปารีส[แก้]

จริง ๆ แล้วได้มีความพยายามที่จะให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นในกรีกเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่ Coubertin ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ขึ้นได้ยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะให้มีการแข่งขันเวียนไปตามประเทศต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมการแข่งขันกีฬา

การแข่งขันในครั้งนี้ชัยชนะในการแข่งขันในกีฬาประเภทต่าง ๆ กระจายกันไปอยู่ในหมู่นักกีฬาจากประเทศต่าง ๆ

1904 เซนต์หลุยส์[แก้]

สหรัฐเป็นประเทศแรกในอเมริกาเหนือที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มีนักกีฬาจากประเทศในยุโรปมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้น้อยมากเนื่องจากความไม่สะดวกในการเดินทาง นักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาจึงได้ครอบครองเหรียญชัยชนะมากที่สุด กีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้จัดว่าเป็นครั้งที่น่าอดสูที่สุด เริ่มจากการแย่งกันระหว่าง เซนต์หลุยส์ และ ชิคาโก ว่ารัฐใดจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน นอกจากนั้นนักกีฬาผู้ที่ได้เข้าเส้นชัยในการแข่งขันวิ่งมาราธอนยังใช้วิธีการสกปรกในการได้มาซึ่งชัยชนะครั้งนั้นด้วยการแอบโดยสารรถบรรทุกระหว่างการแข่งขันเพื่อย่นระยะทาง

การแข่งขันในครั้งนั้นมีนักกีฬาเข้าแข่งขันเป็นชาย 681 คน เป็นหญิง 6 คน

1908 ลอนดอน[แก้]

การแข่งขันกีฬาครั้งที่ 4 มีขึ้นที่กรุงลอนดอน โดยจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ผู้นำในการแข่งขันครั้งนี้ได้แก่ประเทศอังกฤษ โดยสามารถครอบครองเหรียญชัยได้ถึง 145 เหรียญโดยมีสหรัฐอเมริกาตามมาเป็นอันดับที่ 2

ในการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้มีนักกีฬาจำนวนมากจากหลายประเทศมาเข้าร่วมทำการแข่งขันโดยมาจาก แอฟริกาใต้, แคนนาดา, และ ออสเตเรีย ซึ่งจัดว่าเป็นการแข่งขันนานาชาติครั้งแรกจริง ๆ

การแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 2,036 คน เป็นชายประมาณ 2,000 คน หญิง 36 คน และการแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้ชนะจากการแข่งขันในแต่ละประเภทได้รับเหรียญทอง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ชนะเลิศจะได้รับเหรียญเงิน

1912 สต็อกโฮล์ม[แก้]

ในครั้งนี้กษัตริย์ Gustav ที่ 5 แห่งสวีเดนได้ตรัสยกย่อง Jim Thorpe นักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาว่าเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคำยกย่องนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เกินความจริงเลย โดยเขาชนะเลิศการแข่งขันกีฬาลู่-ลาน 5 ประเภท (Pentathalon) รวมทั้งชนะเลิศการแข่งขันกีฬาลู่-ลาน 10 ประเภท (Decathalon) ด้วย ซึ่งได้ทำให้ Thorpe ได้กลายเป็นดาวของกีฬาโอลิมปิกจากสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง

แต่ต่อมา Thorpe ได้ถูกยึดเหรียญชัยชนะคืนมาหลังจากที่ IOC พบว่าเขาอยู่ในทีมนักเบสบอลอาชีพในปี 1909 แต่หลังจากนั้นต่อมาถึง 73 ปี Thorpe ก็ได้รับเหรียญรางวัลกลับคืนมาด้วยความสนับสนุนของผู้ที่นิยมและเห็นอกเห็นใจ Thorpe แต่ก็หลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว

โอลิมปิก 1912 ถูกจัดว่าเป็นครั้งที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง สวีเดนซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพได้มีการเตรียมพร้อมให้การแข่งขันครั้งนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด มีนักกีฬา 26 ประเทศหรือประมาณกว่า 3,000 คนมาร่วมในการแข่งขันครั้งนี้

