หม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์
หม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์ | |
---|---|
ประสูติ | 17 กันยายน พ.ศ. 2459 |
ชีพิตักษัย | 26 ตุลาคม พ.ศ. 2541 (82 ปี) |
หม่อม | หม่อมราชวงศ์ภัทรสุข ศุขสวัสดิ หม่อมดวงแข จักรพันธุ์ ณ อยุธยา |
พระบุตร | หม่อมราชวงศ์อรชา จักรพันธุ์ หม่อมราชวงศ์ภัทรกัลยา จักรพันธุ์ หม่อมราชวงศ์ธีรภัทร์ จักรพันธุ์ หม่อมราชวงศ์รณจักร์ จักรพันธุ์ |
ราชสกุล | จักรพันธุ์ |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุพงษ์จักรพรรดิ์ |
พระมารดา | หม่อมลำไย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ จัดลิงก์ภายใน และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาดแหล่งที่มา หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{ละเมิดลิขสิทธิ์}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐานในหน้าอภิปราย โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
หม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์ (17 กันยายน พ.ศ. 2459 – 26 ตุลาคม พ.ศ. 2541) เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุพงษ์จักรพรรดิ์ ประสูติแต่หม่อมลำไย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา
พระประวัติ
[แก้]หม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์ เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุพงษ์จักรพรรดิ์ ประสูติแต่หม่อมลำไย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2459 ที่วังกรมหมื่นอนุพงษ์จักรพรรดิ์ ถนนหลานหลวง
เมื่อมีชันษาได้ 7 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ ผู้เป็นปิตุลา ซึ่งดำรงตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำหม่อมเจ้าอัชฌาขึ้นถวายองค์ให้อยู่ในพระราชอุปการะ และได้ย้ายไปประทับในพระราชวังดุสิตเพื่อถวายการรับใช้ โดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดห้องบรรทมสำหรับเจ้านายรุ่นเล็กที่ทรงอุปการะเป็นห้องในพระที่นั่งอัมพรสถาน ใกล้กับองค์พระที่นั่งด้านศาลาทรงกีฬา โดยประทับอยู่ห้องละ 2-3 องค์ ในการตามเสด็จไปยังที่ต่าง ๆ ก็ใช้วิธีผลัดเวรกันให้ไม่ตรงกับเวลาเรียน และนอกจากตามเสด็จในพระราชพิธี แต่งเครื่องแบบเพื่อเชิญพระมาลา เชิญพระแสง และตามเสด็จส่วนพระองค์อื่น ๆ เช่น ทรงกีฬาหรือเสด็จประพาสสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศแล้ว ยังได้ตามไปถวายการรับใช้ในการเสด็จเยือนทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการในหลายประเทศ เช่น ประเทศเยอรมนี ประเทศเบลเยี่ยม ประเทศเชโกสโลวาเกีย ประเทศฮังการี ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ รวมถึงประเทศฝรั่งเศส
ขณะมีชันษาได้ 13 ปี หม่อมเจ้าอัชฌาทรงร่วมแสดงในภาพยนตร์ส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องแหวนวิเศษ โดยทรงรับบทเป็น อ้ายขี้เกียจ ระหว่างการตามเสด็จประพาสเกาะพงันโดยเรือพระที่นั่งจักรี โดยใช้พระนามแฝงว่า เด็กชายไหน ปีปนนท์
หลังจากนั้นเมื่อเกิดการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติแล้วเสด็จไปประทับที่ประเทศอังกฤษ หม่อมเจ้าอัชฌาก็ได้ติดตามไปถวายการรับใช้ในต่างประเทศด้วย และเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้าอัชฌาซึ่งกำลังทรงศึกษาใกล้จบมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายที่รอยัลคอลเลจออฟไซอันเซสอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน เข้าเฝ้าที่พระตำหนักเวนคอร์ต ในมณฑลเคนต์ ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน แล้วมีรับสั่งว่า "ถ้าอยากอยู่ก็อยู่ต่อ ถ้าอยากจะกลับบ้านก็ให้กลับไปเสียเดี๋ยวนี้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจไม่ได้กลับเลย" หม่อมเจ้าอัชฌาจึงตัดทัยกราบถวายบังคมลากลับประเทศไทยพร้อมกับนายแพทย์กษาน จาติกวนิช และหม่อมราชวงศ์มรุต เทวกุล ซึ่งเป็นนักเรียนไทยในอังกฤษรุ่นสุดท้ายที่ได้กลับบ้านในช่วงนั้น
การศึกษา
[แก้]หม่อมเจ้าอัชฌาทรงเริ่มต้นศึกษาที่โรงเรียนสตรีจุลนาค โดยทรงศึกษาร่วมกับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรศักดิ์สุประภาต หม่อมเจ้ายุธิษเฐียร สวัสดิวัตน์ เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง และหม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ ซึ่งเป็นพระญาติผู้น้อง หลังจากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ประมาณหนึ่งปี แล้วทรงย้ายไปศึกษาที่โรงเรียนราชกุมาร (เยาวกุมาร) ณ พระที่นั่งอภิเศกดุสิต เมื่อมีชันษาได้ 12 ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยมต้นที่ Saint Hill Academy และสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลายจากวิทยาลัยฟิลลิปส์ สหรัฐอเมริกา สำเร็จปริญญาตรีสาขามานุษยวิทยา จาก รอยัลคอลเลจออฟไซอันเซส อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน โดยทรงเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ เป็นนักวิ่งแข่ง และนักยูโดสายดำ และโปรดการเล่นกีตาร์ไฟฟ้ากับการถ่ายภาพยนตร์