1916[แก้]

ไม่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

1920 อันทเวิร์ป[แก้]

ได้มีการกำหนดสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกขึ้นใหม่เป็นรูปห่วง 5 ห่วงคล้องกันอยู่ (Olympic Rings) กีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ไม่สามารถที่กล่าวได้ว่าเป็นกีฬานานาชาติอย่างแท้จริงเนื่องจากได้กีดกันไม่ให้ประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเข้าร่วมการแข่งขัน ดาวรุ่งกีฬาครั้งนี้คือ Paavo Nurmi ซึ่งครองชัยชนะการวิ่งระยะไกลทั้งหมดมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่อันทเวิร์ปเป็นชาย 2,453 คน หญิง 64 คน

1924 ปารีส[แก้]

การแข่งขันที่ปารีสครั้งนี้ Harold Abrahans นักกีฬาจากประเทศอังกฤษชนะเลิศการวิ่ง 100 เมตร แต่ในภายหลังได้พบว่า Abrahans ใช้ยาที่ชื่อว่า Easton Syrup ซึ่งมีส่วนผสมของสตริกไนน์ และเขาไม่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้หากมีการตรวจพบว่า Abrahans ใช้ยา

นักกีฬาว่ายน้ำจากสหรัฐอเมริกา Johnny Weismuller ซึ่งในภายหลังได้กลายเป็นดาราชนะเลิศการแข่งขันว่ายน้ำถึง 3 เหรียญทอง และ 1 เหรียญทองแดง

1928 อัมสเตอร์ดัม[แก้]

เป็นครั้งแรกที่ IOC ได้ทำการย่นระยะเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกลงเหลือเพียง 16 วัน ก่อนหน้านั้นการแข่งขันจะกินเวลาเป็นเดือน การแข่งขันครั้งนี้ประเทศที่เป็นเจ้าภาพมีความหวังที่จะได้ชัยชนะในกีฬาฟุตบอล แต่ก็ต้องพลาดหวังเมื่ออุรุกวัยและอาร์เจนตินาได้เข้าร่วมชิงชนะเลิศ Paavo Nurmi ได้รับการยกย่องเป็นเจ้าแห่งการแข่งขันวิ่งระยะไกลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสหรัฐอเมริกาได้ครองเหรียญทองเป็นจำนวนมากมาจากการแข่งขันว่ายน้ำ โอลิมปิกครั้งนี้มีประเทศที่เริ่มฉายแววทางกีฬาเพิ่มขึ้นมาคือ ญี่ปุ่น นอกจากนี้ในปีนี้ยังเป็นปีแรกที่มีการจัดการแข่งขันประเภทลู่ลาน หญิงเป็นครั้งแรก

1932 ลอสแอนเจลิส[แก้]

ลอสแอนเจลิสมีเวลาในการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ถึง 9 ปี ได้ทำการก่อสร้างโคลิเซียมขนาด 100,000 ที่นั่ง ซึ่งในปี 1984 ได้ใช้ที่แห่งนี้เป็นที่จัดการแข่งขันอีกครั้งหนึ่ง ปีนี้เป็นปีที่ริเริ่มสิ่ง ๆ ใหม่หลายอย่าง อาทิ มีการจัดค่าเดินทางแก่นักกีฬาต่างประเทศที่มาร่วมการแข่งขัน การสร้างหมู่บ้านโอลิมปิกเพื่อให้นักกีฬาจากหลายประเทศมาอยู่ร่วมกัน

1936 เบอร์ลิน[แก้]

นักกีฬาผิวดำจากประเทศสหรัฐ Jesse Owens ได้ลบคำสบประมาทของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่กล่าวว่าชาวเยอรมันเหนือกว่าชาติอื่นในทุกด้าน ด้วยการคว้าเหรียญทองได้ถึง 4 เหรียญ

การแข่งขันในครั้งนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดจาก 49 ประเทศ เป็นชาย 3,738 คน หญิง 328 คน

1940 และ 1944[แก้]

ไม่มีการแข่งขันกีฬาเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง

1948 ลอนดอน[แก้]

เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทางวิทยุทั่วโลกในครั้งนี้ได้มีนักกีฬาจากสหรัฐอเมริกา Bob mathias ได้กลายเป็นขวัญใจโดยสามารถครองเหรียญทองจากการแข่งขัน Decathalon ซึ่งจัดว่าเป็นกีฬาที่ยากต้องอาศัยความแข็งแรงและความอดทนอย่างสูง นอกจากนั้นการแข่งขันในครั้งนี้ เยอรมันและญี่ปุ่นผู้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกลอนดอน มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันจาก 59 ประเทศ เป็นชาย 3,741 คน และหญิง 385 คน

1952 เฮลซิงกิ[แก้]

Emil Zatopek จากเชโกสโลวะเกียได้กลายเป็นดาวเด่นในหมู่นักกีฬาในปี 1952 เมื่อเขาได้ชัยชนะในการแข่งขันวิ่งระยะไกล 10,000 เมตร และ 50,000 เมตร รวมทั้งการแข่งขันวิ่งมาราธอน และภรรยาของเขาก็ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันพุ่งแหลนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สหภาพโซเวียตได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกรวมทั้งประเทศไทยก็เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกเช่นกัน

1956 เมลเบิร์น[แก้]

ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในโอเชียเนียที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การแข่งขันครั้งนี้ประเทศที่พิชิตเหรียญทองกีฬาว่ายน้ำได้มากที่สุดคือ ออสเตรเลีย โดยมี Dawn Fraser นักว่ายน้ำหญิงเป็นผู้ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดเพราะนอกจากพิชิตเหรียญทองได้แล้วยังสร้างสถิติเวลาใหม่และไม่มีผู้ใดทำลายได้ถึง 15 ปี ในการแข่งขันครั้งนี้เหตุการณ์ทางการเมืองประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันได้เกิดความกระทบกระทั่งกันระหว่างนักกีฬาจากโซเวียตกับฮังการีในระหว่างการแข่งขันโปโล

1960 โรม[แก้]

Cassius Clay นักมวยจากสหรัฐผู้ชนะเลิศการแข่งขันชกมวยในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 17 การแข่งขันครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ เช่น มีการให้ความสนับสนุนในเรื่องการเดินทางทางอากาศแก่นักกีฬา นักกีฬามีการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้มาอย่างเต็มที่นักกีฬาทุกคนให้ความสำคัญในการได้รับชัยชนะในการแข่งขันอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้สถิติที่นักกีฬาโอลิมปิกปีก่อน ๆ ทำไว้จึงถูกลบล้างไปเกือบหมด

1964 โตเกียว[แก้]

ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยการแข่งขันในครั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดสดกีฬาผ่านดาวเทียมครั้งแรก ซึ่ง คัทสึมิ มาซารุ หัวหน้าทีมออกแบบของ Tokyo 1964 ได้ออกแบบระบบสื่อสารเพื่อทำลายอุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรมที่อาจทำให้เกิดปัญหาในการสื่อสารตลอดการแข่งขัน ด้วยระบบสัญลักษณ์พิกโตแกรม (pictogram) โดยมีการออกแบบสัญลักษณ์สำหรับใช้แทนการแข่งขันกีฬาทั้งหมด 20 ชนิด และใช้แทนข้อมูลการบริการทั่วไปอีก 39 ชนิด โดยการนำองค์ประกอบมาจากลักษณะของอักษรคันจิบนพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสและใช้เพียง 1 สี ที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับการออกแบบสัญลักษณ์ประจำตระกูลของซามูไรและชนชั้นนำของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ Tokyo 1964 เป็นโอลิมปิกครั้งแรกที่มีการออกแบบพิกโตแกรมให้เข้ากับการแข่งขันในแต่ละครั้ง และกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการแข่งขันครั้งต่อๆ ไปที่จะต้องมีการออกแบบระบบพิกโตแกรมขึ้นมาใหม่เสมอ การแข่งขันครั้งนี้มีดาวรุ่งเกิดขึ้นหลายราย คนแรกคือ Bob Hayes ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นนักดังในทีม Dallas Cowboys คนต่อมาคือ Joe Frazier ซึ่งชนะเลิศการแข่งขันชกมวยในกีฬาโอลิมปิก และต่อมาได้เป็นแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวตของโลก Abebe Bikila จากเอธิโอเปียก็ชนะการวิ่งมาราธอนเป็นครั้งแรก