การทรงงาน
[แก้]หลังเสด็จกลับประเทศไทย หม่อมเจ้าอัชฌาตั้งทัยว่าจะทรงสมัครเป็นทหาร แต่ไม่มีใครรับใบสมัคร จึงเบนเข็มไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการป่าของบริษัททำไม้ บอมเบย์เบอร์มาห์เทรดดิงคอร์เพอเรชัน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อบริษัทปิดตัวลงจึงทรงย้ายไปเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการเหมืองแม่เมาะที่จังหวัดลำปาง และผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงงานกระดาษที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนทรงเกษียณอายุ หลังจากนั้นทรงทำงานที่ศูนย์การแปลนานาชาติเพลินจิต พร้อมกับทรงสอนวิชาการแปลในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญการแปลอาวุโสของกระทรวงยุติธรรม
หม่อมเจ้าอัชฌาทรงประสบมรสุมทางการเมืองมาตลอดชนม์ชีพ เนื่องจากอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี มาตั้งแต่ทรงเยาว์ หลังจากเกษียณอายุจึงทรงงานด้านการแปลและทรงสอนหนังสือเพียงอย่างเดียว
ครอบครัว
[แก้]หม่อมเจ้าอัชฌาเสกสมรสกับหม่อมราชวงศ์ภัทรสุข (ราชสกุลเดิม ศุขสวัสดิ) มีโอรสธิดา คือ
- หม่อมราชวงศ์อรชา สมรสกับเฉลิมเกียรติ มีธิดา 2 คน
- ดิศนัดดา ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา
- ณปภัช จักรพันธุ์
- หม่อมราชวงศ์ภัทรกัลยา สมรสกับปริญญา โชติวิศรุต มีบุตรธิดา 2 คน
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์น้ำมนต์ โชติวิศรุต
- ฝนทิพ ราชเวียง
- รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมราชวงศ์ธีรภัทร์ จักรพันธุ์ สมรสกับพวงแก้ว จักรพันธุ์ ณ อยุธยา มีบุตร 2 คน
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมหลวงพันธุ์ภัทร์ จักรพันธุ์
- หม่อมหลวงธนภัทร์ จักรพันธุ์
ต่อมาทรงหย่ากับหม่อมราชวงศ์ภัทรสุข และเสกสมรสกับทันตแพทย์หญิง หม่อมดวงแข จักรพันธุ์ ณ อยุธยา มีบุตรคนเดียว คือ
- หม่อมราชวงศ์รณจักร์ จักรพันธุ์ มีบุตรธิดา 2 คน
- หม่อมหลวงอรณิชา จักรพันธุ์
- หม่อมหลวงปารณัท จักรพันธุ์
หม่อมเจ้าอัชฌาเริ่มประชวรเมื่อปี พ.ศ. 2541 ทำให้ทรงอ่อนพระกำลังลงไปเรื่อย ๆ แม้ครอบครัวจะได้ถวายการรักษาเป็นอย่างดี ท้ายที่สุดถึงชีพิตักษัยด้วยพระโรคมะเร็งยกนะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2541 สิริชันษา 82 ปี การนี้พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงศพเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ณ ศาลาสุภาพ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหีบทองทึบประกอบศพ ฉัตรเบญจาตั้งประดับ ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม เวลากลางคืน กำหนด 7 คืน ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2470 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 4 (ป.ป.ร.4)[1]
พงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของหม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- หนังสือ ๑๕๐ ปีสมเด็จเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ฯ กรมพระจักรพรรดิพงษ์
- ใต้ร่มฉัตร เปิดเรื่องราวชีวประวัติหม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์
- “ชีวิตเหมือนฝัน คุณหญิงมณี”จากเด็กไร้บ้าน มาเป็นสะใภ้หลวง
- รายงานวิจัย การสังเคราะห์ประวัติศาสตร์บอกเล่า ในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ โดย รองศาสตราจารย์ ม.ร.ว. พฤทธิสาณ ชุมพล
- ๑๒๐ ปี ผ่านฟ้า ประชาธิปก. ผู้จัดพิมพ์ สำนักบรรณสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เก็บถาวร 2020-07-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บทสัมภาษณ์เรื่อง "อดีตที่ยังไม่เลือนหาย หม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์" โดยวนิดา-นรุตม์ จากนิตยสารแพรวฉบับที่ ๓๘๗ วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๓๘
- หนังสือ อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมเจ้าอัชฌา จักรพันธุ์ ณ เมรุวัดประยุรวงศาวาส
- ↑ พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 44 หน้า 1274 วันที่ 24 กรกฎาคม 2470