1968 เม็กซิโกซิตี้[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกมีขึ้นที่ลาตินอเมริกาเป็นครั้งแรก โอลิมปิกคราวนี้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำการแข่งขันทั้งหมดมีสถิติใหม่ ๆ เกิดขึ้นเช่นการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร โดย Jim Hines วิ่ง 400 เมตร โดย Lee Evans จากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน

1972 มิวนิก[แก้]

โซเวียตมองเห็นช่องทางในการเผยแพร่ลัทธิทางการเมืองของตนโดยอาศัยการแข่งขันโอลิมปิก โดยพยายามที่เป็นผู้นำในการแข่งขัน และโน้มน้าวชาติอื่น ๆ ให้เห็นว่าโซเวียตเป็นประเทศมหาอำนาจ ภายหลังพบว่านักกีฬาโซเวียตเป็นนักกีฬาอาชีพที่รัฐบาลว่าจ้างให้เข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกครั้งนั้น และยังพบอีกว่านักกีฬาจากสหภาพโซเวียตใช้ยาเสริมกำลัง ในปีนั้นสหภาพโซเวียตสามารถพิชิตเหรียญทองได้ถึง 99 เหรียญ นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์ก่อการร้ายขึ้นในกรุงมิวนิก มีความพยายามลักพาตัวนักกีฬาอิสราเอลในการแข่งขันบาสเกตบอลนักกีฬาจากสหรัฐได้พ่ายแพ้แก่นักกีฬาจากสหภาพโซเวียตเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกจากการแข่งขัน 63 ครั้ง ซึ่งสหรัฐได้ปฏิเสธไม่ขึ้นรับเหรียญเงิน ในปีนี้นั้นมีนักกีฬาจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขันถึง 122 ประเทศ

1976 มอลทรีออล[แก้]

สหรัฐโชว์ความสามารถในกีฬาชกมวยด้วยการมีทีมนักกีฬาที่ดีที่สุดได้แก่ Ray Leonard Leon Spinks โดยสามารถพิชิตเหรียญทองได้และต่อมาได้กลายเป็นแชมเปี้ยนมวยอาชีพ ส่วนในการแข่งขันยิมนาสติก Nadai Comaneci ได้กลายเป็นดาวดวงใหม่ที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความนิยมในกีฬายิมนาสติกขึ้น

1980 มอสโก[แก้]

สหรัฐไม่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เนื่องจากกรณีที่สหภาพโซเวียตส่งกองกำลังบุกรุกอัฟกานิสถาน ญี่ปุ่นและเยอรมันตะวันตกก็เป็นอีก 2 ประเทศจากทั้งหมด 63 ประเทศที่บอยคอตสหภาพโซเวียตและไม่เข้าร่วมการแข่งขัน ในปีนั้นจึงมีเพียง 81 ประเทศจากทั่งโลกที่เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งในปีนั้นสหภาพโซเวียตครองเหรียญทองมากที่สุด

1984 ลอสแอนเจลิส[แก้]

สหภาพโซเวียตบอยคอตการแข่งขันในปีนี้ ไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ส่วนหนึ่งเพื่อแก้คืนที่สหรัฐไม่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งก่อนที่ มอสโก ในปี 1980 ส่วนหนึ่งเป็นห่วงความปลอดภัยของนักกีฬาจากประเทศตน แต่บุคคลบางกลุ่มเชื่อว่าสหภาพโซเวียตเกรงว่านักกีฬาของตนจะไม่ผ่าน Drug Test ซึ่งจะทำให้ทั่วโลกรู้ถึงที่มาแห่งชัยชนะทางการกีฬาของตน นักกีฬาที่มีชื่อเสียงจากการแข่งขันในปีนี้ได้แก่ Carl Lewis จากสหรัฐโดยสามารถครอง 4 เหรียญทองจากการแข่งขันกรีฑา Mary lou Retton ครองเหรียญทองยิมนาสติกมากที่สุด นอกจากนั้นยังมี Greg Louanis ซึ่งเป็นนักกีฬาคนแรกที่สามารถครองเหรียญทอง 2 เหรียญทองพร้อมกันจากการแข่งขัน Springbroad และ Platform diving

1988 โซล[แก้]

หลังจากที่โซล ประเทศเกาหลีได้รับเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 10 ปี 1986 ชุน ดูวัน หมดวาระจากการเป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี โรห์ แทวู ขึ้นตำแหน่งแทนและได้รับเป็นเกียรติในประธานพิธีโอลิมปิกครั้งที่ 24 หลังจากนั้น ผจญ มูลสัน คว้าเหรียญทองแดงและได้รับชัยชนะจากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น

1992 บาร์เซโลนา[แก้]

สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วไปจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้แก่ Dream Team ซึ่งในครั้งนั้น Michael Jordan, Magic Jordan, Larry Bird, Charles Barkley, Patrick Ewing, David Robinson, Karl malone และ Scottie เป็นนักบาสเกตบอลที่โดดเด่นมากในทีมสหรัฐอเมริกา ทีมบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกาในปีนั้นได้เอาชนะคู่ต่อสู้จากประเทศต่าง ๆ ได้อย่างราบคาบภายใต้การนำของโค้ช Chuck Daly นักกีฬาจากประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับความชื่นชมในการแข่งขันกีฬาปีนั้นเช่น Joynor-Kersee ผู้ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันขันสัตตกรีฑา หญิงในปีนั้นนักกีฬาว่ายน้ำหญิงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สร้างความหวาดผวาให้กับนักว่ายน้ำชาติอื่น ๆ ด้วยการชนะการแข่งขันประเภทต่าง ๆ แบบทำลายสถิติ แต่ในที่สุดก็มีการพิสูจน์ได้ว่านักกีฬาหญิงผู้นั้นได้ใช้ยากระตุ้นกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นกีฬาโอลิมปิกที่ Bracelona ในปี 1992 ถูกเรียกว่าเป็น Money Game เพราะว่านักกีฬาทั้งชายและหญิงต่างทำการแข่งขันเพื่ออะไรก็ตามที่สามารถทำเงินได้ หรือแม้แต่ Jordan ได้ใช้ธงชาติสหรัฐอเมริกาคลุมป้ายผู้สนับสนุนกีฬาอย่างเป็นทางการของทีมบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ใช้เป็นบริษัทผลิตรองเท้ากีฬาที่ใช้ชื่อของเขาในการขายสินค้า

1996 แอตแลนต้า[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 26 ปี 1996 จัดการแข่งขันที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.-4 ส.ค. ซึ่งถือเป็นการจัดการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นการครบรอบ 100 ปีของการจัดโอลิมปิกเกมส์ และได้สร้างสถิติการแข่งขันมากมายไม่ว่าจะเป็นจำนวนนักกีฬา เจ้าหน้าที่รวมทั้มประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกด้วยสำหรับนักกีฬาไทยที่ส่งไปแข่งขันเมื่อ 4 ปีที่แล้วถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จากการส่งนักกีฬาไป 9 ชนิดกีฬา ซึ่งประเทศไทยได้ฮีโร่กำปั้นคนแรกในประวัติศาสตร์ "สมรักษ์ คำสิงห์" นักชกรุ่นเฟอเธอร์เวต คว้าเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ของไทย และว่ากันว่ามีกระแสสมรักษ์ฟรีเวอร์ตามมายาวนานอีกหลายเดือนท่ามกลางความสุขที่แบ่งปันกันไปทุกหนทุกแห่งทั่วฟ้าเมืองไทย

2000 ซิดนีย์[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 27 ปีนี้จัดที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 15 กันยายน-1 ตุลาคม 2543 ประเทศไทยจะส่งกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน 12 สมาคมกีฬา คือ กรีฑา, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, เรือใบ, วินด์เซิร์ฟ, ว่ายน้ำ, แบดมินตัน, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, วอลเลย์บอล, ยิงปืน และมวยสากลสมัครเล่นจาก 12 ชนิดกีฬาที่ไทยส่งไปแข่งขันครั้งนี้ มีเพียง 2 ชนิดกีฬาที่มีโอกาสมากที่สุดในการลุ้นเหรียญทอง คือ ยิงปืน (เทวฤทธิ์ มัจฉาชีพ) และมวยสากลสมัครเล่นที่คนส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปที่ สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของเหรียญทองเมื่อ 4 ปีก่อน

2004 เอเธนส์[แก้]

กีฬาโอลิมปิกกลับสู่บ้านเกิดที่กรุงเอเธนส์อีกครั้ง เจ้าภาพกรีซจัดการแข่งขังขันขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีพิธีเปิดการแข่งขันที่งดงามน่าจดจำ แต่การแข่งขันดังกล่าวเต็มไปด้วยปัญหาการก่อการร้าย เจ้าภาพใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อจัดให้กองกำลังนาโต้ดูแลความปลอดภัย ทำให้ใช้งบประมาณอย่างมหาศาล จนภายหลังกรีซประสบปัญหาสภาพเศรษกิจครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง แต่โอลิมปิกที่กรีซก็ถูกกล่าวขานถึงการจัดการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ ด้วยบรรยากาศของสนามแข่งขันที่สวยงามแม้ภายหลังจะถูกทิ้งร้างจากพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

2008 ปักกิ่ง[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง นับเป็นการดำเนินการจัดการแข่งขันที่มีความยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โอลิมปิก ใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาลกว่า 7 แสนล้านบาท มีการจัดพิธีเปิดสุดอลังการวิจิตรตะการตา โอลิมปิกครั้งนี้เป็นการประกาศศักดาของจีน และจบลงด้วยชัยชนะเจ้าเหรียญทองของเจ้าภาพ แต่ตามมาด้วยปัญหาการเมือง สิ่งแวดล้อมมากมาย

2012 ลอนดอน[แก้]

โอลิมปิกปี 2012 ที่กรุงลอนดอน จัดการแข่งขันด้วยงบประมาณน้อยกว่ากรุงปักกิ่งถึงเท่าตัว แต่มีการนำแนวคิดใหม่ๆมาใช้จัดการแข่งขัน ด้วยการใช้เทคโนโลยีสุดทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และยังมีการนำสนามกีฬาชั่วคราวขนาดใหญ่มาใช้ เรียกว่าการแข่งขันครั้งนี้สามารถเป็นต้นแบบการจัดการแข่งขันโอลิมปิกที่คุ้มค่า ยั่งยืน เป็นตัวอย่างแก่ชาติเจ้าภาพต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม โดยงานครั้งจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ที่ทรงครองราชสมบัติครบ 60 ปีอีกด้วย

2016 รีโอเดจาเนโร[แก้]

บราซิลเป็นประเทศแรกในอเมริกาใต้ที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 31 ปี 2016 จัดการแข่งขันที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 5 - 21 ส.ค.

2020 โตเกียว[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 ปี 2020 จัดการแข่งขันที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. - 9 ส.ค. 2020 แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 เป็นระหว่างวันที่ 23 ก.ค. - 8 ส.ค. 2021

2024 ปารีส[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 33 ปี 2024 จัดการแข่งขันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19 ก.ค. - 4 ส.ค.

2028 ลอสแอนเจลิส[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 34 ปี 2028 จัดการแข่งขันที่เมืองลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐ ระหว่างวันที่ 14 - 30 ก.ค.

2032 บริสเบน[แก้]

การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 35 ปี 2032 จัดการแข่งขันที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 23 ก.ค. - 8 ส.ค.

รายชื่อเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน[แก้]

ปี
(ค.ศ.)
ครั้งที่ เจ้าภาพ เปิดโดย วันที่ จำนวนประเทศ กีฬา จำนวนนักกีฬา
เมือง ประเทศ รายการ ชนิด ชาย หญิง รวม
1896 I เอเธนส์ กรีซ กรีซ พระเจ้าเยออร์ยีโอสที่ 1 6 – 15 เมษายน 13 43 9 311 0 311
1900 II ปารีส ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส - 14 พฤษภาคม – 28 ตุลาคม 21 85 17 1,319 11 1,330
1904 III เซนต์หลุยส์ สหรัฐ สหรัฐ อดีตผู้ว่าการมลรัฐเดวิด ฟรานซิส 1 กรกฎาคม – 23 พฤศจิกายน 13 96 14 681 6 687
1908 IV ลอนดอน สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 27 เมษายน – 31 ตุลาคม 22 110 21 1,999 36 2,035
1912 V สต็อกโฮล์ม สวีเดน สวีเดน สมเด็จพระเจ้ากุสตาฟที่ 5 6 – 22 กรกฎาคม 29 102 13 2,490 57 2,547
1916 -
ยกเลิกเนื่องจาก
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
เบอร์ลิน จักรวรรดิเยอรมัน เยอรมนี - - - - - - - -
1920 VI อันทเวิร์ป เบลเยียม เบลเยียม สมเด็จพระเจ้าอัลแบร์ที่ 1 14 สิงหาคม – 12 กันยายน 29 152 21 2,543 64 2,607
1924 VII ปารีส ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีกัสตง ดูแมร์ก 4 พฤษภาคม – 27 กรกฎาคม 45 126 17 2,956 136 3,092
1928 VIII อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ เจ้าชายเฮนรี 28 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 46 109 14 2,724 290 3,014
1932 IX ลอสแอนเจลิส สหรัฐ สหรัฐ รองประธานาธิบดีชาลส์ เคอร์ทิส 30 กรกฎาคม – 14 สิงหาคม 37 117 14 1,281 127 1,408
1936 X เบอร์ลิน นาซีเยอรมนี เยอรมนี นายกรัฐมนตรีอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ 1 – 16 กรกฎาคม 49 129 19 3,738 328 4,066
1940 -
ยกเลิกเนื่องจาก
สงครามโลกครั้งที่สอง
โตเกียวเฮลซิงกิ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น
ฟินแลนด์ ฟินแลนด์
- - - - - - - -
1944 -
ยกเลิกเนื่องจาก
สงครามโลกครั้งที่สอง
ลอนดอน สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร - - - - - - - -
1948 XI ลอนดอน สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 29 กรกฎาคม – 14 สิงหาคม 59 136 17 3,714 385 4,099
1952 XII เฮลซิงกิ ฟินแลนด์ ฟินแลนด์ ประธานาธิบดียุโฮ กุสติ ปาสิกิวิ 19 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 69 149 17 4,407 518 4,925
1956 XIII เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย เจ้าฟ้าชายฟิลิป 22 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 67 145 16 2,958 384 3,342
1960 XIV โรม อิตาลี อิตาลี ประธานาธิบดีจิโอวานี กรองกี 25 สิงหาคม – 11 กันยายน 84 150 17 4,738 610 5,348
1964 XV โตเกียว ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ 10 – 24 ตุลาคม 94 163 19 4,457 683 5,140
1968 XVI เม็กซิโกซิตี เม็กซิโก เม็กซิโก ประธานาธิบดีกุสตาโว เดียซ ออดาซ 12 – 27 ตุลาคม 113 172 18 4,750 781 5,531
1972 XVII มิวนิก เยอรมนีตะวันตก เยอรมนีตะวันตก ประธานาธิบดีกุสทัฟ ไฮเนอมัน 26 สิงหาคม – 10 กันยายน 122 195 21 6,659 1,171 7,830
1976 XVIII มอนทรีออล แคนาดา แคนาดา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 17 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 93 198 21 4,915 1,274 6,189
1980 XIX มอสโก สหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียต ประธานเลโอนิด เบรจเนฟ 19 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 81 203 21 4,320 1,192 5,512
1984 XX ลอสแอนเจลิส สหรัฐ สหรัฐ ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน 28 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 140 221 21 5,458 1,620 7,078
1988 XXI โซล เกาหลีใต้ เกาหลีใต้ ประธานาธิบดีโน แท-อู 17 กันยายน – 2 ตุลาคม 160 237 23 6,983 2,438 9,421
1992 XXII บาร์เซโลนา สเปน สเปน สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 25 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 171 257 25 7,555 3,008 10,563
1996 XXIII แอตแลนตา สหรัฐ สหรัฐ ประธานาธิบดีบิล คลินตัน 19 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 197 271 26 7,060 3,684 10,744
2000 XXIV ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย ผู้สำเร็จราชการวิลเลียม ดีนน์ 15 กันยายน – 1 ตุลาคม 199 300 28 6,582 4,069 10,651
2004 XXV เอเธนส์ กรีซ กรีซ ประธานาธิบดีคอนแสตนติน สเตปฮาโนโปลุส 13 – 29 สิงหาคม 201 301 28 6,452 4,412 10,864
2008 XXVI ปักกิ่ง จีน จีน ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา 8 – 24 สิงหาคม 204 302 28 6,305 4,637 10,942
2012 XXVII ลอนดอน สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 27 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 204 302 26 5,892 4,676 10,568
2016 XXVIII ริโอ เดอ จาเนโร บราซิล บราซิล รักษาการประธานาธิบดีมีแชล เตเมร์ 5 – 21 สิงหาคม 206 306 28 6,179 5,059 11,551
2020 XXIX โตเกียว ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะ 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม 2021
2024 XXX ปารีส ฝรั่งเศส ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส 26 กรกฎาคม – 11 สิงหาคม ยังไม่เกิดขึ้น
2028 XXXI ลอสแอนเจลิส สหรัฐ สหรัฐ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ 21 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม ยังไม่เกิดขึ้น
2032 XXXV บริสเบน ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย ผู้สำเร็จราชการแห่งออสเตรเลีย 23 กรกฎาคม – 8 สิงหาคม ยังไม่เกิดขึ้น

สรุปเหรียญโอลิมปิกตลอดกาล[แก้]

     อดีตประเทศ

# ประเทศ เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง รวม เข้าร่วม
1 สหรัฐ สหรัฐ (USA) 1051 830 733 2614 27
2 สหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียต (URS) 395 319 296 1010 10
3 สหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร (GBR) 263 295 293 851 28
4 ประเทศจีน จีน (CHN) 224 167 155 546 10
5 ประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศส (FRA) 212 241 263 716 28
6 ประเทศอิตาลี อิตาลี (ITA) 206 178 193 577 27
7 ประเทศเยอรมนี เยอรมนี (GER) 191 194 230 615 16
8 ประเทศฮังการี ฮังการี (HUN) 175 147 169 491 26
9 สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี เยอรมนีตะวันออก (GDR) 153 129 127 409 5
10 ประเทศออสเตรเลีย ออสเตรเลีย (AUS) 164 177 213 554 28
11 ประเทศรัสเซีย รัสเซีย (RUS) 148 125 153 426 6
12 ประเทศสวีเดน สวีเดน (SWE) 145 170 179 494 27
13 ประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น (JPN) 142 136 161 439 22
14 ประเทศฟินแลนด์ ฟินแลนด์ (FIN) 101 85 117 303 25
15 ประเทศเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ (KOR) 90 87 90 267 17
16 ประเทศโรมาเนีย โรมาเนีย (ROU) 89 95 122 306 21
17 ประเทศเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ (NED) 85 92 108 285 26
18 ประเทศคิวบา คิวบา (CUB) 78 68 80 226 20
19 ประเทศโปแลนด์ โปแลนด์ (POL) 68 84 132 284 21
20 ประเทศแคนาดา แคนาดา (CAN) 64 102 136 302 26

เจ้าเหรียญทองแบ่งตามปี[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]